ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ผมต้องมาเป็นเจ้าสาวของแม่มดเหรอเนี่ย !?

    ลำดับตอนที่ #2 : บทที่ 1 แม่มดไอดอล

    • อัปเดตล่าสุด 30 มี.ค. 57


    ไม่ได้กลับมาอยู่โตเกียวซะนานเลยแฮะ ร้อนชะมัด

    ตอนนี้เป็นช่วงปลายเดือนสิงหาคมใกล้จะต้นเดือนกันยายน ที่ญี่ปุ่นยังอยู่ในช่วงหน้าร้อนเพราะงั้นอากาศก็เลยต่างกับที่ผมอยู่ที่อเมริกามาก

    ก่อนอื่นก็ต้องไปที่โรงเรียนนี้สินะ

    ผมหยิบแผนที่ ที่พ่อของผมเป็นคนเขียนออกมาดูเส้นทางก่อน

    “ …. แย่ล่ะสิ สงสัยคงต้องถามหาคนแถวนี้ซะแล้ว

    ไอ้พ่อบ้าดันมาเขียนแผนที่แบบชุ่ยๆให้ ดูก็รู้แล้วว่าเอาปากกามาขีดมั่วๆ แบบนี้ใครจะไปเดินถูก ตอนนี้อยู่แถวนี้ก็ไม่รู้ซะด้วย จะเรียกแท็กซี่ไปนี่ก็เช้า แถมยังเป็นวันหยุดอีก

    ผมเดินไปเรื่อยๆระหว่างทาง แดดในฤดูร้อนที่แสนจะอบอ้าวในช่วงบ่าย เดินทางก็หลงไปเรื่อยๆ มันให้เหนื่อยขึ้นเป็นเท่าตัว

    ผมผ่านย่านร้านค้าแห่งหนึ่ง แล้วบังเอิญเจอผู้หญิงแต่งชุดน่าจะเป็นชุดนักเรียน เห็นแล้วคงเป็นโรงเรียนนี้แน่ๆ ผมก็เลยเดินเข้าไปหา

    เอ่อขอโทษนะครับ

    “ …. คะ

    เธอตอบกลับผมเบาๆ แต่ใบหน้าของเธอนั้นเหมือนคนที่เป็นผู้ใหญ่แล้วเลย

    ขอถามหน่อยครับว่า โรงเรียนฮิคาริเอยะในแผนที่นี้ไปทางไหนเหรอครับ ? “

    พอพูดเสร็จผมก็หยิบจดหมายเน่าๆนั้นออกมา กางให้เธอดู

     ฉันกำลังจะกลับโรงเรียนอยู่พอดีเลยค่ะจะตามมาก็ได้นะคะ

    ขอบคุณมากครับ

    โชคดีจริงๆที่ทักไม่ผิดคน ผู้หญิงคนนี้เป็นนักเรียนโรงเรียนฮิคาริเอยะจริงๆด้วยสินะ

    คุณไม่คุ้นหน้าเลยนะคะ ไม่ทราบว่าจะไปโรงเรียนทำไมเหรอคะ ? “

    เอ่อ ผมย้ายมาจากอเมริกาน่ะครับ พ่อผมส่งให้มาต่อม.ปลายที่ญี่ปุ่นน่ะ

    อย่างนี้นี่เอง… “

    หล่อนตอบกลับมาแค่นั้น แล้วพวกเราก็เดินต่อไป

    พอผ่านลานกว้างใหญ่ๆแล้ว ก็จะเข้าถนนเล็กๆเชื่อมไปกับทางเข้าโรงเรียน เนื่องจากวันนี้เป็นวันหยุดก็เลยไม่เห็นนักเรียนสักคน

    อ๊ะจริงสิ วันนี้วันหยุดไม่ใช่เหรอครับ ทำไมคุณถึงใส่ชุดนักเรียนล่ะ ? “

    ทำกิจกรรมชมรมค่ะ

    สุดยอดไปเลยแฮะ มาทำกิจกรรมชมรมในวันหยุดซะด้วย สงสัยคงเป็นผู้จัดการชมรมกีฬาแน่ๆ

    ชมรมอะไรงั้นเหรอครับ ? “

    ชมรมวิจัยเวทย์มนต์ค่ะ

    เธอตอบด้วยน้ำเสียงธรรมดา

    เวทย์มนต์งั้นเหรอแบบนี้มันก็ไม่ต่างอะไรกับชมรมสำรวจ UFO เลยน่ะสิ ผิดคาดเลยแฮะ

    ถึงแล้วค่ะที่นี่แหละค่ะ

    โรงเรียนนี้ค่อนข้างใหญ่น่าดู เห็นว่ามีแผนกม.ต้นแต่อยู่คนละฝั่งกับม.ปลายด้วย

    ขอบคุณมากครับ

    ผมกล่าวขอบคุณเธอก่อนจะเดินเข้าไป

    พริบตาที่ผมกำลังจะเดินไปนั้นเอง ก็เห็นอะไรบางอย่างลอยออกมาจากหน้าต่างห้อง

    หืม..อะไรหว่า ? “

    พอมองดูดีๆแล้ว ไอ้ของที่ลอยมานั่นลักษณะคล้ายๆมีดสีดำ ไม่สิ ดาบเลยมากกว่า

    เฮ้ย !? “

    ลอยมาไกลขนาดนั้นอย่าเรียกว่าดาบเลยดีกว่า ดาบติดจรวดชัดๆ มันพุ่งตรงมาหาผมลูกเดียวเลย

    อั่ก! “

    ดาบจริงๆด้วยตอนนี้ดาบเล่มนั้นแทงทะลุอกผมไปแล้วแต่ทำไม

    เลือดไม่ไหล ?

    แต่ตอนนี้….สติมันเลือนรางเรียบร้อย….

     

     

    เทนชิ หิวข้าวอะ

    รอไปก่อนเถอะน่า ยังไม่ทันเย็นเลย

    อ๊า ก็คนมันหิวอ่า!! “

    นี่ผมอยู่ที่ไหนล่ะเนี่ย ในห้องเหรอเนี่ย แล้วไหนจะเสียงโหวกเหวกของคนคุยกันอีก ถ้าจำไม่ผิดผมโดนดาบเล่มนั้นแทงทะลุอกนี่หว่า

    ใช่ใช่ ดาบเล่มนี้แหละ ตอนนี้มันยังปักอยู่คาอกผมอยู่เลย

    …..

    จ๊าก!! “

    ดาบมันยักแทงทะลุอยู่เลยโว้ย เจ็บ!!! แต่ร้องไม่ออก

    อ้าว ตื่นแล้วเหรอคะ ? “

    ดึง..ดึงไม่ออก! “

    ใจเย็นๆสิคะ

    ผมพยายามดึงดาบเล่มนั้นออก พลางมองไปที่เจ้าของเสียง ก็เห็นว่าเป็นผู้หญิงคนเดียวกับที่พาผมมาที่โรงเรียนฮิคาริเอยะนี่นา

    คุณน่ะเองแล้วที่นี่ที่ไหนเหรอครับ ? “

    ทำใจให้เย็นก่อน ตั้งสติให้ดี เธออาจจะตอบอะไรผมมาก็ได้

    ห้องชมรมวิจัยเวทย์มนต์ค่ะ

    หะ ? งั้นที่นี่ก็ยังอยู่ในโรงเรียนฮิคาริเอยะสินะ แล้วไป

    ผมมองรอบๆในห้องนี้ ก็เห็นว่ายังมีคนอื่นอยู่นอกจากผมกับเธออีกนี่นา เป็นผู้หญิงสองคน หน้าตาน่ารักกันทั้งคู่เลยแฮะ

     ขอถามหน่อยครับ

    คะ ? “

    ทำยังไงถึงจะดึงดาบนี่ออกได้ครับ มันเจ็บนะ

    ทั้งๆที่ผมถามเรื่องที่แปลกประหลาดออกไป แต่ปฏิกิริยาของเธอกลับดูปกติซะงั้น

    เอมิจัดการทีนะ

    เธอคนนั้นกวักมือเรียกเด็กผู้หญิงในห้องอีกคนมา

    ทำไมฉันต้องมาช่วยไอ้ผู้ชายแปลกหน้านี่ด้วยล่ะ ? “

    ก็นั่นมันดาบของเธอไม่ใช่เหรอ ? “

    เชอะ

    หญิงสาวทั้งสองคนพูดคุยเรื่องที่ผมไม่เข้าใจเลยสักนิด

    ยังไงก็เถอะครับผมเจ็บนะครับ

    บ่นไปได้นะยะ เป็นคนธรรมดาแท้ๆ มันไม่เจ็บหรอกย่ะ ! “

    พูดมาได้ว่าไม่เจ็บ แล้วไหนจะบอกว่าผมเป็นคนธรรมดาอีกปากคอเราะร้ายไม่สมกับหน้าตาเลยแฮะ

    สลาย ! “

    ทันใดนั้นมือของผมที่จับดาบเล่มนั้นไว้อยู่ก็สลายหายไป

    เอ๊ะ หายไปแล้ว ? “

    ดึงออกให้แล้ว ก็ไปรีบๆไปซะทีสิยะ

    ขับไสไล่ส่งกันง่ายๆเลยแฮะ

    อุ้บ! “

    อยู่ๆท้องก็เกิดปั่นป่วนขึ้นมา

    อะไรกันเลือด ? “

    เลือดจริงๆด้วย เลือดไหลออกมาจากปากผม

    อ๊าก !!  “

    แล้วร่างกายก็เกิดร้อนขึ้นมา เจ็บปวดไปทั่วตัวจนผมต้องล้มไปนอนราบกับพื้น

    เอ๋ นี่มันอะไรกันเอมิ เธอสลายไปแล้วจริงๆเหรอ ? “  

    เปล่านะ แค่สลายดาบออกมาเอง เป็นไปได้ยังไง หมอนี่เป็นคนธรรมดาจริงๆเหรอ… “

    ร่างกายมันเจ็บปวดมากขึ้นเรื่อยๆ สติก็เริ่มจะไม่ไหวอีกแล้วผมจะต้องตายหรือเปล่าเนี่ย

    ยูฮิเมะ…. ลองดูสิ “  

    อืม… “

    เด็กผู้หญิงตัวเล็กๆผมสีเงินคนที่สามค่อยๆเดินเข้ามาหาผมแล้วขึ้นคร่อมใส่

    จะทำ..อะ..ไร

    ผมได้แต่ส่งเสียงเบาๆ

    อยู่นิ่งๆนะ… “

    นิ่งไม่ไหวแล้วล่ะ ร่างกายเจ็บออกซะขนาดนี้

    เฮ้ย !?

    จูบเธอคนนั้นเข้ามาจูบผมเฉยเลย

    อึก… “

    แถมยังสอดลิ้นเข้ามาด้วยอีก แต่ว่าความเจ็บปวดก็เริ่มหายไปแล้ว

    ไม่เป็นไรแล้วล่ะ

    แฮ่กแฮ่ก… “

    เธอจูบกับผมนานประมาณ 10 วินาทีได้ล่ะมั้ง พอเสร็จเธอก็ลุกจากตัวผมไป

    เอ๋ หายแล้ว ไม่เจ็บแล้ว ? “

    ร่างกายมันหายเจ็บไปแล้วจริงๆด้วย อย่างกับเวทย์มนต์เลยแน่ะ

    เอ๊ะ เวทย์มนต์งั้นเหรอ ?

    นี่คุณเป็นใครกันแน่คะ ? “

    เอ๋ ใครผมก็เป็นคนปกตินี่ล่ะครับ… “

    อยู่ๆผู้หญิงคนที่พาผมมาก็เดินเข้ามาคุยต่อหน้าผม

    คนคนนี้..มีประจุเวทย์อยู่ในตัว… “

    เอ๋ จริงเหรอ งั้นฉันขอดูหน่อย

    อุ้บ!

    อีกคนแล้วอยู่ๆผู้หญิงคนนี้ก็เจ้ามาจูบผมซะงั้น ผู้หญิงสวยๆสมัยนี้เป็นอะไรกันไปหมดแล้วเนี่ย

    “ …จริงๆด้วย

    แล้วเธอก็เอาริมฝีปากออกจากปากของผม

    นี่มันเรื่องอะไรกันครับ ? “

    ไม่น่าเชื่อเลยประจุเวทย์จริงๆด้วย “  

    ประจุเวทย์ ? “

    พวกเธอพูดเรื่องอะไรกัน ผมงงไปหมด

     “ เมื่อกี้ฉันเห็นคุณเทนชิอุ้มผู้ชายหน้าละอ่อนมาในห้องด้วยวะ

    ฉันก็เห็น ไอ้หมอนั่นเป็นใครกันนะ

    สงสัยคงต้องไปถามแล้วล่ะมั้ง

    อยู่ๆก็ได้ยินเสียงกระซิบของผู้ชายหลายคนคุยกันอยู่ด้านนอกประตู

    แย่แล้ว

    เทนชิ นี่เธอทำอะไรโจ่งครึ้มขนาดนั้นเลยเหรอ ? “

    เปล่านะ ก็อยู่ๆคนๆนี้ก็สลบไปดื้อๆ ฉันก็เลยอุ้มพากลับมาในห้องนี้ไง

    เฮ้อ แล้วยังไงจะทำยังไงล่ะเนี่ย ถ้าเกิดความแตกว่าชมรมเรามีผู้ชายอยู่ด้วยจะยิ่งแย่เข้าไปใหญ่นะ

    ผู้หญิงคนที่ปากร้ายคนนั้นถอนหายใจออกมาคุยกับคนที่น่าจะชื่อเทนชิ

    ขอโทษ ก็มันช่วยไม่ได้นี่นา

    คิดก่อนทำสิยะ

    งั้นคราวนี้ ก็ตาเอมิละกัน ฝากด้วยนะ พลังของเธอใช้ประโยชน์ได้ก็ตอนนี้แหละ

    “ ….! “

    อยู่ๆผู้หญิงปากร้ายก็หน้าแดงขึ้นมาซะอย่างนั้น

    ทำไมฉันต้องทำแบบนั้น…! “

    น่าๆ หรืออยากจะให้คนเขาลือเรื่องพวกเราให้ทั่วล่ะ ? “

    ชะ..เชอะ ก็ได้! “

    เธอสบถอย่างไม่พอใจออกมา แล้วเดินเข้ามาหาผม

    หลับตา

    เอ๋ ? “

    ก็บอกให้หลับตาไงล่ะยะ ! “

    ครับ!! “

    คนแบบนี้ไม่อยากจะยุ่งด้วยเลย อยู่ๆก็มาสั่งให้หลับตาเฉยเลย แล้วนี่จะทำอะไรผมอีกล่ะเนี่ย

    เธอเอารีมฝีปากเข้ามาใกล้ๆผมที่กำลังหลับตาอยู่ ก็แอบเปิดตานิดๆ เห็นอยู่ชัดๆเลยว่าเธอกำลังสั่นอยู่

    อุ้บ! “

    พริบตาเดียวเธอก็พุ่งเอาริมฝีปากมาประชิดทันที ทำเอาผมสะดุ้งไปเลย

    เสร็จแล้วย่ะ ! “

    ทำไมต้องจูบกันด้วยล่ะครับ ? “

    พวกเธอไม่ได้ตอบอะไร แต่คุณเทนชิกลับทำหน้าแดงขึ้นมา

    แฮ่กเธอเนี่ยสุดยอดไปเลย

    คุณเทนชิจ้องมาทางผมด้วยท่าทางเหมือนสัตว์กินเนื้อ แล้วเขาก็ทำมือนวดที่หน้าอกจากนั้นก็ชี้มาที่ผม

    หืม…? “

    นิ่มแฮะใหญ่ด้วย อะไรหว่า ?

    เฮ้ย !!! “

    หน้าอก หน้าอกของจริงเลยนี่หว่า แถมยังใหญ่ด้วย นี่มันอะไรกัน เกิดอะไรขึ้นกับผมไปแล้วเนี่ย  

     “ เอ้า ดูสิจ้ะ

    คุณเทนชิเอากระจกมาให้ผมดู

    จ๊าก !! “

    ผู้หญิง… ? นี่ผมกลายเป็นผู้หญิงไปแล้วงั้นเหรอผมก็ยาวขึ้น หน้าตาก็เปลี่ยนไป จะว่าไปเราก็น่ารักเหมือนกันแฮะ  เดี๋ยวสิ มันไม่ใช่เวลามาพูดแบบนี้สักหน่อย

    เกิดอะไรขึ้นกับผมครับเนี่ย ! “

    เดี๋ยวค่อยเล่าให้ฟังๆ ใส่นี่ก่อนๆ

    แล้วเธอก็โยนเสื้อกับกระโปรงมาให้ผม ดูท่าจะเป็นเครื่องแบบนักเรียนหญิงล่ะมั้ง

    เอ้า ไปเปลี่ยนก่อนเถอะ หน้าอกแบบนั้นคงจะใส่เสื้อผู้ชายไม่ได้หรอกนะ

    ก็จริงแฮะ อยู่ๆหน้าอกก็ใหญ่ขึ้นมาซะดื้อๆ ตรงส่วนนั้นของผมก็เลยถูกดันอย่างกับเสื้อกำลังจะขาด

    อืม… “

    แย่ล่ะสิฟิตเกินไปแถมไม่มีชั้นในให้ใส่ด้วย น่าอายเป็นบ้าเลย

    เสร็จแล้วครับ… “

    ช่างมัน ฟิตก็ฟิตไปเถอะ ยังดีกว่าที่เราต้องมาใส่เสื้อยืดฟิตๆนั่นล่ะนะ

    น่ารักจัง

    คุณเทนชิโผล่หน้ามาจากไหนก็ไม่รู้

    เอ้ามานี่ๆ

    จะพาผมไปไหนครับ ? “

    อยู่ๆเธอก็จับมือผมแล้วเดินไปที่หน้าประตูที่เปิดออกอยู่แล้ว

    เฮ้ย ไอ้พวกที่ยืนคุยอยู่หน้าประตูนั่นน่ะ

    จ๊าก ครับ !? “

    เสียงผู้ชายหลายคนคุยกันที่ได้ยินตอนแรก สงสัยน่าจะเป็นกลุ่มนี้ล่ะมั้ง มีสัก 5 คนได้

    ชมรมเราไม่มีผู้ชายสักหน่อยนะคะ

    เปลี่ยนบุคลิกเป็นสุภาพซะงั้น

    แล้วนั่น… “

    ผู้ชายคนหน้าสุดชี้มาทางผม

    สมาชิกใหม่ของชมรมเราค่ะ รวมไปถึงสมาชิกใหม่ของทีมเราด้วย ! “

    หะ จริงเหรอครับ ข่าวดีเลยนะเนี่ย !? “

    ค่ะ แต่ว่าอย่าเพิ่งเอาข่าวนี้ไปบอกใครนะคะ

    คุณเทนชิทำท่าทางน่ารักๆ อย่างกับพวกดารานักแสดงเลยแฮะ ตีบทแตกจริงๆ

    คะ..ครับ! “

    ถ้าอย่างนั้นก็… “

    เธอค่อยๆยิ้มกว้างออกมา

    ไสหัวไปได้แล้วค่ะ ! “

    ค๊าบ !!! “

    ทั้งๆที่เธอตะโกนไล่แท้ๆ แต่ทำไมไอ้พวก 5 หน่อนั่นถึงได้ทำหน้าตามีความสุขกันจัง

     

    แล้วสรุปว่ามันหมายความว่าไงกันครับ ทำไมถึงต้องจูบ แล้วทำไมผมถึงกลายเป็นผู้หญิง ? “

    งั้นก็ขออธิบายให้ชัดๆเลยนะคะ พวกเราน่ะ… “

    ตอนนี้เรากลับมานั่งอยู่ในห้องชมรมดังเดิม ผมนั่งอยู่ตรงเก้าอี้ อีกฝั่งหนึ่งเป็นโซฟาที่มีคุณเทนชินั่งอยู่ตรงกลาง ขนาบซ้ายขวาด้วยผู้หญิงปากร้าย และผู้หญิงผมเงินคนนั้น

    เป็นแม่มดค่ะ

    แม่มด !? “

    เฮ้ยๆ เอาจริงดิ แม่มดของจริงงั้นเหรอ ?

    มีดาบที่ไหนไม่รู้มาปักคาอกแล้วยังไม่ตาย แล้วอยู่ๆก็หายไป แค่นี้ก็เป็นหลักฐานได้แล้วนี่คะ

    “ …อืม จะไม่เชื่อก็คงไม่ได้ งั้นทำไมผมถึงกลายเป็นผู้หญิงล่ะ ? “

    เพราะพลังเวทย์ของพวกเราแต่ละคนยังไงล่ะ 

    พลังเวทย์ ? “

    ค่ะ งั้นอย่างน้อยก็ขอแนะนำตัวก่อนละกันค่ะ ฉันริวซากิ เทนชิ ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ

    ชื่อคุณเทนชิจริงๆด้วยสินะ

     เอ้า เอมิก็แนะนำตัวสิ

    เอ๋ ฉันด้วยเหรอ ? “

    คนต่อไปเป็นผู้หญิงปากร้ายนี่หรอกเหรอ

    ฉะ..ฉันคุโรฮะ เอมิ แล้วก็เวลาเรียกน่ะไม่ต้องเรียกชื่อสกุล กับเติม คุณ หรอกนะ

    คะครับ

    เอ้า ๆ ต่อไปๆ

    คราวนี้ก็ถึงตาของผู้หญิงผมสีเงิน

    อินุชิโระ ยูฮิเมะยินดีที่ได้รู้จักนะ… “

    เธอพูดแนะนำตัวอายเหมือนเด็กๆ น่ารักจังเลยแฮะ

    เอ้อ ผมมาซากะ คาสึกิ ยินดีที่ได้รู้จักครับ

    ยะ..ยินดีที่ได้รู้จักย่ะ

    เช่นกันจ้ะ คาสึกิคุง

    ขอเรียกว่าคาสึจังนะ

    แต่ละคนนี่นิสัยต่างกันลิบลับสุดๆ

    แล้วทำไมถึงต้องจูบด้วยล่ะครับ ? “

    ก็มันเป็นวิธีที่ร่ายเวทย์ที่ถูกต้องนี่นา

    เอ๋ ร่ายเวทย์ ? “

    ใช่ การร่ายเวทย์ของแม่มดน่ะ มันไม่เหมือนในหนังภาพยนตร์แฟนตาซี ที่ต้องท่องคาถาอะไรแบบนั้นหรอกนะ สำหรับพวกเรา การจูบนี่ล่ะก็คือการร่ายเวทย์

    น่าตกใจจริงๆเลยแฮะ… “

    และอีกข้อหนึ่งก็คือ การร่ายเวทย์น่ะ จะมีผลเฉพาะแม่มดด้วยกันเองเท่านั้น

    เฉพาะแม่มด ? แล้วผมล่ะ… “

    ไม่รู้เหมือนกัน ดาบของเอมิน่ะ หากไปปักคนทั่วไปเข้าแล้ว อย่างมากก็แค่สลบ แล้วพอสลายปุ๊บก็จะหายไป แต่พอไปปักคาสึกิกลับกลายเป็นเจ็บปวด แถมพอยูฮิเมะไปจูบเธอเข้า ร่ายกายกฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว แถมฉันเองก็ตรวจสอบเธอจนเจอประจุเวทย์ด้วย

    ถ้างั้นผมก็… “

    ใช่ เธอก็คือแม่มด ! “

    ห๊า ไม่ตลกเลยนะ แม่มด ผมเนี่ยนะ !!

    ผมเนี่ยนะ แม่มด…. “

    หลักฐานน่ะมันอยู่ติดกับตัวเธอแล้ว

    อย่าบอกนะว่าเพราะผมกลายเป็นผู้หญิงได้งั้นเหรอ ? “

    ใช่

    เธอตอบออกมาด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย แต่นี่มันไม่ตลกเลยนะ

    ง้นก็แสดงว่าพลังของคุณคุโรฮะ ก็คือสลับเพศงั้นเหรอครับ ? “

    ถ้าเป็นงั้นจริง คงเป็นพลังที่ไร้สาระน่าดู

    ไม่ใช่ย่ะ แล้วก็อย่าเรียกชื่อสกุล อย่าเติม คุณ ฉันบอกไปแล้วไง

    ผมถูกเธอตวาดกลับใส่ซะงั้น

    ขอโทษครับ เอมิ

    พลังของฉันไม่ใช่สลับเพศ แต่เป็นส่งถ่ายพลัง สรุปง่ายๆก็คือ เอาสิ่งที่มีในตัวฉันส่งไปให้ในตัวอีกฝ่ายที่จูบด้วย สิ่งที่ฉันส่งไปให้นายก็คือ ความเป็นผู้หญิงน่ะ

    พูดง่ายๆก็คือ เอมิส่งพลังผู้หญิงในตัวมาให้ผมงั้นเหรอครับ ? “

    ถูกต้อง เข้าใจอะไรง่ายดีนี่

    แต่ดูเหมือนว่า จะมีอยู่อย่างหนึ่งที่ไม่เหมือนกันนะครับ… “

    ผมก้มมองตัวเอง แล้วจับที่หน้าอก

    กะแก!! “

    ถึงจะบอกว่าเป็นพลังในตัวของเอมิ แต่ว่าหน้าอกของผมกับเธอนั้นขนาดต่างกันลิบลับ

    ส่วนของคุณอินุชิโระ ก็คงเป็นพลังรักษาใช่ไหมครับ ? “

    ยูฮิเมะจัง… “

    ครับ ? “

    เรียกว่ายูฮิเมะจัง… “

    คะ..ครับ ยูฮิเมะจัง

    ให้เรียกชื่อผู้หญิงด้วย จัง แบบนี้ ตั้งแต่เกิดมาผมยังไม่เคยเรียกมาก่อนเลยแฮะ

    แล้วถ้างั้นของคุณริวซากิล่ะ ตอนจูบผมไม่เห็นจะรู้สึกอะไรเลยนะ ? “

    เทนชิเถอะ พลังของฉันก็คือ เพิ่มพลังกายน่ะ คล้ายๆกับพลังรักษาของยูฮิเมะ แต่มันจะต่างกันอยู่นิดหน่อย

    อย่างนี้นี่เองแล้วผมจะกลับเป็นผู้ชายได้ไหมล่ะครับ ? “

    กลับน่ะได้ ขอแค่จูบกับเอมิอีกรอบก็พอ แต่ว่าตอนนี้ขอบอกเลยว่า อย่า-ดี-กว่า

    ทำไมล่ะครับ !? “

    คือว่า ไอ้พวกผู้ชายที่อยู่ข้างนอกนั่นน่ะมันเป็นพวกโอตาคุไอดอลน่ะสิ ฉันดันเผลอบอกไปแล้วว่าคาสึกิคุง เป็นสมาชิกในทีมไปแล้วงะ ถึงฉันจะกำชับไม่ให้พวกนั้นไปบอกใคร แต่ยังไงข่าวมันก็คงแพร่ออกไปอยู่ดี

    โหดร้ายผมไม่คิดจะอยู่ในสภาพผู้หญิงตลอดชีวิตหรอกนะ

    จะว่าไป สมาชิกในทีมนี่หมายความว่ายังไงครับ ? “

    อ้าว นี่เธอไม่รู้เรื่องพวกเราหรอกเหรอ ? “

    ถ้าผมรู้ก็คงไม่ถามหรอกนะครับ

    พวกเรา 3 คนน่ะ เป็นไอดอลชื่อดังทีมเดียวกัน

    “ …. “

    ผมอึ้งไปสักพัก เพราะไม่รู้จะโต้ปฏิกิริยายังไงกลับไปดี

    แล้วผมต้องทำไงอะ ? “

    นั่นไง พูดยังไม่ทันขาดคำ ข่าวมันก็กระจายออกไปซะละ

    คุณเทนชิหยิบโทรศัพท์สมาร์ทโฟนออกมาดูอะไรบางอย่าง

    ไหนครับ ? “

    ผมขอโทรศัพท์ในมือคุณเทนชิแล้วเอามาดู เธอเปิดทวิตเตอร์ทิ้งไว้อยู่

    Grummy001 : วง SK จะมีสมาชิกใหม่ล่ะ !!!

    Skoopy : จริงเหรอ ข่าวลวงรึเปล่า ทาง Official ก็ยังไมได้ประกาศเลยนา ?

    Grummy001 : @Skoopy ไม่รู้สิ เห็นเพื่อนฉันบอกมาน่ะ ยังไงๆก็รอ Official ดีกว่า!

    KeroNi : @Skoopy ฉันว่าของจริงนะ เพื่อนฉันไปเห็นมากับตาเลย !

    “ ….. ขนาดนี้เลยเหรอครับเนี่ย ? “

    ไม่ต้องห่วง ฉันจะรับผิดชอบเรื่องนี้เอง

    จะรับผิดชอบแก้ข่าวให้ใช่ไหมครับ !? “

    ฉันจะฝึกเธอให้เป็นไอดอลเอง ! “

    ไม่ใช่เรื่องตลกแล้วจริงๆนะครับ ต้องมาเป็นผู้หญิง แถมยังต้องเป็นไอดอลด้วยอีกเนี่ย

    อย่าทำหน้าแบบนั้นสิ เธอน่ะน่ารักจะตายไป

    มันไม่ตลกเลยนะครับ… “

    ผมถอนหายใจหลายต่อหลายครั้ง แต่มันก็ไม่ได้ช่วยบรรเทาอารมณ์ในตอนนี้เลยสักนิด

    ก่อนอื่นเลยนะ เธอต้องเปลี่ยนชื่อเสียก่อน

    ทำไมล่ะครับ ? “

    จะให้ใช้ชื่อมาซากะ คาสึกิไม่ได้หรอก เพราะว่าจะมีปัญหาตามมาทีหลัง

    อ้าว ไม่ใช่ว่าวงการไอดอลต้องมีนามแฝงหรอกเหรอ

    เอาเป็นโนฮาระ มิกิจังก็แล้วกันนะ

    ชื่อน่ารักเป็นบ้าเลย

    “ …เฮ้อ ยังไงก็ต้องตามน้ำไปแล้วสินะครับ

    เข้าใจง่ายมากจ้ะ

    นี่ผมเข้ามายุ่งเกี่ยวกับคนดังระดับไอดอลแถมยังเป็นแม่มดด้วยซะแล้วเหรอเนี่ย

    พ่อครับ ให้ผมกลับไปอยู่อเมริกาก็ได้นะ….

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×