ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fic.(YOUNGJI)Dangerous Guy [APINK x GOT7]

    ลำดับตอนที่ #2 : DG ตอนที่ 1 50 per

    • อัปเดตล่าสุด 9 เม.ย. 58


    ตอนที่ 1

    การพบกันครั้งที่ 1




     

     






     

              ฮรึกฮรึก ….

     

    เสียงสะอื้นดังมาจากชายหนุ่มร่างบาง ผิวขาวเรียบเนียนกลืนกับหิมะที่กระจายเบาบางบนพื้นยิ่งเวลาช่วงกลางยิ่งขลับให้ผิวพรรณเขาขาวซีด ดวงตาเรียวชายตามองกลุ่มบุคคลร่างหนาชุดดำสนิทตรงหน้าด้วยความหวาดกลัว นัยน์ตาสีดำขลับสั่นระริก น้ำตาใสระรื้นใต้ขอบตา เขาเอ่ยเสียงสั่น

     

     “.. อ อย่าทำอะไรผมเลย ได้โปรด

     

                อ๊ะ  ชายหนุ่มร้องด้วยความเจ็บปวดเมื่อใครคนหนึ่งในกลุ่มบีบเข้าที่คางของเขา ชายผู้เหนือกว่าเหยียดยิ้มให้กับคนไม่มีทางสู้ก่อนจะเสิร์ฟหมัดเข้าไปที่ท้องเขาจนเจ้าตัวทรุดลงแหมะที่พื้นเย็นเชียบ

     

                ชายชุดดำหัวเราะขำขันเหล่มองชื่อพนักงานตรงหน้าอกเสื้อ นายชื่อยองแจใช่ไหม

     

              ยองแจเบิกตาโตเขากลัวจนตัวสั่นเทาเหมือนลูกหมาที่กำลังหนาวสั่น .. ปล่อยผมเถอะ

     

              หุบปาก !”

     

              ชายคนหนึ่งในกลุ่มเดินมาทางด้านข้างก่อนจะเอ่ยเสียงกระซิบ ปล่อยมันไปเถอะ  อย่าเสียเวลากับมันเลย เรามีภารกิจที่โซลต่อ

     

              ชายร่างหนาใช้หางตาเหลือบมอง คงปล่อยไม่ได้ มันรนหาที่เอง

     

     

     

              ขณะเดียวกัน

     

                หญิงสาวหน้าตราหมดจดเดินออกมาจากร้านสะดวกซื้อ ในมือเต็มไปด้วยถุงข้าวของที่พึ่งซื้อมา ภายนอกนั้นเธอก็ไม่ต่างจากหญิงสาวธรรมดาทั่วไป แต่หารู้ไม่ว่าตำแหน่งงานในเกาหลีของเธอไม่ใช่เล่นๆ คนทั่วไปคงยากที่จะเชื่อว่าเธอคือหนึ่งในหน่วยดีเอสไอลับ

     

    ย๊า ฉันเบื่อรับงานที่อิลซานเต็มทีแล้ว มีงานในโซลมาทั้งทีทำไมจะไม่รับไว้ อีกสามเดือนฉันจะรีบบึ่งไปโซลทันทีเลย

     

              เธอหนีบโทรศัพท์ไว้ระหว่างไหล่กับแก้มในขณะที่มือยังคงจัดของในถุงขนาดใหญ่

     

                เสียงสนทนาทางโทรศัพท์ยังคงดังเป็นระยะในขณะที่เจ้าตัวเดินเอื่อยไปตามทางฟุตบาท ปลอมตัว ?  ของถนัดฉันเลยนะ นี่ ฉันไม่เหมาะกับบทผู้ชายตรงไหนไม่ท..”

     

     

                พลั่ก !!

     

              หญิงสาวชะงักกึกเธอคว้าโทรศัพท์ไว้ที่มือก่อนจะกดตัดสาย ดวงตาเรียวหรี่ลงในขณะที่ใบหูยังคงเอียงฟังเสียงที่ดังมาจากซอยข้างหน้า เสียงโหวกเหวกเหมือนพวกอันธพาลชกต่อยกัน  เป็นเรื่องธรรมดาที่ละแวกนี้จะมีเรื่องชกต่อยหรือทำร้ายร่างกายอยู่บ่อยๆ จนเธอต้องกลายเป็นฮีโร่ออกโลงเป็นประจำ

     

              พวกอันธพาลอีกแล้วหรอ ไม่นานก็พึ่งเข้าตารางไปกลุ่มเธอส่ายหัวด้วยความเบื่อหน่าย

     

                แต่เท้าก็เดินฉับๆ ด้วยความว่องไวทว่าเบาจนไร้เสียง หญิงสาวขมวดคิ้วเอียงใบหูฟังเสียงสั่นๆ ของผู้ถูกกระทำ พวกอันธพาลขี้ขโมยสินะ รังแกคนไม่มีทางสู้คิดได้ดังนั้นมือเรียวก็พลันจับกระบอกปืนใต้ชายเสื้อในกระเป๋ากางเกง

     

                พลั่ก !!    เธอเดินย่องเข้าไปก่อนจะเตะเข้าที่ท้ายคอของคนร้ายที่ใกล้สุดดังพลั่ก ทำเอาคนร้ายล้มดังตึ้ง จนกระทั่งคนอื่นๆ เริ่มสังเกตเห็นว่ามีแขกไม่ได้รับเชิญ หญิงสาวรีบกวาดตามองพวกอันธพาลที่มีราวๆ ห้าถึงหกคน เป็นฝูงเลยแฮะ…”เธอบ่นงุมงำ

     

                นี่ สาวน้อย  ไม่ใช่เวลาที่เราจะมาเล่นสนุกกับเธอนะ เจอคนรนหาที่อีกคนแล้วสินะชายชุดดำกระตุกยิ้มขำๆ

     

                หญิงสาวเลิกคิ้วก่อนจะตอกกลับอย่างกล้าหาญ ดูเหมือนว่า เวลาสนุกของพวกนายก็กำลังจะหมดเหมือนกัน

     

              ปั้ง!  เสียงปืนดังลั่น นกกาที่เกาะเสาร์ไฟฟ้าบินกระจัดกระจาย

     

                คนร้ายมองปืนในมือเธอด้วยความเฉยเมิน ว้าว ….แบบนี้ก็น่าสนุกชายชุดดำละจากชายหนุ่มร่างบางที่มองเหตุการณ์ตรงหน้าด้วยความระแวง ทว่า กลับแฝงไปด้วยความไม่พอใจบางอย่าง

     

                กระบอกปืนสั้นสีเงินแววถูกดึงออกมาจากมือหนาของชายชุดดำก่อนที่ทุกคนจะชี้ปลายกระบอกปืนไปที่เธออย่าพร้อมเพียง เสียใจด้วยนะ ดูเหมือนเธอจะจนมุมแล้ววางปืนลง!”

     

              เธอไม่สบอารมณ์มากนัก เป็นแค่อันธพาลทำไมมีอาวุธร้ายติดตัวกันทุกคน มือเรียวค่อยๆ หย่อนอาวุธในมือลง ขณะที่สายตายังคงกะระยะโฟกัสก่อนจะยกยิ้มจนคนร้ายอึ้งไปซักพัก แต่พวกมันพลาดท่าเสียแล้ว เธอปาบางอย่างลงพื้นจนเกิดประกายหมอกสีขาวขุ่นฟุ้งไปทั่ว

     

                หญิงสาวฟังเสียงการเดินอย่างแม่นยำก่อนจะลุกขึ้นตวัดขาเข้าไปในกลุ่มหมอก เหลือเชื่อที่เธอเตะโดนคนร้ายทุกคนทั้งที่เต็มไปด้วนควันสีขุ่น หนำซ้ำยังคว้าปืนเลย์เซอร์ส่องหาวัตถุมีชีวิตก่อนจะยิงเฉียดแขนคนร้ายอย่างง่ายดาย  เธอรุดตรงไปยังชายหนุ่มร่างบางที่นั่งแหมะอยู่กับพื้นโดยมีเสียงร้องครวญครางของคนร้ายเป็นเอฟเฟค

     

                รีบไปกันเถอะ  ก่อนที่แก๊สจะหมด

     

              เธอรีบพยุงตัวอีกคนจนไม่รู้เลยว่าสายตาของชายหนุ่มมองเธอแบบไหน ไม่ใช่ความซึ้งจนเปี่ยมไปด้วยน้ำตา แต่เป็นความรำคาญถึงที่สุด

             

                แกร๊ก   มือเรียวพยุงร่างอีกคนและไม่ลืมที่จะปล่อยแก๊สน้ำตาลงบนพื้น เธอรีบหาช่องทางฝ่าดงคนร้ายออกไปจนสำเร็จ วิ่ง !!” เธอบอกกับชายหนุ่มด้านข้าง ในขณะที่มือยังคงคว้าเขาไว้ให้วิ่งตามเธอ

     

                เหงื่อเม็ดใสพุดเต็มใบหน้าขาวผ่อง ใบหน้าหมดจนหันไปด้านหลังบางด้านหน้าบ้างเพราะคนร้ายยังคงวิ่งตามเธอมาพร้อมกระสุนปืนที่ตรงมายังพวกเธอไม่หยุดหย่อน

     

                ไอพวกนี้ ยังตามมาอีกเธอเอ่ยอย่างหัวเสีย นายไหวใช่ไหม เป็นอะไรมากรึป่าวหญิงสาวามอีกคนด้วยความเป็นห่วง แต่สิ่งที่ได้รับคือแววตาเรียบเชียบจนน่าใจหาย

     

                หนุ่มผิวขาวเหล่มองเธอด้วยหางตาก่อนจะพรำพรึมเสียงเบาแต่แน่นอนว่าเธอได้ยินเต็มสองรูหู เสร่อไม่เข้าเรื่อง…”

     

              นายว่าอะไร

     

              ฟรึ่บ  กลายเป็นผู้ชายร่างบางที่คว้าข้อมือหญิงสาวไว้ เขามองเธอด้วยแววตาที่เปลี่ยนไปราวกับเป็นคนละคน มันแฝงไปด้วยความน่ากลัวและร้ายกาจอย่างบอกไม่ถูก เธอทำได้เพียงอึ้งทึ่ง ทั้งร่างถูกดึงตามแรงมาศาลของเขา ชายหนุ่มพาเธอลัดเลาะเลี้ยวไปมาตามซอกตึกและซอยทางเดิน

     

                ใช้เวลาไม่นานเสียงปืนค่อยๆ จางหายไป เหลือเพียงเสียงเท้ากระทบพื้นของพวกเขาทั้งสอง นี่มันเรื่องอะไรกันหญิงสาวพูดอะไรไม่ออก มองมือขาวบางของชายหนุ่มแปลกประหลาดแล้วรู้สึกหวั่นกลัว

     

                พลั่ก !

     

                ดวงตาเรียวเบิกกว้างเท่าไข่หานทันทีที่ถูกอีกคนดันติดพนังตึกในที่ปลอดคน .. นายเธอกลืนน้ำลายดังอึ้ก ยังจำสายตาสั่นระริกที่เห็นครั้งแรกได้ ตอนแรกเป็นดั่งลูกแมวน้อย ตอนนี้เขาไม่ต่างจากเสือ

     

                ชายหนุ่มหรี่ตา ริมสีปากสีสดเผยอออก เขาดูร้ายกาจด้วยสายตาและท่าทางนั่น นี่ เธอเป็นตำรวจหรือสังกัดหน่อยไหนห้ะ…” 

     

                หมับ!

     

              แน่นอนว่าไม่ทันสายตาเฉียบคมของเขา ในตอนแรกหญิงสาวกะรอเวลาให้คนตรงหน้าเพลอแล้วค่อยใช้เข็มยาสลบ ทว่าถูกมือเรียวอีกคนคว้าข้อมือเธอไว้ ไม่พอยังดันข้อมือเธอติดพนังเหนือศรีษะ

     

                ชายหนุ่มใช้มืออีกข้างล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกงของหญิงสาวดึงเอาเข็มยาสลบออกมาก่อนจะกระตุกยิ้ม ยาสลบ

     

              “!!!”

     

              ตำรวจหญิงนอกเครื่องแบบ….

     

              นายกับกลุ่มเมื่อกี้ .. มันคืออะไรกันแน่ อ๊ะ !” ชายหนุ่มบีบข้อมือแรงขึ้นจนผิวขาวเป็นรอยแดง

     

                แสงไฟจากเสาไฟข้างถนนส่องกระทบใบหน้าของชายหนุ่มอย่างชัดเจน ดวงหน้าที่ดูน่ารักในฉบับผู้ชายแต่กลับแฝงเสน่ห์บางอย่างไว้ เธอถลึงตาใส่ด้วยความขัดใจ

     

                เรียวลิ้นสีแดงสดเลียรอบริมฝีปาก ดวงตาเรียวสำรวจร่างกายหญิงตรงหน้าก่อนจะขำคิกในลำคอ เธอทำงานฉันพังนะ

     

              ปล่อยฉัน ! นี่คือคำสั่งจากเจ้าหน้าที่ !” เธอยกตำแหน่งมาขู่ฟ่อ ๆ ไม่นึกว่าตัวเองจะจนมุมให้กับคนตรงหน้าง่ายดายขนาดนี้

     

                พลั่ก ! แน่นอนว่าเขาปล่อยเธออย่างง่ายดาย แต่ไม่ใช่การปล่อยแบบธรรมดา เขาสลัดข้อมือเธอไปด้านข้างด้วยแรงมหาศาล จนทั้งล่างเสไถลไปกับพื้น

     

                หวังว่าฉันจะไม่เจอเธออีกนะ คุณฮีโร่เขาแสยะยิ้มมองร่างหญิงสาวด้านล่าง

     

                ทำคุณบูชาโทษ !! ถ้าฉันไม่ช่วยนายคงถูกพวกนั้นฆ่าตายไปแล้วเธอคิด

     

                ราวกับอ่านความคิดได้ เขาเอ่ยเสียงเบา แม้จะไม่มีฮีโร่ ฉันก็ไม่ตายง่ายๆ   ดีแค่ไหนที่ฉันปล่อยเธอไป เสร่อไม่เข้าเรื่อง

     

              นาย !!!” เธอแทบจะกรีดร้อง ทว่าพอลืมตามองดีๆ อีกทีที่ตรงนั้นเหลือเพียงอากาศ ร่างของเขาหายไปราวกับหายตัวได้

     

                เธอค่อยๆ ลุกขึ้นก่อนจะสบถเสียงลั่น วันนี้มันวันซวยอะไรของฉันเนี่ย อย่าให้เจออีกจะจับเข้าตารางทันที !!!”

     

     

     

     

     

              ล้มเหลวไม่เป็นท่า …. อีกสองเดือนผมจะไปทำงานที่โซลชายหนุ่มเดินเฉื่อยมือขาวบางล้วงกระเป๋ากางเกง ใบหน้าแสดงออกถึงความไม่สบอารมณ์

     

                ปลายสายผิดหวังเป็นอย่างมาก แต่ก็ยังคงปลอมใจเขา ไม่เป็นไร อย่างน้อยก็รู้ว่าที่ต่อไปเราควรไปที่ไหน  นายย้ายไปที่โฮสต์คลับในโซลเดือนหน้าเลยแล้วกัน

     

              เข้าใจแล้วหลังจากกดตัดสายชายหนุ่มจึงหยิบยาสลบที่พึ่งขโมยมาจากฮีโร่สาวขึ้นมาดู ตัวซวยนี่คือคำสุดท้ายที่เขาจะพูดถึงหญิงสาวคนนั้น

     

     

     

     

     

               

                สามเดือนถัดมา

     

                ซองยู ไม่ๆ  หรือจะเป็น ….ยองซู ?

     

              อึนจี เธอควรไปที่องกรณ์ได้แล้วนะ

     

              อึนจีสะดุ้งเฮือก เธอหลุดจากความคิดเรื่องชื่อผู้ชายไปเสียสนิท อึนจีรีบเก็บอุปกรณ์บนโต๊ะของเพื่อนสาวก่อนจะหันไปเผชิญหน้ากับโบมี เพื่อนร่วมงานคนสนิท เนื่องจากเธอพึ่งย้ายมาโซลไม่นานจึงต้องขออาศัยเพื่อนสาวคนเดียวที่มี

     

                ภารกิจแรกในโซล แถมยังมีระยะทำงานเป็นเดือนๆ น้ำเสียงเต็มไปด้วยความเครียด

     

                โบมียักไหล่เธอมองเพื่อนสาวด้วยความเชื่อเต็มเปี่ยม ไม่มีใครเหมาะกับภารกิจนี้เท่ากับเธอแล้วแหละ  นี่รู้ไหมทำไมเธอต้องปลอมตัวเป็นผู้ชายแทนที่จะให้ผู้ชายจริงไปทำ

     

              อึนจียิ้ม เพราะไม่มีข้อมูลหน้าตาผู้ชายแบบฉันในองค์กร คนร้ายที่เป็นไส้ศึกจะได้ไม่สงสัย ?

     

              ย๊า …. เกือบฉลาดแล้วนะโบมีวางระเบิดไว้ในห้องก่อนจะเดินออกไป และไม่ลืมที่หันกลับมาเตือน ถ้าเธอช้ากว่านี้ องค์กรคงได้ปลดเธอออกจากภารกิจแน่ๆ

     

              “!!” ดูเหมือนอึนจีพึ่งจะรู้ตัวว่าตัวเองเกือบสาย เธอรีบเปลี่ยนชุดเครื่องแบบด้วยความไวแสง

     

                ปลอมตัวหรอ ของถนัดเธอเลย เพราะเธอเคยอยากเรียนการแสดงมาก่อนที่จะเป็นดีเอสไอลับเสียอีก













     

    50 per



    แท็ก #ฟิคยองจี

    STAR
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×