ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ฉันกลับมาแล้ว
บทที่ 1 ฉันกลับมาแล้ว
ตอนนี้ซองยอลกำลังนั่งรอคนบางคนที่แม่ของเขาได้ฝากเขาเอาไว้ที่สนามบิน หลังจากที่รู้ว่าแม่ฝากเขาไว้กลับใครเขาก็รีบตัดสินใจจัดเสื้อผ้าใส่กระเป๋าบินมาที่เกาหลีทันที สงสัยกันล่ะสิ๊~ ว่าทำไมซองยอลดูกระตือรือร้นซะขนาดนี้... ให้เวลาคิด10 วิติ๊กต๊อก ติ๊กต๊อก...
เลิกเดากันได้แล้ว ก็เขากับมยองซูเป็นเพื่อนรักกันตั้งแต่สมัยพระเจ้าห้าวยังไม่เกิด (เวอร์และ = =) ชนิดที่ว่าเกิดมาก็ขี่คอเล่นด้วยกันเล่นเลย ความจริงจะเรียกเขาว่าเป็นเพื่อนสนิทกับมยองซูก็ได้อยู่หรอกมั่ง? เพราะเขาน่ะชอบแกล้งมยองซู เคยแกล้งขนาดที่ว่ามยองซูร้องไห้ขี้มูกโป่งไปฟ้องแม่เลยล่ะ คิคิ เขาล่ะอยากจะเห็นหน้าของมยองซูจริงๆ เขาจำได้ว่าเจอกันตอนสุดท้ายก็ตอนเขาอยู่ป.3 จนตอนนี้เขาก็เรียนจบแล้ว ไม่ได้เจอกันก็ร่วมๆ15ปีแน่ะ!!
แล้วโทรศัพท์เครื่องสวยของร่างบางก็สั่นขึ้น
Rrrrr rrr rr
เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา บนหน้าจอโชว์เบอร์แปลกที่ไม่รู้ว่าใคร บางทีอยากจะเป็นมยองซูก็ได้ เขาจึงตัดสินใจรับ
``ฮัลโหล`` ร่างบางกรอกเสียงเรียบใส่
``ซองยอลนี่น้าแม่ของมยองซูเองนะจ้ะ มยองซูติดธุระนิดน้อย เดี๋ยวน้าจะไปรับซองยอลแทนนะจ้ะ``
``อ้อครับ`` รู้สึกเสียดายนิดหน่อย ไม่เป็นไรอย่างไงก็ได้เจออยู่ดี รอเพียงไม่นานแม่ของมยองซูก็มา ซองยอลยืนขึ้นแล้วโค้งก้มหัวทักทาย เธอยิ้มหวานให้ซองยอล
``ไม่ได้เจอกันนาน โตขึ้นน่ารักเชียวนะ``
``คุณน้าก็...`` ซองยอลเอามือเกาหัวแก้เขินไปมา
``ขึ้นรถกันเถอะจ้ะ``
``ครับ`` แล้วแม่ของมยองซูก็พาซองยอลมานั่งในรถแล้วตรงไปที่บ้านของมยองซู ตลอดทางซองยอลกับแม่ของมยองซูก็ชวนกันคุยนู้นคุยนี่ คุยกันถูกปากถูกคอเลยทีเดียว เขาหันไปมองทางข้างๆผ่านกระจกรถ ไม่กลับมาตั้งนานคิดถึงเหมือนกัน แล้วร่างบางก็คลี่ยิ้มจางๆขึ้น เพียงไม่นานรถก็มาจอดที่หน้าบ้านของมยองซู บ้านของมยองซูเป็นหมู่บ้านจัดสรรที่มีระเบียงเล็กๆยื่นออกมาติดกับบ้านหลังอื่น แม่ของมยองซูบอกว่ามยองซูอยู่บ้านคนเดียว เพราะมยองซูเป็นพวกรักสงบ= = (แล้วทำไมไม่ไปบวชเลยล่ะ)
แล้วคุณน้าคนสวยก็เปิดประตูพาซองยอลเข้าบ้าน ซองยอลลากกระเป๋าใบใหญ่ของตัวเองเดินเข้ามา ก่อนที่จะย่นก้นนั่งบนโซฟา แต่สายตาก็ไม่วายสังเกตไปรอบๆบ้าน
``นั่งรอมยองซูที่นี่นะจ้ะ เดี๋ยวซักพักก็คงกลับแล้วล่ะ`` ว่าแล้วหันไปดูนาฬิกาที่แขวนไว้บนผนัง
``ครับ`` ซองยอลตอบพลางพยักหน้าหงึกๆ
``ซองยอลอยากได้อะไรไหม``
``ไม่ล่ะครับ ขอบคุณครับ``
``มีอะไรก็รีบโทรบอกน้านะ`` เธอพูดพร้อมกับทำนิ้วโป้งกับนิ้วก้อยเลียนแบบโทรศัพท์ไว้ข้างๆหู
``ครับ`` ซองยอลส่งยิ้มให้เธออย่างจริงใจ แม่ของมยองซูยังใจดีไม่เปลี่ยน
หลังจากที่แม่ของมยองซูกลับไป ซองยอลก็นอนเหยียดตัวบนโซฟาแขนทั้งสองข้างไขว้หนุนหัว ของีบซักหน่อยก็แล้วกัน
แล้วมยองซูก็กลับมาถึงบ้านแต่เมื่อกลับมาก็แปลกใจ ที่เห็นรองเท้าของใครก็ไม่รู้วางไว้หน้าประตูบ้านเขา อยู่ๆตาข้างขวาของก็เขม่นขึ้นมาซะงั้น แล้วดันมากระตุกข้างขวาเนี่ยนะ ขวาร้าย ซ้ายดี หวังว่าจะไม่เกิดเรื่องร้ายๆกับเขานะ เขาส่ายหัวหน่ายๆไล่ความคิดบ้าๆของตัวเอง บางทีอาจจะไม่มีอะไรก็ได้
แต่ทันทีที่เขาเปิดประตูบ้านเข้ามาก็เห็นชายแปลกหน้ากำลังนอนหลับตาพริ้มบนโซฟาบ้านเขา แถมข้างๆตัวยังมีกระเป๋าเดินทางวางไว้ด้วย เขาเดินเข้าไปใกล้ๆแล้วใช้เท้าเขี่ยคนบนโซฟา
``นี่`` เขาใช้เท้าเขี่ยอยู่สองสามทีแต่เจ้าแปลกหน้าก็ไม่ตื่นหนำซ้ำยังนอนหันหลังใส่อีก
``ไม่ตื่นใช่ไห๊มมม`` เมื่อใช้เท้าเขี่ยแล้วไม่ตื่น
``ด้ายยย`` เขาเหยียดยิ้มขึ้นแล้วใช้เท้าเยียบร่างบางจนตกโซฟา
ปัก!!!
ร่างบางหน้าเหยเกไปด้วยความเจ็บปวด ซองยอลค่อยๆยันตัวขึ้นแต่มือยังคงเท้าที่บั้นท้ายด้วยความเจ็บ
``โอ๊ย ทำบ้าอะไรเนี่ยห้ห้ะ``ซองยอลโวยวายใส่มยองซูพลางมองหน้าร่างหนาอย่างคาดโทษ
``นายเป็นใคร มาทำอะไรบ้านของฉัน แล้วเข้ามาได้อย่างไง ใครอนุญาต`` ซองยอลยืนอึ้งกับการแร็พเป็นไฟของมยองซู เดี๋ยวนะไอ้หมอนี่มันพูดมากตั้งแต่เมื่อไร
``นายจำฉันไม่ได้เหรอ`` ซองยอลชี้นิ้วเข้าหาตัวเอง
``ถ้าจำได้แล้วจะถามทำมะเขืออะไร``
``โอ้ะ เดี๋ยวนี่ มีเถียงกลับด้วย นายนี่พัฒนากว่าที่ฉันคิดนะ`` ซองยอลเอามือลูบคางตัวเองแล้วเดินสำรวจรอบตัวมยองซูอย่างพินิจ
``นายพูดบ้าอะไร``
``นายจำฉันไม่ได้เหรอ`` ซองยอลเดินเข้าไปใกล้ๆมยองซูจนมยองซูต้องค่อยๆเขยิบถอยหลังหนี
``จำฉันไม่ได้จริงๆเหรอ คิมมยองซู`` ซองยอลสาวเท้าเข้ามาใกล้กับมยองซูอย่างเดียวไม่พอแต่ยังยื่นหน้าไปใกล้ๆกับมยองซูอีกด้วย แววตาขี้เล่นซุกซนนั่นมยองซูว่าเหมือนเคยเห็นนะ เขาถอยหลังมาเรื่อยๆจนสัมผัสได้ถึงความเย็นของผนัง เขาหนีไปไหนไม่รอดแล้วคนตรงหน้าน่ากลัวชะมัด ลมหายใจของเขาแทบขาดฮวบตัวแทบจะทรุดแหล่ไม่ทรุดแหล่
``นายจำคนที่เอาจิ้งจกใส่กางเกงนายตอนป.2ได้ป่ะ`` เพียงเท่านั้นมยองซูก็ตกใจหน้าเหวอแทบจะช็อค วิงเวียนศรีษะคล้ายจะเป็นลมเมื่อนึกถึงเหตุการณ์ครั้งนั้น
``ซะ ซองยอล`` อาการพูดติดอ่างที่ไม่เคยเป็นกับเป็น ใช่ คนที่แกล้งมยองซูคือซองยอล ตอนนั้นเขาก็แค่แกล้งมยองซูเล่นๆ ก็แค่เอาจิ้งจกใส่กางเกงของมยองซูก็เท่านั้น แต่ใครจะไปรู้ล่ะว่าคนตรงหน้าจะกลัว ถึงขนาดวิ่งหางจุกตูดร้องไห้ไปฟ้องแม่
``จำได้แล้วสินะ เก่งจัง`` แล้วก็เอามือบีบแก้มคนตรงหน้าที่ตอนนี้ใบหน้าซีดเซียวอย่างหมั่นเขี้ยว แต่คนตรงหน้ากลับปัดออกอย่างไม่ไยดี
``ออกไปจากบ้านฉันเลยนะ!`` มยองซูมองหน้าซองยอลด้วยความโกรธกริ้ว ชี้มือออกไปทางประตูบ้าน ซองยอลถอยหลังออกจากมยองซูเล็กน้อย ก็แค่รู้สึกเสียเซลฟ์นิดหน่อย ก่อนจะปั้นหน้านิ่งไม่รู้ร้อนรู้หนาว
``ไม่`` เมื่อร่างบางยังยืนกรานว่าจะอยู่ ร่างหนาจึงเดินไปหยิบกระเป๋าสัมภาระของร่างบาง
``นั้นนายจะทำอะไร จะเอาไปเก็บให้ฉันเหรอ``
พรึบ!!
``เฮ้ย ทำอะไรเนี่ย`` ร่างบางร้องเสียงหลงที่เห็นมยองซูโยนกระเป๋าของตัวเองออกนอกบ้าน
``ออกไปซะ`` ร่างบางจิปากอย่างไม่พอใจ
``ได้ไง แม่นายเป็นคนบอกให้ฉันอยู่ที่นี่เอง`` ร่างหนาที่ยืนฟังก็เค้นเสียงหังเราะออกมา
``เหอะ โกหกทั้งเพ คำพูดของนายมันเชื่อถือไม่ได้ซักนิด``
``ได้ ถ้านายไม่เชื่อ ฉันจะโทรหาแม่นาย`` แล้วซองยอลก็ล้วงมือหยิบโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกง แล้วกดหาเบอร์ล่าสุดที่โทรเข้ามาพร้อมกับเปิดลำโพงให้อีกคนได้ยิน
(ว่าไงจ้ะซองยอล มยองซูกลับมายัง)
``กลับมาแล้วครับ``
(มีอะไรหรือเปล่า อยู่นั้นดีไหมจ้ะ)
``ก็ดีครับ แต่มยองซู...`` ซองยอลจ้องมยองซูครู่หนึ่ง
(มยองซู?)
``เขาไม่ให้ผมอยู่ด้วยน่ะครับ`` มยองซูมองซองยอลที่คุยโทรศัพท์อย่างไม่สะทกสะท้าน
(น้าขอคุยกับมยองซูหน่อยจ่ะ) แล้วร่างบางก็ส่งโทรศัพท์ให้ร่างหนา
``ครับ`` มยองซูเอ่ยเสียงเรียบ
(แกทำอะไรของแก ทำไมไม่ให้ซองยอลอยู่ด้วยห้ะ)
``ก็นี่มันบ้านผมไม่ใช่บ้านแม่นิ``
(นิ อย่าเป็นคนใจแคบนักได้ไหม ซองยอลเขาเพิ่งจะกลับเกาหลี เขาไม่สะดวกหรอกที่...) แม่ของมยองซูยังไม่ทันจะพูดจบมยองซูก็กดวางสายแล้วโยนโทรศัพท์ใส่มือซองยอล
``ฉันคุยกับแม่เสร็จแล้ว ออกไปด้วยและ``
``แต่แม่นาย...``
``ออกไปซะ!!!``
``ก็ได้!! ถ้านายอยากจะให้ฉันแข็งตายอยู่ข้างนอกก็ได้`` แล้วร่างบางก็เดินกระทืบเท้าปึงปังออกไป เขาค่อยก้มลงเก็บกระเป๋าใบใหญ่เดินออกจากรั้วบ้านแล้วหันไปมอง ชิ คนใจร้าย
``ไอ้บ้าเอ้ย!!!!!!`` ซองยอลตะโกนใส่บ้านของมยองซูพลางเตะประตูรั้วหน้าบ้าน
โฮ่ง โฮ่ง!!!
แล้วโทรศัพท์เครื่องสวยของร่างบางก็สั่นขึ้น
Rrrrr rrr rr
เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา บนหน้าจอโชว์เบอร์แปลกที่ไม่รู้ว่าใคร บางทีอยากจะเป็นมยองซูก็ได้ เขาจึงตัดสินใจรับ
``ฮัลโหล`` ร่างบางกรอกเสียงเรียบใส่
``ซองยอลนี่น้าแม่ของมยองซูเองนะจ้ะ มยองซูติดธุระนิดน้อย เดี๋ยวน้าจะไปรับซองยอลแทนนะจ้ะ``
``อ้อครับ`` รู้สึกเสียดายนิดหน่อย ไม่เป็นไรอย่างไงก็ได้เจออยู่ดี รอเพียงไม่นานแม่ของมยองซูก็มา ซองยอลยืนขึ้นแล้วโค้งก้มหัวทักทาย เธอยิ้มหวานให้ซองยอล
``ไม่ได้เจอกันนาน โตขึ้นน่ารักเชียวนะ``
``คุณน้าก็...`` ซองยอลเอามือเกาหัวแก้เขินไปมา
``ขึ้นรถกันเถอะจ้ะ``
``ครับ`` แล้วแม่ของมยองซูก็พาซองยอลมานั่งในรถแล้วตรงไปที่บ้านของมยองซู ตลอดทางซองยอลกับแม่ของมยองซูก็ชวนกันคุยนู้นคุยนี่ คุยกันถูกปากถูกคอเลยทีเดียว เขาหันไปมองทางข้างๆผ่านกระจกรถ ไม่กลับมาตั้งนานคิดถึงเหมือนกัน แล้วร่างบางก็คลี่ยิ้มจางๆขึ้น เพียงไม่นานรถก็มาจอดที่หน้าบ้านของมยองซู บ้านของมยองซูเป็นหมู่บ้านจัดสรรที่มีระเบียงเล็กๆยื่นออกมาติดกับบ้านหลังอื่น แม่ของมยองซูบอกว่ามยองซูอยู่บ้านคนเดียว เพราะมยองซูเป็นพวกรักสงบ= = (แล้วทำไมไม่ไปบวชเลยล่ะ)
แล้วคุณน้าคนสวยก็เปิดประตูพาซองยอลเข้าบ้าน ซองยอลลากกระเป๋าใบใหญ่ของตัวเองเดินเข้ามา ก่อนที่จะย่นก้นนั่งบนโซฟา แต่สายตาก็ไม่วายสังเกตไปรอบๆบ้าน
``นั่งรอมยองซูที่นี่นะจ้ะ เดี๋ยวซักพักก็คงกลับแล้วล่ะ`` ว่าแล้วหันไปดูนาฬิกาที่แขวนไว้บนผนัง
``ครับ`` ซองยอลตอบพลางพยักหน้าหงึกๆ
``ซองยอลอยากได้อะไรไหม``
``ไม่ล่ะครับ ขอบคุณครับ``
``มีอะไรก็รีบโทรบอกน้านะ`` เธอพูดพร้อมกับทำนิ้วโป้งกับนิ้วก้อยเลียนแบบโทรศัพท์ไว้ข้างๆหู
``ครับ`` ซองยอลส่งยิ้มให้เธออย่างจริงใจ แม่ของมยองซูยังใจดีไม่เปลี่ยน
หลังจากที่แม่ของมยองซูกลับไป ซองยอลก็นอนเหยียดตัวบนโซฟาแขนทั้งสองข้างไขว้หนุนหัว ของีบซักหน่อยก็แล้วกัน
แล้วมยองซูก็กลับมาถึงบ้านแต่เมื่อกลับมาก็แปลกใจ ที่เห็นรองเท้าของใครก็ไม่รู้วางไว้หน้าประตูบ้านเขา อยู่ๆตาข้างขวาของก็เขม่นขึ้นมาซะงั้น แล้วดันมากระตุกข้างขวาเนี่ยนะ ขวาร้าย ซ้ายดี หวังว่าจะไม่เกิดเรื่องร้ายๆกับเขานะ เขาส่ายหัวหน่ายๆไล่ความคิดบ้าๆของตัวเอง บางทีอาจจะไม่มีอะไรก็ได้
แต่ทันทีที่เขาเปิดประตูบ้านเข้ามาก็เห็นชายแปลกหน้ากำลังนอนหลับตาพริ้มบนโซฟาบ้านเขา แถมข้างๆตัวยังมีกระเป๋าเดินทางวางไว้ด้วย เขาเดินเข้าไปใกล้ๆแล้วใช้เท้าเขี่ยคนบนโซฟา
``นี่`` เขาใช้เท้าเขี่ยอยู่สองสามทีแต่เจ้าแปลกหน้าก็ไม่ตื่นหนำซ้ำยังนอนหันหลังใส่อีก
``ไม่ตื่นใช่ไห๊มมม`` เมื่อใช้เท้าเขี่ยแล้วไม่ตื่น
``ด้ายยย`` เขาเหยียดยิ้มขึ้นแล้วใช้เท้าเยียบร่างบางจนตกโซฟา
ปัก!!!
ร่างบางหน้าเหยเกไปด้วยความเจ็บปวด ซองยอลค่อยๆยันตัวขึ้นแต่มือยังคงเท้าที่บั้นท้ายด้วยความเจ็บ
``โอ๊ย ทำบ้าอะไรเนี่ยห้ห้ะ``ซองยอลโวยวายใส่มยองซูพลางมองหน้าร่างหนาอย่างคาดโทษ
``นายเป็นใคร มาทำอะไรบ้านของฉัน แล้วเข้ามาได้อย่างไง ใครอนุญาต`` ซองยอลยืนอึ้งกับการแร็พเป็นไฟของมยองซู เดี๋ยวนะไอ้หมอนี่มันพูดมากตั้งแต่เมื่อไร
``นายจำฉันไม่ได้เหรอ`` ซองยอลชี้นิ้วเข้าหาตัวเอง
``ถ้าจำได้แล้วจะถามทำมะเขืออะไร``
``โอ้ะ เดี๋ยวนี่ มีเถียงกลับด้วย นายนี่พัฒนากว่าที่ฉันคิดนะ`` ซองยอลเอามือลูบคางตัวเองแล้วเดินสำรวจรอบตัวมยองซูอย่างพินิจ
``นายพูดบ้าอะไร``
``นายจำฉันไม่ได้เหรอ`` ซองยอลเดินเข้าไปใกล้ๆมยองซูจนมยองซูต้องค่อยๆเขยิบถอยหลังหนี
``จำฉันไม่ได้จริงๆเหรอ คิมมยองซู`` ซองยอลสาวเท้าเข้ามาใกล้กับมยองซูอย่างเดียวไม่พอแต่ยังยื่นหน้าไปใกล้ๆกับมยองซูอีกด้วย แววตาขี้เล่นซุกซนนั่นมยองซูว่าเหมือนเคยเห็นนะ เขาถอยหลังมาเรื่อยๆจนสัมผัสได้ถึงความเย็นของผนัง เขาหนีไปไหนไม่รอดแล้วคนตรงหน้าน่ากลัวชะมัด ลมหายใจของเขาแทบขาดฮวบตัวแทบจะทรุดแหล่ไม่ทรุดแหล่
``นายจำคนที่เอาจิ้งจกใส่กางเกงนายตอนป.2ได้ป่ะ`` เพียงเท่านั้นมยองซูก็ตกใจหน้าเหวอแทบจะช็อค วิงเวียนศรีษะคล้ายจะเป็นลมเมื่อนึกถึงเหตุการณ์ครั้งนั้น
``ซะ ซองยอล`` อาการพูดติดอ่างที่ไม่เคยเป็นกับเป็น ใช่ คนที่แกล้งมยองซูคือซองยอล ตอนนั้นเขาก็แค่แกล้งมยองซูเล่นๆ ก็แค่เอาจิ้งจกใส่กางเกงของมยองซูก็เท่านั้น แต่ใครจะไปรู้ล่ะว่าคนตรงหน้าจะกลัว ถึงขนาดวิ่งหางจุกตูดร้องไห้ไปฟ้องแม่
``จำได้แล้วสินะ เก่งจัง`` แล้วก็เอามือบีบแก้มคนตรงหน้าที่ตอนนี้ใบหน้าซีดเซียวอย่างหมั่นเขี้ยว แต่คนตรงหน้ากลับปัดออกอย่างไม่ไยดี
``ออกไปจากบ้านฉันเลยนะ!`` มยองซูมองหน้าซองยอลด้วยความโกรธกริ้ว ชี้มือออกไปทางประตูบ้าน ซองยอลถอยหลังออกจากมยองซูเล็กน้อย ก็แค่รู้สึกเสียเซลฟ์นิดหน่อย ก่อนจะปั้นหน้านิ่งไม่รู้ร้อนรู้หนาว
``ไม่`` เมื่อร่างบางยังยืนกรานว่าจะอยู่ ร่างหนาจึงเดินไปหยิบกระเป๋าสัมภาระของร่างบาง
``นั้นนายจะทำอะไร จะเอาไปเก็บให้ฉันเหรอ``
พรึบ!!
``เฮ้ย ทำอะไรเนี่ย`` ร่างบางร้องเสียงหลงที่เห็นมยองซูโยนกระเป๋าของตัวเองออกนอกบ้าน
``ออกไปซะ`` ร่างบางจิปากอย่างไม่พอใจ
``ได้ไง แม่นายเป็นคนบอกให้ฉันอยู่ที่นี่เอง`` ร่างหนาที่ยืนฟังก็เค้นเสียงหังเราะออกมา
``เหอะ โกหกทั้งเพ คำพูดของนายมันเชื่อถือไม่ได้ซักนิด``
``ได้ ถ้านายไม่เชื่อ ฉันจะโทรหาแม่นาย`` แล้วซองยอลก็ล้วงมือหยิบโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกง แล้วกดหาเบอร์ล่าสุดที่โทรเข้ามาพร้อมกับเปิดลำโพงให้อีกคนได้ยิน
(ว่าไงจ้ะซองยอล มยองซูกลับมายัง)
``กลับมาแล้วครับ``
(มีอะไรหรือเปล่า อยู่นั้นดีไหมจ้ะ)
``ก็ดีครับ แต่มยองซู...`` ซองยอลจ้องมยองซูครู่หนึ่ง
(มยองซู?)
``เขาไม่ให้ผมอยู่ด้วยน่ะครับ`` มยองซูมองซองยอลที่คุยโทรศัพท์อย่างไม่สะทกสะท้าน
(น้าขอคุยกับมยองซูหน่อยจ่ะ) แล้วร่างบางก็ส่งโทรศัพท์ให้ร่างหนา
``ครับ`` มยองซูเอ่ยเสียงเรียบ
(แกทำอะไรของแก ทำไมไม่ให้ซองยอลอยู่ด้วยห้ะ)
``ก็นี่มันบ้านผมไม่ใช่บ้านแม่นิ``
(นิ อย่าเป็นคนใจแคบนักได้ไหม ซองยอลเขาเพิ่งจะกลับเกาหลี เขาไม่สะดวกหรอกที่...) แม่ของมยองซูยังไม่ทันจะพูดจบมยองซูก็กดวางสายแล้วโยนโทรศัพท์ใส่มือซองยอล
``ฉันคุยกับแม่เสร็จแล้ว ออกไปด้วยและ``
``แต่แม่นาย...``
``ออกไปซะ!!!``
``ก็ได้!! ถ้านายอยากจะให้ฉันแข็งตายอยู่ข้างนอกก็ได้`` แล้วร่างบางก็เดินกระทืบเท้าปึงปังออกไป เขาค่อยก้มลงเก็บกระเป๋าใบใหญ่เดินออกจากรั้วบ้านแล้วหันไปมอง ชิ คนใจร้าย
``ไอ้บ้าเอ้ย!!!!!!`` ซองยอลตะโกนใส่บ้านของมยองซูพลางเตะประตูรั้วหน้าบ้าน
โฮ่ง โฮ่ง!!!
จนหมาบ้านข้างๆเห่าใส่ ซองยอลหันไปดู
``ชะอุ้ย แมร่งตัวใหญ่ด้วย`` เขาจึงรีบพาตัวเองออกจากที่แห่งนี้ ขืนอยู่ต่อมีหวังไอ้หมาตัวใหญ่ได้แหกโซ่มากัดเขาแน่ๆ ว่าแต่เขาจะไหนดีล่ะเนี่ย ไม่ได้มาเหยียบเกาหลีมาเป็นสิบๆปี อะไรหลายๆอย่างก็เปลี่ยนมันใช่แค่ปีสองปีซะหน่อยที่จะไม่เปลี่ยน แต่นี่มันเป็นสิบๆปีเลยนะ แถมอากาศตอนนี้ก็หนาวเข้ากระดูกด้วย เขาเดินทอดน่องมาเรื่อยๆ เเล้วท้องไม่รักดีของเขาก็ส่งเสียงแผดร้องประท้วงหาอาหาร เขาเดินมาเรื่อยๆเพื่อหาซื้ออะไรกิน โอ๊ะตรงนั้นมีร้านอาหารด้วย เขาจึงเข้ามานั่งในร้านอาหารอย่างน้อยในร้านนี้ก็อุ่นกว่าข้างนอกเยอะ แล้วเขาจึงสั่งอาหาร เพียงไม่นานอาหารก็ถูกยกมาเสิร์ฟ นานเท่าไรแล้วที่เขาไม่ได้กินอาหารเกาหลี เขาตักอาหารเขาปาก อร่อยจัง ขณะที่นั่งกินอาหารอย่างสบายอารมณ์ ร่างบางอยู่ๆก็ทำหน้าบึ้งและสาเหตุก็ไม่ใช่ใครที่ไหน ก็มยองซูน่ะสิไม่รู้ทำไมเขาต้องคิดถึงเจ้าบ้านั่นในช่วงกินอาหารด้วยนะ พูดถึงแล้วก็อารมณ์เสีย ไอ้บ้านั่นมันกล้าไล่เราออกจากบ้านอย่างกับหมูกับหมา อย่าให้ฉันได้กลับไปนะ ฉันจะเอาคืนให้สาสมเลยคอยดู พูดแล้วก็ยัดอาหารเข้าปากต่อ
เมื่อกินเสร็จก็เดินลูบท้องออกจากร้าน เมื่อเงยหน้ามองท้องฟ้าดวงอาทิตย์ก็ลาลับขอบฟ้าเสียแล้ว เขาจะไปที่ไหนต่อดี
``นั่งพักแล้วคิดก่อนล่ะกันว่าจะไปไหนต่อ`` ร่างบางพาตัวเองมานั่งพักบนเก้าอี้ แล้วยกกระเป๋าของตัวเองมากอด สายตามองออกไปอย่างเหม่อลอย มีคำถามเกิดขึ้นในหัวของเขา
เขามาที่นี่ทำไม
.
.
.
.
.
.
ตอนนี้ก็ดึกแล้วเขาควรจะนอนได้แล้ว เขาพยายามข่มตาให้หลับแต่ก็นอนไม่หลับ ไม่ว่าเขาจะจัดแจงนอนท่าไหนเขาก็นอนไม่หลับ
ซองยอลเขาเพิ่งจะกลับเกาหลี
ทำไมคำพูดของแม่ยังวนเวียนอยู่ในหัวเขา
``เพิ่งกลับเหรอ ก็เรื่องของนายนั่นสิ ไม่เห็นจะเกี่ยวกับเรา`` พูดเสร็จแล้วค่อยปิดเปลือกตาลง หากแต่ว่ามันกลับไม่ยอมนอนซะงั้น
ซองยอลเขาเพิ่งจะกลับเกาหลี
บ้าน่า เลิกคิดๆ พูดแล้วสะบัดหัวไล่ความคิด บางทีเล่นกีต้าอาจจะลืมคำพูดบ้าๆนั่นก็ได้ ว่าแล้วก็ลุกออกจากเตียงแล้วตรงไปหยิบกีต้าคู่ใจมานั่งเล่นบนเตียง ขาทั้งสองไขว้เข้าหากันเพื่อที่จะได้เล่นได้ถนัด มือซ้ายจับคอร์ดกีต้า มือขวาบรรจงดีดบรรเลงเพลง ขนาดที่เล่นกีต้าสมาธิของเขาไม่ได้จออยู่กับคอร์ดกีต้าเลย
ซองยอลเขาเพิ่งจะกลับเกาหลี
ซองยอลเขาเพิ่งจะกลับเกาหลี
ซองยอลเขาเพิ่งจะกลับเกาหลี
``ให้ตายเถอะ`` เขาสถนมันออกมา ก่อนที่จะว่างกีต้า แล้วลุกขึ้นไปหยิบเสื้อโค้ดมาใส่
บรรยากาศข้างนอกเงียบสงบ เขาเดินมาเรื่อยๆเขาคิดว่าซองยอลคงจะอยู่แถวๆนี้ แต่ยิ่งเดินออกมาเรื่อยๆอากาศก็ยิ่งหนาวจนเขาต้องเอามือทั้งสองข้างมาถูๆกัน ความจริงเขาจะกลับเข้าบ้านแล้วไปนอนก็ได้ แต่ไม่เข้าใจตัวเองว่าทำไมถึงต้องมาตามหาคนอย่างซองยอล เขาน่ะมีความรักในเพื่อนมนุษย์พอ เขาจะไม่ปล่อยให้นายนั่นแข็งตายหรอก จะว่าสงสารก็ไม่ใช่มันออกจะเวธนามากกว่า แม้ว่าตอนนี้ท้องฟ้าจะมืดแล้ว แต่ก็ยังพอมีแสงไฟจากหลอดไฟเล็กๆที่ติดอยู่บนเสาค่อยส่องแสงให้ นี่เขาออกมาให้ตัวเองลำบากชัดๆ
``ถ้าอีกสิบนาทีฉันยังไม่เจอนายนะ ฉันจะกลับแล้วด้วย`` ก็เขาเดินมาไกลพอสมควร เมื่อยก็เมื่อยแถมหนาวก็หนาวหิมะก็ยังตกอีก แต่แล้วสายตาเขาก็เหลือบไปเห็นใครบางคนที่นอนอยู่บนเก้าอี้ เขารีบวิ่งเข้าไปหา ปรากฏว่าเป็นซองยอล ซองยอลตอนนี้กำลังนอนขดบนเก้าอี้ที่มีกระเป๋าหนุนหัว
``ซองยอล`` มยองซูค่อยเสียงร่างบาง แต่ก็ไม่มีปฏิกิริยาตอบกลับมา
``ซองยอล ซองยอล`` มยองซูเขย่าตัวซองยอลแล้วเรียกอีกครั้ง
``มยองซู...`` ร่างบางค่อยๆลืมตาเอ่ยเรียกมยองซูพร้อมกับยิ้ม แต่อยู่ๆซองยอลก็หลับวูบไปต่อหน้าต่อตา จนเขาใจเสีย
``ซองยอล อีซองยอล!!!`` ร่างบางไม่แม้แต่จะลืมตาขึ้นมา ยิ่งใบหน้าที่ซีดเซียวจนหน้าตกใจของซองยอลเขาก็รู้สึกผิดขึ้นมาเสียงั้น
``แล้วจะเอาไงดีเนี่ย ทั้งซองยอลแล้วก็กระเป๋านั่นอีก`` เขายืนเกาหัวไปมา แล้วหันมองดูรอบๆแต่ก็ไม่พบใคร
``เอาก็เอาว่ะ`` เขาค่อยๆพยุงตัวซองยอลขึ้นนั่งแล้วนั่งหันหลังยองๆอยู่ตรงหน้าซองยอลพร้อมกับจับแขนของร่างบางให้เกาะบ่าเขาไว้แล้วค่อยๆลุกขึ้นยืน ก่อนที่จะลากกระเป๋าเดินไปด้วย คนก็หนักพอและ ยังมีกระเป๋าอีก ให้มันได้อย่างนี้สิคิมมยองซู รู้อย่างนี้น่าจะขับรถออกมาตั้งแต่แรก ไม่รู้ว่าจะมาเดินตามหาให้เมื่อยทำไม ขามาก็เดินชิลๆล่ะนะ แต่ขากลับนี่สิ ไหนจะไอ้คนข้างหลังที่นอนหลับตาพริ้มไม่รู้อิโหน่อิเหน่ขี่หลัง ไหนจะต้องลากกระเป๋าใบใหญ่นี่อีก
TBC.....
``ชะอุ้ย แมร่งตัวใหญ่ด้วย`` เขาจึงรีบพาตัวเองออกจากที่แห่งนี้ ขืนอยู่ต่อมีหวังไอ้หมาตัวใหญ่ได้แหกโซ่มากัดเขาแน่ๆ ว่าแต่เขาจะไหนดีล่ะเนี่ย ไม่ได้มาเหยียบเกาหลีมาเป็นสิบๆปี อะไรหลายๆอย่างก็เปลี่ยนมันใช่แค่ปีสองปีซะหน่อยที่จะไม่เปลี่ยน แต่นี่มันเป็นสิบๆปีเลยนะ แถมอากาศตอนนี้ก็หนาวเข้ากระดูกด้วย เขาเดินทอดน่องมาเรื่อยๆ เเล้วท้องไม่รักดีของเขาก็ส่งเสียงแผดร้องประท้วงหาอาหาร เขาเดินมาเรื่อยๆเพื่อหาซื้ออะไรกิน โอ๊ะตรงนั้นมีร้านอาหารด้วย เขาจึงเข้ามานั่งในร้านอาหารอย่างน้อยในร้านนี้ก็อุ่นกว่าข้างนอกเยอะ แล้วเขาจึงสั่งอาหาร เพียงไม่นานอาหารก็ถูกยกมาเสิร์ฟ นานเท่าไรแล้วที่เขาไม่ได้กินอาหารเกาหลี เขาตักอาหารเขาปาก อร่อยจัง ขณะที่นั่งกินอาหารอย่างสบายอารมณ์ ร่างบางอยู่ๆก็ทำหน้าบึ้งและสาเหตุก็ไม่ใช่ใครที่ไหน ก็มยองซูน่ะสิไม่รู้ทำไมเขาต้องคิดถึงเจ้าบ้านั่นในช่วงกินอาหารด้วยนะ พูดถึงแล้วก็อารมณ์เสีย ไอ้บ้านั่นมันกล้าไล่เราออกจากบ้านอย่างกับหมูกับหมา อย่าให้ฉันได้กลับไปนะ ฉันจะเอาคืนให้สาสมเลยคอยดู พูดแล้วก็ยัดอาหารเข้าปากต่อ
เมื่อกินเสร็จก็เดินลูบท้องออกจากร้าน เมื่อเงยหน้ามองท้องฟ้าดวงอาทิตย์ก็ลาลับขอบฟ้าเสียแล้ว เขาจะไปที่ไหนต่อดี
``นั่งพักแล้วคิดก่อนล่ะกันว่าจะไปไหนต่อ`` ร่างบางพาตัวเองมานั่งพักบนเก้าอี้ แล้วยกกระเป๋าของตัวเองมากอด สายตามองออกไปอย่างเหม่อลอย มีคำถามเกิดขึ้นในหัวของเขา
เขามาที่นี่ทำไม
.
.
.
.
.
.
ตอนนี้ก็ดึกแล้วเขาควรจะนอนได้แล้ว เขาพยายามข่มตาให้หลับแต่ก็นอนไม่หลับ ไม่ว่าเขาจะจัดแจงนอนท่าไหนเขาก็นอนไม่หลับ
ซองยอลเขาเพิ่งจะกลับเกาหลี
ทำไมคำพูดของแม่ยังวนเวียนอยู่ในหัวเขา
``เพิ่งกลับเหรอ ก็เรื่องของนายนั่นสิ ไม่เห็นจะเกี่ยวกับเรา`` พูดเสร็จแล้วค่อยปิดเปลือกตาลง หากแต่ว่ามันกลับไม่ยอมนอนซะงั้น
ซองยอลเขาเพิ่งจะกลับเกาหลี
บ้าน่า เลิกคิดๆ พูดแล้วสะบัดหัวไล่ความคิด บางทีเล่นกีต้าอาจจะลืมคำพูดบ้าๆนั่นก็ได้ ว่าแล้วก็ลุกออกจากเตียงแล้วตรงไปหยิบกีต้าคู่ใจมานั่งเล่นบนเตียง ขาทั้งสองไขว้เข้าหากันเพื่อที่จะได้เล่นได้ถนัด มือซ้ายจับคอร์ดกีต้า มือขวาบรรจงดีดบรรเลงเพลง ขนาดที่เล่นกีต้าสมาธิของเขาไม่ได้จออยู่กับคอร์ดกีต้าเลย
ซองยอลเขาเพิ่งจะกลับเกาหลี
ซองยอลเขาเพิ่งจะกลับเกาหลี
ซองยอลเขาเพิ่งจะกลับเกาหลี
``ให้ตายเถอะ`` เขาสถนมันออกมา ก่อนที่จะว่างกีต้า แล้วลุกขึ้นไปหยิบเสื้อโค้ดมาใส่
บรรยากาศข้างนอกเงียบสงบ เขาเดินมาเรื่อยๆเขาคิดว่าซองยอลคงจะอยู่แถวๆนี้ แต่ยิ่งเดินออกมาเรื่อยๆอากาศก็ยิ่งหนาวจนเขาต้องเอามือทั้งสองข้างมาถูๆกัน ความจริงเขาจะกลับเข้าบ้านแล้วไปนอนก็ได้ แต่ไม่เข้าใจตัวเองว่าทำไมถึงต้องมาตามหาคนอย่างซองยอล เขาน่ะมีความรักในเพื่อนมนุษย์พอ เขาจะไม่ปล่อยให้นายนั่นแข็งตายหรอก จะว่าสงสารก็ไม่ใช่มันออกจะเวธนามากกว่า แม้ว่าตอนนี้ท้องฟ้าจะมืดแล้ว แต่ก็ยังพอมีแสงไฟจากหลอดไฟเล็กๆที่ติดอยู่บนเสาค่อยส่องแสงให้ นี่เขาออกมาให้ตัวเองลำบากชัดๆ
``ถ้าอีกสิบนาทีฉันยังไม่เจอนายนะ ฉันจะกลับแล้วด้วย`` ก็เขาเดินมาไกลพอสมควร เมื่อยก็เมื่อยแถมหนาวก็หนาวหิมะก็ยังตกอีก แต่แล้วสายตาเขาก็เหลือบไปเห็นใครบางคนที่นอนอยู่บนเก้าอี้ เขารีบวิ่งเข้าไปหา ปรากฏว่าเป็นซองยอล ซองยอลตอนนี้กำลังนอนขดบนเก้าอี้ที่มีกระเป๋าหนุนหัว
``ซองยอล`` มยองซูค่อยเสียงร่างบาง แต่ก็ไม่มีปฏิกิริยาตอบกลับมา
``ซองยอล ซองยอล`` มยองซูเขย่าตัวซองยอลแล้วเรียกอีกครั้ง
``มยองซู...`` ร่างบางค่อยๆลืมตาเอ่ยเรียกมยองซูพร้อมกับยิ้ม แต่อยู่ๆซองยอลก็หลับวูบไปต่อหน้าต่อตา จนเขาใจเสีย
``ซองยอล อีซองยอล!!!`` ร่างบางไม่แม้แต่จะลืมตาขึ้นมา ยิ่งใบหน้าที่ซีดเซียวจนหน้าตกใจของซองยอลเขาก็รู้สึกผิดขึ้นมาเสียงั้น
``แล้วจะเอาไงดีเนี่ย ทั้งซองยอลแล้วก็กระเป๋านั่นอีก`` เขายืนเกาหัวไปมา แล้วหันมองดูรอบๆแต่ก็ไม่พบใคร
``เอาก็เอาว่ะ`` เขาค่อยๆพยุงตัวซองยอลขึ้นนั่งแล้วนั่งหันหลังยองๆอยู่ตรงหน้าซองยอลพร้อมกับจับแขนของร่างบางให้เกาะบ่าเขาไว้แล้วค่อยๆลุกขึ้นยืน ก่อนที่จะลากกระเป๋าเดินไปด้วย คนก็หนักพอและ ยังมีกระเป๋าอีก ให้มันได้อย่างนี้สิคิมมยองซู รู้อย่างนี้น่าจะขับรถออกมาตั้งแต่แรก ไม่รู้ว่าจะมาเดินตามหาให้เมื่อยทำไม ขามาก็เดินชิลๆล่ะนะ แต่ขากลับนี่สิ ไหนจะไอ้คนข้างหลังที่นอนหลับตาพริ้มไม่รู้อิโหน่อิเหน่ขี่หลัง ไหนจะต้องลากกระเป๋าใบใหญ่นี่อีก
TBC.....
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น