ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ☀ ภูตะวัน Love of sunshine ☀

    ลำดับตอนที่ #2 : แดดส่องครั้งที่ 1 ☀อาการตกหลุมรัก☀

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 25
      5
      25 ก.ค. 63

    ☀แดดส่องครั้งที่ 1☀

    ☀อาการตกหลุมรัก☀

    2years later

    “ตะวัน! ตะวัน!! ตะวันโว้ย!!! รอกูด้วยสิว่ะ” เสียงของไอเดือนเรียกให้ผมต้องหยุดรอมัน

    “…”

    “มึงจะรีบไปไหนของมึงวะ”

    “นี่มึงไม่ได้ดูเวลาเลยหรือไงห้ะ นี่มันจะ 8 โมงอยู่แล้วโว้ย!!” คำเตือนของผมทำให้ไอเดือนต้องก้มลงมองนาฬิกาที่ข้อมือทันที

    “เออว่ะ! ไปสิวะ จะรอให้พ่อมึงมาเชิญไปเข้าแถวหรอ” อ้าว ไอนี่ มันเป็นคนเรียกให้ผมหยุดรอมันแท้ๆ

    “เอ้า! รอกูด้วยสิวะไอเดือน” ดูมันสิครับวิ่งไปไม่รอผมเลย ผมละเหนื่อยใจกับไอเพื่อนคนนี้ซะเหลือเกิน แต่จะทำไงได้ละครับ มันเป็นเพื่อนคนเดียวที่ผมมีอยู่นี่นา

     

     

     

     

     

    ☀☀☀☀☀

     

     

     

     

    กริ่ง!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!! 15.30 น.

    “อ้าว กริ่งแล้ว นักเรียนอย่าลืมทำการบ้านมาส่งครูคาบหน้าด้วยนะคะ ยังไงก็รีบๆกลับบ้านกันนะนักเรียน ฝนใกล้จะตกแล้ว ช่วงนี้เข้าหน้าฝนแล้ว พรุ่งนี้อย่าลืมพกร่มมาด้วยละเดี๋ยวโดนฝนแล้วจะไม่สบายเอาได้”เสียงครูสอนคณิตศาสตร์เอ่ยขึ้นเมื่อจบคาบเรียนของวันนี้

    “นักเรียนทำความเคารพ” เสียงของหัวหน้าห้องกล่าวขึ้น เมื่อครูพูดจบ

    “ขอบคุณครับ/ขอบคุณค่ะ” แล้วก็ตามด้วยเสียงทำความเคารพของนักเรียนทั้งห้อง

    เมื่อครูเดินออกไปแล้ว ผมได้แต่นั่งเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่างด้วยความคิดหลายๆอย่างในหัว เพราะช่วงนี้เป็นช่วง ม.6 เทอม 2 ของผมแล้ว อีกไม่กี่เดือนพวกผมก็ต้องไปสอบเพื่อนำคะแนนมายื่นเข้ามหาวิทยาลัยต่างๆ นี่จึงเป็นเรื่องสำคัญที่ทำให้ผมต้องมานั่งเหม่ออยู่อย่างนี้แต่อีกเรื่องที่สำคัญไม่แพ้กันก็คงจะหนีไม่พ้นเรื่องของพี่ฟ้าเมื่อ 2 ปีก่อนละมั้ง เรื่องที่ทำให้ผมได้เจอกับพี่ฟ้ารักครั้งแรกของผม.....

     

     

     

    ☀☀☀☀☀

     

     

     

    2 years ago

    กริ่ง!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!! 15.30 น.

    เสียงกริ่งบอกเวลาเลิกเรียนของโรงเรียนเอกชนชื่อดังแห่งหนึ่ง

    “เลิกเรียนได้” เสียงของคุณครูสอนฟิสิกส์เอ่ยขึ้นเมื่อหมดเวลาเรียนของคาบนี้

    “นักเรียนทำความเคารพ”

    “ขอบคุณครับ/ขอบคุณค่ะ”

    เฮ้อ ฝนตกอีกแล้ว แล้วผมจะกลับบ้านยังไงละทีนี้ ก็ผมดันลืมเอาร่มมาด้วยนี่นา แถมไอเดือนเพื่อนสนิทคนเดียวของผมก็ดันมาลาป่วยวันนี้อีก ซวยจริ๊งจริงเลย ตะวันเอ้ยย ผมคงทำได้แค่รอให้ฝนหยุดตกก่อนละน้า

     

     

     

    ใต้อาคารเรียนเวลาไม่มีคนอยู่ นี่น่าวังเวงเหมือนกันเนาะ แถมฝนยังตกแบบไม่มีทีท่าว่าจะหยุดอีก แต่ก็ยังดีอ่ะนะ ที่ยังพอมีรุ่นพี่กลุ่มหนึ่งหลบฝนอยู่ที่ใต้อาคารนี้เหมือนกัน เวลาผ่านไปจนใกล้จะค่ำรุ่นพี่ที่เคยยืนอยู่ใต้อาคารแห่งนี้ก็เริ่มทยอยกันกลับบ้านกันไปจนเกือบหมดแล้ว แต่ก็ยังเหลือรุ่นพี่อยู่คนหนึ่งที่ยังไม่ยอมกลับสักที ฝนก็ยังไม่หยุดตกแถมยังยังตกแรงขึ้นเรื่อยๆ ด้วยความที่ผมกลัวที่บ้านจะเป็นห่วงผมจึงตัดสินใจจะวิ่งฝ่าสายฝนออกไปโบกรถที่หน้าโรงเรียนเพื่อกลับบ้าน อย่างน้อยก็ยังดีกว่า ยืนรอให้ฝนหยุดตกอยู่แบบนี้ ขืนยืนรออยู่ตรงนี้ผมคงจะไม่ได้กลับบ้าน เมื่อผมตัดสินใจจะก้าวขาออกไปจากตัวอาคาร ก็มีมือปริศนามือหนึ่งมาคว้าข้อมือผมไว้แน่น ผมหันกลับไปมองเจ้าของมือปริศนานั่น ก็พบว่าเป็นรุ่นพี่คนนั้น ที่ยืนอยู่อีกฟากหนึ่งของอาคารเมื่อรุ่นพี่เขาเข้ามาใกล้ขนาดนี้มันทำให้ผมได้เห็นหน้ารุ่นพี่คนนี้ชัดขึ้น ส่วนสูงที่ไม่ต่ำกว่า 185 เซนติเมตรแน่นอน ดวงตากลมโต จมูกโด่งเป็นสันสวยงาม ปากก็ไม่หนาไม่บาง กำลังพอดีเลย ไหนจะโครงหน้าดั่งสวรรค์ประทานนั่นอีกโอ้ย!! อิจฉาว่ะ

    ตึกตักตึกตัก ตึกตัก

    ไม่ต้องสงสัยครับเสียงหัวใจผมเอง

    “จะไปไหนละน้อง ฝนยังไม่หยุดตกเลยนะ” รุ่นพี่คนนั้นเอ่ยขึ้น

    “ผมจะกลับบ้านครับ”

    “จะกลับตอนนี้เนี่ยนะ ฝนยังตกหนักอยู่เลยน้อง วิ่งฝ่าฝนออกไปตอนนี้เดี๋ยวก็ไม่สบายหรอก” รุ่นพี่คนนั้นพูดด้วยสีหน้าที่ดูกังวลอยู่นิดหน่อย

    “ไม่เป็นไรหรอกครับพี่ ผมยอมป่วยดีกว่าปล่อยให้ที่บ้านเป็นห่วงมากไปกว่านี้ครับ” ผมตอบกลับไปด้วยสีหน้าจริงจัง

    “เฮ้ออ ยังไงก็จะวิ่งออกไปให้ได้เลยใช่ไหม”

    “ครับ”

    “งั้นเอานี่ไป” เขายื่นร่มสีดำคันใหญ่ออกมาให้ผม

    “ให้ผมทำไมครับ” ผมงงกับการกระทำของพี่เขา

    “ก็จะกลับบ้านไม่ใช่หรอ เอาไปสิ”

    “แต่มันเป็นของพี่นี่ครับ ถ้าพี่ให้ผมแล้วพี่จะใช้ร่มที่ไหนละ” พี่เขาบ้าไปแล้วหรือเปล่า อยู่ๆก็เอาร่มมาให้คนแปลกหน้าอย่างผม

    “รับไปเถอะ พี่มีเสื้อกันฝน” มันเป็นอย่างนี้นี่เอง

    “…” ผมกำลังลังเลว่าจะรับร่มนั้นมาดีไหม

    “เอาไปสิ เร็วรีบกลับบ้านไม่ใช่หรอเดี๋ยวฝนตกหนักกว่านี้ไม่มีรถกลับบ้านจะหาว่าพี่ไม่เตือนนะ” พี่เขาพูดเร่งผมอะ

    “ขอบคุณครับพี่...?” ผมรับร่มนั่นมา แล้วกำลังจะกล่าวขอบคุณ แต่ก็ต้องชะงักเพราะผมไม่รู้จักชื่อของพี่เขา

    “พี่ชื่อภูฟ้า อยู่ม.6ห้อง1 จะเรียกพี่ว่าพี่ภู หรือพี่ฟ้าก็ได้ แล้วแต่เราเลย”

    “ครับ ขอบคุณครับพี่ฟ้าไว้ผมจะรีบเอามาคืนนะครับ”

    “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรีบคืนก็ได้”

    “ไม่เอาดีกว่าครับ ผมเกรงใจ” ผมเกรงใจจริงๆนะ

    “เห้ย ไม่ต้องเกรงใจ ยังไงเราก็เป็นรุ่นน้องพี่อยู่แล้วมีอะไรที่พี่ช่วยได้พี่ก็จะช่วย”พี่ฟ้าพูดพร้อมเอื้อมมือมาขยี้หัวผมเบาๆ

     

    ตึกตัก ตึกตัก ตึกตัก

    ไอหัวใจบ้า จะมาเต้นแรงอะไรกับอีแค่พี่เขาขยี้หัววะ

    “….!” การกระทำนั้นจึงทำให้เกิดความเงียบขึ้นระหว่างเรา

    “เอ่อ ไปเถอะเราเดินระวังๆด้วยนะ เดี๋ยวลื่นล้มหัวแตกขึ้นมาพี่ไปช่วยไม่ทันนะ” พี่ฟ้าเป็นคนพูดขึ้นมาทำลายความเงียบที่มีตอนนี้

    “ครับ ผมเดินระวังอยู่แล้วครับ งั้นผมไปก่อนนะครับเดี๋ยวรถหมด” ผมกล่าวรับคำแล้วหันหลังเตรียมจะเดินออกจากอาคาร

     

     

    “เห้ยน้อง!!!!!!! เดี๋ยวก่อน!!!!” เสียงพี่ฟ้าตะโกนเรียกผมเสียงดัง ผมจึงชะงักเท้าที่เตรียมจะก้าวเดิน แล้วหันหน้าไปหาพี่ฟ้า

    “ครับ?”

    “น้องชื่ออะไร เผื่อเจอกันอีกจะได้ทักกันถูก” แค่ถามชื่อเนี่ยนะเรียกซะเสียงดัง ตกใจหมดเลย

    “ห้ะ!! ผมชื่อตะวันครับอยู่ม.4ห้อง2”ผมบอกออกไป

    “โอเค กลับบ้านดีๆนะน้องตะวัน”

    “ครับ ผมไปจริงๆแล้วนะ” พูดเสร็จผมจึงเดินออกมา

    “โอเค โอเค ไม่เรียกแล้วBye byeนะ น้องตะวันของพี่” ผมหันไปมอง ภาพพี่ฟ้ากำลังยืนโบกมือให้ผมอยู่ใต้ตึก ไอพี่บ้า แล้วผมไปเป็นของพี่เขาตั้งแต่เมื่อไรกัน

     

    ตึกตัก ตึกตัก ตึกตักมันทำให้ผมใจเต้นแรงอีกแล้ว ผมจึงรีบเดินเอามือกุมหน้าอกตัวเองแล้วรีบออกมาจากตรงนั้นทันทีไม่น่าเชื่อว่ารุ่นพี่คนนี้จะทำให้ผมใจเต้นแรงถึง 3 ครั้งตั้งแต่ครั้งแรกที่เราได้เจอกันหรือว่า..ผม จะตกหลุมรักรุ่นพี่คนนี้เข้าซะแล้ว!!...พี่ภูฟ้า

     

     

    -----------65%----------

                     

     

              หลังจากวันนั้น  พี่ฟ้าก็เริ่มเข้ามาอยู่ในสายตาผมเรื่อยมา  ไม่ว่าผมจะหันไปทางไหน  หรือทำกิจกรรมอะไรอยู่ก็ตาม  ผมมักจะมองเห็นพี่ฟ้าอยู่เสมอ  ผมว่าผมคงจะตกหลุมรักพี่ฟ้าแล้วจริงๆละ

    “ตะวัน มึงมองหาใครว่ะ?”  ไอเดือนมันถามผมขึ้น

    “เปล๊า ไม่ได้มองหาใคร”  ไม่ได้ ไม่ได้ ผมจะให้ไอเดือนมันรู้ได้ ถ้ามันรู้ละก็ มันล้อผมตายแน่ที่ชอบผู้ชาย

    “แหม!  เสียงสูงเชียวนะมึง”   มันหรี่ตามองผมอย่างจับผิด  จ้างให้ก็ไม่บอกหรอกโว้ย

    “บอกว่าเปล่า ก็เปล่าสิวะ”   ผมทำท่าทีโมโหใส่มัน

    “กูก็ไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อย ทำไมต้องทำเป็นโมโหใส่กูด้วย  หรือมึงมีอะไรปิดบังกูอยู่” 

     คราวนี้มันจ้องผมอย่างเอาจริงเอาจัง

    “...”   เอาละสิ  ผมโกหกไม่ค่อยเก่งสะด้วยสิ  อย่าหลุดนะตะวัน อย่าหลุดเชียวนะมึง

    “บอกกูมาเถ๊อะ!!  มึงโกหกกูไม่ได้หรอก  มึงก็รู้หนิว่ากูเป็นเพื่อนสนิทมึงนะ”   โดนจับได้จนได้สินะเรา

    “เออ  กูบอกก็ได้ แต่มึงต้องสัญญามาก่อนว่ามึงจะไม่ขำกู”   ไอนี่มันยิ่งไว้ใจไม่ค่อยได้อยู่ด้วยสิ

    “อะ อะ สัญญา”  มันทำท่ายิ้มกรุ่มกริ่ม แล้วมันก็ยื่นนิ้วก้อยออกมาทำสัญญาแบบเด็กประถมเขาทำกัน

    “คือเมื่อวันก่อนที่มึงไม่ได้มาโรงเรียนอะ......”   แล้วผมก็เล่าเรื่องทั้งหมดให้มันฟัง

    “ห๊ะ!! ไอตะวัน นั่นมันพี่ฟ้าเลยนะเว้ย” ไอเดือนพูดออกมาด้วยน้ำเสียงตกใจ

    “ก็เออนะสิ มันชอบไปแล้วมึงจะให้กูทำไงได้วะ” ผมพูดออกไปด้วยน้ำเสียงจริงจัง ก็คนมันชอบไปแล้วนี่หว่า 

    “แล้วมึงจะเอาไงต่อไปละ” 

    “กูคงจะชอบอยู่เงียบแบบนี้แหละว่ะ” เฮ้อ ก็พี่เขาโครตฮ็อตขนาดนั้น ผมจะไปสู้พวกผู้หญิงสวยๆอกตู้มๆได้ไงละ

    “มึงจะไม่ลองพยายามดูสักหน่อยหรอวะ” ไอเดือนถามผมด้วยสีหน้าที่บ่งบอกว่ามันต้องการจะให้ผมลองพยายามดู

    “มึงกูเป็นผู้ชายนะเว้ย เป็นเหมือนพี่เขา มีเหมือนพี่เขาทุกอย่าง พี่ฟ้าเขาคงไม่ชอบกูหรอกวะ”  พูดไปแล้วอยากฟังเพลงของ ด็อกเตอร์ฟูเลยวะ       พูดแล้วอยากจะร้องไห้

    “เออ กูแล้วแต่มึงแล้วกัน ถ้ามึงมีอะไรให้ช่วยก็บอกกูได้นะเว้ย ยังไงเราก็เพื่อนกัน” แหมไอเดือน มึงแม่งเป็นเพื่อนที่ดีมากๆเลยว่ะ

    .

    .

    .

    .

    .

    และนั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นของความรักของผมในครั้งนี้   หลังจากวันที่ผมได้บอกความในใจกับไอเดือนไป   วิถีชีวิตผมก็เปลี่ยนไป เมื่อมีเวลาว่างผมมักจะมองหาพี่ฟ้าอยู่เสมอๆ จนการมีฟ้าอยู่ในสายตามันกลายเป็นชีวิตประจำของผมไปแล้ว ผมมักจะแอบเอาขนมไปให้พี่ฟ้าโดยการวางไว้บนโต๊ะเรียน หรือบางครั้งผมก็ฝากรุ่นน้องเอาไปให้โดยไม่ให้บอกว่าผมเป็นคนให้ ผมทำอย่างนี้เป็นประจำ โดยสิ่งที่ผมทำให้พี่ฟ้านั้นผมไม่ได้ต้องการอะไรตอบแทนจากพี่ฟ้าเลยสักนิด  และผมก็ไม่ได้ต้องการให้พี่ฟ้ารู้ตัวด้วยว่าผมเป็นคนทำ เพราะผมกลัวว่าถ้าพี่ฟ้ารู้พี่เขาอาจจะไม่อยากรับก็ได้  ปล่อยให้มันเป็นแบบนี้นะดีแล้ว ให้ผมกับพี่ฟ้าเป็นแค่พี่น้องน่ะดีแล้ว

    .

    .

    .

              ผมทำอย่างนี้จนมาถึงวันที่พี่ฟ้าจะจบการศึกษา   ผมรวบรวมความกล้าทั้งหมดที่ผมมีเพื่อที่จะเดินออกไปบอกความในใจกับพี่ฟ้า แต่สุดท้ายแล้วผมก็ยังเป็นไอตะวันคนขี้ขลาดอยู่วันยังค่ำ  ผมกลัว กลัวว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่ผมทำมาทั้งหมดมันจะพังลง  ผมว่าบางทีความรักของผมครั้งนี้ผมเก็บไว้คนเดียวดีกว่าบอกออกไปแล้วมันพัง

    “โชคดีนะครับพี่ฟ้าของผม”

    ------------100%------------

     

     

     

    Continue…..

    ฝากพี่ภูกับน้อนตะวันด้วยนะคะ

    #ภูตะวัน☀

    ฝากติดตามและคอมเมนต์ติชมด้วยนะคะ

    ยังไม่ได้ตรวจคำผิดค่ะ

    Twitter : sroy_fahh

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×