ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ฟิลลาเซีย โลกแห่งความบริสุทธิ์ของธรรมชาติ

    ลำดับตอนที่ #2 : ตัวตนที่แท้จริง

    • อัปเดตล่าสุด 1 ธ.ค. 49


    ทันใดนั้นเองแสงก็สองสว่างวาบออกจากตัวชายชราผู้นั้นและแล้วก็มีประตูมิติเปิดออกเป็นโพรงสีดำปนม่วงผสมแดงบวกกับน้ำเงิน และก็มีแรงดูดมหาสารดูดเขาเข้าไปในนั้น 

    ทันใดนั้นเองนารัสก็พบว่าตนเองหาได้อยู่ในโลกใบเดิมอีกแล้ว ณ ที่เต็มไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่มากมาย ณ จุดที่เขายืนอยู่นี้เป็นยอดเขาสูงสามารถมองเห็นที่ต่างๆได้เขามองเห็นป่าใหญ่อยู่เบื้องล่าง ทั้งทะเลสาบ และเขาก็เห็นเมืองแห่งหนึ่งซึ่งเต็มไปด้วยผู้คนมากมาย ทุกคนล้วนแต่แต่งชุดที่เรียบง่าย เมืองนี้ก็สร้างจากอิฐสีขาวอย่างสวยงาม

    "เป็นไงบ้างละ หัวใจแห่งฟิลเลเซีย มหานครฟิลาเซีย" เสียงเดิมดังมาจากข้างหลังนารัส

    เมื่อนารัสหันไปก็พบว่าบัดนี้บุรุษชรามิได้อยู่ในชุดเดิมอีกต่อไป แต่อยู่ในชุดนักปราชญ์สีขาวสะอาดดูมีความรู้มากมายท่วมท้นยิ่งนัก

    "แต่...ผมไม่เข้าใจ ผมมาอยู่นี่ได้ไง ที่คือที่ไหน แล้วแม่ผมละ แล้วคุณเป็นใครกันแน่…" คำถามมากมายออกมาจากปากของนารัส พร้อมด้วยสีหน้าที่ไม่เข้าอย่ายิ่ง

    "ใจเย็นก่อนหนุ่มน้อย เอาที่ละคำถามนะ ที่เธอมาอยู่ที่นี้ได้เพราะฉันเป็นคนพาเธอมาผ่านประตูมิติมา ข้อต่อไป ก็อย่างที่บอกไปแล้วที่นี้คือนครฟิลาเซียแห่งโลกฟิลเลเซีย ส่วนแม่เธอนั้นคงต้องอธิบายอีกยาว และฉันคือใครนั้นเธอยังไม่ต้องรู้หรอก รู้แค่ว่าฉันชื่อ มาร์โบวรอส ก็พอแล้ว"ชายชราตอบคำถามของนารัสอย่างใจเย็นราวกับคาดเอาไว้แล้วว่าต้องเจอกับคำถามเหล่านี้

    "แล้วแม่ผมละ ท่านต้องเป็นห่วงมากแน่" นารัสแม้ยังงงๆอยู่ก็ตามแต่เขาก็ห่วงแม่มากกว่า

    "นารัส ใจเย็นไว้ก่อน แล้วฉันจะเล่าทุกอย่างให้ฟัง"บุรุษชราเอ่ย

    "ก่อนอื่นเธอต้องเข้าใจก่อนว่าเธอนั้นเป็นคนของที่นี่โดยกำเนิด เธอไปอยู่ที่นั้นเพราะการบิดเบี้ยวของมิติตั้งแต่เธอยังไม่รู้ความ เธอก็หลุดออกจากโลกใบนี้ไปยังโลกมนุษย์แล้ว จากนั้นแม่เธอเลยเก็บเธอมาเลี้ยง จากนั้นก็เป็นอย่างที่เธอรู้แล้ว"มาร์โบวรอสเล่าเรื่องราวต่างๆอย่างสบายๆไม่รีบร้อนแต่กลับกันกับนารัสซึ่งเริ่มโมโหอย่างเต็มที่ ที่อยู่ดีก็มีคนๆหนึ่งจากไหนก็ไม่รู้มาลักพาตัวเขามาแล้วมาบอกว่าเขาไม่ใช่ลูกของแม่ที่เลี้ยงเขามาตลอดชีวิต

    "นี่คุณ พาผมกลับไปเดี่ยวนี้นะแม่ผมคงเป็นห่วงมากแล้วแน่ๆ คุณมันบ้าไปแล้ว"นารัสได้ระเบิดอารมณ์ออกมาแล้ว

    "ไม่ต้องเป็นห่วงแม่เธอหรอก เขาหนะไม่มีความทรงจำเกี่ยวกับเธออีกแล้วหละ เพราะเมื่อเธอถูกส่งกลับยังที่ๆเป็นของเธอสิ่งที่คนในโลกนั้นรู้หรืออะไรก็ตามที่ยืนยันได้ว่าเธอมีตัวตนก็ถูกทำลายเพราะผลของเวทย์ที่ติดตัวเธอมาตั้งแต่เด็กแล้ว แล้วเธออยากพิสูจน์ไหมละว่า เธอหนะเป็นคนของที่นี่"มาร์โบวรอสพูดด้วยสีหน้าราบเรียบเช่นเดิม

    โดยไม่รอให้นารัสได้พูดเขาก็ชิงเอ่ยอีกครั้ง

    "ที่ฟิลเลเซียถูกขนานนามว่าความบริสุทธิ์แห่งธรรมชาติก็เพราะ ที่แห่งนี้เปลี่ยมล้นด้วยธรรมชาติที่ยังสะอาดอยู่นั้นเอง โดยที่คนของฟิลเลเซียจะสามารถหยิบยืมพลังที่บริสุทธิ์นั้นมาใช้เป็นพลังของตนเองได้ อย่างเช่น…" ทันใดนั้นเองเมื่อมาร์โบวรอสยกมือขึ้น พื้นดินด้านหลังเข้าก็ยกตัวสูงขึ้นและแตกออกเป็นรูปน้ำพุ และเมื่อมาร์โบวรอสลดมือลงดินที่กลายเป็นน้ำพุก็พลันกลับสู่สภาพเดิม

    "เข้าใจหรือยังหละ เธอก็ทำแบบนั้นได้นะอยากลองดูมั้ย"มาร์โบวรอสก็ยังพูดด้วยสีหน้าและน้ำเสียงเดียวกับที่เขาใช้มาตั้งแต่ต้น

    แต่นารัสนั้นกลับงุนงง สงสัย ตื่นเต้น และตื่นตระหนกยิ่งนัก เขาไม่รู้ว่าอธิบายกับสิ่งที่มาร์โบวรอสทำได้อย่างไร และเขาก็ยังไม่เชื่อว่าเขาเป็นคนที่นี่ด้วยซ้ำ แต่เขาก็พร้อมที่จะลองดูว่าเขาจะทำแบบนั้นได้จริงๆหรือ

    "แล้วผมต้องทำยังไง"ในที่สุดนารัสก็พูดออกมา

    มาร์โบวรอสยิ้มเล็กน้อยก่อนเอ่ยว่า "ก่อนอื่นเราต้องรู้ก่อนว่าเธอสามรถยืมพลังของอะไรได้ หรือว่าเธอจะเป็นผู้ใช้มนตรากันแน่ แต่ข้อหลังฉันมั้นใจได้ว่าไม่ใช่ เพราะถ้าใช่ฉันต้องรู้ถึงพลังวิญญาณเธอตั้งแต่มาที่นี่แล้ว"

    นารัสออกสีหน้างุนงงเล็กน้อย  มาร์โบวรอสเหมือนจะรู้ดีว่านารัสไม่เข้าใจ  "ในโลกใบนี้นั้นนอกจากจะมีผู้ที่สามารถหยิบยืมพลังแห่งธรรมชาติมาใช้แล้ว ยังมีผู้ที่มีพลังวิญญาณที่สามารถใช้เวทย์มนตร์ได้ซึ่งก็เหมือนกับฉัน ที่ใช้พลังทางวิญญาณควบคุมสิ่งต่างๆได้ และนอกจากนั้นก็ยังมีพวกที่ไม่มีพลังวิญญาณและไม่สามารถยืมพลังของธรรมชาติได้อยู่ด้วยแต่พวกนี้จะมีสิ่งที่เรียกว่าโทรจิต ซึ่งบางคนก็สามารถทำได้แต่พูดคุยทางจิตหรือไห้ผู้อื่นได้ยินเสียงทางจิตได้ แต่บางคนที่มีพลังด้านนี้สูงสามารถเคลื่อนย้ายสิ่งของหรือสิ่งมีชีวิตได้ในแบบที่เรียกว่าวาร์ป   และก็จะมีพวก บีสท์มาสเตอร์ที่สามารถควบคุมพวกสัตว์ได้ด้วยแต่พวกนี้จามีอยู่น้อยมาก แล้วก็ยังมีพวกที่สามารถอัญเชิญเทพหรือสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ออกมาจากโบราณสถานวัตถุโบราณหรือเรียกออกมาจากศิลาก็มีพวกนี้ก็จะมีมากกว่าพวกบีสท์มาสเตอร์นิดหน่อยเท่านั้นเอง เอาหละคงได้เวลาที่จะทดสอบเธอแล้วว่าเธอสามารถควบคุมอะไรได้"

     ว่าแล้วมาร์โบวรอสก็กางมือออกทั้งสองข้างมีก้อนพลังหลายๆอย่างปรากฏขึ้นแต่ละก้อนก็มีสีสันของมันเองและแล้วก้อนพลังเหล่านั้นก็วนรอบตัวนารัสอย่างช้าๆ นารัสมีสีหน้าตื่นตระหนก  "ไม่ต้องกังวลหนุ่มน้อย อยู่เฉยก็พอ" มาร์โบวรอสกล่าว จากนั้นก้อนพลังทั้งหมดก็ล้อมรอบตัวนารัสเป็นวงกลมกว้าง มีก้อนพลังก้อนหนึ่งลอยเข้ามาใกล้นารัสแล้วมันก็ลอยกลับออกไป หลังจากนั้นก้อนพลังหลายๆก้อนก็ลอยมา แล้วลอยจากไปทีละลูก ทีละลูก แล้วแล้วมีก้อนพลังหนึ่งลอยมาหาเขาแต่มันก็ไม่ได้จากไป แต่กลับส่องแสงสว่างจ้ามากขึ้นมันเป็นก้อนพลังสีน้ำเงินก้อนสีน้ำเงินก้อนนั้นก็วิ่งวนรอบตัวนารัสเร็วขึ้นๆจนไม่สามารถมองตามได้ทันก้อนพลังที่เหลือพลังจางแสงลงและหายไปในที่สุดเช่นเดียวกับก้อนพลังสีน้ำเงินที่หายไปเป็นก้อนสุดท้าย...

         และนี่คืออีกตอนที่นำมาเสนอ ที่สามารถนำมาลงได้เพราะเกมเข้าไม่ได้ครับอิๆ ไม่งั้นเพื่อนๆคงไม่ได้อ่านกันจิงมั้ยครับ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×