คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : Lost my way : INTRO
And there's no remedy for memory your face is
ไม่มียารักษาอะไรเลย ที่จะทำให้ฉันลบภาพความทรงจำของคุณออกไป
Like a melody, it won't leave my head
เหมือนกับท่วงทำนอง ที่มันจะไม่จางหายไปออกจากหัวฉัน
Your soul is haunting me and telling me
จิตวิญาณของคุณยังคงอยู่กับฉัน และบอกกับฉันว่า
That everything is fine
ทุกอย่างจะผ่านพ้นไปได้ด้วยดี
But I wish I was dead
แต่ฉันหวังว่าฉันจะตาย..
บรรยากาศในตอนกลางคืนที่คยองซูมองเห็นผ่านกระจกใสนั้นมืดสนิท ต้นไม้ด้านนอกตัวบ้านตอนกลางวันมันให้ร่มเงาแต่พอตกกลางคืนกลับขับขานบรรยากาศให้ดูวิเวกวังเวงหนักกว่าเก่า
ทั้งบ้านเงียบเชียบไม่มีแม้กระทั่งเสียงลมพัดหรือสิ่งมีชีวิตใดๆเคลื่อนไหว คยองซูหายใจแผ่วเบาเหมือนคนใกล้จะตาย
ร่างเล็กนั่งนิ่งแววตาเหม่อลอยราวกับทะลุกำแพงออกไปนอกตัวบ้าน สายตาจับจุดไม่ได้ว่ากำลังมองสิ่งใดอยู่ บางทีอาจจะเป็นแค่ผนัง หรือมองลึกลงไปในยามราตรีนี้ ว่าจงอินคนรักของตัวเองหายไปอยู่ที่ไหน
คยองซูยังไม่อาบน้ำ ร่างเล็กสวมใส่เสื้อสีขาวโปร่งสบาย คู่กับกางเกงสีดำแบบผูกเอว นั่งอยู่บนเก้าอี้ที่ไม่มีพนักพิงสีขาว อยู่ตรงหน้าแกรนด์เปียโนสีขาวหลังใหญ่
เฟอร์นิเจอร์ภายในบ้านล้วนเป็นสีขาวโพลนหรือไม่ก็น้ำตาลอ่อน ข้าวของทุกชิ้นเป็นโทนสีเย็นสบายตา ไม่มีสีแดงสีเหลืองเขียวชมพูหรือฟ้า เพราะจงอินบอกว่าคยองซูเหมาะกับพวกมัน ความบริสุทธิ์และอ่อนเดียงสา เหมือนกับสีขาวที่ไม่มีวันแปดเปื้อนสิ่งใด
เสียงลมดังขึ้นท่ามกลางกระแสเสียงที่เงียบงันในยามดึกสงัด คยองซูเปิดหน้าต่างบานหนึ่งทิ้งเอาไว้ สายลมเย็นโกรกปะทะใบหน้า ในห้องเปียโนที่ผนังหนากว่าห้องอื่นเพราะจะได้ไม่มีเสียงรบกวนห้องข้างเคียง
คยองซูเดินเหมือนคนไร้วิญญาณเหมือนทั้งร่างมีเพียงแค่กายหยาบที่สั่งให้ตัวเองเคลื่อนไหว แขนเรียวเอื้อมไปดึงหน้าต่างลงมา หมุนตัวล็อคให้ยึดกระจกใสเอาไว้ ตรวจดูให้แน่ใจว่ามันปิดสนิทแล้ว ร่างบางก็กลับไปนั่งอยู่หน้าเปียโนเช่นเดิม
คยองซูเหยียดหลังตรง มือเล็กวางบนแป้นเปียโนตามตัวโน๊ต แล้วร่างเล็กก็เริ่มกดน้ำหนักลงไปในแต่ละแป้น จากโน๊ตเดียวให้กลายเป็นท่วงทำนอง จากจังหวะเชื่องช้ากลายเป็นกราดเกรี้ยว ส่งสัมผัสที่คันเหยียบแล้วกดมันให้เกิดเสียง สายเปียโนภายในดีดตัวและสั่นกว่าที่เคยเป็น เพราะคยองซูเล่นไม่ถูกหลัก กดน้ำหนักลงมาที่แป้นสีขาวมากเกินไปราวกับจ้องจะทำลายมัน
แล้วร่างเล็กก็สูดลมหายใจ จับมือของตัวเองให้เลิกสั่นแล้วกลับมาบรรเลงเพลงอีกครั้ง ด้วยสติที่หนักแน่นและมั่นคง คยองซูจะไม่เป็นเหมือนที่จงอินเคยพูดเอาไว้ มันต้องไม่ใช่
กางนิ้วทั้งห้าอีกครั้ง ค่อยๆกดมันลงไปให้เป็นทำนองเพลงที่เคยเล่น As slow as possible คยองซูไม่เคยเล่นเพลงนี้จบเลยซักครั้ง เพราะมันยาวมากเกินไป อาจจะยาวมากกว่าทั้งชีวิตของเขาเสียอีก บางทีถ้าได้เล่นเพลงนี้แล้วจบชีวิตลงไปพร้อมกันเลยก็คงดี
ที่ผนังมีรูปคู่ของจงอินและคยองซู ในภาพทั้งสองคนกำลังยิ้ม แต่กระจกมีรอยแตกที่เริ่มจากกึ่งกลางและขยายออกเป็นวงกลม เศษกระจกบางส่วนร่วงหล่นอยู่บนเปียโน
จงอินเป็นคนทำลายมัน ก่อนหน้านี้เราสองคนทะเลาะกันรุนแรง จงอินไม่กลับบ้านทิ้งให้คยองซูอยู่เพียงลำพังมาหลายวันแล้ว จงอินคงจะหายไปกับใครคนนั้น คนที่คยองซูเชื่อใจและยกให้เป็นเพื่อนสนิท แต่ทั้งสองกลับอยู่ในอ้อมกอดของกันและกัน มันทำให้คยองซูรู้สึกเหมือนตัวเองโง่เง่า เหมือนเขางอกออกมากลางหัว จงอินและใครคนนั้นก็คงจะมองเขาแบบนั้น
พวกคนทรยศ !
ไม่ว่าจะตั้งใจเล่นตามจังหวะอีกซักกี่ครั้ง ทุกครั้งที่นิ้วเรียวของคยองซูสัมผัสกับแป้นสีขาว ไล่ขยับต่อไปที่สีดำ หูของเขารู้ดีว่าท่วงทำนองแบบนี้มันไม่เหมือนในอดีต
ท่วงทำนองที่เคยมีได้เปลี่ยนแปลงไปตลอดกาล
“จงอินนนนนนนนนน ฮือ ไม่นะ อย่าทิ้งฉัน ไม่ จงอิน” หยดน้ำอุ่นร่วงเผาะลงมาจากปลายหางตากลม มันไหลเอ่อเหมือนน้ำทะเลที่กำลังถูกลมพัดขึ้นฝั่ง โหมกระหน่ำและรุนแรงราวจะขาดใจตาย
สองมือเล็กจิกเนื้อหนังตัวเองอย่างอ่อนล้า ผิวสีขาวขึ้นรอยเล็บเด่นชัด เหตุที่จงอินทิ้งไป เพราะท่วงทำนองที่แปรเปลี่ยน ไม่ว่าคยองซูจะกดปลายนิ้วลงไปที่เปียโนอีกซักกี่ครั้ง เขาก็รู้ว่าสิ่งที่ตัวเองกำลังทำมันผิด
“ฮึก … ม่ายยยยยยยยย.. จงอิน ฮืออ จงอิน”
ชื่อของคนรักพรั่งพรูออกมาจากริมฝีปากซีดเซียว ความทรงจำไหลย้อนเข้ามาเหมือนหน้าหนังสือที่ถูกลมพัดตั้งแต่หน้าแรก แล้วเรื่องราวก็ค่อยๆฉายชัดขึ้นมาในสมอง เพียงแต่มันไม่ได้เกิดขึ้นอีกแล้ว ทุกอย่างจบลงเหมือนหน้าสุดท้ายที่ลมพัดจนหนังสือปิดพอดิบพอดี
กระจกสะท้อนกับแสงไฟ ดวงตากลมโตจ้องมองมัน มันสะท้อนแสงวิบวับเหมือนเรียกร้องให้ คยองซูยิ่งขยับเข้าไปใกล้มันมากขึ้นอีก เหมือนมีมนต์สะกดที่ทำให้งงงัน
ความอ่อนแอไม่สามารถต่อกรกับปีศาจที่กำลังยั่วยุปลุกปั่นด้านมืดในตัวให้ลุกออกมาโลดแล่น มันวิ่งเล่นไปมาอย่างย่ามใจเมื่อคยองซูหยิบเศษกระจกบิดเบี้ยวแต่ขนาดของมันก็มากพอๆกับใบมีด และคมกริบมากกว่าด้วยซ้ำ
เลือดสีแดง สีสันที่ไม่มีอยู่ในห้องนี้มาก่อน ในบ้านนี้ก็ไม่มี แต่ตอนนี้มันไหลออกมาจากแขนเล็กของคยองซู เลือดสีแดงฉานเปลี่ยนที่จากผิวเนื้ออ่อนหยดลงไปบนแป้นเปียโนสีขาว เลอะหลังเปียโนที่เป็นสีขาวอีกเช่นกัน กระเบื้องสีขาวก็ถูกสีแดงย้อมจนแปดเปื้อน
ไม่บริสุทธิ์อีกต่อไปแล้ว
เลือดยังคงรินไหล เหมือนน้ำตาที่ยังคงหลั่งริน ความเจ็บปวดในใจไม่เคยหยุดพัก การทำร้ายตัวเองไม่อาจช่วยเยียวยาแผลเหวอะหวะภายในใจที่จงอินก้าวออกจากบ้านไป แล้วแขนที่เคยไร้ริ้วรอยก็มีสีแดงสดไหลเอ่อเป็นทางยาว คยองซูเจ็บทั้งกาย เจ็บทั้งใจ …
ความบริสุทธิ์ถูกย้อมสีตลอดกาล…
***** Lost my way *****
TALK
อินโทรเป็นไปแบบก็ไม่สั้นมากนะ #หรอ 5555 เหมือนมาเร็วเคลมเร็ว
ไม่ค่อยพูดถึงเรื่องราวเท่าไร อ่านแล้วงงก็อย่าได้แปลกใจ
มันเป็นอินโทรไง ต้องอ่านต่อ อุอิ 5555
เทย่าฝากเรื่องนี้ด้วยนะคะ จุ๊บๆ คือถามว่ามันจะโหดมากมั้ย
ก็ไม่มากมั้ง #หรอ แต่ว่ามันดราม่าและหม่นหมองอะ 555
ไม่เคยแต่งแนวประมาณนี้มาก่อน แต่จะลองดูนะคะ เลาจะสู้ ฮึบๆ
ใครคือคนทรยศ #ก็ไม่รู้สินะ 5555
กรีดข้อมือนี่ไม่ดีนะคะ พูดเลออ อย่าเอาอย่างนะ งิงิ
เรื่องนี้ก็น่าจะเป็นไคโด้เดียวๆไปเยยข่า แต่งพร้อมกันกับเรื่องของเทาฮุน
เทย่าก็บอกตัวเองว่าจะไม่ดองเค็ม จะพยายามเอาให้รอดฝั่ง
เป็นกำลังใจให้เทย่าด้วยนะคะ งุ้งง
สครีมฟิค #ฟิคซาดิส ได้เสมอเลยค่ะ จะตามอ่านแม้ยามฝัน
พูดคุยกับเทย่าได้ที่ @TEYA_Wu
ความคิดเห็น