คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : แนวแอบรักใสๆ วัยมัธยม มุมิ งุงิ
แนวแอบรักใสๆ วัยมัธยมค่ะ!
คือโดยส่วนตัวชอบมากแนวที่ฝ่ายหนึ่งหล่อลากกับอีกฝ่ายธรรมดา มันดูมุ้งมิ้งงุงิ น่ารักอ่ะ ฮืออออออ
คือถ้าฝ่ายที่ชอบ ชอบคนหน้าตาดี มันก็แบบ มีประเด็ให้ชอบแล้วใช่ไหม แต่ถ้าอีกฝ่ายหน้าตาเฉยๆ การจะชอบได้ มันก็ต้องใช้ปัจจัยมากกว่านั้น
เปล่าค่ะ...จริงๆประเด็นคือฟังเพลงแล้วอยากเขียนขึ้นมา เอิ้ก
:::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::
คุณเคยแอบรักใครสักคนไหม?
แอบรักโดยที่ไม่กล้าบอกใครทั้งนั้น แอบรักโดยที่กลัวไปหมดทุกอย่าง แอบรักโดยได้แต่มองเธอข้างเดียว แล้วพร่ำเพ้อไปเองเหมือนคนบ้า
ผมคิดว่าทุกคนคงเคยมีโมเม้นท์แบบนั้นสักครั้งในชีวิต...รวมถึงผมด้วย
“ไอ้เหี้ยแม๊ค มึงจะรีบกลับไปไหนวะ?” ผมหันขวับตามเสียง เห็นร่างสูงโย่งของไอ้จอมเพื่อนสนิทมันวิ่งทั่กๆ มาทางผมก่อนจะหอบแฮ่ก “อยู่ก่อนสิวะ สาวๆ เขาผิดหวังนะโว้ยยยย ไอ้รูปหล่อ”
ผมถอนหายใจเหนื่อยหน่าย มองไปทางด้านหลังก็เห็นสาวๆ ในชุดกระโปรงน้ำเงินกรีดยิ้มขวยเขินมาให้ผมจากบนโต๊ะ ผมยิ้มฝืนไปให้ก่อนจะตวัดขวับมามองไอ้จอมแล้วแยกเขี้ยว “กูมีเรียนพิเศษ มึงก็รู้”
“โดดสักวันไม่ตายหรอกไอ้ห่า อยู่เหอะน่า เพื่อกู นะๆ มึงนะ มึงกลับตอนนี้สาวๆ ก็ขนกันกลับบ้านหมดน่ะสิ” มันแอบกระซิบกระซาบกับผมที่ได้แต่ถอนหายใจ ยกนาฬิกาขึ้นดูแล้วส่ายหัว
“ไม่ได้หรอกมึง” โดยเฉพาะวันนี้
ผมต่อคำท้ายในใจ แต่ไม่ได้พูดออกไป
ไอ้จอมเบ้หน้า “มึงจะทำแบบนี้กับกูไม่ได้นะแม็ค ไอ้พ่อเทพบุตร ให้กูกราบตีนมึงก็เอา นะๆๆๆๆ มึงก็รู้ว่ากูชอบน้องจอยมาตั้งนาน กว่าจะชวนน้องเขามาได้ ถ้ามึงไป สาวๆ ขนกลับหมด กูก็แห้วแดกสิวะ” มันทำตาปริบๆ
ใช่ว่าผมไม่รู้ว่ามันชอบน้องจอยอะไรนั่นมาหลายเดือน ตามจีบตามตื๊อสารพัด จนน้องเขายอมออกมาเที่ยวโดยยื่นเงื่อนไขมาว่าจะต้องเอาผมมาด้วย เพราะเพื่อนๆ เธออยากเจอผมมาก
ผมเลยไม่รู้ว่าตกลงที่เธอยอมมาเที่ยวด้วยกันครั้งนี้เพราะใจอ่อนกับไอ้จอมหรือเพื่อนเธออยากงาบผมกันแน่
หากในระหว่างที่ผมยังมัวแต่หันรีหันขวาง ตัดสินใจไม่ถูกอยู่นั้นเอง เสียงทักทายของใครสักคนก็ดังขึ้น “อ้าว ไอ้จอม พวกมึงมายืนอะไรกันหน้าร้าน” ผมเบิกตากว้างขึ้นเล็กน้อยก่อนจะหันขวับ แล้วกลบเกลื่อนความพิรุธทางสีหน้าด้วยรอยยิ้ม
คนเอ่ยทักผมเป็นเพื่อนร่วมโรงเรียนแต่อยู่ต่างห้องกัน สำหรับผมคงแค่เคยเห็นหน้า แต่กับไอ้จอมที่มันรู้จักคนไปทั่วแล้วคงจะสนิทสนมกันในระดับหนึ่ง...อีกฝ่ายเป็นเด็กหนุ่มตัวเล็ก ตาโต ปากแดง เหมือนตุ๊กตาจนเกือบจะเรียกได้ว่าสวยน่ารัก หากความแมนกินขาดไปหลายขุมขัดกับหน้าตาไปคนละทิศละทาง จนได้ฉายาว่านางฟ้าซาตาน แต่อย่าให้ใครไปพูดเรื่องฉายาต่อหน้าไอ้หมอนี่เด็ดขาด หากยังไม่อยากโดนกระทืบจมกองตีน เบื้องหลังหมอนั่นมีผู้ชายคนหนึ่งยืนอยู่...ใบหน้าของอีกฝ่ายตรงข้ามกับเพื่อนที่มาด้วยกัน เขาเป็นคนดูดีในระดับหนึ่ง แต่เมื่ออยู่ใกล้เพื่อนสนิทตัวเล็กกลับทำให้หน้าตาเจ้าตัวเป็นหน้าตาธรรมดา จืดชืดไปในทันที แต่ผมกลับว่าหน้าแบบนี้ดูแล้วสะอาดตา บวกกับส่วนสูง 180 กว่าๆ ไล่เลี่ยกันกับผม โดยรวมผมว่าเขาดูดีไมเลวเลย...
“ไอ้น้ำ ไอ้โอม มึงมาก็ดี ช่วยก็รั้งพ่อเทพบุตรหน่อยสิวะ มันไม่ยอมช่วยกูจีบสาว” ไอ้จอมได้ทีก็ฟ้องทันที
ผมขยับปากจะแก้ตัว แต่ไอ้เด็กหนุ่มตัวเล็กก็สวนขวับด้วยปากหมาๆ ที่ไม่เข้ากับหนังหน้าแม้แต่น้อยนิด “มึงก็จีบเองสิวะ อยากได้สาวแต่ไม่มีปัญญา กูว่าแม่งน่าสมเพชนะ”
คราวนี้ไอ้จอมอ้าปากพะงาบๆ จนผมนึกสงสารมันขึ้นมา
เป็นไงล่ะมึงไอ้จอม แม่นางฟ้ายาใจของมึง ปากหมาไม่สร่าง...
“ไอ้น้ำ กูหิว เข้าร้านซะที” ไอ้หนุ่มโอมที่ติดสอยมากับหนุ่มหน้าหวานชักชวน พอได้ยินคำนั้น ผมเกือบจะเก็บอาการไม่ทัน ไม่รู้ว่าอาการหันขวับฉับพลันของผมมันจะไปเตะตาเขาเข้ารึเปล่า
“เออ ไอ้จอม วันนี้กูโดดก็ได้ แต่อย่าให้มีรอบหน้าอีกนะ”
“จริงเหรอวะ! ไอ้แม็ค! กูรักมึงงงงงง” มันผวาทำท่าจะเข้ามากอดผม หากผมยันตัวมันไว้แล้วเบ้ปากใส่ ไอ้จอมมันยิ้มกว้าง ก่อนจะเอ่ยปากบางอย่างที่ทำเอาผมอยากจะหอมแก้มมันแทน “ไอ้น้ำ ไอ้โอม มึงก็มานั่งด้วยกันสิวะ ครื้นเครงดี”
“ห๊ะ? แล้วให้กูนั่งยังไง? เห็นไหมโต๊ะเต็มจะตายห่า ปีนไปนั่งบนหัวมึงเหรอ?” ปากน้ำนี่มัน...
“มึงอย่าเรื่องมากน่าน้ำ เข้าไป แดกแล้วรีบออก กูหิว” โอมสรุปก่อนจะดันหลังเพื่อนตัวเล็กเข้าไปภายใน
ผมกลับไปนั่งที่โต๊ะเดิม พอสาวๆ ถามออกว่าทำไมหายไปกันนาน ผมก็เฉไฉไปว่าออกไปรับเพื่อน น้ำแค่แค่นเสียงแต่ไม่ได้ปฏิเสธอะไร ในขณะที่โอมเพียงหยิบจานลุกออกไปเงียบๆ คงไปตักอาหารแหละ ให้ผมเดา
ร้านอาหารและสลัดบาร์แบบนี้ดีอย่าง หากหน้าด้านพอจะนั่งแช่นานแค่ไหนก็ได้ และก็เป็นบุญของผมที่ทั้งโอมและน้ำนั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม ผมจึงใช้โอกาสชำเลืองมองใบหน้า ‘เขา’ ได้บ่อยโดยไม่มีพิรุธ
“แล้ววันนี้น้ำกับโอมไม่ไปเรียนพิเศษเหรอ” ผมถาม ตีเนียนทำเป็นสนิทสนม โอกาสมาหย่อนถึงปากหากไม่รีบคว้าไว้ก็โง่เต็มทน ปกติผมหรือจะกล้าไปคุยกับพวกเขาก่อน...
ถึงแม้พวกเขาเรียนคอร์สเดียวกับผม แต่เราก็ไม่เคยคุยกันจริงจัง มีแต่ผมที่เป็นฝ่ายยิ้มให้ โดนเมินมั่งยิ้มตอบมั่ง ผมก็ยังสุขใจ...และก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ผมดั้นด้นจะไปเรียนวันนี้ให้ได้ หากน้ำยักไหล่
“กูอยากโดด ไอ้โอมเลยมาเป็นเพื่อน” โอเค ชัดเจน จบ
สำหรับสองคนนี้คงไม่มีปัญหาอะไรหรอกมั้ง...ทั้งคู่เป็นเด็กห้องคิง เรียนเก่งสุดๆ โดยเฉพาะโอมที่อาจารย์แทบจะกราบวิงวอนให้ไปแข่งฟิสิกส์โอลิมปิกเป็นที่เชิดหน้าชูตาของโรงเรียน หากโอมมันโคตรอินดี้ หัวเด็ดตีนขาดมันก็ไม่ไป ไม่รู้เหตุผลอะไร อาจารย์ภาควิชานี้เลยนอยด์กันเป็นแถบๆ
“มึงยิ้มไรวะแม็ค ขนลุกว่ะ” ไอ้จอมกระซิบถามผมที่ยิ้มค้าง ผมที่เพิ่งรู้สึกตัวเลยกระแอมกระไอ
“เปล่า มึงคิดไปเอง” ท่าทางของผมแม่ง...มีพิรุธเปล่าวะ
แต่ให้ทำไงได้ล่ะ ผมไม่เคยมากินข้าวร่วมกับ ‘เขา’ เลยสักครั้งนี่หน่า...ปกติแค่แอบมองห่างๆ พอวันนี้กระโดดข้ามขั้นผมเลยไม่รู้จะจัดการกับตัวเองยังไงดี...
“โอม อยากแดกซุปเห็ด ตักเผื่อด้วย” น้ำว่าทันทีที่เพื่อนสนิทตั้งท่าจะลุกจากเก้าอี้
“อยากแดกตักเอง” เพื่อนคู่นี้มันคบกันมายังไงวะ คำพูดคำจาเย็นชาฉิบหาย...
เห็นดังนั้นผมจึงรวบช้อนแล้วผุดลุกขึ้น ส่งยิ้มให้น้ำบางๆ “งั้นเดี๋ยวผมไปตักให้ โอมจะเอาไรล่ะ เดี๋ยวผมตักเผื่อ” ผมเสนอตัวอย่างใจดี มิคาด สาวๆ หลายคนรีบแย่งกันจะไปตักอาหาร เกิดเป็นความวุ่นวายเล็กน้อยที่เล่นเอาผมเกือบหงายเงิบ
น้ำหัวเราะเบาๆ ใบขณะที่โอมยิ้มน้อยๆ ส่ายหัวช้าๆ ก่อนจะผุดลุกขึ้น “เคลียร์หัวคิวเถอะครับคุณแม็ค กูตักเอง”
“นั่งเถอะไอ้แม็ค ไอ้เทพบุตร โธ๊ะ” น้ำหัวเราะระรื่น
ให้ตายเถอะ เอาตรงๆนะ...
แค่นี้ผมก็ฟินชิบหายวายป่วงแล้ว...จะบ้าตายกับความมักน้อยของตัวเองจริงๆ
ผมกลับบ้านมาพร้อมกับหน้าที่บานไม่หุบ พอถึงห้องก็กระโดดโลดเต้นเป็นคนบ้า ระเบิดความฟินออกมาโดยไม่สามารถเก็บอาการอะไรได้อีก
เขาเรียกชื่อผม เขาเรียกชื่อผม เขาเรียกชื่อผม!
ให้ตายเถอะ ผมรู้นะว่าเก็บไอ้เรื่องแบบนี้มาดีใจมันน่าสมเพชเป็นบ้า แต่จะทำไงได้ ถ้าคุณไม่มาเป็นไอ้คนแอบรักเขาข้างเดียวมาเกือบสิบปี คุณจะไม่มีวันเข้าใจความรู้สึกของผมแน่นอน...
ถ้าไอ้เพื่อนคนอื่นรู้ว่าผมคิดยังไง พวกมันคงตบหัวผมแล้วด่ายกใหญ่ อย่าหาว่าผมหลงตัวเองเลยนะ...ผมรู้ว่าตัวเองรูปหล่อ คือตอนแรกก็ไม่คิดว่าตัวเองหล่อหรอก แต่พอหลังๆ มานี้เห็นปริมาณสาวๆ ที่วิ่งเข้าหา แล้วถูกชมว่าหล่อมากๆ เข้าผมเลยเริ่มคล้อยตามว่าตัวเองคงหล่อจริงๆ
แต่หนังหน้าของผม...มันไม่ได้ช่วยอะไรให้การแอบรักของผมดีขึ้นเลย
สำหรับผม...ผมมองว่าตัวเองเป็นคนธรรมดาคนหนึ่งที่มีภาษีหน้าดีกว่าคนอื่น ฐานะครอบครัวปานกลาง เป็นลูกชายคนสุดท้องที่พ่อแม่คอยตามใจ ผลการเรียนปานกลางค่อนไปทางดี แต่เมื่อเทียบกับเขา...ผมก็ว่าตัวเองห่วยแตก
ผมควักไอโฟนออกมาจากกระเป๋าพลางยิ้มกว้างใส่หน้าจอมือถือ ในรูปเป็นภาพแอบถ่ายตอนที่ผมทำทีเป็นยกมือถือขึ้นมาเล่น ตอนถ่ายใจเต้นตุบตับ เพราะเขาดันเงยหน้าขึ้นมามองพอดี ผมงี้ใจเต้นตึกตักกลัวโดนจับได้ แต่ทุกอย่างก็ผ่านไปได้ด้วยดี...
ผมยังคงยิ้มเหมือนคนบ้าขณะเดินไปวางกล้องวิดีโอที่เจียดเงินเก็บซื้อมาตั้งไว้บนชั้นหนังสือ บิดส่วนกล้องให้หันมาทางเตียง และผมก็นั่งลงตรงหน้ากล้อง จัดวางองค์ประกอบโดยมีกีตาร์หนึ่งอัน ก่อนจะเอื้อมมือไปกดปุ่มอัด
“เข้าสู่ปีแอบรักปีที่ 9 วันนี้มีความคืบหน้าครับ” ผมยิ้มให้กับกล้องถ่ายวิดีโอ ข้างๆ เป็นจอภาพเล็กๆ แสดงรูปถ่ายเด็กผู้ชายในชุดนักเรียนที่ยิ้มให้กับกล้องเหมือนคนบ้า “วันนี้ผมได้ไปกินข้าวกับเขาด้วย ฮา...จะเรียกว่ากินข้าวด้วยกันคงไม่ได้หรอกมั้ง ก็เขาแค่บังเอิญผ่านมาเลยมานั่งร่วมโต๊ะกัน แต่แค่นั้นผมก็ดีใจแทบบ้าแล้ว อีกอย่าง เขาเรียกชื่อผมด้วย มักน้อยเนอะ แต่ตอนที่เขาเรียกว่า ‘แม็ค’ เนี่ย ผมเหมือนก้นลอยจากเก้าอี้เลยแหละ...ฮะๆ แล้วก็แอบถ่ายรูปเขามาด้วยนะ...เขารู้คงโกรธตายเลย”
ผมหัวเราะ ใบหน้าอิ่มเอิบขณะพลิกหน้ากระดาษโน้ตกีต้าร์แล้วจรดปลายนิ้วลงไป
“งั้นวันนี้ขอเล่นเพลงเข้ากับบรรยากาศเพ้อๆ ของผมหน่อย คุณอย่าโกรธผมนะครับ”
อยากรู้จัก อยากให้เธอรู้จัก อยากเป็นคนรักเธอ อยากให้เธอได้หันมอง
แบบว่าฉันคนธรรมดา ไม่ใจร้าย ถ้าลองได้คบจะดูแลเธออย่างดี
ผมเกากีต้าร์ปากก็ร้องเพลง ที่รัก(เธอ) ไปด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม ผมจินตนาการว่าเขานั่งตรงหน้า ส่งยิ้มให้ผม
ความรู้สึก เธอคือคนพิเศษ อยากให้ลองรักดู อยากให้รู้ว่ารักเป็น
ก็เลยร้องมาเป็นทำนอง ชา ดี ดา ถ้าได้เป็นแฟนจะดูแลเธออย่างดี
เพราะคิดว่ารักเธอหมดตัว เธอคงต้องใจอ่อน ถ้างั้นฉันถามเธอสักครั้ง
ขยับเข้ามาได้ไหม ขยับมาใกล้กัน ขยับความสัมพันธ์
มารักกับฉันนะเธอ
ลองคบลองดูกันไหม เขย่าให้หัวใจ เต้นตรงกัน
เธอจะมีแต่ความสุข เธอจะมีแต่ฉัน ที่รัก เธอ
ผมร้องจนจบเพลงก่อนจะกดปิดกล้อง แล้วเปิดคอมพิวเตอร์อัพความเวิ่นเว้อของตัวเองลงไปในโฟลเดอร์
ผมไม่ได้อัพคลิปตัวเองลงที่ไหนหรอก สารภาพกันตรงๆ เลยว่าใจไม่กล้าพอ กลัวเขาจะรู้ กลัวเขาจะรังเกียจไปสารพัด เลยได้แต่ระบายความอัดอั้นตันใจโดยร้องเพลงแล้วอัดคลิปไว้ เผื่อความอัดอั้นตันอกมันจะระบายออกไปได้มั่ง
ผมคว้ามือถือมาเปิดรูป ยิ้มบางๆ ก่อนยื่นมาซูมรูปภาพของโอมและน้ำ โดยเลือกซูมเฉพาะ ‘เขา’
ปลายนิ้วเกลี่ยไปตามดวงตา จมูก ริมฝีปาก อย่างแผ่วเบาทะนุถนอม ก่อนจะยื่นหน้าไปจุมพิตที่หน้าจอแบบพวกละเมอเพ้อพก
ให้ตาย...
ผมชอบ ‘โอม’ มากจริงๆ
ความคิดเห็น