คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : เล็กหมูน้ำตก : ชามที่หนึ่ง 1OO%
Chapter 1
“แฮะๆ บังเอิญจริงๆ ด้วย งั้นไปก่อนนะโฮซอก จีมิน พรุ่งนี้เจอกัน
อย่าไปสายล่ะ! ไว้คุยกันใหม่ครับพี่ยุนกิ
ราตรีสวัสดิ์ครับ”
ผมโบกมือบ๊ายบายสองสามทีให้กับเพื่อนใหม่ที่เดินมาส่งเขาที่บ้าน เมื่อถึงบ้านผมก็ทักทายพูดคุยเล่าเรื่องชีวิตในรั้วมหาลัยวันแรกให้พ่อกับแม่ฟังสักพักก่อนจะขอตัวขึ้นไปห้องนอนเพื่อพักผ่อน
วันแรกผมก็มีเพื่อนใหม่ที่น่ารักสองคนเลยครับ คนแรกชื่อจองโฮซอก
สูงโปร่ง หน้ายาว หน้าตาถือว่าดีใช้ได้ ใจดีด้วยครับ
เพิ่งรู้จักกันวันแรกเขาก็แบ่งขนมให้ผมกินด้วยล่ะ ส่วนเพื่อนใหม่อีกคนชื่อปาร์ค
จีมิน เขาเป็นเพื่อนสนิทของโฮซอกครับ ตัวเล็ก น่ารัก ตาตี๋ เวลายิ้มน่ารักมากๆ เลย
จีมินเขาอยู่หอพักใกล้ละแวกบ้านผมด้วยล่ะ ส่วนโฮซอกนี่ไม่รู้อยู่แถวไหน
ยังไม่ได้ทันได้ถามเขาก็วิ่งไปช่วยคนขายก๋วยเตี๋ยวเข็นรถก๋วยเตี๋ยว
เพื่อนผมนี่มีน้ำใจจริงๆเลย หวังว่าเราสามคนจะเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันนะ
อ่า...ผมอยากจะสนิทกับพวกเขาเร็วๆ จัง
ร่างบางเดินไปยืนมองกรอบรูปแล้วใช้มือแตะเบาๆ
ไปที่รูปของเด็กผู้ชายหน้าตาน่ารักคนหนึ่งในชุดนักเรียนมัธยม
“ฮยองวอนอ่า.. คิดถึงจัง” แทฮยองยิ้มบางๆให้กับคนในรูปถ่ายนั้น
“...”
“นายกำลังมองดูพี่จากที่ไหนสักแห่งใช่ไหม”
“...”
“นายเห็นใช่มั้ยว่าพี่ยิ้ม พี่ไม่ร้องไห้แล้วนะฮยองวอน”
“...”
“พี่จะทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับนายนะ
พี่จะพยายามรักษาสัญญา”
“...”
“พี่คิดถึงนายนะฮยองวอน”
“...”
แทฮยองเงยหน้า พยายามกลั้นน้ำตาไว้ไม่ให้ไหลอออกมาจากดวงตาคู่สวย
ร่างบางหยิบผ้าขนหนูก่อนจะเดินเปิดประตูห้องน้ำเข้าไป
บางทีสายน้ำอาจจะช่วยอำพรางหยดน้ำตาของเขาได้ ให้น้ำช่วยชะล้างความโศกเศร้าในจิตใจของเขาให้จางไปบ้างก็ยังดี
ซ่า....
น้ำจากฝักบัวไหลออกมาเป็นสาย
ตั้งแต่เส้นผมไหลลงไปตามผิวเนียนตั้งแต่แผ่นหลังไล่ลงไปจนถึงปลายเท้า
ร่างบางกำลังชำระล้างทำความสะอาดร่างกาย
มือเรียวบีบแชมพูใส่มือแล้วขยี้ไปที่เส้นผมสีน้ำตาลของตัวเองจนฟองสีขาวหนานุ่มเต็มหัวก่อนจะล้างมันออก
แทฮยองหยิบสบู่ก้อนเล็กมาลูบไล้ไปตามเรือนร่าง
ฟอกทำความสะอาดจากนั้นก็ล้างมันออกแล้วหยิบผ้าขนหนูสีแดงที่ราวมาซับหยดน้ำตามตัว
ก่อนจะสวมกางเกงบ็อกเซอร์ขาสั้นแล้วทับด้วยเสื้อยืดตัวโคร่งที่ชายยาวจนปิดขากางเกงของเขา
ทันทีที่ร่างบางเปิดประตูห้องน้ำออกมาก็ต้องตกใจกับสิ่งที่เห็นตรงหน้า
ก็ไอ่เด็กกวนประสาทที่ชอบมาวุ่นวานกับเขาน่ะสิ
ตอนนี้ส่งยิ้มหน้าบานโชว์ฟันกระต่ายนั่งอยู่ที่ปลายเตียงของเขา
“เห้ย!!! ไอ่เด็กบ้า
เข้ามาในห้องฉันได้ยังไงห้ะ?”
“จอนก็เดินเข้ามาไง
หรือพี่วีคิดว่าจอนหายตัวมาล่ะ” ร่างสูงตอบด้วยใบหน้ายิ้มยียวนกวนประสาทคนตรงหน้า
“ไอ่เด็กบ้า อย่ามากวนตีน ใครอนุญาตให้แกเข้ามา”
ร่างบางถามกลับด้วยความโมโห
“ก็คุณแม่ยายของจอนอนุญาตอ่ะ
เขาเห็นจอนยืนตะโกนเรียกพี่วีอยู่หน้าบ้าน พอผมบอกว่าเป็นรุ่นน้องพี่วี
คุณแม่ยายเลยบอกให้จอนขึ้นมารอพี่วีในห้องนี่ไง” จองกุกยังคงยิ้มโชว์ฟันกระต่ายให้คนตรงหน้า
ก่อนหน้านี้ผมขี่รถผ่านไปหน้าปากซอยเห็นลูกพี่พอดีเลยจอดคุยกันนิดหน่อย
พอคุยเสร็จก็ว่าจะขี่รถกลับบ้านเลย แต่มันทนความคิดถึงว่าที่แฟนในอนาคตไม่ได้
ต้องมาดูหน้าให้ชื่นใจ มาให้โดนด่าสักคำสองคำจอนจองกุกคนนี้ถึงจะนอนหลับฝันดี
ผมจึงเลี้ยวรถกลับมาหน้าบ้านพี่วีเหมือนเดิม เลยลองตะโกนเรียกหน้าบ้าน
จนแม่ของคนที่ตะโกนเรียกชื่ออยู่นั้นได้ยินเลยออกมาแล้ว
จึงรู้พี่วีเขาอาบน้ำอยู่เลยไม่ได้รับโทรศัพท์
พอผมบอกว่าที่แม่ยายของผมว่ามีธุระสำคัญจะคุยกับพี่วี
คุณแม่ยายก็สุดแสนจะใจดีจึงให้ขึ้นไปรอในห้อง สำรวจห้องจนทั่วดูนั่นดูนี่ไปเรื่อย
พอสิ้นเสียงหยดน้ำก็คิดว่าร่างบางคงอาบน้ำเสร็จแล้วจึงไปนั่งหล่อตรงหน้าประตูจนเจ้าของห้องเปิดประตูห้องน้ำออกมาเจอนั่นเอง
“แต่ฉันไม่อนุญาต ออกไปเดี๋ยวนี้
ไอ่เด็กบ้า”
แทฮยองไล่พลางเดินเข้าไปหาร่างสูง
ใจจริงก็กะจะเข้าไปดึงตัวอีกคนให้ออกไปจากห้อง
แต่เพราะเพิ่งออกมาจากห้องน้ำเท้ายังไม่แห้งดีนี่สิ
ร่างบางเลยลื่นหน้าทิ่มใส่คนตรงหน้าแทนซะงั้น ร่างสูงก็ดันมือไวมารับตัวผมไว้ในอ้อมกอดได้พอดี
มันจะเหมือนละครมากไปไหมเนี่ย! ผมอยากจะบ้าตาย!!!
“พี่วีคิดถึงจอนถึงขนาดพุ่งเข้าใส่เลยหรอ”
“ไอ่บ้า ใครจะคิดถึงเด็กกวนประสารทแบบนี้ ปล่อยโว้ย” แทฮยองตะโกนใส่หน้าอีกคน
ก็ตอนนี้จองกุกรวบเอวเขาไว้แน่นจนหน้าของทั้งสองคนห่างกันไม่เกินหนึ่งฝ่ามือ
“พี่วีพุ่งเข้ามาหาจอนเอง แล้วจะให้จอนปล่อยพี่ไปง่ายๆ เหรอ หึ”
ร่างสูงพูดจบก็ยิ้มมุมปากให้ร่างบางในอ้อมกอด ก่อนจะค่อยๆ เลื่อนหน้าเข้ามาใกล้แทฮยองเรื่อยๆ จมูกโด่งนั่นค่อยๆ
ซุกไซร้ไปยังซอกคอ สูดกลิ่นหอมอ่อนๆจากสบู่จากผิวสีแทนนั้น
ผัวะ!!!
“นี่แกจะทำอะไร ไอ่เด็กทะลึ่ง” สิ้นเสียงจากแทฮยอง ร่างสูงก็กระเด็นลงไปนอนกองอยู่ที่พื้นอีกฟากของเตียง
“โอ้ย พี่วีกล้าถีบจอนได้ไง
เกิดมาไม่เคยมีใครกล้าทำกับผมแบบนี้เลยนะพี่”
“ฉันไม่ตามไปกระทืบแกซ้ำก็บุญแล้วไอ่เด็กเวร” ร่างบางยืนมองคนที่นอนกุมท้องด้วยความซะใจ
“ผมแค่แกล้งพี่เล่นๆ เอง ไม่ได้คิดจะทำอะไรพี่จริงๆ
สักหน่อย” จองกุกพูดพลางค่อยๆ ดันตัวเองให้ลุกขึ้นยืน
“แกล้งเหี้ยอะไร ฉันไม่สนุกด้วยเว้ย” ผมสวนกลับด้วยความโมโหที่เจ้าเด็กนี่กล้ามาทำตัวรุ่มร่ามกับเขา
“คนอย่างจอนจองกุกไม่ทำอะไรคนที่รักหรอก ถ้าเขาไม่ยินยอม”
“แกจะทำหรือไม่ทำอะไรกับใครมันก็ไม่เกี่ยวกับฉัน
ออกไปจากบ้านฉันได้แล้วไอ่เด็กเวร หรือจะให้ฉันโทรเรียกตำรวจมาลากแกออกไป” พูดจบก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดเบอร์
“โหยยยย พี่วีอ่ะ
ช่วยทำตัวน่ารักเหมือนหน้าตาหน่อยได้ป่ะ คนอะไรดุยังกับ...”
“ยังกับอะไรห้ะ” ยังไม่รอให้ร่างสูงพูดจบแทฮยองก็ตะคอกเสียงใส่
“ยังกับ... หมีแพนด้า หมีแพนด้า หมีแพนด้าเขาว่าน่ารัก
จอนนั้นชัก ชักอยากจะเห็น อยากจะเห็นหมีตัวเป็นๆ อยากจะเห็น เห็นหมีแพนด้า เฮ้ะ
เฮ้ะ”จองกุกพูดพลางกำมือขึ้นแล้วหมุนๆ แล้วโยกตัวไปมา
“กินใบไผ่แล้วไปนอนซะ ไอ่เด็กติ๊งต๊อง” ผมพยายามกลั้นขำ
ทีแรกผมก็โมโหอยู่หรอก
แต่พอเห็นไอ่เด็กบ้านี้ร้องเพลงแล้วเต้นท่าหมีแพนด้าติ๊งต๊องนี่ผมก็อดขำไม่ได้
แต่ก็แค่แปบเดียวเท่านั้นแหละครับ ความโมโหมันกลับมาแล้ว
เกิดมาไม่เคยโดยใครมาไซร้คอ ไอ่เด็กบ้านี่มันบังอาจมาก ควรค่าแก่การโดนตีนของผมครับ
“เปลี่ยนจากใบไผ่เป็นกินพี่วีแล้วนอนได้ป่ะจ้ะ” ร่างสูงถามด้วยน้ำเสียงเด็กแว๊นซ์แซวสาว
“ไอ่เด็กเวร กลับบ้านแกไปเดี๋ยวนี้เลยไป
ถ้าไม่อยากโดนตีนอีก” ผมขู่อีกคน
ไอ่เด็กนี่มันจะปีนเกลียวมากไปแล้วนะ ผมอยากจะตบหัวอีกสักป้าบจริงๆ !!!
“โห่วววววววว สวย ดำ ดุ
จริงๆ นะพี่วีเนี่ย” จองกุกยังคงแซวต่อ
“ไอ่เด็กฟันจอบ แกอยากตายใช่มั้ยว้ะ” ร่างบางขึ้นเสียง
“โหยยยยยยยยยยย พี่ชอบความรุนแรงหรอเนี่ย เอะอะขู่ฟ่อๆ
คนหรืองูเขียวตัวไหม้”
“งูเขียวหางไหม้เว้ย” แทฮยองแก้ให้
“สำหรับพี่วี จอนว่าไหม้ทั้งตัวนะ55555555555555555555555555555”
จองกุกพูดจบก็หัวเราะลั่น
แทฮยองได้ยินก็พุ่งเข้าไปถีบคนที่หัวเราะอยู่
แต่ครั้งนี้เขารู้เอามือมาจับขาร่างบางไว้จนเสียการทรงตัวเซล้มเข้าไปอยู่ในอ้อมกอดของร่างสูงอีกครั้ง
“พี่นี่ชอบพุ่งเข้าใส่จอนจังเลย แอบชอบจอน
อยากอยู่ในอ้อมกอดของจอนก็บอกมาดีๆ ไม่ต้องใช้วิธีนี้ “ ร่างสูงยิ้มเยาะเย้ย
“แกนี่มัน นอกจากปากหมา กวนประสาทแล้วยังหลงตัวเอง”
แทฮยองพยายามดิ้นให้หลุดจากกอดของคนตรงหน้า
“จอนไม่ได้หลงตัวเอง แต่จอนหลงคนตรงหน้าจอนต่างหาก”
ร่างสูงพูดพลางจ้องตาร่างบางที่ตอนนี้กำลังจ้องเขากลับอยู่เช่นกัน
“หยุดแกล้งฉันสักที แล้วก็เลิกวุ่นวายกับฉันได้แล้วโว้ย”
แทฮยองพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง
ดวงตาของเขายังคงจ้องมองดวงตากลมอีกคู่
“จอนพูดจริงๆ นะ จอนหลงพี่วีจะตายแล้วเนี่ย
ก่อนพี่วีจะไล่จอน พี่ให้โอกาสจอนได้จีบพี่ก่อนดิ” เป็นครั้งแรกที่จองกุกแสดงสีหน้าจริงจังให้ร่างบางเห็น
ไอ่เด็กบ้านี่มัน เป็นอะไรของมัน จู่ๆ ก็มาพูดด้วยสีหน้าจริงจังแบบนี้
แล้วทำไมผมถึงใจเต้นแรงขนาดนี้เนี่ย จะมาเขินเจ้าเด็กกวนประสาทนี่น่ะหรอ เหอะ
ผมว่าผมต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ ใจเต้นแรงนี่อาจจะเป็นเพราะผมโมโหมากกว่า
ผมจะไปเขินได้ไง ไม่มีทาง....
“หื้ม? ว่าไงพี่วี
จ้องหน้าแล้วไม่พูดอะไร หมายความว่าไง หรือว่าหลงสเน่ห์จอนเข้าแล้วจ้ะคนดี”
ไม่ทันไรร่างสูงก็พูดจากวนประสาทเหมือนเดิม
“ห้ะ ไม่ใช่เว้ย วันนี้ฉันเหนื่อยมากล้ะ ช่วยปล่อยฉันแล้วกลับบ้านไปได้แล้ว”
แทฮยองเริ่มเสียงอ่อน เพราะง่วงนอนและหมดแรงที่จะเถียงกับคนตรงหน้าแล้ว
ตอนเย็นรับน้องที่มหาลัยก็เต้นไปเยอะจนหมดพลังงาน
ตอนนี้ร่างบางต้องการที่จะทิ้งตัวลงนอนหลับพักผ่อนเป็นที่สุด
“จริงๆ ผมแค่จะมาเจอหน้าพี่วีให้หายคิดถึงแล้ว
ถามคำถามสองคำถาม แค่พี่วีแหละชวนผมคุยซะยาว”
“ไอ่.... ช่างเหอะ จะถามอะไรก็รีบถามมา
ฉันไม่มีแรงจะเถียงด้วยแล้ว” ร่างบางเสียงตอบด้วยน้ำเสียงงัวเงีย
“จอนไปรอรับพี่วีกลับบ้านที่หน้ามหาลัยเป็นชั่วโมง
ทำไมพี่ใจร้ายหนีกลับเองอ่ะ เสียใจนะเนี่ย จอนปวดใจแรง มันเจ็บแปล๊บๆ เลยอ่ะ”
จองกุกพูดด้วยน้ำเสียงแอคติ้งสุดๆ
“วันนี้ฉันมีรับน้องเลยเลิกช้า
แล้วฉันไม่ได้บอกให้มารับหรือมารอฉัน ฉันกลับของฉันเองได้” ร่างบางตอบไปตามตรง
“แล้วใครมาส่งพี่ ไอ่ผู้ชายที่สูงๆ กับเตี้ยๆ ที่เดินมากับพี่นั่นใคร
มันมาจีบพี่วีของจอนเหรอ”
“ฉันจะไปไหนกับใคร กลับบ้านกับใครมันก็เรื่องของฉัน” แทฮยองหน้านิ่งมองอีกคน เจ้าเด็กคนนี้จะมาก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวของเขามากเกินไปแล้ว
“แต่เรื่องของพี่วีก็คือเรื่องของจอน”
“เรื่องของฉันมันก็เรื่องของฉัน ไม่ใช่ของแก จะมายุ่งกับชีวิตฉันทำไมเนี่ย”
“ก็จอนชอบพี่อ่ะ จอนจีบพี่วีอยู่
ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับพี่มันก็คือเรื่องของจอนดิ สรุปมันจีบพี่วีใช่ป่ะ”
จองกุกถามจริงจัง
เพราะก่อนหน้านี้ตอนที่เขาขับรถผ่านปากซอยบ้านของแทฮยอง
เขาเห็นร่างบางเดินมากับผู้ชายสองคน ในชุดมหาลัยเดียวกัน เดินคุยกันท่าทางสนิทสนม
ทำให้เขาหงุดหงิดมากๆ อยากจะจอดรถแล้วเข้าไปพาตัวแทฮยองออกมาซะตอนนั้น
แต่...ดันติดผู้โดยสารนี่สิ
ด้วยเกียรติของวินมอเตอร์ไซค์ที่ดีต้องส่งผู้โดยสารให้ถึงที่หมาย
เขาเลยต้องขับผ่านเลยไปเท่านั้น
ทำภารกิจส่งผู้โดยสารเสร็จก็รีบขับมาหาร่างบางที่หน้าบ้าน
ไลน์ไปเท่าไรก็ไม่ตอบ โทรศัพท์หาก็ไม่รับสาย
มันทำให้เขาว้าวุ่นใจจนต้องมาถามด้วยตัวเองนี่แหละ
“จีบบ้าจีบบออะไร นั่นเพื่อนฉัน
แล้วฉันจะไปไหนกับใครมันก็เรื่องของฉัน”
ผมรีบตอบปัด
ผมพร้อมจะหลับตลอดเวลาแล้วนะเนี่ย เพลียมากจริงๆ
“เอ้ะ พี่วีนี่พูดไม่รู้เรื่องหรอ ก็บอกอยู่ว่าจะจีบ
เรื่องของพี่วีมันก็คือเรื่องของจอน” จองกุกตอบด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“เออๆ ไว้ค่อยคุยได้มั้ย จะไปไหนก็ไป ฉันจะนอน” แทฮยองรีบไล่ เพราะตอนนี้ตาของเขาจะปิดอยู่แล้ว
“ไล่อีกแล้ว พี่นี่พูดไม่รู้เรื่องจริงๆ พี่วีไล่แล้วจอนเคยไปไหม
ก็ไม่เคยไปอ่ะ แล้วพี่วียังจะกล้ามาไล่จอนอีกหรอ หื้ม?”
“อื้อออ...”
“อ้าว ไม่เถียงแหะ ไม่เถียงถือว่าอนุญาตให้จอนจีบพี่วีนะ”
“อื้ออ...”
แทฮยองตอบกลับมาในลำคอ ตอนนี้หัวเขาพิงหลับไปกับอกของร่างสูง
คงเพราะเหนื่อยและเพลียจนหลับทั้งยืนไปในอ้อมกอดของอีกคนแบบนี้
“ไม่ด่าด้วยแหะ
พี่ใจอ่อนรับรักจอนแล้วอ่ะดิ”
“..............”
“อ้าว..... หลับซะแล้ว สิงโตหมดฤทธิ์กลายเป็นลูกแมวไปแล้วสินะ”
จองกุกพูดเบาๆ ทันทีที่เห็นร่างบางหลับไปทั้งๆ ที่อยู่ในกอดของตัวเอง
เขาค่อยๆ พยุงตัวร่างบาง ก่อนจะอุ้มไปวางลงบนเตียงนุ่ม
ร่างสูงดึงผ้ามาห่มให้คนที่นอนหลับสนิทอยู่
ก่อนจะใช้มือหนาลูบหัวคนตรงหน้าอย่างแผ่วเบา
จองกุกยิ้มบางกับภาพที่เห็น ก็แทฮยองคนที่ด่าเขาฉอดๆ
ตอนนี้กลับนอนนิ่งให้เขาได้จ้องมองแบบนี้ เส้นผมนุ่มสีน้ำตาล ผิวสีแทน ขนตายาว
จมูกโด่ง แก้มนิ่มๆและปากบางนั่น บอกได้คำเดียวว่า
“น่ารักเป็นบ้าเลยพี่วีเนี่ย... ฝันดีนะครับพี่วีของจอน”
ร่างสูงพูดเบาๆ ก่อนจะก้มจนปลายจมูกแตะเบาๆ ที่หน้าผากของร่างบาง
จากนั้นก็เดินไปปิดไฟตรงมุมห้องแล้วค่อยๆ เปิดประตูออกไป
ปล่อยให้คนบนเตียงได้นอนหลับพักผ่อน
“เห้อ ไปได้สักทีไอ่เด็กฟันจอบ” ร่างบางถอนหายใจออกมาทันทีที่ร่างสูงปิดประตูห้องนอนแล้วเดินออกไป
ถ้าผมไม่ใช้วิธีนี้มีหวังได้เถียงกับเจ้าเด็กบ้านั่นอีกยาวแน่ๆ
ตอนแรกก็คิดไว้ถ้าแกล้งหลับแล้วมันล่วงเกินอะไรผมขึ้นมาจริงๆ
ผมก็จะกระทืบมันให้ตายคาห้องผมเลยครับ แต่ดีนะที่มันไม่ทำอะไร
เอ่อ.. ไอ่ที่หอมหน้าผากเมื่อกี้ไว้แก้แค้นที่หลังล่ะกัน
ตอนนี้ผมเหนื่อยมากๆและอยากนอนพักสุดๆ พรุ่งนี้ต้องตื่นเช้าไปมหาลัยอีก
หลับตัดบทไปนี่แหละครับดีที่สุด ก็ไอ่เจ้าเด็กกวนประสาทนั่นพูดอะไรจริงจังแบบนั้น
ผมไม่ชอบตกอยู่ในสถานการณ์หน้าอึดอัดแบบนั้น ทำตัวไม่ถูกจริงๆครับ
ตอนนี้ขอนอนก่อน ร่างกายต้องการพักผ่อนครับ
เพราะชีวิตยังมีพรุ่งนี้เสมอพี่ตูนได้กล่าวไว้
เรื่องจัดการเจ้าเด็กกวนประสาทนั้นไว้คิดพรุ่งนี้แล้วกันครับ
.
.
.
.
.
แสงแดดอ่อนๆลอดผ้าม่านเข้ามาภายในห้องนอนสี่เหลี่ยมที่ถูกตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์สีขาวและดำแบบเรียบง่าย
ข้าวของเครื่องใช้ภายในห้องล้วนแต่เป็นสีขาวและดำเช่นเดียวกัน
“ตอนแรกคิดว่าห้องนอนจะสีสดใสมุ้งมิ้งฟรุ้งฟริ้งกระดิ่งแมวนะเนี่ย
ผิดคาดแหะ”
ร่างสูงพูดกับตัวเองก่อนจะเดินไปนั่งข้างๆ เตียง
ดวงตากลมจ้องมองไปยังคนที่หลับตาพริ้มอยู่ ปากรูปหัวใจนั่นยิ้มบางๆ
“ขนาดหลับยังน่ารักเลยนะพี่วีเนี่ย” ร่างสูงยิ้มเขินกับตัวเองเพียงแค่เห็นร้อยยิ้มของแทฮยองก็ทำให้หัวใจเขาเต้นแรง
เลือดสูบฉีดจนหน้าแดงขนาดนี้เลยหรอเนี่ย
“คงฝันดีถึงจอนอยู่ล่ะสิ ฮี่ๆ” จองกุกหัวเราะกับตัวเองเบาๆ
ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยเจอใครน่ารักและน่าหลงใหลเท่านี้มาก่อน
ที่ผ่านมาก็เคยแต่จีบสาวไปทั่วแต่ก็ไม่เคยจริงจักหรือเรียกใครว่าแฟน
ก็หยอดเล่นไปตามประสาคนหล่อหน้าตาดี นี่เป็นครั้งแรกที่เขาอยากจะจริงจังกับใครสักคน
คนๆนั้นก็คือแทฮยองที่กำลังหลับปุ๋ยอยู่ตรงหน้าเขาตอนนี้
“พี่วีตื่นได้แล้ว เดี๋ยวไปเรียนสายนะ” จองกุกพูดพลางใช้มือหนาลูบหัวร่างบางอย่างแผ่วเบาราวกับกลัวว่าถ้าทำอะไรรุนแรงไปคนตรงหน้าจะบอบช้ำ
“อื้อ... ฮยองวอน กลับมาหาพี่แล้วหรอ” ร่างบางดึงมือคนตรงหน้ามาแนบแก้ม
“....” ไม่มีเสียงตอบกลับจากอีกคน
“พี่คิดถึงนายมากเลยนะ ฮยองวอนอย่าทิ้งพี่ไปอีกนะ” แขนเรียวยาวกอดเอวคนตรงหน้าแน่นราวกับกลัวว่าเขาจะจากไป
โอ้ย จอนปวดใจ
กอดเอวเราแต่เรียกชื่อคนอื่น ไอ่ฮยองวอนนี่มันเป็นใคร เรียกหาแต่มันอยู่นั่นแหละ
หงุดหงิดแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ จองกุกได้แต่บ่นกับตัวเองในใจ
“ฮยองวอนกลับมาอยู่กับพี่นะ
เรากลับมาอยู่ด้วยกันเหมือนเดิมนะ” ร่างบางยังคงพูดต่อโดยไม่รู้เลยว่าคนที่กอดอยู่นั้นไม่ใช่คนที่เขาเรียกหา
“จอนจะไม่ทิ้งพี่วีไปไหนแบบเจ้าฮยองวอนนั่นแน่นอน จอนสัญญา” ร่างสูงลูบหัวคนที่หลับอยู่เบาๆ
“สัญญาแล้วนะ อยู่กับพี่นะ” แทฮยองกอดอีกคนแน่น
“จอนสัญญาด้วยหัวใจของจอนเลยจ้ะ”
“เอ๊ะ เดี๋ยวนะ” ร่างบางค่อยๆ
ลืมตาขึ้น ตื่นจากฝันจนเห็นภาพตรงหน้าชัดเจน
“อรุณสวัสดิ์จ้ะพี่วีจ๋า” จองกุกก้มลง
ริมฝีปากนิ่มสัมผัสเบาๆ ที่หน้าผากมนของคนที่เพิ่งลืมตาตื่น ทำให้แทฮยองตกใจร่างกายจึงมีปฏิกิริยาโต้ตอบกลับอัตโนมัติ
ผลั่ก...
“โอ้ย พี่วีนี่กะจะฆ่าจอนให้ตายเลยรึไง
ทีเมื่อกี้ยังกอดจอนแน่นอยู่เลย ตอนนี้มาถีบตกจากเตียง” ร่างสูงโอดครวญหลังจากลงไปนอนกอนอยู่ที่พื้น
“ก็ใครใช้ให้แกมาจูบฉันว้ะ” ร่างบางตอบกลับอย่างอารมณ์เสีย
เมื่อคืนเจ้าเด็กคนนี้ก็เข้าในห้องเขาโดยไม่ได้รับอนุญาต
กว่าจะไล่ให้ไปได้พอตอนเช้าตื่นมากลับมาเจอเจ้าเด็กคนนี้อีก
ทำเอาแทฮยองอารมณ์ไม่ดีตั้งแต่ตื่นนอน
“ก็คุณแม่ยายบอกให้จอนขึ้นมาปลุกพี่วีอ่ะ” ร่างสูงตอบกลับ
“เลิกเรียกแม่ฉันว่าแม่ยายได้แล้ว หรืออยากจะโดนตีนอีก”
แทฮยองขู่เจ้าเด็กกวนประสาทที่อยู่ข้างเตียง
“โดนถีบแต่ได้ทั้งกอดทั้งจูบก็ถือว่าคุ้มอยู่นะพี่วีจ๋า 5555555555555”
“แกนี่มันกวนตีน กวนประสาทจริงๆ”
“พี่วีเคยคิดจะพูดจาน่ารักๆ กับจอนบ้างป่ะ น้อยใจนะเนี่ย
เจ็บตรงนี้ที่หัวใจเวลาพี่วีด่าจอนอ่ะ” จองกุกแกล้งทำหน้าเศร้าเอามือกุมอกข้างซ้าย
“ไม่ เพราะแกกวนตีนฉัน ฉันจะพูดดีๆกับแกทำไม ไอ่เด็กบ้า” ร่างบางตอบกลับ
“แล้วถ้า... “
“ถ้าอะไร” ทันทีที่สิ้นเสียงแทฮยอง
ร่างสูงที่นั่งอยู่ที่พื้นก็ลุกขึ้นมาด้วยความเร็วแล้วขึ้นคร่อมร่างบางที่อยู่บนเตียง
“ถ้าจอนพูดจาดีๆ หวานๆกับพี่วีล่ะครับ พี่วีจะทำตัวน่ารักกับจอนไหม
หื้ม?” จองกุกบอกร่างที่นอนอยู่ใต้ตัวเขา
“เห้ย...” ร่างบางอุทานด้วยความตกใจ
ก็สถาณการณ์ตอนนี้มันล่อแหลมซะเหลือเกิน
“หื้ม? ว่าไง พี่วีตอบมาก่อนสิครับ
ต้องทำยังไงพี่วีถึงจะทำตัวน่ารักให้เหมือนหน้าตาพี่วีอ่ะครับ” ร่างสูงโน้มหน้าต่ำลงมาใกล้จนปลายจมูกของตนขนกับปลายจมูกของอีกคน
“ไอ่เด็กบ้า ลุกไปเดี๋ยวนี้ก่อนจะโดนถีบอีกรอบ” แทฮยองเสียงแข็งสายตาจ้องมองสู้กับสายตาของอีกคนที่อยู่ข้างบนตัวของเขา
“ถ้าได้จูบพี่อีกทีแล้วผมโดนถีบก็ยอม
แต่รอบนี้จะไม่จูบที่หน้าผากหรอกนะ ผมจะจูบที่...” จองกุกค่อยๆก้มหน้าลงจนริมฝีปากของทั้งสองห่างกันไม่ถึงสองเซนติเมตร
“หยุดนะเว้ยไอ่เด็กเวร” ร่างบางเบือนหน้าหนีจนริมฝีปากของคนข้างบนสัมผัสลงตรงแก้มนิ่มแทน
“แก้มพี่นิ่มจริงๆ ไหนหอมมั้ยขอลองอีกรอบ”
ฟอดดดด
ทันทีที่พูดจบร่างสูงก็ก้มลงใช้ปลายฟัดไปเบาๆที่แก้มนิ่มจนตอนนี้
คนที่ถูกกระทำนั้นหน้าแดงไปแล้ว
“ไอ่เด็กเวรรรรรรรรรรรรรรรรรร” ร่างบางใช้เรี่ยวแรงที่มีทั้งผลักทั้งถีบอีกคนออกไปจนหงานหลังตกเตียงไปนอนกองอยู่ที่พื้นห้อง
ก่อนจะวิ่งไปหยิบผ้าขนหนูแล้ววิ่งเข้าห้องน้ำไป
“โอ้ย…..” ร่างสูงร้องโอดครวญที่โดนถีบตกลงมากองอยู่ที่เดิม
นี่เห็นว่าเป็นพี่วีนะเลยให้อภัย
แต่เขินแล้วทำไมต้องใช้ความรุนแรงด้วยเนี่ย ไอ่จอนจะตายคาตีนคนที่รักก็งานนี้แหละ
จองกุกคิดถึงอนาคตของตัวเอง นี่เขาจะต้องโดนอีกกี่ตีนถึงจะได้คนน่ารักมาเป็นแฟน
คิดแล้วก็ขำไปยิ้มไป มันก็ถือว่าคุ้มอยู่กับการโดนถีบแต่ได้ทั้งจูบทั้งหอมทั้งฟัดแก้มนิ่มของร่างบาง
คนอะไรขนาดเพิ่งตื่นยังหอม
คิดแล้วก็หมั่นเขี้ยวอยากจะพังประตูเข้าไปฟัดคนน่ารักถึงข้างในห้องน้ำ
แต่ถ้าทำแบบนั้นจริง คงไม่โดนแค่ตีนแน่ๆ
แต่คงจะได้ความเกลียดชังและโดนกระทืบตายคาตีนก่อนจะได้หัวใจมาครอง
ซ่า....
“หึ่ยยย ..”
มือเรียวบรรจงถูที่แก้มของตัวเอง
พยายามจะล้างรอยที่โดนอีกคนจูบมาให้ออกไปให้หมดสิ้น เพราะมัวแต่เถียงอยู่กับเจ้าเด็กกวนประสาทนั่นกว่าจะได้เข้ามาอาบน้ำก็เกือบสาย
ร่างบางรีบอาบน้ำก่อนจะเช็ดตัวจนแห้งหมาด
ทันใดนั้นก็นึกได้ว่าหยิบก่อนหน้านี้เขารีบหนีเข้ามาในห้องน้ำ
คว้ามาแค่ผ้าขนหนูผืนเดียว ลืมหยิบชุดนักศึกษาเข้ามาด้วย
“โอ้ย ทำไมต้องลืมวันนี้ด้วยว้ะเนี่ย
ไอ่เด็กเวรนั้นมันจะยังอยู่มั้ยว้ะ” ร่างบางบ่นพลางเอามือทึ้งหัวตัวเองด้วยความหงุดหงิด
“ไอ่เด็กบ้า แกยังอยู่ในห้องฉันรึเปล่า” ร่างบางเรียกตะโกนถามอีกคน
“.....” ไม่มีเสียงตอบกลับ
“ไอ่เด็กบ้า ได้ยินฉันป่ะเนี่ย” แทฮยองตะโกนเรียกหาคนที่อยู่อีกฝั่งของประตูห้องน้ำ
“หึ......” ร่างสูงได้ยินแต่แกล้งทำเป็นไม่ได้ยิน
นั่งแสยะยิ้มอยู่บนเตียง ภายในหัวผุดความคิดบางอย่างขึ้นมา
แกร่ก...
ร่างบางค่อยแง้มประตูห้องน้ำออกมา
ภาพที่เห็นคือร่างสูงนั่งอยู่บนเตียงนอนของเขาเอง โดยที่กำลังมองมาที่เขาด้วยสีหน้าที่ดูแล้วไม่น่าไว้ใจ
“ไอ่เด็กบ้า ฉันเรียกแล้วทำไมไม่ตอบ” แทฮยองตะคอกอีกคนด้วยความโมโห
ถ้าเป็นปกติเขาคงนุ่งผ้าขนหนูแล้วเดินออกไปเอาเสื้อผ้ามาแต่งตัวเอง
แต่วันนี้มันมีคนอื่นอยู่ด้วยนี่สิ
ยิ่งเป็นไอ่เจ้าเด็กกวนประสาทที่ขโมยจูบเขาไปอีก
ยิ่งไม่ปลอดภัยที่เขาจะเดินออกมาจากห้องน้ำด้วยผ้าขนหนูเพียงแค่ผืนเดียว
“อยากได้เสื้อผ้าล่ะสิ หึ” ร่างสูงเอ่ยถามก่อนจะยิ้มมุมปาก
“เออดิ ไปหยิบมาให้หน่อย อยู่ในตู้เสื้อผ้า” ร่างบางบอกอีกคน
“อยากได้ก็ออกมาหยิบเองดิพี่วี” จองกุกพูดพลางเอนตัวลงนอนบนเตียงของร่างบาง
“แกอย่ากวนตีนฉันนะ นี่สายแล้ว ไปหยิบให้หน่อยเร็วๆ” แทฮยองออกคำสั่ง
“จอนหยิบให้ก็ได้ แต่ต้องมีข้อแลกเปลี่ยน” ร่างสูงเอ่ย
“ข้อแลกเปลี่ยนอะไรก็ว่ามา เร็วๆเดี๋ยวฉันไปเรียนสาย”
“พี่วีต้องให้จอนเป็นคนคอยไปรับไปส่งพี่วีที่มหาลัยทุกวัน
ห้ามกลับบ้านเอง ห้ามให้คนอื่นมาส่งด้วย” จองกุกยื่นข้อเสนอ
“แล้วถ้าวันไหนฉันเลิกเรียนแล้วไม่กลับบ้านล่ะ”
“ก็ต้องบอกจอนล่วงหน้า จะไปไหนก็ต้องบอกจอน”
“แกเป็นแม่ฉันหรอ ถึงต้องรายงานขนาดนี้อ่ะ” แทฮยองถามกลับด้วยความรำคาญ
ก็ขนาดพ่อแม่ของเขาเอง เขายังไม่ต้องคอบรายงานความเคลื่อนไหวขนาดนี้เลย
“จอนเป็นคนที่จีบพี่วีอยู่ไง จะไปไหนจอนต้องรู้ จอนเป็นห่วง
จอนหวงด้วยเพราะพี่วีน่ารัก ตกลงตามนี้พี่วีมาเป็นสก๊อยสาวให้จอน โอเคนะตามนี้”
ร่างสูงตอบกลับอย่างเอาแต่ใจก่อนจะเดินไปหยิบเสื้อผ้าในตู้แล้วเดินไปหาร่างบางที่หน้าประตูห้องน้ำ
“ขอบใจ” ร่างบางพูดพลางยื่นมือไปหยิบเสื้อแต่ไม่ทันจะได้ก็โดนร่างสูงดึงกลับไปซะก่อน
“ขอบใจอย่างเดียวได้ไง ตกลงก่อนว่าจะทำตามข้อเสนอของจอน”
จองกุกถามยืนยัน
“เออออออ ตกลงให้แกคอยรับส่งฉันไปมหาลัย รีบๆ
เอาเสื้อผ้ามาได้แล้ว” แทฮยองบอกปัดด้วยความรำคาญ
“ตกลงแล้วนะ อ่ะนี่ครับเสื้อ นี่กางเกง นี่บ็อกเซอร์”
ร่างสูงยื่นให้ร่างบางด้วยรอยยิ้มแห่งชัยชนะ
ร่างบางก็ไม่ได้ตอบหรือพูดอะไร
เพราะไม่อยากจะต่อปากต่อคำให้เสียเวลาไปมากกว่านี้ รีบคว้าเสื้อผ้ามาแล้วปิดประตูกห้องน้ำใส่อีกคนก่อนจะแต่งตัวแล้วออกมาผูกเนคไทแล้วจัดแต่งผมอยู่หน้ากระจกในเวลาไม่ถึงห้านาทีก็เสร็จเรียบร้อย
“ลุกจากเตียงนอนของฉันแล้วรีบไปส่งฉันได้แล้ว” แทฮยองหันไปบอกอีกคนที่นอนเล่นสมาร์ทโฟนอยู่บนเตียง
“เดี๋ยวนะ นั่นมันโทรศัพท์ฉันนี่ ไอ่เด็กไม่มีมารยาท”
แทฮยองพุ่งเข้าไปแย่งโทรศัพท์มือถือมาจากอีกคน
“ผมแค่เอามาส่งรูปเองพี่วีอย่างกสิ
รูปพี่วีน่ารักเยอะแยะเลยของแบบนี้ต้องแบ่งปัน55555555555555555555” ร่างสูงหัวเราะอย่างมีความสุขหลังจากที่ได้รูปของคนที่ชอบมาเต็มเครื่อง
“แกนี่มันกวนประสาทฉันจริงๆ
ไม่มีเวลามาเถียงด้วยแล้วโว้ย อยากไปส่งฉันนักก็รีบไปส่งดิว้ะ”
พูดจบแทฮยองก็หยิบกระเป๋ากับโทรศัพท์แล้วเดินออกจากห้องไปทันที
ร่างสูงได้ยินเช่นนั้นจึงกระโดดลงจาเตียงแล้วเดินตามคนน่ารักไปอย่างอารมณ์ดีมีความสุขจนหน้าบานยิ้มเห็นฟันกระต่าย
“เกาะแน่นๆ นะครับคนน่ารักของจอน” จองกุกเอ่ยบอกอีกคนที่นั่งอยู่ข้างหลัง
“เออ ขี่ดีๆ ให้ฉันไปเรียนทันนะไอ่เด็กบ้า”
สิ้นเสียงของแทฮยอง จองกุกก็บิดรถด้วยความเร็วไปตามท้องถนน
ถึงแม้รถจะติดแต่ด้วยความที่เป็นรถมอเตอร์ไซค์จึงแทรกตามช่องระหว่างรถที่ติดอยู่นั้นไปได้โดยใช้เวลาเพียงไม่ถึงสิบห้านาทีก็พาร่างบางมาถึงที่หมายอย่างปลอดภัย
“ถึงแล้วจ้ะพี่วีจ๋า ตอนเย็นอย่าลืมข้อตกลงของเราล่ะ
จอนจะมารอพี่วีตรงนี้นะจ้ะ” ร่างสูงพูดย้ำอีกคนเพราะกลัวจะลืม
“เออๆ ขอบใจนะที่มาส่ง” แทฮยองบอกก่อนจะยื่นหมวกกันน็อคคืนให้
“ด้วยความเต็มใจเลยจ้ะ รับส่งว่าที่แฟนแค่นี้จอนทำได้”
จองกุกยิ้มกว้าง
“เพ้อเจอ เลิกมโนแล้วจะไปไหนก็ไป
ฉันจะเข้ามหาลัยแล้วไอ่เด็กบ้า” ร่างบางไล่แล้วรีบเดินเข้ามหาวิทยาลัยไปอย่างเร็ว
“ตั้งใจเรียนนะจ้ะพี่วี
ตอนเย็นเจอกันนะจ้ะสุดที่รักของจอน55555555555555555555555” ร่างสูงตะโกนไล่หลังอีกคนไปก่อนจะหัวเราะลั่น
เห็นร่างบางแล้วมันหมั่นเขี้ยวอยากแกล้ง
อดไม่ได้ที่จะพูดจากวนใจให้หงุดหงิด ผู้ชายจะชอบแกล้งคนที่ชอบ
เพิ่งเข้าใจก็วันนี้แหละ
เขารอดูจนคนน่ารักเดินพ้นสายตาไปจึงขี่รถกลับไปทำกิจกรรมยามว่าง
ขับวินมอเตอร์ไซค์รับส่งผู้โดยสาร ฆ่ารอเวลาที่จะมารับแทฮยองกลับบ้านตอนเย็น
“เห้อ เมื่อไหร่ไอ่เด็กบ้านั่นจะเลิกวุ่นวายกับชีวิตฉันเนี่ย”
“ใครหรอ แทแท”
“ก็เจ้าเด็กแว๊นบ้านั่นน่ะสิ อ้าวเห้ย โฮซอกมาตั้งแต่เมื่อไหร่”
ร่างบางถามคนที่จู่ๆ ก็โผล่มาจากไหนก็ไม่รู้
“มาตั้งแต่ตอนที่แทแทนั่งทำหน้าบูดหน้าเบี้ยว บ่นคนเดียวอยู่นี่แหละ”
อีกคนตอบไปก่อนจะนั่งลงบนม้านั่งตรงข้ามร่างบาง
“อ่า ฉันไม่เห็นรู้เลยอ่ะ ขอโทษนะ” แทฮยองก้มหัวให้อีกคนเล็กน้อย
“เห้ย ขอโทษทำไม ว่าแต่บ่นถึงใครน่ะ แฟนหรอ”
“เปล่าๆๆๆๆๆๆ ไม่ใช่แฟนนะ ไม่ใช่
เราไม่ได้เป็นอะไรกับเจ้าเด็กบ้านั่นนะ” ร่างบางรีบปฏิเสธ
“แหนะๆ มีพิรุธนะเนี่ย รีบปฏิเสธขนาดนี้
แทแทน่ารักขนาดนี้ไม่มีแฟนได้ไง เป็นไปไม่ได้อ่ะ” พูดพลางดึงแก้มคนตรงหน้าเบาๆ
“โฮซอกเชื่อฉันสิ ฉันพูดจริงๆนะ” แทฮยองพองแก้มทำหน้างอนเพราะอีกคนไม่ยอมเชื่อที่เขาพูด
“น่ารักขนาดนี้ ให้ฉันเชื่อได้ไงว่าโสด
ดูดิขนาดนั่งอยู่ตรงนี้กับฉัน ยังมีคนหันมามองแทแทตลอดเลยนะรู้ตัวรึเปล่าเนี่ย”
มือยังคงดึงแก้มนิ่มของคนน่ารักอยู่
“ตลกน่าโฮซอก ก็เอ่อ.. เคยมีน่ะ แต่ตอนนี้ไม่มี” ร่างบางตอบเสียงแผ่ว
“ไอ่คนที่นั้นมันโง่จริงๆ ที่ปล่อยคนน่ารักอย่างแทแทให้หลุดมือไป
แต่ก็ดีแล้วล่ะ” พูดพลางยิ้มกว้างให้คนตรงหน้า
“ดีอะไรอ่ะ หมายความว่าไง” แทฮยองเอียงคอถามด้วยความสงสัย
“ก็...เอ่อ ไม่มีอะไรๆ ฉันก็พูดไปเรื่อยน่ะ
แล้วสรุปไอ่เด็กบ้าที่แทแทบ่นถึงมันเป็นใครอ่ะ มันมาตามจีบแทแทหรอ
มีอะไรให้ช่วยจัดการบอกได้นะ”
“เด็กแว๊นซ์แถวบ้านน่ะ
ช่างมันเหอะ เดี๋ยวมันเบื่อก็เลิกยุ่งไปเองแหละ ขอบใจมากนะโฮซอก ฮี่ๆ” ร่างบางตอบก่อนจะยิ้มกว้างจนปากเป็นรูปหัวใจให้คนตรงหน้า
“น่ารักจริงๆเลยนะ แทแทเนี่ย หมั่นเขี้ยว แอร้ยยยยยยยยย”
โฮซอกเอ่ยชมก่อนจะยีหัวแทฮยองเบาๆ
ก็เพื่อนเขาคนนี้ไม่ว่าจะทำอะไรก็น่ารักไปหมดขนาดอยู่เฉยๆ ยังน่ารักเลย
จนบางทีเขาเองก็ยังหลงเสน่ห์ในความน่ารักของเพื่อนคนนี้ นี่ถ้าไม่ติดว่าแอบชอบพี่ยุนกิมาหกปี
เขาคงตกหลุมรักเพื่อนใหม่ที่เพิ่งรู้จักกันตอนเข้ามหาลัยคนนี้เป็นแน่
“ย๊า ทำอะไรกันน่ะสองคนนี้” ร่างเล็กเอ่ยทักก่อนจะนั่งลงม้านั่งตรงกลางระหว่างแทฮยองกับโฮซอก
“เปล่า ไม่ได้ทำอะไร ไม่มี๊” โฮซอกรีบตอบพลางโบกมือไปมา
“ก็กูเห็นอยู่ไอ่หน้ายาว อย่ามาปฏิเสธ อย่ามาเสียงสูง”
จีมินชี้หน้า
“เราก็แค่คุยกันเรื่อยเปื่อยน่ะจีมิน” แทฮยองช่วยเสริมโฮซอก
“เออใช่ๆ กำลังคุยว่าเมื่อไหร่มึงจะมาไงไอ่เตี้ย ช้าตลอด”
“ฉันเชื่อแทฮยองก็ได้
ไอ่หน้ายาวมันไม่ได้หลอกล่ออะไรแทฮยองใช่ป่ะ” จีมินหันไปกุมมือร่างบางพร้อมกับจ้องมองไปที่ดวงตาคู่สวยนั่น
“หลอกล่ออะไรของนายน่ะจีมิน ฉันไม่ใช่เด็กๆ ที่ใครจะเอาขนมมาล่อได้ง่ายๆ
นะ” คนน่ารักพูดก่อนจะยิ้มกว้างให้จีมิน
“ใครจะไปเหมือนมึงไอ่เตี้ย
ใครเอาของกินมาล่อมึงก็ใจง่ายไปกับเขาล้ะ”
โฮซอกพูดพลางดึงมือร่างเล็กออกจากคนตรงหน้า ก็เพื่อนตัวเล็กของเขาเนี่ย
เอะอะตีเนียนเกาะแกะแทฮยองตลอด นี่เพราะห่วงแทฮยองหรือหึงกันแน่
แต่จะด้วยเหตุผลอะไรก็ช่างเถอะ ยังไงก็ไม่ชอบให้ใครมาถูกเนื้อต้องตัวร่างบางจริงๆ
คนสมัยนี้ไว้ใจไม่ค่อยได้ เดี๋ยวจะมาล่อลวงเพื่อนคนน่ารักของเขา ไม่ได้ล่ะ
จองโฮซอกต้องคอยปกป้อง
“ก็กูหิวอ่ะมึง
อะไรของมึงเนี่ยทีเมื่อกี๊มึงยังจับแก้มลูบหัวแทฮยองได้เลยอ่ะ กูเห็นนะ
มึงอย่ามาใจหมาหน้าม้า”
“กูก็เล่นกับแทแทตามประสาเพื่อน มึงอ่ะแหละไอ่เตี้ย
เนียนเกาะแกะแทแทตลอด” โฮซอกสวนกลับ
“กูก็เล่นกับแทฮยองตามประสาเพื่อน เนอะแทฮยองเนอะๆๆๆๆ”
ร่างเล็กพูดพลางเอาหัวถูแขนร่างบาง
“พวกนายอย่ากัดกันดิ มาเล่นด้วยกันสามคนนี้แหละ
ก็พวกเราเป็นเพื่อนกันนี่นา” แทฮยองยิ้มตายีให้ทั้งสองคน
“น่ารักกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก”
โฮซอกและจิมินพูดออกมาพร้อมกันทันทีที่เห็นรอยยิ้มของร่างบาง
“กรี๊ดดดดดดดดด กูดีใจว่ะมึง ตั้งแต่มีแทฮยองเป็นเพื่อน
ชีวิตกูสดใสน่ารักมุ้งมิ้งฟรุ้งฟริ้งกระดิ่งแมวมากเลยว่ะ” จีมินกรี๊ดกร๊าด(?)ออกมาเสียงดัง
“อ่าวแล้วกูล่ะไอ่เตี้ย” โฮซอกถาม
“มึงมันไม่น่ารักอ่ะ มึงมันหน้าม้า 555555555555555555555555555555555555”
ร่างอวบหัวเราะลั่น
“เดี๋ยวกูตบให้เตี้ยกว่าเดิมเลยไอ่หมู” โฮซฮกพูดพลางง้างมือ
“แทแฮยองไอ่หน้าม้ามันจะทำร้ายฉันอ่ะ ฉันกลัว
ฮือออออออออออ” จีมินเอนไปซบร่างบาง
“โฮซอกอย่าแกล้งจิมินน่า พวกเรามาคิดกันดีกว่าว่าจะหาพี่รหัสยังไงจากคำใบ้ที่ได้มา”
แทฮยองชวนเปลี่ยนเรื่องคุยก่อนที่เพื่อนของเขาทั้งสองคนจะตีกันตายซะก่อน
เขารู้จักกับโฮซอกและจิมินที่มหาลัยนี้ ทั้งสามคนเรียนคณะเดียวกัน
ทั้งสองคนคอยช่วยเหลือและดูแลดีมากๆ
เขาเองก็อยากจะสนิทกับโฮซอกและจีมินให้มากกว่านี้ โดยเฉพาะกับจองโฮซอก
เพื่อนคนนี้ทำให้แทฮยองรู้สึกสบายใจและเป็นตัวของตัวเองเวลาที่อยู่ด้วย
“เออว่ะ นี่กลับบ้านไปนอนตีลังกาคิด
นอนเอาตีนก่ายหน้าผากก็แล้ว คิดยังไงก็คิดไม่ออก” จีมินบ่นให้เพื่อนทั้งสองฟัง
“ขามึงสั้นขนาดนี้ก่ายหน้าผากถึงหรือไอ่เตี้ย 555555555555555555555555555555”
โฮซอกแซวร่างเล็กก่อนจะหัวเราะลั่น
“คุณจองโฮซอกครับ ช่วยมีมารยาทหน่อยครับ
คนเขากำลังจริงจัง นี่กูจริงจังอยู่นะ” จีมินแกล้งทำหน้าเคร่งเครียด
“เครียดไปแล้วจะคิดออกหรอ ต้องทำให้สมองปลอดโปร่งดิ
จะได้คิดออกไง”
“ก็จริงของโฮซอกนะจิมิน อย่าเครียดน้า” แทฮยองพูดพลางเอามือลูบหัวเกาคางร่างเล็ก
“บรู้วววววว” จีมินแกล้งหอน
ทำหน้าเคลิ้ม
“มึงก็ตลกไปล่ะครับเพื่อน หอนซะเหมือนเชียว
หรือแอบไปรับจ้างเป็นหมา55555555555555555555555”
“ถ้ากูหมา มึงก็ม้าแล้วล่ะครับ แหม่
ว่ากูไม่ดูฟันหน้าตัวเองเลยครับ” จีมินตอกกกลับ
“เมี้ยว เมี้ยว... “ ร่างบางแกล้งทำท่าแมว
ร้องเสียงหวาน
“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดด น่ารัก แมวน้อยของจีมิน”
ร่างเล็กดึงแก้มนิ่มของแทฮยอง
“โอ้ย อยากเลี้ยงแมวเลยครับ ให้ตายเถอะ
แทแทนี่ทำอะไรก็น่ารักไปหมดเลย เหนื่อยใจจริงๆ มีเพื่อนน่ารักแบบนี้” โฮซอกพูดพลางดึงแก้มอีกข้างที่ว่างอยู่ของคนน่ารัก
“ก็ฉันเห็นพวกนายเป็นหมา เป็นม้ากันนี่ ฉันเลยอยากเป็นแมวบ้าง ฮี่ๆ”
“อย่าน่ารักมากไปกว่านี้นะแทฮยอง เดี๋ยวเราสองคนหวั่นไหว55555555555555555555555555”
โฮซอกพูดก่อนจะหัวเราะรัวๆ
“ช่างไม่รู้อะไรบ้างเลย ในความคุ้นเคยกันอยู่
มันแฝงอะไรบางอย่างที่มากกว่านั้น” จีมินร้องเพลงพร้อมกับจ้องหน้าแทฮยอง
“พวกนาย... บางทีก็น่ากลัวเนอะ... “ ร่างบางถอยตัวออกห่าง
“พวกเราล้อเล่นน่ะแทแท
เพื่อนกันมันเปลี่ยนสถานะไม่ได้หรอก55555555555555555555555” โฮซอกบอกปัด
“อื้อ นั่นสินะ เพื่อนกันจะมาชอบกันได้ไง” แทฮยองพูดเบาๆ หลังจากได้ยินประโยคของคนตรงหน้า
ทำไมเขาถึงรู้สึกผิดหวังที่ได้ยินแบบนั้น
“เห้ย นึกออกแล้ว” จู่ๆ จีมินก็ตะโกนออกมา
“ห้ะ นายรู้แล้วหรอจีมินว่าใครคือพี่รหัส” ร่างบางถาม
“ขาว สวย หมวย เซ็กซี่ ขยี้มด ต้องใช่พี่ดาซมแน่ๆ”
ร่างเล็กตอบอย่างมั่นใจ
“ทำไมมึงถึงคิดว่าเป็นเจ๊แกว้ะ
พี่ปีสี่คณะเราก็ขาวสวยหมวยตั้งหลายคน” โฮซอกถามต่อ
“ก็บ้านพี่ดาซมขนมหวานอยู่ในตลาดบางท่านนี่ไงมึง วันก่อนกูไปกินมาแล้วเจอพี่เขาไปช่วยแม่ขายของที่ร้านอ่ะ
ขนมหวานมันต้องมีมด พี่แกต้องขยี้มดบ่อยไง555555555555555555555”
“คบกันมาหกปีเห็นมึงฉลาดก็วันนี้แหละ”
“โห จีมินฉลาดจัง คิดให้เราบ้างสินะๆๆๆๆ” ร่างบางพูดอ้อนอีกคน
“ไม่ต้องอ้อนเราก็ช่วยแทฮยองอยู่แล้วล่ะ
เพราะเราหล่อและใจดีมาก5555555555555555 ไหนๆ คำใบ้อะไร” จิมินถาม
ร่างบางล้วงกระดาษที่พับอยู่ในกระเป๋ากางเกง ก่อนจะค่อยๆ
คลี่ออกแล้วอ่านคำใบของพี่รหัสให้เพื่อนทั้งสองฟัง
“อาร์ยูเลดี้แอนด์เจนเทิลแมน เกิลเลทมีโน้ว
เอฟวี่บาดี้เซย์โน้ว ไอนี้ดยูเกิล ด้อนวอนนาบีฟูล วอนนาบีคูล วอนนาบีเลิ้บ
เบบี้ไอว้อนอิท คาราเมลมัคคิอาโต้ เบบี้เบบี้ทูไนท์ เย้เฮ”
แทฮยองตั้งใจอ่านคำใบ้จนจบพอเงยหน้ามาก็พบว่าเพื่อนทั้งสองอ้าปากค้างกับสิ่งที่ได้ยิน
เขาเองตอนเปิดอ่านครั้งแรกก็ยังตกใจ นี่มันคำใบ้หรือประโยคสนทนาภาษาอังกฤษ
พี่รหัสเขาเป็นชาวต่างชาติรึไงกัน
“นั่นสาบานนะว่าคำใบ ไม่ใช่เนื้อเพลง” โฮซอกถาม
“เออมึง กูว่ามันคุ้นๆ เหมือนเนื้อเพลงเลยว่ะ
วงที่กำลังดังอยู่ตอนนี้เลยอ่ะ” จีมินเสริม
“ใช่ๆ วงอะไรนะ อ้อ บังทันโซนยอดันไงมึง
ที่แรปเปอร์เขาหน้าตาหล่อๆอ่ะ” โฮซอกพูดต่อ
“แต่เมนโวคอลของวงที่ตัวเล็ก มีซิคแพคอ่ะมึง
กูว่าเขาหล่อกว่าแรปเปอร์นะเว้ย ไอ่แรปเปอร์คนนั้นกูว่ามันบ้าไปว่ะ” จีมินแย้ง
“แต่เราว่าคนที่ชื่อวีอ่ะเท่ห์ดีนะ เสียงก็ดี
เวลายิ้มก็น่ารัก” แทฮยองแย้งบ้าง
“เอ้อ จะว่าไปเวลาแทฮยองยิ้มก็น่ารักคล้ายคนชื่อวีเลยนะ
โห เพื่อนเราน่ารักเหมือนไอดอลเลยนะเนี่ย” โฮซอกพูดพลางยีหัวคนน่ารักเบาๆ
“แทฮยอง เรานึกออกแล้ว
เราคิดว่าพี่รหัสของแทฮยองต้องเป็นพี่แจ็คสันแน่เลย
เราได้ยินมาว่าพี่เขาจบมัธยมจากเมืองนอกเลยนะ ก่อนจะมาสอบเข้ามหาลัยที่นี่อ่ะ”
“จีมินนี่รู้เยอะจังเลยอ่ะ ดีจัง” แทฮยองเอ่ยชม
“ก็จีมินมันชอบเสือกเรื่องชาวบ้านอ่ะแทแท ใครแฟนใคร
เลิกกับใครอะไรยังไงมันรู้หมด รู้ทุกเรื่องยกเว้นเรื่องของตัวเอง 5555555555555555555”
โฮซอกแซะเพื่อนร่างเล็ก
“ไอ่เวรนี่ มาแซะกู เดี๋ยวเถอะมึง
กูจะไม่ช่วยมึงคิดไอ่หน้ายาว” จิมินผลักหัวคนที่ขำอยู่จนเกือบหงายหลังตกเก้าอี้
“ไอ่เตี้ยเดี๋ยวกูล้มหัวฟาดทำไง
ใครจะมารับผิดชอบดูแลหากกูหัวกระแทกสมองเสื่อม”
“เราดูแลโฮซอกเอง” ร่างบางยกมือเสนอตัว
“แทแทดูแลตัวเราแล้วก็ช่วยดูแลหัวใจเราด้วยนะ 55555555555555555555555555”
โฮซอกขำต่อ
“เอ่อ.... “ ร่างบางพูดไม่ออกได้แต่เขินหน้าแดง กวาดมองไปทางอื่นแทนเพราะไม่อยากให้คนตรงหน้าเห็นหรือจับสังเกตได้กับอาหารที่แปลกไปของเขา
โฮซอกเองก็ทีเล่นทีจริง ที่พูดไปก็อยากให้ดูเหมือนเล่น
แต่ในใจก็แอบคิดถ้าได้ร่างบางมาดูแลหัวใจก็อาจจะดี
“มึงฉลาดจริงก็ช่วยคิดของกูดิ๊ไอ่เตี้ย” โฮซอกวกกลับเข้ามาเรื่องเดิมเพราะสังเกตเห็นว่าคนหน้ารักตรงหน้าทำตัวไม่ถูก
“ไหน คำใบมึงอะไร ไหนบอกปาร์ค
จีมินผู้ปราดเปรื่องคนนี้มาครับเพื่อน”
“พ่อหมา”
“ห้ะ ทำไมมันสั้นจังอ่ะโฮซอก” ร่างบางตกใจ
ก็คำใบ้ของผมกับจีมินมันยาวเวอร์อลังการ แต่ทำไมของโฮซอกกลับมีคำใบ้เพียงคำเดียว
“พี่เขาเขียนมาแค่นี้จริงๆ นะ ไม่เชื่อดูนี่” เขายื่นกระดาษคำใบให้เพื่อนทั้งสองดู
“พ่อหมาจริงๆ ด้วย” แทฮยองพูดหลังจากอ่านคำใบ้ในกระดาษจากมือของคนตรงหน้า
“แล้วจะรู้ได้ไงว่าพี่คนไหนเป็นพ่อหมาว่ะเนี่ย”
จีมินบ่นพลางเอามือกุมขมับ
“นั่นสิ หรือเราจะลองไล่ถามรุ่นพี่ทุกคนในคณะดู” ร่างบางเสนอวิธี
“กว่าจะถามครบทุกคน
คงเลยกำหนดที่พี่เขาบอกไว้แน่เลยแทฮยอง รุ่นพี่ปี่ยิ่งหาตัวจับยากอยู่” จีมินบอก
“จริงๆ พี่เขาเขียนผิดว่ะ มันต้องใจหมา ไม่ใช่พ่อหมา หึ”
หลังจากพูดจบทำเอาเพื่อนทั้งสองคนทำหน้างงคิ้วขมวด
“มึงรู้ได้ไงว่าพี่เขาเขียนผิด” ร่างเล็กถาม
“มึงหันไปดูนั่นดิ” พูดพลางชี้ไปยังคนที่อยู่หลังแทฮยองไปไม่ไกลเท่าไร
ร่างบางและร่างเล็กหันหน้าไปตามทิศที่โฮซอกชี้ ภาพที่เห็นคือพี่ต้วน
ประธานคณะกำลังเล่นกับลูกหมาตัวเล็กสีขาวอยู่ที่โต๊ะม้าหินอ่อน โดยมีพี่แจ็คสันรองประธานคณะกำลังแย่งขนมหมา(?)
อยู่ข้างๆ
“หมาน่ารักจัง” แทฮยองพูดด้วยดวงตาเป็นประกาย
เขาเป็นคนรักสัตว์ ชอบเล่นกับแมวกับหมาเป็นที่สุด
“หมาอ่ะน่ารัก แต่คนอ่ะหน้าหมา หึ”
โฮซอกพูดก่อนจะลุกขึ้นเดินไปหาคนที่กำลังเล่นกับหมาอยู่ที่โต๊ะตรงนั้น
ทันทีที่เห็นเพื่อนลุกขึ้นเดินไป ร่างบางและร่างเล็กก็เลยลุกขึ้นเดินตามไปทันที
ถ้าปล่อยให้โฮซอกไปคนเดียวก็กลัวจะไปมีเรื่องกับรุ่นพี่ซะก่อน
เพราะตั้งแต่รับน้องวันแรก เพื่อนของพวกเขาก็ไปกวนตีนประธานคณะเอาไว้
ร่างสูงเหลือบไปเห็นคนที่กำลังเดินเข้ามาทางโต๊ะเขาพอดี
จึงเอ่ยทักด้วยใบหน้าหล่อยิ้มกระชากใจ
“อ้าวน้องวีคนดีของพี่มาร์คต้วน ลมอะไรหอบมาคะเนี่ย มาหาพี่ถึงที่โต๊ะ”
“เอ่อ สวัสดีครับพี่มาร์ค พี่แจ็คสัน” แทฮยองโค้งตัวให้รุ่นพี่ทั้งสองคน
“สวัสดีพี่มาร์ค พี่แจ็ค” จีมินก็เอ่ยทักเช่นกัน
“อ้าว น้องที่หน้ายาวๆ ฟันเงิงๆ น่ะ
จะยืนค้ำหัวรุ่นพี่อีกนานป่าว หรือจะต้องให้พี่ทักน้องก่อนครับ” มาร์คเอ่ยถามทันทีที่เห็นโฮซอกยังยืนเฉย
“หวัดดี.. ครับ”
โฮซอกพูดในลำคอก่อนจะก้มหัวให้เล็กน้อยอย่างไม่เต็มใจจะทำเท่าไร
ก็รุ่นพี่ทั้งสองเล่นรุมกันมาเนียนแต๊ะอั๋งแทฮยองเพื่อนของเขาตั้งแต่รับน้องวันแรก
ดูก็รู้ว่าจงใจใช้ความเป็นรุ่นพี่มาจีบเพื่อนเขา
เพราะความหวงเพื่อนเลยทำให้เขาไม่ชอบมาร์คกับแจ็คสัน
“น้องวีคะ มานั่งกับพี่ก็ได้นะ ยืนอยู่ทำ ไม่เมื่อยหรอ
หื้ม?” มาร์คเอ่ยเสียงหวาน
“ถ้าไม่อยากนั่งข้างไอ่ต้วน น้องมานั่งในใจพี่แจ็คสันก็ได้นะครับ
หัวใจพี่ว่าเสมอสำหรับคนน่ารักแบบน้อง” แจ็คสันพูดเกทับเพื่อนหน้าหล่อของเขา
“กูจะฟ้องเมียมึงไอ่แจ็คสัน” คนหล่อหันไปขู่
“เอ่อ ไม่เป็นไรครับ” แทฮยองยิ้มบางๆ
“นี่เป็นคำสั่งของรุ่นพี่ น้องวีมานั่งข้างๆ
พี่เดี๋ยวนี้เลยนะคะคนดี” มาร์คพูดเสียงแข็งก่อนจะยิ้มโชว์เขี้ยว
“เอ่อ ครับ..”
ร่างบางทำตามคำสั่งของรุ่นพี่แต่โดยดี ทันทีที่แทฮยองนั่งลงที่เก้าอี้
ลูกหมาสีขาวตัวน้อยบนโต๊ะก็กระโดดลงมานั่งบนตกของเขา
ด้วยความที่เป็นคนรักหมารักแมวอยู่แล้ว เขาถึงกับหลุดยิ้มกว้าง
หัวเราะกอดเล่นกับลูกหมาตัวน้อย
ทำเอาคนรอบข้างที่มองดูเหตุการณ์ถึงกับตาค้างในความน่ารักของร่างบาง
โดยเฉพาะพี่มาร์คต้วนเจ้าของหมา ตอนนี้แทบอยากจะสลับร่างกับหมาของตัวเอง
“น่ารักจัง ชื่ออะไรหรอครับพี่มาร์ค” แทฮยองเอ่ยถามเจ้าของลูกหมาตัวน้อย
“โคโค่ ครับ ลูกพี่ชื่อโคโค่ แต่ยังไม่มีแม่นะ
น้องวีสนใจมาเป็นแม่ให้โคโค่ได้มั้ยคะ
ดูท่าทางลูกพี่มันจะชอบน้องวีมากเลยนะคะเนี่ย” มาร์คตอบก่อนจะยิ้มมุมปาก
“คนจะมีลูกเป็นหมาได้ไง ประสาท” โฮซอกพูดลอยๆ
“น้องว่าอะไรนะครับ?” คนหน้าหล่อถามกลับ
อันที่จริงก็ได้ยินแต่อยากถามให้ชัดเจน
“อ่อ ผมพูดว่า พี่เป็นพ่อหมาพี่รหัสของผมใช่รึเปล่าครับ”
โฮซอกตอบ
“.....” มาร์คจ้องหน้าโฮซอกนิ่ง ไม่ตอบอะไร
“อ่าวพี่มาร์คไม่ใช่พ่อหมาหรอครับ” จีมินถามย้ำด้วยความสงสัย
“พี่จะไม่ตอบอะไรจนกว่าน้องวีจะตกลงเป็นแม่หมาให้โคโค่ของพี่”
มาร์คยิ้ม
“เอ่อ ได้ครับ เดี๋ยวพี่จะเป็นแม่ให้หนูเองนะโคโค่”
ร่างบางตอบรับคำขอของรุ่นพี่ก่อนจะหันไปดัดเสียงเล็กแล้วพูดกับลูกหมาตัวน้อย
รุ่นพี่หน้าหล่อยิ้มอย่างมีชัยชนะ
ไม่คิดเลยว่าลูกหมาของเขาจะหลอกล่อคนน่ารักให้ติดกับได้
แถมยังได้เย้ยต่อหน้าไอ่รุ่นน้องหน้ายาว
เพื่อนของน้องวีที่ชอบวางท่าหวงก้างคนนี้ด้วย
“ใช่ครับ พี่เป็นพ่อหมา โคโค่คือลูกหมา
แล้วน้องวีคนน่ารักคนนี้ก็เป็นแม่หมา”
มาร์คพูดจบก็ยื่นมือไปโอบไหล่ร่างบางที่กำลังเล่นกับลูกหมาตัวน้อยอยู่จนไม่สนใจสิ่งรอบข้าง
“แทฮยอง แทฮยองถามพี่แจ็คสิเรื่องคำใบ้” จีมินสะกิด
“เอ้อใช่ ฉันลืมไปเลยอ่ะ ขอบคุณที่เตือนนะจิมิน” ร่างบางหันไปขอบคุณ
“ใช่ครับน้อง” แจ็คสันตอบ
“เห้ย ผมยังไม่ได้ถามเลยนะพี่แจ็คสัน” ร่างบางบอกด้วยความตกใจ
“พี่กลัวน้องเหนื่อย
ไม่ต้องถามพี่ก็ตอบให้ พี่ดีใจมากที่มีน้องรหัสน่ารักอย่างน้องวี
สายรหัสเรามีแต่คนหน้าตาดีนะน้อง 555555555555555555555555555555” แจ็คสันหัวเราะลั่นด้วยความภูมิใจ
“เอ่อ ขนาดนั้นเลยอ่อพี่”
“น้องวีช่วยฉุดค่าเฉลี่ยส่วนสูงของสายรหัสมึงด้วยนะเพื่อนแจ็ค555555555555555555555555555”
มาร์คแซวเพื่อนก่อนจะขำตาม
“ไอ่ต้วนมึงนี่ตัวมารขัดความสุขกูตลอด ชอบทำให้กูขายหน้าต่อหน้าน้อง”
“น้องวีคะ เป็นน้องรหัสพี่แจ็คสัน
แล้วก็เป็นน้องเอ็นดูของพี่ด้วยนะคะ น้องน่ารักพี่ชอบ เอ้ย พี่เอ็นดู
มีปัญหาอะไรปรึกษาพี่ได้นะ พี่ขอเบอร์น้องหน่อยไว้ เพื่อมีอะไรฉุกเฉิน”
มาร์คพูดพลางหยิบสมาร์ทโฟนเครื่องหรูออกจากกระเป๋า
แต่ยังไม่ทันได้ยื่นให้คนน่ารักกดเบอร์ให้
ร่างบางก็ถูกน้องรหัสของเขาเองคว้าตัวไปซะก่อน
“พวกผมต้องไปเข้าเรียนแล้ว ขอตัวนะครับรุ่นพี่ ไปล่ะครับ”
โฮซอกพูดตัดบทก่อนจะลากร่างบางและร่างเล็กของเพื่อนสนิทออกจากตรงนั้นไปอย่างรวดเร็วด้วยความหงุดหงิด
โดยที่เพื่อนทั้งสองไม่ทันได้กล่าวลารุ่นพี่ แต่ก็เดินตามไปแต่โดยไม่ได้ขัดขืนอะไร
“หึ ไอ่โฮซอก ฝากไว้ก่อนเถอะ” มาร์คพูดก่อนจะแสยะยิ้ม
“มึงอย่าทำอะไรน้องมันเลย กูขอล่ะ น้องมันแค่ห่วงเพื่อน” แจ็คสันปราม
“หวงหรือหึงกันแน่
กูว่าไอ่หมอนี่มันก็คิดไม่ซื่อกับน้องวีแบบที่กูคิดอะไรแหละแจ็ค มึงก็เห็นอยู่”
“มึงอ่ะคิดมาก มีเพื่อนน่ารักขนาดนี้ก็ต้องหวงเป็นธรรมดา
กิตติศัพท์มึงธรรมดาที่ไหน เขารู้กันทั้งมหาลัยว่ามึงอ่ะชอบล่าแต้ม”
“แต่กับน้องวีกูชอบจริง คนนี้ตรงสเปคกูมาก น่ารัก
ผิวสีแทน ดูเหมือนเด็กน้อย ไม่รู้แหละ อะไรที่กูอยากได้กูต้องได้”
มาร์คพูดก่อนจะอุ้มลูกหมาตัวน้อยมาวางบนตัก
อย่างน้อยตอนนี้ลูกของเขาก็มีแม่แล้ว สงสัยต้องใช้เจ้าโคโค่นี้แหละเป็นตัวช่วยในแผนการนี้
“มึงจะจีบจริงกูไม่ว่า แต่อย่ามาล่าแต้มน้องรหัสกู
กูไม่ยอมนะเว้ย ถึงมึงจะเป็นเพื่อนกูก็ตาม”
แจ็คสันบอกอีกคนด้วยสีหน้าจริงจัง เพราะตอนนี้แทฮยองเป็นน้องรหัสของเขา
เขาก็ย่อมห่วงน้องเป็นธรรมดาของพี่น้องสายรหัส
“กูเคยหลอกมึงหรอเพื่อนแจ็ค” มาร์คเลิกคิ้วถาม
“มึงหลอกกูบ่อยอ่ะครับเพื่อนต้วน” แจ็คสันตอบอย่างไม่ต้องคิดให้เสียเวลา
“ไอ่เพื่อนเลว สาบานว่ามึงเพื่อนกูนะไอ่แจ็คสั้น”
“แจ็คสันเว้ย แล้วก็ไม่สั้นด้วย กูยาวมากไม่เชื่อวัดได้” แจ็คสันท้า
“สันหลังมึงไงยาว ไอ่ขี้เกียจ หิวก็ไม่ยอมไปซื้ออะไรแดก
มาแย่งขนมหมากูเนี่ย”
มาร์คสวนกลับแต่เพื่อนของเขาก็ไม่สนใจยังคงหยิบขนมของลูกหมาตัวน้อยของเขามากินต่ออย่างหน้าตาเฉย
เพื่อนของเขาคนนี้มันเป็นคนประเภทไหนกันแน่ แย่งได้แม้กระทั่งอาหารหมา
ทันทีที่ถึงห้องเรียนทั้งสามก็หาที่นั่งตรงมุมหลังห้อง
ระหว่างรออาจารย์เข้ามาสอน จีมินฟุบหลับไปกับโต๊ะ
แทฮยองนั่งเล่นโทรศัพท์เช็คข้อความเรื่อยเปื่อย ส่วน
โฮซอกเมื่ออารมณ์โมโหพี่รหัสเย็นลง จึงหันไปพูดกับร่างบางด้วยสีหน้าจริงจัง
“แทแท อย่าไปอยู่ใกล้ไอ่พี่ต้วนอะไรนั่นได้มั้ย
ฉันเป็นห่วง”
“เอ่อ ห่วง? หมายความว่าไงน่ะโฮซอก”
คือก็ดีใจอยู่หรอกที่จู่ๆ อีกคนมาบอกเป็นห่วงแบบนี้
แต่ก็งงว่าเป็นห่วงเรื่องอะไร จึงถามให้ชัดเจน
“ก็ไอ่พี่ต้วนนั้นมันจีบแทแทไง ฉันไม่ไว้ใจมัน
ชื่อเสียมันเยอะน่ะที่ฉันได้ยินมา”
“อ๋อ เรื่องนี้นี่เอง พี่เขาไม่ได้จีบฉันหรอก
โฮซอกอย่าคิดมากเลยนะ” แทฮยองบอก
เพราะเขาคิดว่าพี่มาร์คก็คงเอ็นดูเขาตามประสารุ่นพี่รุ่นน้องทั่วไป
“เขาจีบขนาดนี้ยังดูไม่ออกอีกหรอแทแท
มันเล่นหยอดซะขนาดนั้นอ่ะ” โฮซอกเริ่มหงุดหงิดอีกครั้ง
“ก็เหมือนที่โฮซอกกับจีมินเล่นกับฉันไง ฮ่าๆๆ
อย่าคิดมากเลย”
“มันอาจจะจีบแทแทเล่นๆ ไง ฉันไม่อยากให้แทแทเสียใจน่ะ”
เขาพยายามอธิบาย
“ไม่มีอะไรทำให้ฉันเสียใจได้มากไปกว่าเรื่องที่ฉันเคยเจอมาแล้วล่ะโฮซอก
...” ร่างบางพูดด้วยน้ำเสียงแผ่ว
“เอ่อ... เอาเป็นว่าฉันเป็นห่วง
ห้ามอยู่กับใกล้ไอ่พี่ต้วนนั่นเข้าใจมั้ย ฉันขอร้อง...” โฮซอกอ้อนวอนด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“อื้ม ไม่ต้องทำหน้าเครียดขนาดนั้นก็ได้ ยิ้มหน่อยเร็ว”
แทฮยองพูดก่อนจะฉีกยิ้มกว้างปากเป็นรูปหัวใจ
ให้คนตรงหน้าที่กำลังคิ้วขมวด ปกติเพื่อนเขาออกจะเฮฮาร่าเริง
กลับมาทำหน้าเครียดพูดจาจริงจังกับเขา มันรู้สึกแปลกอย่างบอกไม่ถูก
เพื่อนกันมันต้องห่วงกันขนาดนี้เลยหรอ โฮซอกก็คงห่วงจีมินแบบนี้ด้วยสินะ
“ไอ่แมวน้อยเอ้ย”
พูดพลางยิ้มตามคนน่ารักตรงหน้า
ก่อนจะใช้มือบีบจมูกโด่งนั้นเบาๆด้วยความหมั่นเขี้ยว ก็ตั้งแต่รู้จักกันมา
ร่างบางทำให้เขายิ้มได้เสมอเวลาที่นึกถึงหรือเวลาที่อยู่ใกล้
...ทำไมต้องหงุดหงิดด้วยว้ะ แล้วทำไมถึงรู้สึกห่วงแทแทขนาดนี้ว้ะเนี่ย
ไม่นะไอ่โฮซอก แทแทเขาเป็นเพื่อนนมึงนะ จะมาคิดไม่ซื่อกับเพื่อนตัวเองได้ยังไง
ไม่ได้นะเว้ย...
...แต่แทแทเขาก็น่ารักนะ เวลาอยู่ด้วยก็รู้สึกดีอ่ะ แบบมันสบายใจ
รู้สึกอยากจะปกป้องดูแลรอยยิ้มนั่นไว้ แต่ไอ่แววตาเศร้าเมื่อกี้กับประโยคแปลกๆ
นั่นหมายความว่าไงว้ะ แทแทเคยเจอเรื่องแย่อะไรมาถึงทำให้คนที่สดใสอย่างแทแท
กลับมีแววตาที่เศร้าหมองนั่น...
หลากหลายความคิดตีกันในหัวของจองโฮซอก
เกิดคำถามมากมายเกี่ยวกับเพื่อนคนน่ารักของเขาคนนี้ อ่า...
จะต้องทำความรู้จักแทแทให้มากกว่านี้ซะแล้ว
...ทำไมโฮซอกต้องพูดอะไรแปลกๆแบบนั้นด้วย
เป็นห่วง? แล้วท่าทีหงุดหงิด
กับคำพูดและสีหน้าจริงจังนั่นอีก แต่เท่าที่เห็นเวลาอยู่กับจีมินก็ไม่เคยมีสีหน้าจริงจังแบบนั้นน่ะ
หรือผมเผลอไปทำอะไรไม่ดี โฮซอกเขาเลยไม่พอใจ
ผมไม่อยากคิดเข้าข้างตัวเองหรอกนะครับว่าโฮซอกเขาอาจจะหึงผมกับพี่มาร์ค
เพื่อนกันจะมาหึงกันได้ไงครับ ฮ่าๆ .....
...อันที่จริงที่โฮซอกพูดมาเรื่องพี่มาร์ค ไม่ใช่ว่าผมดูไม่ออกนะ ผมรู้ครับว่ารุ่นพี่เขาคิดอะไร
แต่ผมแค่ตีเนียนไม่รู้ไปก็เท่านั้นเอง
เพราะเขาเป็นรุ่นพี่ด้วยหากปฏิเสธไปตามตรงก็เกรงว่าจะไม่ดีครับ
ไหนจะเรื่องไอ่เด็กกวนปะสาทนั่นอีก
เดี๋ยวเย็นนี้ตอนเลิกเรียนผมก็ต้องไปเถียงกับมันอีก
...เกิดเป็นคิมแทฮยองนี่มันเหนื่อยจังเลยครับ
ชีวิตมีแต่คนมาวุ่นวานไม่เว้นแต่ละวัน ผมควรจะจัดการกับใครก่อนดีครับ
รุ่นพี่ประธานคณะหรือไอ่เด็กแว๊นซ์กวนประสาท
อยากจะจับสองคนนี้มัดรวมกันแล้วโยนใส่ชักโครกกดทิ้งรัวๆ สักร้อยครั้ง
แต่ช่างเหอะครับ
ในความวุ่นวายก็ยังมีสิ่งดีๆ
อย่างน้อยตอนนี้ก็มีโฮซอกกับจีมินที่คอยช่วยทำให้ผมยิ้ม
ทำให้ผมรักษาสัญญาที่ให้ไว้กับคนสำคัญที่สุดในชีวิตของผมได้....
TBC
อัพครบ 100% แล้วจ้า ฮี่ๆ / - \
ฝากแชร์ ฝากโหวต ฝากเม้นเป็นกำลังใจด้วยน้า
ขอบคุณค่า จุ้บ<3
ความคิดเห็น