คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : i'm your villain - 1
Im your villain!
1
“เอ้าาาาาาชนนนน น”
เสียงเบสดังหนักแน่น ไฟเลเซอร์หลากสี อีกทั้งจังหวะสนุกสนาน บรรยากาศเริ่มกรุ่นๆบนฟลอร์ บอกได้ไม่ยากว่าเป็นสถานที่ไหน ร่างสูงโปร่งนำทีมเพื่อนๆมาเที่ยวฉลองการโสดชั่วคราวในอนาคตของตัวเอง ถึงแม้ก่อนหน้านี้จะมีอารมณ์ใจหายไปบ้าง แต่กับในตอนนี้มันไม่ใช่แล้ว
‘เมื่อแมวไม่อยู่หนูต้องร่าเริง’ แน่นอนว่ามันเป็นธรรมชาติของคนเรา..
รวมไปถึง...
จองโฮซอก หรือเจโฮป หนุ่มหล่อมาดดีดีกรีนายแบบ กำลังนั่งโยกไปกับเพลงพร้อมทั้งแจกยิ้มหล่อเรี่ยราดให้สาวหนุ่มน้อยใหญ่อย่างแพรวพราวไปพลาง ท่าทีที่ดูเศร้าหมองของการกำลังจากไปของคนรักไม่มีเค้าให้เห็นแม้แต่น้อย ตัวเขาเองก็เป็นชายหนุ่มผู้รักอิสระมีหรือจะอยู่บ้านเศร้าซืมกระทือเพียงเพราะแฟนกำลังจะหนีไปเรียนต่อ
เรื่องง่ายๆที่ใครๆก็ทำเวลาแบบนี้ก็คือแค่หาใหม่มาแก้ขัด เท่านั้นเอง
“ไอโฮปนี่เลวสุดไปเลย แฟนมันกำลังจะไปอยู่ไม่กี่วันนี้ละ แล้วดูตอนนี้ ไอห่า 55555555555”
เสียงตะโกนแข่งเสียงเพลงเอ่ยชมเชยเพื่อนเสียยืดยาว แต่เจ้าของชื่อไม่ได้โกรธเคืองอะไร ยักคิ้วหลิ่วตาเพื่อตอบรับในคำชมที่ได้รับมา
“นี่ใคร นี่พี่โฮปนะครับ” จบประโยคปุ๊บเพื่อนทั้งโต๊ะหันมาทำหน้าเอือมแบบเรียงตัวให้กันหมด
แต่ทั้งโต๊ะที่ว่านั้นมีกันอีกแค่ 2 คน.....
สำหรับเจโฮปนอกจากครอบครัวแล้วคงไม่มีใครรู้จักเขาดีไปมากกว่าไอ่เจ้าพวกนี้แล้ว ทั้งร่วมหัวจมท้ายกันบุกป่าฝ่าหิมะมาด้วยกันตั้งแต่สมัยเรียน เป็นเพื่อนกินเพื่อนเที่ยวและเพื่อนร่วมงานที่ดีมาเสมอ อย่าง วี และ จีโฮ ถึงเขาและอีกสองหน่อนั้นคบค้ากันมาแต่ไหนแต่ไรก็ยังจะคบกันอยู่ไปอย่างนั้น ถึงจะเบื่อหน้าแต่ด้วยหน้าที่การงานของพวกเขาก็มีแต่คนหลายหน้ากากสร้างตัวตนเข้าหากันไม่น้อย หามิตรแท้ยากเสียยิ่งกว่าอะไร แน่นอนว่าคบไอสองคนนี้มันคงดีที่สุด..
สถานที่กว้างขวางก็คับแคบลงถนัดตา ยิ่งดึกเสียงดนตรีก็ยิ่งเร่งจังหวะเพิ่มความเร้าใจขึ้นเรื่อยๆ ลูกค้าเริ่มเยอะจนเบียดเสียดกันแทบจะหายใจรถต้นคออยู่ร่อมร่อ แต่นักท่องราตรีเหล่าหาสนใจไม่ สิ่งที่พวกเขามาหาในที่แคบๆแห่งนี้มีเพียงแค่ไม่กี่อย่าง แน่นอนว่ามันคงมีแค่..
‘ความสนุก’
และ ‘คู่ขา’ เพียงเท่านั้น
.
.
ถัดไปในมุมหนึ่งของร้าน หนุ่มน้อยติดใบหน้าออกจะหวานและน่ารักไปสักหน่อยกำลังนั่งจมโซฟาอยู่ ปากรั้นเข้ารูปชวนมองดวงตากลมโตที่ดูหน้าค้นหาเมื่อยามต้องแสงไฟสลัว มือบางหมุนควงแก้วใบใสให้ของเหลวเคล้าไปมา ดวงตาจับจ้องบางอย่างเป็นประกายและเผยรอยยิ้มหวานอย่างเด็กเจอของเล่นถูกใจ เมื่อจวนจะถูกจับได้ดวงตากลมก็แกล้งเสมองอย่างอื่นแทนหลายต่อหลายครั้ง แต่ทุกครั้งสายตาก็จะไปหยุดที่ร่างของใครคนนั้นเสมอ ถึงแม้บางครั้งจะถูกขัดจังหวะด้วยเสียงใสของคนที่นั่งใกล้ๆกันนั้นก็ตาม
“จองกุก พรุ่งนี้นายมีสอนไหม?” หนุ่มตัวขาวร่างบางเอ่ยถามเพื่อนหลังจากหยุดโปรยยิ้มหวานไปทั่วจนเริ่มเมื่อยเสียแล้ว
“ไม่นะ นายอ่ะยุนกิ”
“มีสิถามได้ จะแคนเซิลก็ไม่ได้แล้วด้วยเพราะไอเด็กนักเรียนนั่นมันเรื่องมากฉิบ!”
"อ้อ"
ยุนกิหรือเพื่อนสนิทของจองกุกพรูลมหายใจออกมาอย่างแรงเมื่อนึกถึงคนที่เป็นนักเรียนคนหนึ่ง มันชวนให้หงุดหงิดขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุทั้งยังบรรยายสรรพคุณความป่วนของนักเรียนตัวดีให้เขาฟังจนต้องหลุดขำ เพราะอาการหอบโยนของการเล่าเรื่องอันยืดยาวได้จบลงแต่โดยดีโดยที่เพื่อนของเขาไม่ขาดอากาศหายใจไปซะก่อน ....งานที่ทำให้ยุนกิบ่นมากจนคอขึ้นเส้น ‘ ติวเตอร์ ‘
สองหนุ่มหน้าตาจิ้มลิ้มที่ออกมาเที่ยวเปิดหูเปิดตา ใครเห็นก็คงจะคิดว่าพวกเขาน่าจะอยู่ในคาเฟ่กาแฟมากกว่าจะมาในสถานที่อโคจรแบบนี้ได้ แต่ใครจะรู้ว่าจองกุกและยุนกินั้นถึงจะหน้าหวานแต่เรื่องก๋ากั่นนั้นพอตัวกันทั้งคู่ขัดกับบุคคลิคสุดๆ อีกทั้งยังมีปัญหากับการเริ่มต้นชีวิตทำงานมาหมาดๆ ด้วยความเครียดและความคาดหวังต่างๆนาๆ ทำให้เขาสองคนเลือกจะมาหาความสนุกใส่ตัวในที่แบบนี้แทบจะทุกคืน
หลายชั่วโมงผ่านไปเรื่อยดนตรีที่เคยคึกครื้นก็ถูกสับเปลี่ยนเป็นเพลงช้าเพื่อให้ฟลอร์พักบ้าง นาฬิกาบ่งบอกเวลาใกล้รุ่งสางเต็มที ทุกคนก็เริ่มที่จะแยกย้าย รวมทั้งจองกุกและยุนกิด้วย
“กลับดีๆเว่ย ถึงห้องแล้วโทรมานะจองกุก”
ร่างสมส่วนเดินเอื่อยทอดน่องมาตามถนนให้ห่างออกมาจากร้านเพื่อง่ายต่อการหาแท็กซี่ พลันสายตาก็หยุดเข้าที่รถหรูคันหนึ่งแสงไฟริมถนนพอจะทำให้เห็นคนบนรถได้จนคุ้นว่าเขาอาจจะเคยรู้จัก ยังไม่ทันที่จะได้นึกอะไรต่อ อยู่ๆเขาถูกผลักให้ตกลงมาอยู่บนพื้นถนนที่มีรถคันดังกล่าวกำลังแล่นเข้ามาทางเขาพอดี
เสียงแตรดังลั่นไปทั่วบริเวณแสงไฟหน้ารถสาดวาบทั่วทั้งตัว ร่างกายยืนแข็งทื่อเปลือกตาปิดสนิทเพราะความหวาดกลัว
พร้อมกับทุกอย่างวูบหายไป…..
‘ เอี๊ยดดดดดดดด.. ’
‘ตุ้บบ!’
‘เฮ้นาย! เป็นไรไหม ตื่นดิวะ!!!!’
.
ไม่รู้ว่านานเท่าไหร่ที่สติดับวูบไป ร่างกายหนักอึ้งเหมือนถูกทับด้วยก้อนหิน เปลือกตากระพริบถี่ปรับโฟกัสสายตา มือค้ำยันตัวลุกขึ้นนั่ง ร่างบางเริ่มสำรวจร่ายกายที่ได้รับความบอบช้ำไปทั่วทั้งผิวขาว พลิกดูตรงนู้นทีตรงนี้ที เป็นอันว่าไม่มีอะไรในร่างกายขาดหายไปจากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น มีเพียงแค่แผลถลอกและช้ำบวมในไม่กี่ที่เท่านั้น จองกุกพรูลมหายใจด้วยความโล่งอก และเปลี่ยนไปสำรวจสิ่งแปลกปลอมรอบตัวแทน
ที่ไหน?...
สถานที่สะดวกสบายแต่ดูแปลกตามากสำหรับจองกุก ครั้งสุดท้ายที่ไปบ้านยุนกิมันเหมือนจะไม่ใช่แบบที่เห็นตอนนี้เสียเท่าไหร่ ข้างกันนั้นมีร่างของใครคนหนึ่งนอนหลับอยู่ด้วย จองกุกไม่ได้ตกใจมากด้วยกลัวจะเสียมารยาทเพราะเสียงดัง แต่ความสงสัยก็ไม่ปล่อยให้เขาคิดอะไรได้มาก ร่างบางจึงทำการปลุกอีกร่างเพื่อถามไถ่เรื่องที่เกิดขึ้นให้แน่ชัดคลายคำถามภายในหัวมันเสียเลย
“นายตื่น ตื่นมาคุยกันหน่อยๆ”
เรียกอยู่หลายครั้งแต่ก็ถูกตอบกลับมาด้วยความเงียบ มือบางเลยยื่นไปจับไหล่กว้างอีกคนเขย่าไหวเพียงเบาๆ แต่ไม่นานนักก็สามารถปลุกร่างใต้ผ้านวมสำเร็จ เมื่อได้ยินเสียงตอบรับแบบงืมงำที่ฟังไม่ออก อีกร่างผลุดลุกขึ้นนั่งพิงหัวเตียงเผยใบหน้าออกมาจากผ้านวม ใบหน้าบวมๆบวกกับเส้นผมยุ่งเหยิงบ่งบอกว่าคนๆนี้คงเพลียและง่วงมากขนาดไหน
“อืม..หวัดดี ฉันเจโฮปนะ ขับรถชนนายเมื่อคืน อืออ..ฝันดี!” เมื่อแนะนำตัวอย่างไร้สติเสร็จก็ปิดเปลือกตาทิ้งตัวลงนอนในทันที
ด้านอีกคนพอเห็นหน้าค่าตาคู่กรณีแล้วก็เบิกตากว้าง ใบหน้าน่ารักฉายชัดไปด้วยความรู้สึกตกใจ ดีใจปนกันไปหมด ยิ่งพอนึกภาพเหตุการณ์ในตอนนั้นออกก็ยิ่งประหลาดใจเข้าไปอีก ด้วยกลัวจะตาฝาดไปเองก็ยิ่งเพ่งไปที่อีกร่างเพื่อหาความแน่ชัด แน่นอนว่าคำตอบมันก็ยังเหมือนเดิมจนทำให้จองกุกเผลอยิ้มออกมาซะอย่างนั้น จนลืมไปว่าเขาเพิ่งจะเฉียดตายมาหยกๆ
ถึงจะรู้สึกแย่และขวัญเสียไปมากก็ตาม แต่คนๆนี้ก็ช่วยเขาไว้ด้วยเลยนะ!!
คนที่จองกุกแอบมองที่ผับเมื่อคืนยังไงล่ะ!
“เอ่อ..ผมจองกุกนะครับ ^^” เสียงหวานเอ่ยออกไปไม่ได้สนว่าอีกคนจะได้ยินหรือไม่ แต่เขาตั้งใจจะบอกชื่อให้อีกคนนั้นรับฟัง เพื่อเป็นมารยาท(?)
ดวงตากลมแอบจดจ้องร่างอีกคนยามหลับอยู่เงียบๆพลางคิดนู่นนี่ไปต่างๆนานา เขาคงต้องขอบคุณความบังเอิญครั้งนี้ที่ทำให้เขาได้อยู่ใกล้คนที่แอบชอบขึ้นมาอีกขั้นหนึ่งจนได้
ถึงแม้รู้ว่าอาจจะไม่มีครั้งต่อไปก็เถอะ.........
จองกุกที่ลุกมาตั้งแต่แรกอาจจะเผลอตัวเฝ้ามองคนหลับนั้นนานไปหน่อย รู้ตัวอีกทีแดดส่องลอดม่านทึบเข้ามายังเตียงกว้างบอกว่าตอนนี้คงเป็นเวลาสายมากแล้ว ร่างบางรีบลุกไปทำธุระส่วนตัว รวมไปถึงทำอะไรตอบแทนเล็กๆน้อยๆ ก่อนจะเดินกลับมายังห้องพร้อมกระดาษปากกาในมือ เจ้าตัวเขียนอะไรบางอย่างบนกระดาษโน้ต เพื่อเป็นการขอบคุณแทนการปลุกให้เจโฮปขึ้นมาฟัง
ซึ่งจริงๆแล้วถ้ารออีกคนตื่นเต็มตามาคุยกับเขาคงจะต้องเป็นบ้าแน่ๆ เลยตั้งใจจดโน้ตบอกแทนซะเลย กว่าจะเขียนเสร็จก็เล่นเอาเหนื่อย โน้ตถูกฉีกทิ้งไปหลายแผ่น เนื่องจากหัวใจดวงน้อยๆกำลังสั่นไหวจนไม่มีสมาธิ เพราะใบหน้ายามหลับของอีกคนได้ที่ดูดีจนละสายตาไปได้ยาก ก่อนจะในไปแปะไว้ที่บนมินิบาร์ในครัว
เมื่อทำทุกอย่างที่จองกุกสมควรจะทำครบหมดแล้ว ร่างบางก็กลับมายืนอ้อยอิ่งข้างเตียงอีกครั้ง มือบางอยากจะเอื้อมมือไปจัดผมที่ปรกหน้าให้อีกคนบ้างแต่ก็ไม่กล้าพอ ใบหน้าหวานส่งยิ้มน่ารักๆให้เป็นการบอกลา ก่อนจะรีบเดินออกจากห้องไปด้วยความเสียดาย
.
บ่ายแก่มากแล้วเจโฮปถึงได้ฤกษ์ลุกออกจากที่นอน ร่างโปร่งตรงดิ่งไปที่ห้องครัวด้วยความกระหายน้ำ สายตากวาดไปเห็นหม้อซุปตั้งอยู่พร้อมโน้ตที่ถูกทับไว้ใกล้ๆกัน
‘ ขอบคุณนะครับที่เมื่อคืนไม่ทิ้งผมไว้ข้างถนน ^^
ซุปนั่นถ้าหายร้อนแล้วก็เอาไปอุ่นใหม่ด้วยนะครับ ทานให้อร่อยนะครับ!!
จองกุก
xx-xxxxxxxx ’
ทันทีที่เห็นข้อความก็ถึงกลับหลุดยิ้มกว้าง เมื่อนึกย้อนไปถึงเหตุการณ์ตอนนั้น ใบหน้าขาวๆตากลมโตในชุดนอนหละหลวมที่เขาเปลี่ยนให้เองกับมือเพราะชุดเดิมนั้นเปื้อนเปรอะ ถึงจะไม่เต็มตาแต่ก็ต้องอวดเลย...ว่าคนที่เขาขับรถชน โคตรจะน่ารักและเป็นสไตล์ที่เขาชอบที่สุด
ไหล่ที่ไม่กว้างมากที่อยู่ภายใต้เสื้อของเขา ผิวขาวเนียนตัดกับเสื้อยืดสีเข้ม ตากลมโตยิ่งเพิ่มความน่ารักให้เจ้าตัวขึ้นไปอีก.... คิดแล้วก็น่าเสียดายที่เมื่อเช้าดันง่วงไปหน่อยเลยไม่ได้ได้พูดคุยหรือมองให้นานๆ
เจโฮปนั่งกินซุปที่จองกุกทำให้ มือหนาหยิบโทรศัพท์เครื่องบางมาบันทึกเบอร์โทรอีกคนไว้ทันที ถึงแม้จะรู้ว่าคงยากถ้าได้เจอกันอีกแต่มันก็ไม่ได้เสียหายอะไรถ้าเขาจะบันทึกมันไว้ดูเล่นเพิ่มอีกสักเบอร์ ตัวเลขถูกพิมพ์ไปจนครบพลางนึกชื่อของอีกคนอยู่นาน ก่อนจะกดบันทึกและยิ้มออกมาให้กับหน้าจอโทรศัพท์อย่างพอใจ
จองกุก : xx-xxxxxxxx
นี่ไม่ใช่เบอร์คนรู้จักแต่เป็นเบอร์ของคนที่เขาอยากรู้จักต่างหากล่ะ..
.
Im your villain!
-สนามบิน-
.
.
“อะ..อื้อ พี่โฮซอกครับ ...”
เสียงแหบพร่าพยายามเปล่งเสียงออกมาอย่างลำบาก ภารกิจตรงหน้าที่กำลังดำเนินไป ความโหยหาที่ถูกเติมเต็มให้กันและกันเหมือนการบอกลาโดยนัย และจบลงในไม่กี่นาทีต่อมา เพราะเสียงโทรศัพท์เครื่องบางกำลังส่งเสียงดังน่ารำคาญอยู่ที่ไหนสักแห่ง แน่นอนว่าจะหาเจอที่ไหนไม่ได้นอกจากบนพื้น...พร้อมกับกางเกงที่หลุดร่นลงไปบนพื้นแคบๆของห้องน้ำตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้
ใบหน้าขึ้นสีระเรื่อก้มงุดลงควานหาโทรศัพท์ พลันมือก็รีบจัดแจงเสื้อผ้าที่หลุดหายไปจากร่างกายจนเรียบร้อย รับสายจากคนที่โทรเข้ามา ตอบรับเพียงไม่กี่คำก็ตัดสายลง
“พี่ครับ ผมต้องไปแล้วนะ”
“อืมไปสิ เดี๋ยวพี่ไปส่ง”
พูดจบพร้อมรอยยิ้ม มือไม้ช่วยจัดแจงชุดทั้งเขาและแฟนให้ดูเรียบร้อย ก่อนจะออกจากห้องน้ำไป ดีที่ในเวลานั้นในห้องน้ำไม่มีใครอยู่เลย พวกเขาจึงไม่ต้องถูกมองด้วยสายตาเคลือบแคลง
“ดูแลตัวเองด้วยนะครับ จินซอกของผม.. ”
ประคองกอดกันเป็นครั้งสุดท้าย สีหน้าเศร้าๆของจินซอกหรือแฟนของเจโฮปนั้นดูเศร้าหมอง แน่นอนว่าจะห่างจากคนรักทั้งทีอารมณ์แบบนี้ต้องมีบ้างเป็นธรรมดา พวกเขาไม่ได้เลิกกันแค่ใครหนึ่งคนที่ห่างออกไปตามความฝันของตนเอง เจโฮปยิ้มกว้างส่งไปให้อย่างที่เคยทำ ดันหัวร่างบางกว่าให้เดินไปข้างหน้า ยืนมองคนรักเดินหายลับไป…..
.
.
.
คนเราเมื่อต้องห่างกัน มันจำเป็นต้องใช้ชีวิตเพื่อรออีกต่อไปหรอ?
ถ้ารอ....มันก็ไม่แปลก แน่นอนว่าความรักคือการเชื่อใจ
แต่ถ้าไม่รอ.... มันน่าจะดีกว่า..........?
อยู่ๆความคิดนี้ก็แล่นเข้ามาให้หัว เจโฮปมองใบหน้าของตนเองผ่านกระจกเงาใบใหญ่ของห้องน้ำสนามบิน รอยยิ้มที่ไม่แน่ชัดในอารมณ์ฉาบอยู่บนใบหน้า คิ้วค่อยๆคลายปมขมวดออกสะบัดหัวไล่ความคิดไร้สาระ ก่อนจะรีบทำธุระส่วนตัวแล้วเดินออกจากห้องน้ำทันที
‘ กึก..’
ฝีเท้าหยุดชะงักชั่วครู่เมื่อรู้สึกได้ถึงความไม่สม่ำเสมอของพื้นเงา ใบหน้าคมก้มลงหยิบของบางอย่างที่ตกอยู่ใต้เท้าของเขา ก่อนจะเปิดขึ้นมาแล้วเผลอยิ้มอย่างสนอกสนใจ...
‘ พาสสปอร์ต ? ’
.
‘จอน จองกุก’
“ หึ ”
บางทีโชคชะตาอาจจะกำลังเล่นตลกกับเขาอยู่ อยู่ๆก็ทำให้คนที่เขารักหายไปจากชีวิตพร้อมกับส่งใครอีกคนแทนมาให้เขา หรือบางทีเขาอาจจะแค่คิดไปเอง แต่จะด้วยอะไรก็แล้วแต่...สำหรับเขาการพบกันสองครั้งติดแบบบังเอิญกับเด็กตาโตนี่มันช่างน่าสนใจมากทีเดียว..
Im your villain!
.
“เห้ยไอยุนกิ ข้าได้ฝากพาสสปอร์ตไว้ป่ะ ทำไมมันหายไปไหนวะ?”
“ประสาท ไม่ได้พกกระเป๋ามาโว้ยย”
“ฉิบหายแล้วล่ะ................”
" ...? "
"......"
“ ไ อ ค ว า ย! ”
ยุนกิจบทสนทนาได้อย่างเน้นย้ำ ทำให้รู้ถึงความผิดพลาดและดักดานของจองกุกครั้งนี้ ตากลมโตกลอกไปมาอย่างใช้ความคิด ทั้งเวลาเช็คอินก็ใกล้จะปิดแล้วแต่เขากลับทำของสำคัญหายไปซะได้ ในหัวทุยๆพยายามคิดว่าตัวเองลืมพาสสปอร์ตไปวางไว้ที่ไหน แต่ก็ไม่ได้ความอะไรเลย สุดท้ายสมองอันว่างเปล่าก็สั่งการให้จองกุกนั่งลงแล้วโทรไปขอโทษเพื่อนเก่าที่ต้องเบี้ยวงานแต่งเนื่องจากความไม่ฉลาดของตนเอง
“เฮ้ออออ ..”
เสียงถอนหายใจพรูออกมาด้วยความโล่งอก เมื่อการโทรไปยกเลิกนัดเป็นอันสำเร็จลงได้ด้วยดี ร่างบางลุกยืนเต็มความสูงเตรียมตัวเพื่อจะกลับ กวักมือเรียกเพื่อนตัวดีอีกคนให้ลุกตามขึ้นมาให้ไปหาอะไรลงท้องเป็นการไถ่โทษที่ทำให้เสียเวลา
ติ้ง....
xx-xxxxxx
13:32
‘ มาเจอกันหน่อยมั้ย? ...เจโฮป ’
เหมือนโลกหยุดหมุนไปหลายวินาที ข้อความล่าสุดที่ส่งเข้ามานั้นทำให้จองกุกถูกดึงเข้าไปในห้วงความคิด ความตื่นเต้นความดีใจและความสับสนตีรวนกันยุ่งเหยิง แม้ความรู้สึกจะปะปนจนชวนปวดหัวมากขนาดไหน ร่างบางก็หลุดยิ้มกว้างออกมาในที่สุด
สองมือบางจับโทรศัพท์เครื่องสวยยกขึ้นมาใกล้สายตาอีกครั้ง เพื่อทดสอบสายตาว่าไม่ได้ฝ้าฟางไปแต่อย่างใด
“ยืนบื้อทำไมอีกอ่ะ? หิวแล้วนะโว้ยย!”
อีกคนได้แต่ยืนนิ่งพร้อมดวงตาเป็นประกายอย่างเห็นได้ชัด จนยุนกิสาวเท้าเดินกลับมาหาแล้วแย่งโทรศัพท์มาดู เพียงไม่กี่วิก็ส่งกลับคืนเจ้าของ พร้อมคำชมสั้นๆไปทักทาย
“ ส ะ ดิ้ ง ว่ ะ =_=”
“โหยยุนกิอ่ะ ขอเขินหน่อยเดียวไม่ได้หรอวะ -_- คือ.. ฉัน....ไปนะ ”
“แล้วนัดของเราอ่ะ? ”
“วันหลังก็ได้ไง เดี๋ยวส่งนัมจุนฉิไปเดทกับยุนกิแก้ขัดไปก่อน.. นะ....”
“ไอ้......”
ยุนกิกลอกตาไปมาอย่างร้อนรนเมื่อเพื่อนตัวดีเอ่ยชื่อบุคคลที่สามขึ้นมา แน่นอนว่าชื่อนี้เป็นเจ้านักเรียนตัวดีที่เข้ามามีส่วนวุ่นวายกับชีวิตเขา
"เอ่อ....."
ยิ่งจองกุกเห็นสีหน้าครุ่นคิดของอีกคนก็รู้สึกได้ใจ ออดอ้อนยุนกิจนเจ้าตัวยอมแต่โดยดีถึงแม้ไม่ค่อยเต็มใจ
"เออก็ได้วะ -_- "
เห็นเพื่อนพยักหน้ารับก็รีบหยิบมือนิ่มของยุนกิมาถูแล้วถูอีก พลางพูดคำขอโทษเป็นล้านครั้งเห็นจะได้ แน่นอนว่าถ้าใครมาเจอลูกอ้อนของจองกุกแล้วนั้น เป็นอันต้องเสร็จทุกราย!
เป็นอันว่านัดของจองกุกกับยุนกิถูกยกเลิกไปแล้ว เหลือแค่นัดของนัมจุนยุนกิ แล้วก็นัดสำคัญของเจโฮปกับจองกุกแทน
รอยยิ้มน่ารักฉายชัดเต็มใบหน้าทันทีที่สับเปลี่ยนตารางฉุกเฉินได้ลงตัว เดินออกไปส่งเพื่อนรักขึ้นรถก่อนจะสาวเท้ากลับเข้าไปในสนามบินพร้อมหัวใจที่อยู่ๆก็เต้นไม่เป็นจังหวะอย่างไม่ได้ตั้งใจ
JUNGKOOK
13:40
‘ ผมติดธุระอยู่สนามบิน ไว้เจอกันช่วงเย็นได้มั้ยครับ? ’
xx-xxxxxx
13:41
’ เจอกันร้านกาแฟxx ชั้น2นะครับ ผมก็อยู่ที่นี่เหมือนกัน ’
JUNGKOOK
13:41
‘ อ่า งั้นอีกสิบนาทีเจอกันนะครับ ’
xx-xxxxxx
13:43
‘ รีบมานะครับ จอน จองกุก..’
‘ รีบมานะครับ จอน จองกุก..’
‘ จอน จองกุก..’
.
.
Tbc..
_____________________________________________
Talk: มาต่อตอนแรกแล้วน้าาาาาาา ไม่ยาวเท่าไหร่เลย T-T ขอบคุณที่เข้ามาอ่านน้า
มาอ่านอีกบ่อยๆด้วยล่ะ 5555555555 จะรักมากเลยถ้าเม้น+เฟบ ._. เจอกันตอนหน้าเนอะ J
ความคิดเห็น