ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    {EXO} SOLVE อธิกรณ์

    ลำดับตอนที่ #2 : อธิกรณ์ | อธิกรณ์ หรือ อภิรมณ์

    • อัปเดตล่าสุด 30 เม.ย. 58


    CR.SHL

     

     

    อธิกรณ์ 1









    JONGIN PART 




     

     

     

    “หลักฐานทั้งหมดเราเก็บได้ไว้แล้วครับ ส่วนในบ้านยังพอมีร่องรอยเหลืออีกนิดหน่อย”

    “งั้นเดี๋ยวผมขอเข้าไปดูสักหน่อยนะ ”

     

        บทสนทนากับเจ้าหน้าที่จบลงก่อนที่ผมจะพาตัวเองและเซฮุนเข้ามาในบ้าน.. เอ๊ะ ต้องใช้คำว่าคฤหาสน์ซะมากกว่า  มันออกจะใหญ่โตเกินกว่าผมจะเดินดูอย่างละเอียดให้จบในวันเดียว ครึ่งชั่วโมงที่ผ่านมาผมเอาแต่ขลุกตัวอยู่ในห้องทำงานของคุณจุนยอนเผื่อจะได้เจอหลักฐานอะไรสำคัญๆบ้าง แต่ไม่เลย ในนี้มีแต่แฟ้มคดีเอกสารต่างๆซึ่งผมกับไม่ถูกกับอะไรพวกนี้ตั้งแต่แรก ยิ่งอ่านยิ่งปวดหัว..  โถ่เว้ย ออกไปหากาแฟร้อนกินสักแปปได้ไหมเนี่ย

     

     

    “เจออะไรไหมจงอิน”      


    “มีแต่แฟ้มคดีเก่าๆกับเอกสารน่ะ ”  ได้แต่เหลือบมองเจ้าของคำถามแล้วส่ายหน้าอย่างเบื่อหน่าย


    "อย่างเพิ่งประสาทกินซะก่อนนะครับคุณสารวัตร" 


    "ถ้าเป็นห่วงฉัน งั้นเสร็จจากนี้เราไปหาอะไรกินกันไหมล่ะหืม"




    “ตอนห้าทุ่มเนี่ยนะ?  ฉันจะไปกับนายแต่หลังจากที่ฉันได้ชาร์จพลังให้ตัวเองบนเตียงนอนที่บ้านสัก 8 ชม. โอเค้”   



    “มากอดฉันสิ เนี่ย มาชาร์จพลังกันเร็ว นอนกอดกันทั้งคืนบนเตียงของนายยังได้”    ผมยิ้มทะเล้นพร้อมกับอ้าแขนออกไปหาเซฮุน  แน่นอนครับหลังจากนั้นก็ได้โดนสายตาอันเหี้ยมโหดตอบกลับมาแทน 

     


     

    ก็นอกจากเอกสารแล้ว .. สิ่งที่ผมอ่านออกก็มีแต่เซฮุนนี่แหละ   



     เอาล่ะ ดึงสติแล้วตั้งใจทำงานหน่อยสิครับจงอิน

     

     

     เมื่อตั้งสติไม่ให้วอกแวกไปหาเซฮุนได้นิ้วมือก็กลับไปไล่ตามแฟ้มเอกสารบนชั้นอีกครั้งถึงแม้ว่าในสมองของผมกำลังมัวคิดอยู่ว่า คุณจุนมยอนถูกฆ่าที่ห้องนอนแต่ทำไมถึงได้มีเลือดที่ห้องของคยองซู ทั้งที่คยองซูเองก็ถูกเหนี่ยวไกลบนศรีษะขณะกำลังขับรถอยู่บนถนน  .. หรือจะเป็นไปได้รึเปล่าที่คุณจุนมยอนถูกฆ่าในห้องคยองซูแล้วคนร้ายย้ายศพไปไว้อีกห้อง แต่.. ทำไมถึงต้องเป็นห้องของคยองซูด้วยล่ะ

     

     หืม


     มีกระดาษบางอย่างอยู่ในซอกชั้นก่อนที่ผมจะหยิบออกมาดู  ถ้าจำไม่ผิดมันคงคือรูปของครอบครัวนี้ตอนเด็กๆ แต่สิ่งที่แปลกตาก็คือผู้หญิงคนหนึ่งที่ยืนยิ้มอยู่โดยมีเด็กๆล้อมรอบ หน้าตาของเธอถือว่าสวยในระดับนึง ปากบาง ผิวขาว ผมดำสนิทยาวประบ่า เธอคงเป็น..

     

    “นั่นคุณจีฮยัง ภรรยาของคุณจุนมยอน เธอเสียไปเมื่อแปดปีที่แล้ว”  เซฮุนย้ายตัวเองเข้ามายืนข้างๆผมพรางชี้อธิบายให้ดู


    “จะว่าไปเธอแอบหน้าเหมือนนายเลย”   หันหน้าไปหยอกร่างบางอีกครั้งแล้วเพ่งมองที่ใบหน้าหวานนั้นอย่างตั้งใจ

    “มองหน้าฉันจนเพี้ยนไปแล้วมากกว่า .. ”   มือขาวดันหน้าผากผมไปอีกทางแล้วอธิบายรายละเอียดในรูปอีกครั้ง “เด็กตาโตๆเนี่ยคยองซู  ที่ดูเรียบร้อยๆหน้าหวานหน่อยก็ลู่หาน  -- เด็กคนนี้แบคฮยอน แล้วนี่ก็เทา ที่รู้มาคนที่สนิทกับแม่สุดคือเทา เขาค่อนข้างจะแอนตี้พ่อกับคยองซูเล็กน้อยหลังจากแม่เสียไป แบคฮยอนหนีไปเรียนเมืองนอก ลู่หานยังคอยดูแลคุณพ่อกับคยองซูอยู่ที่บ้านนี้”   



    วา..  ยอมรับเลยว่าเซฮุนเขาทำการบ้านมาดีจริงๆ รู้แทบทุกเรื่องเกี่ยวกับคดีนั้นก่อนที่จะลงมือสืบ ทำให้แบ่งเบาภาระจงอินจอมขี้เกียจคนนี้ได้เป็นอย่างดี เข้าใจแล้วใช่ไหมล่ะคับว่าทำไมผมถึงพอใจเซฮุนนักหนา

     

    “แล้วที่ฉันให้นัดทั้งสามคนนี้มาสอบสวนล่ะ พวกเขาจะมาวันไหน” 

     

    “พรุ่งนี้  ..  ลู่หานจะเป็นคนแรกที่ถูกสอบสวน”

     





     

     

     25 Aril 2015 09:10 A.M.



     

     

       เสียงฝนกระทบกับหน้าต่างอย่างต่อเนื่องมาชั่วโมงกว่า  สายตาคมกำลังเหม่อลอยไปนอกหน้าต่างราวกับว่าโดดสะกดไว้ วันนี้เป็นวันที่ใจของผมไม่อยู่กับเนื้อกับตัวแถมยังเป็นวันฝนตกอีกด้วย  ตอนเด็กๆแม่มักจะสอนผมว่าเรื่องดีๆมักจะมากับฝน  ตอนนี้ผมเลยหวังว่าคนที่จะมาพร้อมฝนในวันนี้อาจจะมีเรื่องดีๆให้ผมดีใจบ้างนะ   เสี่ยว ลู่หาน

     

     

    เอาจริงๆ  ผมไม่เคยประหม่าที่จะต้องสอบสวนใครเท่าครั้งนี้เลย ไม่รู้เพราะรูปคดีมันซับซ้อนจนไม่รู้จะเริ่มสอบสวนตรงไหนหรือเพราะรูปใบหน้าของเขาที่น่ารักมากกันแน่   นึกขึ้นมาแบบนั้นก็อดหลุดขำกับความคิดของตัวเองไม่ได้จริงๆ

    “มึงบ้าไปแล้วแน่จงอิน”  ยกมือขยี้ผมตัวเองจนยุ่งเหยิงเพื่อไล่ความคิดน่าอายนั่นออกไปซะ หายใจเข้าออกช้าๆตั้งสติตัวเองอีกครั้ง

     


     

    ก๊อกๆ

     


     

    ขออนุญาตินะครับคุณสารวัตร” 



    “อะแฮ่ม.. เชิญครับ”    เสียงหวานนั่นทำผมแทบจะนั่งไม่ติดเก้าอี้ ได้แต่กระแอมกลบความประหม่าออกไป จัดวางท่านั่งให้ดีมีมาดพลันเหลือบมองข้าวของบนโต๊ะที่มั่นใจว่าเรียบร้อยแล้ว ซึ่งมันแน่นอนเพราะผมจัดห้องนี้ใหม่ตั้งแต่เช้า ไม่ค่อยจะตื่นเต้นเลยใช่ไหมล่ะครับ ฮ่าๆ

     
     

     “ สวัสดีครับ คุณสารวัตรจงอิน.”   

     

     

    โห  น่ารัก ..

     


     

    ทันทีที่เขาก้าวเข้ามาในห้องทำเอาสมองมันก็ตื้อไปชั่วขณะ  ในรูปอาจไม่ได้มีรายละเอียดมากนักแต่พอมาเจอตัวจริงถึงได้รูปว่าผิวของเขามันขาวไม่แพ้เซฮุนเลย โคตรจะเข้ากับผมสีน้ำตาลและก็ตากลมโตหวานของเขาจริงๆ   เจ้าของใบหน้าน่ารักนั้นส่งยิ้มให้ผมเล็กน้อย  ทำให้หน้าผมเหมือนถูกแช่แข็งแล้วฉีดยาชาซ้ำเข้าไปอีก

     

     

    “เชิญนั่งก่อนเถอะครับ”   สูดลมหายใจรวบรวมแรงทั้งหมดลุกขึ้นยืนแล้วผายมือออกไปทางเก้าอี้ตรงหน้า  ลู่หานพยักหน้ารับแล้วเดินเข้ามานั่งตรงข้ามกับผม รอยยิ้มนั้นไม่ยอมหายไปจากหน้าเลย จะเป็นการเสียมารยาทไหมถ้าผมจะบอกให้หยุดยิ้มซะไม่งั้นจิตผมมันจะตะเลิดไปมากกว่านี้

     

     

    “ฝนมันตกเลยมาช้า ต้องขอโทษด้วยนะครับสารวัตร”   สายตาหวานหลุบลงต่ำ ยกมือขึ้นเกาท้ายทอยตัวเองแก้เขิน 

     


     

    อืม.. คอขาวดี       

     



     

    “เรียกผมว่าจงอินธรรมดาเถอะครับ จงอิน”   ยื่นมือไปหาคนตรงหน้า

     

    “ลู่หาน  เสี่ยวลู่หาน”     เขายื่นมือมาจับมือผมตอบอย่างไม่รังเกียจแถมยังส่งยิ้มอบอุ่นมาให้ในบรรยากาศหนาวๆแบบนี้  เหมือนในห้องนี้ถูกล้อมลอบด้วยเตาพิง ส่วนมือของคนตรงหน้าก็คงจะต้องเป็นมาร์ชเมโล่นิ่มๆเอาไว้ให้ผมย่างกินแน่ๆ

     
     

     “งั้นเราเริ่มสอบสวนกันเลยดีไหม?”   


    “แน่นอนครับ”   ร่างบางเลิกคิ้วยิ้มเป็นการตอบรับ ผมจึงเริ่มเปิดการสอบสวนโดยหยิบปากกาขึ้นมาจดลงบนสมุดโน๊ตขนาดพกพาส่วนตัว

     

    “ตอนที่คุณจุนมยอนและคยองซูเสีย คุณกำลังทำอะไรที่ไหนครับ”

     

    ริมฝีปากบางเม้มเข้าหากัน สายตามองขึ้นข้างบนเหมือนกับกำลังนึกย้อนไปที่คำถามของผม  “ตอนที่คุณพ่อเสีย ผมนอนอยู่ครับมันเป็นตอนกลางคืน พอจะมารู้เรื่องว่าท่านเสียก็น่าจะสักตอนหกโมงเช้าได้ ตอนที่เทาเจอศพเป็นคนแรกเขาร้องทั่วบ้านเหมือนคนสติแตกเลย  รู้ข่าวคยองซูอีกทีตอนนั้นผมก็กำลังยุ่งกับการจัดงานศพคุณพ่ออยู่”

     

    “อืม.. นอกจากคยองซูแล้ว คุณก็สนิทกับคุณจุนมยอนที่สุดเลยใช่ไหม พอจะรู้ไหมครับว่าเขามีปัญหาอะไรกับใครบ้างรึเปล่า”

     

    “ถึงเขาจะเป็นพลตำรวจเอก ทำคดีเยอะแยะหรือมีงานมากมายแต่เขาก็เป็นคนดีไม่ได้มีเรื่องขัดใจกับใครเลย ผมมั่นใจ”

    ใบหน้ายิ้มแย้มเปลี่ยนเป็นแววตาที่จริงจัง มือขาวกุมหากันแน่นจนแทบสังเกตเห็นเส้นเลือดได้ ถ้าตัดเรื่องขัดแย้งออกไป มันจะเป็นการฆาตรกรรมจากคนใกล้ชิดเหมือนอย่างที่เซฮุนบอกผมในตอนแรกหรอ จะเป็นเหมือนในละครที่ฆ่ากันตายเพื่อจะเอาสมบัติเนี่ยนะ โห โคตรจะละครหลังข่าวเลย


    “แล้วคยองซูล่ะ”

     

    “คยองซูเขาเป็นคนน่ารักมากเลยนะครับ เป็นไปไม่ได้แน่ถ้าจะไปทำอะไรให้ใครไม่พอใจ ส่วนตัวผมคิดว่าผมชอบเขานะ เขาไม่มีพิษมีภัยแถมยังรักพวกเราทุกคนด้วย”       ผมพยักหน้ารับรู้แล้วก้มลงจดข้อมูลเหล่านั้นลงในสมุดอีกครั้ง

     

    “แล้วตอนนี้คุณทำงานอะไรอยู่ครับ” 

     

    “ตั้งแต่คุณพ่อเสียผมก็กำลังจะเปิดกาแฟเป็นของตัวเองน่ะครับ ช่วงนี้ยุ่งทั้งวันแทบไม่ได้นอนเลย” 

     

     

    ตั้งแต่คุณพ่อเสีย.. มาเปิดร้านตอนที่พ่อตัวเองตายแล้วเนี่ยนะ

     

     

    “วา งั้นคงไม่รังเกียจนะถ้าผมจะเข้าไปอุดหนุนสักหน่อย”     ผมพูดแนวติดตลกแซวลู่หานนิดหน่อยเพื่อผ่อนคลายความตึงเครียด เขาเองก็หัวเราะออกมาพร้อมส่ายหน้ายิ้มๆ

     

     

    “  ต่อไปก็จะเป็นคำถามสุดท้ายที่สำคัญที่สุดในการสอบสวนนี้แล้วนะครับ”  ผมคลี่ยิ้มออกเล็กน้อย วางปากกากับสมุดลงก่อนจะกอดหน้าอกเอนตัวพิงกับพนักเก้าอี้  



    “ยินดีเลย”

     

    “มีแฟนรึยังครับ”

     

    ลู่หานดูอึ้งไปนิดหน่อยกับคำถาม ฟังไม่ผิดหรอก นั่นล่ะคำถามที่สำคัญ อย่าหาว่าผมเป็นผมชอบม่อเลยน่า นี่มันคำถามสำคัญนะเผื่อถ้าเขามีแฟนแล้ว แฟนเขาอาจจะเกี่ยวข้องกับคดีนี้ก็ได้ใครจะไปรู้ อีกอย่างถ้าครั้งต่อไปผมจะทำการสอบสวนแบบส่วนตัวนอกสถานที่ ผมจะได้รู้ว่าต้องขออนุญาตเจ้าของของเขาก่อนด้วย ผมไม่ได้แบดบอยขนาดนั้นหรอกนะ เชื่อสิ..

     

    “มินซอก  ผมกำลังเปิดร้านกาแฟกับมินซอก “   สีหน้าของเขาดูชมพูระเรื่อขึ้นมาทันทีที่พูดชื่อออกมา  ร่างบางกดใบหน้าต่ำลงแอบยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เหมือนคนที่กำลังตกหลุมรักครั้งแรก 

    ตอนนี้ผมรู้สึกเหมือนโดนรถสิบล้อปาดหน้าอย่างจังแทบจะสำลักน้ำลายออกมา ทำได้แค่ทำหน้าตายินดีปรีดาออกไปทั้งที่ข้างในรู้สึกเซ็งมากถึงขั้นอยากงัดบุหรี่ออกมาสูบยาวๆแล้วกระดกเบียร์มันซะตอนนี้

     
     

    “ถ้าหมดธุระแล้วผมขอกลับก่อนนะครับ”

     
     

    “เอ้อ.. เอ่อใช่ เชิญครับ”    พูดออกไปอย่างนั้นแล้วมองดูเขาที่กำลังจะเดินออกไป ลู่หานหอบกระเป๋าและร่มของเขาลุกขึ้นโค้งตัว แต่ทันทีที่จับลูกบิดประตูเขาก็นเหลียวตัวหันกลับมาพร้อมรอยยิ้มที่ผมไม่สามารถคาดเดาได้ว่าหมายถึงอะไร

     

     

    “สารวัตรครับ ที่อยู่บนโต๊ะนั่นเบอร์ผมนะครับ เพื่อจะถามข้อมูลเพิ่มเติม”


    ห้ะ

    ผมเลิกคิ้วขึ้นก้มลงโพสอิทที่วางบนโต๊ะ ไม่รู้เลยว่าเขาเขียนมันและวางไว้ตอนไหน

     

     

    เสี่ยวลู่  089 488 …..

     


     

    แต่ที่รู้ๆผมยิ้มตอบกลับเขาไปแล้วเหมือนกัน   

     

    เรื่องดีมักมากับฝนจริงๆด้วยนะครับ : )
















    ---------------------------------------------
    ตอนที่หนึ่งออกมาสมบูณร์แล้วนะค้าหลังจากที่ดองมาหลายวัน 5555555
    ก็มันไม่มีกำลังใจะเขียนนี่น่า คอมเมนท์ไม่เมมม ฮรือออออ
    แต่มาคิดๆดูแล้วเลยตัดสินใจมา ถึงจะมีคนอ่านฟิคเราแค่หนึ่งคน
    เราก็จะแต่งให้เค้าอ่านต่อไป
    สู้ๆทาเคชิ !



     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×