ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    My Hero Academia [ MHA/BNHA x OC/You ] SF/OS

    ลำดับตอนที่ #2 : Shigaraki Tomura : Untouchable 100%

    • อัปเดตล่าสุด 12 ก.ค. 63


    Genre : Fluff , a little bit of angst
    Story : Untouchable

    สัมผัสไม่ได้



         ใครๆในสมาพันธ์วิลเลินต่างก็รู้ว่า ชิงารากิ โทมูระ หรือก็คือ บอส ของสมาพันธ์เป็นคนยังไง เขาเป็นคนเห็นแก่ตัว โหดเหี้ยม ไร้ความปราณีเหมือนๆกับคนที่เขานับถือเป็นอาจารย์ หมอนี่พร้อมที่จะฆ่าทุกคนที่มาขวางทางแผนการของเขา เพียงแค่ใช้มือเดียวก็สามารถสลายให้หายไปได้ทันที 
         
         อัตลักษณ์สุดอันตรายผนวกกับนิสัยของเขาก็ยิ่งเป็นบุคคลที่ไม่ควรไปทำให้อารมณ์เสียถ้าคิดว่ายังรักชีวิตอยู่ ทุกวันนี้ที่ยังไม่ลงมือสลายสมาชิกในสมาพันธ์ที่มากวนประสาทเขาได้ทุกวันก็เพราะมี คุโรกิริ  ผู้มีอัตลักษณ์เกทวาร์ป คอยห้ามทัพอยู่(ถึงจะมีบางครั้งที่เอาไม่อยู่ก็เถอะ)


         แต่สุดท้ายชิงารากิก็ยังเป็นมนุษย์ เขาก็มีข้อยกเว้นบ้าง อย่างเช่นเธอคนนั้น..


         ซาคาอิ หญิงสาววิลเลินหน้าใหม่ที่เพิ่งเข้ามาประมาณครึ่งปีก่อน ประวัติคร่าวๆเท่าที่รู้คือเธอถูกครอบครัวทอดทิ้งไว้ที่สลัมตั้งแต่ 3 ขวบ ถูกทอดทิ้งโดยครอบครัวฮีโร่ แต่กระนั้นก็ถูกปิดข่าวเงียบ ไม่มีใครรู้ว่าเด็กคนนั้นยังมีชีวิตอยู่ มีแค่ข่าวลือว่าเธอพลัดหลงจากพ่อแม่แล้วหายไป ใครจะไปคาดคิดล่ะว่าวันหนึ่งเธอดันได้พบกับออลฟอร์วัน และถูกเขารับมาเลี้ยงโดยไม่รังเกียจอัตลักษณ์ปีกสีขาวของเธอ ก่อนที่เธอจะโดนทิ้งนั้นมีแต่คนไม่ชอบอัตลักษณ์ของเธอ เพราะทุกคนคิดว่ามันเป็นแค่ของประดับ ไม่สามารถเอาไปช่วยใครได้ 

         แต่แล้ววันหนึ่ง ราวกับฟ้ากลั่นแกล้งชีวิต เธอเห็นฮีโร่มีปีกเช่นเดียวกับเธออยู่หน้าทีวี เป็นอัตลักษณ์เดียวกันแต่คนละสี เมื่อเห็นดังนั้นเธอจึงสะสมความคั่งแค้นไว้ในจิตใจ รอคอยวันและเวลาฝึกฝนจนตัวเองมีพลังมากพอที่จะทำงานให้กับผู้มีพระคุณของเธอ โดยการทาบทามให้มาช่วยเหลือลูกศิษย์ของเขา ชิงารากิ โทมูระ เด็กหนุ่มรุ่นราวคราวเดียวกัน


         กริ๊ง   


         เสียงน้ำแข็งละลายตกกระทบกันในแก้ววอดก้าทรงสูงของหญิงสาวในชุดเสื้อหนังสีดำและกางเกงยีนส์สีน้ำตาลเข้มตัดกับปีกสีขาวนวลของเธอ มองจากข้างหลังก็รู้ว่าเธอเป็นคนที่สวยมากคนหนึ่ง 

         "คุณซาคาอิ แก้วนี้พอแล้วนะครับ จะไม่มีให้ลูกค้าแล้ว" คุโรกิริส่งเสียงทักขัดอารมณ์เธอขึ้นมา เนื่องจากเธอดื่นมาเป็นแก้วที่ 3 แล้ว..


         ผมก็รู้นะว่าคุณคอแข็ง แต่อย่าดื่มฟรีสิครับ..  


         "บาร์นี้เคยมีลูกค้าด้วยหรอคะ คุโรกิริซัง" เสียงหวานออกไปทางห้าวหน่อยๆเอ่ยกวนคนเช็ดแก้วอยู่หลังเคาน์เตอร์บาร์อย่างกวนประสาท  

         "มีสิครับ!" อีกฝ่ายก็ได้แต่เถียงจนตัวโยน พลันได้ยินเสียงเปิดประตูแล้วปิดลงอย่างแรงจนกลัวว่าขวดเหล้าต่างๆที่ตั้งอยู่บนชั้นจะสั่นจนหล่นลงมา 


         ปัง!


         "โถ่เว้ย! หงุดหงิดชะมัด!!" ผู้เข้ามาใหม่อย่างชิงารากิ โทมูระ เอ่ยอย่างหัวเสียพร้อมเกาที่คอดัง แกรก แกรก จนดาบิที่เพิ่งเดินออกมาจากหลังร้านนึกสงสัยว่าเลือดจะออกหรือเปล่า ส่วนเจ้าตัวที่ทำเสียงก็ตะคอกใส่คนผิวม่วงตรงหน้าอีกคราแล้วเดินไปห้องของตัวเองทางหลังร้านพร้อมปิดอย่างแรง "หลบไปไอ้งี่เง่า!!!" 

         "เธอรู้ไหมว่าหมอนั่นเป็นอะไร" ดาบิที่โดนตะคอกใส่ก็หันมาถามหญิงสาวเพียงหนึ่งเดียวในห้องนี้

         "รู้ไหมคะคุโรกิริซัง?" เมื่อตนเองก็ไม่มีคำตอบ จึงหันไปถามบาร์เท็นเดอร์เพื่อหาคำตอบแทน

         "..รู้สึกว่าน่าจะไปเดินสำรวจแล้วเจอเรื่องขัดใจมั้งครับ ท่าทางแบบนั้นไม่น่าเป็นอย่างอื่น" คุโรกิริจึงตอบทั้งสองคนไปอย่างปลงๆกับท่าทางของชิงารากิ

         "เธอไปดูทีสิ" ทางดาบิเมื่อเห็นอย่างนั้นจึงบอกหญิงสาวคนเดียวที่จะทำให้บอสของเขาอารมณ์เย็นลงได้

         "ค่าๆ" ตอบจบก็ลุกไปหาเจ้าตัวปัญหาเมื่อกี้ทันที


         แอ๊ด


         เมื่อมีเสียงประตูเกิดขึ้น เจ้าของห้องก็หันมาพร้อมดวงตาสีแดงเลือดอย่างฉุนเฉียว ใบหน้าไร้การปกปิดเพราะมือที่ใช้ปิดหน้าโดนโยนไปอีกฝั่งของห้องเรียบร้อย แต่ถึงจะทำอย่างนั้นไป สาวเจ้าของผมสีดำปลายผมสีขาวก็ไม่ได้หวั่นเกรงแม้แต่อย่างใด ทั้งยังเดินนวยนาดเข้ามายืนต่อหน้าเขาที่นั่งอยู่บนเตียงอย่างเงียบเชียบ สายตาคู่หนึ่งสีทองคู่หนึ่งสีแดงสบกัน ยกมือข้างขวาขึ้นมาแล้ววางลงบนเส้นผมสีเทาของชิงารากิพร้อมทั้งลูบมันไปมาอย่างที่ทำประจำเวลาเขาอารมณ์เสีย แต่มีอย่างเดียวที่แตกต่างออกไป


         ปึก!


         ทั้งๆที่ปกติเขาจะเอนหัวมาพิงหน้าท้องแบนราบของเธอ แต่คราวนี้เขากลับปัดมือเธอออกอย่างแรงจนเธอรู้สึกเจ็บขึ้นมาหน่อยๆ 

         พอเห็นปฏิกิริยาที่ผิดแปลกไปของเขา เธอจึงกลับมาสบตาสีแดงนั้นอย่างไม่เชื่อตาตัวเอง แต่สายตาที่ได้กลับมาดันเป็นสายตาโกรธเกรี้ยว


         อา.. นี่เราทำโทมูระโกรธแล้วงั้นสินะ 


         "ฉันจะส่งเธอไปทำภารกิจ ฉันบอกคุโรกิริแล้ว ไปถามหมอนั่นเอา" เขาพูดออกมาทั้งที่เขาหลบสายตาเธอไปมองมืออันสั่นเทาของตัวเอง 

         "ได้สิ" เธอตอบพร้อมทั้งยื่นมือไปหามือของเขา แต่สิ่งที่ได้กลับมาเป็น..

         "อย่ามาแตะฉัน!!!!!" เสียงตวาดแหบแห้งเสียงดังจนคิดว่าคนด้านหน้าร้านต้องได้ยินแน่ๆ ดวงตาของซาคาอิสั่นเทาด้วยความตกใจกระทันหัน ปีกของเธอสั่นด้วยความกลัวเบาๆ เขาไม่เคยเป็นแบบนี้ ปกติจะให้จับได้ตลอด จนเธอสงสัยว่าเขาไปเจออะไรมา

         "นายคงไปเจอเรื่องแย่ๆมาสินะ ไม่เป็นไร งั้นฉันไปทำภารกิจล่ะ" ฉับน้ำเสียงของเธอก็เปลี่ยนไปเป็นเย็นชาจนเขาใจวูบจึงเงยหน้ามามองเธอ ทะว่ามันไม่ทัน เธอได้เดินออกไปจากห้องของเขาพร้อมทั้งปิดประตูให้เบาๆ หายไปราวกับไม่มีตัวตน 








         จนเขาไม่รู้สึกตัวเลยว่านั่นอาจจะเป็นครั้งสุดท้ายที่เขาเห็นเธอ...








    2 อาทิตย์ถัดมา..


         "ทำไมเธอยังไม่กลับมา!!!!!" เสียงดังลั่นร้านอีกครั้งคล้ายเมื่อไม่กี่อาทิตย์ก่อน แต่ครั้งนี้เป็นความรู้สึกที่แตกต่างกัน ครั้งนี้เป็นความกระวนกระวายและโกรธเกรี้ยวไปพร้อมกัน เสียงดังจนคนนั่งอยู่บนเคาน์เตอร์บาร์ต่างพากันสะดุ้ง

         "ก็คุณส่งเธอไปทำภารกิจไม่ใช่หรอครับ ชิงารากิ โทมูระ" คุโรกิริตอบกลับอย่างหน่ายใจอีกครา

         "มันไม่สมควรจะนานขนาดนี้!!!!" เสียงทุ้มฟังดูแหบแห้งกว่าเดิม 

         "น่าๆบอส เดี๋ยวเธอก็กลับมาเองแหละ ทีกับทไวซ์ไม่เห็นแหกปากถามหาอย่างนี้เลยล่ะค้า~ หมอนั่นหายไปเกือบ 4 อาทิตย์ แล้วน้า " โทกะ เอ่ยบอกอย่างเริงร่าพร้อมเอ่ยแซวเบาๆ

         "เจ้าพวกไร้ประโยชน์!!!" เอ่ยด่าเสร็จก็เดินปึงปังกลับเข้าห้องตัวเอง

         "อารมณ์เสียอีกแล้วนะ แต่เราจะไม่บอกเขาจริงๆหรอ?" มิสเตอร์คอมพาสเอ่ยถามดาบิที่นั่งข้างๆกันอย่างขอความเห็น

         "ไม่ต้องหรอกน่า ก็ยัยนั่นบอกว่าไม่ให้บอกนี่ เดี๋ยวเธอก็กลับมาแล้ว" ดาบิตอบอย่างไม่ใส่ใจ เพราะยังไงเขาก็รู้อยู่แล้วว่าเธอหายไปทำอะไรนอกจากภารกิจที่ได้รับมา




    อีก 1 อาทิตย์ต่อมา.. 00.47 น.


        แอ๊ด..     

     
         เสียงประตูเก่าๆถูกเปิดขึ้นมาแผ่วเบาราวกับว่าไม่ต้องการให้เจ้าของห้องได้ยิน แต่ถึงจะทำอย่างนั้นไป เจ้าของห้องก็ยังไม่กลับมา 

         ชิงารากิยืนมองห้องขนาดเท่าห้องของเขาอย่างเหม่อลอย ร่างกายคล้ายไร้เรี่ยวแรง ยัยนั่นยังไม่กลับมาอีกหรอ.. เขาคิดกับตัวเองพลางเดินเข้าไปที่เตียงแล้วปล่อยตัวให้หล่นลงบนหมอนนุ่มดัง ตุบ! นอนแน่นิ่สักพักจึงขดตัวเข้าหาผ้าห่ม เอาใบหน้าซุกลงไป กอดไว้ที่อกราวกับเด็กหวงของเล่น มือสวมถุงมืออย่างหนาแต่ไร้คุณภาพกันสิ่งของสลายไว้ทั้งห้านิ้ว สูดกลิ่นกายประตัวของเธอเข้าไปเต็มปอด


         กลับมาเถอะนะ..  พลันน้ำตาที่ไม่มีใครเคยคิดว่ามันจะไหลออกมาจากดวงตาแข็งกร้าวคู่นั้นร่วงเผาะ ยิ่งปิดตาแน่นยิ่งไหลออกมาราวกับน้ำตก ร้องไห้อย่างไร้เสียงไปนานเท่าไหร่ตัวเขาเองก็ไม่รู้ รู้ตัวอีกทีทุกอย่างก็ตกอยู่ในความมืดไปแล้ว












       03.54 น.


         เสียงฝีเท้าของร่างบางเดินมาตามทางโถงทางเดินเล็กๆด้วยความเหนื่อยล้า หวังจะไปทักทายสมาชิกคนอื่นในตอนเช้า เนื่องจากตอนนี้เธอก็เหนื่อยจนไม่รู้จะเหนื่อยยังไง ดันพลัดหลงไปนู่นไปนี่จนกลับมาช้ากว่าที่กำหนด แค่กะจะไปหาซื้อของนิดๆหน่อยๆมาให้คนที่อารมณ์เสียใส่ก็ดันล่วงเลยไปหลายอาทิตย์ ดีแค่ไหนที่เธอไม่เจอพวกฮีโร่นั่นน่ะ

         "หืม ทำไมประตูเปิดอยู่ล่ะ?" เอ่ยถามกับตัวเองเสียงเบา สายตาสีทองจ้องมองประตูห้องตัวเองที่ถูกเปิดแง้มไว้ พร้อมเอามือแตะที่ประตูเบาๆเพื่อสอดส่องข้างในอย่างสงสัยว่าจะมีศัตรูอยู่หรือไม่





         
         "โทมูระ?" เสียงหวานติดห้าวดังขึ้นแผ่วเบา แต่กลับปลุกเจ้าห้องผมสีเทาให้ตื่นขึ้นและหันมาหาเธออย่างรวดเร็ว จนเจ้าของเสียงยังผงะกับท่าทีแบบนั้น

         "ทำไมมานอนที่นี่ล่ะ? แล้วนี่ทำไมขอบตาแดงขนาดนี้" ก้าวเท้าเข้ามาหาเขาพร้อมถามไถ่อย่างห่วงใย ราวกับว่าเจ้าตัวไม่รู้ว่าเป็นต้นเหตุที่ทำให้เขามาอยู่ห้องเธอ 

         "มาช้า!!!" เพราะอารมณ์ที่พรั่งพรูสูงขี้นมาเลยเผลอตะโกนใส่เธออีกครั้ง แต่ก็เบากว่าครั้งก่อนๆเพราะพึ่งตื่นนอน แต่ไม่ทันให้ซาคาอิได้โต้กลับ นัยน์ตาของเธอสะท้อนภาพชายหนุ่มกำลังก้มหน้าตัวสั่นเทา เห็นเพียงน้ำตาหลายสายหบดลงตามโครงหน้า มือที่สวมถุงมือทั้งสองข้างกำแน่นที่ผ้าห่มจนยับยู่ยี่

         "ฮีก.. ย ยัยบ้า.." เสียงสั่นแหบแห้งจนแทบฟังไม่เข้าใจ ฉับพลันสัมผัสได้ถึงปีกสีขาวนวลและแขนทั้งสองข้างของเธอโอบตัวเขาเอาไว้ มอบความอบอุ่นที่เขาโหยหามานานนับสัปดาห์ น้ำตายิ่งพรั่งพรูพร้อมกับเสียงสะอื้นที่ดังมากกว่าเดิม แขนแกร่งโอบล้อมร่างบางกลับอย่างแน่นราวกับเป็นประโยคบอกว่า เขาจะไม่ปล่อยให้เธอคลาดสายตาอีก

         "โอ๋เอ๋นะคะคนดี.. ขอโทษที่หายไปนานนะ" เสียงปลอบประโลมดังขึ้นข้างหูของเขา จนหัวใจเด้นแรงมากกว่าเดิมอย่างช่วยไม่ได้ ฝ่ามือหนาภายใต้ถุงมือยิ่งกระชับให้แน่นขึ้นไปอีก เมื่อตั้งสติได้เขาจึงเอ่ยถามอีกฝ่าย

         "หายไปไหนมา.." เอ่ยถามด้วยเสียงแหบอย่างแผ่วเบา พร้อมคลายอ้อมกอดแต่ก็ยังคงกำเสื้ออีกฝ่ายไว้

         "ไปหาซื้อของขวัญมาให้คนแถวนี้ กะจะให้พรุ่งนี้นะเนี่ย แต่เห็นอย่างงี้คงเก็บไว้ไม่ได้ละ" เธอเอ่ยตอบเขาด้วยรอยยิ้มจนตาหยี ปีกของเธอพลันกระพืออย่างตื่นเต้นเบาๆ พลางหยิบกล่องของขวัญสีฟ้าออกจากกระเป๋าสะพายแล้วยื่นให้เขา

         ".... นี่มันอะไร" เปิดกล่องพลางมองของข้างในที่ยับจนดูไม่ออกว่าคืออะไร ยัยเบ๊อะนี่..

         "เอ่อ.. นี่ไง ถุงมือนิ้วเดียว อัตลักษณ์นายจะสลายสิ่งที่จับตอนนิ้วครบ 5 นิ้วใช่ไหม ฉันเลยไปหาอันที่ปิดแค่นิ้วกลางแถมทนมากๆด้วย เราจะได้สัมผัสกันอย่างที่นายต้องการได้" เธอชูถุงมือทั้งสองข้างขึ้นมา พร้อมพยักพเยิดใบหน้าให้เขาเอาไปใส่

         "......" เมื่อเขาสวมใส่ถุงมือครบทั้งสองข้างเรียบร้อย เขาก็จ้องมองมืออย่างสนใจ พลันยื่นมือเข้าประคองใบหน้าข้างซ้ายของเธอด้วยทั้งฝ่ามืออย่างแผ่วเบา ซาคาอิที่เห็นอย่างนั้นจึงยิ้มออกมาและสอดประสานมือขวาของเธอเข้ากับมือของเขา

         สองใบหน้าเอนเขาหากันจนริมฝีปากอ่อนนุ่มสัมผัสกับความสากบนปากของอีกฝ่าย


         สงสัยต้องทาลิบมันให้บ่อยๆซะแล้ว เธอคิดกับตัวเองอย่างขบขัน สองร่างขยับเข้าหากัน กอดกันแน่นอย่างหวงแหนท่ามกลางแสงจันทร์ที่ลอดผ่านทางหน้าต่าง ปีกสีขาวนวลของร่างบางยิ่งสว่างราวกับเรืองแสงคล้ายนางฟ้าอย่างไงอย่างงั้น






         "ฉันรักเธอ ซาคาอิ" เสียงทุ้มแห่งเอ่ยออกมาซ้ำแล้วซ้ำเล่า ราวกับขอบคุณชะตาที่ทำให้เขาและเธอมาเจอกัน

         "ฉันก็รักนาย เด็กโง่" เอ่ยพร้อมรอยยิ้มและจุมพิตบนหน้าผากอีกฝ่ายอย่างรักใคร่..









    The End



    Talk With Writer :
    เขียนหนึ่งเรื่องภายในวันเดียวเหนื่อยมากเลยค่ะ ฮา ปวดหลังปวดไหล่ไปหมด 
    เรื่องนี้เปิดด้วยพ่อหนุ่มตัวร้ายล่ะค่ะ! แอบหงุดหงิดตอนพิมพ์เพราะมันขัดแปลกๆ แต่ก็ทำจนสำเร็จค่ะ เย่! 
    ผิดพลาดยังไงก็ขออภัยไว้ ณ ที่นี้นะคะ สามารถติชมกันได้เลยค้าบ 
    วันนี้มาแค่นี้ละกัน มาอีกทีน่าจะอาทิตย์หน้านะคะ อาทิตย์นี้ล่อไปสองแล้ว (#°Д°)
    ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านมากๆ ฝากให้กำลังใจกันด้วยนะคะ  (๐॔˃̶ᗜ˂̶๐॓)
    TB
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×