ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (Fic Tokyo Ghoul) Family Kaneki (Yaoi)

    ลำดับตอนที่ #2 : ตอนที่ 1 : งานเข้า!

    • อัปเดตล่าสุด 8 พ.ค. 59


     

    1
    งานเข้า!


     

                    ชายหนุ่มวัย23ตำแหน่งหัวหน้าแผนกหน่วยงานพิเศษ ณ ตอนนี้นอกจากนั่งเซนเอกสารจากงานที่ตกค้างจากงานอื่นที่ลูกน้องไปทำเละไว้และเขาก็ต้องรับผิดชอบทั้งหมดแต่มันก็ไม่ได้หนักหนาอะไรมากมายสำหรับเขาเรียกอีกอย่างว่าชินชาเขาชินกับการโดนเรียกไปพบตัวชินกับการถูกต่อว่าในหลายๆงานจนเบื่อที่จะคิดลาออกหรือบางทีเขาจะเป็นพวกมาโซคิสชอบให้คนด่าไปเสียแล้ว?

                    อ่า...แล้ววันนี้ก็เช่นกันหลังเซ็นเอกสารการรับผิดชอบทุกอย่างเสร็จเขา ‘ไฮเสะ ซาซากิคนนี้จะต้องบากหน้าเดินขึ้นไปพบคุณหัวหน้าใหญ่ชั้นพิเศษอาริมะเพื่อหาข้ออ้าง...อ่า...ข้อแก้ตัวในเรื่องต่างๆที่เด็กๆเขาไปเล่นปาหี่จนพลาดพลั้ง ร่างบางของหนุ่มผมสีดำแซมขาวเลื่อนเก้าอี้ออกจากจอคอมพิวเตอร์เล็กน้อยก่อนเอนกายพิงพนักเก้าอี้ถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่ายมือปล่อยวางเอกสารทั้งหมดที่เพิ่งเซ็นเสร็จและรายงานที่ต้องแก้อีกหนึ่งปึกลงบนโต๊ะอย่างเสียไม่ได้ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นมองเพดานมือข้างหนึ่งยกขึ้นถอดแว่นนวดหว่างคิ้วเล็กน้อยคลายอาการปวดตาตั้งแต่เขาออกมาจากบ้านเมื่อเช้าพอมาถึงที่ทำงานเหล่าเด็กๆที่แสนน่ารักก็วิ่งเข้ามาบอกเรื่องวุ่นวายที่ก่อไว้ตั้งแต่ต้นจนจบนั่นเล่นเอาไฮเสะแทบจะเป็นลมล้มพับเข้าโรงพยาบาลไปซะเดี๋ยวนั้นและก็เป็นเหตุให้เขามานั่งพิมพ์รายงานอีกหนึ่งปึกอยู่นี่...

                    ว่าแล้วก็ถอนหายใจอีกระรอกคิดไปก็เท่านั้นบ่นออกมาก็เป็นเรื่องเป็นราวอีกถ้าใครมาได้ยินเข้าคงไม่ดีงานเข้าอีกแหงๆคิดแล้วก็พาลให้อยากถอนหายใจอีกรอบแต่ถ้าขืนทำแบบนั้นไม่พ้นโดนนินทาอีกน่ะสิคนพวกนั้นจับผิดเก่งยิ่งกว่านักสืบชื่อดังในนวนิยายสืบสวนเสียอีก

                    เฮ้อ...

                    ทำไมชีวิตฉันมันยุ่งยากแบบนี้นะ...

                    ชักอยากกลับบ้านแล้วสิ...

     
     

                    มหาลัยคามิ


     

                    ระหว่างกำลังเก็บข้าวของไปเรียนคาบต่อไปก็มีคนมาเรียกที่หน้าห้องเป็นหนึ่งในเพื่อนร่วมห้องที่เป็นผู้หญิงเด็กหนุ่มเพียงสบตาด้วยและพยักหน้าเป็นอันว่ารับรู้เรียบร้อยเธอบอกเขาว่ามีคนอยากเจอเป็นกลุ่มแก๊งอันตรพาลดูไม่น่าไว้ใจเขาเองก็คิดอยู่แล้วว่ามันจะต้องมีเข้ามาหาทุกวี่ทุกวันพวกนี้ไม่รู้จักเข็ดหลาบหรือไม่เบื่อกันบ้างหรือไงกันนะหรือเป็นเพราะผมสีขาวที่แสนจะเด่นของเขาด้วยหรือเปล่านะมันถึงได้ดึงดูดพวกนั้นเข้ามาได้เรื่อยๆ...

                    สีแบบนี้มันเป็นมาตั้งแต่เกิดมาแล้วต่างหาก...

                    “นี่จะไปกันแล้วนะ!” เพื่อนอีกสองสามคนเอ่ยเรียกหน้าห้อง เคนเพียงครางตอบออกไปเบาๆและรวบกระเป๋าสะพายของตัวเองขึ้นลุกเดินตามออกไปมือเล็กเผลอยกขึ้นจับเส้นผมของตัวเองขณะที่ดวงตาเหม่อมองออกไปนอกระเบียงแสงอาทิตย์วันนี้ค่อนข้างแรงนกตัวน้อยหุบปีกลงเดินที่พื้นดินภายใต้ร่มเงาของต้นไม้ขณะที่อีกตัวพองขนทำตัวใหญ่จีบตัวเมียแข่งกับหนุ่มอีกหลายตัว...

                    หึ...ถ้าชีวิตคนมันง่ายแบบนั้นก็ดีสิ...

                    ร้อนก็หลบเมื่อยก็พักบินได้อย่างอิสระเวลาจะจีบสาวก็แค่ทำตัวให้พองๆดูใหญ่โตสามารถปกป้องเขาได้...แค่นั้นก็ได้คนรักมาครอบครองบางทีเขาก็คิดว่าควรจะเลิกหนีความจริงเสียทีทั้งๆที่ไม่อยากเจ็บมือเสียหมัดไปกระแทกหน้าใครแท้ๆแต่ในเมื่อหาเรื่องเองก็ช่วยไม่ได้เอ...แต่เดี๋ยวนี้เรื่องมันชักจะตรึงมือมากขึ้นยังไงก็ แค่เบาะๆก่อนดีกว่า

                    ปึก!

    หลังจากเดินเอื่อยเลื่อนเวลาเรียนหรือเรียกง่ายๆว่าเนียนโดดร่มก็โดนชนเข้าให้กลางอกดังปึกเป็นเสียงที่ยืนยันได้แน่นอนว่าคนชนมันต้องพุ่งตัวมาแรงมากแต่ดูเหมือนอิกำแพงเมืองจีนนี่จะไม่สะทกสะท้านเลยสักนิดเพียงปลายตามองคนที่ล้มไปนั่งกลิ้งกับพื้นเท่านั้น

                    “นี่นายเดินดูทางบ้างสิ!” เอ๊า! ก็แม่นางวิ่งไม่ดูแล้วมาชนเขาเองไม่ใช่เรอะ เคนแอบเถียงเบาๆและด้วยความที่เป็นสุภาพบุรุษจึงโน้มตัวลงยื่นมือให้อีกส่ายเป็นหลักจับลุกยืนขึ้นพร้อมถามด้วยเสียงนุ่มดูเป็นมิตรว่า

                    “เป็นอะไรหรือเปล่าครับแสดงถึงความเป็นพระเอกเสียเต็มประดาประมาณว่าตูเป็นคนดีนะหรือฉันเป็นฮีโร่นะและแน่นอนเพราะด้วยความหล่อที่เป็นทุนเดิมจึงทำเอาแม่สาวไข่ดาวซาลาเปาสองห่อบนหัวถึงกับหน้าแดงเป็นมะเขือเทศแล้วรีบบอกปัดว่าไม่ได้เป็นอะไรก่อนวิ่งหายวับเข้าซ่อ---เข้าห้องอาจารย์ไป

                    หลังจากหมดเรื่องหมดราวเคนก็เดินเพลินมาหลังมหาลัยที่เป็นที่นัดพบระหว่างแก๊งขี้แพ้ชวนตีกับตัวเขาพระเอกผู้เรืองรองก่อนอื่นก็ต้องยืนล้วงกระเป๋าเท่ๆให้สาวกรี๊ด...สาวมาจากไหน ไม่ต้องสงสัยเพราะทุกครั้งที่มีเรื่องแม่นางเหล่านั้นก็ยกโขยงมาจากไหนไม่รู้แล้วที่แน่ๆคือไปเอาข่าวมาไหนถึงได้รู้ว่าเขาจะโดนบวกในเร็วๆนี้กัน?

                    เด็กหนุ่มกวาดตามองคู่ต่อสู้ตั้งแต่หัวจรดเท้าตั้งแต่เคราแพะยันรองเท้าผ้าใบสีน้ำตาลแก่และผู้ติดตามหน้ากากประหลาดๆอีกสามคน ตั้งใจจะดูถูกกันรึไงเขายืนเฉยๆปล่อยให้พวกนั้นบุกเข้ามาก่อนเป็นไปได้ก็อยากจะให้คุยกันก่อนเผื่อจะได้ไม่ต้องตีกันมันเปลืองค่าสำลีหมอ

                    “...มีอะไรหรือเปล่าครับ?ถามกลับไปด้วยน้ำเสียงและถ้อยคำสุภาพน่าคบหาทว่ากับครอบครัวนี้คนละเรื่องไม่รู้มันเป็นความลำเอียงแบบไหนเหมือนกันยิ่งกับคาเนกินี่ไม่ต้องพูดถึงแกล้งได้แกล้งเอาไม่มีเบื่อ

                    เอ่ยถามจบเหล่าสามเกรอก็หันไปซุบซิบๆกันส่วนตัวหัวหน้านี่เดือดเลือดขึ้นหน้าอย่างกับเขาเคยไปเผาบ้านมันอย่างไรอย่างนั้นเคนเอียงคอมองและยิ้มให้เล็กน้อย...หรือจะเรียกว่าแสยะดี?

                    “นะนายยยย คนที่อยู่กับคุณริเสะตอนนั้น! คบกันแล้วใช่ไหม!! แกเป็นใครฉันไม่รู้แต่...แต่ ฮว๊ากกกกก” แล้วหมัดรุ่นๆก็ส่งมาหมายกระแทกแก้มของเคนทันใดนั้นขณะเดียวกันเจ้าตัวก็หลบและพลิกตัวยกเข่ากระแทกสีข้างอีกฝ่ายเต็มแรง เจ้าหนุ่มที่พูดมากและร้องว๊ากๆฟังไม่ได้ศัพท์เมื่อครู่กระอักและล้มลงไปนอนจุกอยู่กับพื้นทันใด เคนมองบุคคลตรงหน้าอย่างอึ้งๆเขาไม่เคยเจอคนแบบนี้มาก่อน...

                    นัดเดียวจอด...

                    แค่ตีเข่ามันก็น็อคเอาท์ไปซะแล้วเด็กหนุ่มส่ายหัวเบาๆและถอนหายใจก่อนเดินออกมาปล่อยให้ลูกน้องสองสามคนของเจ้าหนุ่มนั่นวิ่งเข้าไปดูอาการที่เหมือนจะโคม่าของหัวหน้า

                    “เดี๋ยว…”

                    หือ?...

                    โอ้ให้ตายเถอะอึดใช้ได้แฮะเคนพลิกหน้าหันกลับมาเมื่อขาเขาถูกสกัดโดยมืออีกคนซ้ำมันยังยึดจับไว้โดยไม่ปล่อยง่ายๆแน่นอนเจ้าของเรือนผมสีขาวนั่งลงยองๆและเอ่ยถามอีกครั้งทว่าก่อนจะได้เปิดปากพูดคนที่จับขาเขาไว้ก็ดันชิงถามขึ้นมาเสียก่อน

                    “นาย...เก่งขนาดนี้เชียวเหรอ...อ๊อคแล้วก็ม่องเท่งไปในที่สุดทำเอาเหล่าลูกน้องร้องโหยหวนกันไปตามๆกันขณะที่เคนยังคงมึนอยู่กับสถานการณ์

                    “คือว่านะคุณบันจอยไม่ได้ต้องการมาหาเรื่องหรอก...เอ่อ หัวหน้าเรานะ

                    “หือ...”

                    “โคตรจะกากเลยล่ะครับ” ว่าไปนั่น...

    .......................................................................................................

    เปลือกตาบางเปิดขึ้นเผยดวงตาสีเทาหม่นจนเกือบดำ บางทีไฮเสะก็คิดว่านี่เป็นวันซวยของเขาหรือไงกันนะ อา...อากาศดีจังน่าจะลุกจากเก้าอี้...อ่าไม่สินี่มันควรจะเรียกว่าเตียงเคลื่อนที่ต่างหากดีจริงๆดีจริงๆดีจนน้ำตาไหลเลยล่ะ ภาพแรกที่ปรากฎสู่ม่านสายตาของเขานั่นแหละคือสาเหตุ...เพราะมันคือ

    แว่น...

    และสิ่งที่ตามมาก็คือใบหน้านิ่งจนเปลี่ยนเป็นเย็นชาสายตาที่จ้องมองมาอันแสนอบอุ่นและอุ้งมือที่วางแตะอยู่บนหัวของเขาอย่างรักใคร่เอ็นดูปานจะกลืนกินช่างเป็นคุณพ่อในฝันจริงๆ อบอุ๊นอบอุ่นอ่ะ...

    อะ...อรุณสวัสดิ์ครับคุณอาริมะ” นั่นปะไร อุส่าบอกน้องๆแล้วว่าวันนี้ไม่ได้นัดประชุมแต่เพราะเมื่อเช้าเด็กๆหาเรื่องมาให้เลยโดนเรียกตัวแล้วพองานเสร็จก็ดันคิดอะไรเพลินมันเลยเผลองีบรู้สึกตัวอีกทีก็มานอนหนุนตักคุณอาริมะซะแล้วแถมเขายังรู้ทันกั๊กตัวไว้ไม่ให้หนีได้อีกต่างหากมือที่วางอยู่บนหัวกะจะล็อคไว้ไม่ให้ลุกขึ้นเลยสินะ...

    นี่เที่ยงแล้วไฮเสะ” อ๋อเหรอครับ? อยากจะแสร้งถามแบบนั้นเพื่อเปลี่ยนเรื่องจริงๆแต่ดูเหมือนพูดไปก็เหมือนขุดหลุมฝังตัวเองเองนั่นแหละ

    เอ่อ...คือ บางทีผมก็คิดว่าควรจะลุก”

    อืมนั่นสินะ ขอโทษด้วยแล้วกัน” แล้วเขาก็ปล่อยให้ลุกทว่าพอจะยืนเขาก็ฉุดให้ลงมานั่งเสียอย่างงั้นไฮเสะมองเจ้านายด้วยความไม่เข้าและด้วยความที่มีความซื่อ(บื่อ)อยู่เป็นทุนเดิมเลยไม่คิดจะถามเรื่องที่ว่าตัวเองไปนอนอยู่บนตักคุณอาริมะได้อย่างไรและใครที่ไหนเป็นคนอุ้มมา...

    เอ่อคือ...เรื่องที่...เด็กๆไปก่อเรื่องมาเมื่อวันก่อน..” คนข้างๆเอ่ยขึ้นเบาๆด้วยน้ำเสียงไม่สู้ดีนักใบหน้านั้นก้มต่ำราวกับกำลังหนีสายตาของอีกฝ่ายที่จับจ้องมองมา อาริมะเพียงมองใบหน้าด้านข้างของไฮเสะและดันแว่นให้ตรงสายตา

    ค่าเสียหายก็เยอะพอดูเลยล่ะ

    ฉึก!

    และดูเหมือนทางนั้นจะไม่ค่อยพอใจด้วย

    ฉึก!

    แถมบอกว่าพนักงานไม่เต็มใจเสนอสินค้าแล้วยังทำหน้าไม่รับลูกค้าอีกต่างหากโดนหมิ่นหลายข้อหาเลยล่ะ

    ฉึก! ฉึก! ฉึก!

    ที่พูดมาทั้งหมดก็ควรค่าแก่การเสียน้ำตาแล้วล่ะครับคุณอาริมะ ไฮเสะแอบร้องไห้เบาๆแทงใจไปหลายดอกกันเลยทีเดียวแล้วเขาจะเอาเงินที่ไหนมาจ่ายให้แล้วเขาจะแก้ข่าวเสียๆหายๆกับทางบริษัทนี้ยังไงแล้วเขาจะหาลูกค้าที่พร้อมจะจ่ายตังค์แบบนี้ได้ที่ไหนอีกแล้ว...แล้ว...แล้วเขาจะโดนไล่ออกไหมมมม!!

    เอ่อคือผะ...ผม

    ชิบหายละตูจะแก้ตัวยังไงดี?

    ในขณะที่กำลังกังวนในหลายๆเรื่องอยู่นั้นคุณอาริมะก็เข้ามาจับบ่าเขาเบาๆเรียกสติอีกฝ่ายและใบหน้าติดหวานนั้นให้หันไปมองถ้าคิดในแง่ดีเขาอาจจะไม่ไล่ออกแต่ลดตำแหน่งและย้ายไปแผนกอื่นแทนแต่ถ้ากลับกันเขาอาจจะโดนเตะออกจากที่นี่น้องชายสองคนคงอยู่กันเองไม่ได้แน่นอนสมัยนี้งานไม่ได้หากันง่ายๆด้วยมีหวังอดตายกันทั้งบ้านแหงๆ

    ผมจะ...ผมจะรับผิดชอบแทนพวกเขาเองจะ...จะให้ผมทำอะไรก็ได้ครับ ผม...” ผมไม่รู้จะใส่ไข่ยังไงแล้วครับพ่อคุณอย่าไล่ตูออกเป็นพอ ไฮเสะกำลังพึ่งดวงที่ไม่ค่อยจะมีของตัวเองอย่างสุดชีวิตและภาวนาเว้าวอนขอพระเจ้าที่ไม่รู้มีอยู่จริงไหมให้ช่วยบรรดารให้เขาสมปรารถนาที่เถิดดดด

    ชายหนุ่มผู้เป็นเจ้านายปลายตามองคนที่กำลังสั่นกลัวอยู่ข้างๆและน้ำตาปลิ่มจะร้องไห้อยู่รอมร่อเขาถอนหายใจเรื่องที่เจ้าเด็กพวกนั้นหาเรื่องเหนื่อยมาให้ได้อย่างน่าเหลือเชื่อ ทำให้คนข้างๆเขาต้องหนักใจและเข้ามารับผิดชอบเสียทุกเรื่องด้วยความเป็นหัวหน้าแต่...เขาก็เข้าใจ

    เรื่องที่เกริ่นมาทั้งหมดฉันช่วยรับผิดชอบให้หมดแล้วนายไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น

    เอ๋?”

    พวกนั้นไม่ได้ตั้งใจให้เป็นแบบนี้ก็แค่อยากจะช่วยให้หัวหน้าตัวเองมีชื่อในทางที่ดีบ้าง...ก็เท่านั้น

    แต่...มีข้อแลกเปลี่ยนเพราะฉันคงไม่ทำให้ฟรีหรอกนะ

    เพื่อแก้ไขคำติฉินนินทาทั้งหลายเพื่อให้คนเหล่านั้นได้เข้าใจว่าแท้จริงแล้วเจ้านายของพวกเขาไม่ได้เป็นอย่างที่เขาลือกันก็แค่อยากให้พวกนั้นมองในทางที่ดีบ้างแม้สักเล็กน้อย...

    ครับ” ไฮเสะในเวลานี้ไม่มีอะไรจะเสียอีกแล้วขอแค่ไม่โดนไล่ออกข้อแลกเปลี่ยนนั้นจะเปลืองเนื้อเปลืองตัวแค่ไหนเขาก็จะยอมทำ

     

                    ร้านกาแฟอันเทย์กุ

     
     

                    นี่นาย...จะทำ Part time ร้านนี้จริงดิ...นากาชิกะ ฮิเดโยชิ เพื่อนสนิทสุดซี้ของคาเนกิวันนี้หลังเรียนเสร็จเขาก็มาเป็นเพื่อนคาเนกิซึ่งหลังจากเกิดเหตุการณ์แอบรักสาวแว่นอกหนองโพไปก็ชวนเดทกันแล้วก็ถูกแม่นางฉกกระเป๋าตังค์หมดเนื้อหมดตัวกันไปแล้วหวิดเกือบโดนลักไปฆ่าแต่ยังโชคดีที่มีสาวน้อยคนนึงมาเห็นเข้าเลยช่วยเรียกคนแถวนั้นมาช่วยได้ทันและ...เธอคนนั้นก็ทำงานอยู่ที่นี่แหละ...

                    “อืม...ฉันกับพวกพี่ๆชอบมากินกาแฟร้านนี้ตอนจะกลับบ้านน่ะ ก็ว่าทำไมเธอหน้าคุ้นๆที่แท้ก็เด็กร้านนี้คาเนกิว่ายิ้มๆและผลักประตูหลังร้านเข้าไปพบผู้จัดการร้านที่เป็นชายแก่แต่ดูเป็นผู้ดี คือว่าผมอยากทำงานที่นี่...น่ะครับ

                    ชายแก่อมยิ้มให้และเชิญคาเนกิเข้ามาด้านในร้านก่อนยกกาแฟมาวางตั้งและนั่งคุยกันด้านในร้านอย่างเป็นกันเองสักพักคาเนกิก็ออกมาและยิ้มให้ฮิเดะที่ยืนรอเป็นเพื่อนอยู่ด้านนอก

                    “เป็นไงบ้าง?”

                    “อืมเขาบอกให้เริ่มงานได้พรุ่งนี้เลย ยังไม่ได้เจอเด็กคนนั้นหรอกคุยกับผู้จัดการคนเดียวน่ะเมื่อเห็นสายตาฮิเดะที่จ้องมองมาราวกับจะถามหาเธอคนนั้นคาเนกิก็ชิงตอบกลับไปก่อนและเดินกลับมหาลัยไปอีกครั้งเพื่อเรียนคาบบ่ายอีกคาบหนึ่งและนั่งรอฝาแฝดที่วันนี้มีเรียนมากกว่าเขาหนึ่งคาบ

    ......................................................................................................

                    “หา!! ฝาแฝด!” ชายหนุ่มหลุดเสียงดังด้วยความลืมตัวว่าตัวเองอยู่ในห้องพยาบาลของมหาลัยที่มาหมอบอยู่นี่ได้ก็เพราะเคนช่วยแบกมาและรอให้เจ้าตัวตื่นโดยฟังคำเล่าจากลูกน้องของเจ้าหมอนั่นแทน

                    “อืมที่นายพูดถึงคงเป็นคาเนกิล่ะสิ...เห็นว่ามีผู้หญิงมาหลอกหุกทรัพย์หมดตัวมาเมื่อวันก่อน พูดแล้วก็ก็อดขำไม่ได้ทำไมน้องเขามันซื่อขนาดนั้นนะหรือว่าได้พี่มา?

                    “เอ่อ...งั้น...พวกเราก็ต้องขอโทษด้วยที่เข้าใจผิด!!” หนุ่มเคราแพะก้มหมอบขอโทษขอโพยอย่างเอาเป็นตายเล่นเอาเคนเองก็รู้สึกเกรงใจเล็กน้อยอันที่จริงไม่เห็นต้องทำขนาดนั้นเลย...

                    “ลุกขึ้นเถอะครับ แล้วก็ทำไมถึงโกรธล่ะ?

                    “หา? เอ่อเปล่าหรอกไม่ได้โกรธ ฉันก็แค่ช็อคที่คุณริเสะมีแฟนแล้วเท่านั้นเอง” ว่าพลางหน้าหงอยจนเคนชักจะเริ่มสงสัยแล้วว่าไอ้นี่มันเกี่ยวข้องอะไรกับยัยริเสะนั่นกันแน่(วะ)นะ

                    “เอ่อแล้วทำไมจะต้องมาชวนผมทะเลาะด้วยล่ะ?

                    “หา? อ๋อก็แบบว่าพอรู้ว่าเป็นแฟนคุณริเสะก็เลยเผลอ...เคนส่ายหน้าแล้วไหงไอ้หมอนี่มันถึงได้คิดไปเองเป็นตุเป็นตะขนาดนั้นฟระเขายังไม่ได้พูดสักคำว่าเขาหรือคาเนกิเป็นแฟนริเสะเสียหน่อย

                    “อ่า ไม่ใช่หรอกคาเนกิไม่ได้เป็นแฟนริเสะ...”

                    “หา! คุณริเสะยังไม่มีแฟนเหรอ!” บันจอยลุกขึ้นพรวดพลาดยื่นหน้าเข้าใกล้เคนและถามเสียงดังเรียกสายตาจากทุกคนในห้องพยาบาลอีกรอบ เคนเบิกตามองเล็กน้อยและยกมือขึ้นดันอกอีกฝ่ายออกก่อนกดให้อีกคนนั่งลงดีๆ

                    “ครับ แล้วทำไมถึงถามหาเธอขนาดนั้นล่ะ เคนเข้าเรื่องถามตรงประเด็นและนั่งประสานมือมองอีกฝ่ายที่ทำท่าจะปรึกษากันว่าจะเล่าดีไม่เล่าดีแต่สุดท้ายไม่นานบันจอยหัวหน้ากลุ่มก็เอ่ยปากตอบในที่สุด

                    “อ๋อ คืองี้นะริเสะเป็นพวกหาตัวจับยากเธออยู่ไม่เป็นหลักแหล่งและเธอเคยอยู่บ้านข้างๆฉันมาก่อนดูเหมือนจะเป็นบ้านญาติแล้วทุกวันๆฉันสังเกตมาหลายครั้งเธอถูกพวกนั้นทำร้ายจนเธอทนไม่ได้และหายไปตอนนั้นฉันก็คิดว่าดีแล้วที่เธอหายไปแต่ว่าหลังจากนั้นฉันก็เห็นคนพวกนั้นพยายามตามตัวเธอฉันคิดจะไปบอกเธอแต่ก็ไม่รู้ว่าเธออยู่ที่ไหนจนเมื่อวันก่อนเห็นเอ่อ...แฝดนายไปนั่งอยู่กับเธอก็เลยคิดว่าน่าจะรู้ว่าเธออยู่ที่ไหนเพราะวันนั้นฉันคลาดกับเธอหลังจากสะกดรอยตามไป...

                    “งั้นเหรอครับ” เคนเพียงตอบกลับสั้นๆเขาไม่เคยคิดว่ายัยผู้หญิงที่ฉกเงินน้องชายเขามันจะมีปริศนาชวนดราม่าแบบนี้ด้วยเด็กหนุ่มมองอีกฝ่ายเงียบๆและลุกขึ้นยืนเรียกบันจอยและเหล่าลูกน้องให้หันมอง เอาเป็นว่าผมไม่รู้หรอกนะว่าเธออยู่ที่ไหนเพราะคาเนกิบอกว่าเธอเอาเงินเขาไปและหายไปเลย” เคนว่าก่อนลุกขึ้นยืนและเอ่ยเป็นครั้งสุดท้าย

                    “แต่ถือว่าเราแลกเปลี่ยนข้อมูลกันแล้วถ้าหากผมเจอเธอจะบอกให้แล้วกัน” กล่าวจบก็เดินออกจากห้องพยาบาลไปทันทีปล่อยให้บันจอยกับเหล่าลูกน้องหันมองหน้ากันและรีบวิ่งตามออกไปก่อนแหกปากถาม

                    “เดี๋ยว! นายชื่ออะไร?!” เคนเพียงหันกลับมาครึ่งหน้าและเอ่ยตอบแบบปัดๆก่อนเดินหายลงบรรไดไปโดยไม่รอให้ใครซักอะไรอีก

                    “ไฮเสะ เคน”
     

    .................................................................................................................................
    จบไปอีกหนึ่งตอนพิมพ์ผิดตรงไหนก็บอกได้นะคะ>< 
    ผิดพลาดตรงไหนก็ต้องขออภัยด้วยค่ะ ขอบคุณสำหรับคอมเม้นค่ะ >< 
    แล้วเราจะพยายามแต่งต่อไปค่ะขอบคุณที่อ่านจนจบนะคะ555
    ข้อแลกเปลี่ยนของคุณอาริมะคืออะไรนะ อยากรู้ก็ขอให้ติดตามต่อตอนต่อไป
    เราปิดเทอมแล้ววว มีเวลาว่างอัพมากขึ้นไม่ต้องกังวนเรื่องงานแล้วค่ะเย่!!
    เฮ้อหัวสมองจะได้แล่นสักที=w= เข้าใจนักเขียนที่กำลังอยู่ในช่วงที่จะต้องเลือกเรียนเลยค่ะว่าทำไมไม่อัพนิยายกันสักที
    มันกังวนอ่ะเนอะหัวไม่แล่นเลยต้องผ่านช่วงนั้นมาก่อน555เอาล่ะทักทายกันยาวเหลือเกิน
    ขอบคุณนะคะวันนี้ขอลา
    ซียู♥

      
    LT
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×