ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    { CHANBAEK ft.hunhan } .unconditional love

    ลำดับตอนที่ #2 : one

    • อัปเดตล่าสุด 19 มิ.ย. 57


    one

     

     





     

                “หมะ มึง มึงเมารึเปล่าวะ” แบคฮยอนทำหน้าไม่ถูกอยู่ตรงหน้าผม ผมเห็นมันทำหน้าอึ้ง และมันก็ทำหน้ายิ้มแบบยิ้มเจื่อนๆ “เชี่ยชานยอล พรุ่งนี้มีเรียนมึงก็ยังแดกได้นะ”

                “กูชอบมึง”

                “มึงเมาแล้ว” แบคฮยอนเดินชนไหล่ผมเข้าไปในห้องของผม

                “กูบอกว่ากูชอบมึง แบคฮยอน”

                “งั้นก็ก็ชอบมึงด้วย ชานยอล” มันหันมายิ้มให้ผมและก็เริ่มเขี่ยขวดโซจูที่ผมทำเละเทะให้เข้าที่เข้าทาง “มึงเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของกู เพราะงั้นความลับนี้กูถึงเอามาบอกมึง กูบอกมึงก่อนไอ้เชี่ยฮุนกับไอ้เชี่ยลู่อีกนะ”

                “ความลับเชี่ยอะไร กูไม่ฟัง!” เพล้ง! ขวดโซจูในมือผมถูกโยนลงบนพื้นจนคนที่อยู่ในห้องสะดุ้งโหยง

                “ชานยอล มึงเป็นเชี่ยอะไร”

                “กูบอกว่ากูชอบมึงไง แบคฮยอน”

                “มึงเมา มึงอย่ามาพูดพล่อยๆนะ”

                “มึงอย่ามาหนีความจริง ความจริงที่กูมีความรู้สึกกับมึง”

                “กู

                “กูคิดว่ามึงน่าจะรู้ว่ากูคิดอะไรกับมึง”

                “ชานยอล

                “มึงจะมีอะไรกับเชี่ยไหนก็ช่าง แต่กูชอบมึง กูบอกมึงแค่นี้แหละ” แม้สติผมจะไม่ค่อยมีเต็มร้อย แต่สิ่งที่ผมพูดล้วนแล้วแต่เป็นความจริงทั้งสิ้น แบคฮยอนทำหน้าหนักอกหนักใจ ส่วนผมที่รู้อยู่แล้วว่าสิ่งที่ผมพูดออกไปผลออกมาจะเป็นยังไง ผมก็เลยเดินกลับเข้าไปในห้องนอน
                “เชี่ยชานยอล” แบคฮยอนพยายามจะดึงไหล่ผม

                “กลับไปได้แล้ว เจอกันพรุ่งนี้”

                “มึงอย่าทำอย่างงี้เลยว่ะ” แบคฮยอนทำเสียงหนักอกหนักใจ

                “ทำยังไง”

                “ทำแบบนี้ไง”

                “กูบอกให้มึงเลิกกับเขามั้ย กูบอกให้มึงหันมารักกูมั้ย กูยังไม่ได้พูดสักคำ” อาจจะเป็นเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ ทำให้ผมสามารถพูดอะไรที่อยากพูดได้ง่ายขึ้น

                ผมไม่หวังให้มันหันมารักผมเลยแม้แต่น้อย สิ่งที่ผมหวังคือผมไม่อยากให้มันพูดว่าผมต้องเลิกรักมัน

                เพราะผมทำไม่ได้

                “ชานยอล”

                “ออกจากห้องกูไปซะ ถ้ามึงยังอยู่ กูจะปล้ำมึง”

                ดูมันจะอึ้งไปกับสิ่งที่ผมพูด

                “ออกไป”

                แบคฮยอนเดินออกจากห้องไปในที่สุด ผมมือสั่นทรุดตัวนั่งลงพิงผนังห้อง ได้ยินเสียงแบคฮยอนปิดประตูน้ำตาของผมก็ไหลลงมาหนึ่งหยดพอดี

                ผมเหมือนคนโง่คนหนึ่ง

                ผมรักมัน ทั้งๆที่มันไม่รักผม

                ผมรัก ทั้งๆที่ผมไม่มีความหวังเลยสักนิด

     

              แต่ความรักมันห้ามกันได้ที่ไหนล่ะครับ

             

     

     

     

     

     

     

     

                “ชานยอล มึงโอเคนะ” เซฮุนมองหน้าผมอย่างสำรวจในเช้าวันต่อมาที่พวกเรามีเรียน ผม เซฮุน ลู่หาน และแบคฮยอนเรียนอยู่คณะเดียวกันคือคณะวิศวะในมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นคณะที่ทำให้ผมได้เจอกับบยอนแบคฮยอน

                ป๊าบ! ลู่หานตีหัวเซฮุนอย่างแรง “มันไม่โอเค มึงก็เห็น”

                “เกิดอะไรขึ้นกับมึงวะ เมื่อวานมึงยังดีๆอยู่เลยนะเว้ย” เซฮุนคลำหัวป้อยก่อนถามผมอีกครั้ง

                เพื่อนสองคนนี้ผมไม่แน่ใจว่ามันรู้ถึงความรู้สึกที่ผมมีต่อบยอนแบคฮยอนหรือไม่ ถ้าพวกมันรู้คง

    มีแค่ลู่หานนี่แหละครับ แต่สำหรับไอ้เซฮุน มันซื่อบื้อเกินกว่าที่ผมคาดเดาได้

                ผมไม่ได้ตอบอะไร อาจเป็นเพราะหน้าตาที่แสนโทรมของผมทำให้ไอ้เซฮุนมันเกิดสงสัยขึ้นมา ลู่หานมองผมแล้วถอนหายใจ บอกแล้วครับว่าบางทีมันอาจจะรู้ แค่มันไม่พูดเท่านั้น

                ผิดจากเซฮุนที่เอาแต่สงสัยอะไรไปเรื่อยแต่ก็ไม่รู้สักทีว่าผมคิดยังไงกับแบคฮยอน แต่จะโทษมันก็ไม่ถูกครับ อาจเพราะตัวผมเองที่ เนียน จนเกินไป จนมันไม่สามารถจับได้ว่าผมรักเพื่อนที่เพิ่งเจอกันตอนปีหนึ่ง

                เหตุผลที่ผมชอบแบคฮยอนน่ะเหรอ ไม่รู้ครับ ผมชอบทุกอย่างที่เป็นมัน รอยยิ้ม ความตลก ความโก๊ะของมัน ความช่างพูดช่างคุยของมัน แทบจะทุกๆ อย่าง เพราะฉะนั้นจึงไม่แปลกที่มีคนมาตามเกาะแกะมันทั้งหญิงทั้งชาย และก็คงจะไม่แปลกถ้ามันจะเลือกใครสักคนที่เข้ามาหามัน

                “เห้ย เชี่ยแบคฮยอน” จู่ๆเซฮุนก็พูดขึ้นมา มันถลึงตามองไปที่ด้านหลังของผม นั่นหมายความว่าแบคฮยอนกำลังเดินมา ลู่หานเองก็มอง ผมจึงค่อยๆหันไปมองดูด้วย

                มันเดินมากับผู้หญิง น่าจะเป็นคนที่มันเพิ่งตัดสินใจคบด้วยเมื่อไม่กี่วันก่อน สาวจากคณะศิลปศาสตร์ที่มาจีบมันนานหลายเดือน และก็เพราะมันตัดสินใจคบเธอนี่แหละครับ

                ผมถึงเมาเหมือนหมาเมื่อวานไง

                “เชี่ยยยย” ซื่อบื้อยังไงมันก็ซื่อบื้ออยู่วันยังค่ำสำหรับโอเซฮุน ผมหันกลับมาแล้ว ผมจึงไม่รู้ว่ามีอะไรเกิดขึ้นต่อรึเปล่า ไอ้ลู่ได้แต่มองผมอย่างสงสาร ในขณะที่ผมมองสบตามันเป็นเชิงบอกว่าผมไม่เป็นไร

                ผมต้องทำตัวทำใจให้ชิน

                “แบคฮยอน มึงคบกับดาวสินสาดจริงเหรอวะเนี่ย” เซฮุนอ้าปากหวอ “เมื่อไหร่วะ กูเห็นมึงใจแข็งอย่างกับอะไรนี่มึงใจอ่อนแล้วเรอะ”

                “เซฮุน มึงเงียบๆได้มั้ย” ลู่หานปรามเซฮุน

                “อะไรวะ กูก็แค่สงสัยอ่ะ”

                “พวกมึงไม่ขึ้นไปเรียนกันเหรอวะ” แบคฮยอนพูดขึ้นมา เขายืนอยู่ตรงแถวที่ผมนั่ง แต่ยืนห่างเป็นวา

                “รอมึงเนี่ย” ลู่หานพูด “มาแล้วก็ดีจะได้ไปกันสักที”

                ทั้งสองคนที่นั่งอยู่ตรงข้ามผมลุกขึ้นยืนและเดินนำไป ไอ้ลู่หานที่เตี้ยกว่าเซฮุนพยายามตีหัวมันและก็พูดอะไรไม่รู้เป็นเชิงตำหนิว่าอย่าเซ้าซี้ให้มันมาก น่าสงสารมันครับ มันก็แค่สงสัยมั้งว่าผมเป็นอะไรและแบคฮยอนไปคบกับดาวสินสาดได้ยังไง

                ผมจ้องมองแบคฮยอนที่ตัวเล็กกว่า ดูเหมือนมันจะไม่ค่อยกล้าสบตาผมเท่าไหร่ ผมรอให้มันเดินไปก่อน มันเงอะงะอยู่นานกว่าจะเดินออกไป

                คงอึดอัดมั้ง ที่รู้ว่ามีเพื่อนตัวเองมาชอบ

                ในคาบเรียนปกติผมจะนั่งข้างแบคฮยอน โดยมีลู่หานนั่งข้างแบคฮยอนอีกทีและก็เซฮุนนั่งอยู่ริมขอบอีกฝั่ง แต่มาวันนี้ แบคฮยอนเลือกที่จะไปนั่งข้างเซฮุนโดยให้ลู่หานมานั่งข้างผมแทน

                ผมรู้อยู่แล้วว่ามันต้องเป็นแบบนี้ ถ้าไม่อย่างนั้นผมจะกล้าบอกรักมันออกไปได้ยังไง

                ระหว่างที่รออาจารย์เข้ามาในห้อง ลู่หานก็ค่อยๆถามผม

                “บอกไปแล้วเหรอวะ” มันค่อยๆพูดอย่างระมัดระวังเพื่อกลัวคนที่นั่งข้างมันอีกฝั่งจะได้ยิน

                “อืม”

                “เชี่ยยอลเอ้ย” ลู่หานตบบ่าผมเบาๆ “ยังไงกูก็เชียร์มึงนะ”

                “หึ ขอบใจว่ะ”

                “คนอย่างไอ้แบค แม่งต้องคู่กับคนอย่างมึงเท่านั้น เคมีตรงกันซะขนาดนั้น”

                “เหรอ”

                ไอ้ลู่หานมันเป็นคนแบบนี้อยู่แล้วตั้งแต่ไหนแต่ไร มันเหมือนเป็นแม่ผมน่ะครับ เอาใจใส่คนอื่นทุกรายละเอียดมันถึงรู้โดยไม่ต้องถามไงว่าผมคิดยังไงกับแบคฮยอน

                “ความรู้สึกนี้มันเกิดขึ้นเมื่อไหร่วะ”

                ลู่หานยิงคำถามมาอีก ตอนที่อาจารย์เดินเข้ามาในห้องพอดี

                ผมมองไปข้างหน้า ก่อนที่จะค่อยๆพูดให้มันกับผมได้ยินกันสองคน

                “หลังจากตอนที่มึงบอกกูว่ามึงรู้สึกแปลกๆกับไอ้เชี่ยฮุน ประมาณนั้นมั้ง”

                “

              “สองปีกว่าแล้วสินะ”

     

     

     

     

     

     

     

     

              “เชี่ย กูอึดอัดโว้ย” เซฮุนโวยวายออกมา หลังจากที่พวกเราเรียนเสร็จและกำลังจะเดินไปหาข้าวกลางวันทาน “เป็นห่าอะไรกันครับ มีอะไรก็บอกกูมั่งดิ เชี่ยแบค” มันหันไปหาคนข้างๆ “มึงพูดมาเลย เกิดอะไรขึ้นระหว่างมึงกับชานยอล”

                “เกิดอะไรขึ้นวะ ก็ปกติ”

                “เหรอ ปกติมึงชอบนั่งข้างไอ้ชานมันจะตาย” เซฮุนตั้งข้อสังเกต “มึงบอกนั่งข้างกูทีไรมึงเรียนไม่รู้เรื่องทุกที”

                “กูอยากเปลี่ยนบรรยากาศ”

                “แล้วเมื่อไหร่มึงจะแล้วเรื่องมึงคบกับแอรินให้พวกเราฟังวะ เชี่ยลู่เชี่ยชานอยากรู้จะแย่” มันหันมาขอทัพเสริมที่ด้านหลัง ไอ้ลู่เหลือบมองผมก่อนที่จะหันไปด่าเซฮุน

                “กูพูดเมื่อไหร่ว่าอยากรู้วะ เชี่ยนี่แม่ง มั่วตลอดเลยสาด”

                “กูจะไปรับเขาไปทานข้าวเที่ยง ยังไงก็เจอกันคาบแลปบ่ายนี้นะ” แบคฮยอนรีบพูดก่อนที่จะรีบเร่งรุดเดินนำไปข้างหน้า ตอนนั้นเป็นจังหวะเดียวกันกับที่ฝนลงเม็ดพอดี

                ตึกศิลปะศาสตร์ต้องเดินไปอีกโคตรไกลเลยไม่ใช่หรือไง

                “อ้าวเว้ย ฝนตกนะเว้ยเชี่ยแบค” เซฮุนร้องเตือน แต่คนถูกเตือนไม่สนใจฟัง

                คนอย่างแบคฮยอนมันไม่เคยพกร่มอยู่แล้ว เหมือนกันกับผมนั่นแหละ แต่ตอนนี้ผมกำลังควานหาร่มในกระเป๋าอย่างคนโง่ มึงไม่พกร่มแล้วกระเป๋ามึงจะร่มได้ไงวะชานยอล

                “เชี่ยลู่ ยืมร่มหน่อย” ผมพูดกับแม่บ้านของกลุ่ม ซึ่งมันก็รีบหยิบขึ้นมาให้อย่างทันท่วงที ผมรีบเดินไปหาแบคฮยอนที่เดินนำไปแล้ว ในขณะที่ได้ยินเสียงลู่หานเถียงกันกับเซฮุนที่ด้านหลังว่าให้เซฮุนปล่อยพวกผมไป

                แบคฮยอนเอาแต่เดินโดยไม่สนใจว่าตรงหน้าฝนจะตกหรือไม่ โชคดีที่ขาผมยาวผมเลยก้าวถึงมันได้เร็ว ผมจับไหล่มัน มันหันมาแล้วมันก็ทำหน้าตกใจเหมือนเห็นผี

                “ชานยอล”

                “เอาร่มไป” ผมยื่นร่มให้มัน

                “ไม่” มันปฏิเสธแล้วเดินต่อ

                “เอาร่มไป สัด มึงจะเดินตากฝนไปรับแฟนมึงเหรอ”

                “มึงไม่ต้องทำแบบนี้ได้มั้ยวะ!” แบคฮยอนหันมาร้องใส่ผม “กูไม่เป็นไร ไม่ต้องมายุ่งกับกู”

                “กูบอกให้เอาร่มไป” ผมยัดร่มใส่มือมันพร้อมกับทำหน้าโหด มันเป็นคนหัวดื้อครับผมรู้ดี ถ้ามันคิดที่จะไม่เอา มันก็ไม่เอา มันโยนร่มคืนใส่อกผมและก็รีบเดินหนี ให้ตายสิ จะเดินตากฝนไปจริงๆเหรอวะ!

                “เชี่ยนี่”

                ผมเปิดร่มแล้วก็กางออกให้มัน เมื่อมันเห็นผมทำดังนั้นมันก็ผลักผมออกไปและก็รีบเดิน แต่ผมก็ยังพยายามที่จะกางร่มให้มัน

                “ไอ้ชานยอล!” ดูมันอารมณ์เสียมาก

                “กูจะไปก็ต่อเมื่อมึงเอาร่มไป”

                “มึงเป็นคนตื๊อคนอื่นแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่วะ”

                “กูตื๊อก็แค่มึงนี่แหละ เอาไป”  ผมจับร่มยัดใส่มือมัน แล้วก็เดินหนีมันมา ตากสายฝนที่ตกลงมา

                “ชานยอล” แบคฮยอนตะโกนมาจากด้านหลัง “มึงเอาร่มให้กูแล้วตัวมึงเดินตัวเปล่าเปียกๆเนี่ยนะ!

                ผมได้ยินเต็มสองหู แต่แกล้งทำเป็นไม่ได้ยิน

                “ชานยอล!!!!



     

                มันไม่รู้ตัวหรอกเหรอว่าเวลามันป่วยน่ะมันหายยากแค่ไหน















    _____________________________________________________
    Chiffon_cake talk 
    ปกติฟิคทุกเรื่องเราจะไม่ค่อย Talk เท่าไหร่ แต่เรื่องนี้สายฟ้าแลบมากเหลือเกินคงต้องจัดสักหน่อย
    ปกติชานแบคจะเป็นคู่รองตลอดเลย ในฟิคตอนนี้พวกนางเป็นคู่หลักของเราแล้ว
    อยากจะเอ่ยขอโทษหากฟิคเรืองนี้แทงใจดำเกินไป TT คือเราไม่ได้ตั้งใจนะคะ
    สิ่งที่เรากำลังทำคือเราอยากให้ชานแบคชิปเปอร์ทุกคนมีความเชื่อในตัวเมนทั้งคู่
    ความรักมันมีหลายรูปแบบนะคะ และมันก็สวยงามแตกต่างกันออกไป
    เหมือนชานแบค แม้ว่าชีวิตจริงอาจจะไม่สมหวังเหมือนที่พวกเราพากันคิด
    แต่เรามีความเชื่อนะว่าพวกนางรักกัน และดูแลเทคแคร์กันดีมากๆ
    และนั่นก็เป็นความรักอีกรูปแบบหนึ่งค่ะ
    ตอนตัดสินใจเปิดเรื่อง พูดเลยว่าไม่มีความมั่นใจเลย อาจจะไม่มีคนอ่าน เพราะเรื่องนี้เปิดท่ามกลางพายุ
    แต่เราก็ยังอยากจะแต่งค่ะ ไม่รู้ทำไม TT อาจเป็นเพราะเรากลัวจะไม่มีฟิคชานแบคให้อ่านอีกแล้วก็ได้
    วิตกจริตเกินไปก็ต้องขอโทษด้วยนะคะ เราไม่รู้ว่าฟิคเรื่องนี้จะสนุกจะน่าติดตามมั้ยแต่เราจะพยายามด้วยความตั้งใจ
    และเราจะเขียนเพราะเราเชื่อในตัวของชานยอลและแบคฮยอนค่ะ


    รักนะ จาก Chiffon_cake






    © themy  butter
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×