คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #14 : ♀ TOM (or) BOY ♂ - 12 [extended]
♀ TOM (or) BOY ♂
12
สนามฟุตบอลของมหาวิทยาลัยในยามเย็นวันกลางสัปดาห์เริ่มคึกคักไปด้วยเหล่านักศึกษามากมาย เพียงเพราะมีการแข่งขันฟุตบอลของเหล่าเฟรชชี่ปีหนึ่งระหว่างสองคณะ หนุ่มหน้าหวานในวันนี้ใส่เสื้อบอลสีน้ำเงินเบอร์ 3 ยืนยิ้มร่าอยู่ข้างสนาม เช่นเดียวกับเพื่อนร่วมทีมที่ต่างใส่เสื้อทีมสีน้ำเงินตามที่เขาเจาะจงให้ไปทำมา ยิ่งเท้าได้สัมผัสกับปลายหญ้าชื้นๆ มันยิ่งรู้สึกดีใจ
เมื่อวันก่อนแข่งกับคณะแพทย์ ได้เป็นตัวต่อบอลส่งให้เพื่อนยิงจนเข้า วันนี้ขอจัดเองสักลูกสองลูกหน่อยเหอะ!
แผ่นอกขาวไร้การปกปิดเผยให้เห็นผ่านคอเสื้อสีน้ำเงินตัวหลวมโพรก ต้นขาเนียนโผล่พ้นชายกางเกงที่เลิ่กสูงขึ้นเมื่อเจ้าตัวกำลังยืดเส้นยืดสายอยู่ข้างสนาม เขาไม่ได้สนใจมันสักนิด จนกระทั่งหนุ่มแว่นร่วมก๊วนเดินเข้ามาทักทาย
“เบาๆ หน่อยน้องทอม... หนุ่มๆ มองน้ำลายหกแล้ว”
ได้ยินดังนั้นร่างเล็กที่กำลังเหยียดขาวอร์มอัพก็ถึงกับชะงัก หรี่ตามองหน้าหาเรื่อง “เพ้อเจ้อไอ้เต้ มีแต่สาวๆ เขามองกูตาเยิ้ม” ว่าพลางหันไปมองแสตนด์ด้านหลังที่มีเพื่อนร่วมคณะมานั่งเชียร์กันอยู่ประปราย ชายตาหวานยิ้มให้สาวๆ ที่ว่า
แม้ที่ได้กลับมาจะมีแค่รอยยิ้มของแอ้นกับหน้าเจื่อนๆ ของแพรวาก็เถอะ
“แหม่... เดี๋ยวนี้มีขึ้นกูขึ้นมึงนะน้องชา” ภายใต้กรอบแว่นสีน้ำเงินดูคงแก่เรียนนั้นมีแววตาล้อเลียนเขาอยู่ไม่น้อย... อย่าคิดว่ามีแค่เฟรมคนเดียวที่ชอบแสบใส่เขาเลย ไอ้เต้ก็พอกัน!!!
คชาทำปากยื่นใส่เพื่อน “พอเลย... กูเป็นผู้ชายแล้วว้อย เดี๋ยวถีบให้” ขู่ฟ่อๆ ด้วยสีหน้าโหดๆ ที่ยังไง๊ยังไงเพื่อนคนเดิมก็มองว่าทำตัวเป็น ‘ลูกสาวกำนัน’ ชัดๆ
“ห้าวว่ะ” ถ้าละครคณะมีบทผู้หญิงปลอมเป็นชายล่ะก็ โปเต้สาบานว่าจะลองส่งชื่อน้องทอมคชาคนนี้ไปคัดดู
“เขาเรียกแมนว้อย!”
“แมนก็แมน... แล้วที่ว่ามีหมอมาจีบหลังเตะบอลอะ?”
“จีบเชี่ยไร! คุยกันเฉยๆ” ร่างเล็กเถียงทันควัน “แค่บอกขอโทษที่ชนกันในสนามแค่นั้น โม้ยังกะไปกินข้าวด้วยกันมา” คชาพูดแกมบ่น ด้วยพอจะรู้ว่าเรื่องพวกนี้คงไม่ได้มีต้นตอมาจากไอ้โปเต้นี่หรอก แต่คงมีคนแกล้งลือกันเล่นไปตามประสาเด็กคณะเขา
หารู้ไม่... ต้นตอมันมาจากไอ้สี่ตาคนนี้นี่แหละ! เห็นหงิมๆ แบบนี้น่ะร้ายนัก
“เฮ้ย ทีมนั้นมาแล้ว” เสียงพูดของใครสักคนในคณะดังมาจากไม่ไกลทำให้บนสนทนาของคชากับโปเต้ชะงักกลางคัน ตาเรียวหันไปกวาดมองคู่แข่งที่จะฟาดแข้งในวันนี้ เดินเข้ามาเยอะขึ้นเรื่อยๆ จนเริ่มรู้สึกหนาวๆ “วันนี้คณะอะไรวะ?” ถามขึ้นลอยๆ หากแต่ไม่ได้คำตอบจากใครสักคน
ร่างเล็กก้มลงหยิบผ้าขนหนูสีขาวชุบน้ำเย็นๆ มาลูบต้นคอ อากาศตอนนี้ออกจะร้อนอบอ้าวไม่แพ้ช่วงกลางวัน ดวงอาทิตย์ที่คล้อยต่ำไม่ช่วยให้อุณหภูมิลดลงเลย คชาเงยหน้าขึ้นมองทีมฝั่งตรงข้ามอีกครั้ง ฝ่ายนั้นเริ่มสวมเสื้อทีมสีแดงกันแล้ว แถมกองเชียร์ที่มาก็น้อยเสียเมื่อไหร่ ริมฝีปากบางขมุบขมิบตามเมื่ออ่านชื่อคณะนั้นในใจ ‘บัญชี’ มิน่า... บนแสตนด์มีแต่สาวๆ แถมแต่ละคนก็หน้าตาน่ารักกันทั้งนั้นเลย
จะมองทางซ้ายก็เข้าตา จะมองทางขวาโอ๊ะโอยก็โดน >w<
ทำนองเพลงคุ้นหูเริ่มดังทุ้มขึ้นในใจ ตาเรียวเล็กชายมองสาวขาวหมวยน่ารักแล้วก็อดยิ้มจางๆ ไม่ได้ ทำไมที่คณะไม่เห็นมีสาวๆ น่ารักจิ้มลิ้มแบบนี้มั่ง
อุตส่าห์ไม่ซุก แน่ะ! ยังซน มาจ้างให้ทนก็ทนไม่ไหว
สอดส่ายสายตาเป็นประกายซุกซนจนกระทั่งไปสะดุดกับสาวบัญชีคนนึงที่มองมาทางนี้เหมือนกันเข้า มุมปากทั้งสองข้างของเธอค่อยๆ ยกขึ้น นี่เธอคนนั้นกำลังส่งยิ้มให้ผมมาอยู่รึเปล่า?
ก็ถูกใจอีกแล้ว มันอดไม่ไหวใจแตกอีกแล้ว สกัดยังไงก็เอาไม่อยู่ ควบคุมไม่อยู่ มันอู้หูซะทุกราย
สาวๆ คนอื่นในแสตนด์ก็เริ่มมองมาทางนี้เหมือนกันล่ะ อย่าทำแบบนี้สิ มันเขินนะ >//<
บาดใจอีกแล้ว มันหลบไม่พ้นใจหล่นอีกแล้ว
“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด”
ขนาดไกลๆ มือไม้ก็สั่น ก็มันจะละลาย
ถึงขนาดกรี๊ดให้เลยหรอ ไม่เอาน่า วันนี้เราคนละฝั่งกันนะคร้าบ อย่าทำให้เกิดรักต้องห้ามสิ!
ถ้าหากละอายใจ...
“กรี๊ดดดดดดดดดด เต๋า!!! เต๋า!!!!!!!” เต๋าไหนวะ!? แม่งเอ๊ย ขัดอารมณ์หมดเลย! อุตส่าห์กำลังมโนว่าสาวๆ บนแสตนด์กรี๊ดให้อยู่เชียว
ได้ไหมช่วยไป..... ไกลๆ หน่อย.... นี่จะตามรังควานกันไปถึงไหนวะ!!!!!
ไอ้เผือกเต๋าเพียงพอ! หล่อตายล่ะ!!!!!
ลางสังหรณ์เริ่มมาตั้งแต่ฉุกคิดขึ้นได้ว่าคณะบัญชีมันรวมบริหารเข้าไปด้วย แต่ก็ไม่คิดว่าจะเป็นคนเดียวกันจนกระทั่งสายตาลากผ่านไปมองเข้าพอดี
ลูกชายเจ้าของหอพักเพียงพอวันนี้ใส่ชุดนักกีฬาเต็มยศ เสื้อทีมแดงสดตัดกับผิวขาวซีดเป็นทุนเดิมอย่างชัดเจน ซ้ำเจ้าตัวยังยืนยิ้มมุมปากกวนๆ เด่นเป็นสง่าอยู่หน้าแสตนด์ฟากนั้น
ไอ้ขี้เก๊กเอ๊ย! เฮอะ...แกแพ้แน่! คนตัวเล็กเย้ยอีกคนในใจหากแต่ใช้ผ้าขนหนูสีขาวปิดใบหน้าไว้เต็มๆ ถ้าไม่ได้อยู่ในสภาพผู้ชายเต็มตัวแบบนี้คงเข้าไปเกรียนใส่แล้ว แต่ยิ่งหลุบตามองสภาพตัวเองตอนนี้...มันคือหลักฐานชั้นดีว่าเขาน่ะเป็นผู้ชายทั้งแท่งไม่ใช่ทอมแอ๊บแมนอีกต่อไป
ยังไงก็ตาม ขอเผ่นก่อนละกัน! วันนี้ยังไม่พร้อมจะเปิดเผยตัว T^T คิดได้ดังนั้นก็หันเดินไปที่กระเป๋าของตัวเองทั้งๆ ที่ใบหน้ายังมีผ้าขนหนูชื้นๆ มาแปะเอาไว้อยู่ แอบมองดูซ้ายขวาก็หยิบข้าวของวิ่งไปยังห้องน้ำโลด!!!
ไม่แข่งมันแล้วโว้ยวันนี้! เดี๋ยวไม่มีที่ซุกหัวนอน ไม่คุ้มกัน!
กว่าหัวใจจะเริ่มคลายจังหวะการเต้นให้ช้าลงก็เป็นตอนที่เขาปิดประตูห้องน้ำดัง ‘ปัง!’พลางลงกลอน คนตัวเล็กถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่... เหนื่อยหน่ายที่ตัวเองต้องมาปิดบังเพศเหมือนตอนเพิ่งเปิดเทอมทั้งที่ทุกคนก็รู้กันหมดแล้วว่าเขาเป็นผู้ชาย... เขารู้ดี ความลับไม่เคยมีในโลก และสักวันเต๋าก็ต้องรู้ เพียงแต่วันนี้เขาไม่ได้เตรียมใจจะบอกนี่หว่า
ยิ่งเริ่มสนิทกันมากขึ้น มันยิ่งทำให้รู้สึกกล้าๆ กลัวๆ
มันจะโกรธไหมวะ? หลอกมันมาได้ตั้งนาน
ไม่หรอกน่า... คงไม่หรอก...
คชานึกพลางลงมือเปลี่ยนจากชุดบอลสีน้ำเงินเป็นชุดนักศึกษาแสนมิดชิดตามเดิม...ใบหน้าหวานออกอาการหงอยๆ เพราะตัวเองไม่ได้ลงแข่ง แต่ถึงกระนั้นก็หมายมั่นจะกวดขันให้ทีมนิเทศชนะแมทช์นี้ให้ได้เพื่อเขาจะได้ลงแข่งในนัดต่อไป
คนตัวเล็กพับชุดบอลใส่กระเป๋าเป้สะพายหลัง มือบางกำลังจะเอื้อมไปเปิดกลอนทว่าแรงสั่นจากโทรศัพท์ในกระเป๋าก็เบนความสนใจไปเสียก่อน
- - เผือก - -
ตายยากชะมัด โทรมาทำไมวะ!? แม้จะนึกอย่างนั้นแต่ก็กดปุ่มรับสาย
“อยู่ไหนชาค่ะ?” เสียงจากปลายทางดังขึ้นทันที
“ย..อยู่...” กำลังจะพูดต่อเสียงเขาก็วูบไปเมื่อระลึกได้ว่าเสียงของอีกฝ่ายไม่ได้มาจากโทรศัพท์เพียงอย่างเดียว แต่มันดังก้องอยู่ในห้องน้ำนี้ด้วยน่ะสิ!
ใครใช้ให้มาเข้าห้องน้ำตอนนี้วะ!!!!!
“ว่าไงนะ ได้ยินไม่ชัด?” เสียงทุ้มเสียงเดิมดังมาจากที่ไม่ไกล... ไม่เกินสามเมตรนี่เองแหละมั้ง!
ห่างกันแค่ผนังบางๆ ที่กั้น... สยองชะมัดเลย!
มือเรียวหยิบโทรศัพท์เครื่องเก่ามาถูกับเสื้อนักศึกษาจนเกิดเสียงครืดคราด ก่อนจะกดตัดสายแล้วปิดเครื่องไปในทันที
ฟู่ววววววววววว... รอดตัวไป
กว่าจะออกมาจากห้องน้ำก็เป็นตอนที่แน่ใจแล้วว่าไม่มีคนอื่นอยู่อีก... หลังได้ยินเสียงนกหวีดในสนามเป่าขึ้นเป็นสัญญาณเริ่มการแข่งขัน คนตัวเล็กค่อยๆ คลายกลอนที่ลงไว้ โผล่เสี้ยวหน้ามาดูไม่พบใครก็รีบออกมาทันที ขาเรียวก้าวยาวๆ กลับไปที่สนามท่ามกลางความสงสัยของเพื่อนร่วมทีมที่ถามว่าหายไปไหนมา
“วันนี้เหนื่อย ขอพักหน่อย” คชาพูดกับเพื่อนร่วมทีมตัวสำรองในชุดสีน้ำเงินตรงขอบสนาม “เดี๋ยวดูเกมให้” ว่าพลางหันไปดูการแข่งขันในสนามที่เพิ่งเริ่มได้ไม่นาน
“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดด” ทว่าไม่ทันได้สนใจสถานการณ์บนพื้นสนามเขียวสด เสียงกรี๊ดจากสาวๆ แสตนด์ฝั่งเขาเองก็ส่งเสียงดังขึ้นเสียก่อน คชามองตามไปยังต้นเหตุของเสียงกรี๊ดกร๊าดเหล่านั้น ก็พลันเจอะกับนักบอลกองหน้าของคณะบัญชีที่กำลังโปรยยิ้มจางๆ ขึ้นไป
ไอ้ผีเผือกเอ๊ย! มาเตะบอลหวังจะให้สาวกรี๊ดอย่างเดียวสิท่า! นึกก่นด่าในใจพลางเบะปากออกอย่างหมั่นไส้ ตาคู่เรียวยังคงจับจ้องอีกคนที่กวาดตามองขึ้นไปบนแสตนด์คณะนิเทศ ก่อนที่จะไล่ลงมาสบตากับเขาพอดี
ตอนนั้นเอง... คชาถึงได้เห็นว่าอีกฝ่ายหยุดสายตานิ่ง และฉีกยิ้มกว้างกว่าเดิมเป็นเท่าตัว
ยิ้มหาพระแสงอะไรวะ! นึกตอบโต้เป็นคำพูดผ่านสายตาแบบนั้นกลับไป หากแต่อีกฝ่ายทำหน้าเป็นทองไม่รู้ร้อนซ้ำยังยักคิ้วหลิ่วตาให้ ก่อนที่มือขาวซีดนั้นจะจับที่เสื้อตัวใหญ่ราวกับจะชี้ชวนให้มองที่เสื้อสีแดงตัวนั้นตาม
2 3
เบอร์ยี่สิบสาม…
แล้วไงวะ? จะมาทวงค่าเช่าห้อง 2,300 บาทรึไง!?
เสียงโห่เฮดังลั่นสนามเมื่อฝั่งคณะบัญชีเป็นฝ่ายทำประตูที่หนึ่งเข้า “ขยันวิ่งหน่อยสิวะ!” คชาตะโกนเสียงดังไปยังเพื่อนร่วมทีมที่มีท่าทีเนือยๆ ไม่ขยันขันแข็งอย่างเคย เว้นก็แต่ไอ้เพื่อนหน้าสิวที่ดูมันยังทำตัวดี๊ด๊าเหมือนเดิม “เฟรม... อย่ามัวแต่หลีสาวดิ!”
คนถูกเรียกชื่อได้แต่หันมามอบรอยยิ้มแห้งๆ ให้ ก่อนจะหันไปสนใจลูกกลมๆ ในสนามต่อ สมาชิกทีมสีน้ำเงินดูจะวิ่งกันคึกคักมากขึ้นเมื่อเสียประตูแรกให้อีกฝ่าย ทว่าทีมคณะนิเทศเริ่มเกมบุกทีมคณะบัญชีไม่ทันไร เสียงนกหวีดก็ดังขึ้นเสียก่อน
...หมดเวลาครึ่งแรก…
เหล่านักฟุตบอลทีมสีน้ำเงินกรูกันเข้ามานั่งพักข้างสนาม คชายื่นผ้าชุบน้ำหมาดๆ กับขวดน้ำให้เพื่อนร่วมทีมแต่ละคน “สู้ๆ นะเว่ย ทำดีแล้ว” บอกเพื่อนร่วมทีมที่ดูท่าทางกำลังเหนื่อยล้าเต็มที
ห้านาทีแรกของช่วงพักครึ่ง ทีมนิเทศทุกคนเข้ามานัดแนะการเล่นของแต่ละคน ก่อนจะแยกย้ายกันไปหามุมพักของตนเอง เว้นก็แต่คชาที่ยังคงนั่งมองพื้นหญ้าสีสดกับลูกบอลกลมๆ จากข้างสนามเหมือนเดิม นึกอยากลงไปเล่นด้วยใจจะขาดแต่ทำไม่ได้ เพราะใครบางคนน่ะสิ!
ใครบางคนที่คอยส่งยิ้มกวนตีนให้ตลอดทั้งการแข่งขัน... แถมดูสาวๆ ก็กรี๊ดกร๊าดมันมากด้วยเถอะ
เฮอะ... หล่อตาย! แค่ตัวสูงกับขาวเท่านั้นเองล่ะวะ!!!
“ขอน้ำบ้างสิ” ได้ยินเสียงที่พูดกับตน มือบางก็คว้าน้ำเปล่าที่วางอยู่ใกล้ๆ มาโดยไม่ทันมอง ยื่นมันส่งให้ทว่าคนตรงหน้ากลับนิ่งไม่รับไปเสียที จนกระทั่งใบหน้าหวานต้องเงยขึ้นมองตาม
ขาขาวซีดกับกางเกงสีดำเบอร์ 23… ไล่สายตาขึ้นไปก็พบกับไอ้ผีหน้าขาวคนเดิมที่ประดับไปด้วยรอยยิ้มแบบกวนๆ
“ไม่ให้” คนตัวเล็กรีบชักมือกลับทันที “ไปฝั่งตัวเองสิ มาทำอะไรตรงนี้” พูดพลางทำหน้าย่นใส่ หากแต่คนถูกไล่ดันไม่ไป ซ้ำยังทรุดตัวนั่งลงข้างๆ เพื่อนทอมคนเดิมเสียอีก
“เพื่อนเธอยังไปฝั่งนู้นได้เลย” เต๋าอ้าง พอคชาหันหน้าไปมองตาม ก็เห็นเสื้อสีน้ำเงินลอยเด่นมาแต่ไกล ซ้ำยังเป็นไอ้เฟรมกับไอ้เต้ด้วยสิ!
แหม่... ถ้าไม่มีไอ้เต๋าอยู่นี่คงเดินตามไปเหล่สาว เอ้ย ไปตามกลับมาแล้ว!
ปากบางขมุบขมิบอย่างหมั่นไส้เพื่อนทั้งสอง “ขำอะไร?” หันมาทำหน้าเหวี่ยงใส่ไอ้คนตัวขาวเมื่อได้ยินเสียงหัวเราะของอีกฝ่ายเบาๆ “กลับไปนั่งฝั่งนู้นเลยไป”
“อยากกระชับมิตรไม่ได้หรอ?” เต๋าพูดพลางทำหน้าอ้อนๆ ใส่ หากแต่ในสายตาอีกฝ่ายกลับรู้สึกว่าอีกคนอยากจะกวนเขาเล่นแค่นั้น
“กระชิบมิตรหรือมาหลีสาว?” คชาถามเสียงแข็ง...หงุดหงิดไม่หายที่เห็นเพื่อนร่วมคณะมองไอ้เผือกนี่ตาเป็นมัน
“ทีเด็กนิเทศยังข้ามไปจีบเด็กบัญชีได้เลย ทำไมหนุ่มบัญชีจะข้ามมาจีบสาวนิเทศบ้างไม่ได้?”
“จีบ?” พูดทวนคำก่อนจะนิ่งไปชั่วครู่ “ที่อกหักจากแพรวายังไม่เข็ดรึไง?” ใบหน้าหวานขมวดคิ้วถามเมื่อเริ่มเรียกสติได้คืนมา
คชากำลังหงุดหงิด... ยิ่งมองรอยยิ้มกวนที่ถูกส่งมาให้ก็ยิ่งรู้สึกอย่างนั้น ฉับพลัน...ภาพที่เขากอดปลอบอีกคนในห้องตัวเองก็ลอยขึ้นมา นึกเสียดายที่อุตส่าห์ปลอบใจอีกคนในวันนั้น แต่ไม่กี่วันต่อมา มันก็ทำหน้าระรื่นบอกเขาว่าจะจีบผู้หญิงคนใหม่
ไม่รู้ทำไมถึงได้โมโหแปลกๆ ...ส่วนนอกจากนั้นคือความหมั่นไส้!
“ชาค่ะ... นี่ไม่รู้หรอว่าฉันมาจีบใคร?” เต๋าถามทีเล่นทีจริง
“ไม่รู้” ส่วนคนถูกถามตอบกลับเสียงแข็ง ยังอยู่ในโหมดหงุดหงิดไม่หาย
“งั้นถ้านัดนี้นิเทศชนะ จะบอกให้ก็แล้วกัน” เต๋าพูดพลางลุกขึ้นเดินกลับไปยังฝั่งเดิมที่เดินมา ทิ้งให้เพื่อนทอมนั่งหน้าย่นอยู่ตรงที่เดิม
ถามสักคำก่อนไหมว่าอยากรู้รึเปล่า เฮอะ!
เมื่อฟ้ามืดมิดลงเรื่อยๆ กองเชียร์บนแสตนด์เชียร์หลายคนก็เริ่มทยอยลุกออกไป บ้างก็กลับบ้าน บ้างไปหาอะไรทานเพราะเย็นมากแล้ว หากแต่คชายังนั่งลุ้นเกมการแข่งขันเบื้องหน้าอยู่ที่เดิม แม้เมื่อครู่แพรวากับแอ้นจะมาชวนให้ไปกินข้าวด้วยกันก็เถอะ
หิวก็หิว... แต่ ณ จุดนี้ ถึงศักดิ์ศรีจะกินไม่ได้แต่ต้องมาก่อน... ทีมเขาต้องชนะ ยังไงเกมนี้ก็ต้องชนะ เพื่อที่คชาจะได้ลงแข่งอีกครั้ง เพื่อที่ไอ้เผือกนั่นจะได้เจ็บใจเล่น
การแข่งขันในครึ่งหลังเริ่มต้นดุเดือดกว่าครึ่งแรกนัก... คชานั่งจ้องลูกกลมๆ ในสนามตาแทบไม่กะพริบ ฝั่งนิเทศเกือบได้ประตูตีเสมอหลายต่อหลายหน ทว่าก็บอลก็ถูกสกัดได้อยู่ร่ำไป ยิ่งเห็นใบหน้าขาวกับรอยยิ้มกวนๆ ที่ชอบชายตามองมาทางนี้อยู่เรื่อยราวกับจะเยาะเย้ยก็ยิ่งรู้สึกขัดใจ
ถ้าเป็นไปได้... คชาอยากลงไปเตะเสียตอนนี้ ไม่ใช่เตะบอลแต่ไปเตะไอ้กองหน้าเบอร์ 23 นี่แหละ!! กวนประสาทเหลือเกิน!!!!!
กำลังนั่งเชียร์ข้างสนามอยู่ดีๆ หยาดน้ำจากเบื้องบนก็เริ่มตกเปาะแปะลงมา คชาลุกขึ้นยืนหากแต่ไม่ได้ไปไหนไกล สายตาจ้องลูกบอลกลมๆ ที่อยู่อีกฝั่งของสนามอย่างชวนลุ้นแม้ตัวจะเปียกน้ำฝนบ้างก็ตาม แต่จะเป็นไรในเมื่อฝนไม่ได้ตกหนัก แค่นี้สบายอยู่แล้ว
ตาเรียวแทบถลนออกมาบอลถูกเลี้ยงไปตรงแถวหน้าโกลฝั่งนั้น คชาส่งเสียงร้องดีใจ และตอนนั้น ผ้าผืนใหญ่ก็โปะลงมาบนศีรษะของเขา หันไปมองอีกทีก็เห็นไอ้คนตัวขาวกำลังเอาผ้าขนหนูสีขาวมาขยี้หัวเขาเล่นอยู่
“ไปนั่งบนแสตนด์ไป” ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นไอ้เบอร์ 23 คนเดิม
“ไปเล่นในสนามไป” คชาย้อนกลับ ไม่อยากจะสนใจเสียงนกเสียงกาเสียงหมาเสียงแมวที่มาขัดจังหวะการดูบอลในตอนนี้
“เปลี่ยนตัวออกมาแล้ว ไม่เห็นหรอ” เต๋าตอบ มือยังสาละวนอยู่บนศีรษะอีกคนกับผ้าขนหนูผืนนั้น “เดี๋ยวก็เป็นหวัดหรอก”
ถึงอากาศจะเย็นชื้น เม็ดฝนจะโปรยปราย ทว่าบรรยากาศรอบตัวกลับอบอุ่นอย่างน่าประหลาด แม้สายตาเรียวเล็กของคชาจะยังโฟกัสไปที่ภาพภาพเดิม หากแต่สมองมันทำลายประเด็นเหล่านั้นไปหมดสิ้นแล้ว เขาไม่รับรู้ด้วยซ้ำว่าใครครองบอล หรือใครจะทำประตูได้ ทั้งหมดกลายเป็นเพียงละอองฝน เหลือเพียงสัมผัสขี้เล่นปนอบอุ่นบนศีรษะของเขาต่างหากที่รบกวนจังหวะการเต้นของหัวใจ
ไม่ใช่การขยี้หัวเล่นอย่างที่คชาคิดไว้ในตอนแรก... แต่มันคืออะไร? ตอนนี้เขาก็ชักจะไม่แน่ใจเหมือนกัน
ถ้าคราวที่แล้วไฟช็อต คราวนี้คงจะเป็นฟ้าผ่า...
ใช่... ฝนเริ่มตกแรงขึ้นแล้ว อีกไม่นานมันต้องฟ้าผ่าแน่ๆ เอาสิ...ผ่าเปรี้ยงลงมาแรงๆ ได้ยิ่งดี ความรู้สึกแปลกประหลาดนี้จะได้หายไป
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
‘เปรี้ยง!’
แล้วฟ้าก็ผ่าสมใจ…
เสียงดังกึกก้องกังวานไปในทั่วพื้นที่เปิดอย่างสนามฟุตบอลแห่งนี้ หยาดฝนจากที่ตกเป็นเม็ดเปาะแปะก็กลั่นตัวไหลลงมาเป็นสาย ทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จนกรรมการต้องตัดสินใจเป่านกหวีดเพื่อยุติการแข่งขันลง เหล่านักฟุตบอลตัวชุ่มฉ่ำจึงวิ่งกราวเข้ามาในที่ร่ม นักเตะเสื้อสีน้ำเงินที่กระหายชัยชนะหลายคนพากันทรุดตัวลงนั่งแข้งขาอ่อนแรง
เพราะนัดนี้ทีมนิเทศศาสตร์เป็นฝ่ายพ่ายแพ้ไป 0 ประตูต่อ 1 ทั้งๆ ที่เมื่อครู่ฝั่งนิเทศกำลังเป็นต่อ เกือบจะตีเสมอได้... แต่กลับต้องแพ้เพราะอากาศไม่เป็นใจแบบนี้
คนตัวเล็กปรายตามองเพื่อนร่วมทีมที่อยู่ไม่ไกล อยากเดินเข้าไปทักแต่ก็ถูกรั้งไว้ด้วยอ้อมแขนแกร่งที่บีบไหล่เขาไว้... นานเกินไปจนคชาเริ่มไม่รู้สึกถึงการมีอยู่ของมัน แต่ถ้าถามว่าตั้งแต่เมื่อไหร่นั้น ก็คงตั้งแต่ที่อีกฝ่ายกึ่งลากกึ่งผลักให้เขาเข้ามาอยู่ในร่มแบบนี้
สองเพื่อนซี้อย่างเฟรมและโปเต้เห็นหันมาเห็นเขาเข้าพอดี คชากำลังจะถือโอกาสเข้าไปทักหากแต่มือขาวซีดข้างเดิมก็รั้งไหล่เขาไว้ มันไม่ได้บีบแน่นเหมือนทีแรกหากแต่กอบกุมเหมือนจะเว้าวอนไว้ไม่ให้ไป
เพียงเท่านั้น ก้อนอกข้างซ้ายก็กระตุกรัว สองขาหยุดนิ่งโดยอัตโนมัติ คชาหันไปมองหน้าอีกคนในเชิงถามก็ได้คำตอบเป็นเสื้อยืดสีดำที่อีกฝ่ายไปคว้าเอามาตั้งแต่ไหนก็ไม่รู้
ไม่รู้... เพราะตัวเขาเองก็เพิ่งได้สติดีตอนได้ยินเสียงฟ้าผ่านั่นแหละ ก่อนหน้านั้นใจมันลอยไปลอยมาไร้จุดหมายได้พักหนึ่งแล้ว
แค่เพราะผ้าขนหนูผืนนั้น ที่บัดนี้เป็นเครื่องประดับคอของคชาไปโดยปริยาย
“เอาไปเปลี่ยน...เปียกหมดแล้ว” น้ำเสียงทุ้มต่ำที่เคยกวนโมโหแต่ในขณะนี้เหลือทิ้งไว้เพียงความอบอุ่นอย่างน่าประหลาด “อยากโป๊หรือไง?” เห็นสายตาที่มองต่ำลงมาตรงหน้าอกหน้าใจ คชาก็รีบยกแขนขึ้นกำบัง วันนี้เขาไม่ได้ใส่ฮู้ดมาเหมือนทุกวันเพราะอากาศนั้นร้อนแสนร้อน หากแต่เสื้อกล้ามตัวหนาที่อยู่ด้านในก็ทำให้ไม่เห็นอะไรในเวลาปกติดี
ทว่าในเวลาเปียกปอนแบบนี้เขาก็ชักไม่แน่ใจ... คนตัวเล็กรับเสื้อตัวนั้นมาอย่างเคอะเขิน กำลังจะหันเดินไปทางห้องน้ำก็ดันไปสบตากับสายตาของเพื่อนซี้ทั้งสองที่มองมา
แววตาสี่ดวงนั้นกำลังล้อเลียนเขาอยู่ชัดๆ!
ใช้เวลาไม่นาน... คชาก็เดินออกมาจากห้องน้ำหญิงในเสื้อบอลสีดำสกรีนคำว่า TAOTAO กับเลข 3 อยู่บนอก ที่บ่ายังคงมีผ้าขนหนูสีขาวผืนเดิมพาดเอาไว้ โดยไม่ต้องสอดส่ายมองหาให้ยาก เพียงมองลอดเข้าไปในห้องน้ำชาย ก็พบอีกคนในเงาที่สะท้อนกับกระจกออกมาเด่นชัด
“รอก่อนนะชา ไว้หาอะไรกินแล้วค่อยกลับบ้าน” เต๋าพูดออกมาเชิงสั่งกับคนที่อยู่ด้านหน้าห้องน้ำอย่างไม่สนใคร
ไม่สน... ว่าไอ้คนที่อยู่ข้างในจะเป็นใครบ้าง ทั้งเพื่อนเขา เพื่อนตัวเองหรือใครต่อใคร
ไม่สน... ว่าไอ้คนที่อยู่ข้องนอกจะเคอะเขินแค่ไหนที่ตัวเองประกาศลั่นออกมาแบบนี้
คชาไม่ได้ตอบ หากแต่ยืนรออย่างงุ่นง่านอยู่หน้าห้องน้ำแบบนั้นต่อไป กำลังทำใจว่าพรุ่งนี้เช้าคงต้องมีข่าวว่าหนุ่ม ต. กองหน้าคณะบัญชีมาตามจีบเขาอยู่ตามประสาเด็กคณะสื่อสารมวลชนแน่ๆ
ทุกคนคงจะหลงเข้าใจผิดไปยกใหญ่ ทั้งๆ ที่เต๋ากำลังจะจีบคนอื่นอยู่แท้ๆ
อาจเป็นครั้งแรกที่เต๋านึกขอบคุณคุณแม่ของเขาที่บังคับให้เขาพกร่มออกมาแบบนี้ ร่มสีชมพูหวานของที่บ้านที่เขาไม่กล้าใช้เองคนเดียวแน่ๆ หากแต่พอมีคนมาอยู่ใต้ร่มคันนี้ด้วยกันแล้วมันกลับรู้สึกอบอุ่นใจอย่างประหลาด
เท้าอีกคู่ของคนข้างๆ ก้าวไวกว่าปกติจนเต๋ารับรู้ได้ เขาไม่ได้พูดอะไร แต่ก็รู้ว่าอีกคนคงจะเขินอายที่ออกมาด้วยกันสองคนแบบนี้ แถมยังที่เขาประกาศกร้าวในห้องน้ำชายต่อหน้าคนอื่นๆ นั่นอีก
“กินอะไรดี?” เสียงทุ้มถามลอยๆ เมื่อมาเดินถึงย่านร้านอาหารมากมายใกล้มหาวิทยาลัย เขาลดร่มสีแหววลงเมื่อเดินเข้ามาในที่ร่ม “อะไรก็ได้” ได้ยินเสียงอีกคนตอบเขาอย่างนั้น
“เสต็กไหม?” เต๋าหันไปถามอีกครั้ง ทว่ากลับเห็นอีกคนมองร้านอาหารญี่ปุ่นอย่างสนอกสนใจ คชาหันมาหากำลังจะเข้าไปในร้านอาหารเสต็กตามที่อีกคนพูดถึง หากแต่ก็ถูกดันเข้ามาในร้านอาหารญี่ปุ่นเสียก่อน
“ไว้กินเสต็กคราวหน้าก็ได้” เต๋าพูดขึ้นหลังจากนั่งลงภายในเก้าอี้ในร้าน คชาหัวใจวูบหวิวประหลาดที่ได้ยินอย่างนั้น... เขาเริ่มสงสัยในความแปลกประหลาดของความสัมพันธ์ที่ดูจะสนิทสนมจนเกินไปเข้าทุกที มันมีความแตกต่างในความรู้สึกไม่เหมือนกับเฟรมหรือโปเต้ แต่ก็ต้องยอมรับกับตัวเองว่าลึกๆ แล้วเขาดีใจ
สิ้นเสียงสั่งอาหาร พนักงานก็เดินจากไป คชามองออกไปผ่านกระจกใสไปยังภายนอก ก็ดันเจอะเข้ากับสาวๆ ร่วมเขาคณะจนได้ คชายิ้มทักทายสาวๆ กลุ่มนั้น นึกพลาดที่ไม่นั่งด้านในร้านแต่แรก เขาสะกิดอีกคนให้หันไปหาพวกเธอตามที่ถูกบอก เพียงเต๋าโปรยยิ้มการค้า พวกเธอก็ดูยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ก่อนจะเดินจากไป
“แฟนคลับเยอะจริงๆ นะนาย” คชาเป็นฝ่ายพูดขึ้นเปรยๆ
“คนมันฮ็อตก็แบบนี้” เต๋าทำท่ายิ้มภูมิใจ เห็นอีกฝ่ายทำหน้าเหม็นเขียวใส่จึงพูดต่อ “อยากสมัครด้วยไหมล่ะ?” ทำทีหยิบกระดาษออกมาจากกระเป๋าเป้ใบใหญ่ เขียนอะไรบางอย่างก่อนจะยื่นมันให้อีกฝ่ายดูพร้อมปากกา
เพียงไม่กี่วินาทีต่อมาที่คชาก้มหน้าอ่าน “เขียนผิดนี่” พูดเสียงแผ่วหลังจากตึกตรองไม่นาน ก่อนจะช้อนมองใบหน้าอีกฝ่ายที่ประดับไว้ด้วยรอยยิ้มขี้เล่นแสนกวนเหมือนทุกที
ใจนึกเกลียดที่ความรู้สึกประหลาดที่เขาไม่อยากยอมรับมันกำลังก้าวเข้ามาอีกครั้ง หัวใจของเขากำลังตีรวนและสับสน ยิ่งนึกถึงคำพูดที่อีกฝ่ายพูดเมื่อชั่วโมงก่อนหน้านี้ก็ยิ่งไม่เข้าใจ
ที่บอกจะจีบสาวนิเทศก่อนหน้า... มันคงไม่ใช่...
“ไม่ผิดหรอกชาค่ะ... ที่เขียนอะถูกแล้ว”
ก้มหน้าลงอ่านมันอีกรอบแล้วก็รู้สึกว่าใบหน้าตัวเองมันร้อนจนแทบต้มน้ำได้ ทั้งๆ ที่มันก็แค่ข้อความสั้นๆ ประโยคเดียว...
- ใบ สมัคร แฟน ครับ -
ควรจะเขียนอะไรลงไปดีล่ะชา???
TBC
สุขสันต์วันสงกรานต์ค่ะทุกคน อิอิ
มาทำค้างกว่าเดิมล่ะเซ่!!!!!!!
ความจริงจะเขียนเป็นตอน 13 แต่คิดว่าน่าจะเหมาะกับการเอามาต่อตอน 12 มากกว่า
ตอนนี้เลยยาวมากเลย
ป.ล. มีคนวาดแฟนอาร์ตมาให้แหละ >w< ขอบคุณอีกครั้งงามๆ ค่าคุณ @Vivee_hippo
ป.ล.2 หลังไมค์มาหาเราได้ที่ @rainbobow จ้า อิอิ -- เผื่อใครอยากวาดรูปมาให้อีก 555
ความคิดเห็น