คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : first step
first step
วันแรกของการเปิดเทอม ลู่หานกระสับกระส่ายเล็กน้อย เพราะความฝันประหลาดของตัวเอง
เขาฝันเห็นทุ่งหญ้าที่กว้างไกล มันใหญ่เสียยิ่งกว่าสวนของโรงเรียนที่เขาเคยเห็น สวนนั่นเต็มไปด้วยดอกไม้ห้ากลีบสีม่วงอมน้ำเงินที่ชื่อว่า ‘โบรวาเลีย’
ใช่…มันเป็นดอกไม้ที่เขาเลือกมานั่นเอง
ดอกไม้ทั้งหลายเหล่านั้น ค่อยๆละทิ้งกิ่งก้านล่องลอยวนรอบตัวเขา จากช้าๆกลายเป็นเร็วจนแทบกลายเป็นภายุหมุน และสุดท้ายกลีบสีม่วงน้ำเงินนั้นก็รวมตัวกันเป็นเส้นเหมือนปลายหอก กลีบบางเบาเรากับมีดคมเฉือนเนื้อหนังหลุดลุ่ยก่อนจะแทรกตัวเข้ามารมกับเนื้อเยื่อภายใน ความเจ็บปวดจากความฝันทำให้เขาสะดุ้งตื่นขึ้นมาทันเวลาเข้าเรียนพอดี
ฝันแปลกๆแบบนี้…มันจะเกิดเรื่องหรือเปล่านะ?
ลู่หานสะบัดความคิดประหลาดออกจากหัวเมื่อเวลาตอนนี้มันสายเต็มที ร่างเล็กรีบติดป้ายชื่อ ที่ดูยังไงก็เหมือนเข็มกลัดดอกไม้อันหนึ่งอย่างเร่งรีบ ก่อนจะรวมตัวกับฝูงชนที่ไม่เคยเห็นหน้ามาก่อนเพื่อเข้าสู่ตึกประชุม
เพราะวันนี้….มันเป็นวันประถมนิเทศ.
ลู่หานจับจองที่นั่งตัวหนึ่งที่อยู่ประมาณตอนกลางของหอประชุม เขาเพิ่งสังเกตว่าทุกๆคนในหอประชุมกลัดเข็มกลัดรูปดอกไม้ต่างชนิดกันไป เท่าที่เขาเห็นมันไม่มีดอกไหนซ้ำกันเลย ยกเว้น..คู่แฝดคู่หนึ่งที่นั่งอยู่ข้างหลังเขาไปสองที่นั่ง
เป็นแฝดหญิงหน้าตาน่ารักสองคนที่กำลังคุยกันเรื่องโรงเรียนอย่างตื่นเต้น ที่หน้าอกของสองคนนั้นปักดอกไม้รูปร่างเหมือนกันแต่คนละสี ของคนหนึ่งเป็นสีแดง อีกคนเป็นสีขาว
หรือนี่จะเป็นความมหัสจรรย์ของคู่แฝด?
ลู่หานได้แต่มองอย่างสงสัย จนกระทั่งที่เวทีด้านหน้าหอประชุมมีใครบางคนปรากฏตัว
การปรากฏตัวของเขาทำให้คนทั้งหอประชุมมองจ้องอย่างสงสัย ชายวัยกลางคนท่าท่างสุขุมที่มีดอกไม้สีแดงสดกลัดอยู่ที่ปกเสื้อ..
เดี๋ยวนะ…ทำไมลู่หานรู้สึกคุ่นดอกไม้ดอกนั้นจัง
เหมือนเคยเห็นที่……..
…..ตราโรงเรียน!
ดอกอาซาเลีย! คนๆนั้นเป็นผู้อำนวยการ!
“สวัสดีครับนักเรียนทุกคน..”
ชายคนนั้นกล่าวทักทาย น้ำเสียงทุ้มเย็นเหมือนมีมนต์สะกด
“ยินดีต้อนรับนักเรียนทุกคนที่ผ่านการสอบคัดเลือกเข้าได้…ที่นี่มีนักเรียนกว่าหกร้อยคนที่มีอายุตั้งแต่ 13-18 ปี….ไม่ใช่สิ มีสิบสองปีอยู่คน”
สิบสอง? เด็กสิบสองขวบเนี่ยนะ?
“วันนี้เป็นันที่เราพบกันครั้งแรก และผมก็อยากจะขอเลือกตั้งคณะกรรมการรุ่นตั้งแต่วันนี้ ใครที่ถูกเรียกชื่อดอกไม้ที่เลือก กรุณาก้าวออกมาหาผมด้วย”
เอ๋ กรรมการนักเรียนมันต้องให้นักเรียนเลือกไม่ใช่เหรอ?
เรียกชื่อดอกไม้เนี่ยนะ? ดอกไม้มันช่วยอะไรได้เนี่ย?
“ตำแหน่งประธานนักเรียน ดอกทานตะวัน เชิญครับ”
ชายคนหนึ่งลุกขึ้นจากเก้าอี้เดินไปหาผอคนนั้นอย่างงงๆ
ลู่หานมั่นใจว่าเจ้าของดอกทานตะวันนั่นเป็นคนที่เดินชนเขาตอนส่งดอกไม้แน่ๆ
“เชิญแนะนำตัวครับ”
ผู้ชายคนนั้นรับไมค์มาถือไว้อย่างงงไม่หาย เขายิ้มอ่อนโยนก่อนจะเริ่มแนะนำตัว
“ผมคริสครับ…อายุ18ปี”
“และรองประธานอีกสี่คน ดอกโบตั๋น ดอกซากุระ ดอกโรโรเรนดรอนและดอกเบล็คเบอรี่ เชิญครับ”
ผู้ชายอีกสี่คนเดินขึ้นไปบนเวลาทีนั่น พวกเขาเริ่มแนะนำตัวกันตามลำดับ
คนแรกเป็นผู้ชายรูปร่างผอมสูงหน้าตาดี ลู่หานรู้สึกคุ้นอย่างประหลาด
เหมือนกับว่าเคยเห็นไหล่กว้างนั้นที่ไหนมาก่อน
“โอเซฮุน..17ปี”
“คิมจงอิน 16ปี”
“ปาร์คชานยอล 17ปี”
“ผมชื่อซูโฮครับ อายุ18 ปี”
คนสุดท้ายแนะนำตัวด้วยน้ำเสียงหวานน่าฟังพร้อมยิ้มตบท้าย ต่างจากสามคนแรกที่ลู่หานคิดว่าพวกเขาคงกลัวดอกพิกุลร่วง โดนเฉพาคนที่ดอกไม้ชื่อยาวๆนั่น ดอกอะไรนะ โรโดเรนดรอน ท่าท่างหยิ่งผยองพอดู
“เอาล่ะ…ตอนนี้เราก็ได้ครบทุกคนแล้ว ต่อไปจะเป็นกฎของโรงเรียนที่ทุกคนต้องปฏิบัติตามนะ”
เดี๋ยวๆ แค่ห้าคน? ห้าคนเนี่ยนะ?
“การเรียนการสอนของโรงเรียนจะเหมือนโรงเรียนทั่วๆไปที่แยกเป็นระดับชั้น ยกเว้นการเรียนในวันเสาร์ที่จะต้องเรียนรวม ซึ่งจะประกาศแบ่งกลุ่มให้อีกที นักเรียนสามารถทราบข่าวสารของโรงเรียนทุกเรื่องได้ที่บอร์ดประชาสัมพันธ์เท่านั้น และต่อไปนี้พวกคุณทุกคนจะอยู่ในความดูแลของอาซาเลีย และนับตั้งแต่วันนี้ไปคุณจะไม่ได้กลับไปที่บ้านอีก”
“พูดอะไรน่ะ! หมายความว่ายังไง”
นักเรียนชายแถวหน้าคนหนึ่งตะโกน
ลู่หานเองก็อยากรู้ หมายความว่ายังไงไม่ให้กลับบ้าน มันไม่มีบอกไว้ในคู่มือการสมัครเรียนนี่นา
“นักเรียนทุกคนที่นี่จะต้องใช้ชีวิตอยู่ในหอพัก ที่มีอยู่สองแห่งคือฝั่งตะวันออกกับฝั่งตะวันตก รายชื่อนักเรียนสามารถดูได้ที่บอร์ดประชาสัมพันธ์”
หอพัก แล้วที่บ้านของเขาล่ะ?!
อาซาเลีย ที่นี่มันยังไงกันแน่เนี่ย?!
“เอาล่ะ เลิกการประชุม นักเรียนทุกคนแยกกันเข้าเรียนตามระดับชั้นนะครับ..”
ชายคนนั้นยิ้มหวานก่อนเดินาจากไป ทิ้งให้นักเรียนหกร้อยคนจับกลุ่มวิจารย์กันเสียงดัง เรื่องระเบียบที่โรงเรียนไม่เคยแจ้งมาก่อน
ลู่หานเดินออกจากหกประชุมพร้อมคนอื่นๆ เขาพยายามจะโทรศัพท์แจ้งเรื่องนี้กับคนที่บ้านอยู่หลายครั้ง แต่มือถือเจ้ากรรมก็เกิดไม่มีสัญญาณขึ้นมา ลู่หานกดลองโทรครั้งสุดท้าย เขากะว่าถ้ายังติดต่อไม่ได้คงต้องยืมโทรศัพท์ของคนแถวๆนี้ไปก่อน
“บ้าเอ้ย! ทำไมไม่มีสัญญาณวะ!!”
เปล่า…นั่นไม่ใช่เสียงของลู่หานแต่อย่างใด
มันเป็นเสียงของผู้ชายรูปร่างสูงโปร่งคนหนึ่งที่อยู่ไม่ไกลนัก ลู่หานหันมองตามเมื่อพบว่าภาษาที่คนๆนั้นสบถออกมาเป็นภาษาจีนบ้านเกิดของเขา
แสดงว่าไม่ใช่แค่เขาที่ไม่มีสัญญาณ
ลู่หานหันมองรอบๆตัว เด็กนักเรียนหลายคนกำลังวุ่นอยู่กับโทรศัพท์มือถือของตัวเอง บ้างก็บ่นเสียงดังว่าทำไมเครือข่ายล่มในเวลาแบบนี้ บ้างก็ลองเปิดเครื่องมือสื่อสารอื่นๆดูแต่ก็พบว่าล้มเหลวเหมือนกันหมด
พวกเขาที่นี่ทุกคน…กำลังถูกตัดขาดจากโลกภายนอก
อาซาเลีย....ที่นี่มันประหลาดเกินไปเเล้ว!
ความคิดเห็น