ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [EXO FIC] THE WIZARD (KRISLAY)

    ลำดับตอนที่ #15 : ll THE WIZARD ll Chapter 13

    • อัปเดตล่าสุด 11 มิ.ย. 56
















    THE WIZARD13

     


     













     

     


     

    ณ สนามบินนานาชาติปักกิ่ง

     

     





     

     

    คริส! เดินเร็วๆหน่อยลูก เดี๋ยวเราจะตกเครื่องเอานะคนเป็นพ่อเอ่ยกับลูกชายในสายเลือดที่ตอนนี้กำลังหอบกระเป๋าเป้ใบใหญ่ใส่หลัง พลันเร่งรีบเดินให้ทันคนเป็นพ่อและพี่ชาย

     




     

    เดินให้มันเร็วกว่านี้ได้ไหมคริส? รู้ใช่ไหมถ้าตกเครื่องแล้วฉันจะไปไม่ทันงานปฐมนิเทศน่ะคนแก่ปีกว่าหันกลับไปบ่นค่อนขอดคนเป็นน้องชายที่เดินหลังท้ายอยู่ ไม่อยากจะคิดว่าถ้าไม่ทันไฟท์บินนี้อนาคตในโรงเรียนพ่อมดจะเป็นอย่างไร

     




     

    ฉันก็เดินเร็วที่สุดแล้วเนี่ย ไม่ได้ขายาวเหมือนนายนะแม็กคริสตอบกลับพี่ชายไปอย่างไม่ใส่ใจนัก จะเอาอะไรกับเด็กวัยสิบสี่ที่กำลังโตเป็นหนุ่ม ส่วนสูงสำหรับเด็กผู้ชายวัยนี้ก็ไม่ได้มากไปซะเท่าไหร่ นั่นก็ทำให้คริสต้องขมวดคิ้วมุ่นอย่างไม่ชอบใจในทันที

     





     

    อย่าหลงก็แล้วกัน รีบตามมาพูดเสร็จชางมินก็เดินดุ่มๆนำหน้าไปโดยไม่หันกลับมาสนใจอีกเลย ปล่อยให้น้องชายที่เดินรั้งท้ายอยู่บ่นพึมพำตามหลังไปอย่างไม่รู้ตัว

     

     

     

     





     

    อ๊ะ!”

     




     

    ไม่ทันได้สนใจรอบข้าง กายสูงโปร่งของเด็กวัยสิบสี่ที่มัวแต่บ่นพึมพำใส่พี่ชายอยู่เมื่อครู่ก็ชนกับใครอีกคนเข้าอย่างจัง นึกหงุดหงิดที่ทำอะไรก็ไม่ได้ดั่งใจ ยิ่งรีบมากเท่าไหร่ก็เหมือนจะเอาภาระมาให้ตัวเองเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น

     

     




     

     

    ขอโทษครับ พอดีผมรีบไปหน่อยเด็กหนุ่มเจ้าของใบหน้าหวานที่ล้มไปนั่งอยู่กับพื้นเอ่ยขอโทษขอโพยทันทีเมื่อรู้ว่าเจ้าตัวเป็นคนผิด พลันมือบางก็รีบเอื้อมไปเก็บหนังสือที่ล่วงไปกองอยู่กับพื้นจากการชนก่อนหน้าอย่างลุกลน

     




     

     

    นายคิดว่านายรีบเป็นคนเดียวรึไง? หัดเดินดูทางซะบ้างสิเสียงทุ้มก่นต่อว่าคนที่ไม่รู้จักอย่างหัวเสีย มือหนายกขึ้นขยี้ผมสีบลอนด์ทองจนยุ่งเหยิง ก้มหน้าก้มตาบ่นพึมพำจนไม่รู้ว่าคนที่นั่งอยู่กับพื้นในตอนแรกลุกขึ้นมายืนอยู่ตรงหน้าเสียแล้ว

     

     




     

    หนิ! ต่างคนก็ต่างรีบ คิดว่าฉันอยากเดินมาชนนายมากนักรึไง ฉันผิดฉันก็ขอโทษแล้วนายจะเอาอะไรอีก?

     

     

    สิ้นเสียงหวาน คริสก็เงยใบหน้าขึ้นมองคนที่พร่ำตำหนิเขาอย่างเอาเป็นเอาตาย เพียงแค่เสี้ยววินาทีก็ต้องชะงักกึกเหมือนถูกแช่แข็งเมื่อคนตรงหน้าทำเอาหัวใจวูบโหวง พลันจังหว่ะในการเต้นของหัวใจที่ตอนแรกมันออกจะเนิบนาบหากแต่ตอนนี้มันรัวถี่จนยากจะควบคุม

     

     


     

    เด็กหนุ่มผู้เป็นเจ้าของใบหน้าน่ารักกับผิวขาวเนียนที่ตัดกับเสื้อสีดำขลั่บคุมด้วยเสื้อกันหนาวแขนยาวสีน้ำเงินเข้ม ช่างดูสะดุดตาคนที่ได้พบเห็นเป็นยิ่งนัก บนหัวทุยคุมด้วยหมวกไหมพรมที่พอสวมใส่แล้วยิ่งดูก็ยิ่งน่ารักขึ้นไปอีก ห้าเครื่องตกแต่งบนใบหน้าไม่ว่าจะเป็น ตา จมูก คิ้ว ปากและโครงหน้าเรียวสวย กลับทำให้คนที่ตอนแรกนึกหงุดหงิดในอารมณ์คุกรุ่นให้มลายหายสิ้นไปในทันที

     

     






     

     

    น่า.....

     

     



     

     

    หยุด! ไม่ต้องพูด นายจะว่าอะไรฉันอีกฉันก็ขอโทษแล้วไง ตอนนี้ฉันรีบมาก เพราะฉะนั้นไม่มีเวลามาต่อล้อต่อเถียงกับนายหรอกนะ จะด่าจะว่าอะไรฉันก็นึกมันอยู่ในใจไม่ต้องพูดออกมา ใจเขาใจเรา จบนะ! ฉันไปล่ะ

     

     

    พูดเสร็จก็เดินจากไปในทันที จนคริสเองก็ได้แต่อ้าปากค้างเมื่ออีกคนที่ไม่แม้แต่จะให้เขาได้พูดอะไรกลับไป คนหน้าหวานก็สวนขึ้นมาไม่ยั้งจนทำเอาใบ้กิน ได้แต่ยืนนิ่งให้เด็กหนุ่มเจ้าของใบหน้าเพอร์เฟคคนนั้นพร่ำบ่นจนหูชาไปหมด

     

     

     




     

     

    น่ารัก...แค่จะพูดว่าน่ารัก ยังไม่ได้ว่าอะไรเลย อะไรของเขาวะ?” ยกมือขึ้นเกาหัวอย่างไม่เข้าใจก่อนจะมองไปรอบๆ พลันพบว่าพ่อและพี่ชายเดินหายไปหมดแล้ว งานเข้าแล้วไง

     

     








     

    ไอ้คนหล่อ! จะยืนเท่อีกนานไหม? ถ้าฉันไม่หันกลับไปดูก็คงไม่รู้ว่านายหายไป อยากเป็นเด็กหลงทางอยู่ที่สนามบินรึไง ทางนี้! เดินตามมาเร็วๆ เสียเวลาจริง!”

     


     

    เหมือนโล่งอกไปบ้างเมื่อคนเป็นพี่ชายยังใส่ใจแล้วเดินกลับมาตามหาเขา ไม่งั้นคริสคงไม่รู้แน่ๆว่าจะต้องเดินต่อไปทางไหน ถือว่าโชคยังช่วยที่ทำให้เขาไม่ต้องเป็นเด็กหลงทางอย่างที่พี่ชายว่า เหมือนโชคสองต่อจริงๆแฮะ...

     

     





     

    นั่นแหละครับ อยู่มาวันนึงเลย์ก็มาปรากฏตัวเป็นรูมเมทของผม มาซะจนดึกดื่นทำเอาผมนอนไม่หลับทั้งคืนเลย...ดุเขาไปเยอะอยู่เหมือนกัน แต่ก็ไม่ได้อยากจะทำอย่างนั้นหรอกนะครับ แค่ไม่คิดว่าคนที่ผมตกหลุมรักตั้งแต่แรกเห็นจะอยู่ใกล้ผมถึงขนาดนี้ มันก็แค่ทำอะไรไม่ถูกน่ะ...ที่ได้มาเจอกันอีกครั้งมันเรียกว่าพรมลิขิตรึเปล่านะ?...

     

     

     






     

    …THE WIZARD…

     

     






     

     

    เห้ยจริงดิ! นั่นเป็นนายหรอ? แล้วตอนนั้นนายกำลังจะไปไหนอ่ะ?” เสียงหวานเอ่ยถามในทันทีหลังจากได้ฟังเรื่องเล่าในอดีตของคนรักจนจบ แปลกใจมากถึงมากที่สุดเมื่อโลกใบนี้มันกลมอย่างที่เขาว่ากันจริงๆ

     

     


     

     

     “ตอนนั้นฉันกับครอบครัวเพิ่งกลับมาจากแคนนาดา แค่มาเปลี่ยนเครื่องที่ปักกิ่งเพื่อบินต่อไปเกาหลีน่ะ เพราะแม็กต้องมาเรียนที่เดอะวิซาร์ดฉันกับพ่อเลยต้องย้ายมาอยู่ที่โซลด้วย.... เฮ้อ! ทั้งๆที่ฉันจำนายได้ไม่เคยลืม แต่นายกลับจำฉันไม่ได้ซะงั้น ความหล่อฉันไม่เตะตานายบ้างเลยรึไงนะพูดเสร็จก็ไม่ลืมบ่นค่อนขอดคนตัวเองเล็กอย่างนึกน้อยใจ สงสัยความหล่อคงไม่เป็นประโยชน์จริงๆ

     

     

     



     

     

    โธ่! ก็ตอนนั้นมันโมโหหนิ ฉันก็ใส่กลับอย่างเดียวเลย ใครจะเอาเวลาไปสนใจรายละเอียดของคนอื่นเหมือนอย่างนายเล่า

     

    ใบหน้าหวานยู่ลงพลันล้มตัวเอนไปด้านหลังหวังพิงกับอกแกร่งที่รองรับอยู่ กายสูงที่นั่งแนบแผ่นหลังไปกับหัวเตียงนั้นก็เป็นที่พักพิงให้คนตัวเล็กได้เป็นอย่างดี คริสเกยคางไว้บนลาดไหล่บางของอีกคนก่อนมือหนาจะโอบกอดรอบเอวเล็กนั้นพลางกระชับให้เข้ามาแนบกายมากกว่าเดิม

     

     



     

    ตอนแรกฉันก็หงุดหงิดนายเหมือนกันนั่นแหละ แต่เห็นว่าเงยหน้าขึ้นมาแล้วน่ารักก็เลยไม่รู้จะไปต่อยังไง

     




     

     

    โห้ สงสัยต้องขอบคุณความน่าตาดีของฉันนะเนี่ย ฮิฮิ

     

     




     

    แฟนใครหลงตัวเองจัง

    พูดเสร็จก็หันใบหน้าหล่อเข้าหาอีกคน ส่งปลายจมูกโด่งไปคลอเคลียกับผิวแก้มเนียนใสแล้วค้างไว้แบบนั้นอยู่เนิ่นนาน สูดกลิ่นหอมจากพวงแก้มอมชมพูอย่างเอาแต่ใจทั้งยังไม่คิดจะผละออกเลยสักนิด ไม่ได้สังเกตุเลยว่าคนที่ถูกกระทำนั้นหน้าแดงเหมือนลูกตำลึงขนาดไหนแล้ว

     

     

     


     

    ก็แล้วฉันน่ารักจริงไหมล่ะ?”

     


     

     

    ไม่อ่ะ

     

     



     

    อะไรคือไม่?!”

     

    ตกใจกับคำตอบของคนตัวสูง ใบหน้าหวานพลันหันไปถามอีกคนทันทีด้วยความไม่พอใจ หากแต่การหันไปเร็วแบบนั้นคนที่รออยู่ก่อนแล้วก็ได้เปรียบไปเต็มๆเมื่อกลีบปากเล็กนั่นสัมผัสริมฝีปากเรียวอย่างแผ่วเบาโดยไม่ได้ตั้งใจ เสียท่าให้คริสเหมือนอย่างเคยสินะ

     

     




     

     

    ไม่ใช่แค่น่ารัก แต่น่ารักมากต่างหากล่ะครับ

     

    พูดเสร็จคริสก็รวบรัดโดยการกดริมฝีปากเรียวทาบทับกลีบปากอมชมพูในทันที ยกมือเชิดคางสวยให้ยกขึ้นเล็กน้อยก่อนจะกดปลายคางมนต์เบาๆเพื่อให้อีกคนเปิดทางให้เข้าไปได้อย่างง่ายดาย

     



     

    ลิ้นร้อนสอดเข้าไปควานหาความหอมหวานภายในโพรงปากนั้นอย่างผู้ที่เป็นฝ่ายนำ และอีกคนก็เป็นฝ่ายตามที่ดีโดยการจูบตอบอย่างไม่ประสานัก คริสผละริมผีปากออกออกชั่วครู่ก่อนจะกดย้ำลงไปซ้ำๆ จากสัมผัสเชื่องช้าอ่อนโยน ค่อยๆแปรเปลี่ยนเป็นเร่าร้อนตามแรงอารมณ์ ท่านั่งในตอนแรกก็ค่อยๆเอนกายให้นอนราบอย่างไม่มีใครได้ทันรู้สึกตัว ท่าล่อแหลมที่อีกไม่นานมันคงไม่ใช่แค่จูบแน่ๆ

     

     

     

     




     

     

    ฉันคิดว่าเราควรจะนอน ก่อนที่ฉันจะหยุดมันไม่ได้แล้วพรุ่งนี้นายจะตื่นไปสอบวัดระดับไม่ไหวนะเสียงทุ้มเอ่ยบอกคนใต้ร่างพลางอกแกร่งก็กระเพื่อมขึ้นลงจากแรงหอบหายใจอันหนักหน่วง อยู่กันสองต่อสองแบบนี้มันอันตรายเกินไปแล้วจริงๆ

     

     




     

    จะนอนก็นอนดิ จะมองหน้ากันอีกนานไหม?” พูดเสร็จเลย์ก็ยกมือขึ้นปิดหน้าตัวเองที่มันแดงซ่านจากอาการร้อนๆหนาวๆที่ส่งผ่านมาจากข้างใน

     

     





     

     

    นายโกรธปะเนี่ย?”

     



     

    ไม่ได้โกรธ

     



     

    ไม่ค้างนะ?”

     


     

    อะไรค้าง?”

     


     

    อารมณ์อ่ะไม่ค้างนะ

     



     

     

    ไอ้คริส! ไอ้ทะลึ่ง! ถ้ายังอยากนอนเตียงเดียวกับฉันอยู่ละก็ หุบปากแล้วนอนลงไปเลย

    เสียงหวานโวยวายใส่อีกคนก่อนมือบางจะจัดการผลักอกกว้างของคนด้านบนให้หลบไป หากแต่ก็ไม่เป็นผลเลยสักนิดเมื่อแรงที่มีมันอ่อนยวบไปกับรสจูบเมื่อครู่หมดแล้ว อยากจะตายสักร้อยหนต่อวัน โดนเอาเปรียบตลอดเลยจริงๆ

     

     




     

    โอเค ยอมแล้วๆ งั้นนอนกันเถอะ” คริสเอ่ยบอกคนรักก่อนจะจุมพิตแผ่วเบาที่หน้าผากบางนั้นอย่างอ่อนโยน  พลันมือหนาก็ชี้ไฟภายในห้องที่ส่องสว่างอยู่ให้ดับสนิทแล้วล้มตัวลงนอนโอบกอดกายบางไว้ในอกอุ่นอย่างสุขใจ

     

     


     

    ฝันดีนะคริส





     

    ฝันดีครับ

     

     






     

     

    …THE WIZARD…

     

     







     

     

    การสอบวัดระดับได้ผ่านพ้นไปแล้ว เหล่านักเรียนของเดอะวิซาร์ดก็มักจะมีสิ่งที่ต้องทำหลังสอบเสร็จกันเป็นธรรมเนียมเพื่อผ่อนคลายความตึงเครียดที่ทั้งสัปดาห์ใช้เวลาทั้งหมดไปกับการอ่านหนังสือสอบและเข้าห้องสมุดเพียงเพื่อเอาความรู้มากมายมาสอบวัดผลภายในวันเดียวเท่านั้น

     

     





     

    เป็นยังไงบ้าง ทำข้อสอบได้ไหมเด็กน้อย?” ประธานปราสาทอย่างชองยุนโฮเอ่ยถามรุ่นน้องหน้าหวานที่เดินเคียงคู่กันมากับรูมเมทหน้าหล่อทันทีที่ทั้งสองออกมาจากห้องสอบ ดูก็รู้ว่าแค่แรงจะเดินก็ยังไม่มี ช่างน่าสงสารจริงๆ

     

     

    ก็พอทำได้ครับรุ่นพี่ แต่ไม่คิดว่ามันจะใช้พลังสมองไปเยอะมากขนาดนี้

     



     

    เอาน่า ปีแรกก็เป็นแบบนี้กันทุกคน เดี๋ยวก็ชินยุนโฮเอ่ยก่อนจะตบลงที่บ่าเล็กเป็นการให้กำลังใจรุ่นน้องตัวดีอีกที

     

     



     

    มาครบกันรึยัง? ชั้นจองร้านไว้แล้วนะยูชอนประธานปราสาทฟีนิกซ์เอ่ยถาม เรื่องแบบนี้ต้องยกให้เขาแต่เพียงผู้เดียว สุราเมทั้งหลายช่างเชี่ยวชาญเป็นที่สุด

     



     

     

    เอ่อ...พี่ยูชอนครับ จองร้านอะไรอ่ะ?” เสียงหวานเอ่ยถามอย่างไม่เข้าใจ พลันมือบางก็ยกขึ้นเกาศรีษะอย่างน่าเอ็นดู

     

     



     

    ร้านเหล้าข้างโรงเรียนน่ะ สอบเสร็จทั้งทีเราก็ต้องไปฉลองกันหน่อยสิเลย์พยักหน้าเข้าใจเมื่อได้รับรู้สิ่งที่ต้องการจากลูกพี่ลูกน้องคนสนิท

     

     



     

    ชางมินยังไม่มาเลย รออีกสักครู่ก็แล้วกันยูฮวานบอกคนเป็นพี่ชายอย่างปาร์คยูชอนก่อนจะชะเง้อคอมองหาคนที่ขึ้นชื่อว่าแฟนอย่างรอคอย

     




     

     

    เพียงไม่นาน ร่างสูงโปรงเกือบร้อยเก้าสิบเซนติเมตรก็ปรากฏให้เห็นอยู่ไม่ไกล ชางมินรีบวิ่งตรงดิ่งมายังกลุ่มผู้ชายน่าตาดีทันที ใช่! ไม่ผิดหรอก ก็น่าตาดีจริงๆ จุดนี้ไม่มีเหตุผลใดๆต้องอธิบาย

     


     

     

    มาแล้วครับ ขอโทษที่ให้รอนานนะพี่ พอดีศาตราจารย์แอนดี้เรียกไปพบอ่ะ

     



     

     

    โอเค ถ้าครบแล้วงั้นพวกเราไปกันเถอะเป็นแจจุงที่เอ่ยตัดบทก่อนทุกคนในกลุ่มจะพยักหน้าตอบรับกันอย่างพร้อมเพียง

     





     

     

    ระหว่างที่ทุกคนกำลังเดินไปร้านเหล้าขาประจำของปาร์คยูชอน รุ่นน้องหน้าหล่อเจ้าของผิวสีเข้มก็วิ่งทักๆเข้าไปหารุ่นพี่คนสนิททันที รุ่นพี่ที่มักจะสอนเวทมนต์ให้เขาไปใช้ในทางที่ผิดๆเสมอ แล้วก็เป็นเขาเองคนเดียวที่โดนคาดโทษอยู่ตลอด

     

     


     

    รุ่นพี่ชางมินครับ ผมมีอะไรจะเล่าแหละเสียงเข้มกระซิบกระซาบกับพี่ชายของเพื่อนสนิท พลันเหลียวซ้ายแลขวามองไปรอบๆข้าง เมื่อไม่มีใครสนใจไคก็เริ่มในทันที

     

     





     

     

    เรื่องอะไรของนาย?”

     



     

     

    วันติวก่อนสอบ ผมเห็นคริสหอมแก้มเลย์ด้วยรุ่นพี่จะไม่เชื่อผมก็ได้นะ แต่ผมเห็นมากับตา ไม่ได้ตาฝาดเลยนี่พูดจริง!”  ไคเล่าเรื่องที่ได้พบเห็นในคลาสเรียนให้ชางมินฟังพลันทำหน้าภูมิใจเมื่อหาข้อมูลของความคืบหน้ามาให้รุ่นพี่ได้ และนี่ก็เด็ดมากจริงๆ

     

     





     

    ฉันก็ไม่ได้ว่านายโกหกสักหน่อยชางมินเอ่ยบอกรุ่นน้องผิวเข้มก่อนจะทำท่าทางเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

     

     



     

    อ้าว แล้วรุ่นพี่ไม่แปลกใจหรือไม่ตื่นเต้นเลยหรอครับ? นี่เราได้ข้อมูลมาเพิ่มแล้วนะครับไคเอ่ยบอกกับรุ่นพี่ที่มักจะช่วยกันวางแผนเพื่อจับผิดเพื่อนรักเสมอ ตลอดเวลาที่ผ่านมา ชางมินมักจะให้เขาช่วยสอดส่องเรื่องราวของคริสมาโดยตลอด หากแต่ตอนนี้ทำไมดูจะไม่ใส่ใจเอาซะเลย

     

     




     

    หึ! แค่หอมแก้มอย่ามาโม้น่า ฉันเจอมายิ่งกว่าหอมอีก ฮิฮิชางมินหันไปบอกรุ่นน้องตัวดีก่อนจะกระตุกยิ้มซาตานเหมือนอย่างที่ชอบทำ

     

     




     

    อ้าว! นี่มันเกินเลยกันแล้วหรอเนี่ย?....โอ้ย!”   ยังไม่ทันได้พูดอะไรอย่างที่ใจคิด ฝ่ามือใหญ่ๆของชางมินก็ประทับลงบนท้ายทอยของไคในทันที  ก็เล่นพูดส่อแบบนี้มีหรือคนอย่างชางมินจะรอให้ไคได้พูดไปจนจบ

     




     

     

    นายคิดอะไรอยู่เนี่ยไค ชั้นหมายถึงจูบเว้ย! จูบอ่ะจูบ

     

     

     

    โห้ยรุ่นพี่ ผมก็ยังไม่ได้คิดอะไรไปมากกว่านี้เลยนะ ผมหมายถึงเกินเลยมากกว่าหอมแก้มน่ะ... ผมเจ็บนะครับ ฟาดลงมาไม่ยั้งมือเลย

    ใบหน้าคมคายยู่ลงอย่างนึกน้อยใจรุ่นพี่หน้าหล่อก่อนมือหนาจะยกขึ้นลูบท้ายทอยที่โดนรุ่นพี่คนสนิทกระทำเมื่อครู่เพื่อระบายความเจ็บปวดนั้นไม่โดนเองให้มันรู้ไปดิ

     

     


     

    อ้าวหรอ? แฮ่ๆ ฉันขอโทษพูดเสร็จชางมินก็ยกมือรั้งลำคอเรียวสวยของไคเข้ามากอดไว้แนบแน่นก่อนจะเดินนำหน้าทุกคนพลางผิวปากไปอย่างอารมณ์ดี ช่างเข้าขากันดีซะเหลือเกิน

     

     

     

    .

     

    .

     

    .

     

     




     

    คริส!”  


    เสียงร้องเรียกทำให้เจ้าของชื่อและทุกคนภายในกลุ่มต้องหันไปมองเป็นตาเดียวอย่างพร้อมเพรียงกัน ก่อนจะพบหญิงสาวรูปร่างหน้าตาดี ยืนยิ้มหวานอยู่หน้าประตูโรงเรียนเหมือนรอคอยอะไรบ้างอย่าง

     





     

     

    ใครวะน่ะ? เด็กเพอร์ลาสหรอ? ” ยูชอนเอ่ยขึ้นมาในทันทีเมื่อแปลกใจกับหญิงสาวน่ารักคนนั้น โรงเรียนชายล้วนแท้ๆ แต่เธอก็ยังกล้าที่จะยืนคนเดียวเป็นเป้าสายตาให้นักเรียนชายได้จ้องมอง ไม่รู้สึกอะไรบ้างเลยรึไงนะ

     

     




     

    คริสคะ คือว่า...ฉันขอคุยกับคุณสักครู่ได้ไหม ขอเวลาไม่นานหรอกค่ะหญิงสาวเดินเข้ามาหาคริสก่อนจะเอ่ยขออย่างต้องการ ทำให้คนหน้าหวานที่ยืนอยู่ด้วยกันในตอนแรกนึกหงุดหงิดขึ้นมาอย่างไม่รู้สาเหตุ

     

     



     

    คริสช่างใจอยู่เล็กน้อยเมื่อหันไปเห็นคนรักที่ดูจะไม่สบอารมณ์สักเท่าไหร่ ไม่รู้ว่าควรจะทำยังไงเมื่อความเกรงใจมันโถมเข้ามาในตอนนี้ จะตอบปฏิเสธอีกคนก็ดูจะใจร้ายเกินไปทั้งอีกใจก็กลัวจะทำให้คนตัวเล็กข้างกายเข้าใจผิด สองจิตสองใจจนทำอะไรไม่ถูกเลยจริงๆ

     

     




     

    คุยเสร็จแล้วก็ตามมานะ ฉันจะไปรอที่ร้านก่อน!

    ไม่ทันซะแล้ว เมื่อเลย์ดูจะงอนคริสอย่างเปิดเผย เดินตึงตังออกไปอย่างเห็นได้ชัดว่าทั้งหึงทั้งหวงคนตัวสูงขนาดไหน นั่นก็ทำให้คริสต้องมองตามร่างบางนั้นอย่างนึกเป็นห่วง

     

     






     

    งานเข้าแล้วน้องชายกู เนี่ยน้าได้ความหล่อพี่มันไปเต็มๆ ต้องทำใจ

     

    ชางมินเอ่ยออกมาทันทีที่เห็นเหตุการณ์เบื้องหน้าก่อนจะส่ายหัวไปมาอย่างอ่อนใจ พลันมือหนาก็ออกแรงลากคอรุ่นน้องอย่างไคให้ไปรอที่ร้านเหล้าก่อนในทันที เรื่องแบบนี้ต้องให้คริสเป็นคนจัดการเอง เขาไม่มีหน้าที่เข้าไปยุ่งเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา มันไม่เกี่ยวกัน...

    .

     

     

    .

     

    .

     







     

    เอ่อ... ครับ คุณมีอะไรก็รีบพูดมาเถอะ พอดีผมมีนัดกับพวกรุ่นพี่น่ะ”  คริสเอ่ยอย่างสุภาพกับหญิงสาวหลังจากที่เลย์เดินจากไปแล้ว คิดไว้ว่าคุยเสร็จเมื่อไหร่จะรีบกลับไปง้อในทันที

     








     

    ค..ค่ะ เมื่อกี้เพื่อนคุณหรอคะ? น่ารักจังแต่ชั้นว่าหน้าคุ้นๆนะหญิงสาวไม่ได้พูดเข้าเรื่องหากแต่นึกสงสัยในใบหน้าหวานที่คุ้นเคยของเลย์เสียอย่างนั้น ทำให้คริสต้องเอ่ยตัดบทไปก่อนที่เธอจะสงสัยไปมากกว่านี้

     






     

    คุณมีอะไรจะคุยกับผมหรอครับ?”

     

     




     

    คือ...คุณยังจำฉันได้ไหมคะ คริสตัลค่ะ ฉันชื่อคริสตัล

     

     



     

    ครับ

    คริสไม่ได้ตอบกลับอะไรไปมากกว่านั้น ใบหน้าหล่อพยักขึ้นลงให้กับหญิงสาวเป็นคำตอบ นั่นก็ทำให้คริสตัลถึงกับยกยิ้มออกมาด้วยความดีใจที่อย่างน้อยผู้ชายคนนี้ก็ยังไม่ลืมกัน

     

     


     

    ฉันมีของจะให้น่ะค่ะ เห็นว่าวันนี้พวกคุณสอบวัดระดับเสร็จแล้ว พรุ่งนี้ก็คงจะกลับบ้านกัน ฉันเลยเอามาให้วันนี้แทน ถ้าไม่รังเกียจได้โปรดรับมันไว้เถอะนะคะ

    หญิงสาวยื่นถุงกระดาษสีดำมันวาวส่งให้ตรงหน้าคริส ก่อนจะเป็นคริสที่รับมันไว้เพื่อไม่ให้อีกคนเสียน้ำใจ

     


     

     

    ขอบคุณมากนะครับ มีเรื่องจะคุยกับผมแค่นี้ใช่ไหม? งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ

     

     



     

    เดี๋ยวก่อนสิคะ

     

    สิ้นเสียงหวานหญิงสาวก็โผลเข้ากอดกายสูงจากทางด้านหลังในทันที ยิ่งสร้างความตกใจให้กับคริสเป็นอย่างมาก คิดไม่ตกว่าถ้าเลย์มาเห็นในตอนนี้จะเป็นยังไง เขาคงไม่ตายดีแน่ๆ

     

     



     

    ขอร้องอย่าทำแบบนี้เลยครับพูดเสร็จก็แกะมือเล็กของหญิงสาวให้ออกจากเอวทันที พลางหันกลับไปมองอีกคนด้วยสายตาที่ว่างเปล่าจนไม่สามารถคาดเดาอารมณ์ได้เลย ยิ่งใจดีก็เหมือนกับให้ความหวังเขาสินะคริส...

     

     



     

     

    แต่ฉันรักคุณนะคะ

     

     

     

     

    ผมขอบคุณอีกครั้งที่คุณรู้สึกดีๆกับผม แต่ผมคงรับความรักจากคุณไม่ได้หรอกนะครับ อย่าพยายามอีกเลยคริสพยายามพูดให้อีกคนรู้สึกเจ็บน้อยที่สุด หากแต่มันก็ไม่ได้ช่วยอะไรเลยเมื่อหญิงสาวไม่คิดจะตัดใจ ยังคงรั้นเมื่อทุกอย่างมันไม่เป็นอย่างที่เพ้อฝันไว้

     



     

     

    ฉันมันไม่ดีตรงไหนหรอคะ? หน้าตาไม่ดี หุ่นไม่ดี นิสัยไม่ดี หรือยังไงคุณก็พูดมาเลยค่ะ ฉันพร้อมจะเปลี่ยนมันเสียงหวานเริ่มสั่นเครือน้อยๆ นัยน์ตาคู่สวยไหวระริกไปด้วยหยาดน้ำสีใสที่เอ่อคลอหน่วง พยายามแล้ว มาหาถึงที่นี่หากแต่คริสก็ยังไม่สนใจ ทั้งยังแสดงแววตาที่ว่างเปล่าส่งมาให้อีก เห็นแล้วเจ็บปวดเหลือเกิน

     

     



     

    คุณไม่ต้องเปลี่ยนมันหรอกครับ คุณเป็นคนสวยแล้วก็จิตใจดี มีผู้ชายอีกหลายคนที่ดีกว่าผมและพร้อมจะดูแลคุณ...

     

     




     

    แต่ฉันต้องการคุณค่ะ  คุณคนเดียวเท่านั้น!” ยังดือด้านเมื่อความต้องการผู้ชายคนนี้มันมีมากเกินกว่าจิตสำนึก คริสตัลถึงกับเอ่ยคำที่มันน่าอายสำหรับผู้หญิงออกไปอย่างไม่รู้ตัว

     


     

    ขอโทษนะครับ แต่ผมไม่ได้ต้องการคุณ...ผมมีคนรักอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นอย่าพยายามอีกเลย ผมไม่อยากทำร้ายคุณไปมากกว่านี้

     

     


     

    เขาดีกว่าฉันหรอคะ? คุณถึงไม่ให้โอกาสฉันเลยหญิงสาวเอ่ยถามพลางก้มหน้าลงปล่อยน้ำตาให้รินไหลหยดแล้วหยดเล่าอย่างไม่อายต่อสายตาผู้คนที่เดินผ่านไปผ่านมาเลยสักนิด

     

     



     

    เขาไม่ได้ดีไปกว่าคุณหรอกครับ แต่ผมรักเขา....และผมก็ไม่สามารถรักใครได้อีกแล้ว ขอโทษนะครับ และต่อจากนี้อย่ามาหาผมอีกเลย ผมไม่อยากให้คนอื่นมองคุณไม่ดีพูดเสร็จก็พาตัวเองให้เดินจากไปในทันที หญิงสาวที่ยืนมองคนตัวสูงเดินจากไปก็ถึงกับทรุดฮวบนั่งลงกับพื้นอย่างไม่เป็นท่า คำพูดดูดีของคนตัวสูงไม่คิดว่ามันจะเจ็บปวดได้ถึงขนาดนี้ มีคนรักแล้วงั้นหรือ....

     

    .

     

    .

     

     

    .

     

     

     

    .



    .




    .

     


     

    เห้ย! คริสมาแล้วชางมินพยายามเปล่งเสียงให้ดังที่สุดเพื่อให้เลย์สนใจคนตัวสูงที่กำลังเดินเข้ามาให้ร้าน หากแต่ก็ไม่เป็นผลเลยสักนิด เมื่อใบหน้าหวานยังคงงองุ้มและในมือก็ถือแก้วใบเล็กพร้อมที่จะกระดกของเหลวสีใสนั้นลงคอได้ทุกเมื่อ

     

     

    คริสเดินเข้ามานั่งตรงที่ว่างข้างคนรักหากแต่ไม่ทันจะได้หย่อนกายนั่งลงคนหน้าหวานที่อารมณ์บึ้งตึงอยู่ก่อนหน้าก็ยกขาขึ้นพาดเก้าอี้ตัวนั้นในทันที คริสจึงต้องจำใจนั่งลงที่เก้าอี้ตัวถัดไปแทน พลันในใจก็นึกเป็นห่วงความรู้สึกของอีกคน ทั้งตอนนี้ใบหน้าขาวนั้นก็ขึ้นสีแดงอ่อนๆจากฤทธิ์แอลกอฮฮลให้เห็นได้อย่างชัดเจน

     

     




     

    เป็นอะไร?”

     เสียงทุ้มเอ่ยถามหลังจากได้ที่นั่งเรียบร้อยแล้ว พร้อมทั้งทุกสายตาในโต๊ะที่มองมาด้วยความอยากรู้อยากเห็น หากแต่คริสก็ไม่สนใจ เขาไม่เคยคิดจะปิดเรื่องราวระหว่างเขากับคนตัวเล็กอยู่แล้ว

     



     

     

    “………………………..”

    เลย์เอาแต่นั่งเงียบ ใบหน้าหวานก้มงุดมองแก้วใบเล็กในมือพลันแกว่งของเหลวข้างในไปมาอย่างไม่คิดจะสนใจคนตัวสูงเลยสักนิด

     

     





     

     

    โกรธฉันหรอ?”

     

     

     



     

    “……………………….”

     

     


     

     

    จุ๊บ!





     

    เมื่อเลย์ไม่คิดจะพูด มือหนาจึงเอื้อมไปเชิดคางเล็กให้ยกขึ้นเล็กน้อยก่อนจะโน้มกายเข้าไปจุมพิตแผ่วเบาที่ริมฝีปากเคลือบใสนั้นท่ามกลางสายตาเกือบสิบคู่ในโต๊ะที่จ้องมองมาที่คนทั้งสอง

     

     

     


     

    โอ้ว!”  O////O


    ทุกเสียงพร้อมใจกันอุทานออกมาเมื่อภาพตรงหน้ามันชวนตกใจซะเหลือเกิน ชัดเจนแล้วถึงความสัมพันธ์ของทั้งคู่ หากแต่ผู้ถูกขโมยจุมพิตอย่างเลย์ก็ยังคงนิ่ง ถึงในใจจะวูบไหวแค่ไหนหากแต่กลับรู้สึกโกรธขึ้นไปอีกเมื่อโดนเอาเปรียบอย่างหน้าตาเฉย ทั้งตอนนี้ยังอยู่ในที่สาธารณะอีกด้วย

     

     




     

     

    พวกนาย! ฟังแฟนฉันร้องเพลงหน่อยไหม?… จุนซูโชว์หน่อยสิเพื่อทำลายบรรยากาศที่มาคุ ยูชอนเลยสร้างสีสันโดยการให้คนรักออกไปร้องเพลงโดยไม่ได้ปรึกษาคนตัวเล็กเสียงแหลมอย่างจุนซูก่อนเลยสักนิด

     

     




     

    ร้องเพลงอะไร? ชั้นไม่ได้เตรียมตัวมาเลยนะจุนซูที่โดนโยนหน้าที่ให้ก็ถึงกับตกใจ อยู่ๆก็จะให้มาร้องเพลงนี่ปรึกษากันบ้างไหม

     




     

    นักร้องเบอร์หนึ่งของเดอะวิซาร์ดอย่างนายไม่ต้องเตรียมตัวหรอก เพลงอะไรก็ได้ นะ..น้ายูชอนพยายามโน้มนาวคนรักเต็มที่ พลางกระพริบตาบอกเป็นนัยๆให้มองไปยังคู่รักข้าวใหม่ปลามันที่นั่งหน้าบูดบึ้งไม่คุยกันอยู่ที่โต๊ะ ทำให้จุนซูต้องยอมขึ้นไปร้องเพลงบนสเตจเล็กๆของร้านอย่างจำใจ

     

     .


    .


    .




     

     

    เจ้าของเสียงสวรรค์แห่งเดอะวิซาร์ดร้องเพลงจบไปแล้วถึงหกเพลงหากแต่บรรยากาศภายในโต๊ะก็ยังคุกรุ่นอยู่อย่างเดิม คนหน้าหวานเอาแต่นั่งกระดกของเหลวสีใสนั่นลงคอเรื่อยๆจนใบหน้าขาวเริ่มขึ้นสีจัดชัดเจน จากแก้วสองแก้วก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆจนนับไม่ถ้วนว่าดื่มมันไปในปริมาณเท่าไหร่แล้ว พลันสติสตังในตอนนี้ก็เริ่มควบคุมไม่อยู่เหมือนอย่างทุกครั้งที่แอลกอฮอลเข้าสู่ร่างกาย

     

     



     

    รุ่นพี่จุนซู...ผมขอเพลงแบบแด้นซ์ๆหน่อยได้ไหมครับ? ร้องแต่เพลงช้าอ่า....ผมจะหลับแล้ว

    มือบางวางแก้วลงที่โต๊ะก่อนจะยืนขึ้นเต็มความสูงแล้วตะโกนไปยังหน้าสเตจที่รุ่นพี่ตัวเล็กยืนร้องเพลงอยู่ เสียงที่เปล่งออกไปทำให้ทุกคนรู้ได้ในทันทีว่าคนหน้าหวานคนนี้เมามากแล้ว หากแต่ใครจะกล้าเข้าไปห้าม ใครจะกล้าเข้าไปขัด เลย์ในตอนนี้ช่างน่ากลัวไม่น้อย

     



     

    โอเคๆ เพลงเร็วนะ พี่จัดให้ช่างใจอยู่นานว่าจะเอายังไงดี หากแต่เห็นสายตาของคนในโต๊ะแล้วจุนซูจำต้องร้องเพลงเร็วตามใจรุ่นน้องที่ขอมา

     

     




     

    นายเมาแล้วนะเลย์ กลับหอได้แล้วคนตัวสูงที่นั่งมองอยู่นานถึงกับทนไม่ไหวต้องยื้อข้อมือบางให้เลย์นั่งลงกับที่เหมือนเดิม หากแต่อีกคนที่เมาไม่รู้เรื่องรู้ราวกลับปัดมือหนานั้นออกอย่างไม่ใยดี

     




     

    สนใจด้วยรึไง? อย่ามายุ่ง!” เอ่ยบอกอีกคนไปอย่างไม่ได้ศัพย์ พลันกายบางก็ก้าวขึ้นยืนบนเก้าอี้แล้วโยกย้ายไปตามเสียงเพลงที่จนซูร้องนั้นทันที ยิ่งมืดค่ำแบบนี้บวกกับแสงไฟสลัวๆในร้านเหล้าทำให้เลย์ไม่อาจรู้ตัวได้เลยว่าทำอะไรลงไปบ้าง

     

     





     

    เอาแล้วไง ชิบหายละ! ไอ้นี่มันเมาแล้วเกรียนนี่หว่าชางมินถึงกับกุมขมับกับภาพที่ได้เห็นตรงหน้าทันที ยืนเต้นไม่แคร์สายตาใครเลย ให้ตายเหอะ

     

     






     

    วู้ ฮุ วู้ ฮู้ว~”

    เลย์ยังคงรื่นเริงอยู่บนเก้าอี้ของตัวเองอย่างเมามัน แขนเรียวยกขึ้นโยกย้ายส่ายสะโพกอย่างนึกสนุก จนคนรักที่นั่งดูอยู่ก็ถึงกับส่ายหน้าไปมาอย่างอ่อนใจ พลันมองไปรอบๆที่เห็นคนในร้านมองมาก็แทบจะเอาหน้ามุดโต๊ะซะให้รู้แล้วรู้รอด

     

     


     

    ตายๆๆ  คริส! นายช่วยดึงแฟนนายลงมาหน่อยดิ ชั้นโคตอายอ่ะพูดเลยเป็นชางมินที่เอ่ยบอกคนเป็นน้องพลันมือหนาก็ยกขึ้นดึงเสื้อที่สวมใส่อยู่ขึ้นมาคุมหัวตัวเองอย่างให้รู้ว่าอายมากจริงๆ

     

     





     

    ปล่อยไปเหอะ! เดี๋ยวเหนื่อยก็หยุดเองน่านแหละคริสพยายามเปล่งคำพูดแข่งกับเสียงเพลงบอกคนเป็นพี่ ในเวลานี้คงไม่มีใครห้ามคนตัวเล็กได้อีกแล้ว วิธีเดียวคือนั่งอยู่เฉยๆแล้วรออีกคนหมดแรงไปเอง

     

     




     

    เหมือนจะไม่เป็นอย่างที่คริสว่า เมื่อเวลาผ่านไปคนตัวเล็กก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะหยุดเอาซะเลย ไม่รู้นึกคึกมาจากไหนถึงเต้นไม่รู้จักเหนื่อยอยู่แบบนั้นและนั่นก็รวมถึงจุนซูที่คล้อยตามไปด้วย เขายังคงร้องเพลงไม่หยุดและเต้นอย่างลืมตัว ทำให้ยูชอนต้องรีบเดินไปห้ามที่หน้าสเตจก่อนคนรักจะเริ่มอินไปมากกว่านี้

     

     






     

    อ่า พี่จุนซูหยุดทำไมล่ะครับ? กำลังสนุกเลยเสียงหวานลากยาวแทบจะฟังไม่รู้เรื่องก่อนจะก้าวพลาดแล้วตกเก้าอี้จนร่วงแหมะไปนั่งกองกับพื้น ไม่ได้รู้สึกเจ็บ ไม่ได้รู้สึกอายเมื่อฤทธิ์แอลกอฮอลที่มันอยู่ในกายพุ่งสูงเกินลิมิตที่จะรับไหว

     

     





     

    คริส ฉันว่านายพาเลย์กลับไปเถอะ ดูท่าจะไม่ไหวแล้วนะดีโอที่นั่งเงียบอยู่นาน เมื่อเห็นสภาพเพื่อนหน้าหวานท่าจะไม่ดีจึงเอ่ยบอกคริสในทันทีด้วยความเป็นห่วงว่าเลย์จะทำเรื่องเดือดร้อนไปมากกว่านี้

     





     

     

    เขาคงไม่กลับไปกับฉันหรอก ถ้าอยากปลดปล่อยก็ให้อยู่ที่นี่สักพักอาจจะทำให้อารมณ์ดีขึ้นก็ได้”  เหมือนจะหมดหนทาง คริสเลยเอ่ยออกมาอย่างที่ใจคิด ที่เลย์เป็นแบบนี้คงเพราะเรื่องของเขาและนั่นถ้าได้ทำตามใจบ้างเลย์อาจจะลืมเรื่องที่ผ่านมาก็เป็นได้

     

    .

     

    .

     

    .








    ถ้า...รุ่นพี่จุนซูไม่ร้องต่อ งั้น...เดี๋ยวผมไปร้องเองพูดเสร็จเลย์ก็ลุกขึ้นยืนทันที ท่าทางทุลักทุเลแบบนั้นอดไม่ได้ที่คริสจะรีบเข้าไปช่วยพยุงหากแต่ก็เป็นเหมือนเดิมเมื่อคนหน้าหวานยังคงไม่ให้เขาแตะเนื้อต้องตัวเลยสักนิด

     

     





     

    ร่างบางเดินโซซัดโซเซไปยังหน้าสเตจหากแต่กำลังจะขึ้นไปคว้าไมค์อยู่แล้ว ด้วยความทะเล่อทะล่าแบบนั้นก็ชนกับใครบางคนเข้าอย่างจัง

     

     






     

    อ๊ะ!”

     



     

    แรงกระแทกทำให้เลย์ผงะไปด้านหลังเล็กน้อย สมองที่เลอะเลือนอยู่แล้วทั้งยังอาการเวียนหัวจากฤทธิ์แอลกอฮอลทำให้ทรงตัวได้ไม่ดีอย่างที่ควร รู้สึกว่าร่างกายกำลังโอนเอนไปตามแรงโน้มถ่วงของโลก รู้ได้อย่างนั้นม่านตากลมก็หลับปี๋รอรับความเจ็บปวดในทันที

     

     

     






     

    เมาแล้วระวังหน่อยสิไม่รู้สึกอะไรเลยเมื่อมีเรียวแขนของใครอีกคนรองรับร่างกายไว้อยู่ ได้ยินเสียงพูดเลย์จึงค่อยๆปรือตาขึ้นมาช้าๆก่อนจะกระพริบตาปริบเพื่อปรับภาพตรงหน้าให้ชัดเจนยิ่งขึ้น

     

     

     







     

    ใครอ่า? อ๋า... เทาหรอ?” เสียงหวานพูดอ่อมแอ้มพลันค่อยๆยัดยืนด้วยตัวเองอีกครั้ง

     




     

    ทำไมเมาแบบนี้?” พูดถามอีกคนไปหากแต่มือหนาที่โอบรอบเอวบางอยู่ก็ไม่คิดจะปล่อยออกไปเลยสักนิด

     





     

     

    ไม่เมา ไม่เมามือเล็กโบกปฎิเสธไป หากแต่อาการแบบนี้เขาเรียกว่าเมาชัดๆ

     

     

     

    .

     

    .

     

    .

     





     

    คริส นั่นไอ้เด็กเซนทอร์หนิไคเอ่ยบอกเพื่อนรักที่ตอนนี้กำลังนั่งก้มหน้าก้มตามองแก้วเหล้าอย่างเหม่อลอย ได้ยินแค่นั้นใบหน้าหล่อก็หันไปตามที่เพื่อนผิวเข้มบอกในทันที

     

     




     

    แม่งเอ้ย!”

    กายสูงโปร่งลุกขึ้นยืนพรวดพราดก่อนจะวางแก้วเหล้าในมือลงพลันเดินตรงไปหาคนรักที่มีเด็กเซนทอร์ยืนโอบกอดอยู่อย่างรวดเร็ว ยิ่งเห็นภาพบาดตาแบบนั้น อารมณ์โทสะก็คุขึ้นมาเหมือนกองเพลิงสุมหนักอย่างห้ามไม่อยู่

     

     

     






     

     

    เอามือสกปรกของมึงออกไปจากแฟนกูเดี๋ยวนี้!”  ตะโกนใส่หน้าของเด็กเซนทอร์ก่อนคริสจะเอื้อมมือไปรั้งข้อมือบางแล้วดึงกายเล็กนั้นให้ออกห่างจากเทาทันที กระชับคนในอ้อมกอดที่ตอนนี้เมาไม่รู้เรื่องรู้ราวให้แน่นอย่างนึกกลัวว่าคนตัวเล็กจะหายไป

     

     



     

     

    นายทำอะไรเนี่ยคริส? เทาแค่มาช่วยชั้น

     

     



     

    ช่วยอะไร! ก็เห็นอยู่ว่ามันกอดนาย!ไม่คิดจะฟัง คริสยังคงเชื่อภาพที่เห็นมากกว่าคำอธิบายที่ไร้ตัวตนของอีกคน

     

     



     

    นายอย่างี่เง่าได้ไหม?” เสียงหวานบ่นตำหนิคนรักก่อนจะรู้สึกมึนหัวจนต้องยกมือขึ้นกุมขมับตัวเองตามสัญชาตญาณ ทั้งขาก็ไร้เรี่ยวแรงไปหมดหากแต่ได้มือหนาที่โอบกอดไว้ให้ยืนได้อยู่เหมือนเดิม

     




     

     

     

    หึ! กลัวเขาหายไปขนาดนั้น แล้วทำไมมึงไม่ดูแลให้ดีๆวะ?” เทาเอ่ยขึ้นหลังจากมองภาพตรงหน้าอยู่นาน พยายามยั่วโมโหอีกคนที่ตอนนี้เหมือนคนขาดสติจนน่าตลก และนั่นก็ไม่เสียแรงเปล่าเมื่อคริสจ้องเขม่นมาที่เขาอย่างเอาเรื่อง

     

     



     

    อย่าเสือก! กูดูแลคนของกูได้ ไม่ต้องให้เซนทอร์กระจอกอย่างมึงมาสอนหรอกคำพูดคำจาที่เอ่ยออกมาจากปากเรียวแต่ละคำ ทำให้ไฟในตัวเทาก็ลุกโชนเช่นเดียวกัน คำก็เซนทอร์สองคำก็เซนทอร์ มันคงกลายเป็นปมของเทาไปเสียแล้ว

     

    .

     

    .

     

    .

     






     

    น่าน! น้องกูสร้างเรื่องแล้วไหมล่ะชางมินที่นั่งดูอยู่ไม่ไกลพึมพำกับตัวเองก่อนจะเดินไปกระซิบบอกยุนโฮให้ช่วยเคียร์เรื่องที่กำลังจะเกิดขึ้นอีกในไม่ช้า และในความที่เป็นผู้นำสูงคนอย่างยุนโฮก็ไม่คิดจะปล่อยผ่านไปแน่นอน

     

     

     

     



     

     

     

    เดี๋ยวๆ หนุ่มเลือดร้อน อย่ามีเรื่องกันเลยนะถือซะว่าฉันขอยุนโฮรีบเดินไปขวางคนทั้งคู่ไว้ก่อนจะมีเรื่องไปมากกว่าว่านี้และข่าวสารต่างๆนาๆจะลอยไปถึงศาสตราจารย์เอริคผู้เป็นเจ้าของสถาบันจนทำให้เด็กหนุ่มทั้งสองต้องลำบาก

     

     

     

     


     

    “…………………………..”

     

     

     



     

     

    ในฐานะที่ฉันเป็นประธานปราสาทดราก้อน ขอให้เรื่องนี้มันจบไปเถอะนะ นายก็รู้ว่าถ้าเรื่องถึงเบื้องบนพวกนายจะเป็นยังไง แยกย้ายกันกลับหอซะ

     

     พูดเสร็จยุนโฮก็ตบบ่าให้กำลังใจเทาไปสองสามที เทาเองก็ยอมทำตามแล้วเดินจากไป ถึงแม้ว่ายุนโฮจะไม่ใช่รุ่นพี่ในปราสาทแต่เขาก็ยังแยกแยะออกว่าเรื่องไหนมันเป็นประโยชน์กับตัวเขาเอง เพราะถ้าเรื่องนี้ถึงเบื้องบนจริงไม่พ้นอาจโดนไล่ออกก็เป็นได้

     

     

     

     

     








     

    คริส ฉันเข้าใจว่านายรู้สึกยังไงนะแต่บางครั้งก็ต้องควบคุมอารมณ์ตัวเองบ้าง ถ้าเกิดฉันไม่เข้ามาห้ามป่านนี้เรื่องคงไม่จบง่ายๆแน่...ส่วนเลย์ ชั้นจะบอกอะไรให้ คนเราถ้าเป็นแฟนกัน เลือกที่จะคบกันแล้ว ต้องเชื่อใจและไว้ใจคนรักของตัวเอง ไม่งั้นจะอยู่ด้วยกันได้ไม่นาน ยังไงก็ขอให้พวกนายเข้าใจกันเร็วๆนะ จะได้รักกันนานๆเหมือนพวกฉันไง

    ทิ้งคำพูดเตือนใจไว้ให้รุ่นน้องทั้งคู่ได้คิดก่อนยุนโฮจะเดินจากไปพร้อมกับทุกคน ทิ้งไว้เพียงคู่รักมือใหม่ที่ยังไม่ยอมคุยกันได้คิดทบทวนเรื่องราวต่างๆอีกครั้ง

     

     

     



     

     

    กลับหอกันเถอะเมื่อคนหน้าหวานไม่คิดจะพูด คริสจึงเอ่ยทำร้ายความเงียบก่อนจะนั่งยองลงกับพื้นเพื่อให้คนตัวเล็กได้ขึ้นหลัง มีหวังให้เดินไปเองกว่าจะถึงคงอีกนาน

     





     

    อื้อ

    เสียงหวานเอ่ยตอบในลำคอก่อนจะพยักหน้าตามอย่างว่าง่าย ไม่รู้ว่าสิ่งที่ยุนโฮพูดจะทำให้คิดได้บ้างหรือเปล่า หากแต่ดูเรื่องมันจะง่ายขึ้นกว่าตอนแรกเสียอีก

     

     

     



    .


    .


    .


     

     

    คริสเดินออกจากร้านเหล้าพร้อมกับคนตัวเล็กบนหลัง สองแขนบางโอบกอดรอบคอแกร่งก่อนจะฟุบหน้าลงที่ลาดไหล่หนานั้นเพื่อคลายอาการเวียนศรีษะ รู้สึกได้ว่าตัวเองทำตัวงี่เง่าจนเกิดเรื่อง และเป็นอีกครั้งที่คริสต้องเป็นคนรับภาระนี้แทนเขา เริ่มรู้สึกผิดแล้วจริงๆ

     

     



     

     



     

    เป็นเวลานานที่คนทั้งคู่ไม่ยอมปริปากคุยกันเลยแม้แต่คำเดียว ปล่อยความเงียบให้เข้าปกคลุมเพื่อให้ได้คิดอะไรไปพรางๆ คริสพาเลย์เดินเรียบไปกับทางเดินนอกโรงเรียนก่อนจะรู้สึกได้ถึงมือเล็กที่ตบเข้าที่บ่าของเขาเหมือนต้องการจะบอกบางอย่าง

     

     







     

     

    มีอะไรรึเปล่า?” เสียงทุ้มเอ่ยถามเมื่ออีกคนดูอึกอักหากแต่ไม่พูดมันออกมาสักที

     




     

     

     

    วางฉันลงก่อน...จ...จะอ้วก!” เลย์เอ่ยบอกคริสในทันทีที่มีโอกาส ก่อนจะเป็นคริสที่พยักหน้าเข้าใจแล้วรีบย่อตัวลงให้คนตัวเล็กยืนได้อย่างอิสระ

     

     








     

     

     

    อ้วก!

     





     

    เมื่อเท้าแตะถึงพื้นเลย์ก็รีบวิ่งเข้าข้างทางในทันที ของที่เพิ่งจะดื่มเข้าไปพลันหวนกลับออกมาทางเดิมอย่างผิดวิสัย ใบหน้าขาวแดงกล่ำจนขึ้นสีชัดเจนแม้กระทั้งอยู่ในที่มืดจนคริสเองต้องรีบเข้าไปช่วยลูบหลังให้คนตัวเล็กเพื่อปล่อยมันออกมาให้หมด

     

     





     

    รู้ว่าคอไม่แข็ง ทีหลังก็อย่าดื่มจนเกินลิมิตตัวเองสิ เป็นแบบนี้แล้วทรมานไหมล่ะ?” คริสเอ่ยพลันมือหนาก็ยังไม่ละไปจากแผ่นหลังบางนั่น เลย์จะรู้บ้างไหมว่าเขาเป็นห่วงขนาดไหน ชอบทำให้เขาเป็นกังวลอยู่เรื่อย

     

     


     

    ก็เพราะใครล่ะ?”
     บ่นค่อนขอดอีกคนอย่างไม่ใส่ใจก่อนเลย์จะก้มหน้าก้มตายืนนิ่งเมื่อได้ปลดปล่อยเสร็จ

     

     


     

    หึงฉัน?”

     


     


    ถ้ารู้อยู่แล้วจะถามทำไมเสียงหวานเอ่ยตอบอย่างแผ่ว หากแต่ใบหน้าแดงกล่ำจากฤทธิ์แอลกอฮอลนั้นก็ยังไม่ผละเงยขึ้นมาเสียที

     





     

    ฉันไม่ได้คิดอะไรกับเขา พูดยังไงถึงจะให้นายเข้าใจ พูดยังไงนายถึงจะเชื่อใจฉัน

     

     




     

    ถามหน่อย ที่นายบอกว่ารักฉันนายพูดจริงหรือเปล่า?” 

    ไม่ใช่ไม่เชื่อว่าอีกคนพูดจริง หากแต่จะเป็นไรไหมถ้าอยากจะถามอีกครั้ง อยากให้มั่นใจว่าคริสรักเขาคนเดียวมองแค่เขาคนเดียว ไม่ได้มีใจให้ใครนอกจากเขาแต่เพียงผู้เดียวจริงๆ

     

     



     

    ที่บอกออกไปว่ารัก นั่นคือฉันให้นายไปหมดทั้งหัวใจแล้วนะ

     

     

     

    สิ้นเสียงทุ้มพลันเหมือนคนสร่างเมาในทันที  ปากบางอมยิ้มน้อยๆ อยู่กับตัวเองหากแต่ก็ยังไม่เงยหน้ามองคนรักตรงๆ ไม่อยากจะบอกว่าปริ่มมากถึงมากที่สุด คงเป็นคนที่โชคดีที่สุดแล้วสินะที่ได้คนๆนี้มาครอบครอง

     

     





     

    กลับกันเถอะเลย์เอ่ยหลังจากได้ฟังอีกคนพูดจบ ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ยังคงปกติเหมือนเมื่อครู่ไม่มีผิด

     

     



     

    เดี๋ยวก่อน

     


     

     เพียงแค่เท้าบางกำลังจะออกเดิน เสียงทุ้มก็เอ่ยห้ามในทันทีก่อนคริสจะนั่งลงชันเข่ากับพื้นแล้วเอื้อมมือไปผูกเชือกรองเท้าให้คนตัวเล็กที่ตอนนี้มันหลุดเมื่อเจ้าของไม่คิดจะสนใจมัน ทำให้ใบหน้าหวานต้องเปื้อนรอยยิ้มจนเห็นลักยิ้มบุ๋มอย่างเปิดเผย คริสมักจะใส่ใจในเรื่องเล็กๆน้อยๆของเขาอยู่เสมอ แบบนี้จะไม่ให้หึงไม่ให้หวงได้ยังไง

     

     



     

     

    “……………………………”

     

     


     

    เดี๋ยวก็หกล้มเจ็บตัวอีกหรอก  มะ...ขึ้นหลังเมื่อผูกเชือกร้องเท้าให้คนหน้าหวานเสร็จคริสก็หันตัวให้กับอีกคนได้ขึ้นหลังเหมือนอย่างเคย ก่อนจะต้องยกยิ้มอย่างพอใจเมื่อคนตัวเล็กช่างน่ารักทำตามโดยไม่อิดออดอีกครั้ง

     

     

     
     

     

    คริสลุกขึ้นยืนเต็มความสูงก่อนจะออกเดินไปข้างหน้าพลันตรงดิ่งเข้าโรงเรียนในทันที โล่งใจเมื่ออีกคนดูจะเข้าใจอะไรมากขึ้น หากแต่ก็ไม่มั่นใจว่ายังจะคิดมากอยู่อีกหรือเปล่า เดินไปเรื่อยๆก็เหมือนมีความรู้สึกว่าลืมบางสิ่งบางอย่างไป ก่อนจะนึกออกเมื่อสิ่งของที่หญิงสาวนามคริสตัลในนั้นลืมไว้ที่ร้านเหล้าเสียแล้ว

     


     

     

    เฮ้อ! ช่างมันเถอะถอนหายใจเบาๆก่อนจะพูดพึมพำกับตัวเองโดยลืมไปเสียสนิทว่าคนที่ขี่หลังมาอยู่นั้นจะได้ยินมัน

     



     

    บ่นอะไร?”

     


     

    เอ่อ...เปล่าหรอก แล้วเป็นยังไงบ้าง? อาการดีขึ้นบ้างรึยัง? ปวดหัวอยู่ไหม?”  บอกปัดไปเพราะกลัวจะต้องทะเลาะกันอีกครั้ง นี่คงเป็นการโกหกคนตัวเล็กครั้งแรกเลยสินะ

     



     

     

    ก็ดีขึ้นแล้ว แต่...ก็ยังมึนหัวอยู่นิดหน่อย ขอบคุณนะเสียงหวานตอบไปให้อีกคนรู้สึกสบายใจ ก่อนจะโอบกอดรอบคอคนตัวสูงให้แน่นขึ้นไปอีกเมื่ออากาศในตอนนี้มันเย็นขึ้นเรื่อยๆ

     

     



     

    ขอบคุณเรื่องอะไร?” คริสเอ่ยถามด้วยความแปลกใจ หวังว่าคนตัวเล็กจะไม่เมามากจนพูดอะไรแปลกๆออกมาหรอกนะ

     




     

     

    ขอบคุณที่ทนฉันได้แล้วยังไม่โกรธฉันที่ทำตัวงี่เง่าแบบนี้อีก

     

     



     

    ก็ฉันรักนายหนิ

    พูดเสร็จคริสก็ก้มหน้าลงเล็กน้อยก่อนจะยิ้มออกมากับประโยคที่เอ่ยเมื่อครู่ในทันที รู้สึกช่วงนี้จะพูดมันบ่อยเหลือเกิน

     



     

    หันหน้ามาหน่อยสิเสียงหวานเอ่ยบอกคนรักที่ตอนนี้กำลังใช้แรงกายในการแบกเขาอยู่ และคริสก็ยอมหันไปโดยไม่เอะใจอะไรเลยแม้แต่น้อย

     

     






     

    ฟอด!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!

     






     

    จมูกเล็กกดลงที่แก้มกร้านของอีกคนก่อนจะสูดกลิ่นหอมอ่อนๆประจำกายสูงเข้าไปฟอดใหญ่ พลันก้มหน้าฟุบที่ไหล่หนานั้นทันทีอย่างเขิลอาย

     



     

    เป็นอะไรหรือเปล่าเนี่ย? ดูท่าจะยังไม่หายเมาเสียงทุ้มเอ่ยแซวอีกคนก่อนจะยกยิ้มมุมปากอย่างพอใจ น่ารักเกินไปแล้ว....

     




     

    พอได้หอมแก้มคนก็หายเมาเลยเสียงหวานเอ่ยเจือยแจ้วอย่างน่าเอ็นดูจนคริสเองถึงกับต้องยกยิ้มอีกครั้งกับความน่ารักของเลย์ สงสัยจะสร่างเมาแล้วจริงๆถึงได้เยอะขนาดนี้







    “……………………………………….”

     

     



     

     

    คริส....

     






     

     

    หื้ม?”

     

     









     

    รักนะ

     

     



     

    มั่นใจนะว่าสร่างเมาแล้ว?” คริสเอ่ยถามอย่างไม่แน่ใจก่อนจะเหลือบไปมองคนที่อยู่บนหลังก็พบว่าคนตัวเล็กนั้นผล็อยหลับไปแล้ว ปากเรียวยกยิ้มน้อยๆก่อนจะเอ่ยคำที่ช่วงนี้ใช้มันเปลืองเหลือเกินออกไปอีกครั้ง

     








     

    รักเหมือนกันครับ




     











    ...THE WIZARD...

     

     

     







     

     

     

     *** มาอัพแล้วค่ะ แล้วก็ฝากฟิคเรื่องใหม่ของไรท์ด้วยนะคะ ADOLESCENT [KRISLAY  FT. HUNHAN] http://writer.dek-d.com/story/writer/view.php?id=917952

     

    ไรท์เตอร์ขอบคุณทุกคำติชมเลยนะคะ เรื่องคำผิดเห็นรีดเดอร์ทักมาเยอะเหมือนกันทั้งยังบอกด้วยว่าคำที่ถูกคืออะไร ไรท์จะพยายามแก้ไขนะคะเพราะรู้ตัวเองเหมือนกันว่าเรื่อง ร,ล ยังใช้ไม่ค่อยถูกต้อง ตอนนี้ก็เปิดพจนานุกรมเลยทีเดียว ไม่อยากมองข้างเรื่องเล็กน้อยพวกนี้ไปเพราะมันเป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับนักเขียน แต่จะกลับไปแก้ก็คงไม่หมดยังไงจะพยายามตรวจเรื่องคำในตอนต่อๆไปนะคะ T^T

     

    และที่ซึ้งใจที่สุดคือมีคนเขียนวิจารณ์ให้แล้ว ต้องขอบคุณมากๆค่ะ อ่านแล้วมีกำลังจะแต่งต่อเยอะเลย  มันเป็นเรื่องจริงเลยนะคะที่แต่ละคอมเมนต์มันทั้งสร้างกำลังใจและบั่นทอนในเวลาเดียวกัน ไรท์เตอร์จะพยายามให้มากขึ้นค่ะ ^^

     

    ส่วนเรื่อง NC ขอบอกว่ามีแน่นอนค่ะสำหรับเดอะวิซาร์ด แต่ยังไม่ถึงเวลานะคะ คริสกับเลย์ยังเด็กเกินไป *หรา?????? 55555555555555  เร็วๆนี้ค่ะ เดี๋ยวจะมา

    สุดท้ายแล้ว ฝันดีราตรีสวัสดิ์ค้า :”D

     






     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×