ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    สามี....เซ็นใบหย่าไปเลย

    ลำดับตอนที่ #2 : คนดีๆ ไม่เถียงกับหมาบ้า

    • อัปเดตล่าสุด 10 พ.ค. 67


    หลังจากรู้ว่าหร่วนซิงหว่านกำลังจะหย่า ในฐานะเพื่อนสาวที่สวมกระโปรงร่วมกันได้ เพ้ยซานซานก่นด่าโจวฉือเซินอย่างสาดเสียเทเสียตลอดสิบนาทีแล้วถึงพูดขึ้นว่า “ไอ้ผู้ชายสารเลวคนนั้นไม่ได้ให้เงินเธอสักบาทเลยจริงๆ เหรอ? เขาไปเที่ยวกับนางแบบข้างนอกนั่นยังเปย์*เงินให้ตั้งเยอะ แต่กลับขี้เหนียวกับเมียตัวเองแบบนี้?”

    “ก็ไม่ถึงกับขี้เหนียวหรอก สามปีมานี้ฉันก็ได้เงินจากเขามาไม่น้อย เขาไม่มาลากตัวฉันกลับไปก็นับว่าบุญแล้ว”

    “เธอคิดแบบนี้ไม่ได้สิ พวกเธอเป็นสามีภรรยากัน เงินของเขาก็คือเงินของเธอ เงินของเธอก็ยังเป็นเงินของเธอ! แล้วอีกอย่าง ทุกวันเขายังเอาเธอฟรีๆ อีก เธอแค่ใช้เงินเขานิดๆ หน่อยๆ จะเป็นไรไป!”

    หร่วนซิงหว่านคิ้วกระตุก “…เธอเปลี่ยนคำหน่อยได้ไหม”

    เพ้ยซานซานสงบสติลงมาหน่อย “โทษที มันอดไม่ได้น่ะ”

    หร่วนซิงหว่านนั่งอยู่บนโซฟา ยิ่งคิดก็ยิ่งโมโหจึงด่าทอออกมา “วันนี้ฉันพูดเรื่องหย่าขึ้นมา ไอ้คนสารเลวนั่นยังจะถามฉันว่าต้องการเงินเท่าไหร่? สัญญาการหย่าก็ไม่แม้แต่จะชายตามอง อย่างกับกลัวว่าฉันเป็นสิงโตอ้าปากกว้างรอขย้ำเขา! มันต้องขนาดนั้นไหม?!”

    “งั้นพูดกลับกัน ทำไมเธอต้องหย่า? ก็ถ่วงเขาไว้สิ ดูซิว่าใครจะถ่วงใครตาย”

    ได้ยินแบบนี้ หร่วนซิงหว่านก็สงบลงแล้วพูดขึ้นนิ่งๆ “อ๋อ ซูซือเวยท้องแล้วน่ะ”

    ซูซือเวยคือนางแบบในสังกัดโจวซื่อกรุ๊ปที่ช่วงนี้เริ่มมีชื่อเสียงขึ้นมาบ้าง และดูใกล้ชิดสนิทสนมกับโจวฉือเซินมาก ถ้าตาไม่บอดก็คงจะดูออกว่าความสัมพันธ์ของพวกเขาไม่ธรรมดา

    หร่วนซิงหว่านกับโจวฉือเซินแต่งงานกันมาสามปี เธอเข้าใจดีถึงความรังเกียจที่โจวฉือเซินมีต่อเธอ หนึ่งเดือนกลับบ้านไม่เกินสองครั้งคือที่สุดของเขาแล้ว

    ทุกครั้งที่พวกเขามีอะไรกันล้วนเป็นเพียงสัญชาตญาณของมนุษย์ โจวฉือเซินไม่ได้มีความรู้สึกดีๆ ให้เธอเลยแม้แต่น้อย

    สรรหาวิธีมาทำร้ายจิตใจให้เธอเจ็บปวดทรมานเสมอ

    ซูซือเวยไม่ใช่ผู้หญิงคนแรกที่ปรากฏตัวข้างกายโจวฉือเซิน หร่วนซิงหว่านจึงไม่ได้เก็บมาใส่ใจ

    จนกระทั่งเมื่อหนึ่งสัปดาห์ก่อน ในตอนที่เธอกำลังเลือกของขวัญครบรอบแต่งงานสามปีที่กำลังจะมาถึงอย่างมีความสุข อยู่ๆ ซูซือเวยก็ปรากฏตัวขึ้นต่อหน้าเธอพร้อมรายงานผลการตรวจครรภ์ นางป่าวประกาศอย่างภาคภูมิใจ

    “หร่วนซิงหว่าน ฉันท้องแล้ว! ถึงเวลาที่เธอจะต้องปล่อยตำแหน่งคุณนายโจวไปได้แล้ว”

    ในตอนที่เห็นรายงานนั่น การหลอกตัวเองทั้งหมดในช่วงสามปีที่ผ่านมาของหร่วนซิงหว่านก็ต้องพังทลายลง

    ภาพความทรงจำที่แสนเจ็บปวดเหล่านั้นค่อยๆ ปรากฏขึ้นในหัว ราวกับกำลังบอกเธอว่า ‘หร่วนซิงหว่านเอ๋ย เธอรู้สึกว่าผู้หญิงตรงหน้านั้น ทั้งไร้ยางอาย และน่ารังเกียจใช่ไหม แต่ที่เธอได้แต่งงานกับโจวฉือเซินก็เป็นเพราะใช้วิธีการแบบเดียวกันนี้ไม่ใช่เหรอ การอุ้มลูกในท้องมาบังคับแต่งงาน

    เธอเองก็ไม่ได้ต่างอะไรกับซูซือเวยหรอก

    ตอนนี้ก็แค่มีคนเอาวิธีการของเธอมาใช้ซ้ำอีกรอบก็เท่านั้น

    เพ้ยซานซานโมโหมาก “มันจะเหมือนกันได้ยังไง?! ตอนนั้นที่เธอแต่งกับโจวฉือเซินเขายังไม่มีใคร แต่นี่ทั้งที่ซูซือเวยรู้ทั้งรู้ว่าเขามีเธออยู่ข้างกาย แต่ก็ยังไต่เต้าขึ้นมา แบบนี้มันเรียกว่าเมียน้อย เป็นอีนังจิ้งจอกหน้าด้าน!”

    “ยังไงก็เถอะ มันไม่ต่างกันหรอก” หร่วนซิงหว่านพูด “อันที่จริง ตลอดสามปีที่ผ่านมานี้ฉันนอนไม่หลับเลยสักคืน ไม่ว่ายังไงตอนนั้นเขาก็ถูกฉันบังคับให้แต่งงานจริงๆ ตอนนี้หย่ากันก็ดีแล้ว ฉันไม่มีอะไรติดค้างเขาอีกแล้ว”

    หลังจากนั้น เพ้ยซานซานก็ด่าโจวฉือเซินกับซูซือเวย คู่ผีเน่าโลงผุนั่นอย่างฮึกเหิมต่ออีกครึ่งชั่วโมง แล้วถึงพาหร่วนซิงหว่านที่หนังตาเริ่มหย่อนมาที่ห้องนอน “หลังจากนี้เธอก็อยู่กับฉันนี่แหละ ยังไงแฟนฉันก็ไม่ได้มานอนอยู่แล้ว แล้วห้องนี้ก็ใหญ่เกินไป ฉันอยู่คนเดียวก็กลัว”

    หร่วนซิงหว่านหาวแล้วพยักหน้า “อืม ฝันดีนะ”

    บ่ายวันถัดมา

    สัญญาการหย่าปรากฏอยู่บนโต๊ะทำงานของโจวฉือเซิน ลายเซ็นที่ท้ายกระดาษเหมือนกับกำลังแยกเขี้ยวประท้วงเขา

    หลินหนานเห็นเจ้านายของตนสีหน้าเย็นชาขึ้นเรื่อยๆ จึงก้าวไปข้างหน้าแล้วพูด “ประธานโจว เมื่อกี้ผมยืนยันกับทางคฤหาสน์ซิงหูแล้วครับ คุณผู้หญิงย้ายออกไปตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว นอกจากของใช้ส่วนตัวก็ไม่ได้เอาอะไรไปอีกเลย”

    โจวฉือเซินปิดสัญญาการหย่าลงแล้วโยนไปด้านข้าง “หย่าแบบไม่แบ่งทรัพย์สิน ไม่เอาอะไรไป นายว่าครั้งนี้เธอจะเล่นวิ่งไล่จับอะไรกับฉันอีก?”

    หลินหนาน เลขาของโจวฉือเซินไม่ได้ตอบ ไม่ใช่เมียเขาซะหน่อย เขาจะไปรู้รสนิยมการแสดงความรักระหว่างคู่สามีภรรยาได้ยังไงล่ะ

    โจวฉือเซินก็ไม่ได้คาดหวังว่าจะได้ฟังคำตอบอะไรที่มีประโยชน์จากเขาจึงพูดขึ้นนิ่งๆ “ออกไปเถอะ”

    หลินหนานเดินไปได้สองก้าวก็หันกลับมา “ประธานโจว สร้อยคอที่สั่งทำจากปารีสเส้นนั้นมาถึงแล้วนะครับ งั้นตอนนี้ก็...”

    เดิมทีสร้อยเส้นนี้เป็นของขวัญที่ประธานโจวจะมอบให้คุณนายโจวในวันครบรอบการแต่งงานสามปี ดูท่าตอนนี้คงไม่ต้องใช้แล้วล่ะ

    “ทิ้งไป”

    สองพยางค์ เฉยชา เยือกเย็น

    หลินหนาน “ครับ”

    หลังจากหลินหนานออกไปแล้ว โจวฉือเซินก็หยิบหนังสือสัญญาเล่มนั้นขึ้นมาอีกครั้ง สายตาไปตกอยู่ที่ลายมือชื่อของหญิงสาว เขาแค่นเสียงหัวเราะ ดวงตาปรากฏความเยือกเย็นระลอกหนึ่งวิ่งผ่านไป

    ผู้หญิงคนหนึ่งยอมทุ่มสุดตัวเพื่อเล่นละครตบตา แสร้งมาดึงแขนเสื้อเขา ขอร้องให้ช่วยเธอที่คลับมู่สื้อ แล้วมาบังคับให้แต่งงานภายใต้ข้ออ้างการตั้งท้องจอมปลอม จิตใจอำมหิต เพื่อเป้าหมายไม่เกี่ยงวิธีการ ผู้หญิงแบบนี้ ทำไมอยู่ๆ ถึงมีใจคุณธรรมรักความถูกต้องขึ้นมา?

    หรือว่าได้เหยื่อใหม่อีกแล้ว?!

    โจวฉือเซินขยำกระดาษในมือแล้วโยนลงถังขยะ

    ……

    หร่วนซิงหว่านรออยู่หลายวันแต่กลับไม่ได้ข่าวคราวจากโจวฉือเซินเลย ข้อความที่ส่งไปก็ราวกับจมดิ่งลงทะเล

    วันแรก

    [หนังสือสัญญาการหย่านายได้รับหรือยัง ฉันเซ็นชื่อเรียบร้อยแล้ว ถ้านายพอมีเวลาว่างก็บอกฉันหน่อยนะ พวกเราไปสำนักกิจการพลเรือนดำเนินการให้เรียบร้อยดีไหม?]

    ใจกว้าง มีน้ำใจ อ่อนโยน รู้กาลเทศะ

    วันที่สอง

    [ฮัลโหล~ นายเห็นข้อความของฉันหรือยัง? นายไม่พอใจตรงไหนในสัญญาหรือเปล่า?]

    กล้าหาญ หยั่งเชิง ตรวจสอบ รอบคอบ

    วันที่สาม

    [ประธานโจว ฉันรู้ว่าคุณงานยุ่งมาก แต่ขอเชิญคุณเจียดเวลาอันมีค่ามาหย่ากับฉันหน่อยได้ไหม?]

    ยับยั้งชั่งใจ ไม่ย่อท้อ

    วันที่สี่

    [โจวฉือเซิน นายจะพอได้หรือยัง จะหย่าก็ชักช้า ถ้านายไม่อยากเจอฉันขนาดนั้นก็รีบดำเนินการให้เรียบร้อย หลังจากนี้จะได้ไม่ต้องติดต่อกันอีก ขอบคุณ]

    ทนแล้วทนเล่า และไม่ทนอีกต่อไป

    วันที่ห้า

    [อีกฝ่ายเปิดใช้การยืนยันเพื่อน คุณไม่ใช่เพื่อนของเขาหรือเธอ โปรดส่งคำขอยืนยันเพื่อส่งข้อความ เมื่ออีกฝ่ายยืนยันการเป็นเพื่อนแล้วจึงจะสามารถเริ่มบทสนทนาได้]

    หึหึหึ

    ไอ้ชาติหมา

    หร่วนซิงหว่านวางมือถือลง และมุ่งหน้าไปที่คลับมู่สื้อทันที

    แต่ดูเหมือนว่าเธอจะโชคไม่ดีสักเท่าไหร่ ไม่ได้เจอโจวฉือเซิน แต่กลับได้เจอกับคุณนายคนต่อไปของเขาแทน

    ทีแรกซูซือเวยนัดเพื่อนมากินข้าวกันที่นี่ แต่เมื่อเดินมาถึงหน้าประตูก็เห็นว่าหร่วนซิงหว่านยืนอยู่ตรงนั้น เธอเหยียดยิ้มอย่างดูแคลนแล้วเหยียบรองเท้าส้นสูงตรงเข้าไป ในน้ำเสียงเต็มไปด้วยความเยาะเย้ย “คงไม่ใช่ว่าจนถึงตอนนี้เธอก็ยังไม่ถอดใจ คิดจะแบกหน้ามาอ้อนวอนฉือเซินที่นี่หรอกนะ”

    หร่วนซิงหว่านเหลือบมองเธอนิ่งๆ ไม่ได้เถียงกับหมาบ้าตรงหน้า

    ซูซือเวยเห็นเธอเงียบไปก็ยิ่งได้ใจ “ทำไมเธอถึงหน้าด้านแบบนี้ กระทั่งฉันท้องแล้วเธอก็ยังเกาะตำแหน่งคุณนายโจวไว้ไม่ปล่อย เธอไม่รู้เหรอว่าท่าทางหมาหวงก้างของเธอมันน่าเกลียดขนาดไหน!”

     

    ❀  ❀  ❀

     

    *เปย์ (Pay) เป็นคำสแลง ส่วนใหญ่มักหมายถึง การจ่ายเงินหรือการทุ่มเงินให้คนคนหนึ่งด้วยความพิศวาส

     

    ❀  ❀  ❀

     

    เอ้า! อินี่

    ทิวลินิน          

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×