คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #14 : Chapter 12 - Believe
Chapter 12 - Believe
==================
"จะเล่าให้ฟังได้รึยัง ว่าวันนี้เกิดอะไรขึ้น" พริกคาดคั้นถามตังเม แต่คนที่ถูกถามยังคงนิ่งอึ้งอยู่
"ถ้าพี่เมไม่ตอบเค้าจะไปถามพี่ซองมินเดี๋ยวนี้แหละ"
มะนาวพูดจบแล้วทำท่าจะลุกไปหาซองมินที่โดนอีทึกลากเข้าไปในบ้าน ตังเมฉุดมือน้องสาวไว้
"เล่าก้อได้" ตังเมตอบ พริกกับมะนาวทำหน้าตาสนใจ ขยับเข้ามานั่งใกล้ตังเมมากขึ้น
.
.
.
"เดี๋ยวพี่ไปห้องน้ำก่อนนะ" ตังเมบบอกกับซองมินขณะที่ทั้งคู่นั่งอยู่ที่ร้านกาแฟ
"ขอโทษค่ะ พี่ใช่ พี่ซองมิน เอสเจหรือเปล่าคะ"
เด็กสาววัยมัธยม 2 คนเข้ามาทักซองมินที่นั่งอยู่คนเดียว เป็นภาษาอังกฤษ
"ไม่ใช่ครับ" ซองมินตอบแบบสุภาพ แล้วก้อหันออกมองไปที่ทะเล
"ชั้นว่าใช่อ่ะ"
"ชั้นก้อว่าใช่ แต่เค้าจะมาไทยทำไมอ่ะ"
"งั้นถ้าไม่ใช่ แต่ก้อน่ารัก จีบเลยมะ"
"อืม แต่เมื่อกี้ชั้นเห็นเค้ามากับผู้หญิงอ่ะ"
"พี่คะ ยังงัยหนูก้อว่าพี่คือพี่ซองมิน" เด็กสาวคนนึงยังตื้อถามอยู่ จังหวะเดียวกันกับที่ตังเมกลับมาพอดี
"ไม่ใช่จริงๆครับ... อ่า น้องๆไม่เชื่อถามแฟนพี่ซิครับ" ซองมินลุกขึ้นไปจูงมือตังเมมายืนข้างๆ
"ทำไมหรอคะ น้องๆ มีอะไรป่าวคะ" ตังเมถาม
"แฟนพี่ใช่ ซองมิน ซูเปอร์จูเนียร์หรือป่าวคะ" เด็กสาวถาม หน้าตาหมั่นไส้หญิงสาวที่อยู่ตรงหน้า
ตังเมจ้องตาเด็กสาวไม่วางตาเหมือนกัน
"อีกแล้วหรอ คนชอบทักอย่างนี้เรื่อยเลยอ่ะ" ตังเมตอบ พร้อมกับยิ้มมุมปาก
ซองมินกอดเอวตังเมแน่นเพราะไม่รู้ว่าหญิงสาวพูดอะไรออกไป ทางที่ดีที่สุดคือต้องนิ่งไว้ก่อน
"ถ้าไม่ใช่แระแฟนพี่ชื่ออะไรอ่ะคะ" เด็กสาวยังไม่ยอมละความพยายาม
เพราะว่าพวกเค้ามั่นใจว่าใช่ไอดอลคนดังแน่ๆ
"น้องจะอยากรู้ไปทำไมคะ ลองคิดดูดีๆ นะ ถ้าเค้าเป็นนักร้องที่น้องๆว่าเนี่ย เค้าจะมาทำอะไรอยู่ที่นี่"
ตังเมเริ่มส่งสายตาดุบ้าง และสายตาเวลาดุของตังเมน่ากลัวใช่หยอกที่ไหนกันล่ะ
"ไปกันเถอะ" ตังเมพูดจบแล้วลากซองมินเดินออกไปนอกร้าน
"เด็กสมัยนี้เนี่ย ไม่ไหวเลย" ตังเมบ่นเบาๆ นี่เธอจะหงุดหงิดทำไมเนี่ย เธอเองก้อไม่แน่ใจเหมือนกัน
ซองมินมองหน้าตังเมที่กำลังหงุดหงิดเลยลากตังเมไปที่ชายหาด แทนที่จะไปที่รถ
"หงุดหงิดอะไรหรอครับ" ซองมินถามตังเม ที่กำลังงงว่าซองมินลากเธอมาทำไม
"ไม่กลับบ้านหรอ ซองมิน" ตังเมถาม "ป่านนี้ทุกคนรออยู่แล้วนะ" ตังเมทำท่าจะเดินกลับไป
แต่ซองมินเอาตัวเข้ามาขวางเอาไว้
"คุณเมหงุดหงิดอยู่ ผมยังไม่อยากให้คุณเมขับรถ ไปเดินเล่นกันดีกว่า" ซองมินเดินจูงมือตังเมไป
ถึงแม้จะเป็นช่วงบ่าย แต่อากาศตอนนี้ก้อไม่ร้อนจนเกินไป
ร่มเงาของต้นสนที่อยู่ริมทางเดินทำให้ทั้งสองคนเดินเล่นได้อย่างสบาย
"คุณเม เมื่อกี้นี้ขอบคุณนะครับ ผมปฏิเสธคนไม่ค่อยเก่งน่ะ
จริงๆ แล้วเวลาที่ผมอยู่ที่นู่นผมแทบไม่เป็นตัวของตัวเองเลย
ทุกอย่างไม่ว่าผมจะพอใจหรือไม่ ผมต้องยิ้มรับ ไม่ว่าจะอารมณ์ดี หรือหงุดหงิด
ผมก้อต้องยิ้มรับ เวลาผมออกไปไหนข้างนอก ผมก้อต้องซ่อนตัวอยู่ภายใต้หมวก
แต่งตัวเซอร์ๆบ้าง เพราะจะได้ไม่มีใครสนใจมามอง
มันอึดอัดมากเลย แต่ผมก้อไม่ค่อยได้มีโอกาสไปไหนมาไหนกับใครเค้าหรอก
เพราะตารางงานอันยุ่งเหยิงไปหมด ของที่ผมใช้ส่วนใหญ่ก้อของสปอนเซอร์ กับของที่แฟนคลับให้
เพราะว่าผมไม่มีเวลาไปซื้อ ถึงไปซื้อก้อเลือกอะไรไม่ค่อยจะเป็นกะเค้าหรอก
คุณเมกำลังสงสัยใช่มั๊ยว่าผมพูดอะไรเยอะแยะ"
ซองมินหยุดเดินแล้วหันมาเผชิญหน้าตังเมจับมือของตังเมมากุมไว้
ตังเมหลบสายตาของซองมิน ที่จ้องมาทำให้ใจตัวเองหวั่นไหว
"คุณเม ผมชอบคุณเมได้มั๊ย" ซองมินถามออกมาดื้อๆ
ตังเมมองหน้าชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าอย่างนิ่งอึ้ง
ซองมินหัวเราะกลบเกลื่อนแล้วหันหน้านี้
ปล่อยมือตังเมแล้วเดินต่อไปแต่เค้าเดินไปได้ไม่กี่ก้าวก้อรู้สึกว่า หญิงสาวไม่ได้เดินตามมา
"คุณเมยืนทำอะไรอยู่ล่ะครับ"
"ชั้นก้าวขาไม่ออกน่ะ" ตังเมตอบมาอย่างเขินอาย ซองมินหัวเราะในความน่ารักของหญิงสาว
เดินมาข้างๆแล้วก้อจับมือของตังเมไว้
"งั้นผมขอแปลว่านี่คือคำตอบนะครับ ผมชอบคุณเมได้นะครับ"
ซองมินแอบเหล่มองหน้าตังเมที่หน้ากำลังแดงเป็นลูกตำลึง
"อืม แต่เดี๋ยวก่อน ชั้นหมายความว่าชั้นแค่รับนายไว้พิจารณานะ"
ตังเมตอบ ใช่สิเธอกับเค้าเพิ่งรู้จักกันจะไปกันได้แค่ไหนก้อไม่รู้
"เวลา จะเป็นเครื่องพิสูจน์ของความรู้สึกที่ผมมีให้คุณเม เชื่อใจผมเถอะนะ"
และทั้งสองจูงมือกันมาที่รถ
.
.
.
"แค่เนี้ย นายถือโอกาสจูบเค้าเลยหรอ ซองมิน พี่ว่ามันไม่สมควรเลยนะ"
อีทึกต่อว่าน้องชายทันทีที่เล่าจบ อึนฮยอกพยักหน้าเห็นด้วย
"เค้าแค่ให้โอกาสนายชอบเค้าได้ แต่นายทำอย่างนี้มันเกินไปป่าว อย่างชั้นกะฮันนี่น่ะ
เราตกลงเป็นแฟนกันนะ แต่นายกะพี่ตังเม มันไม่ใช่"
ฮึนฮยอกรีบพูดเสริมทัพ ทำให้ซองมินเริ่มกังวลแล้วว่าตังเมจะโกรธตัวเองมั๊ยที่ถือวิสาสะไปจูบเธอแบบนั้น
"ชั้นจะไปฆ่านายซองมิน มีอย่างที่ไหน เธอก้อไม่ได้ตกลงว่าจะเป็นแฟนด้วยซะหน่อย"
พริกโวยวายและทำท่าจะลุกไปเชือดนายซองมินจริงๆ มะนาวรั้งเอาไว้ทัน
"อย่าเพิ่งพี่พริก เรื่องนี้มันเป็นเรื่องของพี่เม
ว่าเค้ารู้สึกยังงัย ถ้าพี่เมมีความสุขเราจะไปขัดทำไม พี่ก้อรู้ว่าพี่เมเค้าเจ็บมาเท่าไหร่แล้ว"
มะนาวพูดอย่างมีเหตุผล
"อย่าพูดมากไปเลยมะนาว พี่มีเรื่องอยากจะคุยกับเธอเรื่องฮยอกแจเหมือนกัน" พริกหันมาหาเรื่องมะนาวแทน
"คุยเรื่องอะไรกันพี่ เค้ากะพี่ฮยอกแจก้อรักกันดีนี่"
มะนาวพูดออกมาหน้าตาเฉย สร้างความหมั่นไส้ให้กับคนฟัง
"มะนาวพี่อยากถามเราคำนึง คนที่เรารักน่ะ คืออึนฮยอก ซูเปอร์จูเนียร์ หรือ อีฮยอกแจ"
พริกถามตรงๆ มะนาวได้แต่นิ่งอึ้ง
"ลองถามใจตัวเองดูสิ ว่ายังงัย ตัวเราเองพร้อมแล้วหรอกับการที่ต้องอยู่แบบรักที่ห่างไกลแบบนั้น
เค้ากำลังจะกลับไปแล้ว เรามั่นใจในตัวเค้าแค่ไหน ว่าเค้าจะไม่ทิ้งให้เราเสียใจ
มะนาวคิดดูนะ คนธรรมดาที่เค้ารักกันน่ะ พอระยะทางห่าง ใจมันก้อห่างไปด้วยเมื่อเจอคนใหม่ๆ
สังคมใหม่ๆ แต่นี่น่ะ เค้าเป็นไอดอล สิ่งที่เค้าได้พบเจออยู่ทุกวันน่ะ มันมีแต่สิ่งสวยๆงามๆ
ถ้าเกิดเค้าเผลอใจไปล่ะ เราจะทำยังงัย และเรารู้จักเค้าดีพอหรือยัง มั่นใจหรอว่าเค้าไม่ได้มีใครอยู่แล้ว"
คำพูดทุกคำของพริกมันทิ่มแทงใจของมะนาวเหลือเกินจนไม่อาจกลั้นน้ำตาไว้ได้อีก
"พี่พริกใจร้าย" มะนาวต่อว่าแล้วปล่อยโฮออกมา
"พี่ไม่ได้ใจร้าย ตั้งสติและฟังพี่ก่อน ยอมรับความจริงสิมะนาว
ยอมรับว่ามันมีสิทธิ์เกิดขึ้นได้ ไม่วันใดก้อวันนึง"
พริกยังพูดต่อ แต่มะนาวเอามือปิดหูแล้วก้อร้องไห้แรงขึ้นก้อเดิม
"มะนาว ฟังพี่ก่อน" พริกดึงมือของมะนาวออกข้างนึง มะนาวสะบัดมือของพริกออกไป
"ไม่ฟัง เค้าไม่ฟังอะไรใครทั้งนั้น เค้ารักพี่ฮยอกแจ
พี่ฮยอกแจเองก้อรักเค้า เค้าเชื่อมั่นในตัวพี่ฮยอกแจ เค้ามีความสุขดีอยู่แล้ว"
มะนาวพูดจบแล้วก้อลุกขึ้นยืน วิ่งสวนกับ 3 หนุ่มที่ กำลังเดินมาหา
ฮยอกแจเห็นแล้วจึงวิ่งตามไปติดๆ พริกลุกขึ้นยืนตะโกนโหวกเหวก
"กลับมาเดี๋ยวนี้นะ ยัยเด็กบ้า ชั้นหวังดีกับแกนะ"
พริกพูดแล้วทำท่าจะเดินตามไป อีทึกเดินมาขวางไว้
"เรารู้ว่าเธอหวังดีนะพริก แต่เธอพูดแรงเกินไป"
ตังเมพูดขึ้นมาเสียงเรียบๆ เพราะสิ่งที่พริกพูดนั้นมันก้อทำร้ายจิตใจเธอไม่น้อยเช่นกัน
"ตกลงชั้นผิดอีกแล้วใช่มั๊ย" พริกหันไปมองหน้าตังเมน้ำตาคลออยู่ที่หางตา
แล้วจึงตัดสินใจเดินไปทางชายหาดหน้าบ้านแทน อีทึกเดินตามออกไป
--------------
"ฮันนี่ๆ ฮันนี่เป็นอะไรไป ร้องไห้ทำไม" อึนฮยอกวิ่งตามมะนาวไปติดๆ
พอมีจังหวะก้อดึงมือมะนาวเบาๆ แต่ตัวมะนาวกลับโผเข้ากอดอึนฮยอกแน่น
พร้อมกับร้องไห้โฮ ประหนึ่งว่ากลัวคนที่ตัวเองกอดอยู่จะหลุดมือไปไหน
"ฮันนี่ พี่ไม่ได้ไปไหนนะ พี่อยู่ตรงนี้" อึนฮยอกปลอบโดยการเอามือลูบหัวคนรักอย่างอ่อนโยน
พร้อมกับจุมพิตที่หน้าผากอย่างแผ่วเบา มะนาวพยายามสะกัดกลั้นอารมณ์เพราะความอ่อนโยนของคนรัก
"ไหนเล่าให้พี่ฟังสิ ร้องไห้ทำไมเอ่ย" อึนฮยอกพูดปลอบเหมือนปลอบเด็กๆ
มะนาวตั้งสติแล้วจึงเล่าให้ชายหนุ่มฟัง"โธ่ เรื่องแค่นี้เอง พี่เคยบอกฮันนี่แล้วงัย
ว่ามีอะไรสงสัยก้อให้ถามพี่ แสดงว่านี่กังวลใจอยู่ตลอดเลยใช่มั๊ยเนี่ย"
อึนฮยอกพูดแล้วเอามือบีบจมูกคนรักเบาๆ ที่ตอนนี้จมูกแดงเพราะว่าร้องไห้
"ก้อ มันอดคิดไม่ได้นี่" มะนาวทำเสียงงอนๆใส่
"โอเคๆ พี่เข้าใจว่าฮันนี่ของพี่รู้สึกยังงัย ก้อจริงอ่ะเนอะว่าเราเพิ่งรู้จักกัน
แต่พี่น่ะ รักฮันนี่จริงๆ นะ เมื่อกี้นี่ที่ไปคุย พี่อีทึกก้อถามว่าพี่รู้สึกยังงัย
ความรู้สึกที่พี่มีให้ฮันนี่มันคือความรักจริงหรือ พี่ตอบได้เต็มปากเต็มคำเลยว่า
ใช่ มันคือความรัก พี่อีทึกก้อเลยบอกพี่ว่า ดีแล้ว นายต้องรักษาความรักครั้งนี้เอาไว้ให้ดีนะ"
อึนฮยอกเล่าไปยิ้มไป ทำเอาคนข้างๆ ยิ้มออกมาได้บ้าง
"ดังนั้นเราสองคนต้องพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นในความรักของเราจริงมั๊ย"
อึนฮยอกบอก มะนาวพยักหน้าพร้อมกับยิ้มหวาน
"พี่ขอโทษฮันนี่นะ ที่ทำให้กังวลใจ วันนี้ร้องไห้ซะเยอะเลย
เอาเป็นว่าพี่สัญญาว่าหนนี้จะเป็นครั้งเดียวและครั้งสุดท้าย ที่ฮันนี่จะต้องมาร้องไห้
เพราะว่าหวั่นไหวไปกับคำพูดของคนอื่น แต่ต่อไปนี้จะไม่มีอีกแล้วพี่ขอสัญญา"
อึนฮยอกพูดจบแล้วก้อหอมแก้มมะนาวเบาๆ ก่อนที่จะทำหน้าเจ้าเล่ห์ และหันมาถามคนรัก
"ฮันนี่พี่อยากทำแบบซองมินบ้างได้มะ" มะนาวได้ยินอย่างนั้นก้อหน้าแดงทุบแขนอึนฮยอกเบาๆ
ส่วนอึนฮยอกก้อหัวเราะฟันขาวกอดคนรักไว้แน่น
---------------
"พริก จะไปไหนน่ะ" อีทึกคว้าข้อมือของหญิงสาวไว้
พริกที่พยายามกระชากหนีออกสุดแรงทำให้เสียหลักล้มลง ทำให้อีทึกเองก้อเสียหลักล้มลงไปด้วย
ชายหาดที่ลาดเอียง ทำให้ทั้ง 2 คนกลิ้งไปบนผืนทราย
และจบลงตรงที่หญิงสาวอยู่ด้านบนของชายหนุ่ม ริมฝีปากของทั้งคู่แตะกันเบาๆ
ฝ่ายหญิงตั้งสติได้ก่อน ยันตัวเองลุกขึ้นนั่งหันหลังอยู่ข้างๆ ชายหนุ่ม
มือแตะเบาๆ ที่ริมฝีปากของตัวเอง ถึงแม้ที่ชายหาดจะไม่มีไฟ
แต่แสงจันทร์ที่สาดส่องลงมา ทำให้อีทึกเห็นการกระทำของพริกทั้งหมด เค้าดันตัวเองเพื่อลุกขึ้นนั่ง
"เขินหรอ ยัยตัวเล็ก" อีทึกกระซิบข้างหูพริกเบาๆ ทำให้ตัวเธอสะดุ้ง หัวใจสั่นไหวไปกับเสียงของชายหนุ่ม
"บ้า ใครเขิน เขินอะไร" พริกหันมามองหน้าคนข้างๆ แต่ไม่กล้าสบตา
เพราะว่าตอนนี้คนตาหวานยื่นหน้าเข้ามาใกล้ตัวเองเกินไปเสียจนหัวใจของพริกเต้นไม่เป็
นจังหวะ
"ไม่เขินจริงหรอ งั้นจับจูบอีกรอบเลยดีมั๊ย" อีทึกพูดทีเล่นทีจริง ชายหนุ่มเองก้อเขินไม่ใช่น้อย
แต่จะทำให้ตัวหญิงสาวรู้ตัวไม่ได้ ว่าตัวเองก้อเขินอยู่เหมือนกัน
"เฮ้ย แล้วอะไร นายเรียกใครว่ายัยตัวเล็กกันห๊า"
พริกผลักชายหนุ่มที่เข้ามาใกล้ตัวเองมากเกินไปอย่างแรงจนชายหนุ่มเสียหลักลงไปคลุกทร
ายอีกครั้ง
"ก้อเธองัย ยัยตัวเล็ก ต่อไปนี้ชั้นจะเรียกเธอยัยตัวเล็กตลอดแระ" อีทึกพูดด้วยน้ำเสียงกวนประสาท
"เออ แล้วนี่มีเรื่องอะไรกัน ถึงต้องวิ่งออกมาแบบนี้น่ะ" อีทึก ลุกขึ้น พร้อมปัดทรายออกจากตัว
"ก้อ เพราะน้องของนายนั่นแหละ คนนึงก้อทำให้น้องชั้นหลงหัวปักหัวปำ ไม่ยอมฟังพี่
ส่วนอีกคนก้อทำท่าจะมาเอาเพื่อนชั้นไปอีก" พริกพูดด้วยเสียงงอนๆ
"อ๋อ ที่แท้ เธอเป็นสาวขี้เหงานั่นเอง หวงน้อง หวงเพื่อน
เพราะว่าตัวเองไม่เคยมีแฟนใช่มั๊ยล่ะ ถึงได้ไม่เข้าใจความรักน่ะ" อีทึกแซว พริกหันมามองค้อนชายหนุ่ม
"ใครว่าชั้นไม่เคยมีแฟน มีแล้วมันดียังงัยกัน มีแต่เรื่องให้ปวดใจ"
พริกพูดแล้วก้อมองออกไปทางทะเล ที่มืดสนิท
.
.
.
2ปีก่อน
"พริก เราเลิกกันเถอะ" ชายหนุ่มรูปร่างผอมสูง บอกกับหญิงสาวที่กำลังนั่งสเกตรูปวิวอยู่
พริกวางดินสอในมือลง หันไปมองคนที่นั่งอยู่ข้างหลังช้าๆ
"อยู่ดีๆ อย่ามาล้อเล่นกันหน่า" พริกพูดกับเค้า ปลายเสียงของเธอสั่นเครือ
"ไม่ได้ล้อเล่น เราจบกันแค่นี้เถอะนะ" ชายหนุ่มยืนยันคำเดิม แล้วลุกจากไป
ไม่มีเหตุผล ไม่มีคำอธิบายใดๆ พริกได้แต่นั่งนิ่งอยู่ตรงนั้น เป็นเวลานานเท่าไหร่ไม่รู้
"กลับบ้านเถอะ" ตังเมเดินมาหาพริก ไม่มีคำพูดใดหลุดออกจากปากของพริก
มีแต่น้ำตาที่ไหลอาบ 2 แก้ม ตังเมกอดเพื่อนอย่างอ่อนโยน เพราะรู้ว่านี่เป็นสิ่งเดียวที่ตัวเองทำได้
1เดือนต่อจากนั้น
"ค่ะ อะไรนะคะ ค่ะคุณแม่" พริกวางสายไปแบบงงๆ ปลายสายเมื่อกี้ไม่ใช่แม่ของเธอ
แต่เป็นแม่ของชายหนุ่มที่บอกเลิกเธอไป แจ้งข่าวการจากไปอย่างไม่มีวันกลับของลูกชาย
พร้อมทั้งให้ไปรับจดหมายที่ชายหนุ่มเขียนไว้ให้เธอ
ซึ่งเนื้อความในจดหมายบอกถึงเหตุผลของการที่เค้าขอเลิกกับเธอ
"คนบ้า นี่ไม่เชื่อใจกันใช่มั๊ย ไม่เชื่อว่าชั้นรักมากแค่ไหนใช่มั๊ย"
พริกตัดพ้อต่อว่ากับรูปถ่ายของชายหนุ่มที่จากไป หลังจากที่อ่านจดหมายนั้น
หลังจากนั้นเธอไม่พร้อมที่จะมีความรักให้ใครได้อีก
.
.
.
"แล้วตอนนี้ เธอพร้อมที่จะเริ่มความรักครั้งใหม่แล้วรึยังหล่ะ"
อีทึกถามพริกหลังจากที่เธอเล่าอดีตของเธอจบ
"ไม่รู้สิ มันก้อต้องแล้วแต่ว่าคนๆ นั้นเป็นใคร" พริกตอบ
สายตาของเธอยังคงมองทอดออกไปที่ทะเลเหมือนเดิม
"แล้วถ้าคนๆ นั้นเป็นชั้นล่ะ" อีทึกถามทีเล่นทีจริง
"อะไรนะ" พริกได้ยินชัดเจน แต่เธอเองต้องการถามให้แน่ใจ
"ป่าว ไม่มีอะไร เออ ใช่เรื่องของน้องชั้นทั้ง 2 คนน่ะ ไม่ต้องห่วงหรอก
ชั้นรู้จักนิสัยน้องของช้านดี เจ้าฮยอกแจน่ะ มันไม่หลอกน้องเธอแน่นอน เชื่อใจได้"
อีทึกพูด พริกฟังแล้วแอบงอนที่อีทึกเปลี่ยนเรื่องพูดซะก่อน
"ส่วนซองมิน ชั้นดุมันไปแล้ว ว่ามันทำเกินไป แต่คงเพราะว่ามันชอบเพื่อนเธอจริงๆ
นั่นแหละ สบายใจได้ น้องชั้นยังโสดทั้งคู่ รวมทังชั้นด้วย"
อีทึกพูดแล้วยิ้มๆ พริกมองหน้าชายหนุ่มข้างๆ คล้ายกับมีคำถามว่า เค้าเอางัยกันแน่
-----------
"คุณเม... คือ..." ซองมินพูดกับตังเมที่ยังนั่งอยู่ริมสระว่ายน้ำไม่ได้ไปไหน แต่ก้อกระอึกกระอัก
"มีอะไรหรอ ซองมิน" ตังเมถามเมื่อเห็นซองมินไม่ยอมพูดต่อซะที
"คือ... คือ...คุณเมโกรธผมหรือเปล่าครับ"
"โกรธ... โกรธเรื่องอะไรหรอ" ตังเมหันไปมองหน้าซองมินแบบยิ้มๆ
ซองมินเห็นหญิงสาวยิ้มก้อรีบปรี่เข้ามานั่งข้างๆ "ถึงจะไม่โกรธ แต่ไม่ใช่จะทำได้บ่อยๆ นะ
เราเพิ่งรู้จักกันเองนะซองมิน ทำอย่างนี้มันดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่"
ตังเมต่อว่าต่อ ซองมินคว้ามือตังเมมากุมไว้ พร้อมกับส่งสายตาออดอ้อน
"ครับๆ ผมสัญญา แต่คุณเมก้อรู้ว่าผมรู้สึกกับคุณเมยังงัย คุณเมน่ารักนี่หน่า ผมเลยห้ามใจตัวเองไม่อยู่"
"พูดอะไรบ้าๆ" ตังเมหัวเราะเขินๆ
"คุณเมรู้มั๊ย ว่าวันนี้ผมมีความสุขที่สุดเลย ถ้าวันใดผมท้อใจเมื่อไหร่ ผมจะนึกถึงค่ำคืนนี้
นี่คุณเมเคยได้ยินเพลงของพวกผมมั๊ย ชื่อเพลง Believe น่ะ พี่ฮีชอลเป็นคนแต่งเนื้อแระ
เพลงนี้ความหมายดีมากๆ เลย มันตรงกับความรู้สึกตอนนี้มากๆเลยล่ะ"
ซองมินพูดจบก้อเริ่มร้องเพลงนี้ขึ้นมา
จังหวะเดียวกันกับที่หนุ่มสาวอีก 4 คนเดินกลับเข้ามาพอดี
เสียงใสๆ ของซองมิน เข้ากับบรรยากาศ
อึนฮยอกกอดมะนาวไว้หลวมๆ
ส่วนอีทึกกับพริกก้อจับมือกันไว้โดยที่ไม่รู้ตัว
.
.
.
우리가 만나게 된 날을 축복하는 이 밤은
ค่ำคืนนี้ เหมือนกับค่ำคืนนั้นที่เราพบกัน
하늘엔 달이 펴있고 별들은 미소짓죠
พระจันทร์อยู่บนฟากฟ้า และดวงดาวก้อส่งยิ้มให้เต็มฟ้า
그대의 미소가 지워지지 않길 바래요
ชั้นหวังว่ารอยยิ้มของเธอจะไม่ถูกลบเลือนไป ดังที่ชั้นขอพรไว้
언제나 행복한 날들이 계속되길 빌며
ให้วันแห่งความสุขนี้คงอยู่ตลอดไป
먼 훗날 언젠가 지치고 힘이 든다 해도
หากวันหน้า เมื่อใดที่รู้สึกเหนื่อยหรือท้อ
행복하고 아름다웠던 추억을 기억해요
ให้คิดถึงความสุข และความทรงจำที่สวยงาม
서로의 화원에 믿음을 심고 행복을 피워
เราปลูกความหวังของเราให้กันและกัน และความสุขที่ยังคงเบ่งบาน
마음의 열쇠를 너에게 전해 줄 테니까
ชั้นจะส่งใจของชั้นให้กับเธอเอง
.
.
.
แปลโดย มี่มี่ของมิน (minchae)
==================
.
.
.
ตอนที่ 12 ยาวไปนิสนุงนะ
เปนไงกันมั้งล่ะ หนุ่มๆ ใกล้จะกลับกันแล้วอะ
แล้วสาวๆ จะทำยังไงดี
ติดตามตอนต่อไปน้า....
ความคิดเห็น