ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : การพบเจอ
Chapter 1 ~ การพบเจอ
ภายในรถตู้สีดำคันหรู กระจกรอบข้างไม่มีร่องรอยการติดฟิล์มแม้ แต่น้อย มันใสเสียจนเงาหน้าของผมปรากฏฉายชัดในแผ่นใสนั่น ผมลอบ มองคนขับรถผ่านเบาะหลังอย่างไม่พอใจ เมื่อเช้าผมถูกปลุกให้ตื่นจาก โซฟานุ่มๆด้วยมือของสาวใช้ ซึ่งผมไม่ชอบให้ใครมาถูกเนื้อต้องตัวผม ก็ แล้วไงล่ะ สถานะของผมในตอนนี้มันเปลี่ยนไปแล้ว ผมไม่ใช่เจ้านายพวก เขาอีกต่อไป เอี๊ยก.... เสียงคนขับรถเหยียบเบรกกระทันหัน ผมแทบหัวคะมำกับ เบาะข้างหน้า มากกว่านั้นคือ ไม่ได้มีอุบัติเหตุใดแม้เเต่น้อย เพียงแค่ถึงจุด หมายที่ปู่ได้บอกเอาไว้เท่านั้นเอง ผมนั่งงงอยู่ภายในรถเป็นเวลานาน เมื่อมองออกไปรอบนอกเห็นได้ ว่าที่นี่ดูสงบ เงียบ เย็นสบาย แตกต่างจากที่ผมคิดเอาไว้ 'เมืองพัทยา' ยังมีมุม แบบนี้อยู่อีกหรือ "คุณครับเมื่อไหร่จะลง" ชายวัยกลางคนที่ทำหน้าที่เป็นสารถีให้ผม เมื่อครู่กล่าวเสียงเรียบ "ทำไมไม่เปิดประตูให้ฉัน ฉันจะลงยังไง" ผมแข็งเสียงใส่ "คุณท่านสั่งว่า ให้ผมขับรถมาให้อย่างเดียว ห้ามผมรับใช้ ห้ามเปิด ประตู ห้ามถือกระเป๋าให้ ท่านฝากบอกว่าถ้าคุณลงไม่ได้ ให้ถีบคุณลง" "มันจะมากไปแล้วนะ แค่ฉันยอมมา ก็ดีแค่ไหนแล้ว" "ลงเร็วๆสิครับ ผมรีบ" ไม่ค่อยอยากจะไล่กันเลยนะลุง ผมปิดประตูรถดังปั้ง ด้วยความโมโห และมองไปยังสถานที่รอบๆ บ้านไม้สีครีมสองชั้น หลังเล็กๆคือที่ๆผมต้องอาศัยอยู่ ซึ่งไม่รู้ว่ามันจะนาน ขนาดไหน ไม่มีกำหนดว่า หนึ่งวัน หนึ่งสัปดาห์ หนึ่งเดือน หรือหนึ่งปี มี เพียงคำบัญชาว่า ผมต้องอยู่จนกว่าผมจะผ่านเกณฑ์เท่านั้นเอง ไม่คิดเลยว่าชีวิตนี้ผมต้องมากดกริ่งเรียกใครที่หน้าบ้าน ไร้มารยาท สิ้นดีปล่อยให้แขกรอนานๆแบบนี้ ผมกดยํ้าอีกสองสามรอบ สักพักจึงสัง เกตุได้ว่ามีใครคนหนึ่งกำลังกุลีกุจอออกมาหาผม "สวัสดีครับ คุณม่านเมฆหรือเปล่าครับ" หมอนั้นใช้มือที่ดูก็รู้ว่าหยาบ กร้านขนาดไหนเกาประตูรั้วไม้ มองผมด้วยสายตาเป็นมิตร ผมสีนํ้าตาล ของเขาชวนให้ผมคิดแปลกใจว่านั่นย้อมมาหรือเก็นเอง ใบหน้านั่นดูหล่อ เหลาราวกับพระเอกซีรี่ย์เกาหลี หากแต่ผมดูออกว่านั่นไม่ได้มีการผ่านมีด หมอมาเลยสักนิด เขาดูดีผิดกับสภาพที่เป็นอยู่ ผมหมายถึงบ้านโทรมๆ ของเขา "ว่าไงครับ คุณม่านเมฆหรือเปล่า" ผมสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อได้ยินคำ คาดคั้นจากคนตรงหน้า นี่ผมเหม่อให้กับความหล่อของเขางั้นหรอ "ใช่ ผมนี่แหละ ม่านเมฆ" "อ่อ งั้นเชิญเข้ามา" หมอนั่นเปิดประตูให้ผม และพาผมเข้าไปยังด้าน ในตัวบ้าน แต่ที่ไม่ชอบที่สุดเลยคือ ไม่ชอบให้ใครมาเดินเทียบข้างกับผม ซึ่งเขาทำแบบนั้น ผมจึงถอยหลังเพื่อตีตัวเอกห่าง ซึ่งดูจากตรงนี้เขาน่าจะ สูงกว่าผมสักประมาณ 7-8 เซนได้ "ผมชื่อ'ปวีณ'นะ เรียกสั้นๆว่าวีณก็ได้" "ผมไม่ได้อยากรู้" "เจอกันครั้งแรกก็ทักทายแบบได้อารมณ์เลยนะครับ" หมอนั่นกัดฟัน "เอาไปเก็บให้ผมด้วย ไหนล่ะห้องนอนผม พาไปเร็วๆด้วย เบื่อแล้ว" ผมโยนกระเป๋าเป้ใบสีฟ้าให้เขาก่อนจะเห็นว่า มันตกลงสนามหญ้าต่อหน้า ต่อตา เขาไม่รับมัน "ผมไม่แปลกใจเลยทำไมคุณปู่วายุถึงส่งคุณมาที่นี่ ปกติคนอย่าง ท่าน ใจดีอย่างกับอะไร คุณนี่เองนะที่ทำให้ท่านประสาทเสียได้ งั้นดีเลย ผมจะเล่นงานคุณให้น่วมไปเลย ได้ข่าวว่าเจ๋งนี่ ไม่มีใครสอนได้เลย ดี! ต่อจากนี้ไป ผมจะสอนคุณเอง ตามมา" ชายร่างสูงโปร่งตรงหน้า คว้าแขน ผมหมับ อีกทั้งยังลากไปแบบไม่ถามไถ่ผมสักคำ
"จะไปไหน คุณจะพาผมไปไหน" ผมถามพลางสะบัดข้อออกจากมือ หนาของเขา ซึ่ง...มันไม่หยาบอย่างที่ผมคิด "ก็จะพาไปดูห้องไงล่ะ" "ไหนล่ะห้องผม" ผมหน้าบึ้งใส่คนตรงหน้า "นี่ไง" เขาว่าพลางเดินไปหยุดที่ประตูบานหนึ่ง ซึ่งถ้าให้ผมเดา ก็จะ เดาว่า มันคือห้องเก็บของ และแล้วเขาก็ผละประตูไม้บานเก่าเก๋ากึ๊กนั่น สรุปว่านั่นเป็นห้องเดียวกับที่ผมคิดไว้ในใจไม่มีผิด แสงแดดส่องผ่านเข้าไปด้านใน ทำให้เห็นละอองฝุ่นลอยคลุ้งเต็มอา กาศ ของด้านในแทบจะไม่ต้องใช้งานเลย เพราะแค่จับคงหลุดพังเป็นแน่ ตู้ โต๊ะ เตียง ถ้วย ชาม สากกระเบือยันเรือรบ ห้อยเป็นพวงระโนงระเนงเต็ม ไปหมด ไหนจะหยากไย่ตรงเพดาน ลามมาแทบกินหัวคนได้ ถ้าจะบอกให้ ผมนอนห้องนี่ก็จะใจร้ายเกินคนไปแล้วล่ะ "นี่ไง ห้องคุณ ปัดกวาดเช็ดถูเอานะ ถ้าชอบความเป็นส่วนตัวก็นอนที่ นี่ไป เก็บนิดกวาดหน่อยก็นอนได้แล้ว" ไม่นิดนะเท่าที่ผมเห็น "แล้วถ้าผมไม่ชอบความเป็นส่วนตัวล่ะ" "ก็ไปเก็บกวาดก่อนสิ นั่นไม้กวาด พิงอยู่ข้างฝา เลือกเอามีทุกแบบ" หมอนั่นหันหลังให้ผมก่อนจะก้าวเท้าหนีไปในที่สุด ผมเองก็ใช่ว่าจะเคยทำ ความสะอาดบ้าน แค่จับไม้กวาดยังไม่เคยเลย เครื่องดูดฝุ่นก็ไม่มีให้ซะ ด้วย จนแล้วจนเล่า ผมตัดสินใจนั่งลงกับพื้นปูนแข็งๆมองขนดอกหญ้า แปรรูปต่างระดับที่พิงไว้กับกำแพงอย่างเหนื่อยใจ "ถ้าไม่ทำ ก็ไปนอนที่โซฟาห่องรับแขก" เสียงทุ้มนุ่มดังมาจากด้าน หลัง ผมหันควับ จึงได้พบกับเจ้าของเสียงนั่น เขาวกมาหาผมอีกรอบเพื่อ ที่จะบอกว่ามีโซฟา ให้ตายเถอะ แล้วทำไมต้องเดินหนีไปแต่แรก "ทำไมไม่บอกกันแต่แรก" "ก็อยากให้คุณคิดหนักก่อนไง ไม่รู้จะทำยังไงใช่มั้ย" "..." ผมเบะปากเล็กน้อย "ต่อไปนี้ให้คุณตามผมมา และกรุณาทำตามคำสั่งผมทุกอย่าง" ก็ไม่ รู้ว่าผมยอมทำตามคำสั่งเขาทำไม ทั้งเดินตามเขาไปยังสถานที่ต่างๆ แม้ กระทั่งยอมเข้าไปในบ้านโกโลโกโสของเขา เมื่อปรายตามองรอบๆจะเห็น มีเฟอร์นิเจอร์ไม่มากนัก ภายในกรุด้วยผนังเบาปิดเนื้อไม้เอาไว้ และถูกทา ทับด้วยสีครีมเช่นเดียวกับนอกตัวบ้าน โซฟาสีเทาถูกวางไว้กลางห้องแคบ เห็นแค่นี้ผมก็รู้สึกเอียนแล้ว ไม่รู้ว่าจะให้ผมนอนแบบนี้ไปอีกนานเท่าไหร่ "ที่นอนของนายคือโซฟา ตัวยาวๆตัวนี้" "ไม่มีที่นุ่มกว่านี้เหรอ?" "กับพื้นไงคุณ นุ่มดี" เขาประชดประชัน ผมมองไปรอบๆจากตรงที่ ยืนอยู่ และได้ยินเสียงเหมือนเท้าคนเดินมาจากทางบันไดไม้ และแล้วหญิง วัยกลางคนก็ได้ปรากฏตัวขึ้นท่ามกลางความงุนงงของผม เธอสวมเสื้อแขน กุดสีเขียวอ่อนทับด้วยผ้าถุงสีทอง ดูคนผอม างร่างเล็ก วงหน้าดูเป็นคนใจ ดี ซึ่งผมรับรู้ได้ "คุณนี่แม่ผม ไหว้ซะสิ" ปวีณพยักหน้าพร้อมมองไปทางหญิงคนดัง กล่าว "หึๆ รู้จักผมน้อยไปนะคุณ ผม...ไม่เคยยกมือไหว้ใคร" "ก็ไหว้ซะสิ" "นั่นใครลูก" หญิงกลางคนพูดขึ้น พร้อมจ้องมองผมด้วยแววตาสงสัย "อ๋อ นี่ม่านเมฆน่ะครับ คนที่คุณปู่วายุส่งมา" "อ้อ หนูนี่เอง ยินดีที่ได้รู้จักนะจ๊ะ" "เป็นคนนิสัยแปลกๆหน่อยนะแม่ ไม่เหมือนคน" "แม่ไปขายของก่อนนะ วันนี้ไม่ได้เปิดร้านใช่มั้ยลูก" "ครับ แต่จะไปร้านสักครู่ โชคดี" ปวีณว่า ก่อนที่แม่ของเขาจะหัน หลังเดินจากไป ผมทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาตัวยาวแล้วค่อยๆเอนตัวลงนอน ถึงมันจะไม่ได้นุ่มเหมือน กับตัวที่คฤหาสน์ แต่ก็คงเป็นตัวที่ดีที่สุดแล้ว ในขณะนี้ "ใครให้คุณนอน" "ผมมาเหนื่อยๆ คุณจะใจร้ายใจดำไม่ให้ผมเอนหลังบ้างเลยรึไง" "แค่ตัวเมืองชลมาพัทยาเนี่ยนะ คุณบอกว่าเหนื่อย" "ใช่" ผมลุกขึ้นนั่งพร้อมยักไหล่ผายมือ "ไปที่ร้านกับผม 'เดี๋ยวนี้' นี่คือคำสั่ง" หมอนั่นทำหน้าเข้มกอดอกมอง จ้องมาที่ผม ทำอย่างกับว่าผมจะกลัวงั้นเเหละ "ถ้าผมไม่ไปแล้วจะทำไม" "อย่าลืมนะว่า ชีวิตคุณ'ขึ้นอยู่กับผม' ดังนั้น ผม!มีสิทธ์ที่จะทำอะไร ก็ได้ ขืนคุณพูดมาก แข็งข้อไม่ทำตามคำสั่งผม สมบัติของคุณอาจหายไป ตลอดกาลก็ได้" "ก็ได้ ไม่ต้องขู่กันมากก็ได้ ผมเบื่อ" ปวีณเดินนำผมไปยังรถอีโค่คาร์ ของเขา ก่อนที่เราจะเดินทางไปยังร้านที่เขาว่า
ใช้เวลาไม่ถึงสิบนาทีเราก็มาจนถึงร้านที่ว่า ปวีณขับรถเร็วเกินกว่าที่ ผมจะรับได้ ไวกว่าตอนที่ผมชอบขับสปอร์ตร่อนไปมา มีช่วงหนึ่งที่เบรกไฟ แดง ทำเอาผมหัวทิ่มลงกับคอนโซนรถเจ็บแย่เลย
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น