ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : คืนชีพจอมผีดิบ
  รติขับรถยนต์มาจอดยังร้านอาหารอิตาเลียน  เขาลงจากรถโดยไม่ลืมจะนำเทปอัดและกล้องถ่ายภาพไปด้วย  เขาเดินผ่านเข้ามาในร้าน
เวลานี้หกโมงเย็นแล้ว มีผู้คนที่เลิกงานต่างมานั่งรับประทานอาหารมื้อคํ่า บางคนมากับคนรัก  รติเดินผ่านผู้คนเหล่านั้นไปยังมุมที่เงียบไม่ค่อยมีคนวุ่นวาย  เขาเห็นชายหนุ่มอายุห่างกันไม่กี่ปีนั่งรออยู่ก่อน เขาแต่งตัวตามสไตล์ตำรวจนอกเครื่องแบบทั่วไป  คือเสื้อคอกลมของตำรวจและสวมทับด้วยเสื้อหนังสีดำกางเกงตำรวจ  รติเดินเข้ามาหยุดและยิ้มให้อย่างเป็นมิตร  ก่อนจะนั่งลงและถามทันที
    \"นที...นายกำลังสืบคดีการหายตัวไปของหญิงสาวสองคนใช่หรือเปล่า\"
    \"ใช่...นายคงไม่คิดจะสัมภาษณ์กันหรอกนะ\" นทีพูดขึ้นอย่างรู้ทัน จึงดักทางไว้ก่อน
    \"ไม่เชิง แต่อย่างรู้ข้อมูลเล็กน้อย มันจะไม่ทำรูปคดีนายเสียหรอก\"
    \"ไม่ได้วะ\" นทีสอบเสียงหนักแน่น \"แต่ถ้าอีกสัก 10 นาที  จะถามในฐานะเพื่อนคงได้\"
    รติยิ้มเขาเข้าใจทันที ตอนนี้เพื่อนของเขายังไม่พ้นหน้าที่ทางราชการ  เขาจึงสั่งอาหารมารับประทานไปก่อน  ระหว่างนั้นห่างจากกรุงเทพฯออกไปทางทิศใต้หลายร้อยหลายพันกิโล  กลางป่าลึกกำลังจะมีสิ่งน่ากลัวเกิดขึ้น
  ชาญ ชายแก่วัยหกสิบพร้อมด้วย เก่งกับกล้า  สองผู้รับใช้กำลังจัดเตรียมพิธีบางอย่าง  หญิงสาวสองคนที่ตกเป็นข่าวโดนจับตรึงกับต้นไม้
ไม่สามารถพูดอะไรหรือหนีได้เลย  เก่งกับกล้านั้นกำลังขุดลุมหาอะไรสักอย่าง  ไม่นานทั้งสองก็เจอโลงจำปาที่เก่าแก่มาหลายศตวรรษ ทั้งสองยกมันขึ้นมา ชาญยิ้มออกมาอย่างยินดี  เขารีบร่ายอาคาอาคมทำลายมนต์สะกดที่อยู่บนโลงศพทันที 
    \"ในที่สุดก็สำเร็จ\" ชาญชื่นชมในฝีมือตนเอง \"พวกเอ็งเปิดฝาโลงออก\"
  เก่งกับกล้าช่วยกันยกฝาโลงออก  มีโครงกระดูกที่ยังสมบูรณ์นอนสงบในโลง  ชาญเดินมาที่หญิงสาวหนึ่งในสองคน เขาใช้เพียงมือเปล่าตัดคอหญิงสาวจนขาด ก่อนจะนำส่วนศีรษะมาวางกับโครงกระดูก เลือกจากส่วนศีรษะไหลท่วมร่างโครงกระดูก  ไม่นานก็เกิดแสงสว่างไปทั่ว เมฆบนท้องฟ้าปั่นป่วนคล้ายจะมีพายุฝน เสียงฟ้าคำรามไปทั่ว  ร่างที่เป็นแค่โครงกระดูกค่อย ๆกลายเป็นเนื้อหนัง จอมผีดิบที่หลับไหลได้ฟื้นคืนชีพจากขุมนรก  เมื่อที่มีกงเล็บอันน่ากลัวค่อย ๆ ลุกขึ้นอย่างช้า ๆ ชาญกับลูกน้องต่างคุกเข่าลงรีบรายงานตัว
    \"ยินดีกับเจ้านายที่ฟื้นคืนชีพ\"
    ผีดิบที่มีชื่อเรียกว่า อัศนีเวตาล  หัวเราะก้องกับการคืนชีพไปทั่วป่า สัตว์ป่าต่างหลบหนีภัยอยู่ในที่ของตน ไม่ว่าจะเป็นสัตว์ใหญ่หรือสัตว์เล็ก อัศนีเวตาลหันมาทางหญิงสาวอีกคนมันลอยพุ่งเข้าขยํ้าเหยื่อทันทีด้วยความหิว  เมื่อเสร็จจากการกินเลือด มันหันมาถามชาญซึ่งเป็นคนสนิทว่า
    \"ข้าจะแก้แค้นมนุษย์ พวกมันเลิกตามล่าข้าแล้วใช่ไหม\"
    \"ครับ พวกมันเลิกล่าพวกเรามากว่า 1000 ปีแล้ว\"
    \"ดี  ข้าจะเริ่มสร้างความหวาดกลัวมาสู่พวกมนุษย์ด้วยกองทัพผีดิบอันยิ่งใหญ่แห่งข้า...อัศนีเวตาล\" จอมผีดิบประกาศก้องไปทั่วป่าอย่างไม่หวั่นเกรงสิ่งใด
  รติหลังจากได้ข้อมูลพอที่จะเขียนข่าวเขาก็เดินกลับมาที่รถของตน แต่แล้วจู่ ๆ เขาก็ล้มลงและเจ็บหน้าอกอย่างรุนแรง สร้อยคอรูปนกฮูกส่องประกายสีเงิน  รติทรมานมากและเขารู้สึกว่ากำลังจะมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นกับประเทศไทย     
เวลานี้หกโมงเย็นแล้ว มีผู้คนที่เลิกงานต่างมานั่งรับประทานอาหารมื้อคํ่า บางคนมากับคนรัก  รติเดินผ่านผู้คนเหล่านั้นไปยังมุมที่เงียบไม่ค่อยมีคนวุ่นวาย  เขาเห็นชายหนุ่มอายุห่างกันไม่กี่ปีนั่งรออยู่ก่อน เขาแต่งตัวตามสไตล์ตำรวจนอกเครื่องแบบทั่วไป  คือเสื้อคอกลมของตำรวจและสวมทับด้วยเสื้อหนังสีดำกางเกงตำรวจ  รติเดินเข้ามาหยุดและยิ้มให้อย่างเป็นมิตร  ก่อนจะนั่งลงและถามทันที
    \"นที...นายกำลังสืบคดีการหายตัวไปของหญิงสาวสองคนใช่หรือเปล่า\"
    \"ใช่...นายคงไม่คิดจะสัมภาษณ์กันหรอกนะ\" นทีพูดขึ้นอย่างรู้ทัน จึงดักทางไว้ก่อน
    \"ไม่เชิง แต่อย่างรู้ข้อมูลเล็กน้อย มันจะไม่ทำรูปคดีนายเสียหรอก\"
    \"ไม่ได้วะ\" นทีสอบเสียงหนักแน่น \"แต่ถ้าอีกสัก 10 นาที  จะถามในฐานะเพื่อนคงได้\"
    รติยิ้มเขาเข้าใจทันที ตอนนี้เพื่อนของเขายังไม่พ้นหน้าที่ทางราชการ  เขาจึงสั่งอาหารมารับประทานไปก่อน  ระหว่างนั้นห่างจากกรุงเทพฯออกไปทางทิศใต้หลายร้อยหลายพันกิโล  กลางป่าลึกกำลังจะมีสิ่งน่ากลัวเกิดขึ้น
  ชาญ ชายแก่วัยหกสิบพร้อมด้วย เก่งกับกล้า  สองผู้รับใช้กำลังจัดเตรียมพิธีบางอย่าง  หญิงสาวสองคนที่ตกเป็นข่าวโดนจับตรึงกับต้นไม้
ไม่สามารถพูดอะไรหรือหนีได้เลย  เก่งกับกล้านั้นกำลังขุดลุมหาอะไรสักอย่าง  ไม่นานทั้งสองก็เจอโลงจำปาที่เก่าแก่มาหลายศตวรรษ ทั้งสองยกมันขึ้นมา ชาญยิ้มออกมาอย่างยินดี  เขารีบร่ายอาคาอาคมทำลายมนต์สะกดที่อยู่บนโลงศพทันที 
    \"ในที่สุดก็สำเร็จ\" ชาญชื่นชมในฝีมือตนเอง \"พวกเอ็งเปิดฝาโลงออก\"
  เก่งกับกล้าช่วยกันยกฝาโลงออก  มีโครงกระดูกที่ยังสมบูรณ์นอนสงบในโลง  ชาญเดินมาที่หญิงสาวหนึ่งในสองคน เขาใช้เพียงมือเปล่าตัดคอหญิงสาวจนขาด ก่อนจะนำส่วนศีรษะมาวางกับโครงกระดูก เลือกจากส่วนศีรษะไหลท่วมร่างโครงกระดูก  ไม่นานก็เกิดแสงสว่างไปทั่ว เมฆบนท้องฟ้าปั่นป่วนคล้ายจะมีพายุฝน เสียงฟ้าคำรามไปทั่ว  ร่างที่เป็นแค่โครงกระดูกค่อย ๆกลายเป็นเนื้อหนัง จอมผีดิบที่หลับไหลได้ฟื้นคืนชีพจากขุมนรก  เมื่อที่มีกงเล็บอันน่ากลัวค่อย ๆ ลุกขึ้นอย่างช้า ๆ ชาญกับลูกน้องต่างคุกเข่าลงรีบรายงานตัว
    \"ยินดีกับเจ้านายที่ฟื้นคืนชีพ\"
    ผีดิบที่มีชื่อเรียกว่า อัศนีเวตาล  หัวเราะก้องกับการคืนชีพไปทั่วป่า สัตว์ป่าต่างหลบหนีภัยอยู่ในที่ของตน ไม่ว่าจะเป็นสัตว์ใหญ่หรือสัตว์เล็ก อัศนีเวตาลหันมาทางหญิงสาวอีกคนมันลอยพุ่งเข้าขยํ้าเหยื่อทันทีด้วยความหิว  เมื่อเสร็จจากการกินเลือด มันหันมาถามชาญซึ่งเป็นคนสนิทว่า
    \"ข้าจะแก้แค้นมนุษย์ พวกมันเลิกตามล่าข้าแล้วใช่ไหม\"
    \"ครับ พวกมันเลิกล่าพวกเรามากว่า 1000 ปีแล้ว\"
    \"ดี  ข้าจะเริ่มสร้างความหวาดกลัวมาสู่พวกมนุษย์ด้วยกองทัพผีดิบอันยิ่งใหญ่แห่งข้า...อัศนีเวตาล\" จอมผีดิบประกาศก้องไปทั่วป่าอย่างไม่หวั่นเกรงสิ่งใด
  รติหลังจากได้ข้อมูลพอที่จะเขียนข่าวเขาก็เดินกลับมาที่รถของตน แต่แล้วจู่ ๆ เขาก็ล้มลงและเจ็บหน้าอกอย่างรุนแรง สร้อยคอรูปนกฮูกส่องประกายสีเงิน  รติทรมานมากและเขารู้สึกว่ากำลังจะมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นกับประเทศไทย     
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น