คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #169 : Login 166: พลังที่ต่างชั้นกัน
Login
166: พลังที่ต่างชั้นกัน
“โซเดียมิราจ
จงออกมาเหล่านักแสดงที่รออยู่ข้างเวที สัตว์เทวะซัลฟูลเรี่ยน!”
ออร์ทิเกสซาร์คำราม
อนุภาคสีทองที่ล่องลอยรอบตัวมันก็เริ่มกลั่นตัวเป็นรูปร่าง
แถบพลังชีวิตปรากฎขึ้นมาพร้อมกับนามของสัตว์เทวะรูปแบบสิงโตเพศเมียไม่มีขนแผงคอที่มีเพียงครึ่งลำตัวเท่านั้น
Heraldic
Beast Deity: Sulphurion Lv. 99
[/////2000:2000/////]
ร่างกายของพวกมันเป็นกลุ่มก้อนก๊าซสีเขียวหม่นมีกลิ่นคล้ายกำมะถันแผ่ออกมา
พอมันเคลื่อนไหวช่วงล่างของลำตัวที่ว่างเปล่าก็จะเห็นเหมือนมีไฟพ่นออกมาขับเคลื่อนตัวมันออกไป
ซัลฟูลเรี่ยนมีด้วยกันทั้งหมดห้าตัว
แต่ละตัวมีขนาดเท่ารถยนต์คันหนึ่งและมีพลังชีวิตแค่สองพัน
แฟรนเซียมที่นั่งอยู่ภายในเครื่องทำสวนเซปทรูสตาร์ซึ่งกำลังบินอยู่เหนือชายหาดที่ลุกโชนไปด้วยเพลิงโลกัณฑ์เห็นแบบนั้นเข้าก็พูดจาดูแคลนสัตว์เทวะที่มันสร้าง
“นึกว่าจะทำอะไรซะอีก
เจ้าสวะอ่อนแอพวกนั้นมีพลังชีวิตแค่สองพันหายใจทีเดียวก็กลายเป็นฝุ่นแล้ว”
ด้วยพลังของเครื่องทำสวนที่เขาควบคุมอยู่สามารถทำอย่างที่พูดได้จริง
แล้วออร์ทิเกสซาร์ก็น่าจะรู้ดีอยู่แล้วแต่ก็ยังทำ
นั่นหมายถึงมันต้องมีอะไรบางอย่างแอบแฝงมาอย่างแน่นอน
แฟรนเซียมเข้าใจเรื่องนั้นเป็นอย่างดีเพราะอยู่ร่วมกับนรสิงห์มาก่อน
นรสิงห์ที่ตอนนี้กลายเป็นจิตวิญญาณของออร์ทิเกสซาร์ไปแล้วถึงแม้ว่าการอยู่ร่วมกันนั้นจะเป็นเพียงละครตบตาก็ตามแต่มันไม่เคยทิ้งนิสัยชอบตลบตะแลงและนึกอยากจะเล่นสนุกไปเลยแม้แต่น้อย
“เหมือนแมวไม่มีผิด”
แฟรนเซียมพึมพำอย่างนั้นแต่ไม่ได้ส่งเสียงผ่านออกไปจากเครื่องทำสวน
ตอนนั้นเอง
ออร์ทิเกสซาร์ก็หัวเราะ
“หึหึหึ
นี่คือความหวังของเจ้ายังไงล่ะสิงห์
เจ้าได้คาดหวังว่าจะทำลายเหล่านักแสดงของข้าได้อย่างง่ายดาย
งั้นก็ทำซะสิมันเป็นความจริงแล้ว ลองทำดูสิ แล้วเจ้าจะได้สนุกกับละครสัตว์ของข้า”
เป็นไปอย่างที่นึกเอาไว้พวกสัตว์เทวะที่มันเสกออกมาจะต้องมีอะไรอย่างแน่นอน
“หรือว่าเจ้าพวกสวะนั่นจะมีความสามารถที่จะทำงานเมื่อตายอย่างนั้นสินะ”
แฟรนเซียมลองคาดเดาดู
หากอีกฝ่ายอยากให้ทำลายมันคงเป็นอื่นไม่ได้ ถ้าอย่างนั้น...
แค่ทำลายจากระยะไกลๆ
ก็พอจะเป็นความสามารถประเภทลากคนฆ่าไปตายด้วยถ้าอยู่ไกลก็ไม่มีปัญหาหรือถึงจะเป็นความสามารถพลิกแพลงแบบอื่นๆ
ก็คงทำอะไรเครื่องทำสวนด้วยกันไม่ได้อยู่ดี
“…”
ตอนที่กำลังประเมินศัตรูอยู่นั่นเอง
ฝูงซัลฟูลเรี่ยนทั้งห้าตัวก็บุกเข้ามา พวกมันรวดเร็วมากเสียจนบังคับเครื่องทำสวนให้หลบพ้นกรงเล็บทั้งหมดไม่ได้
ปีกเหล็กของเครื่องทำสวนถูกฉีกออกไปส่วนหนึ่งทั้งที่ไม่น่าเป็นไปได้
เครื่องทำสวนที่มีพลังป้องกันไร้เทียมทานขนาดที่ว่ามนุษย์หรือมนุษย์ต่างดาว
หรือต่อสหัใช้ปีศาจก็ยังแตะต้องแทบไม่ได้ด้วยซ้ำ แต่กลับถูกสัตว์เทวะที่อ่อนแอนั่นทำให้เป็นแผล
ดูท่าสัตว์เทวะพวกนี้จะมีจุดเด่นเรื่องพลังโจมตี
แตกต่างจาก ‘อัศวินแห่งจุดจบ’ ที่เครื่องทำสวนรูปม้าดีเซมแมร์เคยเรียกออกมา
อันนั้นคงเด่นเรื่องพลังชีวิต
สัตว์เทวะที่เครื่องทำสวนเรียกออกมาได้คงจะมีลักษณะเฉพาะต่างกันออกไป
ถ้าอย่างนั้นจะทำลายพวกมันเสียเลยก็น่าจะไม่มีปัญหา
ถ้าเจ้าพวกนี้เหมือนกับอัศวินแห่งจุดจบของดีเซมแมร์
ถึงทำลายไปก็คงแค่สร้างขึ้นมาใหม่ น่าจะมีอยู่แค่นั้น
เมื่อแฟรนเซียมตัดสินใจแล้วว่าจะทำลายกลุ่มสัตว์เทวะเหล่านั้น
ก็มีจรวดมิสไซล์วิ่งตัดหน้าเครื่องทำสวนของตน
มิสไซล์เข้าปะทะกับสัตว์เทวะตัวหนึ่งแล้วระเบิดมันให้หายไปในพริบตา
ตอนนั้นเองหน้าจอระบบก็เปิดขึ้นข้างๆ
แฟรนเซียมที่นั่งอยู่ภายในค๊อกพิทของเซปทรูสตาร์ ปลายสายคือรูบิเดียม
‘ให้ช่วยไหม’
แฟรนเซียมเหลือบสายตาที่เชื่อมต่อกับเซนเวอร์ของเครื่องทำสวนมองไปยังทิศที่มิสไซล์พุ่งขึ้นมาจากทะเล
ที่นั่นมีอากาศยานรูปร่างคล้ายเรือยาวประมาณสี่กิโลเมตรสูงสี่ร้อยเมตร
ยานแกรนด์ครุยเซอร์นั่นเอง
กำลังลอยลำอยู่เหนือผืนทะเลที่ตอนนี้มีมนุษย์ต่างดาวอาชีพสเปเชียลลิสต์
ที่บิลด์คลาสเป็นอควาฟอร์สกระจุกตัวตั้งค่ายโจมตีกันอยู่ข้างใต้ยาน
อควาฟอร์สคือ
ทหารเรือแห่งโลกที่ล่มสลาย ทักษะการต่อสู้ สกิล
และอาวุธจะมุ่งเน้นไปที่การใช้อาวุธล้ำสมัยและการต่อสู้ทางน้ำจะได้เปรียบเป็นอย่างมาก
บิลด์คลาสอาชีพนี้สามารถทำให้คนยืน วิ่ง หรือไถลไปบนผืนน้ำได้
ควบคุมคลื่นและกระแสน้ำอย่างเชี่ยวชาญตามรูปแบบของอาบีพสเปเชียลลิสต์ที่เน้นการต่อสู้แบบยึดครองพื้นที่จึงมีคลาสแตกแขนงออกไปตามรูปแบบสมรภูมิ
คือแอเรียฟอร์สที่ถนัดบนพื้นดิน และ แอร์ฟอร์สที่ถนัดรบบนท้องฟ้า
สเปเชียลลิสต์นั้นเป็นคลาสที่ค่อนข้างจะพิเศษเหมือนกับซัมมอนเนอร์
เพราะมีแต่มนุษย์ต่างดาวเท่านั้นที่จะเลือกเป็นอาชีพนี้ได้
มันถูกสร้างขึ้นมาด้วยโปรแกรมที่ซีเซียมกำหนดเอาไว้
แต่หลังจากแพทอัพเดทครั้งล่าสุดมันก็ไม่ได้ถูกผูกมัดด้วยเผ่าพันธุ์อีกต่อไป
มีคนอื่นที่มีสิทธิ์ในการควบคุมคะบบของเกมเหนือกว่าซีเซียมหรือซีลอร์ดเข้ามาจัดการระบบตรงนั้น…แฟรนเซียมสรุปได้อย่างนั้นและเขาก็คิดว่าน่าจะเป็นคนเดียวกันกับที่มอบนรสิงห์และชะตากรรมของผู้ถูกเลือกมาให้
คนผู้นั้นเรียกตัวเองว่า
‘แอดมินิสเทรเตอร์’ แล้วก็แสดงพลังที่ยอมรับไม่ได้ออกมาต่อหน้าตน
เปลี่ยนแปลงชะตากรรมที่จะต้องตายอยู่ในเมืองปิดตายซึ่งทำการทดลองแอพพลิเคชั่นปีศาจให้กลายมาเป็นแบบปัจจุบันนี้
“ฝากจัดการทีฉันจะไปแยกส่วนเจ้าเครื่องมีปัญหานั่น”
แฟรนเซียมตอบคำถามของรูบิเดียมที่ปลายสายติดต่อ
‘งั้นการทดลองก็ล้มเหลวสินะ’
เสียงของรูบิเดียมค่อนข้างผิดหวังดังมาจากหน้าจอ
“แค่แมลงตัวเล็กน่ะ
ถ้าเอามันออกก็ประกอบกับไปใช้ได้ใหม่”
‘งั้นแปลว่าจะทำลายมีนาที่อยู่ในนั้นไปเลยเหรอ’
“เก็บแบบแปลนไว้แล้วนี่ค่อยสร้างใหม่ก็ได้”
‘นายนี่มันใจร้ายจริงนะ’
“ถ้าสงสารก็เข้าไปช่วยเองสิ”
‘แค่เสียดายฟันเฟืองต้นแบบที่อุตส่าห์ค้นคว้ามานานน่ะแต่เอาเถอะของที่เสียแล้วก็คงต้องปล่อยไป’
แฟรนเซียมตัดสายไปแค่นั้นแล้วบังคับเครื่องทำสวนบุกเข้าไปหาออร์ทิเกสซาร์โดยไม่สนใจพวกสัตว์เทวะ
ถ้าดูจากที่มีพวกมันตัวหนึ่งโดนฆ่าไปแล้วแต่ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้นก็น่าจะไม่มีอะไรอีกแล้ว
การคาดการณ์ก่อนหน้านี้คงจะคิดมากเกินไป
แฟรนเซียมสรุปอย่างนั้นแล้วเงื้อกรงเล็บของเครื่องทำสวนพร้อมกับพุ่งโฉบลงไปหมายจะกระชากคอของออร์ทิเกสซาร์ให้หลุดจากบ่า
แต่ออร์ทิเกสซาร์ก็แยกเขี้ยวเตรียมจะขย้ำกรงเล็บไปพร้อมกับขาของเขาเช่นกัน
ดังนั้นแฟรนเซียมจึงถอดใจแล้วหักลำทะยานกลับขึ้นไปพร้อมบังคับเครื่องให้ตีลังกากลางอากาศ
“โซเดียราโอ!”
แล้วร่ายชื่อสกิลที่มีแต่เครื่องทำสวนที่ใช้ได้ยิงลำแสงสีแดงออกจากดวงตาของเซปทรูสตาร์ทั้งที่กลับหัวอยู่
ลำแสงสองสายพุ่งลงไปยังที่ราชสีห์ตัวตลกยืนอยู่
ออร์ทิเกสซาร์หันหน้าเผชิญลำแสงนั้นอย่างไม่เกรงกลัว…อันที่จริงแฟรนเซียมก็พอจะรู้อยู่แล้วว่าอีกฝ่ายตั้งใจจะทำอะไรเพราะก่อนหน้านี้มันได้แสดงให้เห็นแล้วว่าแผงคอของมันสามารถสร้างบาเรียป้องกันโซเดียราโอที่เขายิงไปก่อนหน้านี้ได้
แล้วมันก็กำลังจะทำแบบนั้นอีกจริงๆ
กางแผงคอออกแล้วยืนรับหน้าตาชื่นมื่น
มองเห็นมันทำสีหน้าแบบนั้นขึ้นมาแวบหนึ่งทั้งที่เป็นเหล็กแข็งๆ
ทั้งแท่งแบบนั้นแต่ก็ยังจับความรู้สึกได้ว่าอีกฝ่ายขี้เล่นขนาดไหน
“กลายเป็นหินไปซะเถอะ”
แฟรนเซียมกล่าว
เขาได้คาดการณ์เอาไว้ก่อนแล้วว่าอีกฝ่ายจะไม่หลบ
โซเดียราโอเป็นเพียงนกต่อเท่านั้นของจริงคือหลังจากนี้
เซปทรูสตาร์ที่แฟรนเซียมบังคับอยู่เปล่งแสงสว่างออกมาจากทั่วทั้งร่าง
จากนั้นแสงก็รวมกันแล้วยิงออกไป
แสงสว่างอาบใส่ร่างของออร์ทิเกสซาร์ไปพร้อมกับกำแพงที่กำลังต้านโซเดียราโอแล้วเปลี่ยนทุกสรรพสิ่งในบริเวณนั้นให้กลายเป็นหินปูนไปทั้งหมด
ชนะแล้ว...
วินาทีที่คิดแบบนั้น ออร์ทิเกสซาร์ที่กลายเป็นหินไปแล้วก็ขยับตัวและลอกคราบหินปูนออกไปจากตัวมันโดยสลัดหลุดอย่างง่ายๆ
“เสียใจด้วยนะลำแสงกลายหินของเซปทรูสตาร์มีไว้เพื่อจับกุมศัตรูดังนั้นจึงใช้กับเครื่องทำสวนด้วยกันไม่ได้
เดิมพวกเราก็ถูกออกแบบมาให้ทำงานร่วมกันตั้งแต่แรกแล้ว”
ออร์ทิเกสซาร์พูด
“ส่วนโซเดียราโอน่ะถ้าพลังแรงกว่านี้อีกหน่อยคงเจาะม่านพลังของข้าเข้ามาได้อยู่หรอกแต่ว่าสิงห์
เจ้าที่ใช้ฟันเฟืองแบบครึ่งๆกลางๆ แบบให้พอยังประคองสติไว้ได้มันทำให้มีพลังไม่พอเจ้าไม่ได้เข้าใจแก่นแท้ของโซเดียหรือแม้แต่คิดจะขับมันออกมาใช้งานเอาเสียเลย”
เรื่องที่มันพูดมาคงหมายถึงอนุภาคสีทองที่ล่องลอยอยู่รอบตัวมัน
สัตว์เทวะที่สร้างจากเครื่องทำสวนล้วนกลั่นตัวมาจากอนุภาคเหล่านั้น
“นั่นคือโซเดียที่ว่าอย่างงั้นเรอะ”
แฟรนเซียมกล่าว
“นี่ก็คือความแตกต่างระหว่างเจ้ากับข้ายังไงล่ะ”
ออร์ทิเกสซาร์พูด
ระหว่างนั้นเองพวกสัตว์เทวะที่กำลังถูกพูดถึงก็เข้าปะทะกับกองกำลังที่รูบิเดียมนำมา
มีมิสไซล์อีกหลายนัดที่ยิงตามมาหลังจากนัดแรกฆ่าได้ตัวหนึ่งแต่นัดหลังจากนั้นพลาดเป้าทั้งหมดเพราะสัตว์เทวะเคลื่อนที่อย่างระมัดระวังมากขึ้นและรุกเข้าไปใกล้ยาน
หน่วยอควาฟอร์สที่ตั้งกระบวนทัพรออยู่จึงออกมาต่อสู้
แต่ละคนไถลเท้าไปตามคลื่นที่บังคับด้วยสกิลเคลื่อนที่เป็นฟอร์เมชั่นล้อมจัดการสัตว์เทวะทีละตัว
โดยหนึ่งตัวจะใช้ห้าคนจากนั้นจึงใช้สกิล ‘ไซเฟอร์โปรเจคชั่น’ สร้างร่างแยกที่โปร่งใสราวกับภาพฉายออกมาเพิ่มจนกลายเป็นสิบคนแล้วเข้าโจมตีจากทุกทิศทางด้วยอาวุธที่เป็นหอกกับสามง่ามแตกต่างกันออกไปตามแต่ละคน
ด้วยฟอร์เมชั่นนั้นมีเพียงสองกลุ่มที่ทำสำเร็จสามารถปลิดชีพสัตว์เทวะได้โดยไม่บาดเจ็บแต่อีกสามกลุ่มล้มเหลวและถูกฆ่าตายหมดในการตวัดกรงเล็บเพียงครั้งเดียวเจ้าพวกนั้นก็กลายเป็นก้อนชิ้นเนื้อลอยเท้งเต้งอยู่บนทะเลไปในทันที
ทะเลแทบจะถูกย้อมเป็นสีแดงจากเลือดของมนุษย์ต่างดาวสิบห้าตนที่ถูกฆ่าไป
ในตอนนั้นเองดาดฟ้ายานแกรนด์ครุยเซอร์ก็ขยับเปิดออก
มียานที่เหมือนกับเครื่องบินไอพ่นทะยานออกมาด้วยกันสิบลำพวกมันไล่ตามสัตว์เทวะที่ยังเหลือรอดแล้วจู่โจมด้วยปืนกลแก็ตลิ่ง
นั่นคือหน่วยแอร์ฟอร์สที่เชี่ยวชาญการขับยานบินซึ่งคราฟขึ้นมาด้วยสกิลกับวัตถุดิบ
ถ้าจะให้พูดแล้วยานบินก็เหมือนเป็นอาวุธอย่างหนึ่งของแอร์ฟอร์สนั่นเอง
สัตว์เทวะตัวหนึ่งถูกตีขนาบจากทั้งสองด้านซ้ายกับขวาและถูกยิงจนพรุนก่อนจะระเบิดตัวแตกเป็นไอควันสีเขียวฟุ้งไปทั่วทั้งท้องฟ้าในบริเวณนั้นเนื่องจากตัวมันเป็นก๊าซกำมะถันทั้งร่าง
ทัศนวิสัยจึงย่ำแย่ขึ้นมาในทันที
จึงมีเครื่องหนึ่งที่ตกเป็นเหยื่อคมเขี้ยวของสัตว์เทวะตัวสุดท้าย
ยานบินถูกกัดขนาดกลางลำแต่ผู้ที่ขับอยู่ข้างในก็สละยานออกมาได้ทันพร้อมกับติดเครื่องไอพ่นแบบสะพายเป้บินหาจังหวะจากนั้นจึงใช้ปืนอาร์พีจียิงใส่สัตว์เทวะตายในนัดเดียว
หากเป็นมนุษย์ธรรมดาคงโดนแรงสะท้อนผลักกระเด็นตกน้ำไปแล้วแต่กับมนุษย์ต่างดาวเรื่องแบบนั้นไม่มีทางเกิดขึ้น
อย่างไรก็ตามแค่สู้กับสัตว์เทวะห้าตัวยังเสร็จไปสิบห้าตนแถมเสียกำลังรบหลักอย่างแอร์ฟอร์สไปเครื่องหนึ่งด้วย
“โดนฆ่าไปห้าตัวสินะ”
เสียงของออร์ทิเกสซาร์ดังขึ้นอย่างแฝงเลศนัย
มันหัวเราะเหมือนกลั้วเสียงอยู่ในลำคอ
ไฟสีฟ้าพวยพุ่งออกมาจากร่องลายพาดกลอนบนหลังทีละปล่องๆ
จนครบทั้งห้าปล่อง
เครื่องทำสวนแยกเขี้ยวอ้าปากกว้าง
กางแผงคอแล้วเริ่มหมุนมันอย่างรวดเร็ว
อนุภาคสีทองที่ล่องลอยอยู่รอบๆ
กลั่นตัวเป็นวงแผงคอและหมุนกวัดแกว่งส่งเสียงหึ่งเหมือนเสียงผึ้งกระพือปีกออกมา
เสียงทยอยดังขึ้นเรื่อยๆ ราวกับนับถอยหลังอะไรบางอย่าง
“โซเดียแมททีเรียลเกย์เซอร์ โอเวอร์ไดรฟ์!!”
กว่าที่แฟรนเซียมจะรู้สึกตัวว่าเกิดอะไรขึ้นคลื่นบ่วงเพลิงจำนวนหกเส้นก็พุ่งจากวงแหวนกับแผงคอของออร์ทิเกสซาร์ตรงออกไปทางทะเล
เป็นทิศทางที่ตรงกันข้ามกับจุดที่ตัวเขาอยู่
คลื่นบ่วงเพลิงสร้างเสาไฟทิ้งไว้เป็นทางจากนั้น
ออร์ทิเกสซาร์ก็หันหน้าไปทางซ้ายแล้วพ่นลำแสงสีแดงพร้อมกับลากลำแสงนั่นเข้าหาแนวของเสาเพลิงทำให้เกิดระเบิดต่อเนื่อง
เสียงระเบิดดังกึกก้องกัมปนาท
แผ่นดินสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง
ไอควันกระจายตัวไปทั้งสนามรบบดบังทัศนวิสัยทั้งหมด
สิ่งที่แฟรนเซียมมองเห็นผ่านเซนเซอร์ของเครื่องทำสวนที่มองข้ามหมอกควันเหล่านั้นไปคือทะเลที่ถูกเผาจนแทบจะเหือดแห้ง
***อาทิตย์นี้ยังคงอยู่ในช่วงปรับตัวกับการกลับไปยังตารางเวลาเดิมทำให้ไรท์ยังแบ่งเวลามาเขียนไม่ค่อยพอเท่าไหร่(บวกกับงานราชแม่มเข้ามารัวๆ
ช่วงท้ายปีแล้วด้วยอีก เห้อม)
สำหรับสุดสัปดาห์นี้ไรท์จะพยายามเคลียเรื่องพล็อตที่ยังวางไม่ครบให้หมดแล้วเริ่มเขียนกักตุนต้นฉบับซํกทีละครับอาทิตย์หน้าอาจจะกลับมาอยู่ในเรท 10 หน้าต่อตอนได้เหมือนเดิม โอเมก้า!! เจอกันใหม่วันจันทร์หน้านะคร้าบบ***
ความคิดเห็น