คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #19 : ll THE WIZARD ll Chapter 17
THE WIZARD 17
ภาพเบื้องหน้าในตอนกลางคืนที่เต็มไปด้วยแสงไฟจากปราสาทต่างๆ สามารถมองเห็นมันได้จากระเบียงห้องในยามค่ำคืนนี้ได้เป็นอย่างดี กวาดม่านตากลมมองไปรอบๆก็สูดอากาศเข้าปอดลึกๆเพื่อรับอากาศบริสุทธิ์ในยามวิกาลเช่นนี้ หากแต่เพราะอะไรก็ไม่รู้ที่ทำให้ความรู้สึกที่เป็นอยู่มันไม่ดีเอาเสียเลย รุ่มร้อนใจอย่างหาสาเหตุไม่ได้ทั้งยังเหมือนมีลางบางอย่างพยายามบอกเหตุอยู่ร่ำไร
อยู่ในห้วงความคิดของตัวเองได้ไม่นาน มือหนาที่สวมกอดมาจากทางด้านหลังก็ทำเอาร่างกายบางต้องสะดุ้งน้อยๆเมื่อได้รับสัมผัส รับรู้ได้ถึงความอบอุ่นที่แผ่นหลังจากการโอบกอดของอีกคนก็ทำให้ความกังวลเมื่อครู่พลันจางหายไปได้ในทันที
“ดึกแล้วนะ ออกมายืนทำอะไรอยู่ตรงนี้?” เสียงทุ้มของคนที่อยู่ด้านหลังเอ่ยถาม ไม่วายก็กดปลายจมูกโด่งลงที่ซอกคอขาวเนียนนั้นจนอีกคนต้องเบือนหนีน้อยๆ อย่างน่าเอ็นดู
“แค่รู้สึกไม่สบายใจ แต่ก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไรเหมือนกัน” ตอบกลับไปใบหน้าหวานก็เงยมองคนที่สูงกว่าช้าๆ ถึงจะบอกว่าไม่สบายใจหากแต่ก็ยังคงยิ้มไปให้กับคนรักตัวสูงอยู่เสมอเพื่อให้อีกคนไม่ต้องเป็นกังวลตามเขาไป
“ไม่เอาไม่คิดมากสิ ตอนนี้ดึกมากแล้ว ไปอาบน้ำนอนกันเถอะ”
“อื้ม”
ใบหน้าหวานพยักขึ้นลงให้เป็นคำตอบก่อนจะเดินเข้าห้องไปพร้อมกับคริสที่รั้งข้อมือของเขาให้เข้าไปพร้อมกัน เข้ามาในห้องก็ไม่รอช้าให้อีกคนสั่งอีกรอบ เลย์รีบจัดเสื้อผ้าเพื่อเข้าไปอาบน้ำในทันที ปล่อยให้คนตัวสูงได้แต่มองตามแผ่นหลังไปพร้อมกับรอยยิ้มบางที่แต้มอยู่บนใบหน้าหล่อ
เพียงแค่ประตูห้องน้ำปิดลง คริสก็รีบทำตามแผนที่เขาคิดมาตลอดทั้งวันอย่างไม่รีรอ ขายาวพาร่างตัวเองให้เดินไปที่ตู้เสื้อผ้าก่อนจะเปิดมันแล้วค้นหาสิ่งที่ต้องการอย่างลุกลน ควานหาได้ไม่นานกล่องสีดำกำมะหยี่ก็ติดมือหนาออกมาด้วย คริสรีบจัดการนำมันไปวางไว้บนเตียงของคนตัวเล็กในทันทีก่อนจะถลาไปล้มตัวลงนอนที่เตียงของตัวเองเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
.
.
ใช้เวลาไม่นานในการอาบน้ำ เลย์ที่ออกมาพร้อมกับชุดนอนตัวโปรดก็ถึงกับนึกแปลกใจเมื่อเดินมาถึงเตียงของตัวเอง หากแต่คนอย่างเลย์ก็ไม่ได้เข้าใจอะไรง่ายซะเลย คนตัวเล็กยกกล่องสีดำขึ้นมาดูก่อนจะวางมันไว้ที่หัวเตียงอย่างไม่คิดจะสนใจ
“ของนายหรือเปล่าคริส?” เอ่ยถามเสร็จเลย์ก็นั่งลงที่เตียงของตัวเองก่อนจะเอนพิงไปด้านหลังพลางหยิบหนังสือการ์ตูนขึ้นมาอ่านไปพรางๆ
“ของฉันมันก็ต้องอยู่ที่เตียงฉันสิ ของนายมั้ง” คริสแสร้งพูดออกไปหวังจะให้อีกคนได้เปิดกล่องสีดำนั้นออกดู หากแต่คนหน้าหวานที่เอาแต่อ่านหนังสือการ์ตูนอยู่ก็ไม่คิดอยากจะสนใจมันอยู่เหมือนเดิม
“ไม่ใช่ของฉันอ่ะ”
“ไม่ลองเปิดดูหน่อยหรอ?” เริ่มยากแล้วเมื่อเลย์ยังคงไม่ทำตามแผนของเขา ให้ตายเถอะว่าเป็นคนเข้าใจอะไรยากซะจริงๆ ถ้าต้องมาเซอร์ไพรส์แฟนแบบนี้ คริสบอกได้เลยว่าต้องคิดให้เยอะๆถ้าจะใช้มันกับเลย์
“ไม่ล่ะ! นายก็เปิดสิ” ม่านตากลมยังคงจดจ่ออยู่กับสิ่งตรงหน้าอย่างไม่ลดละ เลย์ค่อยๆเอนตัวลงนอนกับเตียงนุ่มไม่วายก็หัวเราะคิกคักไปกับเนื้อหาข้างในหนังสือการ์ตูนจนคริสเองก็เริ่มจะหมดความอดทนเสียแล้ว
“นายควรจะเปิดมันดูนะ อาจจะมีคนฝากมาให้นายก็ได้” คริสยังคงเร้าให้เลย์เปิดมันออกอยู่เหมือนเดิม จนเลย์ถึงกับนึกสงสัยในกิริยาท่าทางแปลกๆของคนรักหน้าหล่อ
“นายเป็นอะไรป๊ะเนี่ย? ดูแปลกๆนะคริส” พูดเสร็จมือบางก็พับหนังสือการ์ตูนเก็บทันที ไม่วายก็เหลือบมองอีกคนเป็นเชิงจับผิดจนคริสที่ถูกจ้องมองอยู่นั้นจำต้องหยิบตำราข้างหัวเตียงขึ้นมาอ่านเพื่อกลบเกลื่อน
“เปล๊า!” ตอบกลับไปไม่ได้รู้เลยว่ามันมีพิรุธแค่ไหน
“หรอ? เสียงสูงเชียวล่ะ” เอ่ยแซวเสร็จเลย์ก็เอื้อมมือไปหยิบหล่องกำมะหยี่สีดำขึ้นมาสำรวจอีกครั้งก่อนจะค่อยๆเปิดมันออกเพราะอีกคนที่อยู่อีกเตียงทำให้เขานึกสงสัยกับสิ่งที่อยู่ด้านในซะเหลือเกิน
เมื่อมือบางกำลังจะเปิดกล่องเล็กๆนั่น คริสก็ลุ้นตัวแทบเกร็งจนหายใจไม่ทั่วท้อง หากแต่คนที่เปิดมันออกดูกลับมองสิ่งที่อยู่ด้านในด้วยสวยตาที่ว่างเปล่า คริสบอกได้เลยว่าเหนื่อยมากกับการจะให้อะไรสักอย่างกับเลย์ ยื่นให้ตรงหน้าเลยยังจะง่ายกว่า
“ก็แค่สร้อย” เลย์พูดขึ้นก่อนจะเอาสร้อยสีเงินวาวขึ้นมามองให้ชัดๆอีกที สร้อยที่มีแหวนสีเดียวกันคล้องอยู่ด้วยกัน
“ใครว่ามันเป็นแค่สร้อย นายเนี่ยน้า...ช่วยเข้าใจอะไรให้มันง่ายๆหน่อยได้ไหม?” คริสถึงกับกลอกตาไปมาอย่างเหนื่อยใจ คริสว่าตัวเองก็ไม่ได้เนียนขนาดเลย์ดูไม่ออกนะ ก็นั่นแหละ เลย์หนิเนอะเข้าใจง่ายก็แปลกแล้ว
“แล้วฉันผิดรึไง?”
“นายไม่ผิดหรอก แต่ถ้านายจะเข้าใจสักทีว่าของในมือนั่นน่ะ ฉันตั้งใจซื้อให้นายสำหรับวันครบรอบสามเดือนของเรา”
“อย่างนั้นเองหรอ?” ใบหน้าหวานถึงกลับเจือนลงสนิทเมื่อได้รับรู้ว่าอีกคนตั้งใจจะเซอร์ไพรส์อะไรให้กับเขา และนั่นความรู้สึกผิดมันก็ถาโถมเขามาจนยิ้มแทบไม่ออก
“ก็ตั้งแต่เราคบกันมา ฉันก็ยังไม่เคยซื้ออะไรให้นายเลย ฉันเลยอยากให้เรามีอะไรที่มันคู่กันบ้าง” พูดเสร็จคริสก็ยกมือขึ้นล้วงเข้าไปในคอเสื้อของตัวเองก่อนจะดึงสร้อยที่มีแหวนคล้องอยู่แบบเดียวกันกับที่ซื้อให้คนตัวเล็กขึ้นมาโชว์
“สร้อยเส้นนี้ฉันซื้อมาสองเส้นเพื่อให้เราใส่คู่กัน ส่วนแหวนที่คล้องอยู่กับสร้อยนั่นน่ะ ของนายจะสลักชื่อฉันส่วนของฉันจะสลักชื่อนาย นั่นมันก็แสดงว่าเราเป็นของกันและกัน และถ้าฉันมองชื่อที่แหวนมันจะทำให้ฉันคิดถึงนายตลอดเวลา”
“ขอบคุณมากนะคริส” สิ้นเสียงทุ้มหยาดน้ำสีใสก็ก่อตัวขึ้นอย่างไม่ต้องสั่งมัน นัยน์ตาคู่สวยร้อนผ่าวเมื่อรู้สึกซาบซึ้งกับสิ่งที่อีกคนมอบให้ หากแต่เป็นเขาเองที่ก็มักไม่รู้อะไร ทั้งยังไม่คิดจะใส่ใจมันอีก
“ร้องไห้ทำไมหื้ม? ฉันก็ไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อย” ขายาวรีบพาร่างตัวเองให้เดินไปนั่งที่เตียงของคนรักในทันที รั้งร่างกายบางเข้ามาไว้แนบอกก่อนจะยกมือหนาลูบไปที่หัวทุยของอีกคนอย่างปลอบประโลม
“ฉันดีใจมาก ดีใจมากจริงๆ นายทำเพื่อฉันมาตลอดเลยนะคริส แต่ฉันกลับไม่สามารถทำอะไรเพื่อนายได้เลย” พูดอู้อี้กับอกแกร่งก็แอบเช็ดน้ำตาไปกับเสื้อตัวบางของอีกคน จนคริสเองต้องแอบลอบยิ้มกับอาการของคนตัวเล็กอยู่ตลอด
“แค่นายอยู่กับฉันมันก็เพียงพอแล้ว ไม่ต้องทำอะไรเพื่อฉันไปมากกว่านี้หรอก”
“ฉันรักนายนะคริส”
“ครับผม รักนายเหมือนกันนะ”
พูดเสร็จก็ค่อยๆผละออกจากอีกคน มือหนาเอื้อมไปหยิบสร้อยอีกเส้นจากมือของคนตัวเล็กมาไว้ ก่อนจะบรรจงช่วยใส่มันไปบนลำคอสวยอย่างเบามือ โน้มไปหน้าหล่อเข้าไปหาคนตัวเล็กก็กดจูบเบาๆที่หน้าผากให้ก่อนนอนเหมือนอย่างทุกวัน ก่อนจะเกลี่ยหยาดน้ำสีใสที่ไหลลงอาบข้างแก้มอมชมพูให้มันแห้งเหือดไป
“นอนกันเถอะ” รั้งคนตัวเล็กให้ล้มตัวลงนอนด้วยกัน คริสก็จัดการห่มผ้าให้กับอีกคน ทำจนเป็นกิจวัตรไม่ได้คิดว่ามันเป็นภาระเลยสักนิด ล้มตัวลงนอนได้ก็โอบกอดอีกคนไว้ในอกอุ่น มีคนหน้าหวานไว้ในอ้อมกอดอยู่เหมือนอย่างทุกวันก็อุ่นใจไปอีกร้อยเท่า
...THE WIZARD…
“ดีโอ ฉันมีอะไรจะบอกแหละ” ไคที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ ละใบหน้าออกจากคอมพิวเตอร์บนโต๊ะอ่านหนังสือได้ก็หันกลับไปพูดกับคนรักตัวเล็กที่นั่งอยู่อีกโต๊ะในทันที
“อะไร?” ถามกลับไปก็ไม่ได้เงยหน้ามองคนรักผิวเข้มเลยสักนิด
“ฉัน....ผ่านการทดสอบแล้วนะ”
“แล้วไง?”
ดีโอยังคงทำเป็นไม่สนใจ คนตัวเล็กเอาแต่นั่งจดตัวหนังสือยิกๆไปบนสมุดที่มันว่างเปล่าจนตอนนี้ก็แทบไม่เหลือที่ว่างสีขาวของหน้ากระดาษหน้านั้นเลยแม้แต่นิดเดียว
“นายลืม? รางวัลที่บอกว่าจะให้ไง”
สิ้นเสียงทุ้มมือบางที่กำลังจดบทเรียนในวันพรุ่งนี้อยู่ก็ถึงกับชะงัก ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าให้สัญญาอะไรไว้กับคนรัก ดีโอลืมไปเสียสนิทเลย
“อ้อ! เดี๋ยวแปบนึงนะ ฉันขอจดเนื้อหาที่จะเรียนพรุ่งนี้ให้เสร็จก่อน” หันไปบอกคนผิวเข้มเสร็จ ใบหน้าน่ารักก็ก้มลงอีกครั้งไม่วายมือบางที่ยังจดอยู่ก็จดไปเรื่อยโดยไม่มีท่าทีว่าจะเสร็จสักที
“ดีโออ่า”
ไคเอ่ยเรียกชื่อคนรักเสียงแผ่วเบาที่ข้างใบหู ไม่วายก็เม้มมันเพื่อกลั่นแกล้งอีกคนก่อนจะกดปลายจมูกโด่งฝังไปบนพวงแก้มนิ่มเพื่อกอบโกยกลิ่นหอมประจำกายเล็กนั้นเข้าไปฟอดใหญ่ ไคต้องการรางวัลแล้วดีโอจะเข้าใจเขาไหม
“อื้อ...ไค แปบนึงได้ไหม จะเสร็จแล้วเนี่ย ถ้านายยอมไปนั่งรอดีๆ เชื่อเถอะว่ารางวัลที่ฉันจะให้ นายไม่ผิดหวังแน่!”
“โอเคครับ” ไม่คิดว่าจะง่าย ดีโอไม่คิดว่าไคจะยอมทำตามเขาง่ายขนาดนี้
มือบางปิดสมุดที่ไว้จดแล็กเชอร์ลงพลางจัดโต๊ะที่ใช้อ่านหนังสือทุกวันให้เป็นระเบียบ ดีโอไม่เคยสักครั้งที่จะละเลยกับสิ่งนี้ ไม่รู้ว่าอยู่กับคนที่ไม่เป็นระเบียบทั้งยังสกปรกอย่างไคไปได้ยังไง แต่นั่นดีโอก็บอกได้เลยว่าเขาผ่านมันมาได้แล้ว
หันใบหน้าน่ารักไปหาอีกคนที่นั่งรออยู่ ดีโอก็ถึงกับชั่งใจอยู่นาน หากแต่รางวัลที่จะให้ไค เขาก็ทำใจมันมาแล้วตั้งแต่แรก เดินเข้าไปหาคนผิวเข้มที่นั่งอยู่ปลายเตียง มือบางก็ค่อยๆยกขึ้นร่นเสื้อของตัวเองที่สวมใส่ให้ออกไปจากร่างกายในทันที และนั่นไคที่มองดูอยู่ก็ถึงกับเบิกตาโพลงด้วยความตกใจ
“นายจะทำอะไรดีโอ?”
“ให้รางวัลนายไง”
“แต่ฉันไม่ได้หวัง....ถ้านายไม่เต็มใจ”
“แต่ฉันเต็มใจจะให้นาย” พูดเสร็จคนตัวเล็กก็เดินเข้าไปคร่อมกายอีกคนในทันที บอกได้เลยว่าตั้งแต่เกิดมาดีโอก็ไม่เคยเลยสักครั้ง หากแต่พูดแล้ว คำไหนต้องคำนั้น
“พูดเองนะ แล้วอย่ามาเสียใจทีหลังล่ะ”
จากใบหน้าหล่อที่ดูจะตกใจในตอนแรกหากแต่ในตอนนี้มันกลับแปรเปลี่ยนไปเป็นคนละคนจนดีโอก็คิดอยากจะเปลี่ยนใจเอาเสียดื้อๆ นัยน์ตาคมที่ฉายแววเจ้าเล่ห์ของผู้มากประสบการณ์อย่างไคทำให้ดีโอรู้ได้ในทันทีว่าเขาคงไม่รอดคืนนี้ไปได้แน่ๆ
“อื้ม ก็พูดแล้วหนิ”
ตอบไปแค่นั้นร่างกายบางก็ถูกพลิกให้มาอยู่ใต้ร่างของไคเสียแล้ว ดีโอบอกได้คำเดียวว่ากลัวมากถึงมากที่สุด ถ้าไคไม่ทำหน้าโหยหาเขาขนาดนี้จะไม่รู้สึกอะไรเลย ให้ตายเถอะ แต่นี่เล่นทำเอาคนตัวเล็กเองก็เสียวสันหลังไปหมด
“………………………..”
“ฉันเปลี่ยนใจทันไหม?” ดีโอเอ่ยถามอีกครั้งอย่างไม่มั่นใจว่าเขาจะทำได้ ถึงอย่างนั้นก็ไม่เป็นผลอยู่แล้วเมื่อใบหน้าหล่อก็ส่ายไปมาอย่างไม่คิดจะยอม
ไคโน้มตัวเข้าหาอีกคนช้าๆอย่างไม่คิดจะรีบร้อน เชื่องช้าแต่ได้คุ้ม ไคยอมได้อยู่แล้ว โน้มเข้าไปใกล้อีกก็ประกบริมฝีปากไปกับกลีบปากอิ่มของคนใต้ร่างในทันที ดูดเม้มเบาๆก่อนจะเสี่ยมสอนคนตัวเล็กให้รู้จักอ้าปากเพื่อรับความหอมหวานที่ได้เท่าไหร่ก็ต้องโหยหามันอยู่ตลอด ไหนบอกว่าไม่คิดจะรีบร้อนไงไค ไหนบอกจะเชื่องช้าแล้วที่ลุกล้ำดีโอไปเร็วแบบนั้นมันคืออะไร
“ฉันบอกนายไปกี่ครั้งแล้วนะว่าฉันรักนายน่ะหื้ม? ดีโอ” ผละออกมาก็จ้องลึกไปในตาคู่สวยที่เปล่งประกายระยับ ยกมือขึ้นทาบไปบนใบหน้าน่ารักของคนใต้ร่างก็เกลี่ยนิ้วเบาๆไปบนพวงแก้มนิ้มอย่างลื่นมือ
“ใครจะไปนับกันเล่า”
“อ่า งั้นแสดงว่าฉันบอกรักนายบ่อยมากจนนายนับไม่ถ้วนเลยใช่ไหม?” ก้มลงไปจุมพิตแผ่วเบากับริมฝีปากเคลือบใสอีกครั้ง ไม่รอช้ามือหนาก็จัดการร่นเสื้อตัวบางของตัวเองไปให้พ้นทางด้วยเช่นกัน
ก้มลงลากริมฝีปากไปบนลำคอเรียวสวย ชั่งใจอยู่ชั่วครู่ว่าจะสร้างรอยตำหนิดีไหม หากแต่ก็ไม่ทันเสียแล้วเมื่ออารมณ์มันพาไปจนต้องสร้างรอยความเป็นเจ้าของเอาไว้ตราหน้าคนที่คิดจะเข้ามายุ่มย่ามกับคนรักของเขา เลื่อนริมฝีปากลงมาก็หยุดเล่นกับติ่งไตสีชมพูอ่อนให้อีกคนได้วูบหวามเล่น
“ไค ไม่เอานะ”
เสียงหวานครางออกมาในทันทีอย่างควบคุมไม่อยู่ แต่นั่นดีโอก็คิดว่าตัวเองยังพอมีสติและรับรู้ได้ว่าอีกคนกำลังทำอะไรไปบนร่างกายของเขา รู้สึกเกร็งไปทั่วท้องน้อยเมื่อมือหนาที่ลูบไล้ไปทั่วหน้าอกบางกำลังเลื่อนมันต่ำลงเรื่อยๆ ถึงหน้าท้องแบนราบดีโอก็ยิ่งเกร็งตัวเข้าไปอีก ถึงกับสั่นเทาเมื่อความกลัวมันเริ่มคืบคลานเข้ามา เลื่อนต้ำลงมาอีกก็รู้สึกได้ถึงความเย็นวาบหวิวเมื่ออีกคนก็ส่งมือหนามาปลดตะขอกางเกงของเขาให้อย่างถือวิสาสะ ผู้ชายผิวเข้มที่ทำให้ดีโอหลอมละลายทั้งเป็น
“ดีโอ....ดีโอ!” เสียงทุ้มเอ่ยเรียกคนรักอยู่นานสองนาน ก่อนจะต้องทึ้งหัวตัวเองไปอย่างรู้สึกหงุดหงิดเมื่ออุตส่าห์คิดว่าครั้งนี้จะได้ริมลองร่างกายหวานๆของอีกคน แต่ก็นั่นแหละ พระเจ้าไม่เข้าข้างเขาอีกแล้ว
“……………………..”
“ทำไมต้องมาเป็นลมตอนนี้ด้วยวะ!” เสียงทุ้มบ่นพึมพำกับตัวเองอย่างหัวเสีย ครั้งแรกของดีโอกลับไม่สำเร็จเมื่อความกลัวทำเอาคนตัวเล็กลมจับไปเสียก่อน เพราะความไม่เคยทำให้เขานึกกังวลเผลอเป็นลมไปจนไคถึงกลับอยากลักหลับคนที่นอนสบายใจเสียเดี๋ยวนั้นให้รู้แล้วรู้รอดไป
“……………………………”
“ดีโอนะดีโอ ฉันจะงอนนาย!”
…THE WIZARD…
ถึงจะอยู่ในอ้อมกอดที่อบอุ่นเหมือนอย่างทุกๆวัน หากแต่คนตัวเล็กก็กลับเอาแต่นอนดิ้นไปมาจนคนรักหน้าหล่อต้องลุกขึ้นมาดูอยู่ตลอด เลย์นอนกระสับกระส่ายเมื่อรู้สึกไม่ดีในค่ำคืนนี้ ความรู้สึกที่หาเหตุผลไม่ได้ว่าเพราะอะไร สุดท้ายก็ต้องลุกขึ้นนั่งในความมืดอย่างหมดหนทาง
“เป็นอะไรหรือเปล่า?” เสียงทุ้มเอ่ยถามในทันทีเมื่อเห็นเลย์ลุกขึ้นนั่ง ไม่วายก็ลุกขึ้นตามอีกคนอย่างนึกเป็นห่วง
“ฉันนอนไม่หลับเลยคริส ไม่รู้ว่าเป็นอะไร?”
“เป็นเพราะนายนอนบนเครื่องมาทั้งวันแล้วรึเปล่า?”
“ฉันไม่คิดแบบนั้นนะ ปกติฉันนอนหลับง่ายจะตายไป แต่วันนี้มันเหมือนมีอะไรสักอย่างให้ฉันคิดเต็มหัวไปหมดจนนอนไม่หลับ” เอ่ยบอกความรู้สึกอึดอัดใจให้คนรักฟังเสร็จ เลย์ก็หันไปมองใบหน้าหล่อที่แม้แต่ความมืดมิดก็ไม่สามารถปิดบังความคมคายของใบหน้านั้นไปได้เลย
“พยายามหลับตาแล้วอย่าคิดเรื่องอะไร ลองพยายามดูนะ” ไม่พูดเปล่าคริสยังโน้มตัวเข้าไปจุมพิตที่ริมฝีปากของอีกคนเป็นการปลอบโยนและนั่นเลย์ก็ต้องพยักหน้าตามที่คนตัวสูงกว่าแนะนำ
ตุ้ม!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
กริ๊ง!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
กำลังจะล้มตัวลงนอนอีกครั้ง เสียงคล้ายระเบิดที่ดังสนั่นหวั่นไหวกลับเรียกความสนใจให้คนทั้งคู่ต้องเด้งตัวขึ้นอีกครั้ง พร้อมทั้งเสียงสัญญาณเตือนภัยที่ไม่ใช่แค่ของปราสาทดราก้อนหากแต่มันดังขึ้นทุกปราสาทในโรงเรียนจนทุกคนต้องรีบออกไปดูว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่
เพียงแค่เปิดประตูห้องออกไปก็ถึงกับต้องขนยกแขนขึ้นป้องใบหน้าของตัวเองก่อนจะหลบความร้อนระอุที่แผ่เข้ามา ภาพเบื้องหน้าที่เต็มไปด้วยดวงไฟที่ล่วงลงมาจากฟากฟ้าทำให้เหล่านักเรียนต่างแตกตื่นกันเสียยกใหญ่เพราะไม่เคยได้พบกับเหตุการณ์ที่เป็นอยู่นี้เลยสักครั้ง
“แม็ก! มันเกิดอะไรขึ้น?” คริสเอ่ยถามคนเป็นพี่ทันทีเมื่อเห็นชางมินวิ่งออกมาจากห้องของเจ้าตัว ไม่วายสีหน้าท่าทางที่บ่งบอกได้เป็นอย่างดีของชางมินก็ทำให้คริสรู้ได้เลยว่าเรื่องที่เกิดขึ้นมันต้องร้ายแรงมากแน่นอน
“คาดว่าพวกพ่อมดดำคงมาบุกเราแล้วล่ะ พวกนายรีบเข้าไปเอาไม้คฑาแล้วออกมาเร็ว พวกเราต้องต่อสู้กับพวกมัน”
สิ้นเสียงทุ้มของคนเป็นพี่ชาย คริสก็ต้องขมวดคิ้วเข้าหากันด้วยความเป็นกังวล ก่อนจะเหลือบมองไปที่คนรักที่ดูจะผวากับเหตุการณ์ตรงหน้าไม่แพ้กัน นึกเป็นห่วงทั้งยังคิดไม่ตกว่าเรื่องอะไรจะเกิดขึ้นต่อจากนี้ไป
“นายโอเคไหมเลย์?”
“อ...อื้ม คิดว่ายังพอไหว”
พูดเสร็จก็รีบเข้าไปในห้องพร้อมกับไม้คฑาคู่ใจที่ติดมือออกมาด้วย ทั้งสองรีบวิ่งลงไปชั้นล่างของปราสาท เดินไปก็พบกับเพื่อนรักอย่างไคและดีโอที่ก็ดูไม่รู้เรื่องรู้ราวกับเหตุการณ์ที่เป็นอยู่เหมือนกัน แต่นั่นก็ไม่คิดอะไรมากไปกว่านี้ พวกเขารีบกุรีกุจอไปรวมกลุ่มกับเหล่านักเรียนคนอื่นอย่างรวดเร็ว
“เลย์ระวัง!”
มือหนารีบรั้งข้อมือบางให้หลบลูกไฟที่พุ่งผ่านใบหน้าหวานของคนรักไปอย่างเฉียดฉิว ไม่วายก็นึกโมโหอย่างถึงที่สุดก่อนจะชี้ไม้คฑาที่ถืออยู่ไปใส่พวกพ่อมดดำที่หน้าตาแปลกประหลาดนั่นจนกระเด็นไปกระแทกกับพนังด้านหลังอย่างสะใจ
“พวกนาย! ตามมาทางนี้” เจ้าของตำแหน่งประธานของปราสาทดร้าก้อนรีบเอ่ยเรียกเด็กหนุ่มทั้งสองให้เข้าไปรวมกลุ่มในทันที ไม่วายทั้งมือทั้งเท้าก็เตะต่อยไอ้ตัวประหลาดน่ากลัวนั่นไปด้วยอย่างชำนาญ
เหตุการณ์ที่เป็นอยู่มันช่างวุ่นวายและชุนละมุนจนไม่รู้ว่าใครเป็นใคร เหล่าเด็กนักเรียนต่างต่อสู้กับอีกฝ่ายอย่างจริงจัง บ้างก็ได้รับบาดเจ็บไปแล้วเป็นจำนวนไม่น้อยหากแต่ก็ยังสู้สุดใจเพื่อเอาชีวิตรอด และนั่นเลย์ก็ไม่รอช้ารีบเข้าไปช่วยเพื่อนๆอีกแรงอย่างไม่มีแม้แต่ความกลัว
“เดี๋ยวเลย์!” ใบหน้าหวานหันกลับไปอีกครั้งเมื่อได้ยินเสียงทุ้มที่คุ้นเคยเอ่ยรั้งไว้เสียก่อน รู้สึกถึงสัมผัสนุ่มอุ่นจากเรียวปากของอีกคนที่หน้าผากบางก็ต้องยกยิ้มออกมาอย่างเปิดเผย แม้แต่เหตุการณ์หน้าสิ่วหน้าขวานแบบนี้คริสก็ยังทำให้เขาอุ่นใจได้เสมอ
“ระวังตัวด้วยนะ มีอะไรรีบตะโกนเรียกฉันทันทีเลย เข้าใจไหม?”
ใบหน้าหวานพยักตอบรับอย่างเข้าใจก่อนจะยกยิ้มให้กับคนรักอีกครั้งแล้วหันไปจัดการพวกพ่อมดที่เป็นแขกไม่ได้รับเชิญอย่างเผชิญหน้า
“พวกแกไม่ตายดีแน่!” กัดฟันกรอดอย่างนึกโมโห มือบางยกไม้คฑาขึ้นแล้วชี้ไปยังร่างที่กำลังวิ่งเข้ามาตรงหน้าเข้าจนมันกระเด็นออกไป วิ่งหลบหนีลูกไฟก็มองหาคนรักไปด้วย พอเห็นว่าคริสยังโอเคอยู่เลย์ก็ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งใจ
“เลย์! นายยังไม่เป็นอะไรใช่ไหม?” ดีโอเอ่ยถามหลังจากเดินมาประจันหน้ากับเลย์ เอ่ยถามเพื่อนหน้าหวานด้วยความเป็นห่วงก็ยกมือขึ้นปาดเหงื่อที่ไหลอาบใบหน้าน่ารักหลังจากผ่านการต่อสู้มา
“ฉันโอเค แต่พวกมันมีเยอะเกินไป พวกเราอาจจะไม่ไหว” เสียงหวานเอ่ยบอกออกไป เมื่อเห็นเหล่าพ่อมดดำที่กำลังจู่โจมเข้ามาก็รีบเบี่ยงตัวหลบลูกไฟอย่างลุกลน หอบหายใจหนักหน่วงเมื่อรู้สึกว่าร่างกายกำลังล้า ทั้งก่อนหน้าก็ยังนอนไม่หลับอีก ช่างเป็นลางบอกเหตุได้ดีจริงๆ
เลย์หันไปกระพริบตาส่งสัญญาณให้กับเพื่อนรักตากลมอย่างรู้กัน ก่อนจะแยกย้ายเพื่อต่อสู้กับพวกชายชุดดำจำนวนมากต่อไป
“อ๊ะ!”
เสียงหวานร้องออกมาด้วยความตกใจเมื่อรู้สึกได้ถึงแรงกอดรัดที่ลำคอทำเอาหายใจติดขัดจนอึดอัดไปหมด เลย์พยายามแกะมือที่รัดลำคอของเขาแน่นให้ออกไปเพื่อโกยลมหายใจเข้าปอด หากแต่ไอ้พ่อมดนั่นก็แรงเยอะซะเหลือเกิน กระทุ้งศอกเข้าที่หน้าท้องของมันก็แล้ว แต่ก็ยังไม่สะทกสะท้านเลยสักนิด
“เดี๋ยวก็สิ้นใจแล้วเด็กน้อย” เสียงแหบพร่าน่ากลัวกระซิบข้างใบหูสวยของเลย์อย่างแผ่วเบา เสียงที่ทั้งเยือกเย็นและน่ากลัวจนเลย์เองก็ถึงกับสั่นเทาด้วยความหวาดกลัว สายตาเริ่มพร่ามัวเมื่อช่องทางการหายใจเริ่มตีบตัน เพียงชั่ววูบภาพของคนรักก็ลอบเข้ามาในห้วงความคิดจนต้องร้องขออีกคนในใจ
...คริส ช่วยฉันด้วย...
แต่นั่นมันก็เป็นเพียงแค่คำขอที่อีกคนไม่ได้ยิน คริสไม่ได้ยินสิ่งที่เขาร้องเรียกเลยสักนิด เลย์พยายามดิ้นตัวออกจากอีกคนที่กอดรัดเขาอยู่จนสุดแรง ดิ้นพล่านเพราะรู้สึกได้ว่าลมหายใจเริ่มจะหมดลง สุดกำลังที่จะต่อต้าน อีกคนก็ออกแรงรัดคอเขาแน่นเข้าไปอีก เริ่มไม่ได้ยินเสียงรอบข้างที่ดังโครมครามอยู่ในตอนแรก เหมือนการได้ยินมันเริ่มดับไปเพราะออกซิเจนที่มีอยู่ในกายมันบางเบาเสียเหลือเกิน เลย์ไม่ไหวแล้ว เขากำลังจะตายใช่ไหม
“เฮือก!”
ในช่วงเวลาที่สติใกล้จะดับวูบ อยู่ๆลมหายใจจากไหนก็ไม่รู้กลับไหลเข้ามาให้เขามีชีวิตได้อีกครั้ง หยาดน้ำสีไหลเอ่อคลอหน่วงที่รอบดวงตากลม มันร้อนผ่าวจนรับรู้ได้ถึงน้ำอุ่นสีใสที่ไหลออกมาอาบข้างแก้ม รู้สึกใจหายเมื่อรับรู้อยู่เต็มอกว่าเกือบจะไม่รอด เกือบไม่ได้ตื่นมามองใบหน้าหล่อเหลาของคนรักอีกครั้ง
“นายไม่เป็นอะไรใช่ไหม ฉันขอโทษนะ ฉันขอโทษ” สิ้นเสียงทุ้ม เมื่อหันไปพบว่าเป็นใครที่เข้ามาช่วย เลย์ก็โผลเข้ากอดอีกคนในทันที เหลือบมองพ่อมดดำหน้าตาประหลาดที่นอนราบไปกับพื้นก็นึกโมโหขึ้นมาจนอยากจะฆ่าพวกมันให้ตายๆไปเสียหมด
“ฮือ..ฉันนึกว่าฉันจะตายซะแล้วคริส ฮึก…” แขนเล็กโอบกอดคนรักไว้แน่นอย่างนึกกลัว ซบใบหน้าไปกับอกแกร่งของคนรักก่อนจะร้องไห้โฮเพราะเหตุการณ์เมื่อครู่ทำเขาเกือบสติดับไปก็ไม่ปราน อุ่นใจเมื่อคนตัวสูงที่กำลังโอบกอดเขาอยู่ทำน้ำตาไหลอยู่ทุกครั้งไป ทุกครั้งที่เลย์ไม่มีใคร คริสมักจะโผล่มาช่วยเขาอยู่เสมอ
หากแต่แค่เงยใบหน้าหวานขึ้นอีกครั้ง ก็ถึงกับร้องตะโกนออกมาอย่างตื่นตะหนกเมื่อชายในชุดดำที่กำลังเดินเข้ามา ถือดาบด้ามยาวสีวาวหยุดยืนอยู่ด้านหลังของคริส คริสไม่ได้เห็นภาพนั้นเลยสักนิดหากแต่เป็นเลย์ที่กำลังกอดร่างสูงอยู่นั้นเห็นมันอย่างชัดเจนจนแทบค้างไปกับความกลัวที่ถาโถมเข้ามาอย่างรวดเร็ว
“คริส!”
เลย์ตะโกนออกไปสุดเสียงด้วยความหวาดหวั่น หลับตาปี๋กอดคนรักแน่นเมื่อไม่ทันแล้ว ชายในชุดดำง้างแขนที่ถือดาบคมขึ้นจนสุดตัวก่อนจะฟันมันลงมาที่คริสอย่างสุดแรง ไม่มีทางที่จะหลบทัน ไม่มีแม้แต่เวลาจะร้องขอชีวิตจากชายชุดดำคนนั้นได้เลย
พลั่ก!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
เสียงกระแทกอะไรสักอย่างทำให้เลย์ต้องเงยหน้าขึ้นไปมองเห็นการณ์ตรงหน้าอีกครั้ง ร่างของชายชุดดำที่กระเด็นไปกระแทกกับต้นไม้ข้างๆทำให้เลย์ก็รู้สึกโล่งใจขึ้นมาในทันที พร้อมกับคริสที่ก็หันไปมองตามด้วยเช่นกัน
“พวกนายไม่เป็นอะไรใช่ไหม?” บุคคลที่เข้ามาในเห็นเหตุการณ์นี้พอดีก็เห็นจะเป็นเด็กเซนทอร์ที่คริสเกลียดนักเกลียดหนา หากแต่ชายหนุ่มที่เขาบอกว่าเกลียดกลับเป็นบุคคลที่ช่วยชีวิตเขาให้รอดตายอย่างหวุดหวิดจนคริสเองก็ถึงกับเป็นหนี้บุญคุณคนตรงหน้าอยู่ในตอนนี้
“ขอบคุณมากนะเทา นายไม่เป็นอะไรใช่ไหมคริส?” เอ่ยขอบคุณเพื่อนต่างปราสาทเสร็จ ท้ายประโยคเลย์ก็หันไปถามคนรักหน้าหล่อด้วยความเป็นห่วง ท่าทางตื่นตระหนกของเลย์ทำให้คริสต้องยกมือหนาขึ้นลูบหัวทุยให้ใจเย็นลงอีกครั้ง ก่อนจะหันไปมองเทาอย่างเงียบๆเป็นเชิงขอบคุณ
“ฉันไม่เป็นอะไรแล้ว หยุดร้องไห้ได้แล้วนะ” มือหนายกขึ้นเกลี่ยน้ำตาให้กับอีกคนอย่างเบามือ ไม่วายก็ต้องหันไปสังเกตุรอบข้างเพื่อให้มั่นใจว่าจะไม่มีใครวิ่งเข้ามาทำร้ายพวกเขาได้อีก
“สัญญาสิว่าจะไม่ทิ้งฉันไปไหน ฉันกลัวนะคริส ฮึก...ฉันกลัว ฮื้อ...”
“อื้ม ฉันไม่ทิ้งนายไปไหนหรอกนะ แต่ตอนนี้เราต้องช่วยทุกคน อยู่ข้างๆฉันไว้” พูดเสร็จก็ยกไม้คฑาขึ้นยิงแสงไฟเข้าใส่ชายชุดดำที่กำลังวิ่งมาทางพวกเขาให้กระเด็นออกไปอย่างไม่รีรอ มือหนาอีกข้างก็โอบรอบเอวคนรักไว้ตลอดเวลา แต่นั่นก็ต้องหันไปอีกทางเมื่อคนเป็นพี่ชายวิ่งหน้าตื่นเข้ามาหาพอดี
“เลย์! นายขี่ไม้กวาดเป็นรึเปล่า?” อยู่ๆ นักเรียนดีเด่นของปราสาทดราก้อนก็ปรี่เข้ามาด้วยสีหน้าเป็นกังวลที่ผิดกับอุปนิสัยของเจ้าตัวเสียเหลือเกิน เอ่ยถามพร้อมกับยื่นไม้กวาดด้ามยาวไปให้เลย์ตรงหน้าจนคนหน้าหวานต้องส่ายหน้าไปมาเป็นเชิงบอกว่าขี่ไม่เป็น
“ผมอยู่ปีหนึ่ง ยังไม่ได้เรียนขี่ไม้กวาดเลยครับรุ่นพี่”
“ไปเป็นไร ขี่มั่วๆเดี๋ยวก็ได้เอง แค่ให้มันลอยขึ้นไปข้างบนก็พอ คอยป้องกันคนด้านล่างให้หน่อย ฉันต้องไปฝั่งนู้น ฝากด้วยนะ” ไม่ทันที่เลย์จะได้ตอบตกลงกลับไป ชางมินก็วิ่งจากไปเสียแล้ว ขี่เป็นแล้วทำไมไม่ขี่เองล่ะรุ่นพี่ เลย์เองก็ไม่ค่อยจะมั่นใจซะด้วยว่าขี่ขึ้นไปแล้วเขาจะลงกลับมาได้รึเปล่า
“นายขี่เป็นใช่ไหมเด็กน้อย?” เสียงหวานที่แว่วมาจากด้านบนทำให้เลย์ต้องแหงนหน้าขึ้นไปมองก่อนจะพบรุ่นพี่หน้าสวยนามคิมแจจุงส่งยิ้มมาให้อยู่ พร้อมกับรุ่นพี่จุนซูกับรุ่นพี่ยูฮวานก็ลอยละล่องอยู่ด้านบนด้วยเช่นกัน
“คิดว่าน่าจะทำได้นะครับ” เลย์หันไปหาคนรักก็ได้รับแต่เพียงรอยยิ้มตอบกลับมา คริสพยายามบอกเป็นนัยๆว่าไม่ต้องเป็นห่วงเขาให้คนตัวเล็กทำตามสิ่งที่รุ่นพี่สั่ง
ไม่รอช้า เท้าเล็กจึงเหยียบขึ้นไปบนไม้กวาดรุ่นใหม่อย่างไม่รีรอ เพียงแค่เท้าสัมผัสไม้กวาดอันนั้น มันก็พุ่งลอยขึ้นไปบนอากาศจนเลย์ควบคุมมันแทบไม่ได้ หากแต่พรสววรค์ของเขามันก็ไม่ได้ยากเกินความสามารถไปซะเท่าไหร่
“ระวังตัวด้วยนะ” เสียงทุ้มตะโกนขึ้นไปบอกคนรักตัวเล็กที่ขึ้นไปอยู่บนท้องฟ้าพร้อมกับรุ่นพี่หน้าสวยทั้งหลายแล้ว และนั่นเลย์ก็พยักหน้าส่งกลับไปให้เป็นเชิงบอกว่าให้เชื่อใจ เอ่ยกับคนรักเสร็จคริสก็หันกลับไปหาเทาอีกครั้ง ส่งซิกให้กันก็ช่วยจัดการกับพวกข้างล่างทันทีอย่างหนุ่มเลือดร้อนที่อดทนรออะไรนานๆไม่เป็น
ทั้งสองคนเข้าขากันได้เป็นอย่างดี ไม่มีแววของการเครียดแค้นหรือแม้แต่แววหึงหวงจากคริสที่มักจะเกิดขึ้นบ่อยๆเมื่อได้เห็นหน้าเทา เด็กปีหนึ่งทั้งสองช่วยกันต่อสู้อย่างดุเดือดไปพร้อมกับรุ่นพี่คณะกรรมการของแต่ละปราสาท ไม่วายคนที่มีแต่ความโลภและต้องการแต่ผลประโยชน์อย่างซีวอนก็ยังช่วยกันเต็มที่เพื่อปกป้องเดอะวิซาร์ดไว้ด้วยความรัก
“เลย์ไปกับฉันนะ ส่วนยูฮวานไปกับจุนซู” สิ้นเสียงหวานของแจจุงที่ลอยอยู่ด้านบน ทุกคนก็พยักหน้ากันอย่างเข้าใจ
เลย์และแจจุงช่วยกันดูราดราวด้านล่างจากบนอากาศอย่างใจจดใจจ่อ เมื่อเห็นตรงไหนไม่ชอบมาพากล คนทั้งคู่ก็รีบปรี่เข้าไปช่วยจัดการโดยไม่รอช้า มองจากด้านบนก็แทบไม่รู้เลยว่าใครเป็นใคร เพราะเหตุการณ์มันวุ่นวายและชุนละมุนจนลายตาไปหมด หากแต่ก็พอจะดูออกว่าไอ้ชุดสีดำนั่นก็พ่อมดดำทั้งนั้น หน้าตาที่ไม่เหมือนมนุษย์ทั่วไป หน้าตาที่เหี่ยวย่นคล้ายพ่อมดแท้ๆก็ทำให้เลย์พอจะแยกแยะออก
“คริส!”
มองไปเห็นเหตุการณ์เบื้องหน้าที่คนรักกำลังเสียท่าให้กับพ่อมดดำอยู่ เลย์ก็รีบดิ่งไม้กวาดเข้าไปหาคนรักในทันทีโดยไม่ได้ฟังเสียงท้วงหวานของแจจุงเลยแม้แต่น้อย เพียงแค่เท้าแตะพื้น เลย์ก็รีบวิ่งปรี่เข้าไปหาคริสอย่างไม่รีรอ พร้อมกับเทาที่ก็รีบเข้าไปช่วยด้วยอีกแรง
“เทาระวัง!”
เสียงหวานเอ่ยเตือนเพื่อนต่างประสาทด้วยความตื่นตระหนก หากแต่ก็ไม่ทันเสียแล้ว ร่างกายของเทาถูกแสงสว่างบางอย่างจากไม่คฑาของพ่อมดดำส่งเข้าไปปะทะร่างกายจนตัวลอยไปอีกทาง ก่อนจะตกลงมากระแทกกับพื้นที่เต็มไปด้วยกวาดหินอย่างแรงจนเสียงดังไปทั่ว
“เลย์! อย่าเข้ามา ไม่ต้องเป็นห่วงฉัน” ถึงคริสจะเอ่ยเตือนเลย์อีกสักกี่ครั้ง แต่คนหน้าหวานก็ยังรั้นไม่คิดจะฟังคำเตือนเลยสักนิด เลย์ยังคงวิ่งตามร่างของคนรักที่โดนชายในชุดดำทั้งฉุดทั้งลากไปตามทางอย่างไม่ใยดี มือบางยกไม้คฑาขึ้นชี้ไปยังชายทั้งสองแต่อีกฝ่ายก็ยกไม้นั่นปัดแรงคาถาที่เขาส่งไปให้จนพ้นทาง
เลย์พยายามแล้วที่จะจัดการกับพวกมัน เมื่อเข้าประชิดตัวชายชุดดำได้ก็ยื้อกระชากร่างกายของคริสให้กลับมา หากแต่แรงที่มีมันกลับมีไม่เพียงพอ นัยน์ตาคู่สวยเต็มไปด้วยหยาดน้ำสีใสเมื่อมองสภาพร่างกายของคนรักที่สะบักสะบอมเพราะถูกพ่อมดดำลากไปตามพื้นหยาบอย่างไม่ใยดี เจ็บแทนจนแทบจะขาดใจ ในขณะเดียวกันกับที่รุ่นพี่ผู้อัจฉริยะก็วิ่งเข้ามาช่วยสมทบอีกครั้ง
“ปล่อยน้องกูเดี๋ยวนี้นะเว้ย!” ชางมินที่วิ่งเข้ามาก็ร่ายคาถาส่งไปยังชายชุดดำทั้งสองหวังให้มันกระเด็นออกไปจากร่างของน้องชาย หากแต่นั่นก็ไม่เป็นผลเลย ทำอะไรมันไม่ได้สักอย่าง ดูท่าว่าชายชุดดำทั้งสองคนนี้จะไม่ใช่แค่ลูกน้องพ่อมดดำธรรมดา เพราะกี่ครั้งต่อกี่ครั้งที่ร่ายคาถาไปให้พวกมันก็ไม่สามารถทำอะไรได้เลย
“รุ่นพี่!”
ร่างกายของชางมินกระเด็นไปอีกทางเหมือนกับเทาก็ไม่มีผิด คริสที่มองเห็นสภาพของพี่ชายก็ถึงกับหมดแรง กายหนานอนราบไปกับพื้นที่เต็มไปด้วยเศษอิฐปูนปล่อยให้พ่อมดดำทั้งสองลากเขาไปอยากรู้สึกเจ็บไปทั้งตัว เห็นเลย์ที่พยายามยื้อเขาไว้ก็ยกยิ้มออกมาน้อยๆแต่นั่นเขาก็ไม่มีแรงแม้แต่จะยื่นมือไปลูบใบหน้าสวยๆของคนรักเลยสักนิด
“ปล่อยคริสเดี๋ยวนี้นะ! ไอ้เลว! ฮึก...”
เสียงหวานตะโกนโวยวายเมื่อเห็นว่าสติของคริสดับวูบไปแล้ว รัวมือเข้าใส่ชายชุดดำที่ลากคนรักของเขาอยู่อย่างเต็มแรง รู้ว่าทำอะไรไม่ได้แต่ก็พยายามอย่างถึงที่สุดเพื่อให้ได้คนรักของเขากลับคืนมา ร่ำไห้จนตาแดงกล่ำไปหมด ทำไมพวกนี้ต้องเอาคริสไป ทำไมต้องทำกับคริสแบบนี้ หัวใจของเลย์แทบแตกสลายเป็นเศษเล็กเศษน้อยก็ไม่ปราน
“อ๊ะ!!”
ไม่มีประโยชน์อะไรเลยสักนิด พยายามอย่างถึงที่สุดแล้ว รู้สึกตัวอีกทีร่างกายก็ลอยขึ้นอยู่บนอากาศ ล่องลอยเคว้งคว้างอย่างไร้จุดหมาย ร้องออกมาเมื่อร่างกายกระแทกเข้ากับกำแพงสูงตะหง่า ก่อนจะตกลงกับพื้นอย่างแรงจนกระอักไปหมด กลืนน้ำลายลงคอเอือกใหญ่ก็รับรู้ได้ถึงรสชาติของเลือดที่กรอกอยู่เต็มปาก หากแต่ความเจ็บที่ร่างกายก็ไม่เท่าหัวใจที่มันแตกสลายอยู่ในตอนนี้ ชายในชุดดำเอาคริสไปจากเขาแล้ว คริสจากไปแล้ว…
“ได้โปรดอย่าเอาเขาไปจากฉัน อึก! อย่าเอาเขาไป ฮื้อ...” แม้กระทั้งเรี่ยวแรงที่จะเปล่งเสียงพูดก็แทบไม่มี ร่างกายบางนอนคว่ำหน้าไปกับพื้นปล่อยให้น้ำตาไหลอยู่อย่างนั้นจนแทบจะหมดแรง เหลือบมองไปข้างหน้าที่เห็นชายชุดดำพาคนรักจากไปก็เลือนลางพร่ามัวแทบมองไม่เป็นรูปเป็นร่าง เอื้อมมือไปไขว่ขว้าภาพตรงหน้าแต่ก็ได้รับเพียงแค่อากาศที่ไร้ตัวตนติดมือกลับมา หอบหายใจรวยรินเมื่อรับรู้ได้ถึงความเจ็บที่ร่างกายจากการกระแทกเมื่อครู่ ไม่มีคริสแล้วเลย์จะอยู่ได้ยังไงกัน
หลับตาลงช้าๆพลางหูก็ได้ยินเสียงแว่วเหมือนสิ่งของบางอย่างที่กลิ้งอยู่กับพื้น พยายามเปิดเปลือกตาที่หนักอึ้งขึ้นมองอีกครั้งก็พบกับแหวนสีเงินที่กำลังกลิ้งหมุนอยู่ตรงหน้า แหวนที่สลักชื่อของเขาอยู่ด้านใน แหวนที่คริสบอกว่าถ้าได้เห็นชื่อที่อยู่ด้านในนั้นจะคิดถึงเขาเสมอ โลหะสีเงินวาวกลิ้งมาอยู่ตรงหน้าของคนตัวเล็ก หมุนอยู่กับที่พักใหญ่ก่อนมันจะนอนแน่นิ่งเหมือนกับร่างกายของเลย์ที่มันก็ดับวูบไปพร้อมกัน
…ได้โปรดพระเจ้า ให้เขากลับมาหาผมอีกครั้งเถอะครับ ผมรักเขา ผมขาดเขาไม่ได้…
...THE WIZARD...
*** มาลงแล้ววววววว งื้ออออออ อย่าปารองเท้ามาให้ไรท์นะ T^T
น่าเบื่อไหมตอนนี้บอกที 555 ขอโทษที่หายไปนานจร้า พอดีไรท์มีสองเรื่องที่ต้องเขียน ไม่อยากดองมันเลยสักเรื่อง เข้าใจกันเนาะ ^^
ความคิดเห็น