ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รวมนิยายเรื่องสั้น ตามใจผู้เขียน

    ลำดับตอนที่ #2 : ตอนที่ 1 : {Katekyo Hitman Reborn:1827} 02:รอยรัก

    • อัปเดตล่าสุด 29 มี.ค. 60


    ในเมื่อหนีไม่ได้ก็จงมีความสุขกับมันสะ

     

    “อ่าส์..แรงกว่านี้”ให้มันทรมาณกว่านี้ให้มันเจ็บซ้ำกว่านี้ มือเล็กเพียวบางบีบเข้าที่กล้ามแขนล้ำสั้น ทั้งๆที่เป็นผู้ชายด้วยกันแท้ๆแต่เขากลับไม่มีเหมือนหมอนี้

     

    “ร่างกายคุณจะไม่ไหวน่ะ สึนะ”ตอนนี้เขาชักเป็นห่วงร่างกายเล็กนี้แล้วสิ

     

    “ชั่งมัน..ทำต่อไป”ในเมื่อหนีไม่ได้ก็ไม่หนี จะวิ่งเข้าหาจนอีกฝ่ายเบื่อและรำคาญเขาในที่สุด ทนเขาไม่ได้

     

    และชายหนุ่มก็ทำตามความเอาแต่ใจของร่างเล็กจนมาถึงที่สุด จนมาถึงโค้งสุดท้ายทุกอย่างก็เงียบ ร่างหนาทับร่างที่เล็กกว่าก่อนที่คนตัวเล็กจะบ่นเสียงอูอี้อยู่ในลำคอแต่นั้นเขาก็ไม่ฟัง แขนเล็กผลั่กอีกฝ่ายให้นอนลงก่อนจะขึ้นทับเขา

     

    “เดี่ยวคุณไหวเหรอ”

     

    “ไหว”คำพูดและท่าทางไม่ช่างสวนทางกันจริงๆ ฮิบาริดึงอีกคนที่ทำท่าฝืนตัวเองนั้นกอดไว้ก่อนจะลูบหัวอีกฝ่ายที่ขัดขืน

     

    “ถ้าไม่ไหวก็พอเถอะครับคุณไม่จำเป็นต้องฝืนตัวเองก็ได้”กอดรัดร่างกายเล็กไว้เพื่อไม่ให้อีกคนขัดขืนเขาไปมากกว่านี้

     

    “ช่างฉันสิ มันร่างกายของฉันไม่เกี่ยวกับนาย”แม้ปากจะพูดแบบนั้นแต่น้ำตาก็ไหลออกมาเจ็บใจที่ไม่สามารถทำตัวให้เข้มแข้งได้แถมยังเป็นโรคที่น่าสะอึดสะเอียดอีกด้วยทำไมเขาถึงมีร่างกายแบบนี้ร่างกายอ่อนแอพันนี้

     

    “ทำไมคุณถึงทำมันละครับทำไมคุณไม่ขัดขืน ทั้งๆที่แววตาของคุณยังดูรังเกียจผม”คำถามนั้นทำให้อีกฝ่ายตวัดสายตามอง ยังมีหน้ามาถาม

     

    “ถ้าฉันทำ นายคิดว่านายจะยอม คำตอบคือไม่มีทาง ในเมื่อฉันหนีไม่ได้ฉันก็ต้องมีความสุขกับมันแม้มันจะต้องทำให้ฉันตกต่ำก็ตาม”คำด่าที่ทำให้เขาเจ็บถึงทรวง เขาไม่ได้โง่นะที่ไม่รู้ว่าอีกคนด่าเขาว่าเขาเป็นสิ่งต่ำช้าเลวทรามขนาดไหนถ้าอยากให้เขาเลวเขาก็เลวให้ดู

     

    “ดูว่าความใจดีของผมมันคงไม่มีความหมายกับไอ้ความใจแคบของคุณนะสึนะ งั้นดีถ้ามันไม่มีผลต่อคุณ คุณก็ต้องทนกับความต่ำของผมต่อไป มีความสุขกับมันให้มากๆน่าสึนะ คุณจะได้ไม่ทุกข์ใจ”สิ้นประโยค ทุกอย่างก็ทวีคุณโหมใส่อย่างกับจะทรมาณให้ตายอย่างที่ลั่นวาจาไว้ แต่ก็ไม่ทำ ทำให้อีกฝ่ายเจ็บทั้งการกระทำและคำพูดโดยไม่รู้ตัวเลยว่ามีบางอย่างก่อเกิดขึ้นภายในตัวของอีกคน

    .

    .

    ดวงตาสีน้ำตาลหวานที่อยู่หลังม่านตาสีขาวนวล นั้นค่อยๆเปิดออกก่อนจะพบกับความมืดที่ปกคลุมไปกับกาลเวลา ดวงตาสีน้ำตาลมองไปที่พื้นที่ข้างๆตัวเองที่ผ้าปูที่นอนมันยับยู้ยี้สิ่งนั้นบ่งบอกได้อย่างดีเลยว่ามีคนเคยนอนอยู่ข้างๆเสื้อผ้าหน้าผมที่มีคนเปลี่ยนให้ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าใครจัดการให้ สัมผัสที่อุ่นๆ ที่สัมผัสเมื่อคืนยังหลงเหลืออยู่บนร่างกาย นั้นยิ่งทำให้หัวใจสั่นไหวเป็นอะไรไป อาการแบบนี้คืออะไร? รักเหรอ เหอะตลกแล้ว เขาไม่มีทางรักหมอนั้นเด็ดขาดไม่มีทางกับคนพันธ์นั้น ที่ทำร้ายย้ำยีศักดิ์ศรีเขา

     

    มืดแล้วสินะ นี้ยังไม่ได้ออกไปไหนเลยตั้งแต่คืนก่อน แค่คิดมาถึงตรงนี้อาการท้องร้องที่รักเจ้านายก็ร้องขึ้นเพื่อส่งเสียงเรียกร้องความสนใจ จนทำให้เขาต้องเคลื่อนย้ายร่างกายที่บอกช้ำมาทั้งคืนเพื่อหาอะไรรองท้องก่อนจะพบชามข้าวที่วางไว้ข้างเตียงที่ไม่บอกก็รู้ว่าใครเอามาให้ แล้วเอามาให้ใคร รอยยิ้มเล็กปรากฏบนใบหน้าหวานก่อนจะหุบยิ้ม เขายิ้ม ทำไม เป็นอีกหนึ่งคำถามที่หาคำตอบไม่ได้ดูเหมือนว่าช่วงนี้เขาจะเป็นเอามาก เกิดอาการเพ้อๆเผลอเป็นไม่ได้ ถ้าเผลอเมื่อไรก็จะคิดถึงค่ำคืนที่เร้าร้อนและตรึงใจจนทำให้ร่างกายร้อนพราว เพราะงั้นเขาจึงหาอะไรทำแก้เบื่อและอาการจิตไม่อยู่กับตัวโดยการค้นหาหนังสืออ่านหรือออกไปเดินเล่นรอบๆที่กักขังที่แสนจะสวยหรู และที่แน่นนอนเขาใช้เวลากับการอ่านหนังสือตลอดทั้งวันทั้งๆที่เขาไม่ชอบการอ่านหนังสือเท่าไหร่แต่นี้มันก็ดีพอที่จะทำให้เวลาที่แสนหน้าเบื่อผ่านพ้นให้เร็วที่สุดกว่าการเดินจนขาลากดินก็แล้วกัน

     

    ดวงตาสีสวยไล่อ่านหนังสือเพลินจนไม่รู้ตัวเลยว่าประตูที่ถูกปิดนั้นเปิดโดนใครบางคนที่เดาก็รู้ว่าเป็นเจ้าของห้อง แอบย่องเข้ามาเงียบๆเมื่อเห็นคนตัวเล็กนั่งอ่านหนังสืออยู่บนเตียงกว้าง ทำเสียงให้เบาที่สุดไม่อยากหลบกวนเวลาที่อีกฝ่ายสงบใจ แม้ร่างเล็กจะรู้สึกตัวแล้วชายตามองเขานิดหน่อยดวงตาสีสวยก็กลับมาไล่อ่านหนังสือเหมือไม่มีอะไรเกิดขึ้นก่อนที่เขาจะถอนหายใจและล้มลงนอนนุนตักเล็กที่เจ้าของตักตั้งหน้าตั้งตาอ่านหนังสือ

     

    “ถ้าคุณจะนอนก็นอนดีๆครับ”ถึงจะด่าคนตัวโตพันครั้งล้านครั้งแต่ด้วยความที่ถูกเลี้ยงมาอย่างคุณหนูมารยาทในการพูดจึงติดตัวมาด้วยแม้จะเคยตัวหยิ่งยโสหลายครั้งก็ตามที

     

    “ก็นอนดีๆแล้วนี้ครับ”คนพูดจากวนประสาทก็กวนต่อไปจนทำให้อีกฝ่ายมองคนกวนประสาทอย่างเอียมๆกับการกระทำของเขา

     

    “เอาหัวเข้าหมอนสิครับ หัวของคุณมันหนัก...ผมปวดขา”พูดไปก็ไม่ได้หวังอะไรกับคนตัวโตเลยสักนิดเพราะรู้ว่าอีกคนคงไม่ทำตามที่พูดแน่นๆ เป็นอย่างที่คาดชายหนุ่มไม่ทำตามเพียงแค่เอาใบหน้าซุกที่หน้าร้องราบแบนที่ตอนนี้ดูเหมือนว่ามันจะนูนขึ้นนิดๆ สงสัยกินแล้วก็นอนไม่ได้ออกกำลังกายเลยสินะถึงได้ดูอ้วนขึ้น

     

    “คุณดูอ้วนหรือเปล่าครับ หรือว่าจะมีลูกของเราอยู่ในนั้น”คำพูดของเขาทำให้อีกคนขนลุก

     

    “อย่ามาพูดจาเหลวไหลนะ......ตัวของคุณมันเหม็นไปอาบน้ำได้แล้วครับ”

     

    “เฮ้ยก็ได้ คุณนิไม่รับมุขเลยนะครับ”ชายหนุ่มยันการลุกขึ้นก่อนจะมองอีกคนที่ทำเป็นไม่สนใจเขาแล้วเข้าห้องน้ำไปชายหนุ่มออกมาจากห้องน้ำก็เห็นคนตัวเล็กหัวล้มกับหมอนไปเรียบร้อยแล้ว เมื่อเห็นอย่างงั้นก็สอดกายเข้าใต้ผ้าห่มผืนหนาแล้วเอื้อมมือไปปิดไฟที่หัวเตียง ก่อนจะเอื้อมมือไปฉุดอีกคนที่นอนหันข้างให้ใบหน้าคมชุกไซร์ไปตามลำคอขาวนวลที่มีรอยแดงเป็นจ้ำๆให้เห็น สึนะไม่พูดอะไรถึงห้ามไปก็ไม่มีประโยชน์แถมเปลื้องแรงตัวเอาเปล่าๆ

     

    “จะไม่ขัดขืนหน่อนเหรอหรือหลับไปแล้ว”ถามทั้งๆที่รู้คำตอบอยู่เต็มอกแท้ๆ

     

    “ไม่ละมันเหนื่อย จะทำอะไรก็ทำสิ”พูดพร้อมกับพลิกกายเข้าหาอีกฝ่าย มือเล็กลูบไล้แผ่นอกอย่างเชิญชวน

     

    หนีไม่ได้ก็ไม่ต้องหนี   ในเมื่อหนีไม่ได้ก็จงมีความสุขกับความทุกข์ที่ได้รับ ก่อนที่จะทำอะไรไปมากกว่านี้ เคียวยะก็จับมือบางไว้ก่อนจะรวบอีกคนเข้ามากอด

     

    “วันนี้งด อยู่แบบนี้ดีกว่าผมไม่อยากฝืนใจคนไม่เต็มใจ..โอ๊ย”คนตัวโตร้องเสียงหลงเมื่อมือเล็กหยิกเข้าไปที่หน้าอก

     

    “พึ่งจะมาสำนึกผิดเหรอครับ”

     

    “อืมนอนเถอะ ฉันง่วงแล้ว”ตัดบทพร้อมกับหลับตาลงก็แค่เหนื่อยไม่ใช่หรือไง ดวงสีน้ำตาหวานหลับตาลงก่อนจะลืมตาในเวลาต่อมา ร่างเล็กไม่สมผู้ชายวัยเดียวกันลุกขึ้นก่อนคนที่นอนกอดจะลืมตาขึ้น

     

    “เฮ้ย คุณจะไปไหนนะสึนะ...โอ๊ย”ร้องขึ้นก่อนจะตามไปแต่ก็โดนเสียงเล็กบอกให้หยุด

     

    “ไม่ต้องตามมาครับเดี่ยวผมไปข้างล่างแปปเดียวเดี่ยวก็มา”พูดทิ้งท้ายแค่นั้นก่อนจะลงไปข้างล่าง  คนถูกห้ามมองคนที่หายไปอย่างงง ก่อนอีกฝ่ายจะกลับมาพร้อมกับชามข้ามต้มกับแก้วน้ำและก็กล่องปฐมพยาบาล

     

    “เดี่ยวผมทำแผลให้แล้วค่อยทานข้าวต้มกินยาแล้วค่อยนอน...ถอดเสื้อสิครับตอนอาบน้ำนะผ้าพันแผลของคุณมันคงเปียกแล้วเดี่ยวผมเปลี่ยนให้ใหม่”คำพูดของร่างเล็กทำให้อีกฝ่ายอดที่จะแปลกใจไม่ได้แต่ก็ไม่ขัดขืนยอมถอดเสื้อตามที่บอก ผ้าพันแผลที่มีเลือดซึมออกนิดๆไม่บอกก็รู้ว่าแผลคงจะเปิดแน่นคนตัวเล็กถอนหายใจก่อนจะทำแผลให้อีกคนอย่างระมัดเระวัง

     

    “คุณยังไม่ทานอะไรเลยใช่ไหมครับ”พูดก่อนจะเอาชามข้าวต้มให้ชายหนุ่มก่อนจะเดินไปเอาน้ำมาให้อีกแก้ว เมื่อกลับมาก็ต้องสงสัยที่คนไข้อยู่ท่าเดิมแล้วข้าวต้มก็เหลือปริมาณเท่าเดิม

     

    “ไม่หิวเหรอครับ”

     

    “ผมตักไม่ได้ มันเจ็บ”คนพูดนั้นทำให้คนตัวเล็กถอนหายใจก่อนจะวางแก้วน้ำไว้แล้วขึ้นบนเตียงไปตักข้าวต้มใส่ปากอีกฝ่าย นั้นทำให้คนนั้นยอมกินง่ายๆก่อนจะปิดท้ายด้วยยาแก้อับเสพ

     

    มือเล็กจับไล่ทั้งสองข้างให้ล้มตัวลงนอนและลุกขึ้นไปปิดไฟพร้อมกับสอดกายเข้าใต้ผ้าห่มพื้นหนา

     

    “ฝันดีครับ”เป็นการจบบทสนทนาสั้นๆเล็กๆ คนตัวเล็กนอนหันข้างให้เหมือนทุกๆครั้งและก็โดนคนเอาแต่ใจกอดเหมือนทุกๆทีไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงจะเปลี่ยนก็แต่ที่วันนี้ไม่มีอะไรเกินเลยดีแล้ว

     

    “สึนะคุณเริ่มรักผมแล้วหรือเปล่า”

     

    “จะเอาโกหกหรือความจริงละครับ”

     

    “ความจริง”แม้จะรู้ว่าคำตอบอาจไม่เป็นไปตามที่ติดแต่ก็หวังเล็กๆน้อยๆ

     

    “ก็น่าจะรู้คำตอบอยู่แล้วนะครับกับคนที่ถูกทำร้ายทางกายจะไปรักคนทำร้ายตัวเอง  มันไม่ใช่นิยายนะครับเลิกเพ้อฝันได้แล้วครับ”

     

    ไม่มีคำพูดหลังจากที่คนตัวเล็กพูดจบมีเพียงความเงียบปกคลุมที่เหมือกับความมืดปกคลุมทั่วพื้นห้อง ลำแขนแกร่งเลื่อนมาตวัดรัดกอดเอวเล็กพร้อมกับซุกหน้าไว้ที่หลังคอ

     

    “แต่ผมรักคุณนะ”ก็แค่คำพูดใครก็พูดได้แต่ทำไมคำพูดนั้นถึงบาดลึกเข้าไปในหัวใจราวกับมีดที่จะบาดลึกถึงหัวใจให้แตกออกเป็นเสี่ยงๆทำไม

     

     มันก็แค่คำพูดของคนที่ทำร้ายเขาก็แค่นั้น

    .

    .

    “สึนะลูกไม่ได้ทำอะไรให้เคียวยะเขาปวดหัวใช่ไหม”

     

    “ไม่ครับผมไม่ได้ทำอะไรให้เขาปวดหัวเลย”มีแต่เขาที่ทำให้ผมปวดหัว

     

    “งั้นขอบใจมากนะเคียวยะคุงที่ช่วยดูแลลูกชายของฉัน”

     

    “ไม่เป็นไรครับ ผมเต็มใจ”ดวงเนตรสีหม่นมองคนที่ทำเป็นไม่สนใจเขา

     

    “ฮ่าๆ ถ้าสึนะเป็นผู้หญิงฉันก็กะว่าจะยกเขาให้นายเพื่อตอบแทนทุกๆอย่างที่นายเคยช่วยฉันไว้”ชายแก่พูดทีเล่นทีจริงพลางหัวเราะร่าก่อนจะขอลากลับ

     

    “บอกลากับพี่เขาสิลูก”

     

    สึนะมองคนตรงหน้าพร้อมกับหายใจเข้าลึกๆ “ผมลาก่อนนะครับคุณฮิบาริ”พูดก่อนจะโค้งตัวทำความเคารพและเดินขึ้นไปบนรถไม่สนใจคนที่มองตาละห้อยตามหลังเลยสักนิด

     

    “งั้นฉันไปละเคียวยะ”

     

    “ครับคุณอา”

    .

    .

    “อีก 2-3วัน”อยู่ๆคนที่เงียบไปนานก็เอ่ยปากขึ้น

     

    “.....”

     

    “คุณอาก็จะกลับมา ผมจะไม่ขอให้คุณอยู่ต่อหรือยกโทษให้”พูดพร้อมกระชับอ้อมกอด ยิ่งนานวันก็ยิ่งใกล้ถึงวันที่จะลาจาก วันเวลาไม่เคยปราณีใครแม้แต่เขา

     

    “........”

     

    “แต่อยากผมจะขอ ขอแค่อย่าเดียวอย่าลืมเรื่องของเราเลยนะ”น้ำเสียงที่ออกแววว้อนวอนขอให้เห็นใจมันน่าจะทำให้เขารู้สึกเฉยชาแต่กลับกันมันทำให้เขารู้สึกสงสารอย่างประหลาด

     

    สุดท้ายคนที่เห็นแก่ตัวที่สุด ก็คงจะเป็นคุณสินะ ฮิบาริ เคียวยะ เรียกร้องนั้นเรียกร้องนี้

     

    สองอาทิตย์กับการทนทรมารกับความรู้สึกแปลกประหลาด ความรู้สึกหน่วงๆที่อยู่ในอกอย่างประหลาดมันทรมานเหมือนกับอะไรบางอย่างที่เจ้าตัวไม่รู้ว่าอะไรบางอย่างนั้นมันคืออะไร เหมือนว่ามันจะระเบิดออกมาได้ทุกเมื่อถ้าไม่ควบคุมมันไว้ให้ดี

     

    บางเวลามันก็เจ็บปวดจนอยากจะร้องให้ออกมา มันทรมารเหลือเกินเหมือนกับว่าชีวิตขาดอะไรบางอย่างไป  บางอย่างที่ไม่ว่าจะทำอย่างไงหรือหาอะไรมาทดแทนก็ไม่สามารถมีอะไรมาทดแทนได้ อะไรบางอย่างที่ว่า คงเป็นความ  คิดถึง  ใช่มันเป็นความคิดถึงที่ไม่รู้ว่าเกิดขึ้นเมื่อไร คิดถึงใบหน้าหงอยๆของใครบางคนในยามที่เขาไม่สนใจ คิดถึงคนที่ทำร้ายเขา  ตอนนี้เขายอมรับว่าเขากำลังคิดถึงฮิบาริ ทั้งๆที่ทำเป็นไม่สนใจความรู้สึกนี้แต่มันก็ทำไม่ได้เขาห้ามตัวเองไม่ให้สนใจหรือคิดถึงคนอย่างฮิบาริไม่ได้และเป็นสามวันไม่ได้รับการติดต่อสื่อสารจากทางนั้นเลยสักนิด

     

    สงสัยคงจะทิ้งเขาสะแล้ว ทั้งที่เจ้าตัวเป็นคนบอกว่าอย่าลืมเรื่องของเราแต่เจ้าตัวดันลืมสะได้ อย่างไงก็เป็นได้แค่คนเห็นแก่ตัว

     

    “ว่าไงจ๊ะ สึนะจัง”เสียงสดใสทำให้เขาหลุดจากภวังค์ความคิดของตัวเองก่อนจะหันไปตามต้นตอเสียงก็ปรากฏพบร่างเด็กสาวที่เป็นเพื่อนสนิทเดินเข้ามาในห้องพร้อมกับถุงขนม

     

    “เคียวโกะจังเธอมาได้ไง”

     

    “ก็เดินเข้ามาสิ อ้าวฉันซื้อของมาฝากนะเห็นว่าไม่สบาย สึนะนายดูผอมไปหรือเปล่าไม่ทำไมหน้านายดูเศร้าๆ นายเป็นอะ...”

     

    “ฮือเคียวโกะจัง”ยังพูดไม่จบร่างกายเล็กก็พุ่งตัวกอดเพื่อนสาวทันที ทนไม่ไหวแล้วความรู้สึกที่มากมายมันท่วมท้นจนไม่รู้จะเก็บอย่างไงแล้วมันทรมารเหลือเกินกับการคิดถึงใครสักคน

     

    “เป็นอะไรสึนะ..”

     

    “ฉันคิดถึงเขา เคียวโกะจังฉันคิดถึงเขา”

     

    หลังจากที่ปลอบใจกันอยู่นานสึนะก็มานั่งสะอึกให้และล่วเรื่องราวให้เพื่อนสาวฟัง จนทำให้หญิงสาวถึงกับน้ำตาซึมก่อนจะดึงอีกคนเข้ามากอด

     

    “สึนะนายไหวไหม  คุณอารู้เรื่องนี้ไหม”สึนะซ่ายหน้าแทนคำตอบเขาคงให้พ่อรู้เรื่องนี้ไม่ได้

     

    “ฉัน...ไม่รู้จะทำไงแล้ว...ฉันไม่อยากให้พ่อรู้”ทั้งพูดทั้งซุกใบหน้ามาที่เพื่อนสาวมันทรมารจริงๆ

     

    “เฮ้ยใจเย็นๆ ค่อยหายใจเข้าลึกๆ”มือเล็กลูบหลังเพื่อนสนิทด้วยความเป็นห่วง

     

    “ฉะ..ฉันไม่.อึก..แอวะ”ก่อนจะเกิดอะไรขึ้นไปมากกว่านี้คนตัวเล็กก็ลุกขึ้นวิ่งไปเข้าห้องน้ำนั้นยิ่งทำให้เพื่อนสาวเป็นห่วงก่อนจะเดินตามไปเมื่อเห็นเพื่อนสนิทเริ่มจะอ้วกออกมา

     

    “ไหวไหม สึนะ”ไม่มีคำตอบจากคนตัวเล็กสึนะได้แต่พยักหน้าเพื่อบอกให้เพื่อนสาวไม่ต้องเป็นห่วงแล้วอ้วกต่อไปนี้เหรอไม่เป็นไรนะมือเล็กของเพื่อนสาวลูบหลังเพื่อน

    .

    .

    กว่าจะหยุดจากอาการแย่ๆนั้นเขาก็โดนพ่อเรียกให้ลงไปหาที่ห้องรับแขก ก่อนจะพบชายหปนุ่มที่ไม่ได้เหป์นหน้ากันมาหลายวัน นั้นทำให้หัวใจสั่นแปลกๆราวกับจะออกมากระโดดโลดเต้นข้างนอกอย่างไงอย่างงั้น

     

    “อ้าวสึนะมาพอดีเลย พ่อมีข่าวดีจะบอกเราด้วยละ”คำพูดนั้นทำให้คนเป็นลูกมองหน้าของคนเป็นพ่ออย่าง งุนงง อะไรที่เป็นเรื่องดี?

     

    “อะไรเหรอครับ”

     

    “เคียวยะคุงกำลังจะแต่งงาน”

     

                                                                               (50%)

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×