ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    FIC JJK/Jujutsu Kaisen ; Shadow Twins (OC)

    ลำดับตอนที่ #2 : Ryomen Sukuna II

    • อัปเดตล่าสุด 25 พ.ย. 64


    *เนื้อหาต่อไปนี้มีการสปอยล์เนื้อเรื่องในอนิเมะและมังงะ*

     

    วัตถุต้องสาประดับพิเศษ

    เรียวเมน สุคุนะ II 

     

    ไอเดีย Gif 280 รายการ ในปี 2021 | ภาพประกอบ, แอนิเมชั่น, ศิลปะอะนิเมะ

     

    ตอนนี้ตะวันได้ลาลับขอบฟ้าไปแล้ว เมงุมิได้ตามกลิ่นอายของวัตถุต้องสาปมาถึงที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในเขตเซ็นได

    ความเย็นที่ต่ำกว่าด้านนอก ความเงียบเชียบที่หยั่งลึกเข้าไปในจิตใจ โดยรวมแล้วเป็นบรรยากาศที่เงียบสงบสำหรับคนปกติและเหมาะแก่ผู้ป่วยที่ต้องการการผักผ่อน

     แต่สำหรับคนที่มองเห็นอย่างเขาแล้วมันไม่ใช่เลย

    เด็กหนุ่มเดินมาตามทางเดินเรื่อยๆ สายตาก็สอดส่องหาเจ้าของเรือนผมสีชมพูพีชทุกซอกมุม เมื่อเห็นคนที่ตามหาอยู่ยืนอยู่ตรงเคาน์เตอร์ติดต่อพยาบาล เขาไม่รีรอช้าสาวเท้าเข้าไปหาโดยเร็ว

    "อิตาโดริ ยูจิใช่มั้ย?" เมงุมิเอ่ยทักขึ้นทันที เจ้าของชื่อหันมามองเขาด้วยความงุนงง 

    แต่เขาไม่ได้ต้องการคำตอบจากอีกฝ่ายว่าใช่หรือไม่ เพราะคำตอบที่เขาต้องการนั้นมันเด่นชัดมาจากกลิ่นอายคำสาปที่รุนแรงจากคนตรงหน้าแล้ว

    "ฉันฟุชิงุโระจากโรงเรียนไสยเวท อยากจะคุยกับนายสักหน่อย"

    "ตอนนี้เลย"

     เขาเอ่ยแนะนำตัวพอเป็นพิธีและบอกความต้องการอย่างเสร็จสับ ถ้าอีกฝ่ายยอมคุยกับเขาดีๆก็จะขอบคุณมาก แต่ถ้าไม่

    ก็คงต้องใช้วิธีของมิโนรุ

    "เอ่อ... ฉันกำลังไว้ทุกข์อยู่นะ" ถึงจะพูดอย่างนั้น แต่อิตาโดริก็เดินเข้ามาหาเขา ถือว่าเป็นเรื่องดีที่อีกฝ่ายไม่ได้เมินหรือเดินหนีไปไหน

    "ขอโทษด้วยนะ แต่ว่าฉันมีเวลาไม่มาก" เมงุมิสบตากับคนตรงหน้า น้ำเสียงทุ้มต่ำเต็มไปด้วยความจริงจังยิ่งเสียกว่าเมื่อครู่

    "วัตถุต้องสาปที่อยู่กับนายมันเป็นของที่อันตรายมาก ฉันอยากให้นานส่งมันมาให้ฉันเดี๋ยวนี้เลย"

    "วัตถุต้องสาป?"

    เมงุมิมองหน้าอีกฝ่ายก่อนจะลอบถอนหายใจ มือเรียวล้วงเอาโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงออกมา ปัดสองสามทีแล้วชูรูปกล่องไม้ขนาดเล็กที่มีของคล้ายแท่งเล็กๆถูกพันด้วยกระดาษยันต์อยู่ด้านในให้คนตรงหน้าดู

    "ไอ้นี่ไงล่ะ"

    "อ่า! ใช่ๆ ฉันเก็บมาเองแหละ"

    ดวงเนตรสีนิลเบิกกว้างฉับพลัน ทั้งความตกใจ ความประหลาดใจ และอารมณ์หงุดหงิดแล่นเข้ามาในหัว

    เจ้าหมอนี่ เก็บวัตถุต้องสาประดับพิเศษไปทั้งที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลย!?

    "ฉันจะคืนให้ก็ได้อยู่หรอก แต่พวกรุ่นพี่เขาชอบมันน่ะสิ , แล้วอันตรายนี่หมายความว่ายังไง?" เด็กหนุ่มผมสีอ่อนว่าด้วยน้ำเสียงปกติ เขาไม่รู้ว่ามันอันตรายยังไง สำหรับเขาแล้วมันก็เป็นแค่กล่องไม้ใส่ของเก่าๆเท่านั้น 

    ใช่ อิตาโดริ ยูจิ เป็นแค่เด็กม.ปลายธรรมดา และอยู่ในโลกของคนปกติธรรมดามาตลอด

     

    มันก็เป็นปกติที่เขาจะไม่รู้

     

    "ผู้ที่ตายอย่างประหลาดในญี่ปุ่นและผู้หายสาบสูญมีเกิน 10,000 รายโดยเฉลี่ยต่อปี และสาเหตุส่วนใหญ่ก็มาจากคำสาป

    นายจะเชื่อหรือไม่ จะเป็นยังไงก็ช่าง แต่นั่นมันเป็นความจริง โดยเฉพาะโรงเรียนกับโรงพยาบาล ความแค้นจะมาสั่งสมกันได้ง่าย

    ความทุกข์ ความเสียใจ ความอับอาย ความรู้สึกด้านลบของมนุษย์จะเป็นแหล่งพลังของคำสาป เพราะงั้นในโรงเรียนส่วนใหญ่จึงมีการวางวัตถุต้องสาปเอาไว้เป็นยันต์กันภัยแบบเงียบๆ ของที่นายเก็บไปก็เป็นหนึ่งในนั้น"

    "ถ้าเป็นยันต์กันภัยก็ยิ่งน่ายินดีไม่ใช่หรอ? เหมือนเครื่องราง" อิตาโดริยกมือขึ้นเท้าคางอย่างไม่เข้าใจ 

    "ฟังให้จบก่อน" เมงุมิขมวดคิ้วมองอีกคนเขม็งก่อนจะพูดต่อ 

    "ด้วยการวางวัตถุต้องสาปที่ร้ายแรงยิ่งกว่าเอาไว้มันจะเป็นพิษทำให้คำสาปอื่นไม่เข้าใกล้ แต่ผนึกของมันจะเสื่อมลงทุกๆปี ตอนนี้มันก็เป็นเหมือนเหยื่อล่อคำสาปไปแล้ว

    ของที่นายเก็บไว้อยู่ เป็นของอันตรายที่ถูกจัดเป็นระดับพิเศษ รีบส่งมันมาให้ฉันก่อนจะมีใครตายซะ"

    ในตอนนี้เมงุมิไม่สนแล้วว่าอีกฝ่ายจะคิดยังไง เขาแค่ต้องการเก็บนิ้วของสุคุนะ ไปรับมิโนรุ แล้วก็กลับโตเกียว รายงานให้อาจารย์ฟังว่าทุกอย่างเรียบร้อยดีและนอนพักผ่อนสักหน่อย

    ทุกอย่าง ทุกๆอย่างจะเรียบร้อย 

    แต่ความกังวลในใจนี่มันมาจากไหนอะไรกัน? 

    "จะว่าให้ฉันคืนให้มันก็ได้อยู่หรอก แต่ไปบอกรุ่นพี่เอาเองสิ" เจ้าของเรือนผมสีชมพูพีชไหวไหล่ก่อนจะมือหนาล้วงเข้าไปในกระเป๋าเสื้อฮู้ดแล้วโยนกล่องไม้นั่นให้กับเมงุมิ

    มือเรียวคว้ารับเอาไว้แล้วรีบเปิดดูข้างในอย่างรวดเร็ว

    ว่างเปล่า?

    ความรู้สึกราวกับเดจาวูของเมื่อคืนวานที่ไปหาในกล่องวัดอุณหภูมิกับมิโนรุ..

    ความกังวลที่พยายามปัดทิ้งเพิ่มมากขึ้นจนพาลจะกลายเป็นความโมโห 

    "ของข้างในอยู่ที่ไหน!?" ไวกว่าความคิด เมงุมิเอื้อมมือไปคว้ากระชากคอเสื้ออีกฝ่ายทันที

    "ก็อยู่ที่รุ่นพี่ไง" อิตาโดริว่า เขาหยุดนิ่งไปครู่นึงคล้ายนึกอะไรได้ก่อนจะพูดต่อ 

    "จะว่าไป รุ่นพี่บอกว่าคืนนี้จะไปแกะยันต์มันออกที่โรงเรียน"

    เมงุมิเบิกกว้างด้วยความตกใจ เขาไล่ตามกลิ่นอายที่อยู่ในกล่องมาตลอด แต่ของสำคัญตอนนี้กลับอยู่ที่โรงเรียน และเขาดันให้คนสำคัญของเขารออยู่ที่นั่น

     

    มิโนรุ !

     

    ตอนนี้มิโนรุไม่มีอาวุธ ที่สำคัญเลยคือเขาไม่มีไสยเวท ถึงนั่นจะทำให้ร่างกายของเขาแข็งแรงกว่าคนทั่วไปและสามารถต้านทานต่อพวกคำสาปและอาคมไสยเวทต่างๆได้ก็ตาม

    แต่มิโนรุก็ปัดเป่าคำสาปไม่ได้ถ้าไม่มีอาวุธต้องสาป และที่สำคัญ น้องชายฝาแฝดของเขาไม่ชอบคำสาปจนบางครั้งก็เข้าขั้นกลัว

    เมงุมิเงยหน้าขึ้นสบกับดวงตาสีอำพัน ริมฝีปากบางเม้นเข้าหากันแน่น พยายามสะกดอารมณ์เอาไว้ให้มากที่สุด

     

    "ถ้าแกะยันต์ออก พวกนั้นได้ตายแน่"

     

     

     

    เมงุมิวิ่งลับหายไปจากสายตาของเขาแล้ว มิโนรุรู้ดีว่าเมงุมิเป็นห่วงเขามาตลอด ยิ่งหลังจากเกิดเรื่องนั้นขึ้นกับพี่ซึมิกิ เมงุมิก็แทบจะไม่ปล่อยให้เขาไปทำอะไรเสี่ยงๆคนเดียว

    ซึ่งเขาก็รับฟังและเข้าใจได้

    ขายาวก้าวขึ้นบันไดเพื่อขึ้นไปบนดาดฟ้าตึกเรียนเพื่อหลีกหนีสายตาของนักเรียนคนอื่นๆ มือข้างขวาทำการเปิดกระป๋องน้ำผลไม้รสโปรดแล้วยกขึ้นดื่มดับกระหาย

    รสหวานของแอปเปิ้ลแผ่ซ่านไปทั่วโพรงปาก และเคลื่อนตัวนำพาความสดชื่นไหลลงไปตามลำคอ

    รอยยิ้มบางปรากฏบนใบหน้าสวย เป็นสิ่งบ่งบอกว่ามิโมรุพอใจกับรสชาติที่ได้รับเป็นอย่างมาก

    "เมงุมิ... ช้าจังแฮะ" จากตอนแรกที่เดินวกวนไปมาก็กลายเป็นนั่งรออยู่เฉยๆ นิ้วเรียวกดกลิ้งกระป๋องน้ำผลไม้ที่ว่างเปล่าเล่นบนพื้น เขาเอนหลังพิงขอบตึกในขณะที่ทอดสายตาไปบนฟ้า

    จากสีฟ้าครามสดใสแปรเปลี่ยนเป็นสีเหลืองทอง และสุดท้ายก็กลายเป็นสีนิล ลมเย็นที่พัดผ่านมายังคงทำให้คนที่ได้รับรู้สึกดีอยู่เสมอ

     

    หากแต่ช่วงเวลาที่มีความสุขนั้น มักจะสั้นเสมอ

     

    "กรี๊ดดดดด!!!"

    เสียงกรี๊ดดังลั่นขึ้นพร้อมความกดดันที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างกะทันหัน เหล่าคำสาปได้เริ่มออกล่าแล้ว

    มิโนรุวิ่งพรวดไปทางต้นเสียงทันที แม้คำสั่งของพี่ชายจะยังคงเด่นชัดอยู่ในความคิด แต่เขาเองก็คงจะเมินเฉยกับเสียงของเด็กผู้หญิงที่ร้องขอความช่วยเหลืออยู่ไม่ได้

    เขาได้แต่ขอโทษเมงุมิอยู่ในใจในขณะที่สอดส่องสายตาหาเจ้าของเสียงกรีดร้องนั้น

    จากบรรยากาศที่เคยเงียบสงบ ตอนนี้ตามทางเดินกลับเต็มไปด้วยคำสาปรูปร่างน่าเกลียดมากมาย มือเรียวดันกระชับแว่นตาให้เข้าที่ก่อนจะวิ่งหลบหลีกเหล่าคำสาปพวกนั้นไป

    จริงอยู่ที่มิโนรุสามารถเคลื่อนที่ได้รวดเร็ว แต่คำสาปที่โผล่ออกมาจากทั่วทุกสารทิศนั้นก็เป็นอุปสรรคอยู่ดี

    "น่ารำคาญจริง!" คอเสื้อของเขาถูกคว้าเอาไว้จากทางด้านหลัง แรงดึงกระชากทำให้ขาเสียการทรงตัวหงายหลัง 

    มิโนรุรีบเอียงตัวไปด้านซ้ายและใช้แขนข้างเดียวยันพื้นแล้วดันตัวตีลังกากลับหลัง ทันทีที่เท้าข้างขวาสัมผัสกับพื้นอีกครั้ง เขาก็ใช้เท้าซ้ายเตะเข้าที่ช่วงกลางลำตัวคำสาปนั้นทันที

    ตัวของมันได้แยกขาดเป็นสองส่วน แต่มันยังไม่ได้หายไป

    มิโนรุจิ๊ปาก มองเศษซากคำสาปที่ขยับไปมาอยู่บนพื้นอย่างไม่สบอารมณ์ มุมปากที่มักยิ้มแย้มอยู่เสมอตอนนี้ก็ได้กลับคว่ำลงไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

     

    ฟุชิงุโระ มิโนรุในตอนนี้อยากจะกอดพี่ชายของเขาเป็นบ้า

     

    เมงุมิสาวเท้าวิ่งขึ้นไปยังชั้นสี่ของอาคารเรียนตามคำบอกของอิตาโดริอย่างเร่งรีบ ตอนนี้สิ่งที่ผุดขึ้นมาในหัวของเขามีเพียงแค่สองอย่างเท่านั้น

    หนึ่งคือมิโนรุ และสองคือนิ้วของเรียวเมน สุคุนะ

    กลิ่นอายของคำสาปมันรุนแรงจนเขาอยากจะอ้วก ยิ่งเข้าใกล้นิ้วของสุคุนะมากเท่าไหร่ กลิ่นอายก็ยิ่งรุนแรงมากขึ้นเท่านั้น

    ตามทางที่ขึ้นมาไม่มีเศษซากของคำสาปอยู่ อย่างน้อยนี่ก็ทำให้เมงุมิโล่งใจได้เล็กน้อยว่ามิโนรุไม่ได้ผ่านมาทางนี้ และอาจจะหลบพวกมันอยู่ด้านนอกตามคำบอกของเขา

    แต่ทันทีที่เขาขึ้นมาถึงชั้นสี่ ภาพที่เห็นทำให้หัวใจของเขากระตุกวูบ เศษซากคำสาปที่เกลื่อนเต็มไปตามพื้นทางเดินและผนังพวกนั้น มองแค่แวบเดียวเมงุมิก็รู้แล้วว่าเป็นฝีมือของใคร

    "เกียวคุเคน!" สิ้นเสียง สุนัขสีดำและขาวก็ปรากฏตัวออกมาอยู่ข้างๆทั้งซ้ายและขวาของเมงุมิ

     

    "กินอย่าให้เหลือ" 

     

    และในตอนนี้ ฟุชิงุโระ เมงุมิเองก็อยากจะกอดน้องชายของเขาแทบบ้า


     

    เมงุมิจัดการปัดเป่าคำสาปพวกนั้นมาตลอดทาง เมื่อวิ่งไปถึงทางเลี้ยว เขาก็ได้เจอกับคนและของที่ตามหาอยู่สักที

    "มิโนรุ!" แต่ไม่ทันที่เขาจะได้เข้าไปใกล้อีกฝ่าย มิโนรุก็ถูกคำสาปตัวโตฟาดเข้าด้านหลังอย่างแรงจนกระเด็นไปอีกทาง

    คำสาปตัวนั้นคว้าผู้หญิงคนนึงเอาไว้ มันไม่ได้หันมาสนใจมิโนรุกับผู้ชายอีกคน เพราะสิ่งที่มันต้องการที่สุด อยู่กับเธอคนนั้น

    "เมงุมิ! นิ้วของสุคุนะอยู่กับเธอ มันคิดจะกลืนนิ้วกับเธอไปพร้อมกัน!" มิโนรุแผดเสียงดังตะโกนบอกผู้เป็นพี่ชาย

    นักเรียนชายในอ้อมแขนของมิโนรุนั้นหมดสติไปนานแล้ว ก่อนหน้านี้มิโนรุพยายามอุ้มเขาหนีไปพร้อมกับผู้หญิงอีกคน แต่สุดท้ายก็จนมุมหมดสภาพอยู่แบบนี้

    ตอนนี้ร่างกายของมิโนรุก็ใกล้ถึงขีดจำกัดอยู่รอมร่อ ถึงเขาจะแข็งแรงกว่าคนอื่นค่อนข้างมาก แต่การตั้งรับด้านกายภาพนั้นดันด้อยกว่าที่ควรจะเป็น

    "บ้าเอ๊ย!!! ไม่ทันแน่!" เมงุมิขบกรามแน่น สุนัขศักดิ์สิทธิ์ดำขาวต่างข่มเสียงขู่ด้วยความโมโห 

    ราวกับร่างกายพวกเขาถูกแช่แข็ง มิโนรุเบิกตากว้างพยายามเอื้อมมือไปหาเด็กสาวสุดแขน เมงุมิได้แต่ภาวนาขอให้เกียวกุเคนไปให้ทัน 

     

    แต่ดูเหมือนว่าทุกอย่างจะช้าเสียเหลอเกิน


     

    ในขณะนั้นเอง กระจกหน้าต่างก็ถูกพังเข้ามาในตำแหน่งที่ตรงกับคำสาปอย่างพอดีพอดี ตามด้วยร่างของเด็กชายผมสีชมพูพีชในชุดฮู้ดสีเหลืองอ่อน

    "อันตราย!" เสียงร้องเตือนของเมงุมิดังก้องไปทั่วทางเดิน แต่อิตาโดริก็หาได้ฟังไม่ เขาต้องการจะช่วยคนรู้จักของเขามากกว่าสิ่งอื่นใด

    อิตาโดริชกเข้าไปเต็มๆที่บริเวณหัวของคำสาปนั้น เขาเหยียบลงบนตัวของมันแล้วช่วยเด็กสาวคนนั้นออกมาได้อย่างฉิวเฉียด

    มิโนรุมองการเคลื่อนไหวนั้นอย่างอึ้งๆ อิตาโดริกระโดดหลบมาทางเขา พริบตาต่อมาเกียวกุเคนก็เข้าขย้ำคำสาปนั้นจนจมเขี้ยว

    "มีฟุชิงุโระสองคน...?" นัยน์ตาสีครามหม่นสบกับดวงแก้วสีอำพันตรงหน้า อิตาโดริเอียงคอมองมิโนรุอย่างงุนงงก่อนจะหันไปมองเมงุมิที่เดินมาจากทางด้านหลัง

    "อย่าบอกนะว่าร่างแยก!?"

    มิโนรุอยากจะหัวเราะให้กับความคิดของอิตาโดริจริงๆ ถ้าไม่ติดว่าตอนนี้เขารู้สึกปวดราวตรงซี่โครงไปหมด

    "ฝาแฝดต่างหาก" เมงุมิถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย ก่อนจะทอดสายตาสีน้ำเงินเข้มมองมิโนรุด้วยความเป็นห่วง เขาอ้าปากคลับคล้ายจะพูดอะไรสักอย่าง แต่แล้วก็ไม่พูดแล้วถอนหายใจอีกครั้งแทน

    ถอนหายใจบ่อยๆเดี๋ยวก็แก่เร็วหรอกเมงุมิ มิโนรุได้แต่คิดตอนที่มองพี่ชายของตัวเอง

    "อยากจะถามว่ามาทำไมอยู่หรอก แต่ก็ทำได้ดีมาก" เมงุมิว่า มือทั้งสองข้างล้วงเข้ากระเป๋ากางเกง

    "อ่า... แล้วทำไมนายต้องทำท่าแบบนั้นด้วย?"

    ใช่ พี่เก๊กทำไม? มิโนรุได้แต่พยักหน้าเห็นด้วยกับอิตาโดริในใจ เขาเองก็อยากจะถามออกไปแบบนั้นเหมือนกัน แต่เพราะคำพูดของเมงุมิเมื่อกี้ เหมือนว่าจะไม่ได้พูดแต่แค่กับอิตาโดริ แต่เหมือนพูดกับเขาด้วยนี่สิ

    พอคิดแล้วก็รู้สึกหนาวหลังแปลกๆ

    "แล้วไอ้ที่กินคำสาปอยู่นั่นมันคืออะไรน่ะ?" อิตาโดริว่า ดูเหมือนว่าวันนี้เขาจะมีแต่เรื่องน่าสงสัยเต็มไปหมด

    "ชิกิงามิของฉันเอง นายมองเห็นสินะ? ปกติเขามองไม่เห็นคำสาปกันหรอก ยกเว้นในตอนที่ใกล้ตาย--"

    "หรือสถานที่พิเศษแบบนี้" 

    มิโนรุชิงพูดขึ้นก่อนที่เมงุมิจะได้พูดจบประโยค ร่างสมส่วนวางเด็กหนุ่มในอ้อมแขนให้นั่งพิงผนังตึกอย่างเบามือ ก่อนจะลุกขึ้นยืนเต็มส่วนสูง

    "ขอฝากด้วยนะครับ ผมคิดว่าคุณน่าจะรู้จักเขา"

    "อืม ฉันรู้จัก..." 

    มีแวบนึงที่มิโนรุเห็นความเศร้าฉายในแววตาของอิตาโดริ แต่มันก็เพียงแค่แวบเดียวเท่านั้น 

    พอมิโนรุลุกขึ้น อิตาโดริก็ลุกตาม ของที่คล้ายกับนิ้วคนที่อยู่ในกระเป๋ากระโปรงของเด็กสาวก็ร่วงออกมาพอดี

    "โอ๊ะ! ใช่นี่มั้ย?" มือหนาของอิตาโดริคว้าเอาไว้ได้ทันที เขาชูมันขึ้นพลางถามยืนยันกับเมงุมิ

    "อ่า วัตถุต้องสาประดับพิเศษ นิ้วของเรียวเมน สุคุนะ ปาฏิหาริย์มากที่ไม่โดนกินไป"์มากที่ไม่ถูกกินไปพร้อมกันด้วย"

    "กินไปแล้วจะได้อะไร? อร่อยหรอเจ้านี้น่ะ?" อิตาโดริเอ่ยพร้อมกับหมุนนิ้วในมือดูไปมา ดูยังไงแล้วก็ไม่ใช่ของที่น่ากินเลยสักนิด

    "ไม่ใช่เรื่องรสชาติหรอกครับที่พวกคำสาปสนน่ะ แต่เป็นพลังไสยเวทที่อยู่ในนิ้วนี่ต่างหาก เพื่อที่พวกมันจะได้มีพลังที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น" มิโนรุก้าวเท้ามายืนอยู่ข้างๆกับเมงุมิ สภาพร่อแร่ของเขา ทำให้คนเป็นพี่ต้องคว้าเอาแขนข้างนึงไปพาดไหล่เพื่อพยุง

    "มันอันตรายมากเพราะงั้นรีบส่งมาซะ" มือเรียวยื่นไปข้างหน้า เมงุมิแบมือออกเป็นสัญญาณว่าให้อีกฝ่ายส่งนิ้วนั่นมาได้แล้ว

    มิโนรุที่ได้ยินน้ำเสียงปนหงุดหงิดของพี่ชายก็ได้แต่หัวเราะแห้งๆ อิตาโดริเองพอเห็นอย่างนั้นก็ตอบรับเสียงยานแล้วยื่นให้เมงุมิอย่างว่าง่าย

    อีกเพียงแค่นิดเดียว นิ้วของเรียวเมน สุคุนะ ก็จะส่งถึงมือของเมงุมิแล้ว 

     

    ถ้าดวงตาคมนั้นไม่เหลือบไปเห็นอะไรเข้าเสียก่อน

     

    "หนีไป!"


     

     

    * hi blue *

    จนถึงตอนนี้แล้ว เจ้าของชื่อเรื่องอย่างพ่อสุก็ยังไม่มีบทเลยสักกะจึ๋ง ไหนๆก็ไหนๆแล้ว บลูเลยจะยกตอนให้พ่อเขาไปอีกตอนนะคะ เพราะจะเอาให้จบในตอนนี้เลยก็ดูมันจะยาวไป (เกิน10000ตัวไปแล้ว( ._. ))

    ค่าตัวแพงต้องทำใจนะคับพ่อ เซนเซก็ด้วยคับ อุฮ่า แต่เดี๋ยวๆๆๆๆ อีกไม่กี่ตอนพ่อหนุ่มที่ตะมาจีบน้องมิก็จะโผล่ออกมาแล้วนะคะ!

    ฝากเอ็นดูฝาแฝดกันเนอะๆนะค้าบ thank for reading <3 .

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×