ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fate Diary (บันทึกพลิกโลก) By Dr.Pop

    ลำดับตอนที่ #2 : 2

    • อัปเดตล่าสุด 7 เม.ย. 58







    2

     

     

     

    เหงาว่ะ

     

    ภาคย์อัปสเตตัสลงเฟซบุ๊กพลางนั่งเท้าคางหงอย ๆ บนโต๊ะอาหาร

    ใต้คิ้วคู่หนาดกดำคือดวงกลมโตที่ไร้ประกายความสดใส  เขาหัวเกรียนแบบหนุ่ม ม. ปลายทั่วไปที่ต้องเรียน ร.ด.  เสื้อนักเรียนสีขาวถูกปล่อยชายทับกางเกงนักเรียนสีน้ำเงิน ใบหน้าคมคายนั้นเหมือนกำลังเฝ้ารอบางอย่าง   

     

    ยิ้ม ๆ นะครับน้องชาย

     

    ความหวังฉายวาบบนหน้าภาคย์เมื่อเห็นข้อความนั้น

    แต่เมื่อเห็นชื่อผู้ส่งชัด ๆ ร่องรอยความสุขก็หายไป

    นั่นไม่ใช่ข้อความจากคนที่เขารอ…

    "ขอบคุณครับ"  ภาคย์ถอนหายใจ พิมพ์ตอบแบบขอไปที

    โทรศัพท์มือถือของพัทธ์ที่ยืนอยู่ในห้องครัวสั่นเมื่อได้รับข้อความดังกล่าว

    พัทธ์อายุยี่สิบแปด สูงหกฟุต ผมสีเงิน สวมเสื้อขาว กางเกงสแล็กส์ขาว ถุงเท้าขาว กางเกงใน...ก็น่าจะขาว – เมื่อรวมกับผิวพรรณขาวออร่า พัทธ์จึงดูผุดผ่องราวกับเทพที่แวะมากินเจบนโลกมนุษย์ แม้พัทธ์จะรู้ดีว่าเขาไม่ใช่คนที่สามารถปลดปล่อยความทุกข์ในใจภาคย์

    แต่ปณิธานที่จะทำให้น้องชายมีความสุขก็ไม่เคยลดเลือน

    “กินข้าวกันครับ”  พัทธ์ยิ้มแป้นเมื่อเสิร์ฟชามไก่ทอด ควันสีขาวบาง ๆ โชยกรุ่นส่งกลิ่นหอมฟุ้งไปทั้งห้อง  

    ภาคย์ยกมือขึ้น – แล้วจาน แก้ว กับช้อนส้อม สามชุดก็ลอยขึ้นมา

    ทุกสิ่งร่อนลงบนโต๊ะราวถูกจับวางด้วยมือล่องหน  ภาคย์สลัดมือไปทางซ้าย – ประตูตู้เย็นเปิดออก – เหยือกใสลอยขึ้นมารินน้ำในแก้วของเขากับพัทธ์จนเต็ม ก่อนจะลอยไปหยุดเหนือแก้วอีกใบที่ว่างเปล่า...

    “เขาจะมาไหม”  ภาคย์มองเก้าอี้ซึ่งไร้ผู้จับจอง

    ทั้งห้องเงียบกริบ

    “ไก่ไหมครับ”  พัทธ์ยิ้มจนตาหยีพลางตักไก่ใส่จานน้องชาย  เด็กหนุ่มสูดหายใจเข้าอย่างอดกลั้นแล้วบังคับเหยือกให้เอียงลงรินน้ำ  พัทธ์เหลือบมองเขาอย่างห่วงใย – น้ำจวนเต็มแก้วแต่ภาคย์ยังไม่หยุด

    “พอเถอะครับ”  พัทธ์บอก – ภาคย์ยังเทต่อ

    ในที่สุดน้ำก็ล้นจนหกเลอะ…

    มือของภาคย์สั่นระริกด้วยความรู้สึกมากมายที่สุมใจ

    พัทธ์ลุกขึ้นแล้วบรรจงโอบไหล่น้องชาย

    “ปล่อยมันเถอะครับ”

    สุ้มเสียงอ่อนโยนแผ่ความอบอุ่นไปทั่วใจจนเด็กหนุ่มผงะ

    ความหมองหม่นพลันเลือนหายไปจากดวงตาคู่นั้นดั่งปาฏิหาริย์

    น้ำในเหยือกหยุดไหล ทุกสิ่งชะงักงันดั่งปลั๊กแห่งห้วงเวลาถูกกระชาก

    “เก่งมากครับเด็กดี”

    พัทธ์บรรจงลูบหัวน้องชายแล้วเดินไปหยิบผ้าขี้ริ้ว  ภาคย์ส่ายศีรษะอย่างเกลียดตัวเองก่อนจะบังคับเหยือกน้ำให้ร่อนลงช้า ๆ   เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูอย่างตั้งความหวังอีกครั้ง

    ยังไม่มีข้อความจากคนที่เขารอ…

    “ผมอยากได้เขาคนเดิมกลับมา”  เด็กหนุ่มเอ่ยอย่างเศร้าสลด

    “ทุกอย่างจะดีขึ้น”  พัทธ์เอ่ยด้วยรอยยิ้ม  

    “ครับ”  ภาคย์เออออ ดูสองจิตสองใจ

    สองอาทิตย์แล้วที่เขาเชื่อในประโยคนั้น

    สองอาทิตย์แล้วที่ไม่มีอะไรดีขึ้นเลย…

    ซูมมม!!

    ทันใดนั้น หลุมมิติวงกลมสีดำขนาดใหญ่ก็ปรากฏขึ้นกลางห้อง

    มันดูเหมือนทะเลดาวในฟ้าแห่งราตรีที่โอบกรอบด้วยวงควันสีน้ำเงินพิศวง  เก่งชัยกับฝาแฝดเดินออกมาอย่างองอาจราวกับนายแบบที่เปิดตัวการแสดงแฟชั่นประจำปี  

    ปิดท้ายด้วยแอนดี้ซึ่งเซถลาหน้าคะมำ

     “สวัสดีครับคุณหมอ”  พัทธ์ทักทายเสียงใส  หลุมดำหดตัวหายไป

    แอนดี้โก้งโค้งอาเจียนโอ้กอ้าก

     “สวัสดีครับพัทธ์ นี่ผู้กองแอนดี้ เราซ์ ผู้รับผิดชอบคดีนั้น”  เก่งชัยอวดมิตรใหม่  เขาสามารถเค้นความจริงได้และเพิ่งครอบครองแหวนที่สามารถเปลี่ยนสถานะสสาร

    “ยินดีที่ได้รู้จักครับ”  พัทธ์ทักทายด้วยรอยยิ้ม

    แอนดี้หายใจเข้าเฮือกใหญ่และยืดหลังตรง หน้าเขาแดงก่ำ น้ำหูน้ำตาชุ่มฉ่ำ “ลูกชายผมอยู่ไหน”  แอนดี้ตัดบทเสียงขรึม

    เสียง ซ่า ดังขึ้น – ภาคย์ตวัดนิ้ว – แล้วเป๊ปซี่ก็พุ่งเป็นวงโค้งจากขวดลงแก้วฝาแฝดอย่างงดงาม

    แอนดี้ช็อก...

    “ไก่ไหมครับ”  พัทธ์เสนอชามไก่ให้ผู้กอง

    แอนดี้ตั้งสติ “คนที่ช่วยลูกผมได้ เขา–อยู่ไหน”  แอนดี้ดูใกล้หมดความอดทน

    ทุกคนเงียบกริบ – เก่งชัยจิบชา

    “โน่น”  ภาคย์พยักพเยิดบอกทางอย่างไม่ชอบใจ แอนดี้มองตาม

    และเขาก็พบกับทางเดินอันมืดมิดซึ่งทอดอยู่ตรงมุมหนึ่งของห้อง
               กลิ่นอายความลึกลับอันไร้คำอธิบายฟุ้งออกมาจากบริเวณนั้นจนเขารู้สึกได้  อำนาจบางอย่างที่ซ่อนอยู่ในเงามืดกำลังกระตุ้นหัวใจนายตำรวจให้สั่นไหว  เขาแทบจะรู้สึกว่าตัวเองเป็นโจรตัวจิ๋วที่กำลังจะเข้าไปขโมยทองคำจากมังกรตัวใหญ่  บรรยากาศบริเวณนี้เงียบกริบวังเวงดั่งอาณาจักรลึกลับซึ่งถูกตัดขาดจากโลกภายนอก

    ยิ่งลึกยิ่งไร้แสงสว่าง – พอมาถึงครึ่งทางทุกอย่างก็มืดสนิท

    แอนดี้เปิดไฟฉายจิ๋ว – มันกะพริบวูบวาบครู่หนึ่งแล้วดับไป

    เขาคว้าโทรศัพท์มือถือมาเปิดแสง – เพียงพริบตาจอภาพก็ดับ          

    ละอองแห่งความพิศวงกระจายในอากาศจนขนคอเขาลุกชัน  แอนดี้เอามือคลำไปในอากาศอันดำมืด ความกลัวที่หยอกล้อหัวใจสั่งให้เขาเหลียวหลังกลับ  แอนดี้หายใจสะดุดเมื่อพบว่าตัวเองติดกับในเงามืดโดยสมบูรณ์แบบ… 

    ไม่มีผนัง ไม่มีเพดาน ไม่มีพื้นทางเดิน

    เสียงเดียวที่เขาได้ยินคือเสียงฝีเท้าตัวเองที่ก้าวเฉื่อยลงช้าลง…

    แล้วจู่ ๆ หูเขาก็ดับ…

    สรรพเสียงรอบกายพลันอื้ออึงอย่างไร้เหตุผล  แอนดี้รู้สึกหายใจลำบากเหมือนความดันพลันลดต่ำกะทันหัน สัญชาติญาณของตำรวจบอกแอนดี้ว่ามีอำนาจบางอย่างควบคุมความเป็นไปของที่แห่งนี้

    บางอย่างที่ซ่อนตัวอยู่ในความมืด และ กำลังจับตาดูเขา   

    เสียงกริ๊กดังขึ้นแผ่วเบา  แอนดี้ก้าวถอยหลัง

    ทันใดนั้นประตูสีดำกรอบขาวเรืองแสงก็ปรากฏตรงสุดทางเดิน

    มีตัวหนังสือสีแดงฉานเขียนด้วยลายมือหนักแน่นกลางประตูว่า

     

     “เขตหวงห้าม

     

    หัวใจแอนดี้เต้นรัวด้วยความใคร่รู้และหวาดผวา  กลิ่นอายแห่งความลับยั่วยวนให้เขาย่องเข้าไปย่อตัวลงเงี่ยหูฟังความเคลื่อนไหวข้างใน

    เงียบสนิท  ไร้เสียงเครื่องปรับอากาศ  ไม่มีเสียงความเคลื่อนไหวใด ๆ

    แอนดี้ถอยห่างจากบานประตูเพื่อสำรวจรอบกาย

    มีกล้องวงจรปิดอยู่บนมุมผนัง – ใครบางคนคงแอบมองเขาอยู่

    “ไก่ไหมครับ”

    ผู้กองสะดุ้งเมื่อเห็นมือขาวโพลนที่ส่งไก่มาให้จากด้านหลัง

    เขาหันไปและพบพัทธ์กับเดอะแก๊งยืนอยู่

    ข้อมือทุกคนสว่างด้วยแสงจากนาฬิกา – ในมือพวกเขาถือไก่คนละน่อง

    “ไม่”  แอนดี้คำรามทั้งเหงื่อแตก

    “คุณต้องเคาะ”  พัทธ์ชี้แนะ

    แอนดี้หันไปมองประตูแล้วเกิดคำถาม  “ผมจะไว้ใจพวกคุณได้ไง” 

     “ถามว่าคุณจะไว้ใจเขาได้ไงดีกว่า”  แฝดคนหนึ่งยักไหล่ ทั้งสองดูเหมือนกันมากจนบอกได้ยากว่าใครเป็นช๊อกโกแลตหรือซันเดย์ หัวใจผู้กองเต้นระส่ำเมื่อพบว่าคนในห้องลับทำให้เขาหวาดหวั่นได้โดยไม่ต้องเห็นหน้า เขาเหมือนได้ยินเสียงกระซิบในหูที่ท้าทายว่า เอาซิ เคาะซิ แล้วดูกันว่าจะเกิดอะไรขึ้น’ กลิ่นอายของความพิศวงฟุ้งเต็มจมูกเขา  

    แต่เพื่อช่วยลูกชาย ไม่ว่าต้องเจออะไร เขายอม

    ก๊อก ก๊อก

    เสียงเคาะแม้แผ่วเบาแต่ดังก้องในความรู้สึก

    แอนดี้ยืนนิ่ง หน้าตาเขม็งเกร็ง ใจเต้นระทึก

    ไม่มีการตอบรับ…

    ก๊อก ก๊อก ก๊อก

    แอนดี้เคาะอีกครั้ง ประตูยังเป็นใบ้ – พัทธ์เคี้ยวไก่ตุ้ย ๆ

    แอนดี้เงยหน้าส่งสายตาเกรี้ยวกราดให้กล้องวงจรปิด เขาแทบจะเห็นภาพไอ้บ้านั้นหัวเราะสนุกกับการปั่นหัวเขา ผู้กองกำหมัดแน่นแล้วทุบ!

    ความเงียบยังยึดครองเก้าอี้นายใหญ่ในความมืด

    “โธ่เว้ย”  แอนดี้คำราม  “ไอ้ขี้ขลาด ออกมาสิวะ!” 

    ปึง! ปึง! ปึง! – “ออกมา!” -  เขาถีบประตูอย่างบ้าคลั่ง!  “ลูกฉันอยู่ไหน!!” 

    แอนดี้สวมวิญญาณนักรักบี้พุ่งกระแทกปราการสีนิล “เขาอยู่ไหน!!”

    โครม!!

    แรงโทสะพังประตูจนกองไปกับพื้นอย่างไม่คาดฝัน!

             และสิ่งที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังก็สะกดทุกคนจนลืมหายใจ







     

    …To Be Continued…

    ร่วมใช้ #Fatediary บน Social network ของคุณ
    เพื่อแสดงความเห็นของคุณเกี่ยวกับนิยายเรื่องนี้กันครับ


     




    Dr.Pop Facebook : www.facebook.com/drpopworld
    Dr.Pop Twitter : http://twitter.com/drpoppop
    Dr.Pop Instagram : @drpoppop


     

     

     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×