คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : WOLF.. 2 [100%]
WOLF.. สงครามล่าหัวใจ
“จุนฮยอง.. ช่วยข้าด้วย!!” เสียงที่เคยหวานของฮยอนซึงตอนนี้กับเหือดแห้งและแหบจนน่าตกใจ ร่างกายบอบบางที่เคยนวลเนียนบัดนี้กลับปรากฏแผลฉกรรจ์นับสิบแผล มุมปากเล็กและหัวคิ้วด้านขวามีคราบเลือดแห้งกังที่เห็นได้อย่างชัดเจน สภาพฮยอนซึงตอนนี้ช่างน่าเวทนาเหลือเกินสำหรับใครก็ตามที่ได้พบเห็น
“ช่วยข้าด้วย.. ได้โปรด! จุนฮยองช่วยข้าด้วย”
ไม่นานเกินรอร่างที่บอบซ้ำของฮยอนซึงก็ถูกรวบด้วยวงแขนอันแข็งแกร่งของร่างหนา จุนฮยองกระชับอ้อมกอดแน่น ดวงตาที่คมกริบที่เคยแข็งแกร่งบัดนี้หน่วงคลอไปด้วยหยาดน้ำตา
เจ็บเหลือเกิน..
ปวดจนแทบจะขาดใจ..
ภาพของคนรักของเขาตอนนี้ช่างสร้างความเจ็บปวดให้กับหัวใจเขาเหลือเกิน ถ้าหากเขาสามารถแบกรับความเจ็บปวดทั้งหมดที่ร่างบางเผชิญอยู่ตอนนี้ได้เขาก็ยินดีที่จะรับมัน
“จะ จุนฮยอง..” เสียงแหบแห้งของฮยอนซึงเอ่ยเรียกชื่อคนรักอย่างโหยหา
“ข้ามาแล้วฮยอนซึง ข้ามาช่วยเจ้าแล้วดวงใจข้า..” น้ำตาลูกผู้ชาย น้ำตาของอมนุษย์ที่ได้ชื่อว่าแข็งแกร่งที่สุดไหลรินออกมาจากดวงตาคมกริบ ตอนนี้จุนฮยองเป็นเพียงชายคนหนึ่งที่กำลังเจ็บปวดที่เห็นคนที่ตนรักต้องมาอยู่ในสภาพนี้ มือหนายกขึ้นเกลี่ยเส้นผมที่ปกหน้าร่างบางออกช้าๆ บรรจงจูบลงบนแก้มเนียนใสที่ตอนนี้เต็มไปด้วยบาดแผลมากมาย
“ข้ารักท่านมากนะ ทะ ท่านรู้ใช่ไหม”
“ข้ารู้! ข้ารู้แล้วฮยอนซึง ไม่ต้องพูดอะไรแล้วนะ ข้ารู้แล้ว.. กลับบ้านเรานะ กลับบ้านเรากัน.. ข้าจะให้ท่านผู้เฒ่ารักษาเจ้า เจ้าจะปลอดภัย กลับไปอยู่ด้วยกันนะดวงใจข้า” ร่างหนากอดร่างบอบบางของฮยอนซึงแน่นกว่าเดิม ลมหายใจที่โรยรินลงทุกขณะทำให้เขาหวาดกลัว หวาดกลัวเหลือเกินว่าจะต้องเสียฮยอนซึงไป ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงๆเขาจะอยู่อย่างไร
มือบางที่แทบจะไร้เรียวแรงยกขึ้นมาสัมผัสแก้มสากของจูนฮยอง ฮยอนซึงเกลี่ยนิ้วไล้ตั้งแต่ดวงตาคู่สวยที่เขาชอบมันเหลือเกิน แม้จะแฝงไปด้วยความแข็งแกร่งและดุดันแต่เมื่อใดก็ตามที่ดวงตาคู่นี้สบมองเขาจะแปรเปลี่ยนเป็นความอ่อนโยนทันที.. จมูกโด่งรันที่คอยคลอเคลียแก้มใสของเขาทุกครั้งที่สบโอกาส.. ไล่จนมาถึงริมฝีปากหยุ่นที่พร่ำบอกรักแทบทุกวินาที
“บอกว่ารักข้าหน่อยได้ไหม? บอกว่าท่านรักข้าให้ข้าได้ยินอีกสักครั้งได้หรือไม่..” ฮยอนซึงมองสบตากับจุนฮยอนอย่างสื่อความหมาย
“ข้ารักเจ้า.. ข้ารักเจ้าหมดหัวใจ จางฮยอนซึง”
รอยยิ้มหวานแต่งแต้มจางๆขึ้นมาบนใบหน้าสวย
เขาชอบเหลือเกิน ชอบที่จะได้ยินจุนฮยองพร่ำบอกคำว่ารัก.. มีความสุขทุกครั้งที่ได้ยิน
“ข้าก็รักท่านหมดหัวใจยงจุนฮยอง.. เจ้าหมาป่าสีทองของข้า” สิ้นประโยคร่างบอบบางของฮยอนซึงก็ค่อยๆสลายและจางหายไปในที่สุด
“ไม่!! ฮยอนซึงไม่!!!!!!!!!!!!!!” จุนฮยองพยายามไขว่คว้าร่างกายของคนรัก แต่สิ่งที่ได้กลับเป็นเพียงอากาศธาตุเท่านั้น
“ไม่!!!!! ฮยอนซึงกลับมา ข้ารักเจ้า.. กลับมาได้โปรดกลับมา” ทุกสิ่งรอบกลายจุนฮยองกลับกายเป็นสีดำ ร่างหนานั่งจมอยู่กับน้ำตาริมฝีหนาเฝ้าแต่ร้องเรียกหาชื่อของคนรักอย่างโหยหา
**
“ฮยอนซึง !!!” ร่างสูงสมส่วนของชายหนุ่มผลุดขึ้นอย่างกะทันหันบนที่นอนขนาดคิงไซร์ ใบหน้าหล่อเหลาและแผ่นหลังกว้างชื่นไปด้วยเหงื่อทั้งๆที่ในห้องก็เปิดเครื่องปรับอากาศจนต้องห่มผ้าผืนหนา มือหยาบที่ยกขึ้นมาสั่นเทาอย่างเห็นได้ชัด
ฝัน..
เขาฝันแบบนี้อีกแล้ว..
กว่าสี่ร้อยปีที่เขาจมอยู่กับความฝันนี้ ความฝันที่มาจากความจริง.. เหตุการณ์คราวนั้นยังตามติดในความทรงจำของเขา ฮยอนซึงจากเขาไปแล้ว จากไปอยู่ในที่ที่แสนห่างไกล ที่ที่เขาไม่สามารถเหยียบย่างก้าวเข้าไปได้
เมื่อสี่ร้อยปีที่แล้วหลังจากที่เขาขึ้นครองตำแหน่งหัวหน้าฝูงคนใหม่ของเผ่าพันธุ์ ‘ฝูงหมาป่าสีเงิน’ เผ่าพันธุ์อันศักดิ์สิทธิ์และแข็งแกร่งที่สุด อมนุษย์ที่ใครหลายคนกล่าวขาน
จากนั้นไม่นานเขาก็ได้พบกับคนที่เสมือนดวงใจของเขา มนุษย์ธรรมดาที่ชื่อว่า ‘จางฮยอนซึง’ จากมนุษย์หมาป่าที่ไร้ซึ้งหัวใจ แข็งกระด่าง ดิบเถื่อนเยี่ยงสัตว์ป่าทั่วไป เขาไม่เคยสนใจว่าวันพรุ่งนี้เขายังจะมีลมหายใจอยู่รึไม่ เพราะเผ่าพันธุ์ของเขาเกิดขึ้นมาพร้อมกับสงคราม เกิดขึ้นมาพร้อมกับกลิ่นคราวเลือด แต่ตั้งแต่ที่เขาพบฮยอนซึงวิถีชีวิตของเขาก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง ตั้งแต่ที่เขามีความรักเขาก็พยายามทำวิถีทางเพื่อจะยุติสงครามระหว่างเผ่าพันธุ์ที่ยืดเยื้อมาหลายร้อยทศวรรค ถึงขนาดยอมบุกเข้าไปในถิ่นฐานของเผ่าพันธุ์อมตะที่ขึ้นชื่อว่าเป็นศัตรูกันมาช้านานเพียงลำพัง
แต่สุดท้ายศัตรูที่ร้ายที่สุดกลับไม่ใช่ต่างสายพันธุ์ ไอ้สวะทที่ทำลายหัวใจของเขากลับเป็นหมาป่าในปกครองของเขาเอง
‘ลีมินโฮ’ สหายรักสหายแค้น
มันเข้าร่วมกับเผ่าพันธุ์อมตะเพียงเพื่อต้องการขึ้นแทนที่เขา มันวางแผนจะให้ฝูงแวมไพร์ปลิดชีพเขาเพราะถ้าเพื่อสำเร็จมันจะได้ขึ้นครองอำนาจอย่างใสสะอาดและมือไม่เปื้อนเลือด แต่ ‘ชเวซึงฮยอน’ จักรพรรดิผู้มีอำนาจเหนือเหล่าแวมไพร์ตอนนั้นล้วงรู้ถึงความคิดอุบาทชาติของมัน จึงเลือกที่จะส่งข่าวเตือนเขาแต่ก็ช้ากว่ามินโฮหลายก้าว เพราะว่ากว่าที่จุนฮยองจะรู้ว่าใครกันคือศัตรูที่แท้จริงมันก็จับร่างบางที่เป็นเสมือนดวงใจของเขาไปเรียบร้อยแล้ว
มินโฮรู้ว่าฮยอนซึงคือคนที่จุนฮยองรัก และเป็นฮยอนซึงอีกเช่นกันที่ทำให้จุนฮยองที่เคยแข็งแกร่งลุยดะทุกสงครามไม่ว่าหน้าไหนทั้งนั้นต้องเปลี่ยนความคิดมาเป็นหมาป่าผู้รักสงบ มันไม่ใช่สิ่งที่มินโฮต้องการ มินโฮกระหายเลือด กระหายการต่อสู้ และเมื่อจุนฮยองไม่สามารถอยู่ที่จุดๆนั้นได้มินโฮก็เลยคิดจะทำสิ่งเหล่านั้นเอง แต่การจะขึ้นครองอำนาจนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ยิ่งจุนฮยองเป็นถึงบุคคลที่สวรรค์เลือกแล้วด้วยยิ่งยากลำบากเข้าใหญ่ จุนฮยองเป็นเชื้อสายของหมาป่าตำนาน ขนสีทองที่แตกต่างจากหมาป่าตัวอื่นบอกได้ดีว่าเขานั้นสูงค่ากว่าหมาตัวอื่นมากมายเพียงใด แค่จุนฮยองเกิดมาตำแหน่งและอำนาจก็อยู่เคียงข้างเขาแล้ว เมื่อทำอะไรไม่ได้มินโฮจึงเลือกที่จะทำลายดวงใจของจุนฮยองแทน เขาใช่ความเชื่อใจที่จุนฮยองและร่างบางมีให้ลายทุกอย่างเพื่อความสะใจ
มินโฮจับตัวฮยอนซึงไป มันทำร้ายร่างกายบอบบางต่างๆนานๆเพื่อระบายความแค้นที่มีในตัวจุนฮยอง และที่โหดร้ายและเลวทรามที่สุดคือมันข่มขืนฮยอนซึง ทุกอย่างที่มินโฮทำเพื่อความสะใจเท่านั้น กว่าที่จุนฮยองจะตามมาทันร่างกายบอบบางที่เขาเฝ้าทะนุทนอมและดูแลก็เต็มไปด้วยบาดแผลมากมาย ผิวกายที่เคยใสสะอาดกลับเต็มไปด้วยริ้วรอยและหยาดเลือดสีแดงสด ร่างกายเปลือยเปล่านอนจมกองเลือดอยู่กลางแผ่นหินสีขาวภายใน ‘ถ้ำแสงดาว’ ถ้ำศักดิ์สิทธิ์ของเหล่ามนุษย์หมาป่าทุกเผ่าพันธุ์
ภาพนั้นยังคงติดตาของเขา ภาพของคนอันเป็นที่รักต้องมาพบเจอกับความเจ็บปวดเพราะเขา จุนฮยองรำไห้ออกมาอย่างไม่แคร์สายตานับร้อยของสมุนหมาป่าที่ติดตามเขามา เสียงกรีดร้องที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดของจุนฮยองดังกังวานจนหมาป่าหลายตนรำไห้ตามด้วยความเวทนาและสงสารจับใจ
“ข้าจะฆ่าเจ้าลีมินโฮ ข้าของสัญญาด้วยเกียรติของผู้สืบทอดสายเลือดแห่งกษัตริย์ไม่ว่าจะกี่ร้อยกี่พันปีข้าก็จะตามล่าและสังหารเจ้าด้วยมือของข้าเอง !!!!” คำพูดที่จุนฮยองกล่าวต่อหน้าร่างไร้ซึ้งลมหายใจของฮยอนซึงเป็นเสมือนคำประกาศิตของพระเจ้า หมาป่าทุกตนรู้ดีว่าไม่ช้าไม่นานสงครามแห่งชาติเผ่าพันธุ์เดียวกันระหว่างหมาป่าขนสีทองยงจุนฮยอง และ สหายรักสหายแค้นอย่างลีมินโฮ จะต้องอุบัติขึ้นอย่างแน่นอน แล้วเมื่อถึงเวลานั้นอาจจะเป็นจุดจบของฝูงหมาป่าสีเงินเผ่าพันธุ์อันศักดิ์สิทธิ์ก็เป็นได้
“ฝันเรื่องเดิมอีกแล้วหรือนายท่าน” ชายหนุ่มร่ายกายกำยำออีกคนปรากฏตัวขึ้นในเงามืด ผ่านมาสี่ร้อยปีแล้วที่ 'ยุนดูจน' ต้องเฝ้ามองเจ้านายของตนกรีดร้องเรียกชื่อคนรักfh;pความเจ็บปวดกลางดึกสงัดในทุกค่ำคืนที่หลับตา
“ใช่” จุนฮยองตอบสั้นๆและลุกขึ้นเดินไปหยุดอยู่ตi'บานกระจกขนาดใหม่ ดวงตาคมกริมจับจ้องไปยังวิวด้านนอกที่เป็นตึกสูงระฟ้ามากมาย กลายเวลาเปลี่ยนแปลงทุกสิ่งทุกอย่าง ป่าไม้ลำธารถูกกลืนกินด้วยตึกสูงมากมายนับร้อยนับพัน ความทันสมัยเข้ามาแทนที่ความเขียวขจี ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไปหมดไม่เว้นแม้กระทั้งวิถีชีวิตของอมนุษย์เยี่ยงเขา ฝูงมนุษย์หมาป่าปนเปคละเคล้าไปกับมนุษย์ธรรมดา แต่มีสิ่งหนึ่งที่กาลเวลาไม่อาจทำให้เปลี่ยนแปลงได้ สิ่งหนึ่งที่ยังคงสภาพเหมือนเดิม..
หัวใจของหมาป่าสีทองไม่เคยเปลี่ยนแปลง..
หัวใจดวงนี้ยังคงเป็นของจางฮยองซึง..
**
เหล่านักศึกษามากหน้าหลายตาเดินปะปนกันมีทั้งเสียงพูดคุยเสียงหัวเราะหยอกล้อกันไปมา ในท่ามกลางผู้คนเหล่านั้นร่างบางที่ดูจะเด่นสะดุดตามากกว่าคนอื่นๆกำลังเดินทอดน่องพูดคุยกับเพื่อนร่วมชั้นเรียนอย่างออกรสชาติ ปากบางขยับเอื้อนเอ่ยอย่างน่ามอง ดวงหน้าหวานแต่งแต้มไปด้วยรอยยิ้ม ช่างเป็นภาพที่ชวนให้หลงใหลได้ไม่อยากเลย
มือบางคว้าหาโทรศัพท์เครื่องหรูของตัวเองที่แผดเสียงอยู่ในกระเป๋าเป้ ไม่นานเสียงหวานๆก็กรอกไปตามสาย
“อืม.. เลิกแล้ว.. กำลังจะออกไปแค่นี้นะ” พูดคุยกับปลายสายเพียงไม่นานมือบางๆที่สวยราวกกับมือของหญิงสาวก็เก็บเจ้าโทรศัพท์เครื่องหรูนั้นลงใส่กระเป๋าเหมือนเดิม
“ใครนะ! พี่มินโฮโทรมาตามเหรอฮยอนซึง” หญิงสาวคนเดียวในกลุ่มถามขึ้น
“อืม.. ไปก่อนนะ” ร่างบางโบกมือลาเพื่อนแล้วปลีกตัวเดินออกมา ฮยอนซึงเดินตามทางมาเรื่อยๆก็เจอกับรถเฟอร์รารี่ แคลปตันสีแดงเพลิงจอดรออยู่ก่อนแล้ว ถัดจากตัวรถไปไม่ไกลชายหนุ่มร่างสูงโปร่งกำลังยืนหันหลังสูบบุหรี่ กลุ่มควันสีขุ่นถูกปล่อยลอยขึ้นไปบนอากาศอย่างน่ามอง
“ที่มหาลัยเขาไม่ให้สูบบุหรี่นะ” ร่างบางเอ่อยปากบอกก่อนที่จะเดินเลี้ยงควันที่ร่างสูงพึงปล่อยออกมา
“ก็มวนเดียวไม่ทำให้ต้นไม้เชียวขจีในนี้ตายหรอกน่า” พูดจบร่างสูงก็ทิ้งก้นบุหรี่ลงพื้นก่อนจะใช้เท้าที่สวมด้วยรองเท้าหนังอย่างดีเหยียบซ้ำอีกที
ร่างบางมองการกระทำของคนตรงหน้าอย่างนึกหมั่นไส้ ก่อนจะพูดประโยคที่เรียกรอยยิ้มมุมปากจากร่างสูงที่ตอนนี้เข้าไปนั่งรออยู่ในรถเรียบร้อยแล้ว
“ขอให้รองเท้าเป็นรู!!”
‘จางฮยอนซึง’ เป็นนักศึกษาปีสี่คณะศิลปศาสตร์ เขาเลือกศึกษาทางด้านประวัติศาสตร์และความเป็นมาของโลก ตอนแรกที่ตัดสินใจที่จะเรียนคณะนี้คุณป๋าของฮยอนซึงก็คัดค้านอย่างหนักเพราะทางบ้านนั้นประกอบธุรกิจเกี่ยวกับเครื่องมือแพทย์มันดูไม่เข้ากันอย่างแรงเลยที่ลูกชายเพียงคนเดียวของบ้านจะมาเรียนอะไรไร้สาระแบบนี้ แต่ฮยอนซึงก็ดื้อเพ่งจะเรียนให้ได้จนสุดท้ายคุณป๋าที่รักลูกชายมากก็ต้องยอมตามใจ
ส่วน ‘ลีมินโฮ’ นั้น ร่างบางพึงจะรู้จักได้ไม่นานจากการแนะนำของคุณป๋า เห็นบอกเป็นนักธุกิจไฟแรงที่กำลังมีชื่อเสียงอย่างมากในวงการธุรกิจ ด้วยอายุที่น้อยแต่มากไปด้วยความสามารถทั้งการบริหารงาน และการตลาดที่เป็นเยี่ยมทำให้เขาเป็นที่รู้จักไปทั่วได้อย่างรวดเร็ว แต่ที่เท่าที่พูดมาเนียฮยอนซึงก็ยังไม่รู้อยู่ดีว่าทำไมคุณป๋าถึงแนะนำผู้ชายคนนี้ให้เขารู้จัก
“ขึ้นรถสิ หรือต้องให้พี่ลงไปอุ้ม”เสียงห้าวของร่างสูงเรียกสติที่เตลิดไปไกลของฮยอนซึงให้กลับมา ร่างบางหันไปส่งสายตาว่าไม่พอใจใส่มินโฮเล็กน้อยก่อนจะเปิดประตูและย้ายร่างตัวเองเข้าไปในรถ ไม่นานเฟอร์รารี่สีแดงเพลิงที่มีคนขับเป็นถึงนักธุรกิจชื่อดังและมีตุ๊กตาแสนจะดูดีไม่ต่างกันอย่างจางฮยอนซึงก็พุ่งทยานออกไปด้วยความเร็ว
“วันนี้คุณป๋าของฮยอนซึงชวนพี่เข้าไปทานข้าวเย็นที่บ้าน” มินโฮพูดขึ้นในขณะที่รถเคลื่อนอยู่บนถนน การจราจรในตอนนี้ช่างหนาแน่นและดูวุ่นวายเหลือเกินจนคิ้วหนาขมวดเข้าหากันอย่างไม่ชอบใจ
“รู้แล้ว!” ฮยอนซึงตอบเพียงเท่านี้แล้วก็หันมาสนใจกับโทรศัพท์เครื่องหรูที่เปิดโปรแกรมแชทคุยกับเพื่อนๆของตัวเองต่อไป
“อนุญาตให้ไปไหม?” ร่างสูงเหลือบตามองใบหน้าหวานของอีกคนเล็กน้อย
ฮยอนซึงเก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋าแล้วหันมาคุยกับมินโฮอย่างเป็นเรื่องเป็นราว ดูก็รู้ว่าอีกคนกำลังตั้งใจกวนประสาทเขา
“ต้องขอด้วย? ปกติฮยอนซึงก็เห็นพี่มินโฮเข้านอกออกในบ้านฮยอนซึงบ่อยจนจะกลายเป็นบ้านตัวเองอยู่ละ!!” เขาไม่เข้าใจเลยว่าทำไมคุณป๋าถึงไว้ใจผู้ชายตรงหน้านี้หนักหนา บ้างครั้งที่คุณป๋าต้องไปคุยงานต่างประเทศก็ยังให้พี่มินโฮมานอนค้างที่บ้านเป็นเพื่อนเขาเลย ไม่หวงลูกบ้างเลยรึไงกัน
“ก็ถามก่อนเพื่อนายไม่อยากให้พี่ไป”
“ก็ไม่ได้อยากให้ไปนักหรอก แต่จะขัดคุณป๋าได้รึไง.. ช่างเถอะ! ถ้าไม่มาวันนี้วันอื่นก็ต้องมาอยู่ดีอยากทำอะไรก็ทำไปเถอะไม่ใช่เรื่องของฮยอนซึงสักหน่อย” พอพูดอย่างนั้นเสร็จอยอนซึงก็เอนหลังพึงกับเบาะรถแล้วพลิกตัวหันข้างให้กับมินโฮ
สายตาของฮยอนซึงมองเหมออกไปนอกหน้าตา เป็นพอดีกับสัญญาไฟจารจรเป็นสีเขียวมายบัค เอ็กซ์เซเลโร่สีเงาดำก็ขับผ่านไป ชั่วเสี้ยววินาทีนั้นร่างบางรู้สึกว่าเหมือนถูกดวงตาสีทองอำพันเยี่ยงสัตว์ป่าจับจ้องมายันตัวเอง แขนบางกอดกระชับร่างกายตัวเองเมื่อรู้สึกขึ้นความเย็นยะเยือกแปลกๆ เขาสาบานได้ว่าเขาเห็นดวงตาสีอำพันคู่นั้นจริงๆ
“เป็นอะไร.. หนาวเหรอ?” มินโฮที่ลอบมองมาทางร่างบางอยู่เกือบตลอดเวลาถามขึ้นด้วยความเป็นห่วง
“อืม.. อยู่ดีๆก็รู้สึกเย็นขึ้นมานะ” แม้จะตอบคำถามของอีกคนแต่ร่างบางก็ไม่ได้หันมามองมินโฮอยู่ดี เพราะสายตาคู่หวานมองออกไปนอกรถอย่างล่องลอย หัวสมองพยายามประมวลถึงสิ่งที่เห็นไปเมื่อครู่ ..น่าแปลก!! ทั้งๆทีรถคันนั้นก็คิดฟิล์มดำมืดขนาดนั้นแล้วดวงตาคู่นั้นคืออะไร แล้วทำไมถึงรู้สึกคุ่นเคยกับสายตาแบบนั้น ทำไมถึงรู้สึกโหยหาถึงสายตาคู้นั้นมากมายขนาดนี้
ลีมินโฮที่สัมผัสได้ถึงความผิดแปลกไปของร่างบาง ไหนจะกลิ่นอายสาปสางของอมนุษย์นั้นอีก..
หาเจอแล้วสินะ!!
ไม่ผิดแน่.. กลิ่นสาปสางที่เข้าได้กลิ่นเมื่อครู่มันแตกต่างจากกลิ่นสาปสางของอมนุษย์ทั่วไป กลิ่นอันเป็นเอกลักษณ์ กลิ่นที่แสดงถึงพลังและอำนาจเหนือพวกพ้อง กลิ่นสาปสางของหมาป่าขนสีทอง ‘ยงจุนฮยอง’ ในที่สุดก็ได้เจอกันอีกครั้งและครั้งนี้เขาจะเปลี่ยนลิขิตสวรรค์ เขาจะแสดงให้พวกพ้องเหล่ามนุษย์หมาป่าเผ่าพันธุ์อันศักดิ์สิทธิ์ได้เห็นว่าใครกันแน่คือคนที่สวรรค์เลือกจริงๆ
“ฮยอนซึง!”
“หืม?” ร่างบางหันมาตามเสียงเรียก และเมื่อหันมาสายตาคู่สวยก็สบเข้ากับนัยน์ตาคมของร่างสูงที่ดูจะแน่วแน่มากกว่าทุกๆครั้งที่เคยได้มอง
“พี่รักฮยอนซึงนะ” มินโฮเอื้อมมือที่ว่างจากการจับพวงมาลับรถไปคว้าเอามือบางของอีกคนมาจับไว้แน่น มือแกร่งกระชับบีบมืออันบอบบางด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย ฮยอนซึงมองการกระทำของมินโฮด้วยสายตาที่เคลือบแคลงไปด้วยความสงสัย ไม่ใช่ไม่ชอบแต่เขาแค่ไม่เข้าใจว่าทำไมอีกคนต้องจริงจังขนาดนี้ ใช่ว่าฮยอนซึงจะไม่รู้ว่ามินโฮนั้นรู้สึกกับตัวเองเช่นไร แต่เขายังไม่มั่นใจว่าตัวเองก็รู้สึกไม่ต่างไปจากมินโฮรึเปล่า
“ไม่ต้องทำหน้าลำบากใจแบบนั้นหรอก พี่แค่อยากบอกให้นายรู้ไว้เท่านั้นเอง.. เพื่อวันหนึ่งพี่ไม่มีโอกาสได้พูดคำๆนี้อีกพี่จะได้ไม่ต้องมานั่งเสียใจที่ไม่ได้บอกมันกับนาย..”
“พูดบ้าอะไรของพี่นะ.. ขับรถไปเลย!!” แม้จะพูดแบบนั้นแต่มือบางของฮยอนซึงก็กระชับมือหนาที่กุมมือของตัวเองไว้แน่นเช่นกัน วันนี้อาจจะยังไม่รู้ว่ารู้สึกยังไงแต่อย่างน้อยๆก็มีความสุขแหละที่มีเขาอยู่ข้างๆกันแบบนี้
ขอใฟ้สนุกกับการอ่านนะครับ.. ^^'
ความคิดเห็น