คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ตอนที่ 1
“การผสานยีนของเควินไปถึงไหนแล้ว?” เมย์ได้หันไปถามกับนักวิทยาศาสตร์อีกคนที่อยู่ข้างๆ
“ตอนนี้ได้ 85% แล้วครับอีกไม่ถึง 1 ชั่วโมงก็น่าจะเสร็จแล้วครับ!” นักวิทยาศาสตร์ได้ตอบกลับ
“งั้นหรอ… ดูเหมือนว่าเราคงต้องให้เขาถ่วงเวลาเอาไว้จนกว่าเควินจะผสานยีนฮงไคสำเร็จสินะ”
ตัดไปที่การต่อสู้
“งั้นชั้นจะเข้าไปละนะ!” ทันทีที่เขาพูดจบก็ไม่รอช้ารีบวิ่งเข้าไปอีกฝ่ายทันที
แน่นอนว่าหญิงสาวผมสีแดงนั้นก็ไม่ยอมให้อีกฝ่ายเข้าถึงตัวของเธอได้ง่ายๆ
ฟูมๆๆๆๆๆๆๆ!!!!!!
ลูกไฟความร้อนสูงจำนวนมากได้พุ่งเข้าไปหาเขาอย่างรวดเร็วทาฃฝั่งของชายหนุ่มที่เห็นก็ยกยิ้มออกมเลยทีเดียว
‘ช้ามาก…’ ชายหนุ่มได้พูดออกมาในใจแม้แต่ตัวเองก็ยังอดงงไม่ได้
ทั้งๆที่เขาไม่เคยฝึกมาก่อนเลยแท้ๆอย่างมากสุดก็เคยเล่นเคนโด้มาบ้าง
แต่ทักษะเคนโด้มันไม่น่าจะช่วยทำให้เขาเก่งขนาดนี้แท้ๆ
‘นี่สินะพลังแห่งความฝัน… ต้องใช่แน่ๆโลกจริงไม่มีทางทำแบบนี้ได้หรอก…’
แม้แต่ตอนนี้ตัวของเขาก็ยังคิดว่ามันเป็นความฝันอยู่แม้จะโดนโจมตีจนบาดเจ็บไปบ้าง
แต่เขาก็ยังคิดว่ามันแค่เป็นฝันสมจริงมากๆเท่านั้นไม่ได้คิดว่ามันเป็นของจริงเลยสักนิด
‘ก็ขอหน่อยเถอะอยากทำมานานละ’ ชายหนุ่มเอ่ยขึ้นมาในใจ
ก่อนที่จะวิ่งเข้าไปโดยไม่สนลูกไฟที่กำลังพุ่งเข้ามาหาเขาเลยแม้แต่น้อย
จากนั้นเขาก็ได้ใช้ดาบเพลิงของตัวเองปัดการโจมตีของอีกฝ่ายออกทั้งหมด
ฟึบๆๆๆๆๆ!!!!!
“ฮ่าๆๆ!!! มันต้องแบบนี้เด้!!!”
เหตุผลที่เขาสามารถปัดป้องพวกมันออกได้อย่างง่ายดายแบบนี้
ส่วนหนึ่งมันก็มาจากสายตาของเขาที่มองพวกมันเคลื่อนที่มาทางนี้ได้อย่างชัดแจ๋ว
ทำให้เขาสามารถปัดลูกไฟทุกๆลูกที่พุ่งเข้ามาได้อย่างง่ายดายราวกับเป็นคิริโตะ
ก่อนที่เขาจะกระโดดขึ้นพร้อมกับฟาดอุริเอลไปที่อีกฝ่าย
“!!!!!”
ฟุบ! ตูมมมมมมม!!!!!
หญิงสาวที่เห็นชายหนุ่มพุ่งมาด้วยความเร็วสูงก็รีบระโดดหลบออกจากวิถีดาบทันที
ทำให้ดาบของเขาฟาดลงกับพื้นอย่างแรงจนเกิดหลุมลึกขึ้น
จากนั้นเธอก็โจมตีเขาอีกครั้งด้วยเปลวเพลิงที่มีความร้อนสูงแบบเดียวกับก่อนหน้านี้
ฟูมมมมมมมมมมมม!!!!!
“…..” ชายหนุ่มได้มองภาพของเปลวเพลิงที่พุ่งมาทางเขาด้วยแววตาที่คาดเดาไม่ได้
แทนที่จะหลบออกแต่เขากับใช้มือของตัวเองสัมผัสกับพื้นจากนั้นก็ตวัดขึ้นอย่างแรง
คลืดดดดดดดดดดด!!!!!
มวลนํ้าแข็งจำนวนมหารสารได้กลืนกินเปลวเพลิงอันร้อนแรงของเธอจนหายไปในชัวร์พริบตา
เเละในเสี้ยววินาทีที่เธอกำลังตกตะลึงอยู่นั้นเองชายหนุ่มนั้นก็ได้เปลี่ยนจากอุริเอลเป็นชามาส
เปรี้ยงงงงงงงงงงง!!!!!!
เปลวเพลิงความร้อนสูงที่ถูกปล่อยออกมาจากปากกระบอกปืนของชามาสได้พุ่งเข้าไปหาเธอด้วยความเร็วสูง
ถึงกระนั่นเธอก็ยังสามารถเอี้ยวหัวหลบออกได้ทันอย่างฉิวเฉียดทำให้รอดตายมาได้อย่างหวุดหวิด
แต่ทว่ายังไม่ทันทีเธอจะได้พักหายใจชายหนุ่มก็ได้เปิดฉากโจมตีละลอกถัดไปทันที
เขาได้ตวัดแขนของตัวเองขึ้นเพื่อใช้พลังนํ้าแข็งของเขาโจมตีดักหน้าของเธอเอาไว้
ฟิ้ววววววว~ แกร๊กกก!!!!!
“อึก?!” ซึ่งมันก็ได้ผลแฮชชเชอร์สาวได้ร้องออกมาอย่างเจ็บปวด
เพราะว่าตอนนี้ร่างกายของเธอแทบทั้งหมดมันได้ถูกพลังของชายหนุ่มแช่แข็งไปเป็นที่เรียบร้อย
“ฟูว~” เขาได้ถอนหายใจออกมาเล็กน้อยจนก่อให้เกิดไอเย็นขึ้น
“นี่... เจ้าเป็น... อะไร... กันแน่?...”
หญิงสาวได้ถามออกมาอย่างยากลำบากทำเอาชายหนุ่มที่ได้ยินก็แปลกใจเล็กน้อย
“ชั้น? อ่อ… ชั้นชื่อโดมะ อิซึกิ”
และเมื่อชายหนุ่มได้แนะนำตัวเองจนเสร็จอีกฝ่ายก็แทรกขึ้นมาทันทีเธอไม่ได้อยากรู้ชื่อของเขา
“ไม่ใช่?! ข้าไม่ได้ถามชื่อเจ้าแต่ตกลงแล้วเจ้าเป็นตัวอะไรกันแน่มนุษย์หรือว่าฮงไค?!”
“…”
ชายหนุ่มหรือว่าอิซึกิที่ได้ยินก็ทำได้แต่นิ่งเงียบเขาไม่รู้ว่าจะตอบกลับเธอยังไงเลย
“อยากจะเรียกอะไรก็แล้วแต่เลยชั้นเองก็ไม่รู้จะเรียกตัวเองว่าอะไรเหมือนกัน”
อิซึกิพูดพร้อมกับถอนหายใจออกมาเล็กน้อย
“งั้นในเมื่อได้คำตอบแล้วชั้นก็ขอจบเร็วๆเลยก็แล้วกันพอดีอยากไปเข้าห้องนํ้า”
หลังจากที่พูดจบเขาก็ยกชามาสขึ้นก่อนที่เล็งมันไปทางเธอ
อิซึกิได้เล็งไปที่หน้าผากของเธอเพื่อที่เขาจะปิดฉากแบบไม่ให้เจ็บปวด
แม้ว่าเขาจะคิดว่านี่คือความฝันและอีกฝ่ายเป็นสิ่งที่เขาสร้างขึ้นมาจากจินตนาการ
แต่ในวาระสุดท้ายของเธอเขาก็ไม่ต้องการที่จะทำให้เธอเจ็บปวดแม้ว่ามันจะเป็นเพียงแค่ฝันก็ตามที
และในระหว่างที่อิซึกิกำลังจะเหนี่ยวไกเพื่อปิดชีวิตของเธอก็ได้มีเสียงของหญิงสาวคนหนึ่งได้ตะโกนขึ้นมาซะก่อน
“เดี๋ยวก่อนอย่ายิงนะ?!!”
“ห๊ะ?” อิซึกิร้องออกมาด้วยความสงสัยก่อนที่จะมีร่างของหญิงสาวผมสีเทาอมฟ้าวิ่งเข้ามาขว้างเอาไว้
“อย่ายิงเธอนะ!”
“…” อิซึกิที่เห็นก็ถึงกับทำอะไรไม่ถูกเลยเขาคิดในใจว่าควรจะทำยังไงกับสถานการณ์ตอนนี้ดี
ตอนแรกก็กะจะปิดฉากให้จบๆไปแล้วก็เขาจะรีบตื่นไปเข้าห้องนํ้าสักทีเขาไม่คิดว่าจะมีคนมาขว้างแบบนี้…
มันช่างเป็นฝันที่สมจริงจนเขามีแอบๆคิดว่ามันเป็นของจริงขึ้นมาแวบหนึ่งเหมือนกัน
“เห้อ…” อิซึกิถอนหายใจออกมาก่อนที่จะลดชามาสลงตอนแรกก็คิดหนักอยู่ว่าจะเอายังไง
แต่พอมองเขาไปที่ตาของหญิงสาวคนนั้นมันก็เลยทำให้เขาเกิดใจอ่อนขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้
‘ไอ้นิสัยแพ้นํ้าตาผู้หญิงนี่มันแก้ไม่หายจริงๆเลยให้ตายสิ…’
ทันทีที่เขาลดปืนลงแล้วหญิงสาวผมสีเทาก็ได้หันไปเพื่อเรียกสติของหญิงสาวผมสีแดงทันที
โดยที่มีสายตาของอิซึกิที่ยืนกอดแกค่อยมองดูอยู่ห่างๆในตอนนี้หัวของเขาตอนนี้มีแค่อยากตื่นจากฝันในตอนนี้เท่านั้น
แน่นอนว่าเขาก็ไม่ได้ลดการ์ดหรือการป้องกันลงแต่อยากใด
เขาได้แต่ภาวนาในใจว่าให้หญิงสาวคนนั้นเรียกสติของอีกฝ่ายให้ได้เร็วๆ
“หื้ม?” อิซึกิที่อยู่ดีๆก็รู้สึกไม่ค่อยดีขึ้นมาก็รีบหันไปมองทันที
ก่อนเขาจะเห็นภาพของหญิงสาวผมสีแดงที่ยื่นมือไปหาหญิงสาวที่อีกคนกำลังพยายามจะเรียกสติของเธอ
แม้ภาพที่เห็นราวกับเธอกำลังจะได้สติขึ้นมาแต่ไม่เลย...
ในสายตาของอิซึกิมันมีอยู่แวบหนึ่งที่เขาเห็นเธอแสยะยิ้มขึ้นมาอย่างเจ้าเล่ห์
แม้มันจะเป็นช่วงแค่แวบเดียว… แค่แวบเดียวเท่านั้นที่เขาเห็น
แน่นอนว่าเจ้าตัวที่เห็นแบบนั้นก็ไม่รอช้ารีบคว้าตัวของหญิงสาวออกมาให้ห่างจากอีกฝ่ายทันที
และมันก็ดูเหมือนว่าสัญชาตญานของเขานั่นจะคิดถูกเพียงซะด้วยเพียงแค่ชัวร์อึดใจเท่านั้น
หลังจากที่เขาได้คว้าร่างของเธอออกมาให้ห่างจากอีกฝ่ายหญิงสาวผมสีแดงก็ได้ปล่อยเปลวเพลิงออกมาอีกครั้ง
แต่คราวนี้นั้นรุนแรงกว่าเดิมเป็นอย่างมาก
ฟูมมมมมมมมมมมมม!!!!!!!!!!!!!!
“เวรเอ๊ย?!” อิซึกิสบถออกมาอย่างตื่นตระหนก
ก่อนที่เขาจะใช้ความเร็วของตัวเองสร้างกำแพงนํ้าแข็งขนาดยักษ์ขึ้นมากันเอาไว้
คลืดดด!!!!! แกร๊กๆๆๆๆๆๆๆ!!!!!!
โดยที่เขาไม่ได้รู้เลยว่าทันทีที่เขาสร้างนํ้าแข็งจำนวนมากขึ้นมาในเวลาไล่เลี่ยกัน
ทำให้อุณหภูมิโดยรอบที่พวกเขาใช้เป็นสมรภูมินั้นลดตํ่าลงอย่างเฉียบพลัน
ความร้อนสูงที่ถูกสร้างขึ้นจากแฮชเชอร์ได้เข้าปะทะกับความเย็นจัดที่ถูกเขาสร้างขึ้น
ก่อเกิดอากาศขยายตัวขึ้นทันทีก่อนที่มันจะเกิดบางสิ่งบางอย่างขึ้น
บูมมมมมมมมมมมมมมม!!!!!!!!
การปะทะกันระหว่างความร้อนจัดกับความเย็นจัดในช่วงเวลาเดียวกัน
มันจึงก่อเกิดการระเบิดที่รุนแรงขึ้นจากอากาศขยายตัวอย่างฉับพลัน
ทำให้ทั้งร่างของแฮชเชอร์และร่างของชายหนุ่มกับหญิงสาวอีกคนนั้นกระเด็นกันไปคนละทิศละทางทันที
และด้วยแรงระเบิดที่เกิดอย่างแรงขึ้นบวกกับระยะที่พวกเขาทั้สองอยู่ใกล้กับแรงระเบิด
ทำให้ร่างของทั้งคู่นั้นลอยออกไปหลายร้อยเมตรเลยทีเดียว
อิซึกิที่พอจะตั้งสติได้เขาก็รีบคว้าหญิงสาวผมสีเทาคนนั้นเข้ามากอดไว้ทันที
อย่างน้อยร่างที่แข็งแกร่งเขาก็น่าจะพอช่วยเธอได้บ้างก่อนที่ร่างของเขาจะพุ่งไปชนกับตึกๆหนึ่งอย่างจัง
ตูมมมมม!!!!!
ทำเอาสติของเขาหลุดไปแวบหนึ่งเลยส่วนหญิงสาวที่เขาช่วยเอาไว้เมื่อกี้นี้
ได้กระเด็นออกไปจากแขนของเขาไปแล้วในตอนที่เขากระแทกเขากับกำแพงตึกด้านใน
“โอ๊ยๆ ระบมไปหมดเลยหลังชั้น… ทำไมแม่งยังไม่ตื่นอีกวะนี่ชั้นหลับลึกขนาดนั้นเลยรึไง?”
อิซึกิบ่นออกอย่างด้วยความเจ็บปวดแต่ที่เขางงเลยทำไมทั้งๆที่เขาเจอความเจ็บปวดตั้งขนาดนี้ถึงยังไม่ยอมตื่นอีก
‘หรือว่าชั้นต้องจัดการยัยนั่นก่อนหรอ? ดูเหมือนว่ามันคงไม่มีทางอื่นแล้วสินะ….’
“นี่คุณหน่ะเป็นอะไรรึเปล่า?!”
หญิงสาวที่ถูกเขาช่วยเอาไว้ได้วิ่งเข้ามาหาเขาทันทีหลังจากที่เธอได้สติขึ้นมาจากแรกกระแทกเมื่อครู่
“ก็เจ็บหน่ะสิถามแปลกๆ เธอเองก็รีบๆหนีไปซะคราวนี้ช่วยเธอคนนั้นไม่ได้แล้วก็เล่นถูกจิตแฮชเชอร์ควบคุมซะขนาดนั้นตอนนี้ก็มีแต่ต้องจัดการเท่านั้น”
เมื่อพูดจบเขาก็ได้ลุกขึ้นอีกครั้งซึ่งประโยคที่เขาพูดมันก็ทำให้หญิงสาวทีอยู่ตรงนั้นได้แต่ก้มหน้าลง
“ทำไมหล่ะก็เมื่อกี้เธอเหมือนจะได้สตินี่นา…”
“ได้สติกับผีหน่ะสิ เธอไม่เห็นรึไงว่าเมื่อกี้ยัยนั่นแสยะยิ้มหน่ะชั้นจะบอกอะไรให้นะแฮชเชอร์หน่ะเล่ห์เหลี่ยมเยอะจะตาย เมื่อกี้ก็คงแสร้งทำเป็นได้สติเพื่อตบตาและโจมตีชั้นไปพร้อมกับเธอตอนที่เผลอนั่นแหล่ะ”
“…”
“เออใช่ จะว่าไปตอนที่เธอวิ่งมาเธอเห็นห้องนํ้าบ้างมั้ย? ตอนนี้ไม่ไหวแล้ว”
ชายหนุ่มได้พูดออกมาด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยเหงื่อ
ซึ่งมันบ่งบอกไว้ว่าตอนนี้เขาอั้นไม่มีไหวแล้วขืนให้เขาออกไปสู้ทั้งแบบนี้เขาไม่มีสมาธิแน่ๆ
ตอนนี้ปล่อยคารถเมย์ก็ช่างแม่มเเล้ว
ยังไงมันก็ยังดีกว่าปล่อยต่อหน้าสาวหล่ะวะแม้มันจะเป็นความฝันก็ตามที
ที่เหลือเขาก็แค่ภาวนาว่าขอให้รถเมย์มันไม่มีคนขึ้นมาก็พอ
ทำเอาหญิงสาวที่ได้ยินเขาถามถึงกับหน้าแดงขึ้นเลยทีเดียว
“อะ-เอ่อ ตอนวิ่งมาชั้นเห็นว่ามันอยู่ทางนั้น”
หญิงสาวได้ตอบกลับอย่างตะกุกตะกักก่อนที่จะชี้นิ้วไปยังทางที่เธอวิ่งมาเมื่อกี้
“โอ้! ขอบใจหลายๆ” ทันทีที่พูดจบเขาก็รีบวิ่งไปทันที
‘สู้กับแฮชเชอร์เอาไว้ที่หลังตอนนี้ขอเข้าห้องนํ้าก่อนไม่ไหวละ’
ความคิดเห็น