Icy~ Ice Hotel ยะเยือกทริป

ลำดับตอนที่ #2 : Icy~ IceHotel (part II) ยะเยือก ภาค2

ต่อจากภาคแรกที่เป็นเรื่องของ โรงแรมน้ำแข็ง แบบรวมๆ
คราวนี้ขอเจาะเฉพาะส่วน เบื้องลึกเสียหน่อย

ทางเข้าโรงแรม พร้อมรถขนของ

จากที่เกริ่นๆไปแล้วว่า โรงแรมน้ำแข็งมีมากมายหลายห้อง เบ็ดเสร็จก็ราวๆ 80 ห้องได้ แต่ละห้องจะมีขนาดห้องแตกต่างกันไป ตั้งแต่ ห้องขนาดมาตรฐาน ซึ่งจะมีแค่ เตียงและโคมไฟเท่านั้น ส่วน เฉพาะห้องสูทซึ่งมีราวๆ 20 ห้อง ที่มีการตกแต่งเป็นสัดส่วน คือมีเครื่องตกแต่งมากกว่าเตียงหนึ่งตัว  และนั่นรวมถึงห้องแบบเดอร์ลุกซ์ที่ใหญ่กว่าห้องสูท และห้องอื่นๆ ก๋จะมีส่วนแยกเฉพาะนั่งเล่น มีที่นั่งพักแบบเย็นๆอีกด้วย  ซึ่งมีเพียง 2 ห้องเท่านั้น

สำหรับครอบครัวใหญ่ โรงแรมก็มีห้องแบบพักรวมยังกับโรงนอนทหารไว้บริการอีกด้วย แต่ก็มีแค่ 2 ห้องอีกเช่นกัน

ห้องสูทและห้องแบบเดอร์ลุกซ์จะมีการตกแต่งที่สวยงามแบบหนาวๆ แต่ละห้องจะมีศิลปินจากทั่วโลกมาออกแบบ ส่วนใหญ่ก็จะมาจากโซนเมืองหนาว มีบางห้องที่มีศิลปินจากแอฟริกามาตกแต่ง แต่ละห้องก็เหมือนงานศิลปะชิ้นนึง มีชื่อเสียงให้เรียกขานได้

ตัวอย่างการตกแต่งห้อง

ส่วนสำคัญของโรงแรมน้ำแข็งคือโครงสร้าง ซึ่งสร้างจาก น้ำแข็งและหิมะหลายตัน (น้ำ 1 ลูกบาศก์เมตรนี่หนัก 1 ตันนะ)

โรงแรมสร้างจากน้ำแข็งเป็นโครงสร้างหลักๆเช่นเสา - คาน และมีไม้เสริมกำลังบ้าง เพราะความที่น้ำแข็ง แข็งไม่จริง มันโค้งงอได้เมื่อรับน้ำหนักนานๆ
ในช่วงเวลาแค่ไม่กี่เดือน (จากเริ่มสร้างราวๆ พฤศจิกายน ตอนที่ไปเห็นกลางๆปลายๆมกราคม) ผนังหลายที่โค้ง...จนเห็นได้ ก็โค้งออกมาราวๆฟุตนึงได้ เห็นว่า จนถึงช่วงที่โรงแรมละลาย รวมแล้วก็ราวๆ ครึ่งเมตร O[]o"

และเมื่อน้ำแข็งโค้งได้ส่วนต่อมาที่มีผลตรงๆก็คือ ประตู คงไม่มีใครคิดเอาประตูหนักเป็นตันๆแถมต้องนั่งนับวันละลายลงไปติดเป็นแน่

(แล้วทำไงล่ะ นอนแบบห้องโป๊ๆไม่มีประตูรึ?)
ประตูมี แต่ไม่ใช่ประตู (เอ๊ะยังไง?)

เขาใช้ผ้าม่านกั้นทางเข้า - ออกแทน แต่ขอให้นึกว่าผนังห้องหนาราวครึ่งเมตร หรือ หนากว่านั้น หน้าตาเลยเหมือนอุโมงค์ที่มีผ้าม่านกั้น ก็พอจะเกิดความเป็นสัดส่วนได้ นิดหน่อย

ตัวอย่างห้องสูท

โครงสร้างส่วนใหญ่ใช้ อาร์ค หรือ ผนังโค้ง รับน้ำหนัก(นึงถึงพวกโบสถ์ใหญ่ๆแบบโรมาเนส) จะมีเสา - คานบ้าง  ซึ่งจะสร้างด้วยการตัดน้ำแข็งจากแม่น้ำใกล้ๆมาใช้

แต่ส่วนที่เป็นหลังคา ผนัง และพื้น จะใช้หิมะแทนเพราะหิมะเป็นฉนวนกันความหนาว ในหิมะจะมีอากาศฟอยๆ ตอนสร้างก็มีเครื่องพ่นหิมะ คอยพ่นหิมะใส่โดยวัสดุก็เก็บๆเอาแถวๆนั้นแหละ หิมะหนาตั้งเป็นเมตรๆนี่นา

ทำให้ต้องใช้หิมะแทนน้ำแข็ง สร้างแบบใช้น้ำแข็งเป็นก้อนๆมาต่อกันไม่ได้หรอ?
ถ้าใช้น้ำแข็งสร้างทั้งหมด ตัวอาคารจะหนาวเท่าๆกับอากาศข้างนอก ที่อาจลงไปถึง -50^oC  เพราะน้ำแข็งเป็นตัวนำความร้อน(ออกไป) ส่วนหิมะเป็นฉนวน(กันความร้อนออกไป)

อุณหภูมิทั่วไปในโรงแรม -5^oC  แต่พอดีวันที่ไป โชคดี ข้างนอก -2^oC เอง แต่หนาวลมเพราะลมแรงมาก

ส่วนน้ำแข็งที่เป็นโครงสร้างของโรงแรมก็เอามาจากแม่น้ำใกล้ๆ ตัดเป็นก้อนๆ ซึ่ง จุดเด่นออีกอย่างของโรงแรมน้ำแข็งที่ทำให้น้ำแข็งของเขาต่างจากน้ำแข็งทั่วๆไปตามตู้เย็นคือ ความใส

น้ำแข็งทั่วไปในตู้เย็นจะขุ่นขาว ไม่ใช่เพราะสกปรก แต่เพราะมันมีฟองอากาศ ลองวิ่งไปดูที่ตู้เย็นในถาดน้ำแข็งซิ  แต่น้ำในแม่น้ำนี้ถูกกระแสน้ำพัดเอาฟองอากาศลอยไปหมดทำให้น้ำใส่ปิ๊ง บางส่วนของโครงสร้างก็จะเห็นพวกสาหร่ายน้ำจืดแช่แข็งอยู่ในเสา ก็ดูสวยไปอีกแบบ

การออกแบบเลยเอาจุดทึบของหิมะ และ ความใสของน้ำแข็งมาเล่นกับแสง ทั้งแสงธรรมชาติที่มีไม่กี่ชั่วโมงต่อวัน และแสงประดิษฐ์
ส่วนที่รับแสงเลยหันลงทิศใต้หมด อีกอย่าง ที่ คิรูน่า เป็นเมืองที่อยู่เหนือเส้นอาร์คติกเซอร์เคิล จึงเป็นดินแดนที่มี 6 ฤดูต่อปี จะมีวันอย่างน้อย 1 วันใน 1 ปี ที่ไม่มีแสงอาทิตย์ และ อย่างน้อย 1 วันใน 1 ปี ที่พระอาทิตย์ไม่ตก
สุดยอดของอากาศจริงๆเลย

หลายท่านคงเคยลอง เอาถาดน้ำแข็งในตู้เย็นออกมาวางนอกตู้เย็นแป๊บๆ จะเห็นฝ้าขาวๆจับที่น้ำแข็ง ปรากฏการณ์ง่ายๆ ที่ไอน้ำในอากาศ เจอความเย็นจนกลั่นและแข็งตัวเกาะกับน้ำแข็ง แต่เป็นงานยากๆที่เป็นหลักของนักการทำความสะอาดของโรงแรม ต้องคอยขัดลงแว็กซ์ โครงสร้างโรงแรมทั้งหลัง ที่อุณหภูมิต่ำกว่าจุดเยือกแข็งตลอดวัน ติดต่อกันตลอดราวครึ่งปี

ใครว่าโรงแรมน้ำแข็งไม่ต้องทำความสะอาด

และเมื่ออุณหภูมิสูงขึ้นในฤดูใบไม้ผลิ จนโรงแรมเริ่มละลาย โรงแรมก็จะปิดทำการ รอหน้าหนาวครั้งต่อไป น้ำที่ขโมยมากจากแม่น้ำ ก็ไหลคืนสู่แม่น้ำดังเดิม จึงเรียกได้ว่า ...อาคารรีไซเคิ่ลแบบ 100% เต็ม!!! รักษาสิ่งแวดล้อม - -"

แน่นอนว่า มันไม่ใช่ที่ที่คนจะอยู่เได้อาเสียเลย ทำไมไปสร้างโรงแรมอะไรแถวนั้น?
จริงๆโรงแรมน้ำแข็งเกิดมาได้ราว 20 ปีเท่านั้น เหตุเกิดง่ายๆ จากชาวฝรั่งเศสที่ไปท่องเที่ยวในหน้า high season ทำให้ไม่มีที่พัก ครั้นจะไปนอนตากลมตากน้ำแข็งที่ -20 - -30^oC ไม่ใช้ความคิดคนปกติแน่ๆ อาจเอาชีวิตไปทิ้งแทนไปเที่ยว เขาจึง เอาน้ำแข็งและหิมะมาสร้างแบบ อิกกลู ของชาวเอสกิโม เพื่อหลบหนาว ก็เลย ปิ๊งไอเดีย จนกลายเป็น โรงแรมน้ำแข็งในปีถัดมา

ละลาย....สร้างใหม่....ละลาย....สร้างใหม่
เป็นอาคารที่ไม่จีรังจริงๆ

โรงแรมน้ำแข็งในแต่ละปีจึงเปลี่ยนไปเรื่อยๆตามนักออกแบบมากหน้าหลายตาที่มาร่วมออกแบบ ปีนี้ ปีที่แล้ว ปีหน้า ปีถัดๆไป ก็จะต่างกันไป แต่ที่ไม่เปลี่ยนคือความหนาวเย็น และขนเรนเดียร์ ถ้าโลกเราไม่อุ่นจนเกินไปเสียก่อน

ข้อมูลเพิ่มเติม
http://www.icehotel.com
http://kiruna.se/

อื่นๆ
การเดินทางจากที่บอกไว้ในเรื่องแล้วว่าสามารถเดินทางไปได้ หลายวิธี
- เครื่องบิน ท่านๆสามารถจับเครื่องบินจาก สต็อกโฮล์มเมืองหลวงของสวีเดนไป โดยที่ใช้เวลาราวๆชัวโมงเศษ และหากท่านอายุต่ำกว่า 26 ปี ก็สามารถซื้อตั๋วราคาถูกได้ ท่านสามารถตรวจสอบตารางเวลาและราคาได้จาก http://www.sas.se

- รถไฟ สำหรับท่านที่มีงบประมาณในระดับปานกลาง และมีเวลาเหลือเฟือ ท่านสามารถจับรถไฟ inter-city ไปได้ จากทั่วประเทศ สวีเดน ซึ่ง ระยะเวลาจาก สต็อกโฮล์ม ใช้เวลาประมาณ 14-15 ชั่วโมง ซึ่งสามารถเลือกเดินทางได้ ส่วนใหญ่รถจะออกตอนเย็น และไปถึงที่คิรูน่าตอนเที่ยง หรือบ่ายของวันรุ่งขึ้น ท่านสามารถตรวจสอบตารางรถไฟได้จาก http://www.sj.se
หรือวางแผนการเดินทางโดยรถเมล์และรถไฟได้จาก เวป http://www.resplus.se/

เมื่อถึงคิรูน่าแล้ว ท่านสามารถสอบถามการเดินทางไป ice hotel ได้ที่ท่ารถประจำเมือง
(ไม่ต้องห่วงว่า จะหลง เพราะท่ารถ เล็กมาก และ เมืองก็เล็กมาเช่นกัน)

เพิ่มอีกนิด เนื่องจาก การเดินทางไปเที่ยวโรงแรมน้ำแข็งนั้นจะต้องไปช่วงฤดูหนาว และเมืองคิรูน่าเป็นเมืองที่อยู่เหนือเส้นอาร์คติคเซอร์เคิล ทำให้ เป็นช่วงเวลาที่พระอาทิตย์น้อยมาก โดยเฉพาะท่านที่วางแผนการเดินทางใกล้ๆ ทั้งก่อนและหลัง วันที่ 21-23 ธันวาคม ท่านอาจจะไม่สามาถเห็นพระอาทิตย์ได้ตลอดทั้งวัน หรือ ในช่วงธันวาคม และมกราคม ท่านจะสามารถเห็นพระอาทิตย์ได้เพียง 2-3ชั่วโมงต่อวัน

สำหรับท่านใดสนใจ หรือมีคำถามเพิ่มเติม โพสถามได้เลยค่ะ