คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #18 : 017 คำตือน
===================================================================
ภาพตรงหน้าที่ทุกคนได้เห็นอยู่นั้น เรียกได้ว่าด่านทั้ง3ด่านที่ผ่านมาแล้วนั้นเป็นโหดแล้วนั้น เมื่อเห็นด่านที่4 มันเรียกได้ว่าโหดมากกว่ามากมาก สิ่งแรกที่เห็นคือ ลาวาที่ไหลอยู่ทั่วพื้นมีที่ให้ยืนได้ไม่มากเลย ลาวาเดือดอยู่ตลอดมีการแตกตัวอยู่เป็นระยะ
“ก้าวกันระวังด้วยละทุกคน”ลีออนบอก แล้วเดินนำทางทุกคน
“แล้วจะรู้ได้ไงว่า จะต้องเดินตรงไหนได้”เป็นครี๊ดที่ถามผู้คุมดู
“เดิมตามเส้นทางนี้ละ”วูฟที่แบกวิกเตอร์ที่ไร้เรี่ยวแรงบอกแล้วเดิมนำหน้าทุกคนตามผู้คุมไป ส่วนคนอื่นๆก็เริ่มค่อยๆเดินกันไป คนสุดท้ายที่เดินปิดท้ายขบวนคือลูซิน่า ระหว่างที่เดินกันลีออนจะสั่งให้หยุดเดินกันไปช่วงๆ จากการที่มีหินจากบนเพดานตกลงมาบ้างหรือลาวาปะทุขึ้นมาบ้าง แต่การทางเดินที่สามารถเดินได้เพียงแถวเดียวนั้น ทำให้ทุกคนไม่สามารถขยับตัวมากเกินกว่าความจำเป็นไปได้
“ที่ยืนอยู่ตรงนั้นนะ ถอยหลังเร็ว”อยู่ดีๆลีออนก็ตะโกนขึ้นมา พร้อมกับชี้นิ้วไปยังกลุ่มสามสาวป้อมอัศวินที่เดินอยู่ใกล้ๆกัน ไวเท่าความคิดร่างของเรน่อมกับแองจี้ที่อยู่ด้านหน้ากับข้างหลังที่พวกรุ่นพี่ดึงออกจากจุดที่ยืนอยู่ทันที ส่วนมาทิลด้าที่ยืนอยู่ตรงกลางรีบพุ่งตัวออกไปด้านหน้าอย่างรวดเร็วแต่มันก็เป็นเวลาเดียวกับที่บริเวณพื้นตรงจุดที่สามสาวยืนอยู่นั้นมีลาวาปะทุขึ้นมาพอดี
…มาทิลด้า… ทุกคนที่มองเห็นเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้นต่อจากนี้อยู่ในอาการตกตะลึงจนทำอะไรกันไม่ได้เลย
“มาทิลด้า”แต่กับมีเสียงหนึ่งที่แตกต่างจากคนอื่นๆทั้งหมด เป็นเสียงที่คุ้นเคยหูของทุกคนมาก
“กรี๊ด”เสียงร้องของมาทิลด้าดึงออกมาเมื่อร่างของเธอลอยขึ้นมาบนอากาศแล้วร่วงตกลงมา
“ไม่เป็นไรนะ คุณหนูจากอเมซอน”คำถามของลีออนถามมาทิลด้าที่อยู่ในท่าอุ้มเจ้าหญิงภายในอ้อมกอดของลีออน
“ค่ะ”เป็นครั้งแรกที่เธอเคยโดนอุ้มด้วยท่านี้ทำให้เธออดที่จะหน้าแดงไม่ได้ ลีออนปล่อยให้มาทิลด้าลงมายืนด้วยตัวเอง
“ดีนะ ที่ลาวาไม่กระเด็นโดนตัว เพราะกำแพงนี้นะ”ลีออนบอก ทำให้มาทิลด้าพึ่งจะได้สังเกตุเห็นว่ามีกำแพงใสๆคลุมตัวเธออยู่
“แล้วจะทำอย่างไรดีละเนี้ย ทางเดินดันมาขาดตรงนี้ซะได้”ลีออนถามดู เพราะทางเดินเพียงเส้นเดียวในตอนนี้ได้ขาดลงไปซะแล้ว ทำให้ตอนนี้แตกเป็นสองกลุ่ม
“ให้ข้ากระโดดพามาที่ละคนไหมละ”วูฟเสนอเพราะระยะห่างนั้นไม่เกินกำลังของเขาเลย”
“อย่าโอกาสลงพลาดมีเยอะนะ”วิกเตอร์ที่มีอาการเหมือนตอนที่อยู่ด้าน3 บอก ทำเอาแค่ละคนไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดีกับทางที่ขาดไป
“แล้วท่าใช้เวทในการสร้างทางเดินทดแทนละ”โรเสนอวิธีดูซึ่งทุกคนก็เห็นด้วยกับวิธีนี้ คนที่ใช้เวทได้ดีจึงเป็นตัวแทนในการทำหน้าที่นี้ เพราะถ้าให้ทุกคนช่วยกันคงเป็นไปไม่ได้เพราะในคณะเป็นพวกที่ใช้เวทกันไม่เก่งทั้งนั้น แต่ที่แน่ๆคือ รุ่นพี่ทุกคนต้องช่วยกันในงานนี้แต่ดูเหมือนว่างานนี้จะทำได้ยากมากเมื่อ คาโลและเจ้าหญิงวีชาที่ใช้เวทน้ำแข็งของถนัดมาช่วยในเรื่องนี้ไม่ได้ทำได้มากนักเมื่อความร้อนที่มากเกินกว่าที่น้ำแข็งจะสามารถคงรูปร่างของมันได้ถึงแม้ว่าจะพยายามสร้างกันหลายครั้งแล้วก็ตาม คนอื่นๆจึงลองสร้างจากสิ่งอื่นๆดูบ้างแต่ก็ไม่มีสะพานข้ามใดเลยที่จะทนลาวาได้
“ถ้าเป็นอย่างนี้ ต้องออกโรงแล้วซินะ”ลีออนที่ยืนดูวิธีต่างๆที่ถูกแสดงออกมา ก่อนที่จะมีใครได้ถามอะไร พวกที่อยู่ด้านหลังก็ถูกกระชากตัวลอยข้ามมาอยู่ฝั่งเดียวกับทุกคนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“ข้ามมาได้ไงเนี้ย”แต่ละคนงงกันทุกคน เมื่ออยู่ดีๆก็มาอยู่ทางฝั่งตรงข้ามแล้ว จึงมองไปยังผู้คุมด่านที่กำลังเก็บของบางอย่างอยู่ เมื่อมองกันดูให้ชัดๆแล้วจึงเห็นว่ามันก็คือแส้หนังนั้นเอง
“พี่ลอเรนซ์ คนรู้จักของพี่นี้เป็นพวกอย่างนั้นหรอ”ครี๊ดที่เป็นหน่วยหน้าลองถามรุ่นพี่ที่เข้ารบดูแต่คนที่ดูเหมือนว่าจะอึ้งมากที่สุดก็ไม่ใช้ใครที่ไหนแต่เป็นตัวของลอเรนซ์มากกว่า
“ไม่หรอก เมื่อก่อนหน้านี้เป็นพวกสายเวทนะ”
“จะคุยอะไรกันนัก รีบเดินทางกันต่อได้แล้ว”ลูซิน่าที่ข้ามมาด้วยตัวเองสั่งคนอื่นๆทันที ดูเหมือนว่าตอนนี้ทุกคนจะผวากับอารมณ์ในตอนนี้ของลูซิน่ามากเลยทำตามที่เจ้าตัวพูดอย่างดีแต่สิ่งหนึ่งที่ติดอยู่ในใจของทุกคนตอนนี้คือ เสียง‘อย่านะ’ที่ทุกคนต่างก็ได้ยินกันแน่นอนแล้วมันยังเป็นเสียงของเฟรินอีก ทั้งๆที่การเดินทางนี้เจ้าตัวจะไม่ได้เข้าร่วมด้วยก็ตาม คำถามที่เกิดขึ้นมาในใจนั้นก็คือเสียงนี้มาได้อย่างไรกัน
“เฮ้ย ลูซิน่าเมื่อกี้นี้”วูฟที่เดินอยู่ท้ายร่วมกับลูซิน่ากระซิบถามเบาๆไม่ให้ใครได้ยิน ลูซิน่าก็เพียงแค่พยักหน้าในสิ่งที่วูฟต้องการจะสื่อสาร ภายในตะเกียงที่มีไฟจุดอยู่นั้นกำลังไฟที่ลุกไหม้อยู่นั้นอ่อนแรงลงมาจากครั้งล่าสุดที่เธอดู
“ไม่ควรทำอย่างนี้เลย”ลูซิน่าพูดกับตะเกียงซึ่งเปลวไฟก็ลุกไหวขึ้นเพียงนิดเดียว โดยที่ของลูซิน่าและทุกคนต่างถูกจ้องมองโดยที่ไม่มีใครรู้สึกตัวแม้แต่น้อย
“พักผ่อนกันหน่อยเถอะ”โรเวนบอกเมื่อเห็นว่าทุกคนต่างก็เดินกันมามากแล้ว แถมอุณหภูมิที่ร้อนตลอดอย่างนี้ มีหวังได้มีคนเป็นลมตอนกำลังกำลังเดินกันอยู่แน่ซึ่งทางผู้คุมก้เห็นด้วยกับเรื่องนี้อย่างแน่นอน
“ถ้าอย่างนั้นเดินกันอีกหน่อยแล้วกัน ทางข้างหน้าสามารถนั่งพักกันได้”ลีออนเดินนำไปอีกไม่ไกลก็มีที่ให้นั่งพักอย่างที่พูดจริงๆ
“ถามอะไรหน่อยจะได้ไหมครับ”เจ้าชายโรมหันไปคุยกับลีออนที่ยังคงยืนอยู่ตลอด ลีออนแค่พยักหน้าเท่านั้นแต่ไม่ได้มองไปยังโรมเลย
“คือด่านนี้ไม่มีนักโทษเลยหรอครับ”เจ้าชายโรมถามในสิ่งที่เขาสงสัยตั้งแต่เดินเข้ามา
“มีแต่น้อยมากนะ ก็อย่างที่ทุกคนเห็นแล้วเส้นทางเดินของด่านนี้มีเพียงเส้นเดียวแล้วมันก็อันตรายมากสำหรับพวกที่อยากซ่ามากที่คิดว่าตัวเองจะมีคุมทีนี้นะ มันก็มีนะที่จะมีการต่อสู้กันเองของนักโทษแต่โดยส่วนมากก็ตายก่อนที่การต่อสู้จะได้รู้ผล”ลีออนอธิบายง่ายๆให้ทุกคนได้ยินซึ่งทุกคนก็เห็นด้วยกับเรื่องที่ตายก่อนจะได้รู้ผล
“แล้วทำไมถึงมาเป็นผู้คุมที่นี้ได้”ลอเรนซ์ถามขึ้นเพราะคนที่เขารู้จักไม่มีทางที่จะมาทำอะไรอย่างนี้แน่นอน
“เรื่องนี้ เธอไม่จำเป็นที่จะต้องรู้เลย”ลีออนบอกเพียงแค่นี้แล้วเงียบไป เป็นการบอกว่าไม่ต้องการที่จะคุยเรื่องนี้อีก
“ดูลอรี่จะให้ความสนใจกับผู้คุมคนนี้จังเลยนะ”ลูคัชที่นั่งรวมกับรุ่นเดียวกันบอกซึ่งครั้งนี้มันก็แปลกที่ไม่มีมีดพุ่งเข้าโจมตีเลยแม้แต่เล่มเดียว
“การที่ให้ความใส่ใจสักคนนี้ มันแปลกหรือไง”ลอเรนซ์ถามคืน ทำให้แต่ละคนซักจะให้ความสนใจในความสัมพันของทั้งสองคนนี้ไม่ได้
“เดินทางกันต่อเถอะ”ลีออนบอกหลังจากที่ให้ทุกคนได้พักผ่อนกันมากแล้ว
การเดินทางก็ได้เริมขึ้นมาอีกครั้งซึ่งทุกคนที่ได้ประสบการณ์กันมาแล้วครั้งหนึ่งก็เริ่มหาวิธีรับมือในการเดินทางในด่านที่4 แต่มันก็เป็นไปได้ยาก เพราะไม่มีใครสามารถบอกเวลาที่แน่นอนของลาวาที่จะปะทุขึ้นมาได้ แต่ก็ได้ผู้คุมคอยช่วยอยู่ตลอดเวลาพร้อมกับคำพูดบั่นทอกำลังใจของลูซิน่าที่พูดกัดจิกทุกคนระยะให้กับคนที่ทำให้การเดินทางชะงักทุกครั้ง
“วันนี้พูดเยอะจังเองนะ ลูซิน่า”ลีออนบอก เพราะถึงแม้ว่าจะเคยเจอกับลูซิน่าเพียง2-3ครั้ง แต่เขาก็สามารถบอกได้เลยว่าลูซิน่าเป็นคนที่ไม่พูดมากมายออกจะพูดน้อยมาก ประเภทถาคำตอบคำมากกว่าที่จะมาพูดกัดใครแบบนี้
“พวกนี้ทำให้เสียเวลานี้ แล้วฉันก็ไม่เข้าใจความคิดของท่านเจ้าเลยว่า ทำไมต้องให้พวกเอเดนเดินทางมาด้วย”ลูซิน่าบอกถึงสิ่งที่เธอไม่เข้าใจ ในตอนที่ท่านจ้าวเรียกพบพวกเธอทั้งสี่คนแล้วบอกถึงภารกิจของพวกเธอรวมไปถึงคณะเดินทางของเอเดนที่จะเดินทางไปด้วย ซึ่งในการพบกันครั้งแรกเธอก็รู้ได้เลยว่าพวกนี้เป็นตัวถ่วงในภารกิจนี้มาก
“บางทีเพราะสายสัมพันธ์ของพวกเขาก็ได้ที่เอวิเดสมองเห็น แล้วรู้ไหมตั้งแต่ที่พวกเขาย่างเท้าเข้ามาที่ดินแดนนี้ ก็ถูกเฝ้ามองมาโดยตลอด”ทำพูดของลีออนทำให้ลูซิน่า วิกเตอร์และวูฟท์ตกตะลึงไม่ได้ เมื่อพวกเขาทั้งสามคนไม่มีใครรู้สึกตัวเลยว่าถูกจ้องมองมาโดยตลอดจนลีออนพูดแต่ก็ไม่มีใครสามารถบอกได้เช่นกันว่าใครเป็นคนมอง
“จวนถึงแล้ว”ลีออนเอ่ยขึ้นมาเมื่อคณะเดินทางมาถึงประตูของด่านถัดไปที่มีน้ำแข็งเกาะที่ประตู
“ถึงแล้วหรอ”ทุกคนต่างอปลกใจที่การเดินทางในด่านนี้มันเร็วมาก จากการที่ด่านก่อนหน้านี้ต้องใช้เวลาในการเดินทางถึงสองวันด้วยกัน แต่ด่านนี้กับใช้เวลาแค่ถึงช่วงเย็นเท่านั้นก็มายังด่านที่5 ได้แล้ว
“หน้าทีขอฉันก็มีเพียงเท่านี้ละนะ ส่วนผุ้คุมคนต่อไปพวกเธอน่าจะเจอระหว่างการเดินทางละนะ”ลีออนเมื่อเดินมาส่งทุกคนเรียบร้อยแล้วก็หันหลังกลับไปทำหน้าที่ของตัวเองต่อแต่ก่อนที่จะเดินไปมีการเตือนลูซิน่าไว้ด้วยแต่มันก็เหมือนกับว่าต้องการให้ทุกคนได้ยินมากกว่า
“ในนั้นนะอากาศเลวร้ายมากเลยเข้าใจใช่ไหม อย่าอยู่ในนั้นนานมากเด็จขาด เปลวไฟในตะเกียงเบาแรงลงไปแล้ว เวลาเหลืออยู่อีกไม่มากอย่าเสียเวลามากไปกว่านี้ ไม่อย่านั้นภารกิจที่ได้รับมาอีกชิ้นหนึ่งจะเสียเปล่า ถึงแม้ว่าจะรับตัวนักโทษแล้วก็ตาม”
ความคิดเห็น