คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #17 : อย่าล้อเล่นกับความรัก
*******หลังจากกินข้าวเสร็จฉันกับจิ่งหยูวก็เตรียมตัวออกเดินทางกลับกรุงเทพตามที่พี่คชาสั่งไว้
เราร่ำลาคุณป้ากับคุณลุงก่อนเดินทางกลับ
“แล้วมาเยี่ยมป้าอีกนะลูก”
คุณป้าพูดกับจิ่งหยูว พร้อมโอบกอดเขาไว้ จิ่งหยูวไม่ลืมที่จะกอดคุณป้าเช่นกัน จิ่งหยูว ที่ฉันเห็นในตอนนี้เขาดูอบอุ่น
น่ารัก อย่างที่คุณป้าท่านบอกไว้จริงๆ
“มารอบหน้าพาแม่หนูคนนี้มาหาลุงอีกนะ”
“ครับ” จิ่งหยูวรับคำแล้วหันมากอดคุณลุงเพื่อเป็นการร่ำลา
แล้วจึงเดินไปที่รถ ระหว่างที่เราเดินไปที่รถ ฉันเห็นเขาหันหลังกลับไปมองคุณลุง
และคุณป้า ด้วยสายตาห่วงหาอาทร จริงๆแล้วผู้ชายคนนี้ก็มีโมเม้น ที่อบอุ่นน่ารักเหมือนกัน
ใช้เวลาประมานสามชั่วโมงเราก้อเดินทางกลับมาถึงโรงแรมที่พัก
นี่ถ้าไม่แวะกินข้าวและโดนแฟนขลับเขาชักกะเย่อขอลายเซ็น ขอถ่ายรูป
ฉันว่าคงจะถึงเร็วกว่านี้เพราะพ่อเจ้าประคุณไม่รู้ว่าขับรถหรือขับเครื่องบิน
จนทำให้ฉันนี่นั่งลุ้นมาตลอดทาง เมื่อถึงโรงแรมปั๊บเขาก้อทิ้งคราบผู้ชายอบอุ่น
กลับมาเป็นจิ่งหยูวผู้หยิ่งจองหอง มาดเยอะเหมือนเดิม
“นี่คุณแล้วคิวถ่ายแบบของผมกี่โมง”
เขาถามฉันระหว่างอยู่บนลิฟท์
“หกโมงเย็น”
“งั้นเดี๋ยวสี่โมงคุณมาเตือนผมอีกทีแล้วกัน”
เขาพูดเสร็จก็เดินนำหน้าฉันออกจากลิฟท์ไปพักผ่อนที่ห้องเพื่อรอเวลาตามที่นัดหมายกับฉันไว้
ฉันเดินมายืนกดกริ่งอยู่หน้าห้องเขาก่อนเวลานัดหนึ่งชั่วโมงเพราะต้องเผื่อเวลารถติด
กลัวว่าจะไปไม่ทันเวลานัด ก็คุณชายเขาอยากขับรถไปเอง
ฉันกดกริ่งไม่นานจิ่งหยูวก็เปิดประตูออกมาแต่งตัวเรียบร้อย อืมมม อย่างน้อยเขาก้อยังรู้จักรักษาเวลาฉันนึกว่าจะต้องมานั่งรอเขาซะแล้ว
ฉันยืนมองหน้าเขาอย่างนั้นจนคนที่ถูกมองต้องเป็นฝ่ายเอ่ยชวน
“จะไปกันได้หรือยังหละคุณ มองผมอยู่ได้
มองผมนานๆระวังตกหลุมรักผมนะ” ฉันทำตาเขียวใส่เขาทันทีที่ได้ยินคำพูดที่หลงตัวเองของเขา
“ไม่มีทาง ฉันไม่มีทางตกหลุมรักคนอย่างคุณ
ที่ฉันมองคุณเพราะแปลกใจที่คุณก็ยังรู้จักรักษาเวลานัดฉันนึกว่าจะต้องมายืนรอคุณต่างหาก”
“ก้อดีแล้วหละ
เพราะผู้หญิงอย่างคุณก้อไม่ใช่สเป็คผม
ผมกลัวคุณจะร้องให้ขี้มูกโป่งเพราะผิดหวังที่ผมไม่สนใจหึ หึ”
พูดเสร็จเขาก้อเดินนำหน้าไปที่รถ โดยไม่สนใจเลยว่าฉันจะหัวเสียกับคำพูดของเขาแค่ไหน
ระหว่างขับรถไปยังจุดนัดหมายรถของเราก็มาติดสัญญาณไฟแดงที่ต้องทำให้ยุดรอรถเพื่อรอสัญญาณไฟเขียว เราจอดรถอยู่ข้างๆ รถเมล์ ระเก๋ง และรถอีกมากมายที่กำลังรอสัญญาณไฟเขียวเช่นกัน
“กรี๊ด กรี๊ด กรี๊ด จิ่งหยูว จิ่งหยูว”
เสียงกรี๊ดของกลุ่มเด็กสาวบนรถเมล์ดังสนั่นเมื่อพวกเธอเห็นดาราขวัญใจ ทุกคนแย่งกันกรูมาที่หน้าต่างของรถเมล์คันนั้น
แต่สิ่งที่เขาทำทำให้ฉันตกใจยิ่งกว่าเสียงกรี๊ดของพวกเด็กสาว ก็คือเขากดสวิทซ์เปิดประทุนรถหรูคู่ใจ
จนทำให้ฉันต้องดึงมือไม่ให้เขาทำแบบั้น
“นายทำอะไรหนะ นี่นายจะบ้าเหรอ เดี๋ยวคนก็แห่กันมาหรอก”
เขาไม่สนใจคำพูดของฉันเลย แต่กลับยืนขึ้นจาก เบาะนั่ง แล้วโบกมือยิ้มหวานให้กับแฟนขลับของเขา ทุกคนที่อยู่บนรถเมล์หยิบมือถือออกมาถ่ายรูปเขาและที่สำคัญก็มีรูปฉันติดไปด้วย
ตาย ตายแน่ ตามฤทัย สงสัยฉันจะต้องโดนบริษัทไล่ออกแหงๆ ที่ปล่อยให้เขาทำแบบนี้ ไม่ตายก้อเลี้ยงไม่โตแน่เรา
ฉันพยายามฉุดให้เขานั่งลง และมันก็เป็นจังหวะที่สัญญาณไฟเขียวพอดี
ไม่งั้นผู้คนต้องแห่กันมาที่รถเขาแน่ๆ
จิ่งหยูวกดสวิทซ์ปิดประทุนรถเมื่อรถออกตัว
“นี่คุณจะบ้าแล้วหรือไง คุณกำลังจะทำให้ฉันเดือดร้อนอยู่นะ
เสร็จงานนี้ฉันจะไปบอกกับท่านประธานให้เปลี่ยนคนอื่นมาดูแลคุณ”
ฉันพูดเสียงแข็งด้วยความโมโห แต่อีกฝ่ายดูจะไม่สะทกสะท้านอะไรแถมยังหันมาตอบกลับฉันแบบหน้าตาเฉย
“คุณก็ลองดูว่าคุณจะทำแบบที่คุณพูดได้หรือป่าว
แต่ผมว่าคุณคงต้องดูแลผมต่อไป คุณก้อรู้ว่าบริษัทให้ความสำคัญกับผมแค่ไหน
เรียกได้ว่าผมชี้นกเป็นนกชี้ไม้เป็นเลยก้อว่าได้ คุณก้อรู้ไม่ใช่เหรอ”
คำพูดของเขาทำให้ฉันจ้องหน้าเขาเขม็ง
ทำอะไรไม่ถูกโกรธก็โกรธแต่ก็ทำอะไรเขาไม่ได้เลย มันก็จริงอย่างที่เขาพูดบริษัทให้ความสำคัญกับเขามาก
แม้ฉันจะเคยปฏิเสธไม่อยากจะมาดูแลเขาแค่ไหนแต่ก้อยังขัดท่านประธานไม่ได้เลย
ฉันหยุดพูดนั่งนิ่งไปตลอดทางก้อไม่รู้จะทำยังไงกับความดื้อดึงเอาแต่ใจของเขา
ความคิดเห็น