คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #16 : จากความไม่มี
บทที่ 16 จากความไม่มี
ทุกสิ่งเกิดขึ้นเพราะความไม่มี ความชั่วดีเป็นเพียงสิ่งที่คิด
ทั้งอำนาจทั้งปัญญาอยู่ที่จิต จักทรงฤทธิ์เมื่อจิตมีความพิสุทธิ์
...ทุกสรรพสิ่งล้วนผุดจากความไม่มี..ความไม่มีคือสิ่งที่นำพาเรา นำพาทุกสิ่ง ไม่เว้นกระทั่งแสงสว่าง ความมืดมิด ดวงอาทิตย์ จันทรา ทั้งมวลสู่ความเป็นจริง
ความเป็นจริงหมายถึงสิ่งใด ใครจักใคร่รู้..ใครจักใคร่สน..หากชีวิตที่ไม่รู้ เพียงพอสำหรับความสุขที่เป็นอยู่..มันเคยเป็นเช่นนั้น...แต่บัดนี้มันไม่ใช่อีกต่อไปเสียแล้ว
เมื่อทุกอย่างเกิดขึ้น เกิดสิ่งมีชีวิตที่ทรงปัญญา ทรงอานุภาพ ทุกชีวิตมีความคิด..ต่างความคิด ต่างมุมมอง..สาเหตุแห่งการขัดแย้งทั้งมวล..เมื่อมีความคิดย่อมมีความถูกและความผิด ทั้งๆที่มันเป็นเพียงสิ่งสมมติ..ความถูกของคนหนึ่งขัดแย้งกับอีกคนหนึ่งจึงกลายเป็นความผิด..
..เมื่อมีปัญญา วิถีชีวิตแนวความคิดมักเปลี่ยนไป..สิ่งที่เคยอยู่กับธรรมชาติกลับกลายมาพึ่งทฤษฎีเสียสิ้น จอมมนตราน้อยลงหาใช่เพราะสายพันธุ์ไม่ แต่เป็นเพราะความเชื่อความศรัทธาในจิตใจหายไป
...มนตราที่ไร้ซึ่งความศรัทธา ไยจักมีค่าใด หากแม้นตัวท่านยังไม่พึงประสงค์อำนาจที่ท่านมี..หรือท่านประสงค์แต่ไม่ประจักษ์..
...อำนาจจึงเกิด เมื่อเกิดอำนาจรวมเข้ากับความขัดแย้งของความคิดของสิ่งมีชีวิต..การแย่งชิงอำนาจจึงรังสรรค์ขึ้นจากความโลภในจิตใจ..เมื่อมีการแย่งชิงอำนาจ ย่อมมีสิ่งที่จะทำให้ได้มาซึ่งอำนาจ มนุษย์ผู้คลั่งไคล้ในอำนาจแห่งความลุ่มหลง แม้นมีเนตร เสมือนไร้ซึ่งเนตร สามารถทำลายทุกอย่างได้เพราะเพียงอำนาจ
ในที่สุด อำนาจแห่งผืนภพจักรวาลก็หลุดรอด มาจากความไม่มี กลายเป็นของอาถรรพ์ ..ที่มาซึ่งอำนาจแห่งจิตใจ..สิ่งแรกที่เป็นความผิดพลาดของเทพมิใช่มนุษย์..เช่นนั้นหรือ???
มนุษย์ต่างไม่เคยรู้ซึ้งถึงความผิดพลาดที่แท้จริงดั่งเทพ..เทพผู้ซึ่งไม่เคยผิดพลาด..ทุกอย่างท่านกำหนดไว้เหมือนหมากที่ต้องเดินตามเกม..ในความจริงแล้วเป็นเพียงการหลอกลวง มนุษย์ต่างล้วนบูชาเทพเจ้ายิ่งกว่าบูชาชีวิตของตน หากแต่ว่ามนุษย์เปลี่ยนไป ก็จำเป็นที่เทพต้องทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงให้กลับมาเป็นเช่นเดิม..
..เหตุใดความยิ่งใหญ่ของเทพจึงไม่เคยจางหาย..บางช่วงเวลาความศรัทธาต่อเทพเจ้าของมนุษย์อาจเพียงหลบซ่อนอยู่มุมใดมุมหนึ่งของจิตใจ..และเทพผู้เหนือกว่ามนุษย์ทุกด้าน ย่อมหาหนทางที่จักทำให้สิ่งที่ซ่อนอยู่ในจิตใจของคนเหล่านั้นให้ออกมาโดยวิธีที่เร็วที่สุด..สงคราม..
..เกิดสงคราม มีคนตาย..มีคนรอด..มีวีรบุรุษ..วีรบุรุษบุตรของเทพเจ้า..ความเชื่อความศรัทธาก็จักหวนกลับมาอยู่ในองค์เทพเช่นเคย..เพราะวีรบุรุษเหล่านั้นต่างมีความสามารถเหนือมนุษย์ในสายตาของมนุษย์...เทพเจ้าไม่เคยทอดทิ้งเรา ท่านส่งวีรบุรุษบุตรแห่งท่านให้มาช่วยพวกเราในสงคราม..
มนุษย์ที่กระหายซึ่งอำนาจผนึกกับพลังอันดึงดูดของของอาถรรพ์ที่เทพเจ้าสร้างขึ้นเพื่อไม่ให้มนุษย์เลิกบูชา สิ่งที่ตามมา ฤาจักพ้น..สงคราม..แล้วเช่นนี้ ความจริงต่างจากความผิดที่ตรงไหน
มันมิใช่สิ่งผิด แต่ก็มิใช่สิ่งถูก..หากวัฏจักรไม่ดำเนินไปเช่นนี้ทุกคนก็ไม่สามารถดำรงอยู่ได้แม้เพียงพระเจ้าเอง..
...บางทีสิ่งผิดพลาดอาจเป็นสิ่งที่ใกล้เคียงคำว่าความไม่มีที่สุดแล้วก็เป็นได้ เพราะความผิดพลาดทั้งมวลคือสิ่งที่ทำให้..มีความวุ่นวายเช่นนี้เกิดขึ้น
...หากไร้ซึ่งความเชื่อ...ความศรัทธาและความหวังคงไร้ซึ่งความหมายแห่งความทรงพลัง..
“แล้วพวกท่านต้องการสิ่งใด??”ลีนน์ออกปากถามบรุษทั้งสอง
“ข้าอยากได้ดาบ ”เมเจอร์กล่าว
“แน่นอน ร้านของข้ามีดาบมากมายตามแต่ท่านจะเลือก”ลีนน์เงยหน้าที่เปรอะเปื้อนจากเขม่าควันในปล่องไฟตีดาบ ...รอยยิ้มทั้งตาและปากของนาง แลน่ารักน่าเอ็นดูเสียจริง..
เมเจอร์และไรมิสต่างเดินวนทั่วร้านเล็กๆนั้นด้วยความสนใจ ในร้านของสาวน้อยตรงหน้ามีดาบมากชนิดเสียเหลือเกิน บ้างก็มีรูปร่างแปลกประหลาดอย่างไม่น่าเชื่อว่าทั้งหมดนี้..เด็กสาวตาคมเบื้องหน้าตนจักเป็นคนตีขึ้นมาทั้งหมด..
“มันเยอะจัง เจ้ามีเล่มไหนจะแนะนำไหม??”เมเจอร์ หันมาถามเจ้าของร้าน
ลีนน์ทำท่าครุ่นคิดเล็กน้อย ก่อนที่จะเดินไปที่มุมหนึ่งของร้าน นางหยิบดาบออกมาเล่มหนึ่ง เป็นดาบเล่มหนาและใหญ่สีดำสนิท
“ข้าแนะนำให้ท่านเลือกเล่มนี้...ดาบสีรัตติกาลนี้ข้าตั้งชื่อมันไว้ว่า เบลส เป็นดาบเล่มใหญ่ก็จริงแต่มีความสมดุลในการตีในตัวของมันเอง ดาบเป็นสีนี้เนื่องจากใช้ธาตุคลีอาลัสในการตีเป็นแร่ที่มีสีดำสนิทดั่งที่เห็นพบทางตอนเหนือของป่าอาถรรพ์ ซึ่งข้าเกือบตายเพราะมันตอนเข้าป่า ที่ด้ามดาบสลักมนตร์ด้วยเลือดของพยัคฆ์ราตรีแห่งคอร์โรรัสอีกนั่นแหละส่วนผู้ลงมนตร์ ..เอ่อ..ข้าเอง”
“เจ้าลงมนตร์???มันจักใช้ได้หรือ”ไรมิสพูดด้วยความไม่แน่ใจ ลีนน์หน้าบูดทันที
“ท่าน การลงมนตร์นี่เป็นวิชชาจากปู่ข้า ท่านเป็นนักตีดาบที่ลือชื่อที่สุดในคลามอส..ซึ่งคลามอสก็เป็นเมืองที่มีดาบดีที่สุดดาบในตำนานล้วนกำเนิดจากที่นี่ รวมถึงดาบไอซ์บลีสด้วยนะท่าน!!”ลีนน์พูดรวดเดียวไม่หายใจ บรรยายถึงสรรพคุณสิ่งสืบทอดในตระกูลนักดาบ
“เอ่อ..ข้าเอาเล่มนี้แหละ”เมเจอร์พูด ด้วยความงงๆกับอารมณ์ที่ขึ้นๆลงๆกับหญิงสาวรุ่นพี่ตรงหน้า
“เจ้าว่าไงนะ???ไอซ์บลีสงั้นหรอ!!”น้ำเสียงประหลาดใจดังจากชายหนุ่มเจ้าของดวงตาสีเขียวอ่อน
“อย่างที่ท่านเข้าใจไอซ์บลีสในตำนานเล่มนั้นแหละ” ลีนน์ยิ้มอย่างภูมิใจ
“ปู่เจ้าเก่งไม่ได้หมายความว่าเจ้าจักเก่งนี่จริงป่าว”ไรมิส ย้อนแก้เก้อ
“ท่าน!!!!” ก่อนที่ลีนน์จะได้พูดอะไรไรมิสก็ลากเมเจอร์ออกจากร้านด้วยความรวดเร็วดุจสายฟ้าแลบ
บ้านของเสนาธิการหญิงแห่งคลามอส ดูงดงามเช่นเดิมกลางแสงอาทิตย์ที่ฉายแสงลงมาบางเบาเหลือเกิน อากาศอันหนาวเย็นปกคลุมไปทั่วบริเวณ
หญิงสาวที่นั่งอยู่ภายในตัวบ้าน มองไปนอกหน้าต่าง ใบหน้างามบูดด้วยอารมณ์โมโห ชายหนุ่มผู้นอนเล่นอยู่ที่เก้าอี้ตัวข้างๆ อ่านหนังสือและกินขนมไปเรื่อยๆด้วยความสบายอารมณ์
“ฮึ่มมม!!”เอโรร่าละสายตาจากแผ่นดินสีขาวโพลน หันมามองชายหนุ่ม
“เฟธาน!!” นางยิ่งหงุดหงิดมากขึ้นเมื่อชายหนุ่มไม่สังเกตเห็นความหงุดหงิดของเธอ
“อะไรเอรี่”น้ำเสียงทุ้มชวนฟังของชายหนุ่มกวนอารมณ์ของนางเหลือเกิน
“เจ้าจะตั้งใจอ่านอะไรหนักหนาน่ะ???”
“อ้าวว ก็เมื่อครู่เจ้าบอกให้ข้านั่งอ่านหนังสือเงียบๆไปเลยไม่ใช่หรือ” เฟธานพาซื่อเอ๋ย!!
“เมื่อไร ท่านแอนลีสจักกลับมาเสียที รอมาตั้งค่อนวันแล้ว เดินทางกันไม่ทันกำหนดจะแย่แน่ๆเลย”เอโรร่าผู้ซึ่งอารมณ์สงบกว่าเมื่อครู่กลับเข้าสู่อารมณ์เย็นๆปกติของนางแล้ว
“เวลาเจ้าหงุดหงิดแล้วไม่เหมือนเอโรร่าที่ข้ารู้จักเล้ย” เฟธานลุกขึ้นมานั่งพลางวางหนังสือในมือลง และหัวเราะน้อยๆ
“ข้ากลับมาแล้ว” น้ำเสียงสดใสของไรมิสดังขึ้นก่อนเจ้าตัวจะโผล่เข้ามาในบ้าน
“เฟธานข้าได้ดาบมาด้วยท่านดูให้ข้าหน่อยสิ”เมเจอร์รีบอวดด้วยความเห่อของใหม่
เฟธานพินิจดาบเล่มหนาสีดำสนิทข้างหน้า หัวคิ้วสีน้ำตาลไหม้เช่นเดียวกับผมขมวดมุ่น นิ้วเรียวยาวของชายหนุ่มสัมผัสตามด้ามดาบและหยุดที่ตัวอักษร
“เอโรร่า” เสียงเรียกของชายหนุ่มทำให้เอโรร่าหันมามอง
“ถึงข้าจะไม่เคยเห็นภาษาพวกนี้มากนักแต่ข้าว่า ตัวอักษรบนนี้มันเหมือนอักษรกลางโฮลี่สตาร์เลยนะ” เอโรร่าเดินเข้ามาดูดาบของผู้เป็นลูกศิษย์
“จริงเสียด้วย”เอโรร่าเลิกคิ้วขึ้น
“ถ้าผู้ตีดาบสลักได้แสดงว่าต้องอ่านได้ และผู้ที่อ่านออกเขียนได้...ต้องรู้เรื่องราวของภาษานี้ไม่มากก็น้อย”
“เจ้าจะไปหาคนตีดาบเล่มนี้หรือ???”เฟธานถามทั้งๆที่รู้คำตอบ และคำตอบคือการพยักหน้ารับจากหญิงสาว
ความคิดเห็น