ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    G O T 7 ` Violence ` #bnior

    ลำดับตอนที่ #2 : 00 : 02

    • อัปเดตล่าสุด 28 เม.ย. 58


    2

     

    “ฉันไม่ได้ซื้อเธอมานั่งๆนอนๆหรอกนะเด็กน้อย”

     

    “ช่วยไม่ได้ มันเป็นเรื่องของคุณ ไม่ใช่ผม”

     

    “พ่อเธอไม่ได้เลี้ยงมาแบบผู้ดีใช่ไหมเนี่ย ?” แจบอมยิ้มเยาะ “นอกจากโง่แล้วยังไร้มารยาทอีก”

     

    “คุณ!!?” จินยองตั้งท่าจะด่าแต่ต้องชะงักเมื่อกระบอกปืนสีดำสนิทถูกจ่อมาตรงหน้า

     

    “ปากดีแบบนี้ ฉันชักจะอยากเล่นเกมสนุกๆกับเธอแล้ว ปาร์คจินยอง”

     

     

     

    จินยองไม่สนุกด้วย

     

    “ปล่อยผม” แม้จะหวาดกลัวแค่ไหน แต่เสียงที่เปล่งออกไปก็กระด้างและถือดี แต่เสียงกริ๊กที่ดังอยู่ข้างหูก็ทำให้เลือดในกายเย็นเฉียบ

     

    เสียงปืนนัดแรกทำเอาจินยองสะดุ้งเฮือก

     

    “รู้จักปืนลูกโม่ใช่ไหม ?”

     

    “อืม ผมรู้จัก”

     

    “กระสุนหายไปหนึ่งนัดแล้วเมื่อกี๊” จินยองรู้สึกได้ถึงปลายกระบอกปืนที่ไล้มาตามแขน

     

    เขาถูกมาเฟียโรคจิตนี่ปิดตาเอาไว้

     

    “ทำตามคำสั่งหนึ่งอย่างต่อการเอาลูกกระสุนออกหนึ่งนัด ถ้าทำได้ โอกาสสมองกระจุยของเธอก็น้อยลง”

     

    “จะให้ทำอะไร” จินยองสะบัดเสียงถาม เขาได้ยินเสียงหัวเราะเบาๆก่อนที่ผ้าปิดตาจะถูกดึงออก

     

    “ทำให้ฉันพอใจไง......เด็กน้อย” ปากอิ่มถูกจู่โจมโดยไม่ทันตั้งตัว ทั้งดูดและขบเม้มจนแทบไม่มีช่องว่างให้หายใจ ราวกับกำลังถูกสูบวิญญาณ จินยองเริ่มหมดแรงในอ้อมแขนแกร่งที่ล็อกตัวเขาให้ไปไหนไม่รอด

     

    กระสุนถูกเอาออกไปหนึ่งนัด

     

    C U T

    @_thxxx ดูที่ไบโอนะคะ


     

    มาร์คและแจ็กสันถูกเรียกตัวขึ้นมาพร้อมกับคำสั่ง

     

    อยากจะทำอะไรก็ทำ

     

    เจ้านายของเขาสองคนคงหวังให้ทรมานร่างเล็กนี่ซ้ำ แต่พอเห็นสภาพจริงๆ เขาสองคนก็มือไม้อ่อนกันเสียดื้อๆ

     

    ไม่ได้คิดจะทำอะไรให้เด็กที่เจ้านายพามาตั้งแต่เช้าอยู่แล้ว อาจจะแค่ปลอบให้หายกลัว อธิบายให้เข้าใจหรือชวนคุยเพื่อไม่ให้เด็กนั่นสติแตกไปซะก่อน

     

    แต่ดูเหมือนว่าคงจะช่วยอะไรเด็กคนนั้นไม่ทันแล้ว

     

    เตียงสีขาวเปื้อนเลือดและคราบน้ำขาวขุ่นไปจนทั่ว ร่างน้อยนอนเปลือยเปล่าอย่างไร้สิ่งปกปิด

     

    อย่างแรกที่แจ็กสันทำหลังหายตกใจคือดึงผ้าห่มมาคลุมตัวบางๆนี่ไว้

     

    ดูท่าว่าเด็กคนนี้จะตัวเล็กกว่ามาร์คเสียด้วยซ้ำ ขนาดเขาคิดว่ามาร์คตัวเล็กแล้วนะ แต่ก็ไม่แปลก วันๆเอาแต่วิ่งไปวิ่งมา คุยงาน ประชุมแทนเจ้านายในวันที่ลูกค้าดันมาพร้อมๆกันหลายคน ส่วนเขาก็คุมงานที่ฮ่องกง ซึ่งต้องใช้แรงค่อนข้างเยอะในหลายๆครั้ง

     

    ฮ่องกงมันถิ่นมาเฟีย ไม่แปลกที่เขาจะดูแข็งแรงกว่า

     

    แต่ตอนนี้สิ่งที่ควรสนใจไม่น่าใช่เขานี่นะ

     

    เด็กคนนี้ต่างหาก

     

    “มึงว่าเด็กนี่จะตายปะวะ ?”

     

    “ไม่หรอกมั้ง คนเราคงไม่ตายง่ายๆหรอก” แจ็กสันตอบหลังใช้ความคิดไปสักพัก

     

    “ไอ้ห่า นี่เด็กนะมึง ยังไม่ถึงสิบเจ็ดดีเลยมั้ง ? โดนนาดนี้ไม่ตายกูก็ว่าเหมือนตายไปแล้วว่ะ” มาร์คพูดพลางมองพร้อมขมวดคิ้ว แม้จะพอเข้าใจสิ่งที่เจ้านายเขาทำก็ตามที

     

    แต่เด็กคนนี้ก็ไม่ควรมารองรับการกระทำของผู้ใหญ่

     

    มันไม่ใช่ความผิดของคนที่นอนหมดสติอยู่ตรงนี้เลยสักนิด

     

     

     

    ระหว่างที่สองเพื่อนซี๊ตัดสินใจช่วยกันเช็ดตัวให้เด็กน้อย แขนของแจ็กสันก็ถูกมือบางยึดเอาไว้แน่น

     

    “พ่อ” เสียงแหบพร่าเรียกแผ่วเบา “ฝันร้าย.....ผมฝันร้าย..............พ่อกอดผมหน่อย.........พ่อครับ......พ่อ...” ทั้งๆที่ยังไม่ลืมตา ยังไม่รู้สึกตัวเลยด้วยซ้ำ “พี่แฮจิน

     

    ชื่อคนที่ถูกพึมพำออกมาตอนท้ายทำเอาคนฟังชะงัก ก่อนที่มาร์คจะโบกมือไล่แจ็กสันให้เอาผ้าเปื้อนเลือดกับกะละมังที่มีน้ำสีแดงเข้มไปเททิ้ง

     

    “เห้ย ? มึงจะทำอะไรเด็กวะมาร์ค ?” แจ็กสันถามอย่างงงๆเมื่อเห็นเพื่อนรักกำลังเอาผ้าผืนหลายผืนมามัดมือและเท้าของร่างบางไว้กับมุมเตียง

     

    “ตื่นมาแล้วอาละวาดแน่ๆอะ กูเลยมัดไว้ก่อนไง ตื่นมาจะได้คุยง่ายๆ ไม่งั้นมึงกับกูเหงื่อตกแน่”

     

     

     

     

    บางครั้ง แจ็กสันก็มักจะโดนมาร์คด่าว่าซื่อบื้อบ่อยๆ

     

    แต่ครั้งนี้ แจ็กสันขอด่ามาร์คแทน

     

    “ไงล่ะมึง คุยง่าย ง่ายพ่อมึงสิไอ้มาร์ค” แจ็กสันบ่นอย่างหนักใจ แขนและขาที่ถูกมัดไว้มีรอยแดงเป็นปื้น ร่างกายที่น่าจะบอบช้ำจนขยับไม่ไหวกำลังซุกอยู่ริมห้อง รอยเลือดเลอะอยู่ตามพื้นทำให้มองหาเจ้าของได้ไม่ยาก “ยิ่งสติแตกไหมล่ะมึง ซื่อบื้อเอ๊ยย”

     

    “เอ้า.............ก็กูไม่รู้นี่ ไม่เคยเลี้ยงเด็กนี่หว่า ใครจะเหมือนมึงล่ะ ชอบนักนี่ เด็กอะ” พูดอย่างหมั่นไส้ที่มันควงสาวๆวันเว้นวันและเปลี่ยนคนไปเรื่อย ส่วนเขาก็วิ่งวุ่นทำแต่งาน ไม่มีความยุติธรรมแม้แต่ในวงการมาเฟียจริงๆ

     

    “เฮ้ ไอ้เปี๊ยก ฉันไม่ทำอะไรนายหรอก” แจ็กสันเมินคำจิกกัดของเพื่อนสนิทก่อนจะค่อยๆขยับเข้าไปหาร่างบอบบางนั่นช้าๆ เด็กคนนั้นตัวสั่นด้วยความหวาดกลัว “ฉันชื่อแจ็กสันนะ ไอ้บ้านั่นชื่อมาร์ค ขอโทษจริงๆที่เรามัดนายไว้แบบนั้น แต่เราไม่อยากให้นายอาละวาด”

     

    “ซึ่งไม่ทันแล้ว” มาร์คพูดแทรกพลางกวาดตามองสภาพในห้อง “เอาเป็นว่า ฉันขอโทษแล้วกันที่ทำแบบนั้น แต่เราไม่ได้จะทำร้ายนายหรอก”

     

    และสองเพื่อนซี๊ก็ได้เรียนรู้อะไรเล็กๆน้อยๆด้วยว่า

     

    การปลอบเด็กมันยากกว่าคว้าปืนไปไล่ยิงชาวบ้านเขาเยอะเลย

     

     

     

    ที่เสียงร้องไห้และการพยายามหนีหยุดลง มันไม่ใช่เพราะมาร์คกับแจ็กสันพูดรู้เรื่องหรอก

     

    “เออ เงียบสักที” มาร์คพูดหลังจากไล่ตะครุบตัวเด็กคนนั้นมากอดไว้แนบอกและแน่นจนจินยองขยับไปไหนไม่ได้ แจ็กสันมองพลางถอนหายใจ เด็กนี่ดิ้นยิ่งกว่าลิง แผลตามตัวที่ปากแผลไม่มีเลือดแล้วกลับฉีกขาดอีก

     

    “ปล่อย..........ปล่อยผม” จินยองพูดเสียงขาดห้วงด้วยความเจ็บ เขาปวดไปทั้งตัวจนเหมือนร่างจะฉีก และเพราะดิ้นหนีเมื่อครู่กับถูกกอดแน่นขนาดนี้อีก “จ.......เจ็บ”

     

    “อ่า..............ขอโทษๆ” มาร์คค่อยๆวางคนในอ้อมกอดที่เขารัดจนแน่นไว้บนเตียงซึ่งเปลี่ยนผ้าปูที่นอนแล้ว “นายหลับไปวันกว่า แถมยังป่วยหนักอีก” แต่ฤทธิ์เยอะจริงๆ มาร์คแอบต่อประโยคท้ายในใจ

     

    “นอนเถอะ แต่อย่าลืมกินยาล่ะ” แจ็กสันชี้ไปทางหัวเตียง จินยองพยักหน้าแต่ยังไม่กล้าสบตาใครทั้งนั้น

     

    ได้แต่แอบมองตามคนที่มารัดเขาจนหายใจไม่ออกเจ็บไปหมดขณะที่เดินออกจากห้อง

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×