ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Triple B : Bad Blue Blood คำสาปสีน้ำเงิน [HAEEUN + WONKYU]

    ลำดับตอนที่ #2 : Chapter 1 : Beginning & Ending การเริ่มและดับไป

    • อัปเดตล่าสุด 27 ก.ย. 56


    Chapter 1 :  Beginning & Ending การเริ่มและดับไป

    เช้าวันอาทิตย์ ที่  24 พฤศจิกายน 2013  เวลา 15.00 ....

     และนี่ก็อีกหนึ่งวันที่คนที่อาศัยที่ย่านนี้จะเห็น เด็กหนุ่มร่างเล็ก ผิวพรรณสะอาด ยืนเงยหน้ามองท้องฟ้ากลางสวนสาธารณะใจกลางเมือง ถ้าดูผิวเผินแล้วก็แค่เด็กหนุ่มที่ยืนมองก้องเมฆที่เปลี่ยนไปอย่างกับอารมณ์ของคนที่สามารถเปลี่ยนได้ตลอดเวลา แต่ความจริงแล้ว...ใครจะรู้

    ว่า...เด็กหนุ่มคนนี้ เงยหน้าขึ้นมาเพราะไม่อยากให้น้ำตามันไหลตกพื้น....ก็เท่านั้นเอง

    ผมชื่อ ลี ฮยอกแจครับ ความจริงที่ผมยืนทำอะไรบ้าๆอย่างนี้ทุกวัน ก็เพราะผมมาตามนัด ...มีคนนัดผมไว้  แต่ก็นะ เขาคนนั้นไม่มาผมก็ดันหลอกตัวเองว่า...สักวันเขาต้องมา  กลายเป็นว่า ในทุกๆวันอาทิตย์ผมจะมา...ตามนัด เพื่อรอใครบางคน....ที่นี่  ที่เดิมของ...เรา เฮ้อ..ผมจะใช้คำว่า “เรา”ได้อีกนานเท่าไรละ

    “นี่...ฮยอกแจ..”  และเสียงใครบางคนที่แสนจะคุ้นเคย ครับ...เขาเรียกชื่อของผม ทั้งที่คนปกติถ้ามีคนเรียกจะต้องรีบหันไปหา....แต่ผม...ผมไม่กล้าที่จะหันไป เพราะกลัว..กลัวอะไรบางอย่าง....คำคำนั้น...ขออย่าให้ออกจากปากเขาเลย..นะ.....ขอร้องล่ะ

     

    “ฉันไม่ได้รักนายแล้ว...ขอโทษนะ....เราจบกันแค่นี้เถอะ” เขาเอ่ยสั้นๆแล้วเดินจากไป แค่นี้...คำพูดสั้นๆแค่นี้

    ผมรอเขาเสมอมา...เพื่อให้เขามาบอกเลิกผมอย่างนี้จริงๆเหรอ..

     

    “อะ..อ่อ..อืม...” ที่ผมเอ่ยอย่างนี้ไม่ใช่เพราะว่าผมอยากจะเลิกกับเขาหรอกนะครับ...แค่สมองของผมมันดับวูบไปหมด ผมไม่รู้ว่าผมพูดอะไร ผมไม่รู้ว่าผมยืนนิ่งทำไม...และผมก็ไม่รู้ว่าน้ำตามันไหลออกมาตั้งแต่ตอนไหน

    และผมก็ไม่มีแม้แต่แรงที่...จะกอดเขาเป็นครั้งสุดท้าย

     

    ทั้งที่มัน....เพิ่งจะแค่เริ่มต้นเอง

    “นายมันไร้ค่า .....”

    “ไม่มีใครรักนายหรอก”

    “นายมันโง่...ที่รักคนที่ไม่มีทางเป็นไปได้”

    และมันก็จบลง....โดยที่ผมเองก็ไม่ได้เต็มใจให้มันเป็นแบบนี้สักนิด

    +++++++++++++

     

     

    Kyu’s side  :  ก็แค่เล่นๆ...จะอะไรกับฉันมากมาย

     

    ทันทีที่ผมก้าวจากมา...ผมไม่มีวันจะมาเสียใจกับเรื่องแบบนี้หรอก

     ไม่แม้แต่จะคิดว่าจะหันหลังกลับไป

     

    “เฮ้ย...คยูฮยอน มึงคิดดีแล้วเหรอว่ะ?  ฮยอกแจแม่งน่าแดกมากเลยนะเว้ย ทำไมจู่ๆเลิกกับหมอนั่นละว่ะ กูล่ะงงจริงๆ?  ” เสียงจากเพื่อนร่วมวงเหล้าของผมทักท้วงในสิ่งที่ผมตัดสินใจปล่อยมือ  ไม่ใช่สิ..ผมไม่ได้รักฮยอกแจตั้งแต่ต้นหรอก เรื่องนี้มันเกิดขึ้นเพราะความสนุก ”ชั่ววูบ” ก็เท่านั้นเอง

    “พวกมึงจะคิดอะไรมากมายว่ะ คนอย่างโจว คยูฮยอน จะมาคบอะไรกับคนน่าเบื่อๆอย่างนั้นว่ะ เอ้า! ชนแก้วๆ”  ผมก็แค่...เห็นเขาอยู่คนเดียว ผมก็ว่าง ก็แค่คุยเล่นๆก็แค่นั้นละ ฮยอกแจนั่นกลับคิดอะไรมากมาย

    “ก็แค่คุยด้วย ทำไมต้องมาอะไรกับกูมากมายว่ะ  ” ผมพึมพำก่อนจะกระดกแก้วชักพาน้ำสีอำพันรสบาดคอเข้าปาก  ผมไม่อยากมีพันธะอะไรทั้งนั้น เล่นๆ เบื่อก็ไม่คุย..มันก็ไม่เห็นผิดอะไรนิ ในเมื่อ โจว คยูฮยอน นักศึกษาหัวกะทิ  รูปหล่อพ่อรวย  คนอย่างผมมีเสน่ห์มากพอที่จะให้ใครก็ได้มาหลงรัก   ผมไม่สนว่าเขาจะมีน้ำตา ผมไม่สนว่าเขาเสียใจ และผมก็ไม่สนด้วย เพราะผมไม่ได้รู้สึกอะไรด้วย...สักนิด

    ผมไม่ได้เลวนะ...แค่เลือกได้ และก็ ทิ้งได้ ก็เท่านั้น...

     

     

    จุดเริ่มต้น...

    วันที่ 14 สิงหาคม 2012  เวลา 17.23 น. ณ สวนสาธารณะแห่งหนึ่ง

    “แง่งๆ บ๊อก ...บ๊อก..”  ดูเหมือนว่าเชือกของลูกหมาตัวเล็กจะติดกับขาเก้าอี้ มันงอแงวิ่งวนใต้เก้าอี้ในสวนสาธารณะพร้อมส่งเสียงคล้ายจะรอคนใจดีแถมหน้าตาดีเป็นบ้ามาปลดเชือกที่ติดอยู่ออก...มันคงต้องการอิสระสินะ  วันนี้ผมไม่มีนัดที่ไหนเลยกะว่าจะมากินไอศกรีมในวันศุกร์สุดสัปดาห์  ก็นั่นสิ งานที่อาจารย์สั่งมันเยอะมากจนคนร่างกะร๋องอย่างผมแทบสิ้นลม

    “เอ๊ะ!! นั่นมันเสียงลูกหมานิ ลูกหมาจะมาอยู่แถวได้ไงเนี่ย    มานี่ๆ เดี๋ยวโอปป้าสุดหล่อเกาะเชือกให้...” ลี ฮยอกแจ แม้ว่าชื่อของผมจะดูตลกไปสักหน่อย แต่ก็นะ...ของอย่างนี่มันต้องดูที่จิตใจ ผมมั่นใจเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ว่าผมเป็นคนดี ไม่แพ้ใครๆในโลกแน่   ขณะที่ผมอุ้มเจ้าลูกหมาสีขาวมาวางบนตักไปพร้อมๆกับกินไอศกรีมรอเจ้าของมันมารับ  ผมขอตั้งชื่อเจ้าตัวนี้ว่า “หมาน้อย” ...ก็ไม่รู้สิ ผมคิดอะไรไม่ออกนิหน่า  แล้วเมื่อไหรเจ้าของเจ้า “หมาน้อย” จะมาสักที ผมรอนานๆอย่างนี้ยุงเจาะผมจนพรุนแล้วนะเนี่ย

    “เจ้าของแกนี่เป็นคนยังไงนะ ทิ้งให้ลูกหมาน่ารักอยู่ตัวเดียวลำพังได้ไง  ใจร้ายจังเนอะ”   ผมก็บ้านะ มานั่งคุยกับหมาได้ไง สงสัยไอติม ไอติมมันต้องมีพิษแน่ๆ ปกติผมไม่ได้บ้าอย่างนี้นะครับ ผมออกจะเรียบร้อย น่ารัก ราศ๊เมถุน เล่นกีต้าร์ได้ ว่ายน้ำเป็น และเปล่งประกายปล่อยแสงดั่งเพชรอันมีค่า นี่ผมพร่ามอะไรเนี่ย =*=

    “เจ้าของมันหล่อน่ะครับ....ขอหมาผมคืนด้วย” ยังไม่ทันที่ผมจะได้เจอเจ้าของเสียงคำพูดที่ห้วนๆนั้น ประโยคที่เขาคนนั้นพูด ทำให้ผมอดเกลียดเขาไม่ได้จริงๆ คนอะไรกัน! อุตส่าห์ดูหมาให้ ยังจะมาปล่อยหมาในปากมาเห่าคนอื่นอีก ชิ!
     

     “ผมชื่อโจว คยูฮยอน  ส่วนนั่น มิฮวา หมาของพี่สาวผม และผมไม่ได้จะทิ้งมัน แค่ลืมไว้...ก็เท่านั้น”   ไอ้เด็กคนนี้มาปุ๊บก็เอาแต่พูดๆ แถมยังแย่งเจ้าหมาน้อยที่นั่งอย่างสบายบนตักของผมไป ดูเหมือนมันจะอยากอยู่กับคนน่ารักๆ แบบผม มากกว่าไอ้เด็กปากร้ายอย่างหมอนั่น 

    “นี่นาย โจว คยูยาน คยูฮยอนอะไรก็ช่าง  แต่นายก็น่าจะขอบคุณฉันสักคำสิ คนอุตส่าห์ดูเจ้าหมาน้อยให้อ่ะ !! ไม่รู้ว่าสีหน้ากวนประสาทของไอ้เด็กปากร้ายหรืออะไรที่ดลใจให้ผม ของขึ้น ลุกมาตะโกนไม่อายผู้คน ก็ใช่ไง ก็หมอนี่มันไม่รู้จักสัมมาคารวะเอง ผมก็จะเป็นผู้พิทักษ์ความถูกต้องลงมือสั่งสอนหมอนั่นเอง

    “และคุณจะให้ผมกราบขอโทษตรงนี้เลยไหม? ห๊า?... ” แหนะ....หมอนั่นยังมาพ่นคำพูดกวนอารมณ์บูดของผมต่อไป แต่ก็ว่าเถอะนะ...ผมจะมาเอาอะไรกับคนแปลกหน้า...หน้าแปลกๆแบบนี้ด้วย

    “อะไรก็ช่างนายเถอะ เอาหมาของนายไป ฉันก็จะกลับ มืดแล้ว อันตราย" ผมพูดตัดบทไปอย่างนั้น เพราะสั่งสอนไปก็ดูท่าทางจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นหรอก เสียน้ำลายเปล่าๆ เก็บเสียงเพราะๆไว้ไปร้องเกะกับทึกฮยองดีกว่า อย่างน้อยทึกฮยองก็เลี้ยงไอศกรีมผม ดูผมจะขี้งกนะครับ ...แต่ผมเป็นพ่อหนุ่มรูปหล่อแถมหน้าตาดีเป็นบ้านะเออ

    “เดี๋ยว!! ” เสียงหมอนั่นลั่นคำให้ผมหยุด จริงๆผมก็หยุดอ่ะนะ...แต่ไม่อยากจะหันไป เสียฟอร์ม = =+++

    “ว่าไง” ผมก็พูดถามออกไปโดยที่ไม่หันหลังไป ถึงผมจะเป็นคนน่ารักๆแบบนี้ แต่ผมก็มีฟอร์มของผม จะรีบหันไปหาไอ้เด็กบ้านี้ไม่ได้

    “นี่เบอร์โทรผม ไปล่ะ” หมอนั่นให้กระดาษใบเล็กๆมาพร้อมกับตัวเลขลางๆในกระดาษ....แต่มันก็ทำให้ผมยิ้ม แล้วไอ้เด็กปากร้ายนั่นก็อุ้มเจ้าน้องหมาน้อยหายไปในความมืด ทิ้งไว้แต่รอยยิ้มน้อยๆที่เริ่มปรากฏบนในหน้าของผม

     “ไอ้หมอนี่มันจีบผม เหรอ?”    ......

     



     

              หลังจากนั้น ผม และคยูฮยอนก็เริ่มคุยกัน เขาคนนั้นดูเอาใจใส่ผม ปากหวานและเทคแคร์ผมมาก ซึ่งแตกต่างจากครั้งแรกที่เราเจอกัน จนผม...เผลอใจไปรักไอ้เด็กปากเสียนั่น รักไปซะแล้ว.... ดูเหมือนเรื่องราวมันจะเริ่มด้วยความประทับใจในแง่ร้ายๆแล้วจะจบลงด้วยดีใช่ไหมครับ....


               จริงๆแล้วนี่มันเพิ่งจะเริ่มเรื่องราวที่แสนสาหัสที่สุดในชีวิตของผม...รู้ไหม ทำไมผมถึงเอ่ยคำว่า “ที่สุดในชีวิต” ของผมได้ละครับ....ก็เพราะหลังจากเรื่องราวนี้ขึ้น ผมก็เลือกที่จบชีวิตของผมลง ดังนั้นคงไม่มีเรื่องอะไรร้ายแรงและแสนสาหัสเท่ากับเรื่องนี้อีกแล้วละครับ

    “ระหว่างเดทแรกของเรา....เขาคนนั้นพยายามไม่ให้ผมรู้.........ว่าเขานัดอีกคนของเขามาเดทเหมือนกัน”

     

    “ระหว่างที่เราคุยโทรศัพท์กัน......เขาคนนั้นแอบประชุมสายผมกับอีกคนของเขา

     

    “ระหว่างที่เขาคนนั้นกอดผม....มือของเขาคนนั้นตอบข้อความว่ารักให้...อีกคนของเขา                         

     

    “ระหว่างที่เขาคนนั้นหลับ....เขาละเมอเป็นชื่ออีกคนของเขา

     

    “เขาคนนั้นบันทึกชื่อของผมว่า ชากี.....แต่เขาก็บันทึกชื่ออีกคนของเขาว่า...ที่รัก”

     

    “เขาคนนั้นบอกผมว่ามีติวหนังสือ....ผมเห็นเขาเดินจูงมือกับอีกคนของเขา

     

    “ระหว่างที่เรามีอะไรกัน....เขาคนนั้นครางชื่อ อีกคนของเขา.......ไม่ใช่ชื่อผม”

     

     

    วันที่ 14  สิงหาคม 2013 วันครบรอบของเรา  ที่สวนสาธารณะ เวลา 18:25

     

             ระหว่าง 1 ปีที่คบกัน..เรื่องดีดีมีไม่เท่าเรื่องทำให้เสืยใจ ผมกลายเป็นคนบ้าที่ยอมให้เขาคนนั้นปิดบังเรื่องแบบนี้มาตลอด ทั้งที่ผมเห็นกับตา  ผมได้ยินกับหู และผมรับรู้ได้ด้วยใจของผมเองว่า...เขาคบผมเพื่อจะคบกับคนอื่นๆที่เป็นของเขาอีกคน   แต่ผมเลือกที่จะไม่ไปไหน....จนกระทั่งเกราะที่คอยปกป้องผมให้สู้และคอยประคองความรักของ เรา ให้ดำเนินต่อไป มันแตก มันแตกกระจายด้วยมือของผมเอง

    “ฉันทนเรื่องแบบนี้ไม่ได้แล้วนะคยูฮยอน...นายจะเอายังไง...เลือกฉันหรืออีกคนของนาย” ทั้งที่ผมคิดว่าเสมอว่าถ้าเขาต้องเลือกว่าจะอยู่กับใคร ผมมั่นใจว่าเขาต้องเลือกผม...เขาคนนั้นรักผม จริงจังกับผม เลือกผมคนเดียว  ผมเลยเอ่ยคำคำนี้ออกมาอย่างมั่นใจว่าคำตอบ ต้องเป็น ผม..


    “ฉันจะมีใคร ที่ไหน อย่างไง นายไม่มีสิทธิมาถามหรือร้องขออะไรทั้งนั้น สำคัญตัวเองไปหรือเปล่า ลี ฮยอกแจ.. ถ้ารับไม่ได้ก็เลิกๆกันไปให้จบๆเลย”  เขาคนนั้นพูดเสร็จก็เดินหายไปในทางมืด ที่นี่คือสวนสาธารณะที่เดิมที่เราสองคนเจอกันครั้งแรกและเจอกันในทุกๆวันอาทิตย์ กลายว่าผมต้องเสียเขาไปในวันนี้ด้วย...เหรอ? ทำไม...ทั้งที่ผมไม่ได้ทำอะไรผิด ไม่ได้นอกใจ ไม่ได้ไม่เอาใจใส่   ไม่ได้ทิ้งเขา...แต่ทำไมเรื่องมันกลายเป็น...มีแต่ผมล่ะ  ที่เสียใจ


    ผมมาที่นี่ทุกวันอาทิตย์...ที่สวนนี่...เพราะคิดว่านัดของเรายังเหมือนเดิม แต่ผมก็ได้แต่รอ ผมนั่งกร่อยที่เก้าอี้ตัวเดิมที่เจ้ามิฮวามารอเจ้าของของมัน....เหมือนกับผมที่รอเจ้าของของผม..แต่ต่างกันตรงที่เขาคนนั้นกลับมาหามิฮวา แต่ไม่กลับมาหาผม

          “ฉันไม่ได้รักนายแล้ว...ขอโทษนะ....เราจบกันแค่นี้เถอะ” เขาเอ่ยสั้นๆแล้วเดินจากไป แค่นี้...คำพูดสั้นๆแค่นี้  แต่มันทำให้หัวใจผมแทบจะหยุด..หยุดเต้น และอยากตายไปเสียดื้อๆ  จุดเริ่มต้นมันก็แค่นี้.....แต่จุดจบทำไมมันทำร้ายใจผมแสนสาหัสกว่ากว่าตอนเริ่มซะหาที่เปรียบไม่ได้เลยละ...

     

    ผมว่าผมเป็นคนดีแล้ว    ทำไมไม่มีเรื่องดีดีกับผมบ้าง

     

    ไม่ให้ผมอยู่อย่างมีความสุขนานๆบ้าง...สวรรค์ไม่มีจริง

     

    อย่าเชื่อ...มันไม่มีหรอก

     

    “ลาก่อน...”  และผมก็เลือกที่จะทิ้งความเจ็บปวดไว้ที่โลกใบนี้ กับคำบอกลาสั้นๆ...

     







     

     สารจากไรเตอร์
               
       วันนี้คือวันพิเศษ ไรเตอร์เลยเร่งทำเพจฟิคให้โอเค เพื่อเป็นของขวัญให้ทั้งฮยอกแจโอปป้าและตัวไรเตอร์ด้วย วันดีดีก็ควรทำอะไรพิเศษไว้ให้ชื่นใจ จริงมั้ยคะ? ฟิคเรื่องสามบี ก็อย่าเพิ่งด่วนตัดสินใจว่ามันจะจบยังไง เพราะมันเพิ่งแค่เริ่มต้นค่ะ  

    P.S. ซ้ำนะคะ ตอนที่ 1 แก้ไขมากกว่า 70 เปอร์เซ็นต์ ช่วยรักฟิคเรื่องนี้มากๆนะคะ ^^

    the_pada

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×