คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #14 : ปาร์ตี้คริสมาสต์
เมื่อทุกคนกลับมาถึงฮอกวอตส์พร้อมกับร่างไร้วิญญาณของท๊องก์ และร่างที่ถูกสะกดนิ่งของล็อกฮาตส์แล้ว สิ่งที่ทุกคนทำอันดับแรกคือรายงานเรื่องนี้ต่อดัมเบิลดอร์ และแจ้งข่าวให้สมาชิกภาคีทั้งหมดทราบ และได้มีการตรวจหาตรามารกับสมาชิกภาคีใหม่จากกระทรวงหลายคน และยังเพิ่มการรักษาความปลอดภัยอื่น ๆ อีกนานับประการเพื่อความปลอดภัยของทุกคนอีกด้วย
“เป็นความผิดพลาดของตาแก่คนหนึ่งอย่างฉันเองที่ไม่คิดอะไรให้รอบคอบ ซึ่งส่งผลต่อชีวิตที่กำลังจะรุ่งโรจน์ของคน ๆ หนึ่ง ฉันผิดเอง ฉันมองข้ามสิ่งต่าง ๆ หลงกลแผนของโวลเดอมอร์ แต่นับว่ายังโชคดีที่เธอรอดมาได้แฮร์รี่” ดัมเบิลดอร์กล่าวกับแฮร์รี่ขณะที่อยู่ในห้องทำงานของอาจารย์ใหญ่
แฮร์รี่ไม่ตอบอะไร เขายังรับไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทั้งเรื่องที่ท๊องก์ต้องมาตายอย่างกระทันหันในขณะที่เพิ่งแต่งงานใหม่ และลูปินที่เริ่มโทษตัวเองว่าเป็นความผิดของเขา
“เธอคิดดูสิ แฮร์รี่ ตอนเข้าไปในบ้าน ฉันเป็นคนพูดว่าถ้าเกิดมีใครในกลุ่มพวกเราเป็นอะไรไปก็ให้ทำภารกิจต่อจนเสร็จ ต้องเป็นฉันแน่ ๆ ที่ทำให้ท๊องก์คิดมาก แล้ว - - ถ้าฉันไม่พูดอย่างนั้นออกไป - -” ลูปินพูดกับแฮร์รี่ขณะที่พวกเขาอยู่ด้วยกันตามลำพัง
“ไม่ใช่ความผิดของคุณหรอกครับ ศาสตราจารย์” แฮร์รี่ปลอบเขา “ทั้งหมดนี้ความผิดเป็นของคน ๆ เดียว - - คือโวลเดอมอร์ ถ้าคุณอยากแก้แค้นให้ท๊องก์ คุณต้องเลิกฟูมฟายก่อนนะครับ ศาสตราจารย์ แล้วทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด”
ลูปินมองดูแฮร์รี่อย่างไม่เชื่อสายตาตัวเอง “เธอเข้มแข็งจริง ๆ แฮร์รี่ รู้ไหม เธอน่ะ เหมือนพ่อของเธอมาก ฉันว่าเธอคงฟังจนเบื่อแล้วสินะ แต่เธอรู้ไหม ตอนที่พวกเราอยู่ปีสอง สัตว์เลี้ยงตัวหนึ่งของฉันตาย มันเป็นตัวที่ฉันรักมากที่สุด เจมส์ก็ปลอบฉันคล้าย ๆ กับเธอนี่ล่ะ เธอทำให้ฉันนึกถึงเขานะแฮร์รี่ - - ใช่ เป็นอย่างที่เธอว่า ทั้งเจมส์ ทั้งลิลี่ ทั้งซิเรียส ทั้งดัมเบิลดอร์ - - เพื่อนสนิทและผู้มีพระคุณของฉันต้องหายไปทีละคนก็เพราะมัน” สายตาของเขาดูจะเข้มแข็งขึ้น “เอาล่ะ ขอบใจมากนะแฮร์รี่ ฉันรู้สึกดีขึ้นแล้วล่ะ”
เช้าวันรุ่งขึ้น ดัมเบิลดอร์ได้คัดเลือกสมาชิกภาคีที่อยู่ร่วมกันมานานและไว้ใจได้จำนวนเจ็ดคนเพื่อเปิดเผยเรื่องราวเกี่ยวกับฮอร์ครัชก์ในห้องอาจารย์ใหญ่ ได้แก่ แฮร์รี่ รอน เฮอร์ไมโอนี่ ลูปิน (สี่คนนี้รู้อยู่แล้ว) มู้ดดี้ มักกอลนากัล และอาเบอร์ฟอร์ด
“เรื่องราวเกี่ยวกับฮอร์ครัชก์ของโวลเดอมอร์ก็มีเพียงเท่านี้ ต่อไปขอให้ทุกคนช่วยคุ้มกันและสนับสนุนแฮร์รี่ รอน และเฮอร์ไมโอนี่ ในการ ตามหาฮอร์ครัชก์ครั้งต่อ ๆไป”
ทุกคนยอมรับในคำสั่งแต่โดยดี
“เอาล่ะ ใครมีอะไรจะถามไหม”
แฮร์รี่เป็นคนเอ่ยขึ้นก่อน “เอ่อ คือว่า ผมอยากทราบว่าอาจารย์จะทำอย่างไรกับถ้วยของฮัฟเฟิลพัฟครับ” แฮร์รี่ชี้ไปทางถ้วยที่ถูกผ้าสีดำคลุมอยู่ ที่วางอยู่บนโต๊ะทำงานข้างรูปของดัมเบิลดอร์
“ให้ใครสักคนที่ไว้ใจได้ นำมันไปปิดผนึกไว้ตลอดกาลที่ห้องแห่งพลังในกองปริศนา แล้วสักวัน ฮอร์ครัชก์จะต่อสู้กับพลังนั้นเอง จนเสื่อมอำนาจลงในที่สุด” ดัมเบิลดอร์บอก “เอาล่ะ ถ้าทุกคนไม่มีคำถามอะไรอีกต่อไปแล้ว ฉันก็ขอใช้ความคิดคนเดียวก่อนสักพัก และฉันก็ขอบอกว่า ฉันเสียใจเป็นอย่างยิ่ง เกี่ยวกับการตายของท๊องก์” เขาพูดเสียงเบา และเว้นวรรคนิดหนึ่ง “แต่ทว่า เราจะหยุดอยู่กับที่ไม่ได้ เราต้องเดินหน้าต่อไป ฉันจะไม่ให้การตายของท๊องก์เป็นการตายที่สูญเปล่า โวลเดอมอร์จะต้องชดใช้อย่างสาสม - - เอาล่ะ ถ้ามีข้อความปรากฏขึ้นในแผ่นกระดาษครั้งต่อไปเมื่อไร ฉันจะให้คนไปแจ้งข่าวกับเธอเอง”
“ได้ครับ” แฮร์รี่ตบปากรับคำ แล้วทั้งหมดก็ทยอยกันออกจากห้องทำงานของดัมเบิลดอร์
ใกล้ช่วงคริสมาสต์เข้าไปทุกวัน ๆ แฮร์รี่คิดว่าปีนี้เขาคงไม่มีงานฉลองเป็นแน่ และก็ไม่ใช่เวลาที่จะมาคิดถึงเรื่องงานฉลองด้วย อีกทั้งบรรยากาศตอนนี้ยิ่งอบอวลไปด้วยความเศร้าจากการตายของท๊องก์ และเขายังมีภารกิจที่ต้องทำอีก
หิมะเริ่มโปรยปรายลงมาภายนอกกำแพงฮอกวอตส์ ความหนาวเริ่มแทรกซึมทะลุทะลวงผ่านกำแพงมหึมาของโรงเรียนเข้ามาได้เหมือนที่ผ่านมา ปกติในช่วงเวลานี้แฮกริดจะเป็นคนแบกต้นคริสมาสต์เข้ามาและตกแต่งประดับประดาในโรงเรียน แต่ว่าปีนี้ไม่เห็นแม้แต่เงาของแฮกริด เมื่อแฮร์รี่มองออกไปที่กระท่อมของเขาวันนั้น เขาไม่เห็นควันไฟออกมาจากปล่องไฟ เป็นเครื่องหมายบ่งบอกว่าแฮกริดคงออกไปทำภารกิจอะไรสักอย่างเป็นแน่
เมื่อถึงวันที่ยี่สิบห้าธันวาคม วันคริสมาสต์มาถึง คนที่เศร้าที่สุดดูเหมือนจะเป็นลูปิน ดูเหมือนว่าทำอย่างไรเขาก็จะลืมท๊องก์ไม่ได้ แฮร์รี่คิดว่าก็เป็นธรรมดาที่ลูปินจะเศร้า เพราะในเมื่อเขาเพิ่งแต่งงานใหม่ และควรจะได้มาฉลองงานนี้ร่วมกับท๊องก็ แต่ว่าเป็นเพราะโวลเดอมอร์...
แฮร์รี่คิดวิธีอะไรบางอย่างที่จะไปปลอบใจลูปิน เขาจึงไปหารอนและเฮอร์ไมโอนี่ที่ห้องนั่งเล่นรวมหลังจากแต่งตัวเสร็จ
“เมอร่รี่คริสมาสต์” รอนทัก
“อรุณสวัสดิ์ เมอร์รี่คริสมาสต์แฮร์รี่” ตามมาด้วยเสียงของเฮอร์ไมโอนี่
“นี่ของขวัญของนาย” รอนชี้ไปที่กองของขวัญบนเก้าอี้นวมตัวหนึ่ง ซึ่งเมื่อแฮร(รี่มองตามไปเห็นเป็นของขวัญกองย่อม ๆ สีสันต่าง ๆ
“เรื่องนั้นเอาไว้ก่อน ฉันมีเรื่องอยากขอร้องพวกนาย” แล้วแฮร์รี่ก็เล่าเรื่องเกี่ยวกับลูปินให้รอน เฮอร์ไมโอนี่ และจินนี่ฟัง
“ตกลง ถ้าอย่างนั้น เรามาจัดงานปาร์ตี้คริสมาสต์ให้กับอาจารย์กันเถอะ ถึงมันจะไม่ถูกกาลเทศะนักก็เถอะนะ” รอนบอก
“ใช่แล้ว ฉันว่าในตอนนี้ สภาพจิตใจที่เข้มแข็งเป็นสิ่งที่จำเป็นที่สุด” เฮอร์ไมโอนี่เห็นด้วย
“ถ้าอย่างนั้น ฉันจะไปรวบรวมพวกสมาชิกภาคีที่ว่างอยู่และอยู่ในปราสาทตอนนี้” จินนี่เสนอ
“โอเค ถ้าอย่างนั้นพี่จะไปหาแฮกริดหรือไม่ก็ฟลิตวิก เรื่องจัดสถานที่นะ”
“ส่วนฉัน - - ฉันจะไปขออนุญาติดัมเบิลดอร์เอง”
“ตกลง ภายในหนึ่งชั่วโมง ถ้าเรียบร้อยแล้ว ให้ติดต่อมาละกัน ฉันจะไปหาลูปินเอง ว่าแต่ว่า เราจะติดต่อกันอย่างไรล่ะ” แฮร์รี่ถาม
เฮอร์ไมโอนี่ทำท่าควักบางสิ่งบางอย่างออกมาจากกระเป๋าของเธอ “เธอยังจำนี่ได้ไหม เหรียญเกลเลี่ยนปลอม ๆ นี่ละ ถ้าเธอได้รับการติดต่อจากพวกเราครบทุกคน - - สรุปว่าถ้ากระเป๋าเงินของเธอร้อนครบ สามครั้ง ให้เธอไปหาลูปินและพาเขาไปที่ห้องโถงใหญ่ได้เลย”
“แต่เฮอร์ไมโอนี่” รอนขัด “ปกติแล้วฮอกวอตส์เตรียมงานเกือบตั้งสัปดาห์นะ แล้วภายในหนึ่งชั่วโมง - -”
“ครั้งนี้เราไม่ได้จัดทั้งโรงเรียนนี่ เราจะจัดแค่ในห้องโถงใหญ่ ฉันว่าแฮกริดกับฟลิตวิกต้องมีวิธีทำอะไรสักอย่างแน่”
“แต่สองสามวันมานี้ แฮกริดไม่อยู่นี่” แฮร์รี่บอก
“ไม่เป็นไร ฉันกับทุกคนจะช่วยกันอย่างเต็มที่ อย่างแย่ที่สุดเราแค่ไม่มีต้นคริสมาสต์เท่านั้น” พูดจบเธอก็เดินออกไป
สามสิบนาทีผ่านไปหลังจากทุก ๆ คนแยกย้ายกันไปทำหน้าที่ของตน แฮร์รี่ยืนกระสับกระส่ายรอสัญญาณจากทุก ๆ คนอยู่หน้าห้องโถงใหญ่ ในระหว่างนั้นเหรียญทองของเขาร้อนแล้วหนึ่งครั้ง เป็นสัญญาณจากเฮอร์ไมโอนี่ เพราะแฮร์รี่สังเกตเห็นตรงขอบเหรียญมีตัวนูนปรากฏขึ้นว่า H.Gr นั่นหมายความว่าเฮอร์ไมโอนี่ขอร้องดัมเบิลดอร์ได้สำเร็จแล้วนั่นเอง
“แฮร์รี่ แฮร์รี่” แฮร์รี่ได้ยินเสียงเรียกจากเฮอร์ไมโอนี่ เมื่อเขามองกลับไปตรงบันได ก็เห็นเธอเดินลงมา
“ฉันคิดว่าเมื่อฉันขอร้องดัมเบิลดอร์ แล้วเอารูปของเขาไปไว้ในห้องโถงใหญ่แล้ว ฉันไม่มีอะไรจะทำน่ะ ก็เลยจะมาอยู่เป็นเพื่อนเธอ แล้วก็คิดว่าจะให้คนอื่นมารวมตัวกันด้วย และไปชวนลูปินพร้อม ๆ กันดีกว่า”
“ใช่ ฉันก็กำลังคิดอย่างนั้นอยู่พอดี” แฮร์รี่ยิ้ม แล้วทั้งคู่ก็รออยู่อีกประมาณสิบนาทีกว่า ๆ เหรียญก็ร้อนขึ้นอีกครั้ง มีตัวอักษรนูนเห็นเป็นตัว G.Ws เป็นสัญญาณจากจินนี่นั่นเอง
“จินนี่ยังไม่รู้ว่าเราเปลี่ยนแผนใหม่ เอาเป็นว่าเราต้องส่งข้อความหาเธอ” เฮอร์ไมโอนี่บอกพร้อมกับหยิบเหรียญขึ้นมา
“แล้วจะส่งอย่างไรล่ะ” แฮร์รี่ถาม
“เมื่อหน้าร้อนที่ผ่านมา ฉันได้คิดค้นและพัฒนาเหรียญนี่ให้ส่งข้อความได้ คือเมื่อฉันพูดลงไปในนี้ จินนี่หรือคนที่เราต้องการจะสื่อสารด้วยที่มีเหรียญนี่เหมือนกันก็จะได้ยินล่ะ เลียนแบบมาจากโทรศัพท์มือถือไง” เธอบอกอย่างกระตือรือร้น
แฮร์รี่เข้าใจดี เขาเคยเห็นวิทยุสื่อสารของดัดลีย์และโทรศัพท์มือถือของลุงเวอร์นอนมามากพอ
“จินนี่ จินนี่ ได้ยินหรือเปล่า” เธอพูดกับเหรียญแกลเลียนในมือ
“ได้ยิน แต่เฮอร์ไมโอนี่ พี่อยู่ที่ไหนน่ะ” แฮร์รี่ได้ยินเสียงของจินนี่ตอบกลับมา
“ตอนนี้พี่กับแฮร์รี่อยู่หน้าห้องโถงใหญ่ พี่พูดกับเธอผ่านเหรียญแกลเลียนน่ะ” เฮอร์ไมโอนี่บอก
“อ๋อ เข้าใจแล้ว - - ว่าแต่ พี่มีธุระอะไรหรือ”
“คืออย่างนี้ เรารู้ว่าเธอทำหน้าที่เสร็จแล้วใช่มั้ย ถ้าอย่างนั้นให้มาพบกับพวกพี่ที่หน้าห้องโถงใหญ่ เราจะไปชวนลูปินด้วยกันน่ะ”
“ตกลง” แล้วเสียงก็เงียบไป
หลังจากนั้นเฮอร์ไมโอนี่ก็ให้แฮร์รี่ลองดูบ้าน แฮรี่ลองส่งเสียงพูดถึงรอนซึงต้องอธิบายอยู่นานเกี่ยวกับโทรศัพท์มือถือของมักเกิ้ล จนสุดท้ายเขาก็เข้าใจ และสักพักใหญ่ ๆ ต่อมา รอนก็ลงมาจากบันไดพร้อมกับฟลิตวิก ซึ่งอาจารย์รีบเข้าไปเตรียมงานในห้องโถงใหญ่ ส่วนรอนนั้นรีบมาสมทบกับแฮร์รี่
“เอาล่ะ ฉันว่าถ้าไปบอกเขาตามตรง เขาคงไม่มาแน่ ๆ ” แฮร์รี่เสนอ
“แล้วเราจะทำอย่างไรดีล่ะ นี่เราเตรียมทุกอย่างพร้อมแล้วนะ” รอนบอก
“ฉันนึกวิธีดีดีออกแล้ว” เฮอร์ไมโอนี่พูดอมยิ้ม
“วิธีอะไร” รอนกับแฮร์รี่ถามพร้อมกัน
“ง่ายมาก เราแค่ไปบอกเขาว่าดัมเบิลดอร์เรียกตัวเขาที่ห้องโถงใหญ่เวลาหกโมงเย็น ฉันคิดว่าปาร์ตี้น่าจะเริ่มเวลาประมาณนั้นนะ แล้วอย่างน้อยเรก็ไม่ได้โกหก เพราะว่าดัมเบิลดอร์ต้องผิดหวังแน่ ๆ ถ้าจัดงานเพื่อลูปินแล้ว เขาไม่มาร่วมงานน่ะ”
“เป็นความคิดที่ดี” รอนกับแฮร์รี่เห็นด้วย
เวลาหกโมงเย็นมาถึง ห้องโถงใหญ่ประดับประดาอย่าหรูหรา แทบจะไม่เหลือเค้าเดิมของเมื่อเช้าเลยทีเดียว น้ำแข็งประดับประดาที่ไม่มีวันละลายแบบครั้งงานเต้นรำวันคริสมาสต์ถูกประดับไว้อีกครั้ง แฮกริดกลับมาแล้ว แฮร์รี่เห็นเขานั่งอยู่ที่โต๊ะตัวหนึ่ง กำลังคุยอย่างออกรสกับศาสตราจารย์มักกอลนากัล แขกผู้มาร่วมงานทั้งหมดเป็นสมาชิกของภาคีนกฟีนิกซ์ ตอนนี้งานยังไม่เริ่ม แฮร์รี่มองหาลูปินซึ่งเขาสังเกตว่ายังไม่มา
แฮร์รี่เดินไปหาแฮกริด “สวัสดีแฮร์รี่ ดัมเบิลดอร์เรียกตัวทุกคนที่ไม่มีงานยุ่งจนเกินไปมากันหมดทุกคน แต่ตอนนี้เรายังติดต่อแม้ดอายไม่ได้ ดัมเบิลดอร์บอกว่าเขามีงานงานหนึ่งที่ปลีกตัวไม่ได้ แต่เขาไม่บอกว่ามันเป็นงานอะไร ว่าแต่ ไม่ได้เจอกันนานนี่ เธอสบายดีไหม”
“พวกเราสบายดีครับแฮกริด แล้วคุณล่ะหายไปไหนมา แล้วสบายดีไหมครับ” แฮร์รี่ตอบคำทักทายกลับไป
“ถ้าไม่สบายดีคงไม่มานั่งอยู่ตรงนี้หรอก - - คือ ก่อนหน้านี้ดัมเบิลดอร์ก็บอกอยู่เหมือนกันว่าอยากจัดงานปาร์ตี้ให้ศาสตราจารย์ลุปิน ฉันก็ไปหาต้นสนมาก็แค่นั้น” แล้วเขาก็หัวเราะ “ว่าแต่ ศาสตราจารย์ลูปินล่ะ เธอแน่ใจหรือว่าเขาจะมา”
“แน่ใจค่ะ เราจัดการเรียบร้อยแล้ว” แล้วเด็กทั้งสามก็มองหน้ากันด้วยรอยยิ้ม แต่เคลือบแคลงด้วยความกังวลใจ เนื่องจากกลัวว่างานนี้จะทำให้ลูปินใจชื้นขึ้นได้หรือเปล่านั่นเอง
ไม่ทันขาดคำ ลูปินเดินเข้ามาในห้องโถงใหญ่ด้วยสีหน้างุนงง เขาเดินตรงมาทางแฮร์รี่
“นี่มันอะไรกัน” เขาถามด้วยสีหน้าประหลาดใจ “ดัมเบิลดอร์เรียกฉันมาเพื่ออะไรกันแน่”
“ขอโทษครับ ศาสตราจารย์ เราอยากทำให้คุณประหลาดใจน่ะฮะ” แฮร์รี่บอก
“พวกเธอนี่จริง ๆ เลย” เขายิ้ม
“ยินดีต้อนรับศาสตราจารย์ลุปิน” แฮกริดเอ่ยทักบ้าง
“ด้วยความยินดีครับ” เขายิ้มตอบอย่างร่าเริง ซึ่งดูเหมือนว่าจะลืมความทุกข์ใจไปเสียได้ ทำให้เด็กทั้งสามโล่งใจยิ่งนัก
“ยินดีต้อนรับรีมัส” เสียงดังเอ่ยขึ้นมาจากหน้าห้องโถงใหญ่ เป็นเสียงของดัมเบิลดร์ที่กำลังยิ้มอย่างปิติภายใต้กรอบรูปสีทองเหลืองอร่ามนั่นเอง
ลูปินยิ้มหน้าบาน พร้อมกับเข้าไปทักทายดัมเบิลดอร์ และทุก ๆ คนอย่างอารมณ์ดี แล้วงานปาร์ตี้ที่สนุกสนานก็เริ่มขึ้น
ทุกคนในงานดูเหมือนจะมีความสุขมาก โดยลืมไปแล้วว่าภายนอกสถานที่แห่งนี้กลับมาความน่ากลัวคืบคลานอยู่ตลอดเวลา นับว่าวันนี้เป็นวันที่ทุก ๆ คนที่เหนื่อยล้าทั้งกายและจิตใจ ได้มาพักผ่อนอย่างสุขสำราญเต็มที่ โต๊ะที่นั่งถูกจัดไว้เป็นโต๊ะกลมเช่นเดียวกับสามปีก่อนเมื่อครั้งมีการประลองเวทย์ไตรภาคี เอลฟ์ประจำบ้านปล่อยฝีมือที่พัฒนาแล้ว จนอาหารอร่อยสุดจะบรรยาย แต่งานนี้ไม่มีการเต้นรำแบบเมื่อครั้งนั้น เพราะไม่อยากให้ลูปินนึกถึงท๊องก์นั่นเอง แต่ทว่า ดัมเบิลดอร์กลับเป็นฝ่ายพูดให้ลูปินนึกถึงเรื่องนั้นขึ้นมา
“รีมัส ฟังฉันนะ ไม่มีประโยชน์ที่จะยึดติดกับคนตาย และอาลัยอาวรณ์มากจนเกินไปนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเวลานี้ เธอไม่ควรจะเสียใจนาเกินควร และลืมสิ่งที่อยู่เบื้องหน้า เพราะว่า ก่อนที่เหตุการณ์อันแสนเลวร้ายนี้จะสิ้นสุดลง อาจจะมีคนเสียชีวิตอีกมากมาย ซึ่งเรายังมีเวลาไว้อาลัยให้พวกเขาอีกมากเมื่อเหตุการณ์สิ้นสุดไปแล้ว - - แต่ทว่า ในตอนนี้ เธอควรจะทำจิตใจให้เข้มแข็ง แล้วต่อสู้กับความชั่วร้ายต่อไปอย่างสุดความสามารถ เพื่อจะไม่ให้เกิดเหตุการณ์จากการประมาทเลินเล่อของฉันอย่างครั้งของนิมฟาดอร่าอีก” ดัมเบิลดอร์พูดจากกรอบรูปของเขาที่ตั้งอยู่บนโต๊ะกลมข้าง ๆ ลูปิน
“ครับ ผมเข้าใจแล้ว” ลูปินบอกเรียบ ๆ
“ถ้าเป็นอย่างนั้นก็ดีไป” ดัมเบิลดอร์ถอนหายใจ
ในระหว่างนั้นได้มีเสียงอะไรบางอย่าง เป็นเสียงสัญญาณว่ามีใครมาเคาะประตูใหญ่ของฮอกวอตส์ มีใครบางคนอยู่ข้างนอก
“มิเนอร์ว่า ผมวานคุณไปเปิดประตูที คาดว่าคงเป็นแม้นอาย เพราะเขาเป็นคนเดียวที่ยังไม่มาในงาน และในเวลานี้ภารกิจของเขาคงจะเสร็จพอดี แต่ก็อย่าลืมเอาไม้กายสิทธิ์ออกมาเตรียมพร้อมไว้ ถ้าเกิดใครก็ตามนั่นไม่ใช่แม้ดอาย”
เมื่อดัมเบิลดอร์พูดจบ ศาสตราจารย์มักกอลนากัลก็พยักหน้าทีหนึ่ง จากนั้นเธอหยิบไม้กายสิทธิ์ออกมาแล้วเดินตรงไปยังห้องโถงกลาง
เวลาผ่านไปสักพัก
กรี้ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
เสียงกรีดร้องของศาสตราจารย์มักกอลนากัล ทั้งห้องโถงใหญ่เต็มไปด้วยความเงียบ
“อัลบัส ทุกคน มาดูนี่เร็ว ป๊อปปี้ รีบพาเขาไปเร็ว” ศาสตราจารย์มักกอลนากัลกรีดร้อง
เมื่อทุกคนมารุมอยู่ที่ประตู แฮร์รี่พยายามแหวกฝ่าฝูงชนที่เข้าไปได้ แล้วทั้งหมดก็หลีกทางให้รูปของดัมเบิลดอร์ในมือของลูปินและมาดามพอมฟรีย์ที่กำลังเดินเข้ามา แล้วทั้งหมดก็ต้องตกใจ
เมื่อภาพที่เห็นคือแม้ด-อาย มู้ดดี้นอนจมกองเลือดอยู่
“อัลบัส” เสียงแผ่วเบาของแม้ด-อาย มู้ดดี้ เรียกดัมเบิลดอร์
แล้วเขาก็หมดสติไป
ความคิดเห็น