ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ( GOT7 ) SF | FORGOTTEN『잊다』 - jark

    ลำดับตอนที่ #2 : part II | h e a v e n

    • อัปเดตล่าสุด 25 พ.ค. 57





    Sky | via Tumblr^^Sky | via Tumblr
     




    จำเป็นด้วยหรือว่าเจ้าและข้านั้นเป็นใคร 

    จำเป็นด้วยหรือว่าเรารู้จักกันได้เมื่อไหร่ อย่างไร และทำไม

    เพียงแค่ใจเรารักกันแค่นั้นทุกสิ่งก็มิสำคัญหรอก ... ข้าเชื่อเช่นนั้น 

      

     

     

     

     

     

    เธอเป็นเหตุผลเดียวที่ทำให้ฉันยังมีชีวิตอยู่

    เธอยังเป็นสิ่งเดียวบนโลกนี้ที่ฉันต้องการ

    ขอเพียงมีเธออยู่ข้างกัน ฉันก็ไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว

     

     

     

                แสงตะวันลับฟ้าไปท่ามกลางหมู่เมฆที่จางลงอย่างเชื่องช้า แสงสีแสดแห่งยามเย็นเลือนหายไปถูกแทนที่ด้วยความมืดมิดแห่งยามรตรี อีกไม่นานดวงจันทร์คงปรากฎกายขึ้นเหมือนทุกครา แสงสีนวลของมันโดดเด่นขึ้นในยามค่ำคืนสว่างจ้าจนบดบังแสงอันริบหรี่ของหมู่ดาวบนฟ้าเสียจนมองแทบไม่เห็น หากให้เปรียบเทียบก็คงเหมือนกับองค์ชายเพียงองค์เดียวของสรวงสวรรค์ทั้งมวล มาร์คคือชื่อของเจ้าชายอันเป็นที่รักของทุกคน

     

                บุตรแห่งพระบิดา หนึ่งเดียวที่ถูกเรียกขานด้วยหลายพันพระนาม ผู้ยิ่งใหญ่ที่เหล่ามวลมนุษย์พากันสรรเสริญ พระเจ้าซึ่งเป็นราแห่งแดนศิวิไลซ์ที่มีอำนาจสูงสุดเหนือกฎเกณฑ์ใดๆ จุดกำเนิดแห่งกาลเวลาเองก็เกิดขึ้นมาจากพระองค์

     

               

                และ มาร์คผู้นี้ก็เป็นโอรสเพียงองค์เดียวของพระองค์ เจ้าชายผู้งดงามราวกับวีนัสในตำนานเทพปกรนัม ใบหน้าที่สวยยิ่งกว่าสตรีใดๆบนโลกที่เคยถือกำเนิดขึ้น ดวงตาสุกใสสกาวแวววาวแลบริสุทธิ์ ใบหน้าขาวผุดผ่องไร้ซึ่งจุดตำหนิ จมูกโด่งเป็นสันได้รูป ปากเล็กเป็นกระจับสีชมพูอ่อนไม่ปรากฎรอยยิ้มให้ผู้ใดได้พบเห็นบ่อยครั้งนักแต่ก็เป็นที่เลื่องลือในความน่าหลงใหล โดยรวมแล้วพระโอรสองค์นี้ดูไร้ที่ติและงดงามเกินกว่าจะเชื่อได้ว่าเป็นบุรุษเพศ เรียกได้ว่าตั้งแต่หัวจรดเท้า องค์ชายองค์นี้ไม่มีจุดใดที่ด่างพร้อยเลยแม้แต่น้อย

     

                แน่นอนว่าทั้งเทพบุตรและนางฟ้าทั้งหมดในชั้นสวรรค์นี้ล้วนแล้วแต่หลงใหลในรูปกายขององค์ชายน้อยทั้งสิ้นแม้มีเทวดาเพียงน้อยนิดนักที่เคยเห็นพระองค์ตัวเป็นๆ หลายตนที่อาศัยอยู่ด้านนอกยอมเสียชีวิตอันเป็นนิรันด์ แอบเข้ามาในเขตพระราชฐานแลกกับการได้เห็นองค์ชายเพียงซักครั้งแม้อาจต้องหายไปจากโลกนี้ในพริบตาหากถูกจับได้

     

     

     

     

     

     

                ชายหนุ่มคนนี้ก็เช่นกัน ยอมเสียศักดิ์ศรีของตนที่เคยเป็นถึงเจ้าชายบนโลกครั้งมีชีวิตอยู่ กลายมาเป็นตัวตลกในราชวังแห่งสวรรค์นี้ ด้วยหวังว่าจะได้เห็นใบหน้างดงามอันแสนโด่งดังของพระองค์สักวัน

     

     

     

     

     

                แจ็คสันคือขื่อของชายหนุ่มผู้นั้น มันไม่ใช่ชื่อที่แท้จริงหรอก แต่เป็นนามที่ผู้คนบนฟ้าสวรรค์ต่างพากันเรียกเทวดาหนุ่มเสียจนติดปากจนไม่มีผู้ใดสามารถจดจำชื่อที่แท้จริงของเขาได้เสียแล้ว

     

                ได้ยินว่าเมื่อครั้งมีชีวิตอยู่เทวดาคนนี้เคยเป็นถึงเจ้าชายของอาณาจักรใหญ่แห่งหนึ่ง องค์ชายทรงมีพระพักตร์ที่หล่อเหลาเสียจนหญิงสาวมากมายต่างพากันหลงใหล แต่สุดท้ายก็จบชีวิตลงด้วยน้ำมือของพระอนุชาเพียงพระองค์เดียวที่ไม่อาจทานทนต่อชื่อเสียงและคำร่ำลือเหล่านั้น จนแปรเปลี่ยนความรักความเคารพที่เคยมีต่อพระเชษฐาเป็นเพลิงริษยาที่แรงกล้าจนไม่อาจยับยั้ง องค์ชายองค์เล็กได้วางยาพระเชษฐาจนสิ้นพระชนม์ลงอย่างเงียบงัน แต่นั่นก็เป็นเพียงแค่เรื่องเล่าที่ชาวสวรรค์ได้ยินต่อๆกันมา ไม่มีใครอาจล่วงรู้ได้ว่าเรื่องราวเหล่านั้นเป็นเรื่องจริงหรือไม่

     

     

                เทวดาหนุ่มสามารถสร้างเสียงหัวเราะให้กับเหล่าชาวสวรรค์ในราชสำนักได้แม้ไม่เปิดเผยใบหน้าที่แท้จริง ร่างหนามักซ่อนใบหน้าไว้ภายใต้เครื่องแต่งหน้าที่สีขาว และรอยยิ้มจอมปลอมที่ถูกวาดขึ้นไว้อย่างนั้น ไม่มีใครเคยเห็นโฉมหน้าที่แท้จริงของอดีตเจ้าชายผู้เคยงดงามผู้กลายมาเป็นตัวตลกนั่น แต่เทวดาหนุ่มกลับได้รับความไว้วางใจให้เข้าไปแสดงได้ถึงวังชั้นในนั่น และเช่นเดียวกับที่ไม่มีใครเคยได้เห็นใบหน้าเปลือยเปล่าของเขา แจ็คสันก็ไม่เคยได้เห็นองค์ชายผู้ทำให้เขาต้องถ่อมาทำเรื่องอะไรแบบนี้ถึงในวังเลยสักครั้งเช่นกัน

     

                วันและเวลาผ่านไป จิตใจที่มั่นคงและแน่วแน่ของเทวดาหนุ่มก็เริ่มสั่นคลอน เสียงหัวเราะที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นกำลังใจ เป็นเชื้อเพลิงให้เขาอยู่ที่นี่ต่อไปกลายมาเป็นเครื่องบั่นทอนกัดเซาะดวงใจและศักดิ์ศรีของเขาไปทีละน้อย แต่เทวดาหนุ่มก็ยังไม่ล้มเลิกความตั้งใจ ความหวังเพียงเลือนลางยังพร่ำบอกอยู่เสมอว่าหากเพียงได้เหลือบมองใบหน้าที่งดงามนั้นแม้เพียงหนึ่งก็คงจะคุ้มค่ากับการรอคอยนี้อย่างแน่นอน

     

     

                แต่เทวดาหนุ่มเองก็ไม่มีทางรู้ว่ามีสายตาคู่หนึ่งจับจ้องเขามาจากชั้นสูงสุดของหอคอยอันเป็นที่ประทับขององค์ชายเพียงองค์เดียวแห่งสรวงสวรรค์นี้

     

     

                ทุกๆวันมาร์คจะมองจากหน้าต่างบานเล็กลงมายังสวนแอ๊ปเปิ้ลที่แจ็คสันทำการแสดงอยู่ แววตาในเนตรคู่สวยนั้นเปี่ยมไปด้วยความสุขต่างไปจากความเย็นชาที่เคยมีปรากฎขึ้นมาในตลอดช่วงชีวิตขององค์ชายผู้นี้ เจ้าชายตกหลุมรักในท่วงท่าลีลา มุกตลกมากมายของตลกหนุ่ม แม้จะไม่เคยได้มองใกล้ๆ หรือแม้แต่จะเห็นใบหน้านั้นอย่างชัดเจน แต่หัวใจขององค์ชายน้อยก็เต้นแรงทุกทีที่จะได้รับชมการแสดงของเทวดาหนุ่ม

     

                เสียงหัวเราะขององค์ชายดังลงไปถึงหูของเหล่าข้ารับใช้ทั้งหลายในราชวังหลวง และแน่นอนว่าการกระทำเหล่านั้นของผู้เป็นพระโอรสย่อมไม่พ้นจากสายตาของพระบิดาผู้เป็นราชาแห่งอาณาจักรสวรรค์ ซึ่งองค์ราชาผู้ยิ่งใหญ่ก็ทรงยินดีกับการที่พระบุตรผู้แสนเย็นชามีรอยยิ้มได้เพราะตลกหลวงคนนี้ พระองค์พอพระทัยเป็นอันมากจึงได้พระราชทานตำแหน่งให้กับแจ็คสันที่สูญเสียกำลังใจอยู่ในตอนนั้น

     

                ฝ่ายองค์ชายที่ได้แต่รอคอยดูการแสดงของตลกหลวงก็มิอาจลงจากหอคอยเพื่อดูตัวตลกให้ชัดๆดังใจหวังเพราะคำสั่งของพระราชบิดาที่ไม่อยากให้ใครได้ยลโฉมองค์ชายที่แสนงดงามองค์นี้ วีนัสแห่งโลกสวรรค์จึงได้แต่แอบมองตลกหลวงอยู่ห่างๆ ทุกๆการเคลื่อนไหวของเทวดาหนุ่มไม่เคยคลาดสายตาขององค์ชายไปเลยแม้แต่น้อย

     

     

     

    บางครั้งองค์ชายเองก็อยากจะเห็นใบหน้าของตลกหลวงผู้ที่มอบรอยยิ้มให้กับเขาชัดๆซักครั้ง

     

     

               

     

     

                และวันหนึ่ง หลังจากที่แจ็คสันเสร็จจากการแสดง เทวดาหนุ่มรู้สึกเหมือนกำลังถูกจับจ้อง ราวกับมีใครคนหนึ่งกำลังเฝ้ามองเขาจากที่ไกลๆ ดวงตาคมกวาดมองไปรอบกายก็ไม่พบผู้ใด เขาจึงเงยหน้าขึ้นมองไปด้นาบนก่อนจะหยุดลงที่ยอดหอคอยทางทิศเหนือ สายตาคู่เล็กจากยอดหอคอยด้านหลัง ตลอดเวลาที่ผ่านมาเขารู้สึกได้ถึงสายตาคู่หนึ่งมาตลอด แต่ไม่เคยสังเกตเห็นใครบางคนที่อยู่บนยอดของหอคอยนั้น นี่เป็นครั้งแรกที่แจ็คสันได้มองอาคารสูงใหญ่นั้นอย่างเต็มตาก็ว่าได้ ความสูงใหญ่ของมันมากกว่าสิ่งปลูกสร้างใดๆที่เคยห็น หอคอยนั่นสูงกว่าหอคอยอื่นๆรอบวังหลวง

     

     

     

     

     

                ทำไมกันนะ ทั้งๆที่มันใหญ่ออกขนาดนี้แต่เขาไม่เคยคิดจะสนใจมันมาก่อน

     

                ราวกับว่าหอคอยนี้สามารถหายตัวไปยามที่เขาแสดงอย่างนั้นแหละ

     

     

     

     

                เขากวาดตามองหอคอยนั้นขึ้นลงสองสามรอบแล้วก็หยุดลงที่ร่างบางตรงขอบหน้าต่างบนชั้นสูงสุดนั่น วินาทีที่สายตาทั้งสองสอดประสานกัน เหมือนกับโลกทั้งใบหยุดหมุนในทันที ร่างบางที่แอบมองอีกคนมานานแสนนานสะดุ้งเบาๆก่อนจะส่งยิ้มน้อยๆมาให้ร่างหนาด้านร่าง เทวดาหนุ่มรู้สึกเหมือนกระแสไฟฟ้าได้แล่นผ่านกายเขาไปทั้งตัวเหมือนกับต้องมนต์สะกด

     

     

     

    วินาทีนั้นเอง.. เขาก็รับรู้ได้ทันทีว่าคนบนนั้นคือองค์ชายที่เขาเฝ้ารอ....

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

                องค์ชายเป็นคนยิ้มยาก ใครๆต่างก็บอกเช่นนั้น ใบหน้าที่งดงามไร้ที่ตินั้นมักจะไม่แสดงสีหน้าอารมณ์ใดๆให้ใครเห็นอยู่ทุกยาม ดวงตาสีน้ำตาลเข้มแวววาวนั้นกลับไร้ประกายดูเย็นชาราวกับน้ำในมหาสมุทรฤดูหนาว แม้พระองค์จะงดงามเพียงใดแต่ความเย็นชานั้นเป็นกำแพงสูงที่กั้นองค์ชายไว้จากประชาชนชาวสวรรค์

     

    แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าพระองค์เป็นคนใจร้าย เรื่องนั้นข้าราชบริภารให้วังหลวงทุกคนรู้ดี

     

     

                หากพิจารณาดูดีๆแล้วเจ้าชายน้อยนับได้ว่าเป็นคนที่อ่อนโยน น้ำพระทัยของพระองค์ก็งดงามเหมือนกับใบหน้าสมกับเป็นบุตรเพียงองค์เดียวของราชาแห่งสรวงสวรรค์ หากแต่ราวกับต้องคำสาป ใบหน้าที่สมบูรณ์แบบนั้นกลับไม่เคยปรากฎรอยยิ้มใดๆมาก่อน

     

                จนกระทั่งองค์ชายได้รู้จักกับตลกหลวงคนใหม่ของโลกสวรรค์ แจ็คสันคือนามของเขา ไม่มีใครรู้ว่าองค์ชายไปรู้จักกับเทวดาหนุ่มได้อย่างไร แต่ด้วยเวลาเพียงไม่นาน แจ็คสันก็ได้กลายเป็นสหายคนสำคัญของมาร์คไปแล้ว

     

                เหล่าชาววังหลวงต่างก็ปลาบปลื้มยินดีกับเจ้าชายน้อยที่ยิ้มหัวเราะออกมาได้เหมือนกับคนปกติเสียที รอยยิ้มที่พาให้ผู้ที่พบเห็นต้องตะลึงและหลงใหลนั้นดูงดงามเกินกว่าที่ใครจะเคยคิดคาดไว้ และแน่นอนสำหรับแจ็คสัน มันคือของขวัญที่ดีที่สุดตอบแทนกับการทำงานอย่างหนักและศักดิ์ศรีทุกอย่างที่เขายอมละทิ้งไป

     

                แจ็คสันมักซ่อนใบหน้าเขาไว้ด้วยสีขาวที่ถูกทาฉาบจนเรียบ มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่เคยได้เห็นใบหน้าเปล่าๆของเขา และมาร์คเองก็เป็นหนึ่งในไม่กี่คนนั้น หลายครั้งที่องค์ชายได้ให้ชายหนุ่มเข้ามาแสดงเป็นการพิเศษในห้องส่วนพระองค์ มีเพียงคนทั้งสองเท่านั้นที่อยู่ในห้อง แต่คนทั้งวังหลังได้ยินเสียงหัวเราะสดใสดังกึกก้องไปทั่วหอคอย ไม่ว่าใครก็ตามที่ได้ยินเสียงเหล่านั้นก็อดจะยิ้มตามไม่ได้

     

     

     

     

     

     

                ราวกับว่ากำแพงสูงที่เคยกั้นระหว่างเจ้าชายน้อยกับโลกกว้างใบนี้ได้ถูกทำลายลงแล้ว

     

     

     

     

                ด้วยมือหนาของแจ็คสัน ... คู่นั้นเอง

     

     

     

     

     

     

     

     

                แต่ใครจะรู้... ว่าความสัมพันธ์ของคนทั้งสองพัฒนาไปไกลเกินกว่าที่จะคาดคิด

     

     

                องค์ชายงดงามผู้โดดเดี่ยวทว่าอ่อนโยนนั้นแตกต่างจากคำบอกเล่าที่ใครต่อใครพากันพูดถึง เทวดาหนุ่มได้เห็นเจ้าชายน้อยในมุมมองที่ต่างออกไปก็อดหวั่นไหวให้กับความน่ารัก ความขี้อายไม่ได้

     

                ขณะเดียวกันมาร์คผู้เหมือนกับดอกไม้ที่เพิ่งฟื้นจากฤดูหนาวที่แสนอ้างว้างไม่เคยพบเจอความอบอุ่นใดๆเมื่อได้พบกับเทวดาหนุ่มผู้สร้างรอยยิ้มก็อดที่จะหลงใหลในตัวอีกฝ่ายได้ไม่ยาก

     

     

     

               

     

     

     

                ราวกับเทวดาหนุ่มนั้นเป็นกุญแจที่ไขประตูที่ปิดตายนั้นออกอย่างง่ายดาย

                ราวกับองค์ชายนั้นเป็นสีสันที่ถูกแต่งแต้มลงบนรูปสีขาวดำที่ไร้จุดโดดเด่น

     

                ราวกับทั้งสองเป็นส่วนที่เติมเต็มกัน ส่วนที่ขาดหายไป

     

     

     

     

     

                ความรัก.........เป็นสิ่งที่สวยงาม

     

     

     

                ทว่าสำหรับใครบางคนที่มองมันจากอีกมุมแล้ว

               

     

                มันกลับไม่ได้งดงามอย่างที่มันควรจะเป็น

     

     

     

     

     

                ทุกๆวันเทวดาหนุ่มมาที่ห้องขององค์ชาย ความสัมพันธ์ของทั้งสองได้ก้าวมาสู่ขั้นที่น้อยคนจะสามารถเข้าใจได้

     

     

     

    ตลกหลวงหลงรักดอกฟ้าที่แสนงดงามนี้อย่างบริสุทธิ์ใจ

    แม้จะรู้ดีว่าตนเองไม่คู่ควรกับองค์ชายผู้สูงศักดิ์

     

     

    เช่นเดียวกับเจ้าชายน้อยที่รักเทวดาหนุ่มจนหมดหัวใจ

    แม้ไม่มีเหตุผลใดๆที่จะสามารถนำมาอธิบายได้

     

    ทั้งสองต่างรู้ดี... ว่าโชคชะตาไม่ได้สร้างทั้งสองให้เกิดมาคู่กัน

     

     

     

     

                วันหนึ่งท่านราชาแห่งสวรรค์ทรงมีพระราชประสงค์อยากรู้ถึงเคล็ดลับของตลกหลวงผู้เป็นเบื้อหลังของรอยยิ้มที่ไม่เคยปรากฎมาก่อนของพระโอรส ผู้ทรงอำนาจแห่งสวรรค์จึงได้แอบทอดพระเนตรทั้งสองจากบนบัลลังก์

     

                และก็เหมือนทุกวัน แจ็คสันขึ้นไปหาองค์ชายบนห้องด้วยใบหน้าเปลือยเปล่าปราศจากสีขาวที่ถูกฉาบลงบนใบหน้าคมเหมือนกับที่เคยเป็นมา องค์ราชามองใบหน้าที่หล่อเหลาเหมือนกับในเรื่องเล่าด้วยความหวั่นพระทัย ทั้งแววตาและรอยยิ้มของเทวดาหนุ่มนั่นต่างจากทุกคราที่องค์ราชาเคยเห็น ร่างหนาบนบัลลังก์มองไปยังภาพนั้นและได้แต่หวังให้ความคิดของตนนั้นไม่เป็นจริง

     

                ท่าทางของคนทั้งสองที่หยอกล้อกันในห้องนั้นดูไม่ต่างอะไรจากภาพที่ท่านราชานึกกลัว แน่นอนว่าคนในห้องไม่มีทางรู้เลยว่ามีใครบางคนกำลังแอบดู และไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นหลังจากนี้

     

                รอยยิ้มของมาร์ค แววตาที่อบอุ่นของแจ็คสัน

     

                มือของคนทั้งสองที่สอดประสานกันแน่น

     

                ร่างสวยที่อยู่ในอ้อมกอดของเทวดาหนุ่มดูมีความสุขอย่างที่ผู้เป็นบิดาไม่เคยเห็นมาก่อน

     

     

                เพียงเท่านั้นองค์ราชาก็รู้สึเหมือนพระทัยได้แหลกสลาย แม้จะโกรธเกรี้ยวเพียงใด แต่รอยยิ้มที่สดใสของพระโอรสนั้นก็ทำให้ผู้ที่ได้พบเห็นต้องอ่อนใจ ผู้ยิ่งใหญ่ได้แต่มองภาพนั้น มือหยาบกร้านปล่อยไม้เท้าในมือให้หล่นไปตามแรงโน้มท่วงลงกับพื้น

     

     

     

     

     

     

     

                ผู้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในจักรวาลใดๆก็ยังต้องแพ้ให้กับความสุขขององค์ชาย

                รอยยิ้มที่สดใสที่เขาไม่อาจมอบมันให้กับเจ้าชายน้อยด้วยตนเอง

     

                หากความรักนั้นทำให้เจ้ามีความสุขได้... ผู้เป็นพ่อก็มิอาจจะขัดขวางมันได้

     

     

     

     

                แม้เป็นสิ่งผิด

                แม้เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง

     

     

     

                แต่เพื่อความสุขของมาร์ค.... องค์ราชาก็พอที่จะทำใจรับมันได้

     

     

     

     

     

                ขอเพียงแค่.. ให้รอยยิ้มนี้คงอยู่กับองค์ชายตลอดไป...

     

     

     

               

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    60%

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

                แต่แล้ววันหนึ่ง เรื่องราวที่ไม่คาดคิดก็ได้เกิดขึ้น

     

                เมื่อหญิงสาวคนหนึ่งได้อุบัติขึ้นบนแดนสวรรค์ หญิงสาวหน้าตาน่ารักจิ้มลิ้ม ดูงดงามตั้งแต่หัวจรดเท้า กาย ใจ รวมไปถึงประวัติก็ไร้ที่ติ เจ้าหญิงแห่งนครใหญ่ผู้มีจิตใจงดงามอันโซฮีคือชื่อของเธอ เมื่อครั้งที่มีชีวิตอยู่ หญิงสาวผู้นี้เคยเป็นคู่หมั้นของแจ็คสัน

     

                และจนถึงวันนี้ ในใจของหญิงสาวก็ยังมีเพียงแค่ชายหนุ่มไม่เปลี่ยนแปลง

     

     

     

     

     

     

     

                ฝ่ายแจ็คสันที่ได้ยินข่าวการมาถึงของหญิงสาวอดีตคนรักก็ลำบากใจ ในเมื่อตอนนี้ข้างกายของชายหนุ่มมีมาร์คผู้เป็นถึงบัตรของท่านผู้นั้นอยู่แล้ว แต่โซฮีที่เขาเคยเฝ้ารักเฝ้าดูแลมาตลอดครั้งเมื่อยังมีชีวิตก็มีจิตใจที่บริสุทธิ์เหมือนกับผ้าขาว และเขาเองก็ไม่อยากทำให้ผ้าขาวนั่นต้องแปดเปื้อนเป็นรอยด่างเพราะเขาในวันนี้เช่นกัน

     

                และตอนนั้น เขาก็ตัดสินใจไปพบกับโซฮี

     

                หญิงสาวยังคงงดงามไม่เปลี่ยนแปลง รอยยิ้มที่สดใส ดวงตากลมโตสีดำขลับที่มีแววซุกซน เรือนผมสีเข้มที่นุ่มสลวยเพราะได้รับการดูแลอย่างดี เพียงแค่ได้เห็นเธอเท่านั้น หัวใจของเทวดาหนุ่มก็รู้สึกปวดร้าวขึ้นมาในทันใด

     

     

                เขาไม่อยากทำลายรอยยิ้มที่สวยงามแบบนั้น ไม่อยากที่จะทนมองแววตาที่ปวดร้าวเมื่อเขาบอกเรื่องราวของเขากับมาร์คให้เธอฟัง ในตอนนั้นเองที่ความรู้สึกลำบากใจถาโถมเข้าใส่เทวดาหนุ่มจนต้องลังเลอยู่นาน และหญิงสาวผู้ไม่รู้เรื่องราวอะไรก็ปรนิบัติดูแลอดีตคนรักอย่างดีเหมือนเคย พูดคุยด้วยรอยยิ้ม และจัดเตรียมทุกอย่างให้อย่างเรียบร้อยเหมือนที่เธอเคยได้รับการอบรมมา

     

     

     

                ไม่ได้แต่งงานตอนมีชีวิตอยู่ก็ไม่เป็นไร

                หากได้อยู่บนสวรรค์แบบนี้กับเขาตลอดไปก็พอ...

     

     

                ราวกับอยู่ในความฝัน ภาพความทรงจำและความรู้สึกต่างๆที่ไม่ได้ลบเลือนไปหลังความตายพาให้คนที่ไม่ได้พบเจอกับคนในอดีตที่แสนผูกพันเหมือนกลับย้อนไปยังวันวาน... ก็อดไม่ได้ที่จะยอมรับว่าในวันนั้นเขามีความสุขไม่น้อยเหมือนกันที่ได้ย้อนกลับไปใช้ชีวิตในส่วนที่เขาไม่มีโอกาสได้สัมผัสในช่วงเวลาก่อนที่จะมาที่นี่

     

                หากแต่ชายหนุ่มไม่รู้.. ว่าคนรักคนปัจจุบัน ของเขาเฝ้าเป็นห่วงและตามหาหลังจากที่ตลกหลวงหายไปจากราชวังเป็นเวลาหลายวัน องค์ชายลงมาหาเทวดาหนุ่มถึงในเขตเมือง เขาตามหาทุกที่ มีเบาะแสอันน้อยนิด เจ้าชายผู้สูงศักดิ์เอาแต่ตามหาบ้านของตัวตลกผู้มีนามว่าแจ็คสัน...

     

     

     

     

    และเมื่อได้พบกับคนที่ตามหา ทุกๆอย่างก็กลับไม่ได้เป็นอย่างที่คิดไว้

     

     

     

                เป็นเพราะความกังวลใจในตอนนั้น แจ็คสันจึงมองไม่เห็นดวงตาคู่เดิมที่เคยมองเขาตลอดเวลาที่ผ่านมา ใครบางคนที่ได้ชื่อว่าเป็นคนสำคัญมองเทวดาหนุ่มจากขอบหน้าต่างบานเล็ก มองเข้ามาเห็นคนสองคนที่มีรอยยิ้มให้แก่กัน แววตาที่คนที่เขาเชื่อว่าเป็นคนรักมองหญิงสาวคนนั้นมันไม่ต่างจากเวลาที่มองมายังเขา อีกทั้งคำพูดและความรู้สึกที่คุ้นเคยมันบีบดวงใจของคนที่เฝ้ามองจนแทบจะสลายกลายเป็นผุยผงในฉับพลัน

     

                องค์ชายที่ออกตามหาคนรักมากว่าครึ่งค่อนวันถึงกับทรุดลงกับพื้นเมื่อได้เห็นภาพตรงหน้า เพราะเหมือนกับแก้วใบน้อยที่ซ่อนอยู่ในกำแพงมานานแสนนานไม่เคยได้พบเจอกับความเจ็บปวด เมื่อใครบางคนทำลายกำแพงนั้นออกแล้ว แก้วที่แสนเปราะบางก็ไร้ซึ่งเกราะป้องกัน

     

                น้ำตาใสไหลรินลงมาจากเนตรสวย มาร์คประคองตัวเองให้ลุกขึ้นจากพื้นแล้วหันกลับหลังกลับไปยังหอคอยสูงนั้นอย่างเงียบเชียบ..

     

     

                แต่แน่นอนว่าเรื่องนี้ไม่สามารถพ้นหูของราชาแห่งโลกสวรรค์ได้ ภาพของพระโอรสที่มีน้ำตานั้นบันดาลให้ท่านผู้ยิ่งใหญ่พิโรธอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ท้องฟ้าแปรเปลี่ยนเป็นสีดำด้วยความโกรธแค้น

     

     

     

     

                ถึงมาร์คจะไม่เคยยิ้ม แต่มาร์คก็ไม่เคยร้องไห้

                แม้ในแววตาคู่นั้นจะดูนิ่งเฉยและเย็นชา แต่มันก็ไม่เคยสะท้อนแววตาที่บอบช้ำ

     

     

     

                หยาดน้ำตาของพระโอรสทำให้โทสะของราชาแห่งมวลเทพมาถึงขีดสุด โดยไม่ได้คิดไตร่ตรองอะไรให้มากความ ไม่มีคำพูดหรือคำเตือนใดๆให้กับตลกหลวง ไม่มีการสืบเสาะหาที่มา ราชาแห่งทวยเทพก็ได้ขับไล่แจ็คสันออกจากสรวงสวรรค์

     

     

                ในเมื่อรักชีวิตที่เคยมีอยู่บนโลกนักก็จงกลับๆไป

                จงออกไปจากสวรรค์แห่งนี้

                ไปให้ไกลเสีย..

     

     

     

                ด้วยเวทย์วิเศษของเจ้าแห่งโลกสวรรค์ ขอให้เจ้าจงกลับยัง โลกมนุษย์ที่เจ้าได้จากมา..

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

                ทันทีที่ได้ทราบข่าว มาร์คผู้ยังอยู่ในความเศร้าสลดก็โกรธเกรี้ยวขึ้นมาในทันใด แม้ว่าในตอนนั้นพระโอรสจะไม่รู้ว่าหญิงสาวคนนั้นเป็นใคร ไม่รู้ว่าทำไมเทวดาหนุ่มจึงเลือกที่จะมาหาหญิงสาวคนนั้นมากกว่าเขา แต่องค์ชายก็มั่นใจว่าแจ็คสันจะต้องมีเหตุผลดีๆมาบอกกับเขาอย่างแน่นอน

     

                ถึงแม้ว่าจะเสียใจ แต่เขาก็รู้ว่าอีกคนรักเขามากเพียงใด

                แม้ว่าตอนนี้จะมีน้ำตา แต่เขาก็รู้ว่าหากปล่อยไว้อย่างนั้นอีกไม่นานคนคนนั้นจะเป็นผู้เช็ดมันออกไปอย่างแน่นอน

     

     

                เพราะเขารักแจ็คสันด้วยใจจริง

                เขาจึงเลือกที่จะเชื่อใจ

                แม้ตอนนี้จะเจ็บและมีน้ำตา

                แต่เขาก็มั่นใจว่าอีกไม่นานมันจะจางหายไป

     

     

     

     

                องค์ชายขึ้นไปบนสรวงสวรรค์ชั้นสูงสุดอันเป็นที่อยู่ของพระบิดาในทันใด ไม่มีใครสามารถหยุดองค์ชายผู้งดงามได้ ใบหน้าที่บูดบึ้งดูโกรธเกรี้ยวและน่ากลัวเกินกว่าที่ผู้ใดจะกล้าไปขัดใจในตอนนั้น แม้กระทั่งผู้เป็นพระบิดาเองก็ตาม

     

     

                ท่านพ่อ... ให้โอกาสแจ็คสันได้อธิบายก่อนเถิด ข้าว่ามันต้องเป็นการเข้าใจผิดกันอย่างแน่นอนมาร์คเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เรียบนิ่ง ดวงตาคมมองผู้เป็นบิดาด้วยแววตาคาดเข้นคำตอบจากอีกฝ่าย

     

                ผู้ใดกระทำการมิชอบ ข้าซึ่งเป็นผู้ปกครองย่อมต้องลงโทษกับผู้นั้นองค์ราชาเอ่ยขึ้นด้วยด้วยแววตาที่สงบนิ่ง

     

                แต่แจ็คสันมิได้กระทำการใดผิดเสียงหวานเอ่ยประท้วง พระราชามองบุตรของตนแล้วทรงแย้มสรวลออกมาอย่างฝืดๆ

     

     

     

     

     

                เจ้าว่าเช่นนั้นหรือ ดูเหมือนว่าข้าจะตามใจเจ้ามากเกินไปเสียแล้วมาร์ค

     

                ได้โปรดเถิดท่านพ่อ...เสียงหวานเอ่ยอ่อนลงจากเดิมน้อยนิด ดวงตาคมนั้นมีน้ำตาเอ่อล้นขึ้นมาอีกครั้ง ผู้ปกครองฟ้าสวรรค์ได้แต่มองผู้เป็นลูกชายอย่างอ่อนพระทัย ขัดใจอะไรไม่ได้เลยจริงๆ เจ้าลูกคนนี้..

     

     

     

     

     

     

                ก็ได้ หากเจ้าว่าเช่นนั้นรอยยิ้มบางๆปรากฎขึ้นที่มุมปากของมาร์คเมื่อได้ยินคำพูดนั้น ทว่ามันกับเลือนหายไปแทบจะในทันทีเมื่อได้ยินประโยคถัดมาจากพระบิดา

     

     

     

     

     

     

     

     

     

                ข้าจะให้เวลาเจ้าหนึ่งเดือน.. หากเจ้าทำให้มันรักได้. ข้าจะยอมให้มันกลับขึ้นมาเช่นเดิม

     

    แต่หากครบหนึ่งเดือนแล้ว. มันยังคงไม่เปลี่ยนแปลง.. ข้าจะไม่ไว้ชีวิตมันอีกต่อไป.

     

     

     

     

     

                องค์ชายไม่ได้พูดอะไรตอบกลับมา เพียงแค่พยักหน้ารับคำพูดเล็กน้อย แววตานิ่งนั้นดูเยียบเย็นยิ่งกว่าครั้งใดๆที่ผู้เป็นบิดาเคยเห็นมาตลอดระยะเวลานับแสนปีที่อยู่บนที่แห่งนี้ มาร์คยกยิ้มน้อยๆด้วยความมั่นใจ ก่อนจะหันหลังออกเดินทางไปยังที่ไกลแสนไกลที่เขาไม่เคยได้สัมผัส

     

     

                มาร์คเป็นโอรสแห่งสวรรค์ เกิดและโตอยู่บนดินแดนอันศิวิไลซ์แห่งนี้ต่างจากเหล่าเทวดาและนางฟ้าที่ได้ขึ้นมาเยือนบนนี้หลังจากได้สร้างกรรมดีไว้บนโลกมนุษย์ เพราะโตขึ้นมากับพี่เลี้ยงและผู้คนที่มาจากที่แห่งนั้น องค์ชายจึงรู้ว่าโลกใบนั้นไม่ได้งดงามเหมือนกับโลกใบนี้ที่เขาเติบโตขึ้นมา

     

                ตลอดเวลาหลายพันปีที่เขาเกิดขึ้นมา ไม่เคยมีสักครั้งที่ท่านพ่อให้โอรสที่ตนแสนหวงแหนนี้ลงไปคลุกคลีกับมนุษย์ที่แสนต่ำช้า ไม่เคยแม้ซักครั้งให้ฝ่าเท้าที่แสนล้ำค่านี่ได้สัมผัสกับผืนแผ่นดินที่สกปรก ดังนั้นคำสั่งในครั้งนี้ของราชาแห่งสวรรค์โลกก็เปรียบเหมือนคำห้ามปรามไม่ให้พระโอรสไปข้องเกี่ยวกับคนคนนั้นอีก ด้วยหวังว่าองค์ชายจะกลัวเกรงโลกมนุษย์อันแสนต่ำช้าใบนั้น

     

     

     

                แต่ไม่มีทางหรอก ต่อให้หนทางจะยากเย็นเสียแค่ไหน

                ต่อให้ต้องพังทลายโลกทั้งใบลงมา

     

                เพื่อที่จะได้เจอกับคนคนนั้นที่พังกำแพงที่หนาแน่นนั่นลงเขาก็ยินดี

     

     

     

                ขอเพียงแค่ได้พบกันอีกสักครั้ง.....

     

     

     

     


     

     

    AUTHOR'S
    คือไม่รู้ว่ามีคนอ่านอยู่รึเปล่า แต่นี่ลงเพื่อความสบายใจ
    ถถถถถ ขอโทษที่ไม่ได้มาอัพบ่อยๆหนาครัช
    งืมงำ ยังไงก็เม้นบ้างโหวตบ้างให้เค้ารู้ว่ามีคนอ่านหนา
    ไม่เม้นก็สกรีมฟิคฝากติดแท็ก ( #ช็อตฟิคลืม ) นิดนึงนะฮวัฟ ;w ;

     


    SQWEEZ 
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×