คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #14 : Real love ตอนที่ 10/10 Ending
“อะ อื้ม ถามมาสิ”
“ฉันได้ข่าวว่านายได้ทุนไปเรียนต่อ”
“ใช่ อูยองบอกนายสินะ”เขาออกจะแปลกใจนิดหน่อยที่คนตัวเล็กรู้ สงสัยต้องเป็นไอ้ลูกเจี๊ยบตัวแสบแน่ๆ พูดไม่เข้าเรื่องจริงๆ
“เปล่าหรอก ได้ยินพวกอาจารย์ที่โรงเรียนคุยกัน แล้วนายจะไปเมื่อไหร่ล่ะ”
“กะว่าเคลียที่นี่เสร็จก็คงบินไปเลย ต้องไปปรับตัวก่อน”พอได้ยินดังนั้นหน้าคนตัวเล็กก็สลดลงเล็กน้อย ก่อนจะยิ้มออกมา
“ดีจังเนอะอิจฉานายจัง ฉันอยากจะเก่งแบบนายกับอูยองบ้าง แต่ต่อให้เก่งแค่ไหนยังไงป๊ากับม้าก็คงให้เรียนที่นี่ ความฝันฉันดับตั้งแต่เริ่มคิดเลยอ่ะ”ตอนเด็กๆเขาเคยถามป๊าว่าถ้าเขาได้ทุนไปเรียนต่อต่างประเทศท่านจะยอมให้ไปรึเปล่า ก็ได้คำตอบที่ดังลั่นบ้านคือ ไม่ได้ หลังจากนั้นเขาก็ไม่เคยคิดว่าจะไปเรียนต่างประเทศอีกเลย
“แต่ฉันคิดว่าคงจะไม่ไปแล้วล่ะ”คำตอบทำเอาคิ้วอีกคนขมวดจนติดกัน
“ทำไมล่ะ โอกาสดีๆอย่างนี้หายากจะตาย ไปเปิดโลกทัศน์ของนายสิ ฉันอยากให้นายไปนะชาน อย่างน้อยๆก็ไปแทนฉัน ไปมองโลกกว้างแทนฉันไง”
“ฉันไม่ชอบห่างจากคนรัก ...อย่างแม่อย่างนี้ ฉันคงคิดถึงท่านมากแน่ๆ”คำตอบตอนแรกทำเอาจุนโฮเกือบคิดเข้าข้างตัวเอง แต่พอร่างหนาขยายความก็อดเศร้าไม่ได้
“นั่นสินะ ใครๆก็ห่วงครอบครัวกันทั้งนั้น ฉันขอถามนายอีกอย่างได้ไหม”เอาวะนูนอถามออกไปเลย
“หืม จะถามอะไรล่ะนายนี่หัดขี้สงสัยตั้งแต่เมื่อไหร่กันน้า”
“ฉันจะถามนายว่า ...ว่า....”
“ว่าอะไร !”
“นายยัง เอ่อ ยัง....”เอร๊ยยย ไม่กล้าว่ะทำไงดี
“นี่ถ้านายไม่ถามฉันก็ตอบไม่ได้หรอกนะ หรือว่านายปวดอึแล้วไม่กล้าพูด”
“บ้าใครจะปวดตอนนี้ ฉันจะถามนายว่า นายยังรักฉันอยู่รึเปล่าต่างหากไอ้บ้า เฮ้ย!”พูดออกไปแล้ว อยากกัดลิ้นตัวเองจริงๆเลย
ชานซองที่ได้ฟังคำถามก็ถึงกลับอึ้งไปเลยทีเดียว เป็นใครๆก็อึ้งกันทั้งนั้นแหละ เชื่อสิ แต่ว่าหน้าจุนโฮตอนเขินนี่น่าดูชะมัดเลยแฮะ
“นายอยากได้ยินคำตอบแบบไหนล่ะ เอาจากใจจริงๆ หรือแบบที่ฉันใช้ความคิดแล้วค่อยตอบ”
“ฉันอยากได้ยินคำตอบที่มาจากหัวใจของนายจริงๆ”เมื่อถามออกไปแล้วเขาก็อยากจะฟังคำตอบจริงๆ ถ้าตอนนี้ชานซองไม่รักเขาแล้วเขาก็ยินดีที่จะเก็บความรู้สึกไว้เอง
“ถ้าตอบว่าไม่ล่ะ นายจะว่ายังไง”
“ฉันก็ดีใจที่นายเลิกชอบคนไม่น่ารักแบบฉัน ยังมีคนดีๆบนโลกใบนี้ที่เขาต้องการนายอีกเยอะ”เขาทำใจไว้แล้วว่าชานซองอาจจะเปลี่ยนใจเลิกรักเขา แน่ล่ะเขาออกจะทำตัวไม่น่ารักเลยสักนิด
“แต่ถ้าฉันตอบว่าฉันยังรักนายอยู่ นายจะทำอย่างไร”ร่างสูงต้องการถามลองใจอีกคนดูเพราะถ้าเขายอมรับว่าจะเขารักอีกคนอยู่ แล้วจะเป็นอย่างไร ถ้าหากมันทำให้เขาเจ็บเขายอมเก็บรักครั้งนี้ไว้ในความทรงจำจะดีกว่า
“ฉันก็ดีใจ เอ๊ย! ไม่ใช่ๆ ฉันอยากให้นายห่วงอนาคตของตัวเองก่อน และอย่างแรกที่อยากให้นายทำคือไปเรียนต่อซะ โอกาสดีๆอย่างนี้หาไม่ได้ง่ายๆนะ ฉันว่าคนที่รักนายก็คงอยากให้นายทำอย่างนี้แหละ เอ๊ะนี่นาย! ตกลงนายตอบฉันได้รึยังชานซอง”เรื่องอะไรเขาจะบอกรักไอ้หมีก่อน
“รัก ชานซองรักจุนโฮ พอใจรึยัง”อยากจะบอกว่าพอใจมากๆ พอใจที่สุดเลย อิอิ
“ก็แค่นั้น”จุนโฮพลิกตัวนอนหงายแล้วหลับตาลง
“เฮ้ นี่นายไม่คิดจะตอบคำถามหน่อยหรอ”
“อ่า ง่วงนอนเงียบๆไปเลย”ถึงแม้คำพูดจะยังดูเหวี่ยงดังเดิม แต่พอมองไปที่หน้าร่างบางเขาก็รู้ได้ทันทีว่าเจ้าตัวทำเป็นโกรธกลบเกลื่อนอาการเขิน
เมื่อเห็นดังนั้นชานซองจึงรีบเดินไปนั่งขอบเตียงผู้ป่วย เพื่อจัดการกับจักรพรรดิตัวน้อยๆจอมเหวี่ยงให้ตกอยู่ในวังวนแห่งรักของเขาให้ได้
“ตกลงนายรักฉันแล้วใช่ไหมนูนอ นูนอรักชานซองสินะ อิอิ”เมื่อรู้สึกได้ว่าชานซองเขยิบเข้ามานั่งใกล้ๆจุนโฮก็ยิ่งควบคุมอาการเขินไว้ไม่อยู่เพราะคำพูดมันชวนสยิวอย่างไรก็ไม่รู้
“ไอ้บ้า คนจะนอน ไปไกลๆเลย” เมื่อชานซองเห็นว่าถ้าไม่รีบจัดการ อีกคนคงหนีความจริงอีกเป็นแน่ ดังนั้นจึงขึ้นเตียงไปนอนกอดด้วยซะเลย
“นายทำบ้าอะไร อะ~ ไอ้หมีบ้า ออกไปเลยนะเว่ย”
“ไม่รู้ล่ะ ถ้านายไม่ยอมบอกความจริงกับฉัน คืนนี้เรามารำลึกความหลังกันดีกว่า ฉันอยากจะรู้จริงๆว่านายยังจะปฏิเสธตัวเองได้นานแค่ไหน”ร่างสูงไม่พูดเปล่า แต่ไล่หอมคนในอ้อมกอดไปทั่ว ก่อนจะก้มไปเล็มริมฝีปากที่หอมหวาน เพื่อยั่วเย้าอารมณ์อีกคน
“จุนโฮรักชานซองไหมครับ ชานซองรักจุนโฮนะ”
“หยุดเลยนะชาน ออกไปคนจะนอน”แม้ชานซองจะถามซ้ำอีกสักกี่ครั้งเขาก็ไม่กล้าตอบอยู่ดี ก็คนมันเขินนี่นา แถมอยู่ใกล้กันแค่นี้ สภาพแบบนี้ มันยิ่งเขินเข้าไปอีกร้อยเท่าพันเท่า
“ตอบมาซะเด็กดื้อ อย่าให้ฉันเค้นเอาความจริงจากปากนายนานกว่านี้เลย ไม่อย่างนั้นอย่าหาว่าไม่เตือน”ไม่ว่าเปล่า มือชานซองเริ่มเคลื่อนไปปลดชุดคนไข้ของจุนโฮแล้วค่อยๆสำรวจร่างกายของคนข้างหน้า
“อ๊ะ อย่าชาน มะรืนมีสอบนะถ้าฉันไข้ขึ้นจะทำยังไงเล่า”ร่างเล็กพยายามเฉไฉเปลี่ยนเรื่อง
“ก็ไปสอบตามหลังเอาสิ ไม่เห็นจะยาก วันนี้ชานจะต้องรู้ความในใจของนูนอให้ได้ เอาสิถ้าไม่ตอบชานจะทำจริงๆแล้วนะ”ชานซองทำท่าจะรุกมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆจนเห็นท่าไม่ดี จุนโฮจึงต้องยอมบอกความจริง ก่อนที่อีกสองวันข้างหน้าจะไม่ได้ไปสอบพร้อมเพื่อนๆคนอื่น
“ก็ได้ๆๆๆ ตอบก็ได้ เมื่อกี๊นายถามว่าอะไรล่ะ”
“ฉันรักนาย แล้วนายล่ะรักฉันรึเปล่า”
“อืม พอใจยัง นอนได้แล้วเฝ้าไข้ฉันด้วยล่ะไอ้หมีบ้า!”
“อะไรกันตอบแค่เนี้ย ตอบดีๆนะ ไม่อย่างนั้นฉันจะบุกจริงๆนะ”มือทั้งสองข้างยังคงขยับทำงานได้เป็นอย่างไม่ขาดตกบกพร่องจนทำให้คนก้นงอนเริ่มมีอารมณ์ร่วมไปด้วย
“อ๊ะ~ หยุดเลยนะไอ้หมี ฉัน... ก็ได้ๆๆๆ ฉันรักนาย พอใจยัง กลับไปนอน อื้ม~”คนตัวโตประกบปากลงไปบนริมฝีปากอีกคนก่อนจะหยอกเย้าเล่นในทันที ไม่ฟังคำพูดของร่างเล็กที่กำลังทัดทานให้เขากลับไปในที่ของตน
“จุนโฮเป็นของชานแล้วนะ ต่อไปห้ามแกล้งชานโอเคนะ” แม้คำตอบจะเป็นที่น่าพึงพอใจของอีกคนแล้ว แต่เขากลับยังไม่ยอมหยุดและคิดว่าค่ำคืนนี้ยังคงอีกยาวไกลไปถึงเช้า
“นายสิแกล้ง อืม หยุดเลยนะ อ๊ะ ชาน~”
“รักนะ อีจุนโฮ”
“รักเหมือนกัน ที่รักของผม อ๊ะ ~ เร็ว..กว่า...นี้อีก อา~”ค่ำคืนนี้ ผมคงได้บอกรักจุนโฮทั้งคืนแหละครับ เพราะฉะนั้นอย่ารบกวนผมเลยนะครับท่านผู้อ่านทั้งหลาย
ความรักในมุมมองของบางคน เขาก็ต้องจำเป็นต้องปกปิดเอาไว้ เพื่อที่จะก้าวเดินต่อไปข้างหน้า ต่อให้จะต้องเสียใจ และทุกข์ทรมานพวกเขาก็ยอม เพราะถ้าหากพวกเขา ยิ่งฝืนตัวเอง ยิ่งดึงรั้งกันต่อไป มันก็จะยิ่งเจ็บ ยิ่งมองหน้ากันไม่ติด ความหวังที่ว่าในอนาคตจะยังคงเป็นเพื่อนกันก็คงหมดไป
ส่วนในมุมมองแห่งความรักมุมมองเล็กๆอีกมุมมองหนึ่ง กลับคิดว่าถ้ายิ่งเก็บความรักเอาไว้นานๆ มันอาจจะล้นออกจากอก จนทำให้พวกเขาบ้าตายแน่ พวกเขาเหล่านั้นจึงยอมรับ และเลือกที่จะสารภาพความรู้สึกออกไป ดีกว่าเก็บไว้แล้วมันจะต้องทำร้ายตัวเอง และต่อให้อีกคนไม่ได้คิดเหมือนกัน พวกเขาก็ไม่เสียใจ เพราะอย่างน้อยห่วงที่พวกเขาสร้างขึ้นก็หมดลงไป
=The End=
“คุณม้าผมว่าพวกเรากลับกันเถอะครับ” เด็กหนุ่มหนึ่งในคนที่แอบฟังหน้าห้องเสนอความคิด
“ไม่เอาม้าอยากรู้ว่าพ่อหนุ่มนั่นจะทำอะไรจุนโฮของหม่าม้า”หญิงสาววัยกลางคนเอ่ยตอบกลับไป
“ป๊าว่าแล้วไง ม้าต้องได้ลูกเขยแน่ๆเลย รออุ้มหลานจากลูกสาวเราดีกว่าเยอะ~ ฮ่ะๆๆ”คุณพ่อยังหนุ่มของเด็กน้อยในห้องเอ่ยก่อนหัวเราะเบาๆ
“แต่ผมว่าพวกคุณควรจะแยกย้ายไปได้แล้วนะครับ ก่อนที่ผมจะทนไม่ไหว”บุรุษแปลกหน้าเอ่ยขึ้น
“ทำไม!”
“ก็พวกคุณทับตัวผมอยู่นี่ไง ผมหายใจไม่ออก~ ผมจะเข้าไปดูอาการคนไข้จะมาขวางผมทำมายยย”ทุกคนรีบหันไปตามเสียง ก่อนจะพบหมอหนุ่มกำลังโวยวายอยู่ตรงหน้าห้องพัก ทุกคนจึงพร้อมใจลากออกไปทันที
‘ชานซอง อูด้งจัดอาหารชั้นหรูมาเสิร์ฟแล้ว อย่าลืมกินให้อร่อยล่ะ คิคิ บอกแล้วว่าไม่มีอะไรที่ด้งทำไม่ได้ ~’
[fin]
ปล. ไม่รู้ว่าจะจบได้ถูกใจนักอ่านทุกท่านหรือเปล่านะคะ ไรต์เตอร์เพิ่งบิ้วอารมณ์ตัวเอง แต่งเสร็จหลังจากไปดูคอนเสิร์ตเมื่อวานนี้ ใครไปดูบ้างง put your hand up !!! ^^
ขอให้คนที่มาคอมเม้นต์สวยวันสวยคืนค่า ถ้าเป็นผู้ชายก็ขอให้หล่อขึ้นๆ^ ^
ความคิดเห็น