ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    นาโระคามะ ดินแดนมหัศจรรย์

    ลำดับตอนที่ #2 : ~ก้าวที่2~ “ปิศาจถูกปลดปล่อย”

    • อัปเดตล่าสุด 28 ก.พ. 49


    ~...นกเริ่มส่งเสียงร้องขับขาน หมู่สัตว์เริ่มออกมาจากที่หลบอาศัย หุบเขาเริ่มทอแสง แสงอาทิตย์เริ่มสาดส่องไปทั่วทุกทิศ... น้ำค้างทอแสงระยิบ ระยับเป็นประกายอยู่ที่ยอดใบ ผู้คนเริ่มเดินขวักไขว่ไปมาบนท้องถนน ร้านค้าหลายร้านเริ่มเปิดเพื่อทำการค้า บ่งบอกว่า เช้าวันใหม่กำลังเริ่มขึ้น~

                    ฮ้าว~!! เสียงเด็กสาวที่เพิ่งตื่นหาวออกมาเสียงดัง เธอยังสะลึมสะลือ ด้วยความง่วงนอน เป็นผลมาจากเหตุการณ์เมื่อวานที่ทำให้เหนื่อยล้า และทำให้ต้องนอนดึกอีกตามเคย เธอเจอเหตุการณ์แบบนี้มาเป็นอาทิตย์แล้ว เหล่าเพื่อนๆของเธอก็เช่นเดียวกัน.....

    ---- ย้อนกลับไปเมื่อ 3 อาทิตย์ก่อน ----

    ....เวลาเที่ยงคืน....

    `หอฟุคุโอะกะ(หอตะวันออก)

    ก๊อก ก๊อก ก๊อก!!! คาซึ...คาซึนะ !! เธอหลับรึยัง?? เปิดประตูให้พวกฉันหน่อยเสียงเคาะประตูห้องดังขึ้น ซาคุกำลังเคาะประตูเรียกเจ้าของห้องให้มาเปิดประตู

    พี่คาซึนะคร้าบ~เปิดประตูให้พวกผมหน่อยคร้าบ ฮาคุตะโกนเรียกเจ้าของห้องที่ตอนนี้ไม่มีทีท่าว่าจะเปิดประตูซะที

    มิโกะ!! ถ้าเธอยังไม่มาเปิดประตูให้ฉัน เธอจะไม่ได้รู้ข่าวๆนี้แน่ๆ แล้วเธอก็อย่าหวังว่าจะมีส่วนร่วมในงานๆนี้อย่างแน่นอน!!”ส่งคำขู่ออกไปด้วยน้ำเสียงที่เริ่มหงุดหงิดและเย็นชา ความเย็นได้แผ่ไปรอบด้าน บริเวณใกล้เคียง จากคนที่มักพูดจาสุภาพต่อทุกคน บัดนี้ในใจกลับเต็มไปด้วยความหงุดหงิดและว้าวุ่น

    ...เฮ้อ จริงๆเลย ยัยนี่ชอบชักช้าอืดอาดอยู่เรื่อย ขณะเวลามีเรื่องแบบนี้ยังไม่วายชักช้าอยู่อีก+++ถ้าวันไหนต้องรีบเร่งคงจะตายแหงๆ+++.....

    นึกในใจ พลางถอนหายใจ `เหนื่อยใจจริงๆกับคนที่ตอนนี้รีบวิ่งออกมาเปิดประตูให้พวกเขาเพราะกลัวอดรู้`ข่าวที่พวกเขาจะนำมาบอก

    `เอือมระอากับเธอจริงๆเมื่อไหร่จะยอมเปลี่นนิสัย...

    ตึง โครม ตึงๆๆๆ มาแล้ว มาแล้ว แอ๊ด...เสียงวิ่งและสะดุดหกล้มดูวุ่นวาย พร้อมตะโกนออกมา ก่อนที่จะได้ยินเสียงเปิดประตูจากเจ้าของห้อง พวกนายมี`ข่าวอะไรจะมาบอกฉันเหรอ??? เมื่อประตูเปิดออกเธอก็ไม่รอช้าส่งคำถามออกไปหาคนตรงหน้าทันที  ข่าวดี ข่าวร้าย ถามต่อออกไป โดยไม่รอให้คนตรงหน้าได้เปิดปากพูด

    ทั้งสองอย่างซาคุรีบพูดออกไปทันที กลัวว่าจะไม่มีโอกาสพูดเพราะคนอย่างคาซึนะคงไม่เปิดโอกาสให้เขาได้พูดเป็นแน่ คงจะถามคำถามต่อไปเรื่อยๆ

    งั้นเหรอ อืม งั้นเอาข่าวร้ายมาก่อนละกันพูดออกไป ที่เลือกเอา`ข่าวร้ายมาก่อนเพราะจะได้เอา`ข่าวดีไว้ปลอบใจ

    ก่อนที่จะเล่า...ผมขอเข้าไปได้ไหมฮะ..ผมเมื่อยแล้ว..ฮาคุพูด เอานิ้วชี้เข้าไปในห้องของเด็กสาว `ยืนมานาน...เขาอยากจะนั่งสักที..เมื่อยขาแล้ว

    อ๊ะ! จริงสินะ โทษทีจ๊ะฮาคุ เชิญทุกคนเข้าไปข้างในจ๊ะพูดแล้วเปิดประตูให้กว้างขึ้น

    พอทุกคนเข้ามาข้างในห้องของเธอจนครบประตูห้องก็ถูกปิดลง แล้วเจ้าตัวก็เปิดปากพูดขึ้น  ข่าวร้ายคืออะไร เอาแบบรวดเดียวแล้วเข้าใจนะพูดเสร็จก็ตามมานั่งกับทุกคนที่ห้องรับแขกของห้องแห่งนี้ ห้องนี้กว้างพอสมควร ด้านข้างเป็นห้องหนังสือมีโคมไฟตั้งอยู่ที่โต๊ะหนังสือมองเข้าไปด้านในจะเห็นหนังสืออยู่ในชั้นเต็มไปหมดเป็นระเบียบเรียบร้อย อีกห้องก็จะเป็นห้องนอน ห้องน้ำ ห้องรับแขกจะอยู่ตรงกลางของห้อง ถัดไปก็จะเป็นห้องครัว ซึ่งมีโต๊ะทานอาหารพอนั่งได้5-6คน

    เข้าเรื่องเลยนะ....`ปิศาจถูกปล่อยออกมา ...เมื่อวานที่ดินแดนศักดิ์สิทธ์ต้องห้าม โทริโอโฮริเขตแดนที่กักขังเหล่าปีศาจ ที่พวกเรารู้ดีว่ามีทหารเอกระดับแนวหน้าดูแลเขตแดนมากมาย ประมาณห้าทุ่มทุกอย่างปกติเหมือนทุกวัน แต่จู่ๆก็เกิดพายุพัดรุนแรงแล้วสักพักก็สงบ...ทุกอย่างก็ยังคงปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น...แต่พอวันนี้ตอนสี่โมงกลับพบว่า `เหล่าปิศาจถูกปล่อยออกมา ทั้งๆที่เมื่อวานหลังเกิดพายุ  ปิศาจก็ยังอยู่ ตอนเช้าทุกอย่างก็ยังปกติจนถึงตอนสี่โมงก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ...ทุกคนต่างก็สงสัยว่ามันถูกปล่อยออกมาได้ไง ตอนไหน และใครกันที่กล้าลงมือทำแบบนี้...ซาคุพูดจบ คนฟังอย่างคาซึนะก็คิ้วขมวดเป็นปมทันทีแล้วจึงเอ่ยปากถาม     

    ถึงมันจะเป็นข่าวร้ายแต่มันเกี่ยวกับพวกเราตรงไหน? แล้วรู้ได้ไงว่าปิศาจถูก

    *ปล่อย* ไม่ได้*หลุด*ออกมาเองถามออกไปด้วยความสงสัย คราวนี้ฝ่ายตอบคำถามให้คนที่สงสัยได้ฟัง คือฮาคุ

    ที่เค้าบอกว่ามันถูก*ปล่อย* ออกมาเพราะพลังของปิศาจแต่ละตัวหลังจากถูกสะกดจาก`วาริโอะกษัตริย์องค์ที่1แห่งดินแดนแห่งนี้ พวกมันก็ถูกสลายพลังออกไปจนเกือบหมดจึงไม่สามารถทำลายกรงกักขังที่มีอาคมเวทย์แน่นหนาออกมาได้ .....เว้นแต่ว่า...จะมีผู้มีอำนาจที่มีพลังแกร่งกล้ามาปลดปล่อยพวกมันออกจากพันธนาการ

    ...ส่วนเรื่องที่ว่าเกี่ยวกับพวกเรายังไง ก็หลังจากท่านคาฮาระเสนาบดีผู้ดูแลแดนศักดิ์สิทธ์ต้องห้ามได้ทราบเรื่องเข้าก็ได้มอบหมายงานนี้ให้แก่อาจารย์และพวกเรารับผิดชอบ จัดการเรื่องการสะกดวิญญาณเหล่าปิศาจ และการรวบรวมตามล่าเหล่าปิศาจพูดจบก็หันไปมองหน้าเด็กสาวที่ตอนนี้ทำอึ้งไปเรียบร้อยกับคำตอบที่ได้ฟัง  ก่อนจะถามออกไป

    แล้วทำไมต้องเป็นพวกเราด้วย? คนอื่นๆก็มีตั้งเยอะ ต้องทำงานเหนื่อยแบบนี้น่าจะให้เป็นหน้าที่ของทหารเอกสิ ปิศาจมีตั้งเท่าไรพวกเราแค่ 5 คนจะทำอะไรได้มากแค่ไหนกัน อิซาคุนี่ก็จริงๆเลยไม่รู้จักดูจำนวนคนสู้ กับ จำนวนปิศาจปิศาจ ต้องสู้ตั้งเท่าไรกว่ามันจะหมด แล้วไหนต้องตระเวนหาอีกทำอย่างกะดินแดนแห่งนี้แคบตาย

                    ช่วยไม่ได้ มันเป็นหน้าที่ ที่ได้รับมอบหมายมาแล้ว จะปฏิเสธไม่ได้เพราะรู้กันอยู่ใครจะยอมรับงานอันตรายแบบนี้ แล้วได้รับมอบหมายมาแล้วก็ควรทำด้วยความเต็มใจ จริงใจ และเต็ม100ที่สุด อีกอย่างการที่ท่านคาฮาระมอบหมายงานนี้ให้ก็เพราะท่านไว้ใจเรา เราก็ควรภูมิใจกับงานนี้ และทำใจยอมรับมัน ถึงจะยากหน่อยก็เถอะ แต่ก็อย่างว่า `ไม่มีสิ่งไหนยากสำหรับพวกเราถ้าเราพยายาม’”คาโตะพูดบอกทุกคนด้วยน้ำเสียงจริงจัง

                    มันก็จริง ที่นายพูดมันก็ถูกแต่ฉันว่าท่านคาฮาระขี้เกียจมากกว่าคาซึนะเถียงต่อ

                    ไม่ว่าเหตุผลอะไร เราก็ได้รับมอบหมายมาแล้ว ที่สำคัญการนินทาผู้อื่นไม่ใช่สิ่งที่ดี

    โดยเฉพาะเธอ*คาซึนะ*เธอน่าจะรู้และเข้าใจให้ดีคาโตะพูดเป็นเชิงดุและตักเตือนเด็กสาว

                    จ้า จ้า เข้าใจแล้ว แล้วทำไมไม่เอาข่าวไปบอกฉันตอนพรุ่งนี้เช้าล่ะ มาบอกทำไมตอนดึกๆดื่นๆ เอามือเท้าคางแล้วมองไปทางฮาคุถามไปด้วยความสงสัย

                    ก็เพราะจะว่ามันเป็นเรื่องด่วนก็ด่วนน่ะสิฮะแต่ก็ไม่ด่วนมากเท่าไร...คือ ตอนแรกพวกเราตกลงกันว่าจะไปบอกกับพี่พรุ่งนี้เพราะเราไม่อยากจะรบกวนพี่ แต่พี่คาโตะบอกว่าพี่คงอยากจะรู้วันนี้ แล้วเรื่องนี้มันก็ กระทันหัน พี่คาโตะเลยอยากให้พี่ได้เตรียมใจสำหรับเรื่องที่เกิดขึ้น พวกเราก็เลยตกลงมาที่นี่กันฮะฮาคุอธิบาย คาซึนะจึงหันหน้าไปค้อนใส่คนที่เพิ่งถูกกล่าวถึง  ...คาโตะ...

                    ในเมื่อเธอฟังข่าวร้ายจบแล้วต่อไปเราจะมาฟังข่าวดีกันได้แล้วนะ....แต่น แต๊น แต่น..ข่าวดีที่ว่าคือ..เราจะสามารถหยุดเรียนเมื่อไรก็ได้ที่เราต้องการหากว่าเราเหนื่อยจากภาระกิจที่ได้รับ โดยจะไม่เสียเวลาเรียนเลยสักวันเดียว...555 เป็นไงล่ะคาซึนะดีใจล่ะสิท่า555  ซาคุพูดออกมา น้ำเสียงร่าเริง ตื่นเต้นดีใจสุดขีดนึกว่าคนที่ได้ฟังคงจะดีใจเป็นแน่ ก็`คาซึนะเบื่อการไปโรงเรียนนี่นา แล้วอีกอย่ายัยนั้นคงดีใจใหญ่ถ้าจะได้โดดเรียนอย่างสบาย   แต่ก็ต้องผิดหวังเมื่อคนฟังไม่ได้หัวเราะตามกลับทำหน้าเซ็งยิ่งกว่าเดิม นี่กลายเป็นว่าเราตื่นเต้นอยู่คนเดียวรึไงนะ

    `ทำไมยัยนั้นไม่ร่าเริงอย่างที่น่าจะเป็น หรือว่าช็อคเรื่องเมื่อกี้ รึดีใจจนพูดไม่ออกแต่ไม่แสดงออกมา ซาคุนึกไปคนเดียวต่างๆนานา เพราะผิดความคาดหมายที่เค้าคาดไว้ จนทนไม่ไหวกับท่าทีของคนตรงหน้าที่ตอนนี้กำลังทำหน้าเบื่อโลก เลยถามออกไปให้หายข้องใจ เธอเป็นอะไรไปน่ะ

    คาซึนะไม่ดีใจรึไงกัน เราจะได้หยุดเรียนเมื่อไรก็ได้ที่เราต้องการเชียวนะ ข่าวดีขณะนี้เธอไม่ดีใจเลยรึไงทำหน้าแบบนี้ไม่สมกับเป็นเธอเลยหน้าเป็นทุกข์เนี่ย

                    แกจะให้ฉันดีใจยังไง เนี่ยะน่ะเหรอข่าวดีบ้าบอคอแตกอะไรที่แกพูด มาบอกว่า

    `เราต้องไปจับปิศาจซึ่งมันแน่อยู่แล้วว่าต้องไม่มีเวลาพัก แล้วก็มาบอกว่า `เราสามารถพักเมื่อไหร่ก็ได้ที่เราต้องการ งั้นเวลาไม่อยากไปจัดการกับปิศาจบ้าๆพวกนั้นก็พักได้งั้นสิพูดออกมาด้วยความโมโห ตอนนี้หน้าตาเธอบูดบึ้งเป็นอย่างยิ่ง

    ซาคุไม่ได้หมายความว่าแบบนั้นซะหน่อย ที่หมอนั่นพูดคือหลังจากที่เราเหนื่อยจากภาระกิจจนไม่สามารถไปเรียนได้ เธอก็สามารถหยุดได้โดยเวลาเรียนครบอธิบายให้คนที่เพิ่งโวยวายไปให้เข้าใจแต่ไม่วายก็มีคำตำหนิตามมาอีกอย่างเป็นผู้หญิงก็ควรพูดจาให้สุภาพ

                    ค่า รู้แล้ว รู้แล้ว ขอบพระคุณนะคะที่กรุณาเตือนพูดประชดออกไป

                    แล้วอีกอย่างมันจะเป็นข่าวดีไปได้ยังไง แกอย่าลืมนะว่าเราเพิ่งปิดภาคเรียนมาเมื่อสองวันก่อนเอง จะเปิดเรียนอีกทีก็นู้น สามเดือนหน้าคาซึนะพูดกับซาคุ

                    อ้าว ก็เผื่อเรื่องนี้มันจะยืดเยื้อนานไงแก้ตัวออกไปน้ำขุ่นๆ

                    ก็ขออย่าให้มันเป็นจริงตามที่แกพูดเลย ทำตั้งสามเดือนไม่ได้หยุดได้หย่อน ฉันก็ตายพอดีคาซึนะบอก

    ---- ปัจจุบัน ----

                    .....นั่งนึกถึงเรื่องราวที่ผ่านมาเมื่อ 3 อาทิตย์ก่อนอยู่บนเตียง

    เฮ้อ...ผ่านมา 3 อาทิตย์แล้วเหรอเนี้ยะ เร็วจังแฮะนั่งนึกอะไรไปเรื่อยๆ

    จนกระทั่งแสงอาทิตย์ลอดผ่านหน้าต่างเข้ามาในห้อง เสียงจ๊อกแจ๊กจอแจของผู้คนบนถนนเริ่มมีมากขึ้น

    อ่ะ! แย่แล้ว! สายป่านนี้แล้วเหรอเนี้ย โอ๊ย! อุตส่าห์ตื่นเช้าทั้งทีดันเผลอไปนึกอะไรเพลินๆจนได้ แล้วที่ตื่นเช้ามาก็เสียประโยชน์ไปเปล่าๆอะดิ ว่าแล้วก็รีบลุกขึ้นไปอาบน้ำ แต่งตัว เก็บสัมภาระที่จำเป็นใส่กระเป๋าเป้คู่ใจ ก่อนรีบวิ่งออกจากห้องไป.....

     ***********************************************

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×