คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ㄨ คุณหนูนากาโมโตะ
“ คุณหนูนากาโมโตะ สวัสดีค่ะ “
“ สวัสดีครับคุณหนู”
“ วันนี้มาเช้าจังเลย เป็นเด็กขยันจริง ๆ เลยนะคะ ”
.
.
.“ สวัสดีครับทุกคน วันนี้เหนื่อยหน่อยนะครับ ”
ร่างบางในชุดสูทสีดำสนิทเอ่ยคำทักทายออกไปอย่างเป็นกันเอง เรียวขาสวยสาวไปข้างหน้าอย่างกระฉับกระเฉงได้ความรู้สึกสดชื่นแจ่มใสราวกับมีช่อดอกไม้ช่อโตส่งกลิ่นหอม ๆ ออกมาต้อนรับเช้าวันใหม่ของพวกเขา ยิ่งมองเห็นผิวพรรณเนียนละเอียดแบบฉบับหนุ่มญี่ปุ่นที่ดูเข้ากันดีกับดวงตากลมโตที่มองคล้ายกันกับเด็กผู้หญิง ริมฝีปากฉาบบางที่ชมชอบการฉีกยิ้มออกมากว้าง ๆ
งดงามสดในราวกับดอกไม้ หากแต่สันจมูกแหลมเล็กที่เฉิดรั้งขึ้นกลับดึงความรู้สึกดื้อรั้นออกมาให้เห็นอย่างช่วยไม่ได้
“ พี่ซอนแจครับ คุณพ่ออยู่ด้านในใช่ไหมครับ ”
เดินตรงเข้าไปหาเลขาคนสวยที่นั่งแย้มยิ้มอยู่ด้านหน้าห้องของ” ท่านประธาน” พวงแก้มอิ่มที่ถูกแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางราคาแพงแดงก่ำขึ้นมาเล็กเพียงแค่ได้มองใบหน้าของ” บุตรชายคนเล็ก” ของตระกูลนากาโมโตะตรง ๆ ไม่ว่าอย่างไรเด็กน้อยคนนี้ก็ควรค่าแก่การถูกรักเสมอ
“ ท่านประธานอยู่ด้านในค่ะ ซักครู่นะคะ ดิฉันจะ .... ”
“อะ เอ่อ ... ยังไม่ต้องก็ได้ครับ ผมขอเข้าห้องน้ำก่อน เดี๋ยวผมมานะครับ”
เสียงหวานที่เอ่ยออกมาอย่างตระกุกตระกักเรียวเส้นคิ้วเรียวสวยให้ผูกเข้าหากันอย่างนึกสงสัยมองตามร่างกายบางเล็กของเด็กหนุ่มหน้าสวยที่กึ่งวิ่งเดินเข้าในห้องน้ำอย่างเร่งรีบ ก่อนที่ประตูบานใหญ่จะถูกดันปิดอย่างรวดเร็วพร้อมกับความสนใจของเธอที่เริ่มเลือนลางลง
“ จะโทรมาได้เวลาเกินไปแล้วนะครับคุณจอนห์นี่ ”
น้ำเสียงแดกดันถูกส่งออกไปทางโทรศัพท์ที่ร่างบางรีบหยิบมันขึ้นมากดรับได้อย่างหวุดหวิด เมื่อมองไม่เห็นสิ่งชีวิตสปีชี่ไหนที่พัดผ่านเข้ามาในสายตา ใบหน้าเรียวสวยที่เคยยับยู่ยี่เมื่อซักครู่กับพองลมขึ้นมาเหมือนกับเด็กน้อย ถอนหายใจเข้าไปในสายอีกซักหน่อยเพื่อให้คนในสายรับรู้ถึงความเป็นไปในชีวิตของเขาในตอนนี้ได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น
“ ฮยอง เลิกเล่นแล้วกลับเกาหลีซักทีเถอะ ผมจะรับมือป๊าไม่ไหวแล้วนะ ”
ส่งเสียงเข้าไปในสายอย่างอ่อนใจ มีความหวังเล็ก ๆ กับคนเป็น ”พี่” ที่อาจจะนึกโอนอ่อนกับคำร้องขอของเขาบ้าง ถึงมันจะเป็นความหวังอันแสนริบรี่ แต่เขาก็ทำมาเกือบจะหนึ่งปีแล้วนะ ความภูมิใจแบบนี้เขาคงหาที่ไหนไม่ได้แล้วหล่ะ U…U
“ อะไรกัน น้องชายคนเก่งของฉัน ไม่อยากปกป้องพี่ชายคนนี้แล้วเหรอ ?”
น้ำเสียงทุ้มหนักที่ส่งออกมายียวนอารมณ์ ไม่อาจจะทำให้เด็กความอดทนต่ำอย่างเขานิ่งเฉยกับมันได้ ใบหน้าขาสวยเริ่มขึ้นสีแดงก่ำ พร้อมกับหัวสมองที่กำลังเรียบเรียงคำด่าทอแจ่ม ๆ ออกมาซัดใส่คนเป็นพี่ซักสองสามดอก แต่สติที่หลงเหลืออยู่น้อยนิดของเขากลับสะกิดเบา ๆ พร้อมกับกระซิบว่า ....
สิ่งที่ซอ ยองโฮ พูด มันมีอะไรผิดพลาดตรงไหนเหรอ ?
กับเรื่องปกป้อง ตัวเขาเองไม่ใช่หรือไงที่จัดการรับหน้าคนเป็นพ่อเองหลังจากคนที่ถูกทาบทามให้เป็น “ท่านประธาน” คนต่อไปของ นากาโมโตะ กรุ๊ป บินหนีไปที่ญี่ปุ่นเพียงเพราะ “ นั่นมันไม่ใช่สิ่งที่พี่ต้องการ “ ความสัมพันธ์กระท่อนทะแท่นแบบแทบจะตัดพ่อตัดลูกกันนี้ตัวเขาก็สถาปนาตัวเองเป็นกาวใจเพื่อสมานรอยแยกของทางสองเส้นนี้ให้ยังคงเชื่อมเข้ากัน แต่ดูเหมือนยิ่งนับวันกาวราคาแพงอย่างเขาก็ใกล้จะหมดอายุลงเต็มที กับปัญหาระดับชาติที่เขาไม่ได้เป็นคนก่อมันขึ้นมา จะให้เด็กตัวเล็ก ๆ อย่างเขามานั่งแก้มันอยู่คนเดียวแบบนี้
มันจะไม่ดูโหดร้ายเกินไปไปหน่อยหรือไง !!!
“ ฮยอง ถ้าผมไม่รักฮยองผมคงไม่ยอมให้ฮยองหนีไปเที่ยวญี่ปุ่นเป็นปี ๆ แล้วตัวเองมานั่งรับกรรมอย่างนี้หรอก ’
“ งั้นแกก็หุบปาก แล้วเลิกขอร้องอ้อนวอนให้ฉันกลับเกาหลีซักที ”
น้ำเสียงทุ้มหนักส่งออกมาอย่างไร้ซึ่งความปราณี เรียกดวงตากลมโตฉายแววอ่อนล้าออกมาอย่างที่ใครได้เห็นคงพากันเข้ามาปลอบประโลมอย่างรักใคร่ แต่คงไม่ใช่กับไอ้พี่บ้าคนนี้ ...
ห่างไปเป็นปี อยากจะใช้ช่องว่างนี้ตัดพี่ตัดน้องกับเขาไปอีกคนหรือยังไง !
“ ฮยอง .... ”
“ ถ้าแกเอาแต่เรียก ฮยอง ๆ อยู่แบบนี้ ฉันจะไปนอนแล้วนะ กู๊ด มอร์นิ่ง สู้ ๆ นะครับ คุณน้องชาย ”
สัญญาณจากต้นสายถูกตัดฉับเรียกเรียวมือเล็กผละโทรศัพท์เครื่องหรูออกมาจ้องดูอย่างไม่เชื่อสายตา ผ่อนลมหายใจออกมาอย่างเหนื่อยอ่อน พร้อมกับดวงตากลมสวยที่กรอกไปมาอย่างคลั่งแค้น
สถานีที่หนึ่งจบไปไม่ค่อยสวยเท่าไหร่
สถานีต่อไปเขาต้องทำมันให้ดีกว่านี้ !
แกร๊กก !!
“ เชิญค่ะ คุณหนู ”
หันไปยิ้มขอบคุณพี่เลาขาคนสวยที่เป็นธุระเปิดประตูให้เขาเดินไปสู่สถานีที่สอง ที่สิ่งที่เขาต้องจัดการคงเป็นใครไม่ได้นอกเสียจากชายหนุ่มวัยกลางคนที่นั่งนิ่งอยู่บนเก้าอี้ทำงานตัวโตที่ตั้งกระง่านอยู่กลางห้อง ใบหน้าเคร่งขรึมมองรวมกับดวงตากลมลึกแบบฉบับชาวญี่ปุ่นขนานแท้ไม่อาจจะทำให้บุตรชายรู้สึกคุ้นเคยกับผู้เป็นพ่อได้ลง
ดีแค่ไหนแล้วที่เขากับพี่ชายได้เชื้อเกาหลีของแม่มาแทบจะเต็มตัว ....
ถ้าจะให้แบกรับใบหน้าโหดเหี้ยมของคนเป็นพ่อไปตลอดชีวิต จะมีใครที่ไหนเข้าหาเขากัน
“ พ่อครับ ... ”
“ 8.15 แกมาเลท 15 นาที ใช่ไหม ? ”
เสียงแหบทุ้มดังขึ้นหากแต่ใบหน้าที่ประปรายไปด้วยร่องรอยของวัยกลับจดจ่อกับแฟ้มงานตรงหน้าราวกับกำลังทักทายกับสิ่ง ๆ นั้นอยู่ ดวงตากลมโตกรอกกลิ้งไปมาอย่างหน่ายเหนื่อยพร้อมกับเรียวขาสวยที่สาวไปด้านหน้าเพื่อยืนยันการมีตัวตนกับผู้เป็นพ่อ
“ ขอโทษครับ ”
“ ช่วงนี้ได้ติดต่อกับพี่ชายแกบ้างไหม ”
ในที่สุดชายตรงหน้าก็ยอมเงยใบหน้าขึ้นมามองเขาเสียที หากแต่ดวงตาดุดันที่ฝังแฝงไปด้วยความเคร่งเครียดรวมถึงคำถามกัดกร่อนหัวใจของเขามันทำให้เด็กหนุ่มต้องรีบกลืนความดีใจลงท้องอย่างรวดเร็ว
“ มะ ไม่ครับ เราสองคนไม่ได้ติดต่อกันเลย ”
ดวงตากลมสวยหลุบต่ำลงทันทีที่พ่นคำโกหกคำโตออกไป เหงื่อชื้นเริ่มแทรกซึมออกมาตามไรผมที่สีเข้ม ริมฝีปากบางสวยขบกัดเข้าหากันโดยอัตโนมัติ
เขายอมเสี่ยงชีวิตช่วยพี่ชายขนาดนี้ ถ้าหมอนั่นยังมากล่าวหาเขาอีก เขาคงต้องเสยกลับไปซักหมัดซะเล้วสิ !
“แต่ถึงยังไง 9 เดือนกับอีก 18 วัน มันนานเกินไปแล้วว่าไหม ? ”
“ แต่พ่อครับ ... ”
“ ไปญี่ปุ่น แล้วเอาตัวพี่ชายแกกลับมา ... ”
หาาา ???
“ ถ้าเอามันกลับมาไม่ได้ แกสองคนก็ไปอยู่ที่นั่นซะ !! ”
“ที่พ่อลูกทำแบบนั้นก็เพราะเป็นห่วงอนาคตของพวกลูกนะ ”
“ ยองโฮแก่เกินจะเที่ยวเล่นเป็นเด็ก ๆ แล้ว ถึงเวลาที่พี่ชายลูกต้องกลับมาช่วยครอบครัวซักที”
“ สู้ ๆ นะ ยูตะ รีบกลับมาหาแม่นะ ”
พ่นลมหายใจออกมาเป็นรอบที่ร้อยของวันพร้อมกับหัวสมองที่ยังคงนึกคิดถึงคำสั่งเสียของคุณนายซอ ถ้อยคำปลอบโยน ให้กำลังใจ และอธิบายความต้องการของคนเป็นพ่อได้อย่างมีเหตุผลมีผลมีเพียงแค่แม่ของเขาที่เรียบเรียงมันออกมาได้อย่างดีเยี่ยม อยากจะร้องไห้งองแงแล้วหลบหลังมารดาเหมือนเด็ก ๆ แต่ตัวเขาเองก็แก่เกินจะทำแบบนั้น และการหนีปัญหามันไม่ได้ถูกสร้างขึ้นมาในจิตใจของเขาตั้งแต่ตอนแรก …
เอาตัวพี่ชายกลับเกาหลีคือสิ่งที่เขาต้องทำ
ถึงมันจะดูยากลำบากกว่าการใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ในญี่ปุ่นก็เหอะ ....
ลมหายใจอันดับที่หนึ่งร้อยหนึ่งถูกพ่นออกมาอีกครั้งพร้อมกับดวงตากลมโตที่กวาดมองไปรอบสนามบินฮิเนดะที่มีผู้คนเดินควักไขว่ไปมาจนน่าเวียนหัว ไม่รู้ว่าเขาไม่ได้เดินทางบ่อยเหมือนแต่ก่อนหรือเศรษฐกิจยุคนี้มันดีเสียจนผู้คนพากันแทคทีมเดินทางท่องเที่ยวเสียจนสนามบินนานาชาติแห่งนี้มองดูเล็กลงไปทันตา แต่นั่นมันใช่เรื่องของเขาที่ไหนกันเล่า ...
เล่นงานคนนัดไม่เป็นนัดต่างหากมันคือสิ่งที่เขาต้องทำ !
เรียวมือสวยหยิบเครื่องมือสื่อสารเครื่องหรูขึ้นมาพร้อมกับจิ้มยังเบอร์ที่โทรออกล่าสุด ใบหน้าสวยฉายแววคับแค้นใจจากการนั่งรอใครบางคนมาเกือบหนึ่งชั่วโมงเต็ม ดวงตากลมสวยเริ่มกวาดมองไปรอบ ๆ อีกครั้งก่อนที่ร่างสูงโปร่งของใครบางคนที่พัดผ่านเข้ามาในสายตาจะเร่งให้ร่างบางรีบเก็บโทรศัพท์เครื่องหรูลงใส่กระเป๋าทันที
“ จอนห์นี่ !! ”
เรียวแขนเล็กโบกไปมาพร้อมกับร้องเรียกชื่อผู้ปกครองไปด้วย ไร้ซึ่งสัญญาณตอบรับ ชายหนุ่มตรงหน้ากลับเร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้น สแนปแบคสีดำสนิทถูกกดลงเล็กน้อยเมื่อมองรวมกับแมสสีเดียวกันทำให้เขาแทบจะมองไม่เห็นหน้าพี่ชายของตัวเองเลย
แต่คนญี่ปุ่นซักกี่คนเชียวที่จะมีหุ่นเหมือนกับไอพี่หมีของเขา !
“ ฮยอง ! เลิกเดินหนีได้แล้ว มันไม่สนุกเลยนะ ”
วิ่งเข้าไปคว้าชายเสื้อยืดตัวขาวบางของคนต้องสงสัย พร้อมกับลำตัวบางเล็กที่ส่งเสียงหอบหนัก ๆ ออกมา เงยใบหน้าแดงก่ำจากการออกกำลังกายยามเช้าขึ้นมองชายหนุ่มที่กำลังก้มลงมามองเขาเช่นกัน แมสปิดปากถูกดึงลงช้า ๆ เผยให้เห็นใบหน้าหล่อเหลาไม่คุ้นตา มองเห็นเส้นคิ้วเรียวสวยที่ผูกเข้าหากันด้วยความรู้สึกมึนงง ดวงตากลมลึกฉายแววประหลาดใจเสียจนเขาต้องปล่อยมือที่แทบจะไร้ซึ่งเรี่ยวแรงออกมาจากเสื้อยืดราคาแพงตัวนั้น
“ กรี๊ดดด การ์ดคะ !! ผู้ชายคนนั้นเข้าถึงตัวศิลปินแล้วค่ะ !!! ”
“ โกเมนนาไซ ”
“ ไฮ ”
“อาริกาโต โกะซาอิมาซ ”
ภาษาญี่ปุ่นสำเนียงเปล่ง ๆ ถูกส่งออกไปจากริมฝีปากเรียวสวยของคนเป็นที่พี่กำลังแก้ไขสถานการณ์สุดแสนจะเลวร้ายให้เขาอยู่ รีบหลบสายตาการ์ดตัวใหญ่ยักษ์ที่หันมาใช้สายตาดุดันทิ่มแทงเขาอย่างไร้ความปราณี เพียงไม่นานทุกอย่างก็ดูเหมือนจะเริ่มคลี่ลายลงเมื่อมองเห็นใบหน้าหล่อเหลาของคนเป็นพี่เริ่มแย้มยิ้มขึ้นมาได้เล็กน้อย เมื่อไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงเขาก็อยากกลับมาใช้ชีวิตสโลว์ไลฟ์อีกครั้ง มือเรียวหยิบโทรศัพท์เครื่องหรูขึ้นมาส่องดูก่อนที่ภาพใบหน้าหล่อเหลาของใครบางคนจะฉายแวบเข้ามาในหัวราวกับฟ้าผ่า สะบัดหัวกลมเล็กไปมาเบา ๆ ราวกับอยากลบเลือนภาพใบหน้านั้นให้ออกไปจากหัว เขาแค่นึกอับอายเกินกว่าลืมมันลงไปง่าย ๆ
แค่นั้น ...
เขารู้สึกแค่นั้นจริง ๆ นะ ....
ปั๊กก !!
“จอนห์นี่ !! เจ็บนะ ”
เงยใบหน้าที่พึงถูกใครบางคนประทุษร้ายขึ้นไปแหวใส่คนตัวสูงที่กำลังยืนกอดอกมองเขาอยู่ตรงหน้า ยกมือเรียวบางขึ้นมาลบหน้าผากเนียนละเอียดที่ตอนนี้คงขึ้นสีแดงช้ำอย่างน่าสงสาร
“ มาถึงก็สร้างปัญหาให้เลยนะ ”
“ ใครจะไปรู้หล่ะ ก็เหมือนกันซะขนาดนั้น ”
รีบยันตัวลุกขึ้นพร้อมกับมือบางที่ทำท่าจะเอื้อมลงไปหยิบสัมภาระตัวเองขึ้นมา หากแต่สิ่งที่ร่างบางมองเห็นคือมือแกร่งของใครบางคนที่ชิงมันไปถือไว้เอง เงยหน้าขึ้นมองใบหน้าหล่อเหลาของคนเป็นที่มองดูมีเสน่ห์มากกว่าตอนที่จากเขามากหลายเท่าตัว ไม่มีรอยยิ้ม คำต้อนรับ หรือของขวัญสร้างขึ้นมาต้อนรับการมาเยือนของเขา ซอ ยองโฮ ยังคงเย็นชาเหมือนเดิม ความอบอุ่นที่มีให้เขาก็ยังไม่ถูกลบเลือนไปเช่นกัน
“ เดินตามฉันมา จะได้ไม่เที่ยวดึงใครมาเป็นพี่อีก ”
.
.
.
“ ครับ คุณพี่ชาย ”
To be con...
ความคิดเห็น