ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (EXO) ' ค ลั ง ฟิ ค แ ป ล เ ด็ ก ด า ว '

    ลำดับตอนที่ #12 : (BAEKSOO) I'm Okay (Baby, Are You Okay?) [I/I] ;

    • อัปเดตล่าสุด 7 ต.ค. 57


    I'M OKAY(BABY, ARE YOU OKAY?) 
    original story: http://sleepydanceur.livejournal.com/2934.html
    written by: sleepydanceur
    pairing: baeksoo






     

    “นายมันโง่”





    แบคฮยอนร้องโอดครวญในขณะที่คยองซูจุ่มผ้าขนหนูลงในน้ำอุ่น





    “เช้านี้ฉันบอกแล้วใช่ไหมว่านายดูป่วยๆ”





    “ทุกคนก็ดูป่วยๆตอนเช้าทั้งนั้นแหละ” แบคฮยอนเถียงก่อนจะกุมหัวที่ปวดตุบๆ





    “อย่ามาเถียงข้างๆคูๆน่ะแบค! นายไม่ให้ฉันแตะหน้าผากนายด้วยซ้ำ”





    “ก็เพราะฉันรู้สึกสบายดีไงคยองซู! นายไม่จำเป็นต้องมาดูแลฉันซะหน่อย”





    “แล้วที่ฉันทำอยู่ตอนนี้เรียกว่าอะไร?” คยองซูย้อนถามอย่างหงุดหงิดก่อนจะนั่งลงบนเตียงของคนป่วย





    แบคฮยอนถอนหายใจก่อนจะพลิกตัวหันหลังให้คยองซูที่กำลังโกรธเขาอยู่ หลังจากที่ชุบผ้าขนหนูลงในน้ำอุ่นจนชุ่มแล้ว..คยองซูก็หยิบมันออกมาบิดให้หมาด มือเล็กจับใบหน้าอีกคนให้หันมา ก่อนจะแปะมันลงบนหน้าผากของอีกคนอย่างอ่อนโยน..





    แบคฮยอนพยายามจะปัดมือคยองซูออกก่อนจะประท้วงเบาๆ แต่คยองซูกลับจับมือของแบคฮยอนไว้ก่อนจะขึงมันลงกับเตียง





    “บยอนแบคฮยอน..ถ้านายไม่อยู่นิ่งๆ ฉันจะบอกให้จุนมยอนส่งนายกลับไปที่โรงพยาบาล อย่าดื้อ” คยองซูกัดฟันขู่





    แบคฮยอนมองหน้าคยองซูอย่างไม่สบอารมณ์แต่ก็ยอมโดยไม่ขัดขืนอะไร เพียงแค่ถอนหายใจเบาๆ





    คยองซูปล่อยมือออกก่อนจะเอื้อมไปหยิบยาลดไข้บริเวณหัวเตียง ร่างเล็กป้อนยาให้แบคฮยอนก่อนจะจัดหมอนให้เมื่ออีกฝ่ายกินยาเรียบร้อยแล้ว





    แบคฮยอนนอนตัวสั่นอยู่ใต้ผ้าห่มผืนบาง พิษไข้ที่รุมเร้าทำให้ร่างกายอ่อนแรง





    คยองซูห่มผ้าให้อีกคนก่อนจะเอื้อมมือไปปัดผมที่ปรกหน้าผาก..ดวงตาเต็มไปด้วยความห่วงใย





    “ทำไมนายถึงไม่ให้ฉันดูแลนายล่ะ?” คยองซูถามเสียงเบา





    “เพราะฉันไม่สมควรได้รับมัน” แบคฮยอนพึมพำทั้งๆที่ยังหลับตาอยู่

     




    คยองซูได้แต่ขมวดคิ้วมุ่นอย่างสับสนเมื่อได้ยินคำตอบ





    “หมายความว่าไง? นายเป็นเพื่อนฉันและนายกำลังป่วย ฉันก็เลยมาดูแลนายนี่ไง..ฉันเป็นห่วงนายนะ”





    “ไม่ต้องเป็นห่วงหรอก เดี๋ยวก็หายแล้ว”





    “ไม่เป็นไรน่าแบค นายสมควรได้พัก-”





    “ไม่จริง!” แบคฮยอนพยายามจะลุกขึ้นนั่งในขณะที่คยองซูกดไหล่ของอีกคนไว้ “ฉันไม่สมควร..ฉันไม่ควร..นายไม่เข้าใจ!” แบคฮยอนทิ้งตัวลงนอนด้วยความเหนื่อยอ่อนก่อนจะถอนหายใจ





    “นายกำลังพูดอะไรของนาย?” คยองซูถามก่อนจะหยิบผ้าขนหนูที่ตกลงมาวางลงบนหน้าผากของอีกคนอีกครั้ง





    แบคฮยอนขบริมฝีปากล่างเบาๆ สบตาคยองซูแว้บหนึ่งก่อนจะพึมพำ





    “ฉันไม่สมควรได้พัก..ฉันจะขี้เกียจไม่ได้ ฉันเป็นคนสุดท้ายที่สมควรจะได้พัก”





    คยองซูเงียบไปสักพัก





    “ทำไมถึงคิดแบบนั้น?” ร่างเล็กถามเสียงอ่อน





    แบคฮยอนถอนหายใจอีกครั้ง..ดวงตาเอ่อคลอไปด้วยน้ำใสๆ คยองซูไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะพิษไข้หรืออะไรกันแน่





    “ฉันยังเป็นคนที่มาทีหลัง ฉันไม่ได้ฝึกเป็นปีในขณะที่พวกนายฝึกกันแทบตาย ฉันไม่มีเวลามานั่งพักหรอกนะ..” แบคฮยอนเอ่ยก่อนจะกระแอมไอเบาๆ “ฉันไม่สมควรได้พัก ฉันสมควรจะทำงานหนักขึ้นเพื่อตามพวกนายให้ทัน”





    แบคฮยอนเบือนหน้าหนีก่อนจะเช็ดน้ำตาลวกๆ





    คยองซูได้แต่มองแบคฮยอนด้วยสายตาอ่อนโยน..เขาไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไร





    “ทำไมถึงพูดแบบนั้นล่ะ แบค?” คยองซูเริ่ม “นายเป็นส่วนหนึ่งของพวกเรา นายสมควรได้รับทุกอย่างเท่าเทียมกับพวกเราไม่ว่านายจะฝึกมากี่ปีก็ตาม”





    แบคฮยอนเงียบ





    “พวกเราทั้งหมดต่างก็ทำงานหนักเพื่อสิ่งนี้ทั้งนั้น รวมถึงนายด้วย..ไม่เกี่ยวว่านายจะเพิ่งมาใหม่หรืออะไรก็ตาม นายคิดว่าจงแดจะคิดแบบนายงั้นเหรอ?” คยองซูเอ่ยถาม





    แบคฮยอนหันมามองคยองซูเล็กน้อยด้วยใบหน้าจริงจัง





    “นายไม่สังเกตเหรอ? ทุกครั้งที่ได้รับรางวัล..นายไม่สังเกตเหรอว่าจงแดพยายามแค่ไหนที่จะไม่ร้องไห้?” แบคฮยอนเอ่ยถามในขณะที่คยองซูได้แต่มอง





    “จงแดรู้สึกว่ามันยังไม่สมควรที่จะได้ร้องไห้กับทุกคนเพราะมันยังอยู่มาไม่นานพอ ฉันกับจงแดน่ะ..เราคุยกันบ่อยๆ” แบคฮยอนอธิบายก่อนจะปัดผ้าที่อยู่บนหน้าผากออก ดวงตาปรือเพราะความเหนื่อยอ่อน





    “ฉันก็แค่ต้องทำงานให้หนักขึ้น..” แบคฮยอนพึมพำง่วงๆ





    “ฉันก็แค่…” ปลายประโยคเบาลงก่อนที่คนป่วยจะเข้าสู่ห้วงนิทราในที่สุด มือเรียวกำผ้าห่มไว้แน่น





    คยองซูยังคงนั่งอยู่ตรงนั้น สายตาทอดมองไปยังร่างของอีกคนก่อนจะเบ้หน้า





    “คนโง่..” คยองซูเอ่ยเสียงเบาก่อนจะลูบแก้มที่ขึ้นสีระเรื่อเพราะพิษไข้ของอีกคนอย่างแผ่วเบา





    ร่างเล็กลุกขึ้นจากเตียงก่อนจะเก็บผ้าขนหนูและกะละมังใส่น้ำออกจากห้องเงียบๆ





    ทันทีที่คยองซูออกมาจากห้อง..จุนมยอนก็รีบเดินมาถามไถ่ด้วยความเป็นห่วง เมมเบอร์คนอื่นๆที่นอนดูทีวีอยู่ก็มองมาทางนี้เช่นกัน





    “แบคฮยอนเป็นยังไงบ้าง? ต้องพาไปโรงพยาบาลอีกรึเปล่า? เป็นหนักมากมั้ย?” จุนมยอนรัวถาม





    “ไม่เป็นไรมากหรอก อยู่ที่นี่ก็โอเคแล้วครับฮยอง” คยองซูตอบยิ้มๆ ในใจก็นึกไปถึงตอนที่แบคฮยอนตื่นขึ้นมาอาละวาดในโรงพยาบาลเมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่แล้ว หมอบอกว่าเป็นอาการของคนขาดน้ำและพักผ่อนไม่เพียงพอ..บวกกับไข้ที่ขึ้นถึง 40 องศาทำให้เป็นลมล้มพับไป





    ทันทีที่ฟื้น..แบคฮยอนก็ขอกลับบ้านและไม่ยอมนอนเฉยๆจนหมอต้องตอบตกลงอย่างเสียมิได้ กลัวว่าแบคฮยอนจะอาละวาดจนดึงเข็มน้ำเกลือออกด้วยตัวเองน่ะสิ





    “แบคแค่ต้องพักผ่อนน่ะครับ” คยองซูบอกจุนมยอนก่อนจะเดินไปวางผ้าขนหนูและกะละมังในครัว จุนมยอนที่ได้ยินดังนั้นก็พยักหน้ารับแม้ดวงตาจะยังแสดงออกถึงความกังวลอย่างเห็นได้ชัด แต่เป็นเพราะเขาเชื่อใจคยองซูเลยไม่ได้ถามอะไรต่อ จุนมยอนตบบ่าคยองซูเบาๆก่อนจะเดินไปรายงานเมมเบอร์คนอื่นๆ





    คยองซูหยิบหม้อและเตรียมวัตถุดิบในการทำซุปให้คนป่วยที่นอนแหม็บอยู่ในห้อง เผื่อว่าตื่นมาแล้วจะหิว..





    คยองซูถอนหายใจเมื่อนึกไปถึงเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้น เขาไม่รู้เลยว่าอาการป่วยของแบคฮยอนจะทำให้เขาร้อนรนถึงเพียงนี้






    มันเป็นเหตุการณ์ที่สุดวิสัยมาก..การมองแบคฮยอนล้มฟุบลงไปตรงหน้าราวกับภาพสโลว์โมชั่น พวกเขาทั้งหมดกำลังอยู่ในห้องซ้อมและกำลังซ้อมท่าเต้นวนไปวนมาเพื่อความแม่นยำดั่งเช่นทุกวัน





    ในระหว่างที่เต้น “อือรือรอง”..คยองซูเห็นเงานสะท้อนของแบคฮยอนผ่านกระจก เขารู้ว่าแบคฮยอนเต้นช้าไปครึ่งจังหวะ ท่าเต้นไม่คมชัดเหมือนที่ผ่านๆมา อีกทั้งใบหน้ายังดูซีดเซียวแปลกๆแต่แล้วคยองซูก็ต้องรีบละสายตาออกมาโฟกัสกับท่าเต้นของตัวเอง





    พวกเขาเต้นกันจนมาถึงท่อนที่ทุกคนจะต้องย่อตัวลง บิดตัว และถีบตัวเองขึ้นมาขืน..




    คยองซูเห็นเงาสะท้อนของแบคฮยอนชะงักไป..ร่างเล็กจึงรีบหันไปมอง ทันทีกับที่แบคฮยอนล้มฟุบลงไปนอนแน่นิ่งกับพื้น





    หัวใจของร่างเล็กกระตุกวูบก่อนที่ขาทั้งสองข้างจะวิ่งไปทางแบคฮยอนอย่างรวดเร็ว คยองซูคุกเข่าลงก่อนจะดึงอีกคนขึ้นมาหนุนตัก





    “แบคฮยอน? แบค ตื่นสิ แบค!” คยองซูตะโกนอย่างตระหนกเมื่อเห็นใบหน้าซีดเซียวและริมฝีปากสีม่วงคล้ำ มือเล็กเอื้อมขึ้นไปแตะหน้าผากของอีกคนก่อนจะสบถเบาๆ





    “ไข้สูงมากเลย เราต้องพาแบคไปโรงพยาบาลนะ!” คยองซูเอ่ย ความกลัวเริ่มกัดกินใจ..





    เสียงเพลงที่ดังออกมาจากลำโพงหยุดลงในขณะที่เมมเบอร์คนอื่นๆต่างก็ล้อมร่างของแบคฮยอนด้วยความตกใจ จุนมยอนรีบยกหูโทรศัพท์โทรเรียกพี่ๆเมเนเจอร์ก่อนจะทำมือเป็นเชิงให้เหล่าเมมเบอร์หามแบคฮยอนออกไปข้างนอก





    ชานยอลกับอู๋ฟานย่อตัวลงก่อนจะพยายามดึงร่างของแบคฮยอนออกมาจากอ้อมแขนของคยองซู  จงอินบีบไหล่ของคยองซูเบาๆ ร่างเล็กจึงยอมปล่อยให้ชานยอลกับอู๋ฟานหามร่างของแบคฮยอนขึ้นรถไป คยองซูรีบขึ้นรถคันเดียวกันก่อนจะสั่งให้เมเนเจอร์ขับรถเร็วๆ





    คยองซูวางหัวของแบคฮยอนลงบนตักของตัวเองก่อนจะลูบผมของอีกฝ่ายอย่างแผ่วเบา ร่างของแบคฮยอนที่นอนหายใจรวยรินอยู่บนตักเขาทำให้เขาใจหาย





    ทันทีที่ไปถึงโรงพยาบาล นางพยาบาลก็เข้ามาดูแลแบคฮยอนอย่างรวดเร็ว สายน้ำเกลือถูกต่อเข้าแขนเรียวโดยอัตโนมัติ





    เพราะเมมเบอร์มีเยอะเกินที่จะอยู่กับแบคฮยอนได้ครบทุกคน คนอื่นๆเลยออกจากห้องไปเหลือเพียงแค่คยองซูกับจุนมยอนเท่านั้น พวกเขาทั้งสองนั่งเฝ้าแบคฮยอนเงียบๆ สายตาทอดมองแบคฮยอนด้วยความเป็นห่วง





    ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปกี่ชั่วโมงที่คยองซูนั่งอยู่ตรงนั้นไม่ขยับไปไหน แต่ทันทีที่ได้ยินเสียงแบคฮยอนขยับตัว..ร่างเล็กก็รีบลุกพรวดขึ้นไปยืนข้างเตียงทันที





    คยองซูกุมมืออีกคนไว้แน่นในขณะที่แบคฮยอนลืมตาขึ้นช้าๆ..ดวงตาเรียวมองไปรอบๆงงๆอยู่พักหนึ่งก่อนจะตัดสินใจเอ่ยถาม





    “..ก..เกิดอะไรขึ้น?” แบคฮยอนเอ่ยเสียงแหบพร่า





    คยองซูถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอกก่อนจะบีบมืออีกคนเบาๆ





    “นายอยู่ที่โรงพยาบาลน่ะ นายสลบไปตอนซ้อมเต้น”





    แบคฮยอนเบ้หน้าด้วยความขัดใจเมื่อได้ยินดังนั้น คิ้วเรียวขมวดมุ่น





    “บ้าเอ้ย...บ้าเอ้ย..” แบคฮยอนสบถ





    คยองซูได้แต่กระพริบตตาปริบๆ งงกับอาการจองคนตรงหน้า





    “แบคฮยอน?”





    “พาฉันกลับหอที..นะ?” แบคฮยอนเอ่ยขอร้อง





    “แบค นายยังไม่แข็งแรงดีนะ หมอบอกว่า-”





    แบคฮยอนไม่ฟังคำของคยองซูเลยแม้แต่น้อย ร่างบางพยายามจะลุกขึ้นนั่งทั้งๆที่ยังไม่มีแรงดี คยองซูรีบประคองอีกคนด้วยความตกใจ จุนมยอนเองก็รีบวิ่งไปเรียกหมอก่อนที่แบคฮยอนจะทำอะไรบ้าๆอย่างเช่นดึงสายน้ำเกลือออกมาจากแขนตัวเอง





    หลังจากที่นางพยาบาลเข้ามาตรวจอาการอย่างละเอียด..ทางโรงพยาบาลก็ให้แบคฮยอนกลับบ้านได้โดยมีข้อแม้ว่าจะต้องพักผ่อนให้เพียงพอและทานอาหารให้ตรงเวลา






    นึกย้อนกลับไป...คยองซูรู้แล้วว่าทำแบคฮยอนถึงมีอาการต่อต้านแบบนั้น ร่างเล็กเทซุปที่ทำเสร็จแล้วใส่ถ้วยก่อนจะทำความสะอาดห้องครัวและเดินไปที่ห้องของแบคฮยอน





    แบคฮยอนยังคงนอนขดตัวอยู่ใต้ผ้าห่มก่อนจะครางเบาๆเหมือนที่ทำทุกครั้งเวลานอนหลับ คยองซูมองแบคฮยอนอยู่พักนึงก่อนจะตัดสินใจสอดตัวเข้าไปใต้ผ้าห่มผืนเดียวกัน แขนเล็กพาดลงบนเอวของอีกคนก่อนจะลูบหลังมือเรียวเบาๆ





    คยองซูได้แต่นอนมองหน้าแบคฮยอนอยู่อย่างนั้น ใบหน้าที่แดงเพราะพิษไข้ดูดีกว่าใบหน้าไร้สีเลือดที่คยองซูเห็นก่อนหน้านี้เยอะเลย ร่างเล็กยิ้มบางๆก่อนจะผล็อยหลับไปทั้งอย่างนั้น





    ร่างเล็กถูกปลุกให้ตื่นเพราะเสียงไอถี่ๆของแบคฮยอน คยองซูรีบเด้งตัวขึ้นมาหยิบแก้วน้ำบนหัวเตียงก่อนจะยื่นให้แบคฮยอนทันที พอแบคฮยอนหยุดไอแล้ว..คยองซูจึงดันร่างอีกคนให้นอนลงก่อนจะดึงผ้าห่มขึ้นมาห่มทั้งร่างของแบคฮยอนและร่างของตัวเอง แขนเล็กพาดลงบนเอวของอีกคนอีกครั้ง





    ร่างของแบคฮยอนยังคงสั่นน้อยๆเพราะพิษไข้ คยองซูจึงกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้นก่อนจะลูบแผ่นหลังของอีกคนเบาๆ





    “นอนแบบนั้นเดี๋ยวก็ตกเตียงหรอก” แบคฮยอนเอ่ยเสียงแหบ ดวงตาปรือขึ้นมองอีกคน





    “ฉันโอเค” คยองซูเอ่ย





    “นายล่ะ? นายจะโอเคใช่ไหม?”





    แบคฮยอนหลบสายตา..เขารู้ว่าคยองซูไม่ได้หมายถึงเรื่องอาการป่วย มือเรียวกำผ้าปูที่นอนแน่น..เขาๆม่รู้ว่าควรจะตอบคยองซูว่าอะไร





    คยองซูถอนหายใจก่อนจะขยับเข้าไปใกล้ขึ้นจนใบหน้าของทั้งสองแทบจะติดกัน





    “คนโง่เอ๊ย” คยองซูพึมพำเบาๆ น้ำเสียงเจือปนไปด้วยความเศร้าเล็กๆ





    ร่างเล็กเอื้อมมือข้างที่วางพาดอยู่บนเอวไปประสานกับมือของอีกคนแทน แบคฮยอนมองมือของทั้งสองที่ประสานกันก่อนจะเลื่อนสายตาขึ้นมาสบกับคยองซูด้วยสายตาเศร้าๆ





    “นายมองไม่เห็นจริงๆเหรอแบคฮยอน?” คยองซูถามตัดพ้อจนแบคฮยอนต้องเลิกคิ้วด้วยความสงสัย





    “นายพยายามจะไล่ตามคนอื่นให้ทันจนมองไม่เห็นว่าตัวเองทำงานหนักมากจนตามคนอื่นทันแล้ว” คยองซูยิ้มน้อยๆก่อนจะบีบมืออีกคนเมื่อแบคฮยอนตั้งท่าจะเถียง





    “นายทำงานหนักมากนะ แบค” คยองซูเอ่ยเสียงนุ่มก่อนจะแย้มยิ้มรูปหัวใจ ร่างเล็กยื่นหน้าไปจุ๊บจมูกของอีกคนด้วยความเอ็นดู





    “นายสมควรที่จะได้มายืนอยู่ตรงนี้กับพวกเรา เพราะฉะนั้นเดินไปด้วยกันจนจบเถอะนะ” คยองซูเอ่ย





    แบคฮยอนเบือนหน้านีแต่หยดน้ำใสๆที่ใหลออกมาจากดวงตาก็ไม่สามารถรอดพ้นสายตาของคยองซูไปได้ ร่างเล็กเอื้อมมือขึ้นมาเช็ดน้ำตาของอีกคนก่อนจะหัวเราะเบาๆ





    แบคฮยอนยื่นหน้าเข้าไปใกล้อีกคนก่อนจะจรดริมฝีปากลงบนแก้มใส่อย่าแผ่วเบาเพื่อเป็นการสื่อว่าเขารู้สึกขอบคุณแค่ไหนที่คยองซูอยู่เคียงเข้ามาตลอด ขอบคุณจริงๆ...








    ...Finale...












    ทอล์คกับไรท์แอน
    มาอีกเรื่องแล้ว อย่างที่ไรท์เคยบอก..คยองซูกินกับอะไรก็อร่อย อิ้อิ้
    เรื่องนี้ก็เป็นเรื่องที่ไม่มีอะไรมาก เน้นความละมุนกันไป -/-
    เรื่องต่อไปที่จะแปลอาจจะเป็นชานแบคหรือไม่ก็ไคซูนะ ใครชอบก็ติดตามให้ดีนะเคอะ

    สุดท้ายนี้..อยากให้เม้นกับกสกรีมกันเยอะๆ
    ไรท์จะได้มีกำลังใจในการแปลต่อเนอะะะ \'0'/

    สกรีมฟิคโปรดติดแท็ก
    #คลังฟิคดด
     
     
    ⓒ:baby
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×