ลำดับตอนที่ #15
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #15 : Chapter 13 - Lovely Day
Chapter 13 - Lovely Day
==================
เช้าแล้ว ตังเมลืมตาตื่นขึ้นมามองรอบๆ ตัว
ภาพแรกที่เห็นก้อคือมะนาวที่กึ่งนั่งกึ่งนอน อยู่ในอ้อมกอดของอึนฮยอก บนโซฟายาวที่ห้องรับแขก
ถัดไปอีกตัวนึง พริกกับอีทึกก้อนั่งหลับพิงกัน โดยที่หัวของพริกกะอีทึกซ้อนทับกันอยู่
โดยที่หัวของพริกอยู่ด้านล่างพิงบ่าของอีทึกไว้ และหัวของอีทึกพิงทับลงมาอีกที
ส่วนมือของอีทึกก้อโอบเอวของพริกเอาไว้
“ยัยพริกตื่นขึ้นมาโวยวายแน่เรย” ตังเมพูดกับตัวเองด้วยเสียงค่อนข้างเบา
“ทำไม ไม่นอนต่ออีกหน่อยล่ะ วันนี้คุณเมต้องขับรถไม่ใช่หรอ” เสียงซองมินดังมาจากด้านหลังของตังเม
ตังเมตกใจไม่กล้าขยับตัว เพราะว่าซองมินนอนกอดตัวเองจากด้านหลังอยู่
ซองมินและตังเมนอนอยู่บนพื้นห้องรับแขก
“ไม่ล่ะ พี่ไม่ง่วงแระ” ตังเมขยับตัวออก เพื่อที่จะลุกขึ้น ซองมินดึงเข้ามากอดแน่นกว่าเดิม
“ไม่อ่ะ ยังไม่ให้ไป วันนี้ผมต้องกลับแล้วนะ ขออยู่อย่างนี้อีกหน่อยนะ”
ซองมินอ้อน ทำให้ตังเมต้องปล่อยเลยตามเลย
เมื่อคืนหลังจากที่เกิดเรื่องไม่เข้าใจกันเล็กน้อย ทุกคนก้อเลยมานั่งคุยกันที่ห้องรับแขก (เนื่องจากว่ากลัวยุงหาม)
แต่ละคนก้อเล่าเรื่องเกี่ยวกับตัวเองให้ฟัง เพื่อที่จะทำความรู้จักกันให้มากขึ้นกว่าเดิม
แต่น่าจาเป็นการเผากันมากกว่า เสียงหัวเราะดังตลอดทั้งคืน จนในที่สุดแล้ว
แต่ละคนที่บอกว่าจะไม่นอน ก้อค่อยๆ หลับกันไปจนไม่เหลือใครที่ตื่นอยู่ในที่สุด...
-----
“โอ๊ยยยยย นายลุกเลยนะ ถือโอกาสนี่หน่า” พริกโวยวายแล้วก้อเอาหมอนฟาดอีทึก
เสียงของทั้งคู่ทำให้คนอื่นที่หลับอยู่ตื่นกันหมด อีทึกตั้งสติได้ วิ่งหนีทั่วบ้าน
พร้อมกับหัวเราะเสียงแหลม คนอื่นๆ คอยหลบ เพราะว่ากลัวลูกหลง
ช่วงเวลาแห่งความสุขกำลังจะหมดลงแล้วใช่มั๊ย ถึงทุกคนจะหัวเราะอย่างสนุกสนาน
แต่ก้อแอบคิดในใจกันไม่ได้....
-----
“จะแวะมั๊ย” ตังเมถาม 2 สาว เมื่อใกล้จะถึง Outlet ตรงชะอำ
“แล้วแต่ ถ้าเมเมื่อยก้อแวะได้นะ” พริกบอก
“เพราะว่ายังงัย ก้อถึงก่อนค่ำอยู่แล้ว และอีกอย่างพวกเค้าก้อบินออกจะดึก”
“อือ งั้นแวะนะ” ตังเมบอก และก้อตบไฟเลี้ยวเพื่อชิดซ้ายแวะซื้อของ
เป็นครังแรกที่เธอถามความคิดเห็นคนอื่น
เพราะโดยปกติแล้ว เธอมักจะตัดสินใจเองคนเดียว
“ฮันนี่ พี่หิวจังเลยอ่ะ” อึนฮยอกอ้อนมะนาว สร้างความหมั่นไส้แก่คนอื่นๆ
“ร้อนๆ อย่างงี้ต้องกินไอติมเนอะ พี่ฮยอกแจเนอะ” มะนาวพูด
แล้วก้อเดินควงแคนกันไปหาไอติมกินกัน 2 คน
“ดี เหมือนกัน ชั้นอยากชอปปิ้งพอดี อยากได้เสื้ออ่ะ เธอไปกะชั้นเรย ยัยตัวแสบ”
อีทึกหันมามองหน้าพริก
“ไม่เอา ไม่ไปอ่ะ ชั้นจะไปกับเม” พริกพยายามกระเสือกกระสนจากการจับกุม ของอีทึก
ปากก้อร้องขอความช่วยเหลือจากเพื่อนรัก
“ตังเมๆ ช่วยชั้นด้วย”
“เราไปทางนู้นกันเถอะคุณเม” ซองมินจูงมือไปกับตังเม ทั้งแกล้งทำเป็นไม่รู้จักอีทึกกับพริก
ที่ยังคงฉุดกระชากลากถูกันไป ตามทางที่อีทึกต้องการจะไป
“เลิกดิ้นได้แล้ว ไม่อายคนอื่นหรอ” อีทึกถาม เมื่อเห็นว่าซองมินกับตังเม เดินเลี้ยวเข้าร้านนึงไปแล้ว
“ไม่อาย อายทำไม นายนั่นแหละ มารั้งชั้นไว้ทำไม” พริกยังคงสะบัด
แต่คงไม่ได้สะบัดมือจริงจังเท่าไหร่นัก เพราะว่าเท่าไหร่ก้อไม่หลุดซักที
“แล้วเธอจะไปขัดความสุขของเพื่อนเธอทำไมล่ะ คนเค้าจะไปสวีทกัน” อีทึกถาม
“ชั้นว่าเธอมาสวีทกะชั้นแทนดีกว่ามา”
“อะไรนะ..” พริกหันไปค้อนอีทึก ‘นายคนนี้ชอบพูดจาแปลกๆ ตังแต่เมื่อคืนแล้ว’ พริกคิดในใจ
“ไปกันเถอะ ชั้นอยากดูเสื้อทางนู้นอ่ะ” อีทึกหันมาโอบไหล่พริกแทน
พร้อมกับดันตัวเธอไปในทางที่เค้าต้องการ
“ไม่เห็นสวยเรย เสื้อรัยก้อไม่รู้” พริกกัด เมื่อเห็นอีทึกกำลังเลือกเสื้อ ทาบลองกะตัวเองอยู่
“โอ๊ย ยัยคนนี้ รู้จักแฟชั่นมั่งมั๊ยเนี่ย” อีทึกหันไปมองพริก ที่แต่งตัวสบายๆ เสื้อยืดกางเกงยีนส์ แล้วก้อส่ายหัว
“น่าจับแต่งตัวใหม่จริงๆ” อีทึกพูดแล้วก้อส่ายหัวอีกที
“ไม่ต้องมายุ่งเลย ชั้นแต่งตัวของชั้นอย่างเงี้ย ไม่เกี่ยวกับนายซักหน่อย” พริกออกแนวโมโห
“เออ ใช่ เรื่องที่ชั้นแพ้ พนันนายนั่นอ่ะ นายจะให้ชั้นทำอะไร วันนี้นายจะกลับแล้ว ไม่อยากติดค้าง”
“อืม อะไรดีล่ะ ชั้นยังคิดไม่ออกเลย” อีทึกหันมามองหน้าคนที่อยู่ข้างๆ
แล้วเมื่อมองรอบๆ ตัวก้อเห็นว่า ไม่มีใครมองพวกเค้าอยู่
“อ่า ใช่ คิดออกแระ อย่าตกใจนะ” อีทึกพูด ทำให้พริกหันไปมองหน้าอีทึกอย่างสงสัย
แล้วทันใดนั้นเองเค้าก้อจุ๊บปากของพริกเบาๆ พริกตกใจ ตาโตเกือบเท่าไข่ห่าน
“จะไม่ให้ตกใจได้งัยอีตาบ้า” พริกพูดกับตัวเองเบาๆ เอามือแตะปากตัวเองเบาๆ
อีทึกเห็นพริกกำลังเผลอ ก้อหอมแก้มพริกไปอีกฟอด แล้วรีบวิ่งหนีออกจากร้าน
พริกอึ้งอยู่กับที่ หันไปมองเห็นคนขาย พากันหัวเราะคิกคัก
“นายปาร์ค จองซู นายกลับมานี่เดี๋ยวนี้เลยนะ” เพราะว่าเสียงหัวเราะจากพนักงานขาย
ทำให้พริกสามารถเรียกสติที่หลุดลอยของตัวเองกลับคืนมาได้ เธอรีบเดินออกจากร้าน
เพราะว่าตอนนี้ใบหน้าของเธอแดงจนไม่สามารถปิดได้มิดอีกต่อไปแล้ว
-------
“ฮันนี่ ของฮันนี่ อร่อยมั๊ยอ่ะ” อึนฮยอกถาม เพราะว่าตอนนี้กินของตัวเองหมดแล้ว
“โหย ไม่ต้องเลยอ่ะ พี่ฮยอกแจ เพราะว่าของพี่หมดแล้วอ่ะดิ” มะนาวรู้ทันคนรัก
(นี่ขนาดเพิ่งคบกัน ยังรู้จักนิสัยซะขนาดนี้)
“ฮันนี่อ่า รู้ทันพี่อีกแล้ว ป้อนหน่อยดิ นะๆ” อึนฮยอกอ้อน ทำท่าน่ารักเต็มทื จนมะนาวต้องป้อนไอติมให้
“ฮันนี่ น่ารักที่สุดเลยรู้ป่าว” อึนฮยอกหยิกแก้มมะนาวเบาอย่างเอ็นดู เสียงโทรศัพท์มือถือของมะนาวดังขึ้น
“ฮัลโหล... เอ้ย ฮานึล โทรมาหามีอะไรรึป่าวเนี่ย”
‘อือ ว่างัย มะนาว สบายดีป่าว’
“สบายดี ว่าแต่ว่าแฟนเธอสบายดีป่าวยะ”
‘เราเลิกกันแล้วล่ะ นี่มะนาว ชั้นมีแฟนใหม่แล้วนะ เธอจะไม่เชื่อเลยว่าเค้าเป็นใคร’
“ใครๆๆ บอกมาเลย”
‘พี่เยซอง Super Junior’
“ถามจริง ไม่เชื่อหรอก”
‘ไม่เชื่อหรอ โอปป้า มาคุยกะเพื่อนฮานึลหน่อยค่า เพื่อนฮานึลพูดภาษาเกาหลีได้’
มะนาวได้แต่อึ้ง นี่โลกจะกลมไปหรือเปล่า ฮานึลเป็นลูกครึ่งไทยเกาหลี
ที่เป็นเพื่อนบ้านของมะนาวตอนที่เรียนม.ปลาย ทำให้เธอพูดภาษาไทยได้ด้วย
เลยทำให้มะนาวได้ฝึกภาษาเกาหลีกะเธอเสมอๆ เธอกลับไปอยู่เกาหลีตั้งแต่เข้ามหาวิทยาลัย
แต่ทั้ง 2 คนก้อคอยติดต่อกันอยู่เสมอๆ
‘สวัสดีครับ ผมเยซอง ครับ’
“จริงหรอคะ งั้นคุณลองคุยกับคนนี้นะคะ” มะนาวส่งโทรศัพท์ยื่นให้ฮยอกแจ
ฮยอกแจกรอกเสียงอย่างงงๆ
“สวัสดีครับ ใครกันครับ”
‘ผม เยซอง Super Junior ครับ ว่าแต่คุณเป็นใครครับ’
“เอ้ย ถามจริง ใช่พี่จงอุนจริงหรอ อย่ามาล้อเล่นนะ ถ้าล้อเล่น นายโดนแน่”
‘ใช่สิ ใครจะมาอำกัน ว่าแต่เสียงนาย คุ้นๆ นะ ฮยอกแจ นายใช่มั๊ย’
“ใช่ๆ งั้นก้อต้องพี่ตัวจริงแล้ว พี่รู้จักกะฮันนี่ของผมด้วยหรอ”
‘ไม่รู้จักซะหน่อย ฮานึลของชั้นคงเป็นเพื่อนกะฮันนี่ของนาย ไม่น่าเชื่อเลยนะ ว่าโลกจะกลมขนาดนี้’
“นั่นสิ เหมือนพรหมลิขิตเลยอ่ะ เออใช่ พวกผมกลับคืนนี้นะ พรุ่งนี้เช้าไปรับด้วยสิ 7 โมง 15 นะ
แล้วผมมีเรื่องเล่าให้ฟังเยอะแยะเลย เชื่อว่าซองมินกับพี่จองซูก้อคงเหมือนกัน”
‘ได้ๆ เดี๋ยวไปรับเอง เช้าชะมัดเลยอ่ะ พี่ว่าเราส่งโทรศัพท์คืนให้แฟนเราเค้าคุยกันเองดีกว่าเนอะ’
อึนฮยอกก้อส่งโทรศัพท์คืนให้มะนาว ฝ่ายเยซองเองก้อส่งคืนให้ฮานึลเช่นกัน
มะนาวรับโทรศัพท์มาคุยอย่างงงๆ
อึนฮยอกเดินจูงมือมะนาวไปดูของในร้าน ในขณะที่มะนาวก้อคุยโทรศัพท์กับฮานึลไปด้วย
--------
“นี่เลย หมวกใบนี้เหมาะกับคุณเมจัง” ซองมินหยิบหมวกร๊อกซี่ สีชมพูอ่อน ใส่ให้กับตังเม
“ผมชอบสีชมพูที่สุดเลยอ่ะ”
“อืม พี่ก้อชอบสีชมพู” ตังเมตอบ
“ว้า แย่จังเลย ทำไมมีใบเดียวล่ะ นึกว่ามีเหมือนกัน ผมจะได้ใส่คู่กะคุณเม”
ซองมินทำหน้าเศร้าๆ ตังเมเห็นอย่างนั้นจึงถอดหมวกออกจากหัวตัวเอง แล้วใส่ลงบนหัวของซองมินแทน
“เอ้ย ไม่เอาอ่ะคุณเม ผมอยากซื้อให้คุณเมน่ะ” ซองมินคว้าไปจ่ายเงินทันที
ตังเมได้แต่มองตามด้วยสายตาที่อ่อนโยน
--------- และแล้วทั้งหมดก็มาถึง ที่สนามบิน
“ฮันนี่... พี่ไม่อยากไปเลยอ่ะ” อึนฮยอกจับมือกับมะนาวแน่น
พร้อมทั้งกระทืบเท้าแบบเด็กๆ ที่โดนขัดใจ ดูท่าทางจะไม่อยากไปจริงๆ
“คนมองกันหมดแล้ว ฮยอกแจ เก็บอาการหน่อยสิ”
ซองมินที่เดินโอบตังเมเดินตามมาทีหลัง เพราะว่าไปหาที่จอดรถเป็นเพื่อนตังเม เตือนสติเพื่อนรัก
“นั่นสิ ไม่ใช่เด็กๆ กันแล้ว” อีทึกว่าน้อง อึนฮยอกทำหน้างอนๆ ใส่พี่และเพื่อน
“โฮ......” มะนาวร้องไห้โฮออกมาอย่างไม่อายใคร อึนฮยอกรีบคว้าแฟนสาวมากอดไว้ในอ้อมกอด
พร้อมลูบหัวปลอบโยน เต็มไปด้วยความรัก พริกได้แต่จับมือน้องเอาไว้ บีบมือปลอบโยนเบาๆ
“ไม่เห็นต้องร้องไห้เลยฮันนี่ พี่ไปไม่นาน เดี๋ยวพี่ก้อได้มาไทยอีก ถึงจะมาเรื่องงานก้อเถอะ
ไม่ใช่ว่าเราจะไม่ได้เจอกันอีกซักหน่อย โทรคุยกันก้อได้นี่จ๊ะ จริงมั๊ย”
คำพูดของอึนฮยอก ทำให้มะนาวหยุดร้องไห้ได้ ปาดน้ำตาเหมือนเด็กๆ
อึนฮยอกจับหัวมะนาวให้หันมาทางตัวเอง แล้วเอาหน้าผากจดหน้าผากของมะนาวไว้
“เฮ้ย มีคนมอง” อีทึกว่าน้องชายตัวเอง จริงอยู่ว่าพวกเค้าใส่หมวกกันไว้ ถ้าไม่สังเกต
ก้อคงไม่รู้ว่าพวกเค้าคือใคร
แต่ว่าเพื่อความปลอดภัย ไม่เป็นจุดเด่นคงดีที่สุด
“อืม... ได้เวลาไปแล้วนะ พวกเราไปกันเถอะ” อีทึกพูด แล้วก้อเดินนำไป
อึนฮยอกกับมะนาวลากันโดยการกอดครั้งสุดท้าย
“เออใช่ พี่ฮยอกแจ อันนี้จากเค้า” มะนาวยื่นกล่องสีขาวให้กล่องนึง ฮยอกแจรับไปอย่างงงๆ
“อย่าเพิ่งเปิดตอนนี้นะคะ ไว้เข้าไปในเกท แล้วค่อยเปิดดูนะ”
“คุณเม.. ไว้ผมโทรมานะครับ ผมรอคำตอบจากคุณเมอยู่นะ” ซองมินพูด พร้อมกับกุมมือตังเมเอาไว้
ตังเมไม่พูดอะไร ได้แต่ยิ้มพร้อมกับพยักหน้าเบาๆ ซองมินยิ้มแล้วก้อเดินตามอีกสองคนไป
“ช้าจังนาย มัวแต่ทำอะไรอยู่” อีทึกต่อว่าซองมิน ก่อนที่จะเดินถึงทางเข้าเกท
“โอปป้า จองซูโอปป้า” อีทึกหยุดชะงักไม่เดินต่อ ไม่ใช่ว่าเพราะว่ามีคนเรียกตัวเอง
หากแต่ว่าคนที่เรียกเป็นคนที่เค้าอยากให้เรียกตัวเองว่าโอปป้าเป็นที่สุด อีทึกหันไปช้าๆ
เห็นพริกกำลังเดินเข้ามาหา
“คนเราอ่ะ ไปไม่ลากันเลยหรอ” พริกพูดใส่อีทึก อีทึกห้ามใจตัวเองไม่ไหวดึงพริกเข้ามากอด พริกตกใจยืนอึ้ง
“นายทำอะไรน่ะ ปล่อยเถอะ คนมองเยอะแยะ” พริกยังคงพูดตะกุกตะกัก และอีทึกก้อยังคงไม่ปล่อย
“ชั้นดีใจมาก ดีใจจริงๆเลย ที่เธอยอมเรียกชั้นว่าโอปป้า
ที่ชั้นไม่ลาเธอ เพราะว่าชั้นกลัว กลัวว่าชั้นจะไม่อยากกลับไปน่ะสิ”
“แต่ถึงยังงัย นายก้อต้องกลับไป เพราะว่านายมีหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบ
ไม่ใช่แค่นาย พวกน้องๆ นายก้อเหมือนกัน ชั้นเชื่อว่านายต้องทำงานดีที่สุดจริงมั๊ย
จะว่าไป นายจะปล่อยชั้นได้ยังอ่ะ นานไปแระ”
“แหะๆ ลืมตัวไปหน่อย” อีทึกหัวเราะ แล้วก้อต้องจำใจปล่อยพริก คนอื่นๆยืนมองยิ้มๆ
“ไปแล้วนะ” อีทึกหันมาโบกมือบ๊ายบาย เหมือนเด็กๆ กับสาวๆ
อีก 2 หนุ่มก้อทำเช่นกัน นั่นคือภาพสุดท้ายที่พวกเค้าเจอกัน...
I wanna hold your hands
I wanna kiss to your lips
I wanna fall in love with you
it must be beautiful lovely day
-------
(แถมๆ)
“เออนี่ ฮยอกแจ ฮันนี่ให้อะไรนายมาอ่ะ” ซองมินถามอึนฮยอก ขณะที่นั่งรออยู่ในเกท รอขึ้นเครื่อง
“อ่าๆ เปิดดูก่อน” ฮยอกแจเปิดกล่อง ซองมินและอีทึกชะโงกหน้ามามองในกล่อง ในกล่องนั้นคือ...
“นี่ๆ ว่าแต่นายสงสัยมั๊ย ว่ามะนาวไปแอบซื้อมาตอนไหนเนี่ย” ซองมินถามอึนฮยอก
ทุกคนมองหน้ากันแบบสงสัย ไม่มีคำตอบใดๆ
-----
“เนี่ยๆ พี่ฮยอกแจต้องคิดว่าเค้าหนีออกไปซื้อตอนไหนแน่เลยอ่ะ”
มะนาวพูดออกมาตอนที่นั่งอยู่ในรถในระหว่างทางกลับบ้าน
“ไม่น่าตื่นขึ้นมา แอบทำแต่เช้าเลย พี่ฮยอกแจต้องเข้าใจผิดแน่ๆ เลยอ่ะ”
ไม่มีเสียงตอบรับจากพี่สาวทั้งสาว
มะนาวเลยได้แต่นั่งถอนหายใจแล้ว ถอนหายใจอีก ตลอดทางจนถึงบ้าน
==================
.
.
.
จบแล้วจ้า... ตอนที่ 13
หนุ่มๆ กลับเกาหลีแล้ว
พริกกะทึกก้อไม่มีอะไรติดค้างกันตอนที่พนัน
พร้อมเฉลยความสัมพันธ์ ฮานึล
ขอบคุงทุกคนที่ติดตามอ่านมาจนจบนะจ้ะ...
เดี๋ยว..ว...ว..ว...ว อย่านึกนะ ว่าเรื่องราวของพวกเค้าจะจบเพียงแค่นี้
เรื่องราวความรักของพวกเค้าเพิ่งจะเริ่มขึ้นต่างหาก
หลังจากนั้นมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง
รอติดตามกันต่อไปด้วยนะคะ
ปล. ติดตามตอน Special กันได้ที่นี่แระ เร็วๆ นี้จ้า ^^
ปล2. ...
ติดตาม ภาคต่อ ของอันยอง Sweet Pie ภาค 2
ใน... สวัสดี กิมจิ !!
==================
เช้าแล้ว ตังเมลืมตาตื่นขึ้นมามองรอบๆ ตัว
ภาพแรกที่เห็นก้อคือมะนาวที่กึ่งนั่งกึ่งนอน อยู่ในอ้อมกอดของอึนฮยอก บนโซฟายาวที่ห้องรับแขก
ถัดไปอีกตัวนึง พริกกับอีทึกก้อนั่งหลับพิงกัน โดยที่หัวของพริกกะอีทึกซ้อนทับกันอยู่
โดยที่หัวของพริกอยู่ด้านล่างพิงบ่าของอีทึกไว้ และหัวของอีทึกพิงทับลงมาอีกที
ส่วนมือของอีทึกก้อโอบเอวของพริกเอาไว้
“ยัยพริกตื่นขึ้นมาโวยวายแน่เรย” ตังเมพูดกับตัวเองด้วยเสียงค่อนข้างเบา
“ทำไม ไม่นอนต่ออีกหน่อยล่ะ วันนี้คุณเมต้องขับรถไม่ใช่หรอ” เสียงซองมินดังมาจากด้านหลังของตังเม
ตังเมตกใจไม่กล้าขยับตัว เพราะว่าซองมินนอนกอดตัวเองจากด้านหลังอยู่
ซองมินและตังเมนอนอยู่บนพื้นห้องรับแขก
“ไม่ล่ะ พี่ไม่ง่วงแระ” ตังเมขยับตัวออก เพื่อที่จะลุกขึ้น ซองมินดึงเข้ามากอดแน่นกว่าเดิม
“ไม่อ่ะ ยังไม่ให้ไป วันนี้ผมต้องกลับแล้วนะ ขออยู่อย่างนี้อีกหน่อยนะ”
ซองมินอ้อน ทำให้ตังเมต้องปล่อยเลยตามเลย
เมื่อคืนหลังจากที่เกิดเรื่องไม่เข้าใจกันเล็กน้อย ทุกคนก้อเลยมานั่งคุยกันที่ห้องรับแขก (เนื่องจากว่ากลัวยุงหาม)
แต่ละคนก้อเล่าเรื่องเกี่ยวกับตัวเองให้ฟัง เพื่อที่จะทำความรู้จักกันให้มากขึ้นกว่าเดิม
แต่น่าจาเป็นการเผากันมากกว่า เสียงหัวเราะดังตลอดทั้งคืน จนในที่สุดแล้ว
แต่ละคนที่บอกว่าจะไม่นอน ก้อค่อยๆ หลับกันไปจนไม่เหลือใครที่ตื่นอยู่ในที่สุด...
-----
“โอ๊ยยยยย นายลุกเลยนะ ถือโอกาสนี่หน่า” พริกโวยวายแล้วก้อเอาหมอนฟาดอีทึก
เสียงของทั้งคู่ทำให้คนอื่นที่หลับอยู่ตื่นกันหมด อีทึกตั้งสติได้ วิ่งหนีทั่วบ้าน
พร้อมกับหัวเราะเสียงแหลม คนอื่นๆ คอยหลบ เพราะว่ากลัวลูกหลง
ช่วงเวลาแห่งความสุขกำลังจะหมดลงแล้วใช่มั๊ย ถึงทุกคนจะหัวเราะอย่างสนุกสนาน
แต่ก้อแอบคิดในใจกันไม่ได้....
-----
“จะแวะมั๊ย” ตังเมถาม 2 สาว เมื่อใกล้จะถึง Outlet ตรงชะอำ
“แล้วแต่ ถ้าเมเมื่อยก้อแวะได้นะ” พริกบอก
“เพราะว่ายังงัย ก้อถึงก่อนค่ำอยู่แล้ว และอีกอย่างพวกเค้าก้อบินออกจะดึก”
“อือ งั้นแวะนะ” ตังเมบอก และก้อตบไฟเลี้ยวเพื่อชิดซ้ายแวะซื้อของ
เป็นครังแรกที่เธอถามความคิดเห็นคนอื่น
เพราะโดยปกติแล้ว เธอมักจะตัดสินใจเองคนเดียว
“ฮันนี่ พี่หิวจังเลยอ่ะ” อึนฮยอกอ้อนมะนาว สร้างความหมั่นไส้แก่คนอื่นๆ
“ร้อนๆ อย่างงี้ต้องกินไอติมเนอะ พี่ฮยอกแจเนอะ” มะนาวพูด
แล้วก้อเดินควงแคนกันไปหาไอติมกินกัน 2 คน
“ดี เหมือนกัน ชั้นอยากชอปปิ้งพอดี อยากได้เสื้ออ่ะ เธอไปกะชั้นเรย ยัยตัวแสบ”
อีทึกหันมามองหน้าพริก
“ไม่เอา ไม่ไปอ่ะ ชั้นจะไปกับเม” พริกพยายามกระเสือกกระสนจากการจับกุม ของอีทึก
ปากก้อร้องขอความช่วยเหลือจากเพื่อนรัก
“ตังเมๆ ช่วยชั้นด้วย”
“เราไปทางนู้นกันเถอะคุณเม” ซองมินจูงมือไปกับตังเม ทั้งแกล้งทำเป็นไม่รู้จักอีทึกกับพริก
ที่ยังคงฉุดกระชากลากถูกันไป ตามทางที่อีทึกต้องการจะไป
“เลิกดิ้นได้แล้ว ไม่อายคนอื่นหรอ” อีทึกถาม เมื่อเห็นว่าซองมินกับตังเม เดินเลี้ยวเข้าร้านนึงไปแล้ว
“ไม่อาย อายทำไม นายนั่นแหละ มารั้งชั้นไว้ทำไม” พริกยังคงสะบัด
แต่คงไม่ได้สะบัดมือจริงจังเท่าไหร่นัก เพราะว่าเท่าไหร่ก้อไม่หลุดซักที
“แล้วเธอจะไปขัดความสุขของเพื่อนเธอทำไมล่ะ คนเค้าจะไปสวีทกัน” อีทึกถาม
“ชั้นว่าเธอมาสวีทกะชั้นแทนดีกว่ามา”
“อะไรนะ..” พริกหันไปค้อนอีทึก ‘นายคนนี้ชอบพูดจาแปลกๆ ตังแต่เมื่อคืนแล้ว’ พริกคิดในใจ
“ไปกันเถอะ ชั้นอยากดูเสื้อทางนู้นอ่ะ” อีทึกหันมาโอบไหล่พริกแทน
พร้อมกับดันตัวเธอไปในทางที่เค้าต้องการ
“ไม่เห็นสวยเรย เสื้อรัยก้อไม่รู้” พริกกัด เมื่อเห็นอีทึกกำลังเลือกเสื้อ ทาบลองกะตัวเองอยู่
“โอ๊ย ยัยคนนี้ รู้จักแฟชั่นมั่งมั๊ยเนี่ย” อีทึกหันไปมองพริก ที่แต่งตัวสบายๆ เสื้อยืดกางเกงยีนส์ แล้วก้อส่ายหัว
“น่าจับแต่งตัวใหม่จริงๆ” อีทึกพูดแล้วก้อส่ายหัวอีกที
“ไม่ต้องมายุ่งเลย ชั้นแต่งตัวของชั้นอย่างเงี้ย ไม่เกี่ยวกับนายซักหน่อย” พริกออกแนวโมโห
“เออ ใช่ เรื่องที่ชั้นแพ้ พนันนายนั่นอ่ะ นายจะให้ชั้นทำอะไร วันนี้นายจะกลับแล้ว ไม่อยากติดค้าง”
“อืม อะไรดีล่ะ ชั้นยังคิดไม่ออกเลย” อีทึกหันมามองหน้าคนที่อยู่ข้างๆ
แล้วเมื่อมองรอบๆ ตัวก้อเห็นว่า ไม่มีใครมองพวกเค้าอยู่
“อ่า ใช่ คิดออกแระ อย่าตกใจนะ” อีทึกพูด ทำให้พริกหันไปมองหน้าอีทึกอย่างสงสัย
แล้วทันใดนั้นเองเค้าก้อจุ๊บปากของพริกเบาๆ พริกตกใจ ตาโตเกือบเท่าไข่ห่าน
“จะไม่ให้ตกใจได้งัยอีตาบ้า” พริกพูดกับตัวเองเบาๆ เอามือแตะปากตัวเองเบาๆ
อีทึกเห็นพริกกำลังเผลอ ก้อหอมแก้มพริกไปอีกฟอด แล้วรีบวิ่งหนีออกจากร้าน
พริกอึ้งอยู่กับที่ หันไปมองเห็นคนขาย พากันหัวเราะคิกคัก
“นายปาร์ค จองซู นายกลับมานี่เดี๋ยวนี้เลยนะ” เพราะว่าเสียงหัวเราะจากพนักงานขาย
ทำให้พริกสามารถเรียกสติที่หลุดลอยของตัวเองกลับคืนมาได้ เธอรีบเดินออกจากร้าน
เพราะว่าตอนนี้ใบหน้าของเธอแดงจนไม่สามารถปิดได้มิดอีกต่อไปแล้ว
-------
“ฮันนี่ ของฮันนี่ อร่อยมั๊ยอ่ะ” อึนฮยอกถาม เพราะว่าตอนนี้กินของตัวเองหมดแล้ว
“โหย ไม่ต้องเลยอ่ะ พี่ฮยอกแจ เพราะว่าของพี่หมดแล้วอ่ะดิ” มะนาวรู้ทันคนรัก
(นี่ขนาดเพิ่งคบกัน ยังรู้จักนิสัยซะขนาดนี้)
“ฮันนี่อ่า รู้ทันพี่อีกแล้ว ป้อนหน่อยดิ นะๆ” อึนฮยอกอ้อน ทำท่าน่ารักเต็มทื จนมะนาวต้องป้อนไอติมให้
“ฮันนี่ น่ารักที่สุดเลยรู้ป่าว” อึนฮยอกหยิกแก้มมะนาวเบาอย่างเอ็นดู เสียงโทรศัพท์มือถือของมะนาวดังขึ้น
“ฮัลโหล... เอ้ย ฮานึล โทรมาหามีอะไรรึป่าวเนี่ย”
‘อือ ว่างัย มะนาว สบายดีป่าว’
“สบายดี ว่าแต่ว่าแฟนเธอสบายดีป่าวยะ”
‘เราเลิกกันแล้วล่ะ นี่มะนาว ชั้นมีแฟนใหม่แล้วนะ เธอจะไม่เชื่อเลยว่าเค้าเป็นใคร’
“ใครๆๆ บอกมาเลย”
‘พี่เยซอง Super Junior’
“ถามจริง ไม่เชื่อหรอก”
‘ไม่เชื่อหรอ โอปป้า มาคุยกะเพื่อนฮานึลหน่อยค่า เพื่อนฮานึลพูดภาษาเกาหลีได้’
มะนาวได้แต่อึ้ง นี่โลกจะกลมไปหรือเปล่า ฮานึลเป็นลูกครึ่งไทยเกาหลี
ที่เป็นเพื่อนบ้านของมะนาวตอนที่เรียนม.ปลาย ทำให้เธอพูดภาษาไทยได้ด้วย
เลยทำให้มะนาวได้ฝึกภาษาเกาหลีกะเธอเสมอๆ เธอกลับไปอยู่เกาหลีตั้งแต่เข้ามหาวิทยาลัย
แต่ทั้ง 2 คนก้อคอยติดต่อกันอยู่เสมอๆ
‘สวัสดีครับ ผมเยซอง ครับ’
“จริงหรอคะ งั้นคุณลองคุยกับคนนี้นะคะ” มะนาวส่งโทรศัพท์ยื่นให้ฮยอกแจ
ฮยอกแจกรอกเสียงอย่างงงๆ
“สวัสดีครับ ใครกันครับ”
‘ผม เยซอง Super Junior ครับ ว่าแต่คุณเป็นใครครับ’
“เอ้ย ถามจริง ใช่พี่จงอุนจริงหรอ อย่ามาล้อเล่นนะ ถ้าล้อเล่น นายโดนแน่”
‘ใช่สิ ใครจะมาอำกัน ว่าแต่เสียงนาย คุ้นๆ นะ ฮยอกแจ นายใช่มั๊ย’
“ใช่ๆ งั้นก้อต้องพี่ตัวจริงแล้ว พี่รู้จักกะฮันนี่ของผมด้วยหรอ”
‘ไม่รู้จักซะหน่อย ฮานึลของชั้นคงเป็นเพื่อนกะฮันนี่ของนาย ไม่น่าเชื่อเลยนะ ว่าโลกจะกลมขนาดนี้’
“นั่นสิ เหมือนพรหมลิขิตเลยอ่ะ เออใช่ พวกผมกลับคืนนี้นะ พรุ่งนี้เช้าไปรับด้วยสิ 7 โมง 15 นะ
แล้วผมมีเรื่องเล่าให้ฟังเยอะแยะเลย เชื่อว่าซองมินกับพี่จองซูก้อคงเหมือนกัน”
‘ได้ๆ เดี๋ยวไปรับเอง เช้าชะมัดเลยอ่ะ พี่ว่าเราส่งโทรศัพท์คืนให้แฟนเราเค้าคุยกันเองดีกว่าเนอะ’
อึนฮยอกก้อส่งโทรศัพท์คืนให้มะนาว ฝ่ายเยซองเองก้อส่งคืนให้ฮานึลเช่นกัน
มะนาวรับโทรศัพท์มาคุยอย่างงงๆ
อึนฮยอกเดินจูงมือมะนาวไปดูของในร้าน ในขณะที่มะนาวก้อคุยโทรศัพท์กับฮานึลไปด้วย
--------
“นี่เลย หมวกใบนี้เหมาะกับคุณเมจัง” ซองมินหยิบหมวกร๊อกซี่ สีชมพูอ่อน ใส่ให้กับตังเม
“ผมชอบสีชมพูที่สุดเลยอ่ะ”
“อืม พี่ก้อชอบสีชมพู” ตังเมตอบ
“ว้า แย่จังเลย ทำไมมีใบเดียวล่ะ นึกว่ามีเหมือนกัน ผมจะได้ใส่คู่กะคุณเม”
ซองมินทำหน้าเศร้าๆ ตังเมเห็นอย่างนั้นจึงถอดหมวกออกจากหัวตัวเอง แล้วใส่ลงบนหัวของซองมินแทน
“เอ้ย ไม่เอาอ่ะคุณเม ผมอยากซื้อให้คุณเมน่ะ” ซองมินคว้าไปจ่ายเงินทันที
ตังเมได้แต่มองตามด้วยสายตาที่อ่อนโยน
--------- และแล้วทั้งหมดก็มาถึง ที่สนามบิน
“ฮันนี่... พี่ไม่อยากไปเลยอ่ะ” อึนฮยอกจับมือกับมะนาวแน่น
พร้อมทั้งกระทืบเท้าแบบเด็กๆ ที่โดนขัดใจ ดูท่าทางจะไม่อยากไปจริงๆ
“คนมองกันหมดแล้ว ฮยอกแจ เก็บอาการหน่อยสิ”
ซองมินที่เดินโอบตังเมเดินตามมาทีหลัง เพราะว่าไปหาที่จอดรถเป็นเพื่อนตังเม เตือนสติเพื่อนรัก
“นั่นสิ ไม่ใช่เด็กๆ กันแล้ว” อีทึกว่าน้อง อึนฮยอกทำหน้างอนๆ ใส่พี่และเพื่อน
“โฮ......” มะนาวร้องไห้โฮออกมาอย่างไม่อายใคร อึนฮยอกรีบคว้าแฟนสาวมากอดไว้ในอ้อมกอด
พร้อมลูบหัวปลอบโยน เต็มไปด้วยความรัก พริกได้แต่จับมือน้องเอาไว้ บีบมือปลอบโยนเบาๆ
“ไม่เห็นต้องร้องไห้เลยฮันนี่ พี่ไปไม่นาน เดี๋ยวพี่ก้อได้มาไทยอีก ถึงจะมาเรื่องงานก้อเถอะ
ไม่ใช่ว่าเราจะไม่ได้เจอกันอีกซักหน่อย โทรคุยกันก้อได้นี่จ๊ะ จริงมั๊ย”
คำพูดของอึนฮยอก ทำให้มะนาวหยุดร้องไห้ได้ ปาดน้ำตาเหมือนเด็กๆ
อึนฮยอกจับหัวมะนาวให้หันมาทางตัวเอง แล้วเอาหน้าผากจดหน้าผากของมะนาวไว้
“เฮ้ย มีคนมอง” อีทึกว่าน้องชายตัวเอง จริงอยู่ว่าพวกเค้าใส่หมวกกันไว้ ถ้าไม่สังเกต
ก้อคงไม่รู้ว่าพวกเค้าคือใคร
แต่ว่าเพื่อความปลอดภัย ไม่เป็นจุดเด่นคงดีที่สุด
“อืม... ได้เวลาไปแล้วนะ พวกเราไปกันเถอะ” อีทึกพูด แล้วก้อเดินนำไป
อึนฮยอกกับมะนาวลากันโดยการกอดครั้งสุดท้าย
“เออใช่ พี่ฮยอกแจ อันนี้จากเค้า” มะนาวยื่นกล่องสีขาวให้กล่องนึง ฮยอกแจรับไปอย่างงงๆ
“อย่าเพิ่งเปิดตอนนี้นะคะ ไว้เข้าไปในเกท แล้วค่อยเปิดดูนะ”
“คุณเม.. ไว้ผมโทรมานะครับ ผมรอคำตอบจากคุณเมอยู่นะ” ซองมินพูด พร้อมกับกุมมือตังเมเอาไว้
ตังเมไม่พูดอะไร ได้แต่ยิ้มพร้อมกับพยักหน้าเบาๆ ซองมินยิ้มแล้วก้อเดินตามอีกสองคนไป
“ช้าจังนาย มัวแต่ทำอะไรอยู่” อีทึกต่อว่าซองมิน ก่อนที่จะเดินถึงทางเข้าเกท
“โอปป้า จองซูโอปป้า” อีทึกหยุดชะงักไม่เดินต่อ ไม่ใช่ว่าเพราะว่ามีคนเรียกตัวเอง
หากแต่ว่าคนที่เรียกเป็นคนที่เค้าอยากให้เรียกตัวเองว่าโอปป้าเป็นที่สุด อีทึกหันไปช้าๆ
เห็นพริกกำลังเดินเข้ามาหา
“คนเราอ่ะ ไปไม่ลากันเลยหรอ” พริกพูดใส่อีทึก อีทึกห้ามใจตัวเองไม่ไหวดึงพริกเข้ามากอด พริกตกใจยืนอึ้ง
“นายทำอะไรน่ะ ปล่อยเถอะ คนมองเยอะแยะ” พริกยังคงพูดตะกุกตะกัก และอีทึกก้อยังคงไม่ปล่อย
“ชั้นดีใจมาก ดีใจจริงๆเลย ที่เธอยอมเรียกชั้นว่าโอปป้า
ที่ชั้นไม่ลาเธอ เพราะว่าชั้นกลัว กลัวว่าชั้นจะไม่อยากกลับไปน่ะสิ”
“แต่ถึงยังงัย นายก้อต้องกลับไป เพราะว่านายมีหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบ
ไม่ใช่แค่นาย พวกน้องๆ นายก้อเหมือนกัน ชั้นเชื่อว่านายต้องทำงานดีที่สุดจริงมั๊ย
จะว่าไป นายจะปล่อยชั้นได้ยังอ่ะ นานไปแระ”
“แหะๆ ลืมตัวไปหน่อย” อีทึกหัวเราะ แล้วก้อต้องจำใจปล่อยพริก คนอื่นๆยืนมองยิ้มๆ
“ไปแล้วนะ” อีทึกหันมาโบกมือบ๊ายบาย เหมือนเด็กๆ กับสาวๆ
อีก 2 หนุ่มก้อทำเช่นกัน นั่นคือภาพสุดท้ายที่พวกเค้าเจอกัน...
I wanna hold your hands
I wanna kiss to your lips
I wanna fall in love with you
it must be beautiful lovely day
-------
(แถมๆ)
“เออนี่ ฮยอกแจ ฮันนี่ให้อะไรนายมาอ่ะ” ซองมินถามอึนฮยอก ขณะที่นั่งรออยู่ในเกท รอขึ้นเครื่อง
“อ่าๆ เปิดดูก่อน” ฮยอกแจเปิดกล่อง ซองมินและอีทึกชะโงกหน้ามามองในกล่อง ในกล่องนั้นคือ...
“นี่ๆ ว่าแต่นายสงสัยมั๊ย ว่ามะนาวไปแอบซื้อมาตอนไหนเนี่ย” ซองมินถามอึนฮยอก
ทุกคนมองหน้ากันแบบสงสัย ไม่มีคำตอบใดๆ
-----
“เนี่ยๆ พี่ฮยอกแจต้องคิดว่าเค้าหนีออกไปซื้อตอนไหนแน่เลยอ่ะ”
มะนาวพูดออกมาตอนที่นั่งอยู่ในรถในระหว่างทางกลับบ้าน
“ไม่น่าตื่นขึ้นมา แอบทำแต่เช้าเลย พี่ฮยอกแจต้องเข้าใจผิดแน่ๆ เลยอ่ะ”
ไม่มีเสียงตอบรับจากพี่สาวทั้งสาว
มะนาวเลยได้แต่นั่งถอนหายใจแล้ว ถอนหายใจอีก ตลอดทางจนถึงบ้าน
==================
.
.
.
จบแล้วจ้า... ตอนที่ 13
หนุ่มๆ กลับเกาหลีแล้ว
พริกกะทึกก้อไม่มีอะไรติดค้างกันตอนที่พนัน
พร้อมเฉลยความสัมพันธ์ ฮานึล
ขอบคุงทุกคนที่ติดตามอ่านมาจนจบนะจ้ะ...
เดี๋ยว..ว...ว..ว...ว อย่านึกนะ ว่าเรื่องราวของพวกเค้าจะจบเพียงแค่นี้
เรื่องราวความรักของพวกเค้าเพิ่งจะเริ่มขึ้นต่างหาก
หลังจากนั้นมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง
รอติดตามกันต่อไปด้วยนะคะ
ปล. ติดตามตอน Special กันได้ที่นี่แระ เร็วๆ นี้จ้า ^^
ปล2. ...
ติดตาม ภาคต่อ ของอันยอง Sweet Pie ภาค 2
ใน... สวัสดี กิมจิ !!
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น