ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    My mam is young [ fic: hanhyuk]

    ลำดับตอนที่ #11 : My mam is young [SP kangteuk] (รีไรท์)

    • อัปเดตล่าสุด 6 มิ.ย. 53


    SP: KangTuek

    วันนี้คงเป็นวันดีอีกวันซินะ อันที่จริงเรียกว่าดีทุกวันมากกว่าหลังจากที่ผมแอบชอบคนๆนึงมาตั้งแต่สมัยมัธยม แต่พอเข้ามหาลัยได้ไม่นานผมก็เริ่มจีบเค้า เค้าเป็นคนตาสวยเอาเป็นว่าใครเห็นครั้งแรกเป็นต้องชอบ เวลายิ้มเค้าจะมีลักยิ้มเล็กที่มุมปากข้างซ้าย หลังจากเราคบกันได้ทำความรู้จักกันมากขึ้นผมก็รู้ได้เลยว่าคนๆนี้แหล่ะว่าที่ภรรยาของผม บอกตรงๆคุณแม่ของผมท่านไม่ค่อยชอบเค้าเท่าไหร่หรอกเพราะท่านหน่ะอยากให้ผมแต่งงานกับผู้หญิงมากกว่า ทำไงได้เนื้อคู่คนเราไม่จำเป็นต้องต่างเพศนี่นาผมรักเค้ามากจริงๆคงปล่อยเค้าไปไม่ได้หรอก

     

    มหาลัยพารึม

    ร่างบางของใครบางคนกำลังนั่งชายคนรักอยู่หน้ามหาลัยไม่นาน ร่างบางก็สัมผัสได้ถึงความอุ่นที่แทรกซึมมาตามเอวบาง ตาสวยก้มลงมองที่เอวของตน ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าใครที่มาทำแบบนี้กับเค้า

     

    “คังอิน ฉันตกใจหมดนายมาไม่ให้ซุ่มให้เสียง” คนตาสวยหันมองข้างหลังก่อนจะเอ่ยบอก

    “ผมขอโทษครับ คุณรอผมนานหรือเปล่าคนดี” เสียงเข้มเอ่ยขึ้นพร้อมหน้าคมที่ก้มลงหอมแก้มของร่างบาง

    “อ๊ะ!!! คังอินอย่าทำแบบนี้ซินี่มันหน้ามหาลัยนะ” คนตาสวยเอ่ยพรางจับแก้มของตนที่ถูกร่างหนาหอม

    “แบบนี้ดีแล้วทุกคนจะได้รู้คุณน่ะของผม ผมหล่ะเบื่อจริงๆไอ้ผู้ชายที่มันชอบมองคุณหน่ะ เฮ้ออออ” พูดจบก็จับมือร่างบางให้ลุกขึ้นให้เดินไปพร้อมกัน

    “เอ่อ.....จะไปไหนอะคังอิน” คนตาสวยเอ่ยถาม

    “ไปกินข้าวครับ อาหารมือเช้าเนี่ยสำคัญนะไม่ทานเดี๋ยวสมองจะไม่แล้นเอา^^” พูดจบก็พาร่างบางขึ้นรถก่อนจะขับออกนอกมหาลัยไป

     

    …..My mam is young…..

     

                                                                                                                                                                                

    ร้านอาหารแห่งหนึ่ง

    คังอินอ่า ฉันว่าเราไปกินร้านอื่นดีกว่าดูๆแล้วร้านนี้ต้องแพงมากแน่ๆเลย” ตั้งแต่ร่างหนาขับรถมาถึงร้านอาหาร อีทึกก็เอาแต่บอกว่าจะไม่กินท่าเดียวเลย ด้วยเหตุที่ว่ามันหรู ราคาแพงผมแค่ให้เค้ามานั่งกินไม่ได้ให้มานั่งจ่ายนิจะบ่นทำไมก็ไม่รู้แฟนใครนะ?

    “ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมอยากเลี้ยงเข้าไปกันเถอะครับ” ร่างหนาเอ่ยพรางดึงข้อมือร่างบางให้ตามเข้ามาในร้านอาหาร

    “แต่ว่าคังอิน ฉันเกรงใจนี่น่า”

    “แต่เราเป็นแฟนกันนะ มากกว่านี้ผมก็ให้คุณได้นะ”

    “แต่...............”

    “ไม่มีแต่ผมรักคุณ ผมอยากให้คุณได้ทานของดีๆบางให้ผมทำเพื่อคุณเถอะนะคนดี” ร่างหนาใช้ไม้เด็ดส่งสายตาอย่างอ้อนๆ พร้อมเอ่ยคำหวานทำไมอีทึกต้องเข้าไปโดยปริยาย

    หลังจากท่านอาหารมื้อเช้าเสร็จ ร่างหนาก็ขับรถพาคนตาสวยมาส่งที่หน้าตึกเรียนเพราะเค้ากับอีทึกเรียนคนละคณะกันร่างบางเรียนคณะสถาปัตส่วนเค้าเรียนบริหาร ตึกทั้ง 2 ก็ห่างกันเป็นกิโลทำไมมาอยู่ข้างๆกันนะ

     

    “อีทึกครับเดี๋ยวกลางวันผมมาหาที่ห้องนะครับ”

    “อื้ม^^

    “ตั้งใจเรียนนะครับคนดี”

    “นายก็เหมือนกันฉันจะรอที่ห้องนะ”

    “ครับที่รัก” พูดจบก็เดินไปขึ้นรถของตนแล้วขับไปยังตึกบริหาร

    ร่างบางเดินขึ้นตึกเรียนของตนไป ระหว่างทางถึงห้องมาแต่สายตาจับจ้องมาที่เค้า พรางซุบซิบนินทา

    “เนี่ยหรอคู่ควงใหม่ของพี่คังอิน ดูจืดๆยังไงก็ไม่รู้

    “ไม่เห็นสวยเลยสู้ฉันก็ไม่ได้ยังไงของแท้ก็ย่อมดีกว่าของเทียมอยู่แล้ว”

    “พี่คังอินจะควงกี่วันเชี่ยว เดี๋ยวก็คงฟันแล้วเขี่ยทิ้งเหมือนเคย”

     

    ใช่ก่อนหน้าที่จะได้คบกันเค้ารู้คังอินเจ้าชู้ขนาดไหนตั้งแต่ที่โรงเรียนเก่ายันมาถึงมหาลัย เค้าไม่รู้หรอกว่าคังอินพูดคำว่ารักนั้นมันจริงใจแค่ไหน แต่ในเมื่อรักเค้าไปแล้วยังไงก็ต้องเชื่อใจ อาจจริงอย่างที่เค้านั้นบอกว่าซักวันเค้าคงต้องถูกคังอินทิ้ง แต่ก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่อาจจะเร็วๆนี้ อาทิตย์หน้า เดือนหน้า ปีหน้าเพราะตอนนี้เรา 2 คนทำกันมากที่สุดแค่จับมือเมื่อไหร่ที่เค้ากับคังอินรักกันมากขึ้นด้วยร่างกายเค้าคงถูกคังอินทิ้งเป็นแน่

    “ทึกกี้มาแล้วหรอ” เสียงของเพื่อนสนิทดังมาแต่ไกลจากในห้อง

    “อื้ม ชอลลี่มานานแล้วหรอ” ฮีชอลหลานเจ้าของมหาลัยแห่งนี้ทักขึ้น ไม่ต้องสงสัยเลยทำไมพอเธอผู้นี้ออกมาทุกคนถึงได้เงียบทำแต่เรื่องของตัวเอง เพราะใครๆก็รู้ฮีชอลกับอีทึกสนิทกันมากเวลาใครทำอะไรอีทึกฮีชอลจะเป็นปกป้องเสมอ ถ้ารู้ว่ามีคนมาด่าเพื่อนรักล่ะก็มันผู้นั้นไม่ได้เรียนที่นี่แน่นอน

    “ทึกกี้แกเป็นอะไรทำไมหน้าแกเหมือนจะร้องไห้”ฮีชอลที่เห็นหน้าเพื่อนจะร้องไห้ออกอาการร้อนรน

    “เปล่าหรอกพอดีฝุ่นเข้าตาหน่ะ”

    “แต่แกตาแดงๆนะไปห้องพยาบาลมั้ย”

    “ไม่เป็นไรหรอกนี่จะเข้าเรียนแล้วไปเข้าห้องเถอะ”

    “ทึกกี้แกมีไรก็บอกฉันนะเพราะแกเป็นเพื่อนรักฉันหรือว่าไอ้หมีบ้าพลังนั้นมันทำอะไรแก”

    “เปล่าหรอก”

    “มันจะทิ้งแกหรือเปล่าแกบอกฉันได้นะฉันจะได้ไปจัดการกับมัน”

    “ไม่ใช่หรอก คังอินไม่ได้ทำ เอาไว้ค่อยเล่าดีกว่าเข้าเรียนเถอะ”

    “นั้นไงมีอะไรจริงๆแกต้องรีบเล่านะเดี๋ยวคืนนี้ฉันนอนไม่หลับ”

    “โอเคไปเข้าเรียนเถอะ”

     

    …..My mam is young…..

     

    หลังจากเลิกเรียนเสร็จฮีชอลก็เอาแต่ถามเพื่อนตาสวยเค้นความจริงออกมาให้จงได้ เท่านั้นแหล่ะคนอย่างคิมฮีชอลมีหรอจะยอม

     

    “นี่พวกแกคนไหนมาว่าเพื่อนฉัน!!!!!” ร่างบางตะโกนถามเสียงสูงจนคนทั้งห้องหันมามอง

     

    “ฉันถามไม่ได้ยินหรือไงฮะ!!!”ร่างบางตะโกนอีกครั้งพรางกราดมองไปรอบห้อง

     

    “ไม่บอกก็ดีงั้นก็ไม่ต้องมีใครในนี้มีชื่อเป็นนักศึกษาในมหาลัยดีซักคน”

     

    “ชอลลี่พอเถอะ ชั่งมันเถอะฉันไม่เป็นไรหรอก” อีทึกพยามห้าม ใครๆก็รู้เวลาฮีชอลโกธรมันน่ากลัวขนาดไหน

     

    “ไม่ได้ อีนั้นมันเป็นเทพพยากรณ์หรือไงมาเสือกยุ่งเรื่องชาวบ้านฮะ!!!!” ฮีชอลยังคงตะโกนต่อไป

     

    “ชอลลี่อ่า” อีทึกก็ไม่ลดความพยามยังคงส่งสายตาไปห้ามฮีชอลอยู่

     

    “คนดีทำอะไรอยู่หรอครับ”เสียงของตัวต้นเหตุนั้นเอง คังอินเดินเข้ามาในห้อง ก่อนจะเดินไปโอบเอวบางของคนตาสวยและเอ่ยถามเสียงหวาน

     

    “ทำอะไรน่ะหรอ ฉันก็กำลังจะหาเทพธิดาพยากรณ์ชีวิตคู่แก 2 คนไง”

     

    “ทำไมเกิดอะไรขึ้นงั้นหรอ” คังอินเอ่ยถามพรางมองไปรอบห้อง

     

    “เอ่อ ไม่มีอะไรหรอกคังอินคือเราไปกันเถอะ”อีทึกเอ่ยขึ้นพรางดึงแอนของคังอินให้เดินออกจากห้องเรียน

     

    “ไม่ได้ทึกกี้ นายยังไปไม่ได้”ฮีชอลเอ่ยขึ้น พรางดึงมือของคังอินและอีทึกไว้

     

    “พอเถอะนะชอลลี่ฉันขอร้อง”

     

    “เกิดอะไรขึ้นหรอครับอีทึก” ร่างหนาหันหน้ามาถามอีทึก

     

    “คังอินแกสัญญาไม่ซิสาบานมาว่าแกจะรักและไม่ทิ้งเพื่อนฉัน พูดซิ” ฮีชอลเอ่ยขึ้นและมองไปรอบห้อง

     

    “ฉันไม่รู้ว่าก่อนที่ฉันจะมาถึงที่นี่มันเกินอะไรขึ้น แต่ฉันจะบอกไว้ตรงนี้มันฉันรักอีทึกมากและจะไม่ยอมเสียเค้าไปเด็ดขาดไม่ว่าอะไรจะเกิดหรอแม้กระทั่งอีทึกเป็นฝ่ายจะไปฉันจะไม่มีวันปล่อยมืออีทึกแน่นอน” คังอินพูดพรางจับมืออีทึกแน่นบอกให้รู้ว่าที่เค้าพูดไปนั้นเค้าพูดมาจากใจไม่ได้โกหกแน่นอน

     

    “ดีจำที่แกพูดไว้ด้วยนะ และก็แม่เทพพยากรณ์คงได้ยินชัดแล้วนะ อย่าให้รู้ว่าใครว่าเพื่อนฉัน เอาเป็นว่าเรื่องถอนชื่อฉันจะไม่ทำเห็นแกทึกกี้แต่อย่าให้มีอีกนะฉันไม่ปล่อยแน่ๆ” พูดจบก็เดินกระแทกเท้าออกจากห้องไป

     

    “ไปกันเถอะครับอีทึก” ร่างหนาว่าจบก็เดินจูงมือคนตาสวยออกไปจาหห้อง

     

     

    …..My mam is young…..

     

    คุณพอจะบอกผมได้มั้ยว่าที่ห้องมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่” หลังจากที่ออกจากห้องคังอินก็ขับรถมาส่งอีทึกที่บ้าน

     

    “มันไม่มีอะไรหรอก จริงๆนะคังอิน” อีทึกว่าพรางหันหน้าไปมองตาคังอิน

     

    “เฮ้ออ.. ช่างเถอะผมไม่อยากรู้ก็ได้ แต่ที่ผมพูดไปในห้องผมพูดจริงนะมาจากใจ ผมรักคุณ” ร่างหนาเอ่ยคำรักก่อนจะมองไปที่หน้าของคนตาสวย

     

    “ฉันก็รักนายที่สุด^^” ว่าจบก็หันหน้าออกนอกหน้าต่างรถด้วยความเขิน

     

     

    …..My mam is young…..

     

     

     

    หลังจากคนหน้าสวยเดินออกจากห้องก็มุ่งหน้าไปยังตึกอำนวยการที่สูงตะหง่านที่สุดในมหาลัยแห่งนี้

     

    “ไปวีนอะไรมาหล่ะพ่อลูกชายสุดที่รัก” เดินเข้าตึกมาไม่นานผู้บริหารมหาลัยก็เอ่ยถามลูกชายตัวดีของตนขึ้นก็ดูจากหน้าตาแล้วไม่ไหวจะเคลียจริงๆ

     

    “เหอะ ช่างเถอะพ่อจะกลับหรือยังผมว่าจะไปเดินห้างซักหน่อยแก้เซ็ง” ร่างบางเดินเข้าห้องประจำตำแหน่งของบิดาก่อนจะออกมาพร้อมกระเป๋าแบนเนมรุ่นล่าสุด ก่อนจะเอ่ยถามผู้เป็นพ่อ

     

    “ไม่ได้วันนี้แกจะต้องไปกับพ่อ”

     

    “ไปไหนล่ะฮะ”

     

    “ไปกินข้าวกับเพื่อนพ่อ พอดีเค้าจะเอาลูกชายมาฝากเรียนที่นี่และแกก็ต้องไปด้วย เข้าใจ๋” ผู้เป็นพ่อเอ่ยขึ้น ในขณะที่ฮีชอลทำหน้ามู่อย่างเบื่อหน่าย

     

    “ไม่มีปัญญาสอบเข้าหรือไงทำไมต้องมาฝากด้วย”

     

    “ไม่ใช่หรอกเข้าน่ะเก่งจะตาย พ่อเลยไปขอให้เค้ามาเรียนที่นี่เพื่อเป็นตัวดึงดูดเด็กม.ปลายจะได้มาสอบที่นี่เพราะนักศึกษามหาลัยเรานั้นเก่งที่ 1” ผู้เป็นพ่ออธิบายเหตุผล

     

    “เหอะ พ่อนี่จริงๆเล้ย แค่นี้คนมันก็อยากเข้ามหาลัยเรากันจนจะไม่มีที่แล้วนะ”

     

    “แต่ถ้ามันเยอะขึ้นกว่าเดิมมหาลัยเราจะได้ดัง ทำไมแกไม่ชอบหรอเงินที่แกมีใช้ไม่ใช่เพราะมหาลัยหรือไง”

     

    “เออๆ รีบไปเถอะเดี๋ยวกลับบ้านดึกขึ้นมา พ่อจะโดนแม่เทศน์นะจะบอกให้ 555+” พูดจบก็รีบวิ่งไปขึ้นรถ ก็ถ้าอยู่ต่อจะต้องรับโทษจากคุณพ่อสุดที่รักแน่ๆเลย -*-

     

     

    …..My mam is young…..

     

     

    ภัตคารอาหารชื่อดังกลางกรุงโซล

     

    ลีมูซีนคันหรูถูกขับเข้ามายังที่หมายจากมหาลัยชื่อดัง 2 พ่อลูกเดินลงจากรถไปตามทางเดินของร้าน เหล่าพนักที่เดินทำความเคารพอย่างคุ้นเคยเนื่องด้วยทั้ง 2 นั้นเข้าออกบ่อยเพราะชอบมาทานอาหารที่นี่ ทั้งสองร่างขึ้นไปยังชั้นสูงสุดของภัตคารและเดินต่อไปยังห้องที่อยู่สุดทางก่อนจะเปิดเข้าไปด้านใน

     

    ภายในห้องมีคน 2 คนที่นั่งรออยู่ก่อนแล้วคนหนึ่งดูมีอายุส่วนอีกคนหน้าตาคมคายดูหล่อเหลา เหอะคงจะเป็นไอคนที่คุณพ่อพูดถึงแน่ๆ

     

    “ไงกว่าจะมาได้นะคุณผู้บริหาร” ชายคนที่ดูมีอายุพูดขึ้น

     

    “เออธุรกิจรัดตัวก็งี้ล่ะ ฮ่าๆๆๆๆ”คุณคิมเอ่ยขึ้น

     

    “ว่าไงเราโตเป็นหนุ่มหล่อเลยนะ”คุณคิมเอ่ยทักชายหนุ่ม

     

    “ขอบคุณครับคุณน้า”ชายหนุ่มลุกขึ้นโค้งให้คุณคิมก่อนจะหันมามองคนหน้าสวยที่ยืนอยู่ข้างๆ มองไรฟระไม่เคยเห็นคนหน้าตาดีหรือไง(เอิ่ม -*-)

     

    “สวัสดีฮะคุณลุง” ฮีชอลเอ่ยทักพรางโค้งให้กับเพื่อนของบิดาก่อนจะนั่งลงพร้อมคุณคิม

     

    “สวัสดีครับคุณ คิมฮีชอล” นั่งได้ไม่นานชายหนุ่มก็ทักร่างบางขึ้นก่อนจะยื่นมือไปทำความรู้จัก

     

    “สวัสดีครับคุณ..........”ร่างบางเอื้อมมือไปจับมือหนาก็ชายหนุ่มก่อนจะเอ่ยเป็นนัยๆถามชื่อ

     

    “ผม...................”

     

     

    My mam is young…..

     

    ครบ100%แล้น ใครกันนะ

    อยากจะรู้จักคิมซินคงเดากันได้โน๊ะ

    ไรเตอร์หายไปกี่เดือนนะ??????

    นานมากน่าจะ 2 เดือนได้แหะๆคือว่า

    คือว่าเรานั้นไม่ได้หนีนะแต่ไม่มีเวลา

    ช่วยแม่ขายของตั้งแต่เช้าเลิก 2 ทุ่มจะแต่งตอนไหนล่ะ -*-

    แต่ตอนนี้เปิดเทอมแล้วไม่ต้องขายแล้ว

    เราก็มีเวลาแต่ง+อัพซักทีเฮ้อออออออออ

    โรงเรียนก็ไกลบ้านเกิ๊นออกช้ารถก็ติด

    ขอโทษนะคะที่ให้คอย รักรีดเดอร์ที่สุด^^

    คิดถึงเกิง คัง บอมที่สุด

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×