คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : ตอนที่ 11: ขายสมุนไพร
เมื่อเซี่ยเหม่ยหลิงค่อย ๆ หยิบดอกฉั่งฉิงออกมา เจ้าของร้านจางซือจ้องมองด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง เขาเพ่งมองอย่างพินิจให้แน่ชัด และใบหน้าของเขาฉายแววตกใจและประหลาดใจอย่างเห็นได้ชัด
"นี่มัน...ดอกฉั่งฉิงสดแท้ ๆ รึ! พวกเจ้าไปเก็บมาจากที่ไหนกัน?” เขาถามด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นแต่ระมัดระวัง
นางก็ทำตาโตอย่างใสซื่อ พูดออกมาว่า “อ้าว นี่มันเรียกว่าดอกฉั่งฉิงหรือเจ้าคะ?”
จางซือยิ้มขำ ก่อนจะตอบกลับ “ใช่แล้วนังหนู ดอกฉั่งฉิงเป็นสมุนไพรที่ล้ำค่ามาก ใคร ๆ ก็อยากได้เพราะมันช่วยรักษาได้หลายโรค มีราคาสูงลิบลิ่วเลยล่ะ!”
นางทำหน้าทึ่ง “ข้าไม่รู้เลยเจ้าค่ะ! แหม โชคดีจริง ๆ นะเนี่ย” พูดจบก็ยิ้มให้พี่ชายทั้งสองที่มองกันไปมาเหมือนจะพูดว่า ‘น้องเรานี่…ช่างพูดได้รื่นไหลจริงเชียว ถ้าไม่รู้ว่าก่อนคงเชื่อนางไปแล้ว’
จางซือที่ได้ยินคำตอบของนางก็ยิ้มพลางหรี่ตามองอย่างไม่เชื่อ “เจ้าว่าไม่รู้จริง ๆ รึว่ามันคือสมุนไพร? แต่พอมาถึงก็เอาสมุนไพรมาขายที่นี่ตรงเป๊ะเลยนะ!”
เซี่ยเหม่ยหลิงยิ้มเจื่อน ๆ พลางเอียงศีรษะทำท่าใสซื่อ “แหม...ก็ข้าเห็นมันดูสวยดีเลยเอามาลองขายน่ะเจ้าค่ะ แต่ไม่ได้รู้เลยจริง ๆ ว่ามันมีราคาขนาดนี้”
จางซือหัวเราะออกมาเบา ๆ “ดูท่าความบังเอิญของเจ้าจะทำเงินได้น่าดู ข้าเองก็ไม่อยากเชื่อว่าจะมีคนเจอสมุนไพรนี้โดยไม่รู้อะไรเลย”
เซี่ยเหม่ยหลิงยิ้มบาง ๆ ไม่ได้บอกรายละเอียดมากนัก “ร้านของท่านรับซื้อไหม?”
จางซือพยักหน้าเร็ว ๆ ราวกับเกรงว่าจะพลาดโอกาส “แน่นอน ข้าจะซื้อไว้ทั้งหมดล่ะกัน!ดอกฉั่งฉิงของเจ้าน่ะ ข้าให้ราคา 3 ตำลึงต่อดอกเลย” เขายิ้มกว้าง ขณะพูดต่อด้วยความจริงใจ “ถ้าเจ้ายังมีสมุนไพรอื่นอีก ข้ายินดีจะซื้อทั้งหมดด้วยราคาเต็ม ไม่ต้องห่วงเลย!”
เซี่ยหยวนกับเซี่ยเฉิงที่ยืนอยู่ข้าง ๆ มองเงินก้อนโตอย่างทึ่ง เมื่อรวมดอกไม้ในตะกร้าทั้งหมดแล้ว นางได้เงินมามากถึง 300 ตำลึงเงิน ซึ่งเป็นจำนวนที่สูงมากเมื่อเทียบกับค่าครองชีพของพวกเขา เซี่ยเฉิงหันไปกระซิบกับเซี่ยหยวน “นี่เรามีสมุนไพรที่มีค่าอยู่ใกล้ตัวมาตลอด แต่ไม่เคยรู้เลย…”
จางซือยิ้มกว้างด้วยความเป็นมิตร ก่อนจะยื่นเงินให้เซี่ยเหม่ยหลิง “นี่เป็นค่าดอกฉั่งฉิงทั้งหมด เจ้าหนู หากมีอีกอย่าลืมเอามาขายให้ข้านะ ข้ารับรองว่าราคาจะยุติธรรมที่สุดในเมืองนี้!”
"เจ้าคะ!" นางเอ่ยถามด้วยแววตาที่ใสซื่อปนสนใจว่า “ดอกฉั่งฉิงนี้ ทุกส่วนล้วนเป็นสมุนไพรใช่ไหมเจ้าคะ?”
จางซือที่ได้ยินคำถามนี้ถึงกับชะงักเล็กน้อยก่อนจะมองนางด้วยแววตาประหลาดใจแต่ก็ยิ้มและตอบตามตรงว่า “ใช่แล้วนังหนู! ในเมื่อเก็บดอกมาแล้วอีกประมาณหนึ่งเดือนรากของมันก็จะพร้อมเก็บ และจะขายได้ราคาดีกว่าดอกอีกด้วย!”
พอนางได้ยินคำตอบนั้น ตาเป็นประกายลุกวาว รีบพยักหน้าอย่างตื่นเต้น “อย่างนี้พวกเราก็จะมีรายได้อีกก้อนแล้วสิ!”
จางซือหัวเราะเบาๆ เอ็นดูในความฉลาดที่น่ารักของนาง ก่อนจะเอ่ยชม “เจ้าฉลาดและรู้จักคิดเกินตัวจริงๆ ข้าไม่ค่อยเจอเด็กที่รู้จักวางแผนขนาดนี้เท่าไร”
สองพี่น้องได้ยินว่ารากของดอกฉั่งฉิงขายได้ราคาดีกว่าดอกเสียอีก ถึงกับอ้าปากค้างพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย ทั้งสองหันไปสบตากัน ก่อนจะนึกถึงทุ่งสมุนไพรที่เต็มไปด้วยดอกฉั่งฉิงบนภูเขาที่พวกเขาเพิ่งไปสำรวจมาเมื่อวาน
เซี่ยเฉิงอดไม่ได้ที่จะหันมาพูดกับเซี่ยหยวน “พี่ใหญ่....ข้าไม่ได้ฝันไปใช่ไหม?”
เซี่ยหยวนพยักหน้าหงึกๆ ดวงตาเป็นประกายไม่แพ้น้องชาย
ก่อนจะจ่ายเงิน จางซือก็อดยิ้มไม่ได้เมื่อได้ยินคำขอของนาง จึงเอ่ยชมด้วยความชื่นชม "เจ้าหนูนี่รอบคอบจริง ๆ รู้จักแบ่งเงินได้อย่างเหมาะเจาะขนาดนี้ สมแล้วที่มีแผนการดี"
นางยิ้มแก้มปริพลางเอ่ยอย่างภาคภูมิใจ "ต้องระวังไว้เจ้าค่ะ เผื่อมีเรื่องฉุกเฉินจะได้มีเงินพร้อมใช้งานทุกสถานการณ์"
เซี่ยหยวนกับเซี่ยเฉิงที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ถึงกับพยักหน้าหงึก ๆ เหมือนเข้าใจความคิดอันรอบคอบนี้ของน้องสาว แต่ในใจแอบคิดตามว่า ตั๋วเงินมากมายแบบนี้จะเอาไปซ่อนที่ไหนดีไม่ให้ใครรู้
เมื่อได้ตั๋วเงินใบละห้าสิบตำลึงห้าใบ ตั๋วเงินใบละสิบตำลึงสี่ใบ และเหรียญอีแปะอีกหลายกำมือ ทั้งสามพี่น้องก็มองกองเงินตรงหน้าด้วยความตื่นเต้นเป็นอย่างยิ่ง
เซี่ยเหม่ยหลิงรับเงินด้วยใบหน้าที่พยายามเก็บอาการไว้ แต่ตาก็ลุกวาวอย่างเห็นได้ชัด พอหันไปมองพี่ชายสองคน ก็พบว่าพวกเขายืนนิ่งแข็งเป็นหิน ดวงตาเบิกกว้างและปากอ้าค้าง ไม่ต่างจากปลาที่เผลอกลืนน้ำเข้าไปจนจุก
"พี่ใหญ่ พี่รอง หายใจหน่อย ข้ากลัวว่าพี่จะเป็นลมคาแผงสมุนไพร" นางพูดยิ้ม ๆ ก่อนจะตบไหล่พี่ใหญ่เบา ๆ เซี่ยหยวนสะดุ้งเหมือนเพิ่งหลุดจากภวังค์ เขามองตั๋วเงินในมือน้องสาวอย่างไม่เชื่อสายตา แล้วรีบหันไปกระซิบกับเซี่ยเฉิง
"น้องสาวนาง…ร้ายกาจกว่าที่ข้าคิดนะ…" เซี่ยเฉิงพยักหน้าหงึกหงัก ตาจับจ้องไปที่ตั๋วเงินในมือน้องสาวไปแล้วเรียบร้อย
นางพลางยิ้มแย้มแล้วส่งตั๋วเงินให้พี่ใหญ่เซี่ยหยวนทันที แต่เขากลับทำท่าทางตกใจ รีบปฏิเสธเสียงดัง
“ไม่เอา ๆ ข้ากลัวว่าข้าจะทำหาย! เจ้าเก็บไว้กับตัวเองเถอะ!”
เซี่ยเหม่ยหลิงมองพี่ใหญ่ด้วยความงงงวย และหันไปมองพี่รองเซี่ยเฉิงที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เขาก็ส่ายหัวอย่างแรงเหมือนกับเต่าที่เจอภัยพิบัติ ทำเอานางเริ่มรู้สึกว่าตัวเองกลายเป็นเด็กน้อยที่ไม่เข้าใจอะไร นี่จะให้เด็กอย่างนางเก็บเองรึไงกัน..อะแฮ่ม! ถึงอย่างไรร่างที่นางอยู่ก็ยังเด็กอยู่นี่นา!
“เอาล่ะ ข้าจะเก็บไว้กับตัวเองก็ได้” นางยิ้มกว้าง ก่อนจะค่อย ๆ เอาตั๋วเงินนั้นเก็บไว้ในอกเสื้อที่มีความแน่นหนา
เซี่ยเหม่ยหลิงหัวเราะคิก "พวกข้าต้องขอบคุณท่านจางจริง ๆ ที่ยอมจ่ายให้มากขนาดนี้ สมุนไพรนี่ข้าคิดว่าจะได้สักไม่กี่ตำลึง แต่ท่านให้ข้าถึง 300 ตำลึงเลยนะ!"
จางซือหัวเราะเบา ๆ "ดอกฉั่งฉิงนี้ที่จริงหายากมาก ข้าถึงยอมจ่ายเยอะเช่นนี้ พวกเจ้าจะเอาไปเก็บอีกไหมล่ะ?"
เซี่ยเฉิงตาเป็นประกาย พูดขึ้นมาทันทีว่า "แน่นอน!" เขาพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง แต่เซี่ยเหม่ยหลิงหัวเราะเบา ๆ
นางมองจางซือด้วยสายตาซาบซึ้ง รู้สึกชื่นชมที่เขาซื่อสัตย์และไม่คิดจะเอาเปรียบพวกนางที่เป็นเพียงชาวบ้าน นางจึงยิ้มอย่างจริงใจและเอ่ยขึ้นว่า “ถ้าเช่นนั้น ต่อไปหากพวกเรามีสมุนไพรอีก จะมาขายที่ร้านท่านแน่นอนเจ้าค่ะ”
จางซือยิ้มกว้างและพยักหน้าอย่างพอใจ “นับว่าข้ามีโชคจริงๆ!”
เมื่อเห็นท่าทางอารมณ์ดีของจางซือ นางก็ยิ่งรู้สึกวางใจ
"ลาก่อนเจ้าคะ!"
จางซือที่มองดูอยู่ก็ยิ้มกว้าง เขาคิดในใจว่าเด็ก ๆ พวกนี้ไม่ใช่แค่ร่าเริงอย่างเดียว แต่ยังฉลาดมากด้วย โดยเฉพาะเด็กสาวคนนั้นเขามองพวกเขาด้วยความชื่นชม
เมื่อออกจากร้าน พี่น้องทั้งสามก็ดีอกดีใจกันยกใหญ่ เซี่ยหยวนกับเซี่ยเฉิงล้อมรอบเซี่ยเหม่ยหลิง พลางชื่นชมว่าเจ้าตัวนั้นฉลาดหลักแหลมเพียงใดที่รู้ว่าดอกฉั่งฉิงเป็นสมุนไพรมีค่า
“เจ้ารู้อยู่แล้วหรือว่ามันมีราคาดี?” เซี่ยเฉิงถามพลางขมวดคิ้วด้วยความสนใจ
เซี่ยเหม่ยหลิงยิ้มเจ้าเล่ห์ "ก็นิดหน่อย... ข้าเคยอ่านหนังสือที่ท่านพ่อเก็บไว้ ว่ามันใช้รักษาได้หลายโรค ข้าก็แค่เดาว่าน่าจะขายได้ราคาดี"
เซี่ยหยวนพยักหน้าแล้วพูดว่า “สมกับเป็นน้องสาวข้า เจ้าช่างฉลาดล้ำเลิศ!”
เซี่ยเฉิงกระซิบเบาๆ ด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น "พวกเรากลับกันเถอะ เดี๋ยวจะมีคนจับตามองเอานะ"
ระหว่างทางกลับบ้าน เซี่ยหยวนกับเซี่ยเฉิงต่างหันซ้ายหันขวา คอยปกป้องน้องสาวไว้แน่นราวกับมันเป็นสมบัติล้ำค่า ดวงตาทั้งคู่สอดส่ายราวกับว่ากำลังปกป้องทองคำเป็นพันตำลึง
เซี่ยเหม่ยหลิงที่เห็นท่าทางระแวดระวังของพี่ชายก็อดหัวเราะไม่ได้ นางแกล้งกระซิบล้อเบา ๆ ว่า “พวกพี่ทำหน้าเคร่งขนาดนี้ ระวังเถอะ คนอื่นเห็นคงนึกว่าเรามีขุมทรัพย์ซ่อนอยู่ในตะกร้า!”
เซี่ยเฉิงหันไปมองด้วยท่าทางจริงจังพูดเสียงเบาๆกลัวว่าคนอื่นจะได้ยิน “มันก็เกือบใช่เลยนะน้องสาว เจ้าคิดดูสิ เราได้มาหลายตำลึงเชียว แถมดอกฉั่งฉิงยังเป็นสมุนไพรมีค่า ถ้าใครรู้เข้า เขาอาจตามมาปล้นเราก็ได้!”
เซี่ยหยวนพยักหน้าเห็นด้วย ยิ้มกริ่มเล็กน้อยแล้วเสริม “ใช่แล้ว เจ้าน้องสาว ข้าจะปกป้องเจ้าและสมบัตินี้เอง ใครกล้าเข้ามาจะได้เจอกับข้าแน่!”
เซี่ยเหม่ยหลิงหลุดขำกับความจริงจังเกินเหตุของสองพี่ชาย “พวกท่านดูจริงจังกันขนาดนี้ ชาวบ้านที่เดินผ่านคงจะคิดว่าเราขนทองคำมาทั้งบ้านแน่ ๆ!”
เมื่อได้ยินน้องสาวล้อแบบนั้น สองพี่ชายก็หน้าแดงนิด ๆ แต่ก็ยังแกล้งทำหน้าเข้มอยู่ ทั้งสามพี่น้องหัวเราะกันอย่างสนุกสนานจนกระทั่งถึงบ้านอย่างปลอดภัย รู้สึกอิ่มเอมใจไม่แพ้กับสมบัติที่เพิ่งค้นพบ
เมื่อถึงบ้าน พวกเขารีบปิดประตูและหน้าต่างอย่างรวดเร็ว
“รีบเอาตั๋วไปซ่อนเร็ว! เอาตั๋วไปซ่อนในที่ที่ไม่มีใครคิดว่าจะซ่อนไว้!” เซี่ยหยวนสั่งอย่างจริงจัง
“อย่างเช่น?” นางถามกลับ
“ใต้หมอน!” เซี่ยหยวนตอบกลับด้วยเสียงจริงจัง
เซี่ยเหม่ยหลิงทำหน้าเบ้ “ใต้หมอน? หรือว่าพวกท่านคิดจะให้โจรมาปล้นข้าในขณะที่ข้าหลับ?”
"ไม่ใช่!...ไม่ใช่นะ...ถ้าเช่นนั้นจะไปซ่อนที่ไหนดีล่ะ?" เซี่ยหยวนเมื่อนึกถึงสิ่งที่น้องสาวเอ่ยก็กลัวขึ้นมาจริงๆว่าโจรจะไปทำอันตรายน้องสาว
เซี่ยเฉิงก็ยืนอยู่ข้าง ๆ พร้อมทำท่าทางจะออกไปไหนเสียเลย ท่าทางของเขาทำให้เซี่ยเหม่ยหลิงต้องถามขึ้นอย่างสงสัย “พี่รอง ท่านจะไปไหน?!”
-----------------------------------------------------------
ขอบคุณทุกคนที่ติดตามเรื่องนี้จนถึงตอนนี้นะคะ! ถ้าชอบตอนนี้และอยากเป็นกำลังใจให้นักเขียน สามารถส่งของขวัญเล็ก ๆ น้อย ๆ มาให้ได้เลยนะคะ ขอบคุณทุกการสนับสนุนมาก ๆ เลยค่ะ ^-^
ความคิดเห็น