คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : หนึ่งของชั้น..เท่ห์ที่สุดเลย''
จิ๊บ..จิ๊บ จิ๊บ..จิ๊บ เสียงนกร้อง ชั้นจึงตื่นขึ้นก่อนเวลานาฬิกาปลุก เช้าวันใหม่ อากาศช่างสดใสเสียจริง งั้นก็ขอให้ชีวิตชั้นในวันนี้ สดใสด้วยละกันนะ ชั้นจึงไปอาบน้ำ แต่งตัว กินข้าว ขึ้นรถ แล้วก็ถึงโรงเรียน ขณะที่ชั้นกำลังเข้าที่นั่ง อ๊ายย..... “นายชื่อเล่นความหมายดีจังเลยนะหนึ่ง เหมือนกับว่านายหล่อเป็นอันดับหนึ่งของห้องเลยนะ” ยัยเมย์พูดขึ้น “ใช่ๆ ชั้นก็รู้สึกอย่างนั้นเหมือนกัน” ยัยมิ้นท์เสริม ชั้นได้ยินดังนั้น ก็รู้สึกอยากจะอ้วก แต่ดูๆไปมันก็จริง ห้องเราไม่มีคนไหนหล่อเลยนอกจากหนึ่ง ศูนย์รวมคนหล่ออยู่ที่ห้อง4..ห้องของยัยรุ้ง ขณะที่อาจารย์สอนอยู่ ..พรืดดดดดดดด เสียงประตูห้องเลื่อนดังขึ้น “ขออนุญาต เข้าห้องค่ะ” เสียงของยัยลูกหมี (มาสายประจำ) “เชิญ” เสียงอาจารย์พูดขึ้น ระหว่างกำลังเรียนนั้นชั้นสังเกตเห็นว่า ยัยลูกหมีหันมามองที่โต๊ะชั้นบ่อยๆ พร้อมกับส่งสายตาหวานเยิ้มมาให้หนึ่ง ..กรี๊งงงงงงงงงงงง เวลาพักมาถึงแล้ว ชั้นรีบเก็บของ เพื่อที่จะได้ไปหายัยรุ้ง และชั้นก็ค้นพบว่ายัย3สาว แก๊งค์beauty pop girl เดินตรงเข้ามาที่โต๊ะชั้น “หนึ่งคะ..ไปพักกับลูกหมีนะ” ยัยลูกหมีแกล้งดัดเสียงเช่นเคย พร้อมกับส่งสายตาหวานเยิ้มมาให้หนึ่ง ชั้นสังเกตดูดีๆ ก็เห็นว่า..ยัยลูกหมีสวยขึ้น สงสัยเมื่อวาน ตอนเลิกเรียน คงไปขัดสีฉวีวรรณมาล่ะสิท่า (ก็ยัยลูกหมีเป็นลูกสาวมหาเศรษฐีหนิ) “เออะ..ผม” หนึ่งพูด “น้าาาาาหนึ่งน้าาาาาา” ยัยลูกหมีพูดขึ้น ส่วนยัยมิ้นท์ ยัยเมย์ ช่วยประสานเสียงด้วย ชั้นก็อยากจะรู้เหมือนกันว่านายจะตอบยังไง “ก็ได้ครับ” หนึ่งตอบขึ้น ซึ่งมันก็เป็นคำตอบให้ชั้นรู้ ชั้นจึงเดินไปหายัยรุ้ง ยัยรุ้งรอก่อนอยู่แล้ว เราจึงเดินไปด้วยกัน หลังอาหารมื้อกลางวันสิ้นสุดลง ชั้นกับยัยรุ้งก็เดินไปที่ลานน้ำพุ แล้วคุยกันตามประสาเพื่อนรัก ..ออดดดดดดดดดดดดดด ชั้นจึงแยกย้ายจากยัยรุ้ง แล้วขึ้นมาเรียน ..พรืดดดดดดดดด เสียงยัยมิ้นท์เปิดประตู แล้วยัยลูกหมีก็พาหนึ่งเข้าห้อง ตอนที่หนึ่งกลับมานั่งข้างๆชั้น แววตาของเค้าแสดงว่าไม่มีความสุขเลยตลอดช่วงในการพัก แล้วสักพักอาจารย์ก็เข้ามาสอน เวลาผ่านไปจนถึงเลิกเรียน ..กรี๊งงงงงงงงงงงงงงงง หนึ่งรีบเก็บของ แล้วเดินไป ชั้นคิดว่า คงจะรีบหนีแก๊งค์beauty pop girl ล่ะสินะ ชั้นค่อยๆเก็บของ แล้วก็เดินไปที่ป้ายรถเมล์ ระหว่างที่ชั้นรอรถเมล์ ก็มีชายแปลกหน้าเดินเข้ามาหาชั้น “ให้พี่ ไปส่งบ้านมั้ยน้อง” ชายแปลกหน้าพูดขึ้น ชั้นไม่ตอบอะไร และเดินหนีไปรอรถเมล์ที่อื่น ชายแปลกหน้าเดินเข้ามาหาชั้นอีกครั้ง “ให้พี่ ไปส่งบ้านมั้ยน้องสาวคนสวย” ชายแปลกหน้าอีกคนพูดขึ้น ชั้นไม่พูดอะไร แล้วก็วิ่งหนี ชายกลุ่มนั้น ก็วิ่งตามชั้น โดยไม่ยอมเลิกระราน แต่ด้วยความซุ่มซ่ามของชั้น ชั้นก็วิ่งไปสะดุดก้อนหินแล้วล้มลง ชั้นพยายามจะยืน แต่ก็ไม่ไหว จึงค่อยๆกระดึบ กระดึบ ไปตามฟุตบาส เท่าที่แรงของชั้นมี ชายกลุ่มนั้นเดินตรงมาที่ชั้น และแรงของชั้นก็กำลังจะหมดลง ความหวังที่มี ก็ริบหรี่ลงเรื่อยๆ เค้ากำลังจะจับตัวชั้นอยู่แล้ว และแล้วแสงสว่างก็เข้ามา โดยที่ชั้นไม่รู้ตัวว่า มีพระเอกได้ขี่ม้าขาวมาช่วยชั้นไว้ หยุดนะ!! ชายแปลกหน้ามองไปที่เสียงนั้น และเดินเข้าไปหา ชั้นได้ยินเสียงของการต่อสู้ ชั้นไม่รู้ว่าเค้าคนนั้นเป็นใคร ชั้นไม่รู้ว่าใครจะชนะ ใครจะแพ้ (แต่ชั้นหวังภายในใจว่าเค้าจะช่วยชั้นได้) มันเป็นทั้งหนทางแห่งความสว่าง และมืดมน และแล้วชายผู้นั้นก็เดินตรงมาที่ชั้น และพูดว่า “เธอไม่เป็นอะไรมากใช่มั้ย ขอชั้นดูแผลหน่อยซิ” เค้าค่อยๆพยุงชั้นขึ้น และแล้วชั้นก็รู้ว่าเค้าคนนั้นคือใคร “หนึ่งนั่นไงพระเอกสุดหล่อที่ขี่ม้าขาวมาช่วยชีวิตชั้น ชั้นขอบคุณมากนะ ที่นายช่วยชีวิตชั้นไว้ แล้วพวกนั้นล่ะ” ชั้นพูดกับเค้า ด้วยเสียงอันสั่นคลอน ซึ่งเกิดจากความหวั่นกลัวที่มี “พวกนั้น โดนเราอัดซะน่วม เลยเผ่นหนีไป แล้วเธอเป็นยังไงบ้างล่ะ เราขอดูแผลเธอนะ” “อืมมม..” เค้าค่อยๆดูแผลให้ชั้นอย่างทนุถนอม “งั้นเราทำแผลให้เธอนะ” เสียงของเค้าดูอ่อนโยนมากกับชั้นเหลือเกิน “อืมมม” “เธอมีผ้าเช็ดหน้ารึปล่าว” “มี..ชั้นยังไม่ได้ใช้ด้วย” เค้าเทน้ำที่เพิ่งซื้อมา ใส่ผ้าเช็ดหน้าของชั้น แล้วค่อยๆเช็ดแผลอย่างนุ่มนวล เค้ายื่นผ้าเช็ดหน้าคืนชั้น แล้วหยิบผ้าเช็ดหน้าของเค้ามาผูกที่ขาชั้นตรงเป็นแผล เค้าบอกกับชั้นว่า “ที่เรามัดไว้ จะได้ป้องกันเชื้อโรคเข้าแผล แต่ก็ป้องกันได้เพียงชั่วคราวเท่านั้น ถ้าเธอถึงบ้านเมื่อไหร่ ต้องทำแผลอีกครั้งนะ” “อืมม..” “เธอยืนไหวมั้ยเนี่ย” “ไหว” ชั้นค่อยๆยืน เพื่อแสดงว่าชั้นยืนได้ แต่ก็เกือบจะล้ม โชคดีที่เค้าเข้ามารับชั้นทัน “ไม่ไหว แล้วยังจะปากแข็งอีก เธอกลับบ้านไม่ได้หรอก เดี๋ยวเราไปส่งเอง” “ไม่เป็นไรหรอก ขอบคุณนะ” “ไม่ได้ เธอต้องไปกับเรา ถ้าเธอไม่ไปกับเรา เราจะอุ้มเธอขึ้นรถ ไปส่งบ้านเอง” เมื่อไม่มีทางเลือกชั้นจึงต้องจำยอม “ก็ได้” เมื่อรถหนึ่งมาถึง เค้าค่อยๆพยุงชั้นไปที่รถ เค้าให้ชั้นนั่งข้างๆ “ลุงครับ เดี๋ยวช่วยไปส่งเพื่อนผม ให้หน่อยนะครับ คือเพื่อนผมเดินไม่ไหวน่ะ” หนึ่งพูดขึ้น “ได้ครับ คุณหนึ่ง” ลุงคนขับรถตอบหนึ่งอย่างกระฉับกระเฉง “บ้านคุณหนูไปทางไหนครับ บอกลุงมาเดี๋ยวไปส่งให้” ลุงคนขับรถถามชั้น “ไม่ต้องเรียกหนูว่าคุณหนูก็ได้ค่ะ บ้านหนูไปทางนี้ ทางนี้ แล้วก็เลี้ยวซ้าย แล้วก็เลี้ยวขวา แล้วก็ตรงไปค่ะ แล้วในที่สุดก็ถึงบ้านของชั้น หนูขอขอบคุณคุณลุงมากๆเลยค่ะ” ชั้นตอบคุณลุงด้วยความเกรงใจ “ไม่เป็นไรครับ มันเป็นหน้าที่ของผมอยู่แล้ว” “เธอเดินไปไหวมั้ยเนี่ย” เสียงเค้าถามชั้นด้วยความเป็นห่วง “ใกล้แค่นี้ ชั้นเดินไปไหวอยู่แล้วน่ะ ขอบคุณมากนะ ที่มาส่งชั้น ที่มาช่วยชีวิตชั้นไว้” “เธอไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว” แล้วชั้นก็ลงจากรถหนึ่งไป แล้วก็ค่อยๆกะเผลกขาเดินเข้ามาในบ้าน เมื่อแม่เห็นชั้น ก็ตกอกตกใจ แล้วรีบเข้ามาพยุงชั้น แล้วพาไปทำแผล เมื่อทำแผลเสร็จพ่อก็กลับบ้านมาพอดี ชั้นจึงเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้พ่อกับแม่ฟัง “น้ำ..ลูกต้องชวนหนึ่ง มากินข้าวบ้านเรานะ แม่จะเลี้ยงขอบคุณเค้าที่อุตส่าห์ช่วยชีวิตลูกของแม่ไว้ เค้ามีพระคุณแก่ลูก และครอบครัวเรามากนะ” “ค่ะ” ชั้นขอตัวขึ้นห้องไป ส่วนแม่ก็ทำกับข้าว พ่อดูโทรทัศน์ ชั้นเอาผ้าเช็ดหน้าของหนึ่งไปซัก แล้วเอาไปตาก (โชคดีที่วันนี้ ไม่มีการบ้าน) ชั้นจึงต่อเน็ต เข้าเว็บบอร์ด และดูหนุ่มฮอต หนึ่ง เทพบุตรสุดหล่อของชั้น ก็ติดหนึ่งในนั้นด้วย สักพักแม่ก็มาตามชั้นไปกินข้าว ชั้นจึงปิดคอมฯ แล้วรีบลงไป แม่ให้ชั้นกับพ่อ ลองชิมคุ้กกี้สูตรที่แม่เพิ่งคิดขึ้นมาใหม่ แล้วชั้นก็ขึ้นไปอาบน้ำ ชั้นทิ้งตัวลงบนเตียง และก็นึกถึงเหตุการณ์วันนี้ ชั้นรู้สึกคุ้นเคยกับสถานการณ์ที่ชั้นล้ม แล้วก็มีคนเข้ามาช่วย ทำให้ชั้นนึกถึงเหตุการณ์ครั้งนั้นครั้งที่ชั้นยังเป็นเด็กอยู่
.....ความทรงจำในวัยเด็ก
ชั้นวิ่งอยู่บนสนามหญ้าของร้านอาหารแห่งหนึ่ง ตอนนั้นเจ้านายของคุณพ่อเลี้ยงตอบแทนครอบครัวของเรา ที่คุณพ่อตั้งใจทำงานในบริษัท ชั้นเบื่อที่ต้องฟังผู้ใหญ่คุยกัน จึงขออนุญาตแม่ไปวิ่งเล่นที่สนามตามประสาเด็ก (ที่น่ารัก) ซึ่งคุณแม่ก็อนุญาต ขณะที่ชั้นวิ่งนั้น ชั้นเผลอไปสะดุดก้อนหินแล้วล้มลง แล้วก็มีเด็กผู้ชายคนหนึ่งเข้ามาช่วยชั้นไว้ “เธอไม่เป็นอะไรมากใช่มั้ย ขอชั้นดูแผลหน่อยซิ” เค้าค่อยๆพยุงชั้นขึ้น เค้าค่อยๆดูแผลให้ชั้นอย่างทนุถนอม “งั้นเราทำแผลให้เธอนะ” เสียงของเค้าดูอ่อนโยนมากกับชั้นเหลือเกิน “อืมมม” “เธอมีผ้าเช็ดหน้ารึปล่าว” “มี” ชั้นตอบไปด้วยเสียงอาโนเนะของเด็กวัย5ขวบ แล้วเค้าก็ช่วยทำแผลให้ชั้น แล้วแม่ก็เข้ามาเห็นชั้น จึงรีบอุ้มไป โดยที่ชั้นไม่รู้ตัวว่าสร้อยเงินจี้รูปดาวหลุดตกไปด้วย ชั้นไม่รู้ว่าเด็กคนนั้นชื่ออะไร แต่ชั้นมีเพียงสิ่งเดียวที่เกี่ยวกับเค้า คือ ผ้าเช็ดหน้าของเค้าที่พันแผลให้ชั้นวันนั้น ชั้นหวังว่าจะได้พบเค้าสักครั้ง เพื่อจะได้แบ่งขนมเค้าเป็นการตอบแทน (ในความคิดของเด็ก5ขวบ)
และแล้วชั้นก็เผลอหลับไปโดยไม่รู้ตัว
ความคิดเห็น