ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [exo.] Dark, BigEyes เหลือกมืด I KaiDo

    ลำดับตอนที่ #2 : [OS] EXO COUNTDOWN PARTY 2015

    • อัปเดตล่าสุด 6 ม.ค. 58


    OS 0.01

    START







    5 เสียงพิธีกรประกาศก้อง...

     







    4 เสียงเพลงแดนซ์เริ่มเบาลง...

     






    3เสียงเต้นของหัวใจที่ดังกระหึ่ม...

     

     







    2เสียงนับเลขที่ดังกระหึ่ม..

     








    1เสียงนับครั้งสุดท้ายก่อนที่สติของผมจะหลุดเลือนไป...

     

     

     

     

     

     

     

    ONE SHOT

    EXO COUNTDOWN PARTY

    SPECIOUS HAPPY NEW YEAR 2015

    [ K A I S O O ]


     

     

     

     

     

     

    ~วันนี้วันดีปีใหม่ท้องฟ้าแจ่มใสพาใจสุขสันต์ ยิ้มให้กันในวันปีใหม่โกรธเคืองเรื่องใดจงอภัยให้กัน หมดสิ้นกันที่ปีเก่า เรื่องทุกข์เรื่องเศร้าอย่าเขลาคิดมัน...~





    เสียงเพลงต้อนรับปีใหม่ที่ห้างเปิดซึมซับเข้าไปในโสตประสาทของผม สองสามวันที่ผ่านมาทุกสถานที่กระหน่ำเปิดเพลงปีใหม่จนผมสามารถร้องเป็นเมทเล่ย์ให้ประชากรโลกฟังได้ดีกว่าเพลงใหม่ของวงผมอย่าง December 

     

    เอ้อ...ผมลืมบอกไป ผมคือ โด คยองซู นักร้องเกาหลีวงexoที่กำลังดังและฮอตมากๆ ส่วนวันนี้เป็นวันที่สามสิบเอ็ดเดือนสิบสองซึ่งเป็นวันหยุดสิ้นปี เนื่องด้วยเหตุผลข้างต้นขณะนี้จึงทำให้ผมเดินห้างอยู่กับน้องในวงที่สนิทมากๆคนนึงที่ชื่อ คิมจงอิน หรือชื่อในวงการ ที่บริษัทตั้งมาว่าไค 



    แม้ว่าอายุเราจะห่างกันไม่มากแต่ผมก็มีศักษ์เป็นรุ่นพี่ของจงอิน ปัญหามันอยู่ตรงที่ผมเป็นรุ่นพี่คนเดียวที่จงอินไม่เคยใช้ภาษาสุภาพกับผม มันอาจเป็นมารยาทที่แย่มากจนปีนี้ผมกะว่าจะให้เขาสัญญาสิ้นปีว่า ปีหน้าจะพูดภาษาสุภาพกับผม

     

    ผมก็พูดไปงั้นแหละเอาจริงๆผมก็ไม่ได้ซีเรียสอะไรมากเท่าไหร่...



    "คยอง..."

    เสียงนุ้มทุ้มเอ่ยเรียกสติผมให้หันกลับไปมอง ข้างๆผมคือเด็กผิวแทนหน้าตาดีที่ตอนนี้มองยังไงก็ไม่รู้ว่าเป็นไอดอลทั้งสไตล์การแต่งตัวบ้านๆแว่นกันแดดดำสนิทและแมสปิดปากลายหัวกะโหลกที่เพิ่มความดาร์กให้อีก75เปอร์เซ็นต์


    จะว่าไปผมก็แต่งตัวอะไรไม่ต่างกันกับจงอินมากนักแค่ เสื้อเชิร์ตสีขาวสวมทับด้วยเสื้อโค้ชขนสัตว์กางเกงยีนขาเดฟและกระเป๋าเป้หนังสีน้ำตาลอ่อนแต่มันดันไปสะกิดสายตาให้กับทุกคนที่เดินผ่าน


    ผมรีบเดินให้ถึงบริเวณโรงหนังเร็วๆเพื่อที่จะหลบมวลชนบางคนที่อาจจะรู้ว่าผมเป็นนักร้องดังแล้วมารุมถ่ายรูปหรือขอลายเซ็นต์ผมจนมันจะกลายเป็นเรื่องใหญ่และทำให้ผมกับไคหมดสนุกในวันสิ้นปี

     

    กรณีความแตกเคยมีมาแล้วตอนมักเน่เซฮุนกับจื่อเทามาเดินซื้อของขวัญวันเกิดให้ลู่เกอ

    ซึ่งหลังจากเกิดเหตุการณ์นั้นพี่เมเนเจอร์ก็เข้มงวดในการออกไปไหนมาไหนมากขึ้น และกว่าผมกับจงอินจะมาเดินชิวที่นี่ได้ก็เสียงน้ำลายไปหลายลิตร...


    "อะไร..." ผมตอบจงอินไปแต่ก็มิวายรีบเดินอยู่ดี


    "คยองจะดูหนังเรื่องอายายย" เสียงอ้อนที่ขัดกับหน้าตาดังขึ้น ผมหันไปมองชั่วครูก็ตอบกลับไปอย่างปัดๆว่าโดเรม่อน...


    จงอินพยักหน้าง่วงก่อนจะเสตามองพื้นหินอ่อนต่อไป

     

     





    โรงหนัง


    ผมไม่คิดว่าคนจะเยอะขนาดนี้ คนส่วนมากที่มาเดินห้างก็คงมักจะมาโรงหนังเป็นซะส่วนใหญ่สังเกตได้จากแถวตรงเคาน์เตอร์ซื้อตั๋วหนังกับตู้อัตโนมัติที่มีคนต่ออยู่เป็นจำนวนมาก

     

    ไม่รอช้าผมรีบพาจงอินเดินไปดูรอบหนัง เราเห็นว่าโดเรม่อนมีรอบล่าสุดบ่ายสามครึ่งและเวลาตอนนี้ก็ใกล้แล้วจึงเลือกที่จะรีบไปซื้อตั๋วเพราะกลัวที่เต็ม พอดีกับมีตู้ขายตั๋วอัตโนมัติว่างอยู่ผมจึงเรียบจัดแจงไปซื้อด้วยความเร็ว


    ผมจิ้มๆตู้ขายตั๋วอยู่ซักพักตามขั้นตอนรูดบัตรสมาชิกจนถึงขั้นตอนเลือกที่นั่ง ภาพเก้าอี้ที่ปรากฎบนหน้าจอเล่นเอาผมกับไคเบิกตากว้าง เนื่องจากเพียงชั่วครู่ที่นั่งในโรงก็เกือบเต็มจนตอนนี้แถวกลางไม่เหลือที่แล้ว จะเหลือก็แต่แถวบนสุดอยู่ไม่กี่ที่เท่านั้นแถมยังเป็นแถวนั่งที่มีราคาสูงกว่าแถวอื่นๆอีก ผมหันไปมองหน้าไคว่าจะดูอยู่มั้ยแต่เขาก็ส่งสายตาแบบว่าแล้วแต่คยองเลย ด้วยความที่ผมอยากดูมากกกกกบวกกับเวลาที่จะหาโอกาสมาดูมันช่างยากยิ่งเลยไม่ลังเลที่จะเลือกที่นั่งไปพร้อมกับเสียบบัตรเครดิตวงเงินสูงตรงช่องเพื่อจ่ายเงินและรับตั๋ว


    ผมก้มมองนาฬิกาเห็นว่าจวนจะได้เวลาหนังฉายจึงสะกิดให้จงอินเดินตามไปซื้อป๊อปคอร์นก่อนเข้าโรงด้วยกัน



    กลิ่นหอมของป็อปคอร์นและเมนูละลานตาที่ปรากฎหลังเคาน์เตอร์มันทำให้หน้าง่วงๆของคนผิวแทนตื่นขึ้นได้ไม่ยากนัก


    "เอา...เซ็ตป๊อปคอร์นสุดคุ้มเพิ่มนาร์โชร์กับชีสครับ"ผมกล่าวกับพนักงานพร้อมกับยื่นธนาบัตรตามราคาให้กับพนักงาน ไม่นานป๊อปคอร์นกับนาร์โชร์ร้อนๆก็มาวางอยู่ตรงหน้าเราสองคน

    เห็นดังนั้นมือหนาก็รีบมาฉวยป็อปคอร์นเข้าปากอย่างรวดเร็ว

     

    'เพียะ'


    "โอ้ยยยคยองตีมือเค้าทำไมมม"

    จงอินครางออกมาเมื่อผมเอามือไปตีมือเขาโทษฐานทำตัวตะกละ


    "ก็นายตะกละนี่"


    "อ่าวก็คนมันหิวอ่ะ"


    "ไม่รู้แหละ...มันน่าเกลียด"


    "ตรงไหนอ่ะถ้ากินคยองก็ว่าไปอย่าง.."


    "ย๊าาาาพูดบ้าอะไรของนายฮะ"ผมเอื้อมมือไปตีแขนจงอินอย่างไม่ต้องบอก คนบ้า...เอาเรื่องเพ้อเจ้อมาพูดได้หน้าไม่อาย ผมหันไปมองพนักงานที่ส่งสายตาแปลกๆมาให้แล้วก้มหัวให้นิดๆก่อนจะผละตัวออกมาจากบริเวณนั้ นแล้วรีบเดินเข้าส่วนที่เป็นทางเดินเข้าโรงหนังพร้อมกับคนดำหน้าไม่อายที่เดินตามมาไม่ห่างก่อนที่ผมจะลดสปีดและเดินไปพร้อมๆกับจงอิน


    "เขินอ่ะดิ..." เสียงกวนบาทาเอ่ยเบาๆให้ได้ยินกันสองคนผมถองศอกใส่เขาเล็กน้อยก่อนที่จงอินจะหัวเราะออกมา

    ไม่รู้ว่าจงอินคนง่วงแบบเมื่อกี้หายไปไหนหมดแต่มันก็ดีที่ผมจะได้ไม่ต้องมาปลุกให้เขาตื่นทั้งที่ยังเดินอยู่



    แถวที่นั่งของเราสองคนคือ P13 และ P14 แทบไม่ต้องหาเพราะมันคือแถวบนสุดแถมที่นั่งที่เหลืออยู่ให้เลือกก็ดันอยู่ตรงกลางพอดี

     

    จะว่าไปมันก็ส่วนตัวกว่านั่งแถวกลางๆเนื่องจากไม่มีแถวข้างบนอีกซึ่งมันก็ทำให้ผมรู้สึกดีอยู่ไม่น้อยแต่เสียตรงที่มันแพงกว่าอ่ะ

     

    พอหนังตัวอย่างเริ่มฉายคนอื่นๆก็ค่อยๆทะยอยเข้ามาในโรงเพื่อหาที่นั่ง ในสายตาของผมมันช่างดูวุ่นวายซะเต็มประดาพอจะหันไปบ่นกับจงอินอีกฝ่ายก็สลบไปกับเบาะเรียบร้อยผมเลยนั่งหงุดหงิดอยู่คนเดียวก่อนที่จะดื่มด่ำกับหนังโดเรม่อนที่เริ่มฉาย



    เมื่อเพลงอินโทรเริ่มผมก็หันไปสะกิดคนขี้ง่วงให้ตื่นขึ้นมาดูจะได้ไม่เสียตังค์ไปฟรีๆ ใช้เวลาไม่นานจงอินก็เริ่มที่จะตั้งใจดูหนังจริงๆ

     

    ผมใช้เวลาเกือบทั้งหมดตั้งใจดูที่หนังจะมีบ้างที่หันไปมองคนผิวแทนด้วยความเป็นห่วงว่าหลับไปแล้วหรือเปล่าว



    โชคดีที่จงอินตาแข็งพอที่จะดูหนังจนจบแต่ก็หาวออกมาในบางครั้งซึ่งเรียกรอยยิ้มบนใบหน้าของผมได้บ่อยๆ ผมต้องขอยอมรับเลยว่าโดเรม่อนภาคนี้สร้างออกมาได้ดีมากๆแสดงอารมณ์สะเทือนใจของตัวละครได้ดีและทำให้ผู้ชมอินกับเนื้อเรื่องอมตะที่สื่อสารออกมาและพอถึงฉากหน่วงผมก็ยอมรับได้เลยว่าแอบน้ำตารื้นขึ้นมาเล็กน้อย ทั้งๆที่เป็นเพียงการ์ตูนแต่ก็ให้ข้อคิดดีมาก 


    เมื่อหนังจบผมกับจงอินก็เดินออกมาจากโรงเข้าห้องน้ำเล็กน้อยก่อนจะเดินเล่นดูของอีกนิดหน่อยแล้วจึงขึ้นรถกลับหอ


    วันนี้ที่บริษัทผมมีจัดปาร์ตี้เคาท์ดาวน์กับศิลปินในสังกัด เนื่องจากเป็นวันหยุดเลยอนุญาติให้ช่วงกลางวันนอนแห้งอยู่ในหอได้(แต่ผมขอออกมาเที่ยวกับจงอิน)ส่วนตอนเย็นๆก็ให้ไปปาร์ตี้ที่บริษัท ซึ่งก่อนหน้าจะไปกินเลี้ยงส่งท้ายปีผมก็ต้องรีบกลับเข้าหอกับจงอินเพื่อเตรียมอาบน้ำแต่งตัวเพื่อรอไปสบทบกับเพื่อนคนอื่นๆในวงที่ส่วนมากรออยู่ที่บริษัทแล้ว


    พอถึงหอเราสองคนก็รีบอาบน้ำแต่งตัวเนื่องจากกลัวคนอื่นๆจะรอนาน ผมสวมเสื้อธีมสดใสกับกางเกงยีนขายาวตาสไตล์สวมทับด้วยแจ็กเก็ตกันหนาวอีกชั้น เซ็ตผมให้ดูดีก่อนจะแต่งหน้าเล็กน้อยให้ดูไม่จืดเกินไปก็แหงล่ะคืนนี้ยังอีกยาวไกล ผมมายืนรออยู่หน้าห้องจงอินก่อนที่ประตูจะค่อยๆเปิดออก...





    หล่อ....





    คนผิวแทนสวมเสื้อยืดสีดำทับด้วยแจ็กเก็ตหนังสีดำอย่างลงตัว กางเกงเลื่อมๆคล้องด้วยโซ่เสริมให้แลดูแบทบอย จงอินหล่อและเซ็กซี่มากจริงๆในชุดนี้ซึ่งถ้าเป็นคน

    อื่นใส่มันคงจะดูไม่ดีเท่าจงอินเป็นแน่



    เราสองคนรีบลงลิฟต์ก่อนจะขึ้นรถคันเดิมอันคุ้นตาเพื่อมุ่งหน้าไปบริษัท





     

     

    ตึกเอสเอ็มทาวน์


    เสียงดนตรีที่เปิดดังเล็ดลอดมาจากภายในห้องประชุมเป็นสัญญาณบ่งบอกว่างานเค้าท์ดาวน์ได้เริ่มขึ้นแล้ว ไม่รอช้าผมเลือกที่จะก้าวขาสั้นๆของตัวเองเข้าไปในงานอย่างรวดเร็ว


    รุ่นพี่วงอื่นในสังกัดทั้งชายและหญิงรวมถึงเด็กฝึกที่เตรียมตัวสู่การเดบิวต์กล่าวทักทายผู้มาสายอย่างเป็นมิตร ผมก้มหน้างุดๆแก้เขินแล้วรีบมุ่งตรงไปที่เพื่อนๆผมนั่งอยู่


    สายตากวางหันมาพบกับผมเป็นคนแรกก่อนจะทักทายด้วยน้ำเสียงยินดี "อ้าวดีโอมาแล้วหรอ"


    "คับลู่เกอ"ผมตอบยิ้มๆพร้อมกับที่คนอื่นๆในวงหันมาเห็นผมแม้จะรู้ดีว่าไม่ได้เป็นมักเน่แต่ผมก็ประหม่าในสถานการ์ณแบบนี้อยู่เหมือนกันซึ่งความรู้สึกมันแตกต่างจากตอนขึ้นคอนเสิร์ตลิบลับ


    "ดีโอฮยองงงง"เสียงเจื้อยแจ้วของมักเน่เซฮุนเอ่ยเรียกผมต่อจากลู่เกอมาติดๆ ผมยิ้มให้กับเซฮุนก่อนจะค่อยๆเดินไปหยิบค็อกเทลที่อยู่ไม่ไกลเพื่ิอปรับอารมณ์ให้ผ่อนคลายขึ้น






    น้ำสีอำพันหลากสีวางอยู่ตรงหน้า ผมเลือกที่จะหยิบน้ำสีฟ้าๆมาถือก่อนจะค่อยๆจิบเล็กน้อย แต่ก็ไม่ทันที่แก้วจะสัมผัสกับริมฝีปาก มือหนาของใครคนหนึ่งก็ฉวยหยิบแก้วไปก่อน ผมหันไปมองคนมารยาททรามก่อนจะเตรียมเงื้อมมือขึ้นฟาดเมื่อรู้ว่าเป็น คิมจงอิน 

    "อยากสลบตั้งแต่แก้วแรกรึไง"

    แต่ก็ต้องยั้งมือไว้ก่อนแล้วเปลี่ยนเป็นทำหน้านิ่งๆใส่แทนเมื่อคนตรงหน้าเอ่ยออกมา


    "อะไรของนาย..."



    "ค็อกเทลแก้วเนี้ยะ รู้บ้างป่ะว่ามันแรงสุด"

     


    "..."


    "คอไม่แข็งแล้วยังจะกินอีกนะ"



    "ก ก็ ไม่รู้หนิ"ผมก้มหน้าลงเมื่อจงอินส่งสายตาดุๆมาให้ อะไรกันก็แค่ค็อกเทลแก้วเดียวเองอ่ะ



    "...งั้นก็รู้ไว้ซะ...เป็นห่วง"

    ผมแหงนหน้ามองจงอินพร้อมกับที่เขาก้มลงมามองผม สายตาเข้มจ้องลึกเข้ามาในดวงตาโตของผม

     เนิ่นนานที่เราต่างมองกันอยู่อย่างนั้น เหมือนกับมีอะไรมาเพิ่มเติมความรู้สึกระหว่างผมกับจงอินผ่านทางสายตา


    "ไคย่าาามาหาาฮยองหน่อยยย"เสียงใหญ่เรียกไคทำให้ผมออกจากภวังค์ก่อนจะรู้ว่าเป็นเสียงชานยิลที่กวักมือประกอบยิกๆ


    "เดี๋ยวมานะคยอง"


    "เออตามสบาย..." ผมกล่าวก่อนจะผละตัวไปสมทบกับโวคอลไลน์ ไม่ทันที่จะหายใจได้ทั่วท้องเสียงแซวของแบคฮยอนก็ดังขึ้นมาก่อน


    "แหนะๆซัมธิงรองอะไรกับจงอินหรอจ้ะกิ้วๆๆ"


    "พรวดดดดดดด"


    "แอ๊...ดีโอน่าเกลียดจัง"จงแดต่อว่าผมหลังจากที่รับน้ำลายจากผมไปเต็มๆ


    "โทษทีๆ"


    "ไม่เป็นไรๆ...แค่นายยอมรับมาว่าชอบไคก็พอ"


    "-..-"


    "5555"


    "-///-"

    ผมไม่ตอบอะไรแต่ทั้งคู่ก็หัวเราะกันอย่างสนุกสนานเนื่องด้วยท่าทีของผมละมั้ง

     

    เราทั้งวงเต้นตามเพลงที่เปิดเรื่อยๆเมื่อยก็พักไม่ก็ฮัมเพลงตาม

    บรรยากาศสนุกสนานมีทั้งเสียงหัวเราะของหลายๆคนเมื่อได้ฟังหลีดโฮเล่าเรื่องของเทาที่กลัวผีเข้าไส้...เราสังสรรค์กันจนเวลาล่วงเลยมานานจู่ๆก็มีเสียงของพิธีกรประกาศว่าถึงช่วงไคลแมกซ์ของงานในค่ำคืนนี้หรือก็คือช่วงเวลา เคาท์ดาวน์ต้อนรับปีใหม่แล้วนั่นเอง

    จงอินเดินมาสะกิดผมให้ไปยืนเคาท์ดาวน์อยู่ด้วยกัน เขาจะทำอะไรอีกล่ะ...













    5 เสียงพิธีกรประกาศก้อง จงอินและผมเดินขยับเข้าหากัน










     

    4 เสียงเพลงแดนซ์หรี่ลง มือหนาของคนข้างๆค่อยๆมากุมมือผมไว้ ผมหันไปมองหน้าจงอินเล็กน้อยก่อนจะกุมมือเขาไว้แล้วเปลี่ยนมาสอดประสานมือเข้าหากัน








     

     

    3 เสียงเต้นของหัวใจที่ดังกระหึ่ม รวมทั้งเสียงหัวใจของผมกับจงอินด้วยเช่นกัน มันดังจนต่างฝ่ายตารู้กันได้












     

    2 เสียงนับเลขของบุคคลทั่วโลกรวมทั้งภายในห้องประชุมใหญ่แห่งนี้ที่เตรียมต้อนรับปีใหม่ แต่จงอินกลับขยับใบหน้าเข้ามาใกล้ๆผมมากขึ้น














    1  เสียงนับครั้งสุดท้ายก่อนที่สติของผมจะหลุดเลือนไป...

     

     

     








     




     

    จุ้บ....

     

     




     

     

     

     

     

    ปากหนาของจงอินที่ขยับเข้ามาสัมผัสแก้มผม...

     

     






     

     

     

     

    " HAPPY NEW YEAR ครับ คยองของผม "

     

     

     

     

     

     








     

     

    และเสียงแหบเซ็กซี่ข้างหูที่ทำให้สติผมหลุดเลือน. . .

     

     

     






     

     

     

     

     

    -///////////////////////////////-

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    -------------------------------------

    ชอบไม่ชอบบอกกันได้ในเม้นและสกรีม#พี่ไคคนเอ๋อ นะคับเราชอบอ่าน

     

     

     

    TALK : มาเงียบๆกับสเปตอนนี้นะคับ นี่เป็นสเปแรกเลย เขียนเพราะอยากแฮปปี้นิวเยียร์รีดเดอร์ที่น่ารักทุกคนนะคับ และเนื่องในวาระดิถีขึ้นปีใหม่นี้ผมก็ขออาราธนาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายทั่วสากลโลกจงดลบันดาลให้รีดเดอร์รวมทั้งญาติสนิทมิตรสหายของทุกๆคน มีความสุข สุขภาพร่างกายแข็งแรงปลอดภัยจากภยัญตรายใดๆทั้งปวง ขอให้เรียนเก่งๆสอบได้คะแนนดีๆท่านใดทำงานแล้วก็ขอให้ก้าวหน้าและประสบความสำเร็จสมหวังในทุกๆสิ่งด้วยเทอญ~

     

    ปล.ฝากเม้นกับสกรีมแท็ก  #พี่ไคคนเอ๋อ ด้วยนะคับ เพื่อกำลังใจในการแต่ง

    (บ่น ด่า ติเตียน หรืออะไรมาก็ได้นะฮะ ผมชอบอ่าน)

     

    ----รักมากๆ--------사랑하싸

     

    themy butter
     
    © themy  butter
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×