ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ผ่ามิติทะลุแดนฝัน

    ลำดับตอนที่ #2 : Chapter2 : ของวิเศษ

    • อัปเดตล่าสุด 17 ก.ย. 47


    9.00 น. หน้า J.J (จตุจักร) ตลาดกลางแจ้งที่ขายของถูกที่สุดใน

    กรุงเทพมหานครอมรรัตนโกสินทร์  สถานที่ ที่ 4 สาวนัดมารวมตัวกัน  แต่อย่างที่รู้ๆกัน

    ว่า สาวจ้าต้องมาเลทอีกตามเคย และยังแต่งตัวสไตล์ทอมบอยเหมือนเดิม – เก๋, แป๋ม,

    ส้ม  ต่างนั่งรอยืนรอกันอย่างเบื่อหน่าย เพราะเวลาได้ล่วงเลยไป จนกระทั่ง 10.20 น.

    แล้ว สาวจ้ายังมาไม่ถึงเลยไม่รู้ว่าไปมุดหัวอยู่ที่ไหน  สงสัยจะตื่นสายอีกตามเคย – อ่ะ

    เดี๋ยวก่อน – นั่น – เมื่อซูมออกไปอีก 10 เมตร ก็เห็นสาวจ้ากำลังเดินฝ่าฝูงชนออกมา

    ด้วยท่าทางอันเหน็ดเหนื่อย – ใกล้เข้ามา – ใกล้เข้ามา  จนหยุดอยู่ตรงหน้า 3 สาวที่ยืน

    ทำหน้าบอกบุญไม่รับ




    “โทษที ที่มาสายหลงทางนิดหน่อย.... หลงไปมีนฯโน่นแน่ะ” สาวจ้าที่วันนี้แต่ง

    ตัวเป็นหนุ่มมาดเท่ห์ หันไปขอโทษขอโพยกับเพื่อนๆ พลางแก้ตัวเสร็จสรรพ



    “เออ! ม่ายเป็นไร รีบไปเถอะเสียเวลา”   สาวเก๋บอกเสียงดุพลางฉุดข้อมือเพื่อน

    เดินลิ่วออกไป



    เมื่อบรรดา 4 สาวพากันเดินออนทัวร์รอบ J.J จนได้หนังสือที่ต้องการเรียบร้อย

    แล้ว ก็พากันโยกย้ายตัวเองเข้าไปเปิบส้มตำกันที่ร้าน ‘ฝุ่นตลบ’กันอย่างออกรสชาติ-พูด

    ไปคุยไปจนหายเหนื่อยแล้วจึงออกมาเดินกินลมชมวิวกันต่อ อย่างสำราญใจที่สามารถทำ

    ภารกิจหลักโดยสำเร็จลุล่วง (ก็หนังสือนิตยสารไง)



    “นี่! เดี๋ยวก่อนขอดูของร้านนี้หน่อย” สาวจ้าพูดโพล่งออกมา และฉุดเพื่อนๆไป ‘ร้านนี้’ ของเธอ



    ‘ร้านนี้’ เป็นชื่อของร้านขายของเก่าแห่งหนึ่งในซอกหลืบเล็กๆ ภายในตลาดนัด

    จตุจักรอันใหญ่โต มันเล็กพอที่จะมองหาไม่เจอในทันทีถ้าไม่สังเกตให้ดีๆว่าร้านอยู่ตรง

    ตำแหน่งไหน – ภายในร้านเล็กๆแห่งนั้น สินค้าทุกชิ้นวางอยู่บนผ้าเก่าๆที่ไม่ผิดกับ

    ผ้าขี้ริ้วจนดูไม่ออกเหมือนกันว่ามันถูกใช้มานานแค่ไหนแล้ว ซึ่งผิดกับสภาพของสินค้า

    ที่ยังดูใหม่เอี่ยมเหมือนเพิ่งส่งออกมาจากโรงงานก็ไม่ปาน



    ‘จ้า’ สาวต้นเหตุที่ฉุดเพื่อนๆเข้ามายืนเบียดกันในร้านเล็กๆแห่งนี้ จนทำให้พื้นที่

    ที่มีอยู่อย่างน้อยนิดดูคับแคบหนักเข้าไปกว่าเดิมเป็น 10 เท่านั้น กำลังสนใจสินค้าที่อยู่

    ภายในกล่องไม้ที่แกะสลักด้วยลวดลายแปลกๆ - ก้นกล่องบุด้วยผ้ากำมะหยี่สีน้ำเงินสด

    แต่สิ่งที่เธอกำลังสนใจอยู่คือสิ่งที่อยู่ในกล่อง ซึ่งก็คือหนังสือเล่มขนาดพ็อกเก็ตบุ๊คหุ้ม

    ปกอย่างดีเล่มหนึ่ง ด้านหน้าปกเคลือบทองสลักลายประดับด้วยอัญมณีหลากชนิดดูสวย

    งามมากด้วยคุณค่า ส่วนข้างๆมีจี้ห้อยคอแปลกๆขนาดเล็กกว่าฝ่ามือหน่อยนึง เป็นรูป

    พระอาทิตย์และพระจันทร์ซ้อนกันประดับด้วยอัญมณี มีรัศมี 12 แฉก ที่มีเลขไทยสลักไว้

    คล้ายกับนาฬิกา  ซึ่งเหมือนกับภาพบนหน้าปกหนังสือ – เธอเองก็ไม่คิดไว้หรอกนะว่า

    ทุกอย่างที่เธอเห็นจะเป็นของจริงไปได้ – ดูจากสภาพร้านสิ ทั้งเก่าและโทรม



    “พี่คะ...นี่หนังสืออะไรคะ?” จ้าถามคนขายอย่างอยากรู้อยากเห็น ส่วนมือก็ยัง

    ลูบๆ คลำๆหนังสืออยู่ไม่ได้ห่าง จนเพื่อนๆต้องดุให้เลิกจับซักที เพราะกลัวว่าของจะเสีย

    หาย



    “ตำราสุริยจันทรกาล ใช้สำหรับเดินทางไปยังสถานที่ไปไม่ถึงน่ะ ตำราเค้าบอก

    ว่าอย่างนั้นนะ พี่ก็ไม่ค่อยรู้รายละเอียดนักอยากรู้ก็ลองซื้อไปอ่านสิน้อง!” คนขายวัยชรา

    ตอบอย่างอารมณ์ดี   พลางบ้าจี้เรียกน้องกลับไป (ก็ดันไปเรียกเขาว่าพี่ก่อนนี่นา)



    “แล้วมันเท่าไหร่ล่ะคะ” ถามอย่างสนใจ  



    “2,500 ...ไม่ขาย เราขายเพียง 1,500 เท่านั้น แต่ถ้าน้องจะเอา พี่ลดให้ราคาพิเศษ

    เลย 300 บาทขาดตัวเอามั้ยน้อง สำหรับน้องพี่ลดให้แบบยอมขาดทุนเลย” คนขายหันมา

    พูดด้วยท่าทางของเซลขายสินค้าตามรายการโทรทัศน์ พลางพูดตบท้ายด้วยน้ำเสียงใจดี

    แบบสุดๆ



    “เอาสิคะพี่...นี่ค่ะ...ไม่ต้องทอน” รีบควักกระเป๋าจ่ายทันทีอย่างกลัวคนขาย

    เปลี่ยนใจ เพื่อนๆต่างมองกันตาค้างที่เห็นคนขายใจป้ำ + คุณนายงกยอมควักสตางค์ออก

    มาซื้อง่ายๆ



    เมื่อคนขายห่อของส่งให้แล้ว ก็แอบหย่อนกล่องของแถมขนาดกลางใส่ลงไปใน

    ถุง พลางพูดพอให้ได้ยินว่า “นาฬิกาเฟริสรุ่น Gz 320 L ( อ่านว่า เฟ-ริส ) ส่งตรง

    จากโรงงานลองเอาไปใช้ดูนะน้อง... แล้วอย่าลืมมาอุดหนุนใหม่นะ” แกแอบขยิบตาให้

    หน่อยนึงแล้วยิ้มอย่างใจดี – สาวจ้าจึงยกมือไหว้แสดงความขอบคุณไปทีนึง แล้วยกโขยงกัน

    ออกจากร้านไป



    “เฮ้ย! จ้า  ฉันว่าอีตาลุงคนขายต้องชอบแกแน่เลยว่ะ ฉันเห็นลุงแกแอบขยิบตา

    ให้แกด้วยว่ะ” แป๋มหันมาพูดด้วยสีหน้าไม่ค่อยจะดี



    “เฮ้ย! เราก็เห็นว่ะ แล้วส้มล่ะเห็นปะ” เก๋พูดขึ้นบ้าง แล้วหันมาถามส้ม



    “เต็มสองตาเลย... จ้า เธอนี่เดี๋ยวนี้เอาใหญ่แล้วนะ ไม่ไหวๆ” ส้มหันมาแซว



    “ไร้สาระน่า ลุงแกแค่เอ็นดูหรอก... อย่าเลย... อย่าแม้แต่จะคิด” จ้า  เอ่ยปฏิเสธ



    “แล้วแกไปเรียกลุงว่าพี่ทำไมวะ แกแก่แล้วนะเว้ยคนละรุ่นกัน จะเรียกก็ให้มันรู้มั่งสิ”

    เก๋เอ่ยอย่างต่อว่า ในสิ่งที่ค้างคาใจเมื่อไม่นานมานี้



    “เออน่า แค่เรียกตามมารยาทแค่นั้นแหละ อย่าซีเรียสสิวะ” จ้า พูดตอบเพื่อนไป

    แล้วทั้งหมดก็พากันแยกย้ายกลับบ้าน กลับช่อง กลับหลุม กันตามสะดวก ต่างคน

    ก็ต่างหอบหิ้วของที่ได้ไปช้อปกันมาวันนี้  กันอย่างพะรุงพะรัง



                                    

                                         โปรดติดตามตอนต่อไป
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×