ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The meaning of pain : ความรัก

    ลำดับตอนที่ #2 : Negotiation การต่อรอง

    • อัปเดตล่าสุด 6 มี.ค. 60


               ขอต่อรองงั้นเหรอ?   เสียงปริศนานั้นพูดตอบ 
               
               " ใช่ครับ " ถึงแม้จะฟังเหมือนจะไม่ตกลงแต่ก็ไม่ถูกปฎิเสธทันที

               อย่างน้อยๆก็ยังพอมีหวัง

               แล้วทุกๆอย่างก็เงียบไป ชั่วอึดใจเสียงปริศนานั้นก็หัวเราะขึ้น เสียงหัวเราะแหลมนั้นฟังเสียดหู ราวกับกำลังดูถูกความหวังอันเล็กน้อยของเขา แต่ไบร์ทก็ไม่พูดอะไรเขาอดทนรอให้อีกฝ่ายเป็นคนเริ่ม ทั้งที่ไม่นานแต่เขารู้สึกเหมือนมันนานจับใจ เมื่อเสียหัวเราะนั้นจบลง เสียงนั้นก็เริ่มเอ่ยขึ้นอีกครั้ง

               ผู้สิ้นอายุขัยเอ๋ย เราคิดว่าคงมีบางอย่างที่เจ้าจะต้องรู้

               ทันใดนั้นห้องสีขาวก็เริ่มบิดเบี้ยวราวกับมิติต่างๆแปรปรวน แสงต่างๆพวยพุ่งรอบตัวเขาแล้วกลายเป็นดวงดาวและกาแลกซีต่างๆ ไบร์ทรู้สึกคลื่นไส้ราวกับว่าตัวเองถูกเหวี่ยงให้หมุนควงอยู่ท่ามกลางมิตินั้น จากนั้นภาพทารกปรากฎขึ้นเหมือนภาพฉายซีเปีย ภาพของทารกน้อยค่อยๆขยับ ค่อยๆลืมตามามองโลก เริ่มฝึกเดิน ฝึกพูด ก่อนจะเริ่มโตขึ้นทีละนิดๆ เริ่มใส่ชุดนักเรียนและไปโรงเรียน ภาพเด็กน้อยที่เริ่มค่อยๆกลายเป็นหนุ่มน้อยอย่างช้าๆ
            
               นั้นตัวเรานี่

               ภาพนั้นยังคงฉายไปเรื่อยๆ เขามองเห็นภาพตัวเองที่อ่อนแอและร้องไห้ก่อนจะค่อยๆโตขึ้นกลายเป็นผู้ใหญ่ที่เข้มแข็ง หรืออย่างๆน้อยๆภายนอกก็เป็นแบบนั้น ตัวของเขารู้สึกร้อนวูบวาปเพราะมันชวนให้คิดถึงความรู้สึกนั้น ความรู้สึกของการมีชีวิตอีกครั้งหนึ่ง ที่ตัวเขาเกือบลืมมันไปแล้ว น้ำตาที่เก็บเอาไว้ก็ค่อยๆไหลออกมา ไบร์ทรีบเช็ดน้ำตาแล้วก็มองไปรอบๆตัว มองดูความทรงจำมากมายที่เคยจำได้ บางสิ่งเป็นสิ่งที่สุดแสนจะเจ็บปวดและบางความทรงจำก็สุดแสนจะล้ำค่า ทำให้เขารู้สึกว่า 22ปีที่เขามีชีวิตอยู่มันช่างแสนสั้นเหลือเกิน 

               ทุกๆความทรงจำที่มีค่า ทุกๆความเจ็บปวดที่เกินทน ทุกๆความรู้สึกนี้ หลอมรวมขึ้นเป็นเจ้า การเจรจาต่อรองนั้นจำเป็นจะต้องแลกเปลี่ยนด้วยสิ่งที่เท่าเทียม แต่ชั่วชีวิตของเจ้า มีสิ่งใดกันเล่า ที่มีค่าพอจะต่อรองกับสิ่งที่เจ้าต้องการจากเรา

               " ท่านพูดถูก " ไบร์ทตอบด้วยเสียงเรียบๆ " ในชั่วชีวิตที่แสนสั้นของผม คงไม่มีอะไรเหมาะสมจะต่อรองอะไร เพราะแบบนั้นผมขอต่อรองด้วยเวลาหลังความตายนี้ กับการช่วยชีวิตเธอ " 

               หืม เวลาหลังความตาย? เจ้าหมายความว่าอย่างไรผู้สิ้นอายุขัย

               " สิ่งที่ผมจะแลกเปลี่ยน คือการให้ผมตกนรกแทนครับ " เขาสูดหายใจเข้า " นั้นคือข้อแลกเปลี่ยนของผม "





               ย้อนไปเมื่อก่อนสมัยที่ผมกับปรางก่อนจะคบกัน น่าจะซักราวๆ2ปีก่อน ในคืนวันคริสมาสอีฟ คืนนั้นผมกับปรางพึ่งอยู่ในช่วงที่กำลังสอบเสร็จ ผมเรียนเอกแอนิเมชั่น ส่วนปรางเรียนเอกบริหารการตลาด เรารู้จักกันเพราะเคยอยู่ห้องเดียวกันตอนมัธยม พอเข้ามหาลัยก็รู้จักกันเพราะค่ายกิจกรรมที่ต้องทำร่วมกันหลายๆคณะ ผมเลยได้เจอกับเธออีกครั้ง สำหรับผมจะเรียกว่าโชคดีรึเปล่านะ..
               ตึกของคณะที่ผมอยู่ไม่สูงมากนักมีแค่4ชั้น และแน่นอนไม่ค่อยพอจะรองรับจำนวนนักศึกษาเท่าที่ควร อาจจะเพราะเป็นคณะมีเดียเปิดใหม่ที่เริ่มเป็นที่สนใจไม่นานนัก บริเวณกลางคณะจะมีน้ำพุตรงกลางที่ชอบมีนักศึกษามานั่งเล่นกันเวลาพัก ผมเองก็มักจะเป็นหนึ่งในนั้น ขากลับผมเดินลงจากตึกและกำลังจะกลับหอพัก แล้วก็มีเสียงผู้หญิงตะโกนเรียกผม

               " ไบร์ทๆ คริสมาสนี้จะไปเที่ยวไหนอะ " เสียงเล็กๆเสียงหนึ่งที่เขาคุ้นเคย ภาพของผู้หญิงตัวเล็กผมดำยาวประบ่าใส่ชุดเดรสสีขาวกำลังจ้องเขาผ่านแว่นตากลมสีแดงด้วยความสงสัย รอยยิ้มมุมปากที่สดใสชวนให้คนที่มองต้องพยายามอย่างมากที่จะซ่อนความรู้สึกเอาไว้

               " คงจะอยู่เล่นเกมที่หอมั้ง ปรางละ "

               " ไม่รู้อะ ปกติก็อยู่ฉลองกับที่บ้าน แต่เหมือนปีนี้พ่อจะติดงาน ที่บ้านเลยยกเลิกไปนะ " เธอตอบ

               " อ่าวแล้วเพื่อนๆละ อย่างเฟิน เห็นปกติชอบไปไหนด้วยกันนี่ " 

               " เฮ้อ.. " ปรางถอนหายใจ เธออเงยหน้าแล้วมองขึ้นไปบนฟ้าพลางบ่นอุบที่มุมปาก " เฟินทิ้งเค้าไปเที่ยวกับแฟนอะดิ "

               ว่าแล้วสาวเจ้าก็หลุดเข้าห้วงเวลาของตัวเอง บ่นนินทาพูดเรื่องของเพื่อนสนิทตัวเองได้หน้าตาเฉย ทั้งเรื่องที่ช่วงนี้ชอบปล่อยให้เธอไปกินข้าวคนเดียวบ้าง หรือผิดนัดเธอแล้วไปเที่ยวกับแฟนบ้าง ว่าแล้วไบร์ทก็อดขำไม่ได้ เพราะไม่คิดว่าจะได้เห็นมุมแบบนี้ของเธอ ทำให้เธอมองค้อนด้วยสีหน้าไม่พอใจ ก่อนจะทะเลาะกันยกใหญ่แล้วจบด้วยการหัวเราะ

               ถึงอย่างนั้นก็ไม่เคยเบื่อ ไม่เคยเบื่อจริงๆ

               " ยิ้มบ้าอะไรอยู่คนเดียว " ถึงจะว่าไม่ได้โกรธอะไรมากมายแต่สาวเจ้าก็ยังคงงอนแก้มป่อง

               " ไม่บอกอะ " คนขี้แกล้งก็ยังแกล้งต่อไป " บอกไปก็ไม่เชื่อ "

               ทันใดนั้นมือเล็กๆก็หยิกไปที่หูของคนขี้แกล้งทันที คนขี้แกล้งเลยสะดุ้งและหยิกแก้มของสาวน้อยที่เข้ามาจู่โจมสวนไป

               " จะบอกไม่บอก โอ้ยๆๆ " สาวน้อยพูดพร้อมกับกลั้นความเจ็บปวดที่แก้มไว้ แว่นกลมสีแดงเอียงไปตามมุมของแก้มที่ถูกหยิก " บอกมาน้าาา "

               " โอ้ยๆ เจ็บๆหยิกแรงไปแล้วนะ " แล้วคนขี้แกล้งก็ยอมยกธงขาว พลางปล่อยมือออกจากแก้มเล็กๆนั้น " โอเคๆ บอกแล้วๆ อย่าตกใจละกัน "

               " อะไรว่ามา " ถึงจะพูดแบบนั้นแต่มือเธอก็ยังหยิกหูของเขาอยู่

               " ปราง.. "
     
               " อะไรละ "

               " เราว่า เราชอบปรางอะ "

               มือที่ยังหยิกหูของเขาก็เริ่มผ่อนแรงลง เขาเห็นเธอนิ่งไปและทำหน้างงๆ

               " งั้นเราพูดชัดๆเลยนะ.. ปราง เป็นแฟนกันไหมครับ "

               ท่าทางของปรางในตอนนั้นผมยังจำได้ดี เธอก้มหน้าหลบตาผมทันทีจนเผลอทำแว่นตก ก่อนจะพยักหน้าเบาๆ ตอนนั้นเองผมก็ได้เข้าใจ ความรู้สึกที่เมื่อได้รักใครแล้วเขารักตอบ มันเป็นอะไรที่ทำให้หัวใจพองโต อาจจะเป็นความรู้สึกนี้ละมั้งที่ยังหลงเหลืออยู่และทำให้ผมตัดสินใจจะช่วยเธอ ถึงแม้จะตายไปแล้วผมก็ยังอยากจะดูแลและรักษาคนรักของตัวเอง

               นี่อาจจะเป็นความรักในแบบของเราละมั้ง

               หลังจากวันนั้นผมและเธอก็ได้ไปเที่ยวคริสมาสด้วยกัน ได้เริ่มสนิทและรู้จักกัน ได้เห็นมุมมองต่างๆที่ไม่เคยเห็น ภายนอกที่มีความเป็นผู้ใหญนั้นก็ซ่อนมุมของความเป็นเด็กเอาไว้ เราทะเลาะกันบางครั้งด้วยเรื่องเล็กๆน้อยๆ และหัวเราะด้วยกันทุกครั้งด้วยเรื่องเล็กๆน้อยๆ แต่อย่างว่า ความสุขมักจะผ่านไปเร็วเสมอ นั้นเป็นความเชื่อหนึ่งอย่างที่ผู้คนมักจะพูดกัน และผมพึ่งได้พิสูจน์กับตัวเอง




               กลับมาสู่ความเป็นจริงอีกครั้งหนึ่ง ความจริงกับสิ่งที่เขาต้องเสียไปเพื่อแลกกับการช่วยเธอนั้นจะได้รับการตอบรับหรือไม่ เงียบไปชั่วอึดใจเสียงนั้นก็ตอบกลับมาอีกครั้ง

               ผู้สิ้นอายุขัยเอ๋ย ถึงแม้การแลกเปลี่ยนของเจ้านั้นจะเป็นสิ่งที่มีค่าอย่างมาก แต่เจ้าคงจะรู้ว่าการเปลี่ยนโชคชะตามันไม่ใช่หน้าที่ของเรา

               คำตอบที่ตอบกลับทำให้ไบร์ทแทบจะหมดหวัง

               หากแต่เป็นหน้าที่ของเจ้า ที่ต้องเปลี่ยนแปลงโชคชะตาและช่วยคนรักของตัวเอง
     
               ไบร์ทเงยหน้าขึ้นและตกใจ

               " หมายความว่าท่านตกลง " ความหวังเล็กๆเริ่มก่อตัวอีกครั้ง

                เราตกลง แต่เจ้าจะกลับไปยังช่วงเวลานั้นในร่างวิญญาณ ส่วนที่เหลือนั้นขึ้นอยู่กับโชคชะตาของตัวของเจ้าเอง ว่าจะช่วยคนรักของตัวเองได้หรือไม่

               " ร่างของวิญญาณหมายความว่ายังไงครับ คือเป็นผีเหรอครับ แล้วเป็นผีนี่จะทำอะไรได้ แล้วเธอจะรับรู้ตัวตนของผมเหรอ " คำถามมากมายผุดขึ้นมาในหัว แต่ไม่ทันได้รับคำตอบทุกอย่างก็เริ่มมืดลงช้าๆ

               เราบอกไปแล้ว ว่าที่เหลือขึ้นอยู่กับโชคชะตาและตัวของเจ้าเอง ส่วนค่าตอบแทนของเจ้านั้นคือนรกภูมิที่ลึกที่สุดที่ทุกๆวิญญาณต่างหวาดกลัว แต่นรกหรือสวรรค์ที่พวกเจ้าเข้าใจนั้นไม่ใช่สถานที่หรอกนะ

               " หมายความว่ายังไงครับ "

               เดี๋ยวเจ้าจะเข้าใจเอง เจ้าจะรู้สึกถึงมันด้วยตัวของเจ้าเอง และบางทีมันอาจจะทำให้เจ้ารู้สึกเสียใจที่มาต่อรองกับเราก็ได้ ผู้สิ้นอายุขัยเอ๋ย ขอให้สนุกในห้วงเวลาที่เหลือนี้เถิด แล้วอย่างสุดท้ายที่เราจะบอกกับเจ้า ตัวเรานั้น ไม่ใช่พระเจ้าหรอกนะ

               เมื่อสิ้นเสียง ภาพทุกอย่างก็ดับลงเหมือนกับละครเรื่องหนึ่งกำลังจบไป คงเหลือไว้แต่ความรู้สึกและคำถามมากมายที่ทิ้งไว้ให้ไบร์ท แต่ยังไงก็ตาม เขามีเพียงคำตอบเดียวให้กับคำถามเหล่านั้น

               ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ผมจะไม่เสียใจกับสิ่งที่ทำลงไปเด็ดขาด!

               ตอนนี้เขาพร้อมจะเริ่มละครเรื่องใหม่โดยใช้ทุกอย่างของตัวเองเป็นเดิมพันแล้ว

















    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×