คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #12 : อืมอึงวา หรือ นัดดา (Nunda)
อืมอึงวา
สัตว์ลึกลับต่อไปนี้ หลายคนอาจไม่รู้จัก และอาจไม่เร้าใจเท่า เยติ บิ๊กฟุต เนสสี นะครับ เพราะว่าเรื่องมันนานพอดู แถมไม่มีข่าวใหม่ๆ ในการพบตัวมันอีก แถวพวกนักสัตว์ลึกลับวิทยาก็ไม่สนใจมันด้วย
สัตว์ตัวนี้อืม....มันชื่อ อืมอีงวา หรือหลายคนเรียก นันดา Nunda ครับ มีบันทึกถึงตัวมันเมื่อปี พ.ศ. 2465 แถวๆ ทังกันยิวกา หรือ แทนซาเนียปัจจุบันนี้เอง แถมมันเป็นสัตว์ที่ชาวพื้นเมืองรู้จักกันดีที่เดียวแหละ
ร้อยเอก วิลเลี่ยม ฮัคเคนส์ พนักงานปกครองแห่งลินดิ ทังกันยิกา ได้บันทึกเกี่ยวกับเจ้าอืมอึงวา ไว้ดังนี้....
“เป็นเรื่องปกติที่พ่อค้าชาวพื้นเมืองจะข้าวของของตัวเองไว้ที่ตลาด เพื่อที่ว่าเมื่อตอนเช้าจะได้ค้าขายได้เลย แต่เพื่อป้องกันพวกหัวขโมยจึงจำเป็นต้องจัดดัสการีหรือตำรวจพื้นเมืองคนหนึ่งคอยเป็นพลตระเวนเฝ้าตลาด โดยมีเวรผลัดเปลี่ยนกับอีกสองคนๆ ละสี่ชั่วโมง
และแล้ว...
คืนหนึ่ง พลตะเวณกำลังออกเวรได้เที่ยวตามหาเพื่อน หลังจากที่หามาพักใหญ่ ก็พบเพื่อนนอนอยู่ใต้เพิงในสภาพสยดสยอง เนื้อตัวฉีกขาดเลือดไหลท่วม พลตะเวณผู้นั้นรีบไปหาข้าพเจ้าซึ่งเป็นผู้บัญชาการที่เป็นคนยุโรป และข้าพเจ้าก็ไปถึงที่เกิดเหตุ...
จากการตรวจร่องอย ปรากฏชัดว่า พลตะเวณนั้นถูกสัตว์บางอย่างทำร้าย มันน่ะจะเป็นสิงโต โดยมันทิ้งร่องรอยคือขนสีเทากระจุกหนึ่งในมือที่กำแน่นของศพ เขาคงกระชากมันมาตอนต่อสู้กับมัน
แต่สิงโตที่เขาคิดนั้นมันไม่มาป้วนเปี้ยนพื้นที่แถบนี้หลายสิบปีแล้วนี้...แล้วมันเป็นตัวอะไรกันละ
ขณะที่เรากำลังฉงนใจกับปัญหาที่ขบไม่แตก เช้าวันรุ่งขึ้นลิวารี(ปกครองส่วนท้องถิ่น) ที่เป็นชายอาหรับได้กระหืดกระหอบเข้ามาในสำนักงานพร้อมกับชายสองคนท่าทางหวาดหวั่น เขาบอกให้ชายสองคนพูด พวกเขาเล่าว่า เมื่อคืนตอนดึก พวกเขาแอบหลบเข้าไปในตลาด ย่อมเงียบไม่ให้พลตระเวนได้เห็น ขณะที่คืบคลานอยู่นั้นเอง พวกเขาก็ตกใจสุดขีดเมื่อเขาพบ..แมวยักษ์(นันดา) มันกระโจมออกจากเงามืดเขาทำร้ายพลตระเวนนั้นจนนิ่งคาพื้น
ลิวารีก็เล่าถึงเรื่องนี้เช่นกัน เขาเป็นคนมีการศึกษาและเป็นที่เคารพของชาวบ้าน เขายืนยันว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องจริง เจ้านัดดามันเคยเข้ามาเหยียบหมู่บ้านนี้หลายครั้งแล้ว มันไม่ใช้สิงโตและเสือดาว แต่เป็นแมวขนาดใหญ่ ใหญ่มากๆ มีลายเหมือนแมวลาย
ความจริงข้าพเจ้าไม่เชื่อเรื่องของนัดดามากนัก เพราะพวกชาวบ้านพวกนี้เชื่อเรื่องผีสางเขาเอาเปรียบนัดดาเป็นผีร้ายก็ได้ จนกระทั้งลิวารีมายืนยัน ข้าพเจ้าก็เริ่มเชื่อเขาอย่างจับใจ
......คืนนั้น พลตระเวนตำรวจอีกคนก็ถูกฉีกเป็นชิ้น...?
มีขนสัตว์สีเทาด้านเหมือนศพของตำรวจที่อยู่ทำร้ายกระจัดกระจายอยู่ทั่วบนเครื่องแบบ....มันอาจได้ใจ ที่ได้เหยื่อเมื่อคืน และคิดว่ามันสามารถทำแบบนี้ได้อีกในคืนต่อไป”
ร้อยเอก วิลเลี่ยม ได้ให้ข่าวที่เขาประสบมาให้หนังสือพิมพ์ยุโรปฟัง เขาเล่าว่าชาวพื้นเมืองที่แทนซาเนียรู้จักมันมาช้านานหลายร้อยปีแล้ว บางที่เรียกมันว่า ตัวอืมอึงวา(แปลว่าตัวประหลาด) ที่แสนน่ากลัว มันเป็นแมวขนาดใหญ่ และดุร้ายมาก
นอกจากนี้เจ้าตัวอืมอึงวาได้ปรากฏในเพลงรบเก่าแก่ของสวาหิลีคาดว่าเขียนในปี 1693 ในบทนั้นแสดงให้เห็นว่าตัวอืมอึงวาเป็นสัตว์ร้ายที่คนพื้นเมืองรู้จักมานานจนเรียกว่าเป็นเป็นวิถีชีวิตไปแล้ว...
“ข้าไม่ได้อยู่ในเมื่อเพื่อจะกลายเป็นคนขี้เกียจไร้ค่า
ข้าพาตัวเองโดดเข้าไปในป่า ให้อืมอึงวากิน...”
นอกจากนี้อืมอึงวายังปรากฏในนิทานสวาหิลีเรื่องนี้สุลต่านมัชนุนได้อ้างว่าเขาเลี้ยงอืมอึงวา...
ครั้งหนึ่ง แมวของสุลต่านออกจากกรง มันเริ่มฆ่าไก่ของสุลต่าน ทหารถามว่าจะฆ่ามันหรือไม่ แต่สุลต่านกลับไปว่า “แมวก็ของข้า ไก่ก็ของข้า”
แมวเริ่มโตขึ้น มันเริ่มฆ่าเหยื่อที่มีขนาดใหญ่ขึ้น มันฆ่าแกะ มันฆ่าแพะทหารถามว่าจะฆ่ามันหรือไม่ แต่สุลต่านกลับไปว่า “แมวก็ของข้า แกะก็ของข้า แพะก็ของข้า”
แมวเริ่มโตขึ้นเรื่อยๆ มันเริ่มฆ่าเหยื่อที่มีขนาดใหญ่ขึ้น มันฆ่าวัว มันฆ่าม้า มันฆ่าอูฐ ทหารถามว่าจะฆ่ามันหรือไม่ แต่สุลต่านกลับไปว่า “แมวก็ของข้า ม้า วัว อูฐ ก็ของข้า”
สุดท้ายแมวตัวนั้นก็กินโอรสของสุลต่านไปสามองค์ คราวนี้สุลต่านบอกว่า มันไม่ใช้แมวอีกต่อไป มันคือนัดดา
โอรสองค์ที่เจ็ดของสุลต่านผู้กล้า เขาอาสาไปปราบนัดดา แต่เพราะความไม่รู้จักว่านัดดามันหน้าตาเป็นอย่างไร เขาจึงฆ่าสุนัขใหญ่ตัวหนึ่งกลับเข้ามาในวัง
“โอ พระมารดา ข้าได้ฆ่านัดดาผู้กินคนได้แล้ว”
แต่พระมารดาบอกว่ามันไม่ใช้นัดดา เจ้าชาย
ในที่สุดพระองค์ก็ตามรอยแมวยักษ์ได้
“นั้นต้องเป็นนัดดา” พระองค์ว่า “พระมารดาบอกว่าหูของมันเล็ก นี่ก็เล็ก พระองค์บอกว่าตัวมันป้อมแล้วไม่ยาว นี้ก็ป้องแล้วก็ไม่ยาว พระมารดาบอกว่ามันมีลายสองแต้มเหมือนอีเห็น นี่ก็มีลายสองแต้มเหมือนอีเห็น พระนางบอกว่าหางมันหนา นี้ก็หางมันก็หนา ทุกอย่างที่พระนางบอกอยู่ตรงหน้าข้าแล้ว”
เมื่อเชื่อว่าถูกตัวแล้ว เจ้าชายก็ฆ่าสัตว์ตัวนั้น นำกลับมา พระมารดาชื่มชมความกล้าหาญของพระองค์และร้องว่า
“โอลูกรัก นี่ละ นัดดาผู้กินคน”
นิทานนี้ก็จบลง เจ้าชายได้แต่งงาน และครองอาณาจักรอย่างเป็นสุขหลายปี
กลับมาที่ร้อยเอก วิลเลี่ยม ฮิคเคนส์ เขาได้ส่งเส้นขนสีเทาด้านไปยังหน่วยเหนือด้วย ผลคือ “มันเป็นขนสัตว์ชนิดอ่อนนุ่ม ไม่ใช้ขนแข็งแบบเสือสิงโต มันเป็นขนของแมว”
ปี พ.ศ. 2480 ฮัคเคนส์เขียนบันทึกเรื่องราวการโจมตีของแมวยักษ์เป็นระยะ ระยะ ว่า
“ไม่นานมานี้ ชายคนหนึ่งถูกหามมาให้ข้าพเจ้าที่อึมชิงกา สภาพของเขาถูกทำร้ายจนบาดเจ็บสาหัส.....ตัวอืมอึงวา...เขาบอกกับข้าพเจ้า ชายคนนี้เชื่อถือได้เพราะเขาเป็นนายพราน เขารู้ดีว่าสัตว์ที่ทำร้ายเขาเป็นตัวอะไร”
นายพราน แพทริค โบเวน ครั้งหนึ่งเคยเป็นผู้ตามรอย อืมอึงวา กล่าวว่าครั้งหนึ่ง ผมเห็นมันคาบเด็กชายตัวเล็กออกไป และตัวเขาเองกับเพื่อนอีกหนึ่งคน พบรอยเท้าที่น่าจะเป็นรอยเท้าของ อืมอึมวา มีลักษณะเหมือนรอยเท้าของเสือดาวแต่ใหญ่เท่าสิงโต เขากล่าวว่าขนของมันติดอยู่ที่รั้วเป็นสีเทาอมน้ำตาลต่างจากขนของเสือดาว
มีข้อสันนิษฐานหนึ่ง กล่าวว่า อืมอึงวา หรือนันดา อาจจะเป็นเสือดาวหรือสิงโตที่กลายพันธุ์ แต่ผู้เชี่ยวชาญกล่าว่าน่าจะเป็นสัตว์ที่เราไม่รู้จักเสียมากกว่า หรือไม่ก็เป็น เสือไฟ (golden cat : Felis auratus ) ที่กลายพันธุ์
เสือไฟปกติเป็นเสือขนาดเล็ก ความยาวหัวจรดหางประมาณ เมตรกว่าๆ ตัวสีน้ำตาลหรือสีเทา ลักษณะนิสัยดุร้าย เป็นสัตว์ออกหากินเวลากลางคืน ตอนกลางวันจะหลับอยู่บนต้นไม้ และที่น่ากลัวก็คือมันสามารถล้มสัตว์ใหญ่กว่ามันได้ ซึ่งอืมอึงวาอาจเป็นเสือไฟก็ได้เพราะนิสัยคล้ายกัน แต่อืมอึงวามีขนาดใหญ่กว่ามากและน่ากลัวกว่า
แต่นักสัตว์ลึกลับวิทยากลับแย้งว่า น่าจะเป็นเสือชนิดหนึ่ง อาจเป็น แพนธอรา คราสสิเดนท์ (Panthera crassidens) มีขนาดเท่าสิงโต แต่มีขากรรไกรล่างแบบเสือโคร่ง ที่อาศัยอยู่ในยุคพลีสโตซีน เมื่อราวสองล้านหนึ่งหมื่นปีมาแล้ว ถ้ายังมีชีวิตอยู่จนถึงยุคปัจจุบัน แพนธอรา คราสสิเดนท์ มีโอกาสสูงที่จะเป็น อืมอึงวา
เรื่องราวของเจ้าอืมอึงวกก็คงคงเป็นปริศนาที่ยังรอการพิสูจน์เช่นเคย เราคงไม่สรุปอะไรได้ในตอนนี้ คงต้องรอดูกันยาวๆ เหมือนละครแหละ
ปฏิบัติการค้นหาสัตว์ดึกดำบรรพ์(ยังมีชีวิต) คอสมอสเขียน+ +
ความคิดเห็น