ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    SF [Yeryeo] : Yeryeo the series!!!!

    ลำดับตอนที่ #2 : SF Yewook's day : Diary of Vampire Hunter 2

    • อัปเดตล่าสุด 15 เม.ย. 58


    Diary of Vampire Hunter ...Part 2

    ...ปัจจุบัน ที่กรุงโซล...

     

                ในทาวน์เฮ้าส์หลังเล็กๆ ของสามเพื่อนสนิท ประกอบไปด้วย โจว คยูฮยอน คิม เยซอง และ เชว ซีวอน

    ทั้งสามเป็นแก๊งของนักเรียนชายในกรุงโซล และยังเป็นผู้สืบทอดของ 'นักล่าแวมไพร์' กลุ่มสุกท้ายในเกาหลีด้วย และแน่นอน มีเพียงพวกเขาสามคนเท่านั้นที่รู้

     

                ในทุกๆวัน พวกเขาจะออกไปทำงานตามสายจองตัวเอง และในตอนกลางคืน พวกเขาจะสวมรอย นักล้าแวมไพร์ และแฝงตัวไปตามที่ต่างๆ

     

                และ ในคืนหนึ่ง ที่หิมะตกหนัก สามเพื่อนสนิทกำลัง ทำรามยอนกันในบ้านนั้น จู่ๆก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น

     

    " ไอ้ เกี้ยม มึงออกไปปิดประตูเดี๋ยวนี้ ไม่ต้องเข้ามายุ่งในครัว ถ้ายังอยากกินข้าวเย็น!!! "  เสียงขุ่นๆของชายที่ชื่อ คิม เยซอง ดังขึ้นมา ทำให้ โจว คยูฮยอน ต้องออกไปเปิดประตูอย่างเสียไม่ได้

     

                ทันทีที่ประตูเปิดออก ร่างของหญิงสองคนก็รีบมุดเข้ามาในตัวบ้าน และปิดประตูทันที ทำเอาคนเปิดประตูให้ถึงกับงุ่นงงเล็กน้อย

     

    ลี มินมิน

     

    ลี อึนแจ

     

    " บ้านนาย ลงคาถารึยัง!!! " คยูฮยอนสังเกตเห็นสัญลักษณ์ ว่าเป็นพวกเดียวกัน เขาจึงพนักหน้า

     

    "...ฉันไม่ยักกะรู้ว่า เดี๋ยวนี้มีนักล่าหญิงด้วย "  เชว ชีวอน เดินออกมาต้อนรับนักล่าหญิงด้วยสีหน้าที่มิตร ตามประสาชายหนุ่มฮ็อตประจำมหาลัย

    " ...ออ พวกชั้นเป็นรุ่นน้องของพวกนายนะ "  หนึ่งในสองสาวตอบก่อนจะแนะนำตัว

     

    " ฉันลี มินมิน และนี้ ลี อึนแจ น้องฉัน ... พวกเรากำลังตามล่าแวมไพร์ตัวหนึ่งอยู่ แต่พลาดท่า เพื่อนฉันตายไปแล้วคนหนึ่ง ฉันกับอึนแจก็เลยขอหนีมาอาศัยบ้านนายสักพักนะ... "  สิ้นคำพูดของสาวร่างอวบ สาวน้อยอีกคนด้านหลังเลยค่อยๆเขยิบตัวออกจากหลังพี่สาว

    " เอายังเหรอ ก็น่าจะได้ งั้นก็ยกห้องมึงให้แล้วกัน ไอ้วอน ห้องมึงน่าจะสะอาดสุดแหละ ถ้าห้องกูอย่าหวังเลย " คยูฮยอนตอบอย่างไม่ลังเลพลางเดินเข้าไปหาเพื่อนอีกคนในห้องครัว

    .

    .

    .

    .

     

    " นี่ พวกมึงคิดกันดีแล้วหรอ เอาผู้หญิงเข้าบ้านเนี่ย แล้วตอนกลางคืนพวกเราอยู่กันสะที่ไหนเล่า!!! "  เยซองโวยวายทันทีที่รู้เรื่อง ใช่ว่าไม่เคยเอาหญิงมานอนบ้าน แต่นี่คือเป็นใครก็ไม่รู้ให้เข้ามาได้ไง

    " นี่ คุณ พวกชั้นก็คนนะ ไม่ใช่พวกผู้หญิงมักง่ายแบบนั้น " มินมินเถียงทันควัน

     

                ตอนนี้ ทุกคนกำลังนั่งอยู่ในห้องนั่งเล่นกลางบ้าน โดยมีหนุ่มๆกำลังซัดรามยอนที่เยซองทำ  และมีสาวๆกำลังเช็คอุปกรณ์ของตัวเองอยู่

     

    " งั้นพวกเธอหนีแวมไพร์ตัวไหนมาล่ะ แวมไพร์ที่เก่งๆแบบหนีนักล่าแวมไพร์ได้ มีไม่กี่ตัวหรอก "  ชีวอนถามสองสาวในขณะที่อึนแจเงยหน้าขึ้นมาพอดี

    " พวกพี่ จำแวมไพร์ในตำนานได้ไหม แวมไพร์ที่ชอบกินเลือดของนักล่า แวมไพร์ตัวนั้นแหละ ที่ตามพวกเรากลับเกาหลีมาด้วย "  อึนแจตอบเสียงสั่นๆ ทั้งสามหนุ่มเริ่มให้ความสนใจกับแวมไพร์ตัวนั้นขึ้นมา

     

    " แวมไพร์ตัวนั้นที่ฆ่ามาสเตอร์คนก่อนของเราไง ไอ้เย่มึงจำได้หนิ มึงก็อยู่ตรงนั้น "  คยูฮยอนนึกขึ้นได้พลางหันไปถามความเห็นเพื่อน

     

    " ...แน่นอน จำได้แม่นอยู่แล้ว แวมไพร์ในตำนานที่เล่าขานกันมานาน ว่าเก่งกาจที่สุด ที่ฆ่าแต่นักล่า และยังไม่เคยถูกฆ่า ... "  แววตาของเยซองไหววูบอย่างเห็นได้ชัด

     

     

    เมื่ออดีตที่พวกเขายังเป็นนักล่าฝึกหัด

    อดีตอันแสนปวดร้าวของเยซอง

    .

    .

    .

    .

    .

                มาสเตอร์ที่ปกป้องเหล่านักล่าฝึกหัดจนนาทีสุดท้ายของตัวเอง มาสเตอร์ที่เยซองคุ้นเคยและ รู้จักเป็นอย่างดี ญาติของเขาคนสุดท้ายที่รอดจากแวมไพร์ ลุงของเขา และในอีกไม่นาน เขากำลังจะถูกฆ่า

     

    " เยซอง หลบไป!!!อย่าให้มันเข้ามา ถอยไปไอ้ตัวประหลาด!!! " มาสเตอร์คิม ไล่ให้เขาออกไป เมื่อจู่ๆก็มีแวมไพร์ ฝ่าเวทย์ป้องกันเข้ามาถึงด้านในได้

     

                เมื่อพลาดท่า อาวุธของมาสเตอร์ถูกปัดออกด้วยแรงมหาศาลของแวมไพร์ตัวนั้นก่อนที่ เล็บคมนั้นจะกดเข้าที่คออย่างแรง

     

    "  มาสเตอร์!!!!  "  เหล่านักล่าฝึกหัดต่างก็มามุงดู ในขณะเดียวกัน เยซองก็พุ่งตัวออกไปกระชากตัวแวมไพร์ตัวนั้นด้วยความโมโห

    "  เยซอง!!!  "   เพื่อนๆก็ต่างตกใจที่ เยซองเสี่ยงชีวิตเข้าไปช่วยโดยที่ไม่มีแม้แต่อาวุธ

     

    ดวงตาสีม่วงอมฟ้ามองเยซอง ก่อนจะสะบัดตัวเยซองให้ห่างออกไปอย่างกราดเกรี้ยว

    " ข้า ไม่ใช่ศัตรูของเจ้า คิม เยซอง "  แวมไพร์ตัวนั้นเอ่ย ก่อนจะเดินออกห่างเขาอย่างน่าประหลาดใจ

     

    " อย่าไปฟังมัน เยซอง ไอ้ตัวนั้นแหละที่ฆ่าแม่ของแก "  มาสเตอร์ตะโกนออกไป ทำให้เยซองถึงกับกลัวและโกรธในเวลาเดียวกัน แวมไพร์หันหน้าไปหามาสเตอร์อย่างโกรธจัด

     

    " โอหังนัก เจ้ามนุษย์ชั่วช้า พูดปดเพื่อใช้คนอื่นเป็นเครื่องมือ คงจะสาแก่ใจเจ้าดีนักเจ้าอย่าอยู่นานกว่านี้เลย!!! " แล้วแวมไพร์ตัวนั้นก็ตรงเข้าไปฆ่ามาสเตอร์อย่างไม่ลังเล

     

                มาสเตอร์สิ้นใจตายทันที เลือดสีแดงสด ไหลนองไปทั่ว แต่แวมไพร์ตัวนั้นกลับไม่แตะเลือด แม้แต่หยดเดียว

     

                "แวมไพร์อย่างข้า ไม่กินเลือดโสโครกพวกนั้น" ดวงตาสีม่วงอมฟ้าจ้องลึกเข้าไปในดวงตาสีดำขลับของเยซอง

                " ข้าไม่เคยอยากรู้ "  เยซองรู้สึกชาวาบไปทั่วทั้งร่าง ก่อนที่จะรู้สึกปวดหัวอย่างหนักและล้มลงไป ดวงตาของเยซองปิดลง และการรับรู้ทั้งหมดก็ดับไป

     

                แวมไพร์ตัวนั้นเดินเจ้าใกล้เยซองมากขึ้นเรื่อยๆ นักล่าคนอื่นๆรวมทั้งมาสเตอร์ก็ไม่มีผู้ใดขยับตัว ราวกับถูกมนต์สะกดเอาไว้

     

                " ...เมื่อไรเจ้าจะจำข้าได้สักที จงอุน... ข้าอยากจะรู้ "  แวมไพร์เอ่ยเบาๆ ก่อนจะทิ้งร่างของเยซองไว้ กับ สิ่งของบางอย่าง ที่เยซองก็ยังไม่รู้จวบจนปัจจุบัน

     

    สร้อยคอไม้กางเขนสีดำ ที่เขาคิดว่าเป็นของลุงแต่ทว่า จริงๆแล้ว

    .

    .

    .

    .

     

                " เรียวอุค แกทำอะไรลงไปฮะ!!! " เพื่อนแวมไพร์ตนหนึ่งของเรียวอุคถาม

    " โถ่ ซองมินอ่า ข้าปล่าวนะ แค่ทิ้งสร้อยของข้าเอง... " เรียวอุคก้มหน้า เตรียมรอรับคำจากเพื่อนสนิททันที

     

    "  เรียวอุค เจ้าจะบ้ารึไง แกทิ้งสร้อยไม้กางเขนเจ้าไป  แล้วแกจะปกป้องตัวเองยังไง!!! เจ้าก็ตัวแค่นี้ แล้วไอ้หมอนั้นใช่จงอุนอะไรของเจ้าหรอ!!! ก็อาจจะไม่ แกเชื่อมันเกินไปป่าวฮ้ะ!!! "  กลับเป็นแวมไพร์อีกตัวที่หันกลับมาว่าเรียวอุคฉอดๆ

    " ...ฮือ...เค้าคือจงอุนจริงๆนะ...ฮยอกแจอ่า...T^T " เรียวอุคเข้าสวมกอดเพื่อนที่กำลังหงุดหงิดทันที

    " ชื่อใหม่ ฉันชื่อ อึนฮยอกต่างหาก!!! เจ้าไม่ต้องทำตัวไร้เดียงสา งมงายในคำสัญญาลมๆแล้งๆจริงๆ น่าเชื่อให้เล้ย!!! " อึนฮยอกสบัดตัวทิ้งอย่างหงุดหงิด

     

    " ฮือ ซองมินอ่า ฮยอกงอนๆ อุคอ่ะ T0T แง้ ข้าผิดไปแล้วอภัยให้ข้าด้วย!!! " เรียวอุคร้องไห้ออกมาจนเพื่อนทั้งสองไปต่อไม่เป็น

    " เฮ้อ สมัยไหนแล้วเนี่ยเจ้าก็ยังใช้คำโบราณจริงๆ ขนาดฉันเกิดหลังแกแป๊บเดียวยังงงๆกับแกเลย " อึนฮยอกหันกลับมาปลอบเพื่อนที่ยังงอแงไม่เลิก เช่นเดียวกับที่ซองมินยังเช็ดน้ำตาให้เรียวอุคอยู่เหมือนเดิม

     

    " ...ฮรึก ฮือ... แต่จงอุนเค้าสัญญากับข้าจริงๆนะ ... เขาต้องไม่ผิดคำสัญญาแน่ๆ ... "

     

    .

    .

    .

    .

    .

     

    กลับมาที่กรุงโซล ปัจจุบัน

     

    เยซองยังคงจับสร้อยไม้กางเขนที่เขายังจำว่าเป็นของลุงเขาอยู่

     

    ลี มินมิน และ ลี อึนแจ หรือ ลี ซองมิน กับลี อึนฮยอกที่แปลงร่างมา จ้องสร้อยไม่กระพริบตา เยซองที่ยังมองดูสร้อยไม่ได้สังเกตอะไรรอบข้าง แต่เพื่อนอีก2คนอย่าง ชีวอนกับคยูฮยอนที่เริ่มมองสองสาวอย่างมีพิรุธ

     

                จมูกอันเฉียบคมของคยูฮยอนเริ่มจับกลิ่นแปลกๆได้ กลิ่นของแวมไพร์ที่เริ่มเด่นชัดขึ้นมาเล็กน้อย อึนฮยอกที่อ่านใจคนได้ สะกิดซองมิน เพื่อเริ่มทำตามแผนที่ตั้งไว้

     

                ทันใดนั้น ไฟในห้องก็ดับมืดลง ทั้ง3นักล่าต่างก็ระวังตัวเองทันที กลิ่นของแวมไพร์คละฟุ้งไปหมด เสียงกรี้ดของสองสาวดังลั่น และเมื่อไฟติด ทั้งสองสาวก็หายไป

     

    " อึนแจ มินมิน โดนแวมไพร์จับไปแน่ๆ "  ชีวอนรีบรุดออกไปข้างนอกพร้อมกับอาวุธอย่างไม่รีรอ

     

    " เดี๋ยว มึง ไอ้ชีวอน!!!! อย่าเพิ่งดิ " คยูฮยอน ตะโกลไล่หลังชีวอนที่วิ่งออกไปแล้ว

     

    " มึง เป็นไร " เยซองถามในขณะที่กำลังจะวิ่งไปอีกคน

     

    " กูได้กลิ่นแวมไพร์ มันมากกว่าตัวเดียวนะเว้ย ไม่ใช่2คนนั้นเหรอ " คยูฮยอนถามเสียงเครียด

     

    " ...กูไม่รู้ แต่กูได้กลิ่นแปลกๆ มันคุ้นมากๆ ... เหมือนเคยเจอมาก่อนเลย " เยซองทำหน้าเครียดก่อนจะรีบรุดออกไปพร้อมกับคยูฮยอน

     

     
     

                ในซอยเปลี่ยวไม่ใกล้ไม่ไกลจากตัวบ้านมากนัก ชีวอนได้กลิ่นของแวมไพร์มากกว่า1ตัว เขาถือไม้เท้าอันนึง ซึ่งแน่นอนมันคืออาวุธประจำตัวเขา

     

    " อึนแจ มินมิน พวกเธออยู่ในนั่นรึป่าว " ชีวอนถามเข้าไปในซอย แต่ไร้ซึ่งเสียงตอบรับ

     

    " ไอ้วอน ระวัง! " คยูฮยอน ตะโกนห้ามแต่ไม่ทันแล้ว แวมไพร์สองตนพุ่งจับชีวอนขึ้นแล้วลากเข้าไปในซอยนั้น

     

                เยซองและคยูฮยอน เข้าไปก็เห็นไม้เท้าจองชีวอนถูกเขวี้ยงไปไกลเกินที่เขาจะเอื้อมถึง ทั้งสองสาวบัดนี้กลับกลายร่างเป็นแวมไพร์เพศชาย และร่ายมนต์สะกัดชีวอนไว้

     

    " ปล่อยเขา เดี๋ยวนี้ แล้วจะหาว่าเราไม่เตือน " คยูฮยอนพูดขึ้นก่อนจะกระชากปากกาของเขาจากกระเป๋าเสื้อ อาวุธของคยูฮยอนถูกชี้ไปที่แวมไพร์2ตัวที่ยึดชีวอนเอาไว้

    " พวกแกจะทำอะไร " เยซองถามขึ้นเมื่อแวมไพร์2ตัวนั้นเริ่มพึมพัมคล้ายร่ายมนต์

     

    " พวกฉันแค่ต้องการคุยเท่านั้นเอง แต่คุยในบ้านไม่สะดวก เพื่อนฉันไม่อดทนต่อเวทย์มนตร์พวกนายเท่าพวกฉันหรอก ลีซองมิน ยินดีที่ได้รู้จักอีกครั้ง " ซองมินเดินเข้ามาใกล้คยูฮยอนก่อนจะส่งยิ้มให้อย่างมีเลศนัย

     

    " ข้า ลี อึนฮยอก ข้าจะร่ายเวทย์นิดนึง มันอาจจะมีผลกระทบแบบคันๆบ้าง ก็อยู่เฉยๆไว้นะ " อึนฮยอก กล่าวเสียงหนักแน่นก่อนจะร่ายเวทย์ และทั้งสามคนชายหนุ่ม ก็ไม่สามารถขยับตัวได้

     

    " นี่ พวกแกจะทำอะไร แวมไพร์เดี๋ยวนี่กระแดะร่ายเวทย์เหมือนพวกแม่มดรึไง ปล่อยพวกเราเดี๋ยวนี้ " คยูฮยอนเอ่ยถาม

     

    “ก็เรียนจากแม่มดสิ พวกข้าเสียเวลาเรียนนะไม่ได้เรียนกันง่ายๆ อย่ามาดูถูกกันเยอะ เดี๋ยวก็จัดหนักหรอก” อึนฮยอกกล่าวอย่างอารมณ์เสีย

    “ นายนี่ ปากเสียไม่เคยเปลี่ยนเลยนะคยูฮยอน กี่สิบปีนายก็ยังเหมือนเดิม ” ซองมินกล่าว คยูฮยอนเบ้หน้าราวกับมันเป็นเรื่องตลกสิ้นดี ก่อนที่แวมไพร์ตัวสุดท้ายจะเข้ามาสมทบ

     

    "  ข้าแค่อยากจะลองพิสูจน์อะไรบางอย่าง "  ร่างเล็กที่คุ้นตาของทั้งสามคนปรากฏขึ้น ดวงสีม่วงอมฟ้าก็ยังจับจ้องอยู่ที่เยซองเหมือนเดิม

     

    “แกจะมาฆ่าฉันสินะ ตระกูลฉันทำอะไรให้นายต้องแค้นขนาดนี้หรอ ” เยซองเอ่ยเสียงปลงๆ เมื่อแวมไพร์ตัวนั้นหยุดยืนอยู่ข้างหน้าเขา ด้วยความสูงที่ต่างกันทำให้เยซองต้องก้มหน้ามองร่างที่เล็กกว่า

     

    “ เปล่าเจ้าอย่าตีโพยตีพายเองสิ จงอุน ... ข้าเรียวอุค คิมเรียวอุค เจ้าจำข้าได้ไหม ” เรียวอุคมองหน้าเยซองที่มีแต่สายตารังเกียจมองมาที่เขา

     

    “ ฉันชื่อเยซอง และแน่นอน ฉันจำแกได้ แกฆ่าลุงของฉัน ” เยซองมองเรียวอุคไม่กระพริบตา ความแค้นที่สะสมมาสิบๆปี เริ่มปะทุขึ้นเบาๆ

     

                ทั้งหมดตกอยู่ในความเงียบ ไม่มีใครพูดหรือส่งเสียงอะไร จนสุดท้าย อึนฮยอกลากเรียวอุคให้ห่างเยซองออกมา   

    “ พอเถอะอุค มันผ่านมานานแล้วนะ เขานายไม่ได้หรอก ขนาดชีวอนยังจำข้าไม่ได้เลย...” คำพูดของอึนฮยอกสะกิดชีวอนให้สงสัยขึ้นมา

     

    “ งั้นข้าขอพิสูจน์อีกอย่าง เผื่อมันจะได้ผล ” เรียวอุคอ้อนวอนเพื่อนแวมไพร์ทั้งสองตน

    “ ไม่เรียวอุค มันอันตรายเกินไป ข้าให้เจ้าทำไม่ได้หรอก ” ซองมินห้ามเรียวอุค แต่ถึงกระนั้นแล้ว เมื่อเขาตัดสินใจแล้ว เขาจะต้องทำให้ได้

     

                เวทย์สีม่วงวนรายล้อมทั้งมนุยษ์และแวมไพร์ ไม่มีใครขยับได้นอกจากเรียวอุคผู้ซึ่งมีเวทย์ที่แกร่งที่สุดในเหล่าเพื่อนทั้งสาม และเยซองที่เรียวอุคตั้งใจถอนคำสาปให้เขา

     

    “ เยซอง ฆ่าข้าสิ เหมือนที่ข้าได้ฆ่าเจ้าเมื่อสี่ร้อยปีก่อน ” เรียวอุคพูดก่อนจะสาวเท้าเข้าไปหาเยซอง เยซองกลับถอยหนีแล้วถามกลับว่า

    “ ฉันฆ่าแน่ แต่ก่อนหน้านั้น ฉันเคยฆ่านายได้ไง ฉันไม่เคยรู้จักแกมาก่อน นายจำผิดแล้วฉันไม่เคยฆ่านายหรอก ถอยไป ก่อนที่ฉันจะฆ่านายจริงๆ...” ดวงตาสีฟ้าของเยซองไหววูบเมื่อมองรอยสีชมพูบนลำคอขาวซีดนั่น ความรู้สึกปวดหัวตุบๆเริ่มเกิดขึ้นอีกครั้ง

     

                ทันใดนั้น เหตการณ์มี่ไม่มีใครคาดถึง เมื่อเรียวอุค ประกบเรียวปากเย็นเฉียบเข้ากับปากอุ่นของเยซอง

                จูบดูดดื่มและเร้าร้อนในเวลาเดียวกันทำให้ทั้งสองเคลิ้มและเผลอไผล เรียวอุคถอนจูบออกแล้วมองจ้องลึกเข้าไปในดวงตาสีฟ้านั่น ดวงตาสีม่วงอมฟ้าที่เป็นเอกลักษณ์จุดประกายบางอย่างในตัวเยซอง

                เยซองกลับเป็นฝ่ายเริ่มจูบเรียวอุคที่ไม่ทันได้ตั้งตัว เยซองยกมือขึ้นประคองศรีษะแวมไพร์ตัวเล็ก ในขณะที่เรียวอุคก็พาดมือทั้งสองไว้ที่ไหล่คนตัวสูง  เสียงจูบดังเป็นระยะทำเอาเพื่อนๆคนอื่นๆ หน้าร้อนกันไปตามๆกัน ทั้งสองจูบเหมือนกับโหยหาสิ่งที่พลัดพรากหายกันไปนานแสนนาน

     

                แล้วจู่ๆ เยซองก็ถอนจูบอย่างช้าๆ ไม้กางเขนสีดำที่คอของเขาเรืองแสงสีเงินของดวงจันทร์ ก่อนที่ความทรงจำต่างๆของเขาเหมือนนานมาแล้ว ดวงตาสีฟ้าแปรเปลี่ยนเป้นสีเงินก่อนที่ร่างของเยซองจะทรุดลงกับพื้น

     

                “ เยซอง ”  เรียวอุคอุทานออกมา ท่ามกลางความงุนงง ของเพื่อนแวมไพร์ และนักล่าแวมไพร์ เรียวอุคก้มตัวลงเพื่อพยุงร่างของเยซองขึ้น แต่เยซองที่รู้สึกตัวแล้วกลับกำรอบข้อมือบางที่เย็นเฉียบเอาไว้

     

                “ เรียวอุค ... เจ้า...” เยซองพึมพำ เรียวอุคเอ่ยถามอย่างมีความหวัง

     “... เจ้าจำข้าได้ไหม ... จงอุน... ไม่สิ เยซอง ...” เรียวอุคเอ่ยถามทั้งๆที่คิดว่ามันคงเป็นไปไม่ได้ สี่ร้อยปีที่ผ่านมาคงไม่เหลือความทรงจำใดเกี่ยวกับเขาอีกแล้ว น้ำตาหยดโตไหลออกจากดวงตาสีม่วงอมฟ้า

     

                มือเล็กเอื้อมมาเช็ดเกล็ดน้ำตาที่กลายเป็นน้ำแข็งออกจากพวงแก้ม แล้วเชิดหน้าของเรียวอุคขึ้นมาสบตาของเขา

     

    “ ฉันจำได้แล้ว ฉันกลับมาหานายแล้วเรียวอุค ... ขอโทษนะที่ต้องให้รอนาน ”  เยซองพูดออกมา ทำให้น้ำตาของความปลาบปลื้มของเรียวอุคไหลออกมาอย่างห้ามไปอยู่

     

                ทั้งสองโผเข้ากอดกันให้สมกับที่ห่างกันมานานแสนนาน สี่ร้อยปีกับความอดทนที่เรียวอุคค่อยจ้องมองผู้คนเป็นแสนล้านคน ที่เวียนว่ายตายเกิด บัดนี้ ชายผู้เป็นทั้งคนที่ทำลายและให้ชีวิตใหม่แก่เขา ชายที่เป็นที่รักยิ่งและเพียงคนเดียวที่สามารถรอคอยได้กลับมาหาเขาแล้ว

     

                “...ฉันกลับมาบอกสิ่งที่ฉันไม่เคยบอกนายเรียวอุค ฉันรักนาย...” เยซองเอ่ยปากบอกเรียวอุค และจ้องมองเขาอย่างลึกซึ้ง

     

                “...ข้าก็ไม่เคยได้บอกเจ้าจงอุน ข้ารักเจ้าตั้งแต่แรกพบ ข้าขอโทษที่ข้าคิดฆ่าเจ้าในวันนั้น...”

                “...ไม่ฉันต่างหาก ฉันฆ่านายในวันนั้น ฉันถึงไม่เคยมีโอกาสได้บอกนาย ฉันขอโทษ ฉันรักนายนะ เรียวอุค...”

                “...ข้าก็รักเจ้าจงอุน ... ตั้งแต่วันนั้น และตลอดไป...”

     

                แล้วเรียวอุคก็บรรจงฝังคมเขี้ยวสีขาวลงที่ลำคอของจงอุนอย่างแผ่วเบา ท่ามกลางเพื่อนๆที่รายล้อม

     

     

     

     

    ... รักจากข้า เสมอและตลอดไป ...

    END

     

     

     

     

                เย้!!!!!!! จบไปแล้วนะ สำหรับSF เรื่องนี้ กว่าไรท์จะแต่งจบ ^^ สงกรานต์เป็นไงกันบ้างรีดเดอร์ ไรท์ไม่ได้ไปไหนเลย เข้าโรงบาล TwT เป็นโรคกระเพาะอ่า แฮะๆ เพิ่งออกโรงบาลมาหมาดๆ ก็รีบมาเขียนฟิคที่ดองไว้ทันที 5555 ไรท์สัญญาไว้ ไรท์ก็มาแต่งเสร็จแบบ เส้นยาแดงผ่าแปดพอดี คึคึคึ ภาษาอาจจะแปลกๆนะ เพราะไรท์รีบมาก 55555 เดี๋ยวไว้จะมาเช็คให้อีกทีนึง

                แต่งไปแต่งมา ไรท์จะลองถามดูใครอยากให้มีสเปเชี่ยลเรื่องนี้ไหม ถ้าเม้นต้องการเกิน3คนจะลงให้นะ เพราะเราอยากแต่ง >0< เรื่องราวหลังจากนี้ และอีก2คู่ (ที่ไรท์เอามาประกอบ คือ คยูมินกับวอนฮยอก ที่เป็นคู่ที่ไรท์ชอบรองจากเยเรียว) ใครอยากอ่านเม้นไว้นะ แล้วจะลองพิจารณา

                รักรีดเดอร์น้า ขอบคุณจริงๆที่เข้ามาอ่านกัน หนุกไม่หนุกบอกด้วยจะพิจารณาตัวเอง 555555 คุยกันได้นะ ไรท์ชอบคุย ทักทวีตได้ตลอดนะเค้าเช็คเมนชั่นตลอด  อยากคุยแต่ไม่รู้จะคุยกับใคร T////T
    15/04/58

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×