ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ..หลอน..

    ลำดับตอนที่ #2 : "ป๊อก... ครืด"

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 188
      0
      29 มี.ค. 49

      ตาเธอแล้วศศิชาไปรยาเจ้าของห้องหันไปมองเพื่อนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม ตามมาด้วยสายตาของเพื่อนทุกคน พิมพ์จรรย์  วิภารัชนิ์  กรรณิการ์  ภัทริน  ปรางทิพย์ ซึ่งกำลังรอฟังเรื่องเล่าของเธออย่างใจจดใจจ่อ

     
    หญิงสาวผมยาวทำเสียงอึกอักในลำคอนิดหนึ่งก่อนจะขยับนั่งหลังตรง  ดวงตาคู่นั้นมองผ่านแว่นสายตาและเปลวเทียนที่อยู่ตรงหน้า ผ่านข้ามห้องพักออกไปสู่เรื่องราวอันน่าสะพรึงกลัวเมื่อครั้งอดีตนานมาแล้ว

     
    พวกเธอเคยได้ยินเรื่อง ป๊อกครืด มั้ย…”

     
    เคยได้ยินปะติดปะต่อมาบ้าง ไม่เคยฟังชัดๆซักที วิภารัชนิ์ว่า

     

     ศศิหายใจลึก  ริมฝีปากขยับเล่าเหตุการณ์ที่ร่ำลือในหมู่นักศึกษารุ่นต่อรุ่นให้เพื่อนฟังว่า

     

     นานมาแล้วที่หอพกหญิงอีกฝั่งใกล้กับโรงบาลประสาท  มีนักศึกษาที่เป็นเพื่อนรักกันอยู่ในห้องพักเดียวกันห้องหนึ่ง  ค่ำวันหนึ่งมีคนไข้ประสาทหลอนหลบหนีออกจากโรงบาลไปได้ ในขณะเดียวกันที่หอพักไม่ไกลนักนักศึกษาหญิงที่เป็นเพื่อนกันอ่านหนังสือเตรียมสอบอยู่

     

     เมื่อถึงเวลาค่ำจะชวนกันออกไปกินข้าว  ก็ปรากฏว่ามีเพื่อนคนหนึ่งไม่สบายออกไปข้างนอกด้วยไม่ได้  เพื่อนอีกคนจึงอาสาฝ่าฝนไปซื้อข้าวเข้ามาให้โดยไม่รู้ข่าวคนไข้อันตรายที่กำลังหลบหนีอยู่เลย

     

     หลังจากนั้นเพื่อนคนที่ป่วยก็นอนพักไปได้ครู่ใหญ่  ขณะที่เธอกำลังครึ่งหลับครึ่งตื่นอยู่นั้นก็ได้ยินเสียงเบาๆ ขึ้นมาทางบันได

                                                       ป๊อก ครืด ป๊อก ครืด

     

     เสียงนั้นดังใกล้เข้ามาเรื่อยๆ จนถึงห้องนักศึกษาคนนั้นแล้วก็เงียบไป  นักศึกษาหญิงคนนั้นเอะใจจึงไปเปิดประตูก็เห็นแต่ห่อราดหน้าที่แขวนอยู่กับลูกบิดประตู  ส่วนพื้นมีรอยน้ำเป็นทาง

     

     รุ่งเช้านักศึกษาหญิงสร่างไข้จึงได้รู้ข่าวว่าเพื่อนร่วมห้องถูกฆ่าทิ้งไว้ในป่าข้างทางขณะกลับจากซื้ออาหารที่ตลาด โดยทั้งแขนและขาหักหมดทั้งสองข้าง  ส่วนราดหน้าที่แขวนไว้กับลูกบิดเมื่อคืนนั้นไม่มีใครรู้ว่ามาจากไหน  อาจจะเป็นเพราะความเป็นห่วงเพื่อนทั้งที่ตัวตายไปแล้ว  แต่วิญญาณของคนนั้นที่ยังไม่รู้ตัวว่าตยแล้วก็ยังใช้ปากคาบถุงราดหน้าและขยับลากตัวเองมาจนถึงห้องพักจนเป็นเสียงป๊อก ครืด จนแขวนถุงอาหารทีประตูห้องแล้วจึงหมดห่วง เป็นเรื่องของมิตรภาพที่อยู่เหนือความตาย

     

     น่ากลัวจังเลย ตายแล้วแต่เอาข้าวมาส่งเพื่อนเนี่ยนะ พิมพ์จรรย์กัดริมฝีปาก  รู้สึกอากาศในห้องเย็นขึ้นอีกหลายเท่า


     
    แต่เรื่องมันก็แปลกๆ นะ วิญญาณถ้าออกจากร่างแล้วจะยกเอาถุงอาหารที่เป็นวัตถุได้ไงล่ะ

     

     เรื่องนี้มีหลายแง่มุมที่น่าสงสัยที่หลายคนถกเถียงกัน  จนวันหนึ่งในอินเทอร์เน็ตก็มีคนมาสารภาพว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องแต่งเองเมื่อนานแล้ว  แต่ก็ไม่รู้ว่าคนที่มายอมรับนั้นสวมรอยมาหรือเปล่า  ดังนั้นเรื่องนี้จึงเป็นปริศนาอยู่ว่าเป็นจริงหรือแต่ง


    ทั้งห้องเงียบไปอึดใจหนึ่ง  ต่างคนต่างห่อตัวในผ้าห่มยิ่งกว่าเดิม  จบไปอีกเรื่องแล้ว  นาฬิกาเดินเข็มสั้นยาวมาที่เที่ยงคืนครึ่ง  ยังมีเวลาอีกมากสำหรับเรื่องน่ากลัวในคืนนี้  และผู้เล่าเรื่องคนต่อไปคือ วิภารัชนิ์
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×