คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #17 : ความตั้งใจของมาสฟ้า
การเดินทางไปเจอสาวปริศนานั้นเกิดเรื่องน่าตื่นเต้นระหว่างทาง จนอี้เทียนค่อนข้างมั่นใจว่าหญิงสาวคนนี้จะต้องเป็นคนพิเศษมากอย่างแน่นอน เริ่มจากที่ซีเฉินรายงานเขาระหว่างรอรถอยู่ว่า ตอนนี้ไม่ใช่แค่เขาและจ้าวเวยหลงเท่านั้นที่ส่งคนไปประกบหญิงสาวคนนี้ แต่ยังมีจ้าวลี่หยางอีกคนที่ลงมาร่วมวงกับหลานๆ ความวุ่นวายและการแข่งขันว่าใครจะถึงตัวผู้หญิงคนนี้ก่อนจึงเข้มข้นและกดดันมากขึ้นเป็นสองเท่า เพราะอย่างหนึ่งที่อี้เทียนมั่นใจว่าเขาและจ้าวเวยหลงมีความคิดเห็นตรงกันแม้จะไม่ได้มีการพูดคุยก็คือก็คือ ไม่ว่าอย่างไรก็ให้คนที่ถึงตัวผู้หญิงคนนี้ก่อนเป็นจ้าวลี่หยางไม่ได้
“สรุปว่าเธอเป็นหมอดูอย่างนั้นใช่ไหม?” ความรู้สึกอยากรู้อยากเห็นที่อี้เทียนมีต่อหญิงสาวชาวไทยคนนี้ก่อนหน้า แปรเป็นความรู้สึกไม่ชอบใจเพราะอคติส่วนตัวที่เขามีต่อพวกหมอดู แต่ถึงอย่างนั้นความรู้สึกไม่พอใจที่ว่าก็ไม่พอที่จะทำให้เขาเปลี่ยนใจที่จะไม่ไปเจอหญิงสาว “ไม่แปลกใจที่ตาเฒ่านั่นร้อนรน จ้าวเวยหลงเองก็ถึงกับส่งคนไปตามหา”
“คุณลี่หยางไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจเท่าไหร่ครับ แต่คุณเวยหลงนี่สิ” ซีเฉินพึมพำ แม้ว่าเขาจะไม่เคยใกล้ชิดกับพวกตระกูลจ้าวสายหลักแต่เพราะหน้าที่ผู้ช่วยของอี้เทียน มันก็เป็นเรื่องที่เลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องรู้เรื่องส่วนตัวและนิสัยของคนตระกูลจ้าวสายหลัก โดยเฉพาะจ้าวลี่หยางและจ้าวเวยหลงนั้น ซีเฉินกล้าพูดเลยว่าเขานั้นรู้ข้อมูลส่วนตัวของทั้งสองคนนี้พอสมควรเลยทีเดียว รวมไปถึงนิสัยแปลกๆ บางอย่างและความชอบ รวมไปถึงความเชื่อพวกเรื่องลี้ลับเหนือธรรมชาตินี่ก็ด้วย “ปกติแล้วเขาไม่ใช่พวกสนใจเรื่องแบบนี้เท่าไหร่ ทำไมจู่ๆ ถึงได้เกณฑ์คนไปเฝ้าผู้หญิงคนนี้ก็ไม่รู้”
“จะเพราะอะไรก็ไม่สำคัญหรอก” อี้เทียนยิ้มมุมปาก มั่นใจว่าเขาจะได้คำตอบในอีกไม่นานจึงไม่จำเป็นที่จะต้องร้อนรนไป อย่างไรเสียผู้หญิงคนนี้ก็อยู่ใกล้เขาแค่เอื้อมมือ ต่อให้จ้าวเวยหลงจำมีปีกก็บินมาฉกเธอไปจากเขาได้ไม่ทันแน่ “แค่เราเจอหล่อนก่อน ตอนนั้นอยากจะรู้อะไรก็ได้รู้”
“ครับนายน้อย” ซีเฉินพยักหน้าน้อยๆ เชิงเห็นด้วยและสนับสนุนความคิดของผู้เป็นนาย ก่อนจะก้าวยาวๆ ไปเปิดประตูรถให้อี้เทียนแล้วจึงปิดประตูตามหลัง จากนั้นร่างสูงในชุดสูทเต็มยศจึงค่อยก้าวไปนั่งบนที่นั่งข้างคนขับ เมื่อเรียบร้อยและขบวนรถที่นำด้วยรถของอี้เทียนก็ค่อยๆ ทยอยเคลื่อนตัวออกไปจากตึกสูงระฟ้า ที่เปรียบเสมือนฐานทัพของตระกูลอู่ โดยเบื้องที่ด้านนั้นมีรถของบอดี้การ์ดขับตามไปไม่ห่าง ตอกย้ำภาพจำของพวกมาเฟียขาใหญ่ในหนังในละครหลายหลายเรื่องที่เคยเห็นกัน
นั่งรถไปได้ไม่นานอี้เทียนก็ต้องเหลือบมองหน้าของมือขวาของเขา เมื่อซีเฉินส่งแท็ปเล็ทที่เขามักจะถือติดมือไว้ จนแทบจะเรียกว่ามันกลายเป็นอวัยวะชิ้นที่สามสิบสามของเขาต่อมาให้อี้เทียน เพื่อดูข้อมูลที่เพิ่งได้รับรายงานมาล่าสุดก่อนอธิบายสั้นๆ
“ข้อมูลของผู้หญิงคนนั้นที่เราหามาได้ครับ เธอชื่อมาสฟ้าแล้วก็ไม่ได้เป็นหมอดูอย่างที่ผมเข้าใจอย่างทีแรก”
“ไม่ใช่หรือ?” อี้เทียนขมวดคิ้ว คว้าแท็ปเล็ตจากซีเฉินมาข้อมูลของหญิงสาว ความเปลี่ยนแปลงที่อี้เทียนได้รีบรายงานในช่วงเวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมงนั้น ทำให้คิ้วเข้มของชายหนุ่มขมวดเข้ากันเล็กน้อย ปกติแล้วคนของเขาจะมีความแม่นยำเรื่องข้อมูลส่วนตัวพวกนี้พอสมควรทีเดียว แม้จะพูดไม่ได้ว่าไม่เคยผิดพลาดแต่การจะมากลับคำพูดในช่วงเวลาสั้นๆ แบบนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
ผู้หญิงคนนี้เรียกว่าเป็นคนแรกเลย...
“ไม่ใช่ครับ เธอเป็นนักธุรกิจที่น่ากลัวทีเดียว” ฉีเฉินรายงานผู้เป็นนาย ตาก็มองสีหน้าของอี้เทียนผ่านกระจกมองหลังเพื่อสังเกตุสีหน้าของชายหนุ่มยามอ่านข้อมูลส่วนตัวของผู้หญิงที่ชื่อมาสฟ้า เมื่อผ่านไปครู่หนึ่งแล้วอี้เทียนยังมีสีหน้าเรียบเฉยๆ ไม่แสดงออกถึงความตกใจ ซีเฉินจึงต้องรายงานเรื่องที่เขาคาดเดาอยู่ในใจ “ผมคิดว่าเธอคือ 'แม่มด'ที่เราตามหาอยู่ครับนายน้อย”
"แม่มด?” และเป็นอย่างที่ซีเฉินคิดเอาไว้ไม่มีผิด เมื่อได้ยินคำนั้นสายตาและสีหน้าของอี้เทียนก็เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ สายตาของเขาเปล่งประกายด้วยความหวังอย่างคนที่อยู่ในความมืดมานานแล้วได้เห็นแสงสว่างรำไรอยู่ข้างหน้า “ทำไมถึงคิดว่าเป็นเธอล่ะ”
“นามสกุลของเธอครับนายน้อย” ซีเฉินเอี้ยวตัวกลับไปมองหน้าอี้เทียน บอกถึงความจริงจังของเรื่องเขากำลังพูด มันมากพอๆ กับความกังวลที่เขามีต่อเรื่องนี้เลยทีเดียว “นามสกุลของเธอเหมือนกับเจ้าของคาสิโนที่ฮ่องกงครับ คนที่เขาลือกันว่า 'แม่มด' อยู่ใต้การปกป้องของเขา พวกเขาสองคนมีนามสกุลเดียวกัน”
แน่นอนว่าอู่อี้เทียนรู้ว่าบุคคลที่มือขวาของเขาพูดถึงนั้นเป็นใคร เพราะครั้งหนึ่งเขาเองก็เคยไปเจอผู้ชายคนนี้ด้วยตัวเอง และต้องบอกเลยว่าแม้ว่าส่วนตัวแล้วอี้เทียนจะไม่ประทับใจการแสดงออกของผู้ชายคนนั้นมากแค่ไหน แต่ความสามารถของชายชาวไทยคนนั้น ก็เป็นเรื่องที่อี้เทียนไม่สามารถปฏิเสธได้ ยิ่งไปกว่าความสามารถในการบริหารคาสิโนและธุรกิจอันหลากหลายของคมกฤษแล้วยังมีภรรยาแสนอันตรายของเขา ที่ตามติดสามียิ่งกว่าเงาตามตัวอีกคน
อี้เทียนบอกได้เลยว่าสิ่งที่อันตรายกว่าความฉลาดของด็อกเตอร์คมกฤษคนนั้นก็คือภรรยาที่ชื่อเชอลีนของเขานี่แหละ!
“นามสกุลเดียวกัน...ไม่น่าล่ะ...” อี้เทียนพึมพำ ก่อนก้มมองของรูปหญิงสาวในมืออีกครั้ง ครั้งนี้เขามองมันพร้อมกับนึกเปรียบเทียบมาสฟ้ากับคนอีกสองคนข้างต้นไปด้วย แล้วเขาก็ถึงบ้างอ้อ...
ไม่น่าล่ะทำไมถึงได้รู้สึกคุ้นเคยกับใบหน้าสวยๆ นี้นัก ที่แท้เธอก็ได้เค้าความงามมากจากคุณเชอลีน ภรรยาคุณคมกฤษนั่นเอง...เว้นแต่เรือนผมอันดำขลับนี่อย่างเดียวที่หญิงสาวน่าจะได้รับมาจากคุณพ่อที่เป็นชาวไทย “เขาถึงได้หวงนักหวงหนา ไม่ยอมให้เราเข้าถึงตัวได้”
“ถ้าเธอเป็นคนที่เราตามหาจริง ก็ไม่แปลกแล้วครับว่าทำไมคุณจ้าวเวยหลงถึงได้ระดมคนไปตามเธอแทนที่จะตามคุณจ้าวลี่หยาง”
“ฟัค!”
อี้เทียนสบถออกมาด้วยความกังวลและหงุดหงิด ความคิดที่เขาเคยดูถูกจ้าวเวยหลงว่าเป็นเด็กอ่อนหัดก่อนหน้านี้นั้นถูกโยนออกไปนอกหน้าต่างรถเรียบร้อย จ้าวเวยหลงจะเป็นเด็กอ่อนหัดได้อย่างไร หากเขารู้ว่า 'แม่มด' ที่ใครๆ ก็ต่างตามหากันให้จ้าละหวั่นนั้นคือมาสฟ้าคนนี้
คนที่แม้แต่อี้เทียนเองก็ยังไม่สามารถตามหาตัวเธอได้แม้จะผ่านมานานหลายปี กระทั่งวันนี้ที่จ้าวเวยหลงมาชี้ทางให้เขาถึงได้รู้ว่าจะต้องทำอย่างไรเพื่อจะเจอเธอ จ้าวเวยหลงคนนี้ไม่มีทางเป็นไก่รองบ่อนเขาอย่างแน่นอน
“เหล่าหวังขับให้เร็วกว่านี้ เร็ว!”
“ครับนายน้อย!”
เหล่าหวังที่รู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้างรับคำเจ้านายด้วยน้ำเสียงแข็งขัน ก่อนจะออกแรงเหยียบคันเร่ง แม้ว่าจะเกิดความเร็วที่กฎหมายกำหนดเด็กหนุ่มก็ไม่หวัน ยึดว่าคำสั่งของผู้เป็นนายของตนนั่นคือเป็นที่สุด ศักดิ์สิทธิ์ยิ่งกว่ากฎหมาย
“นอกพวกเรากับพวกคนตระกูลจ้าวแล้วมีใครรู้เรื่องผู้หญิงคนนี้อีกไหม” อี้เทียนรวมรวมสติของตนตัวด้วยการเตือนตัวเองให้ใจเย็น และพยายามคิดทุกอย่างอย่างรอบคอบอีกครั้ง “เรื่องที่เราเจอผู้หญิงคนนี้จะให้ใครรู้ไม่ได้นะ”
“ยังไม่น่าจะมีใครรรู้ครับ” ซีเฉินเองก็ไม่มั่นใจเรื่องนี้เท่าไหร่นัก “แต่เรื่องที่ทั้งเรา พวกตระกูลจ้าวและคุณจ้าวลี่หยางกำลังตามผู้ญิงคนเดียวกัน ก็คงทำให้พวกนั้นสงสัยอยู่ไม่น้อย ถึงพวกนั้นจะยังไม่รู้ว่าผู้หญิงคนนี้คือ 'แม่มด' แต่ก็คงจะสงสัยกันอยู่ว่าเธอเป็นใคร ว่าทำไมพวกเราต้องทำกันถึงขนาดนี้”
‘พวกนั้น’ ที่ซีเฉินเอ่ยถึงก็คือเหล่าเสือ สิงห์และงูพิษทั้งหลายที่อู่อี้เทียนมีข้อตกลงในหารแบ่งพื้นที่การปกครองและพื้นที่ในการทำธุรกิจต่างๆ ร่วมกันนั่นเอง คนพวกนี้จะพูดว่าเป็นเพื่อนก็คงพูดได้ไม่เต็มปากต้องบอกว่า พวกที่มีประโยชน์ร่วมกับอู่อี้เทียนคงจะถูกกว่า เพราะทั้งแขาเละพวกนั้นต่างพร้อมที่จะหักหลังกันและกันทันทีที่สบโอกาส
“เหล่าหวัง เมื่อไหร่เราจะถึงโรงแรม” เสียงห้าวของอี้เทียนหันไปกดดันคนขับรถหน้าละอ่อน ที่ตอนนี้เริ่มเหงื่อตกเพราะความกดดันที่เจ้านายของตนโยนลงมาบนบ่าด้วยคำถามง่ายๆ เมื่อครู่
“เอ่อ...ไม่นานครับนายน้อย” คนขับรถประจำตัวของอี้เทียนเหลือบมองกระจกมองข้างของตน ก่อนจะหักเลี้ยวกระทันหันก่อนจะตามมาเสียงบีบแตรดังลั่นถนนของคันอื่น “ทางลัดเส้นนี้ไม่เกินสิบนาทีครับ”
“เร็วกว่านี้เหล่าหวัง เราจะให้คนอื่นไปถึงที่นั่นก่อนไม่ได้”
“ครับนายน้อย”
“นายน้อยครับ คุณผู้หญิงหายไปแล้วครับ”
ความหวังที่จะทำให้นายพอใจของคนขับรถหนุ่มน้อยนั้นถูกทำลายลงจนไม่เหลือชิ้นดีโดยคำพูดและน้ำเสียงร้อนรนของซีเฉิน
“เธอไม่ได้อยู่โรงแรมตั้งแต่เมื่อคืนครับ คนของคุณลี่หยางไปขอพบเธอแต่ไม่มีกลับไม่มีใครอยู่ในห้องครับ มีแค่กระเป๋าเดินทาง...แต่ไม่มีคน”
“ฟัค!”
มาสฟ้ามองผู้คนที่ผ่านไปภายในฟู้ดคอร์ทด้วยสายตาว่างเปล่า ก่อนจะเหลือบมองหน้าจอมือถือที่สั่นเตือนมาพักใหญ่ แม้ว่าชื่อที่ปรากฎอยู่บนหน้าจอจะเป็นชื่อของน้องสาว หากแต่มาสฟ้ากลับไม่มีความคิดที่จะกดรับเลยแม้แต่น้อย ตอนนี้เธอกำลังยุ่งกับเรื่องอื่นอยู่...เรื่องที่ทำให้เธอต้องถ่อมาถึงสิงคโปร์เพียงลำพัง
มาสฟ้ามองชื่อของคนที่โทรเข้ามานั้นหายไป ก่อนจะมันจะเปลี่ยนเป็นสัญลักษณ์ว่าเธอมีมิสคอล หญิงสาวนั่งรอจนกระทั่งเห็นตัวเลขดิจิตอลบนหน้าจอนั้นเปลี่ยนเป็นเลขตัวเดียวกับที่เธอเห็นในนิมิต มาสฟ้าจึงลุกขึ้นเต็มความสูงพร้อมกับคว้ากระเป๋าใบเล็กที่เธอนำติดตัวมาด้วยก่อนจะเดินออกมาจากฟู้ดคอร์ท ร่างระหงก้าวเดินด้วยฝีเท้ามั่นคง ตรงไปยังประตูทางออกมุ่งหน้าไปหาเป้าหมายการมาสิงคโปร์ในครั้งนี้ของเธอ
ไอ้เรื่องที่มีคนตามเธอเป็นพรวนนั้นมาสฟ้ารู้อยู่แล้ว และเธอก็รู้ด้วยว่าต้องทำอย่างไรเพื่อหลีกเลี่ยงคนพวกนั้น ก็อย่างที่บอกนั่นแหละว่าการเห็นอนาคตก็ใช่จะไม่มีประโยชน์เสียทีเดียว
“หึ”
มุมปากงามนั้นกระตุกเป็นรอยยิ้มเพราะนิมิตล่าสุดที่เธอได้รับ ใบหน้าเกรี้ยวกราดของชายหนุ่มที่นั่งอยู่บนรถที่กำลังสบถคำหยาบนั้นเป็นสิ่งที่มาสฟ้าไม่คาดคิดว่าจะได้เห็น แต่ถึงอย่างนั้นก็ต้องยอมรับกันตามตรงว่าใบหน้าที่เธอเห็นนั้นนับได้ว่าเป็นหนึ่งในใบหน้าของผู้ชายหล่อมากๆ คนหนึ่งท่ที่มาสฟ้าเคยเห็นในชีวิตเลยทีเดียว...อู่อี้เทียนเป็นชื่อที่เหมาะกับเขาจริงๆ ในความรู้สึกของหญิงสาว
ได้เจอกันสักที...เธอรอเขามาตั้งนาน
เขาเองคงไม่ต่างกัน...ตอนที่ชายหนุ่มไปเจอพ่อของเธอที่ฮ่องกงนั้น ถามว่ามาสฟ้ารู้ถึงการมาเยือนของชายหนุ่มไหม...แน่นอนว่าเธอย่อมรู้ แม้ว่าพ่อของเธอจะไม่ยอมบอกว่าเขามาหาและพยายามร้อยแปดวิธีการ ในการหวานล้อมพ่อกับแม่ของเธอเพื่อที่จะเจอเธอให้ได้ ไม่สิ...ตอนนี้เขาอยากเจอ 'แม่มด' ต่างหาก ไม่ใช่เธอเสียหน่อย
แต่นั่นก็ไม่ได้สำคัญหรอก...เพราะต่อให้ตอนนี้หรือตอนไหนเธอก็เป็นคนเดียวกับ 'แม่มด' ที่อู่อี้เทียนอยากเจออยู่ดี
มาสฟ้าครุ่นคิดเรื่องที่เคยเกิดขึ้นกับตัวเอง ระหว่างนั้นก็หมุนตัวเลี้ยวเข้าซอยที่ทั้งแคบและมืดด้วยความมั่นใจ ราวกับว่าเธอผ่านตรงนี้บ่อยจนเกินกว่าจะนับครั้งได้ทั้งที่ความจริงแล้วนี่เป็นครั้งแรกที่เธอใช้เส้นทางนี้
อู่อี้เทียนที่มาสฟ้าเห็นในนิมิตนั้นเป็นคนที่ให้ความรู้สึกเหมือนเสือดำ...เจ้าเล่ห์ แสนขี้เกียจแต่ก็มีอันตรายอยู่รอบตัว เธอ ‘เห็น’ เขาอยู่หลายครั้งแต่ถึงอย่างนั้นมาสฟ้าก็ไม่กล้าพูดว่าเธอรู้จักเขาดี
อย่างตอนที่เขาไปเจอพ่อของเธอที่ฮ่องกงนั้นก็ครั้งหนึ่งที่มาสฟ้าเห็นเขา...ตอนนั้นเธอเห็นเขาด้วยตาจริงๆ เป็นครั้งแรกและครั้งเดียว แม้ว่าเขาจะไม่รู้ตัวว่าเธออยู่ที่นั่น ณ ตอนนั้นด้วย แต่ทุกการกระทำของเขาระหว่างที่อยู่ภายในคาสิโนของพ่อเธอ มาสฟ้ารับรู้ทั้งหมด รู้ด้วยว่าเขามาพาเธอก็เพื่อหวังจะใช้เธอเป็นเครื่องมือในการทำธุรกิจของเขา
เขาก็เป็นอีกหนึ่งในคนที่อยากใช้ความ ‘พิเศษ’ ของเธอเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง เลยไม่ใช่เรื่องแปลกที่เขาจะโดนพ่อกับแม่ของเธอไล่ตะเพิดกลับไป
และนั่นก็เป็นครั้งแรกที่มาสฟ้าได้ยินชื่อของอู่อี้เทียนในสารบบ และก็เธอเกือบจะลืมเขาไปแล้วกระทั่งช่วงสามเดือนก่อนหน้านี้ ที่มาสฟ้าเห็นนิมิตแปลกๆ ที่เกี่ยวข้องกับเหมือนฝันและผู้ชายอีกคน ตอนนั้นเองที่ใบหน้าอันคุ้นเคยของอี้เทียนผุดเข้ามาในนิมิต และเป็นตอนนั้นที่มาสฟ้ารู้ว่า ไม่ว่าอย่างไรเธอก็หลีกเลี่ยงที่จะพบเจอกับผู้ชายที่ชื่ออู้อี้เทียนไม่ได้
เธอจะไปเจอเขา...โดยครั้งนี้เป็นการพบเจอที่มาสฟ้าจะเป็นคนเลือกเอง ว่าเธอจะเจอเขาตอนไหน อย่างไร
และเธอก็เห็น...รถคันงามหลายคันทีจอดเรียงกันเป็นริ้วขบวนอยู่ที่ถนนข้างหน้า รอยยิ้มที่มุมปากของมาสฟ้าก็กดลึก...เท้าเล็กๆ นั้นเดินตรงไปยังเป้าหมายอย่างไม่ลังเล มั่นใจมากว่านอกจากเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่เป็นคนรถของอี้เทียนแล้ว ที่นั่นจะไม่มีคนอื่นอยู่อีก
เฮ้อ...บางทีการเห็นนิมิต มันก็ดีจริงๆ ไม่แปลกใจแล้วที่ใครๆ ก็อยากใช้ประโยชน์จากเธอกัน
มาสฟ้าเดินไปหยุดข้างประตูรถด้านคนขับ หญิงสาวยกมือเคาะกระจกรถเบาๆ สองครั้งเพื่อเรียกเด็กหนุ่มที่นั่งหน้าเครียดอยู่หลังพวงมาลัย โดยในมือถือแท๊บเล็ตเครื่องหนึ่งไว้
กระจกรถเคลื่อนลงพร้อมกับเผยให้เห็นสีหน้าอันตกตะลึงของเด็กหนุ่ม ด้วยไม่คาดคิดว่าคนที่พวกเขากำลังตามหากันจ้าละหวั่นนั่นจะมาอยู่ตรงนี้...ต่อหน้าของเขา โดยปราศจากรอยขีดข่วนหรือร่องรอยที่พอจะบอกให้เขารู้ว่าเธอหนีการตามล่าอย่างดุเดือดจากคนสามกลุ่มมาได้อย่างไร
“ตามหาฉันอยู่ใช่ไหม เหล่าหวัง”
ผิดที่ศรีเกือบจะไว้ใจแก อีอี้เทียนแท้จริงแล้วก็คิดที่จะหลอกใช้คุณมาสของชั้น แกจะต้องตกนรกหมกไหม้ และไม่มีฟามสุขไปตลอดชีวิต อีคนเลว // หยิบแตะ
ความคิดเห็น